คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Rhythm 6 : Confusing Love
งานเดินซื้อของกร่อยลงในพริบตาเพราะผมรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แม้จะพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแต่สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น พี่กานต์เองก็คงจะรู้เลยออกปากบอกว่ากลับกันเลยดีกว่า จะได้ไปส่งที่บ้านด้วย
ผมชักจะเริ่มสับสนขึ้นมาเสียแล้วว่าตอนนี้ตัวเองกำลังคิดถึงเรื่องของใครกันแน่ระหว่าง...เรื่องของพี่กานต์...กับ...เรื่องของซี
ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันที่พี่กานต์พูดแบบนั้นกับผม แต่ผมคงยังตอบอะไรไม่ได้หรอก เพราะรู้สึกเหมือนช่วงนี้ผมถูกรุกด้วยเรื่องพวกนี้บ่อยมาก...ก...ก...จนเริ่มจะทำตัวไม่ถูก
พี่กานต์เป็นรุ่นพี่ที่ดีสำหรับผมมาตลอด เป็นเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง ส่วนไอ้ซีก็เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนคนสำคัญที่ไม่มีใครสามารถมาแทนได้
การจะบอกให้เลือกคนใดคนหนึ่งน่ะ...ผมทำไม่ได้หรอก...อย่างน้อยๆก็ในตอนนี้น่ะนะ
ตลอดทางกลับบ้านมีแต่ความเงียบ ผมรู้สึกอึดอัด หนักใจที่ทำตัวไม่ดี ดังนั้นพอใกล้ถึงบ้านผม ผมจึงเป็นฝ่ายชวนคุยขึ้นมาก่อน
“พี่กานต์ครับ”ผมเรียกเบาๆ และอีกฝ่ายก็หันมามองทันทีเหมือนรออยู่นานแล้ว “คือ...เรื่องที่พี่พูดน่ะ...”
“ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร พี่ขอโทษนะ”พี่กานต์ยังคงยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มใจดีแบบเดิมๆ ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่ “ส่วนหนึ่งพี่ก็แค่อยากบอก ไม่ได้อยากเร่งรัดอะไรวาหรอก”
ให้ตายสิ...ผมสบถในใจ...ยิ่งพี่แกดีกับผมแบบนี้ผมก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก
“ผมไม่ได้ลำบากใจครับ แต่...แค่มีหลายอย่างที่ต้องคิด”ผมพยายามตอบเลี่ยงๆ...ใครมันจะกล้าพูดล่ะฟะว่าที่อึกอักก็เพราะเพิ่งจะโดนเพื่อนสนิทพูดประโยคเดียวกันนี้ใส่...
“ขอเวลาให้ผมก่อน...นะครับ?...แล้วสักวันผมจะตอบให้”
ไม่รู้เหมือนกันว่า ‘สักวัน’ ที่ว่าคือวันไหน....แต่ที่แน่ๆคือไม่ใช่เร็วๆนี้ชัวร์...
“วาไม่ว่าหรอกนะครับถ้าพี่จะทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม แต่สำหรับวาพี่กานต์ก็จะยังเป็นพี่กานต์อยู่เสมอ”
พี่กานต์เหมือนจะอึ้งไปนิด แต่สุดท้ายก็ยิ้มให้
“พี่พอจะรู้อยู่ว่าตัวเองมีคู่แข่ง”คำพูดส่อๆของพี่แกทำเอาผมหน้าร้อนวาบ เตรียมอ้าปากจะปฏิเสธแต่ดันโดนชิงตัดหน้าเสียก่อน “อย่าบอกว่าไม่ใช่เลย พี่ดูออก ถึงจะยังไม่เคยเผชิญหน้ากันตรงๆก็เถอะ”
พี่กานต์น่าจะหมายถึงเรื่องที่ไอ้ซีที่ไปยืนจ้องพวกผมอยู่กลางร้านฟูจิเมื่อตอนบ่าย ผมนั่งหันหลังเลยไม่เห็น ในขณะที่พี่กานต์คงเห็นสีหน้ามันเต็มๆ
แต่ผมก็พูดอะไรไม่ออกอยู่ดี เลยได้แต่กลอกตาไปมาอย่างอับจนคำ “...อ่า...เอาเป็นว่า...สำหรับเรื่องนี้ขอเวลาให้วาหน่อยนะครับ”
รถมาจอดป้ายแถวบ้านผมแล้ว ผมจึงบอกลาพี่กานต์แล้วเตรียมจะลง แต่ก่อนลงพี่กานต์ก็รั้งแขนผมเอาไว้ พร้อมทั้งกระซิบเสียงหนักแน่น
“พี่ไม่ยอมแพ้หมอนั่นหรอกนะ...ไม่มีทาง”
แม้ประโยคนั้นจะเบา แต่มันกลับดังชัดในโสตประสาทผมและติดตรึงไม่รู้ลืม
และแล้ววันหยุดสวรรค์สามวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ของผมก็หมดลง และพอวันจันทร์มาเยือน ผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะต้องกลับไปเจอกับปัญหาที่โยนทิ้งไปตั้งแต่วันเสาร์อีกแล้ว
ปัญหาโลกแตกที่แถวบ้านเรียกกันว่า...ปัญหาหัวใจ...ให้ตายห่าสิ
ผมพยายามไม่คิดทั้งเรื่องไอ้ซีและเรื่องพี่กานต์ นั่งเล่นเพลย์ทูข้ามชาติกับน้องชายจนโดนท่านแม่ที่เคารพด่าจิก พี่สาวผมทำหน้างงนิดๆเมื่อรู้ว่าผมเกิดบ้าเลือดนั่งยิงผียันเช้าโดยไม่หลับไม่นอน นั่นจึงเป็นสาเหตุของอาการง่วงเกินพิกัดร้อยในวันจันทร์
ผมแทบจะเดินไม่ตรงทางแถมหวิดจะชนเสาไปก็หลายรอบ ระหว่างทางเดินขึ้นห้องซ้อมที่อยู่ชั้นหกมีแต่คนมองผมเหมือนมองคนบ้า บุญแค่ไหนไม่รู้ที่ลากสังขารไปถึงห้องวงได้สำเร็จ
“อ้าว ไปทำไรมาเนี่ย? หน้าตาดูไม่ได้เลย”พี่กานต์ทักผมทันทีที่เราเห็นหน้ากัน น้ำเสียงของพี่เขาก็ฟังดูห่วงใยดีหรอกนะ แต่รูปประโยคกับเสียงหัวเราะนั่นมันไม่ใช่แล้วล่ะ...
“มันดูแย่ขนาดนั้นเชียว?”ผมนั่งลงข้างๆพี่กานต์ หยิบทรัมเป็ตออกจากกล่องแล้วนั่งลูบๆคลำๆด้วยยังง่วงจัด แทบจะเห็นทรัมเป็ตเป็นหมอนหนุน “วาแค่ง่วงน่ะ...หาวววววว”
“ไม่ได้หลับได้นอนเลยรึไง?”
“อือ เล่นเกมโต้รุ่งหนักไปหน่อย”
ผมไม่ได้โกหกสักคำเลยนะ แค่พูดไม่ครบ ไม่ได้ใส่คำว่า ‘เล่มเกมโต้รุ่งก็เพราะพี่กับไอ้ซีนั่นแหละ’ เข้าไปด้วย
“งั้นเหรอ...อืม”พี่กานต์ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ผมเองก็สะลึมสะลือเต็มทน ได้ยินพี่กานต์พูดอะไรอีกก็ไม่รู้ แล้วอยู่ๆหัวผมก็ถูกจับให้เอนไปซบกับอะไรสักอย่างอุ่นๆ
อา...สบาย...อะไรก็ไม่รู้ล่ะ...แต่ให้ตายเถอะ...สบายจนจะหลับอยู่แล้ว...
“ชอบเหรอ?”ได้ยินเสียงพี่กานต์ถามแว่วๆ หมายถึงอะไรหว่า? ไอ้ที่นอนอยู่เนี่ยนะ...ใช่ครับ วาชอบ ก็วาง่วงจะตายแล้วนี่...
“อืม”ผมงึมงำตอบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไร
หมอนที่ผมหนุนอยู่สั่นกึกๆเล็กน้อย เหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆอยู่ข้างหู แต่ผมไม่นึกสนหรอก สติที่ไม่คงที่อยู่แล้วเริ่มขาดๆหายๆ จนในที่สุดก็ล่องลอ...
“ไอ้วา! ไอ้กานต์! พวกมึงจะซบกันอีกนานแค่ไหนวะ!!!?”
เสียงพี่อั๋นที่ลอยมาจากอีกฝั่งหนึ่งทำเอาผมสะดุ้งลืมตาพรึ่บ หายง่วงเป็นปลิดทิ้งในทันใด ผมกะพริบตาถี่งุนงง และพอหันไปเห็นใบหน้ายิ้มๆขำๆของพี่กานต์และไหล่เสื้อนักเรียนที่มีรอยยับนิดๆ ผมก็เดาได้ในทันทีเลยว่าตะกี้ตัวเองนอนอยู่บนอะไร
ผม...นอนซบไหล่พี่กานต์เนี่ยนะ...!!?
โอ้ละหนอ...รู้สึกเหมือนงานจะเข้าพิก๊ลพิกล ผมเกาหัวยิก กำลังคิดว่าตัวเองตอนง่วงนอนนี่คงสติไม่สมประกอบสุดๆ ถึงได้ทำอะไรแบบนี้ได้
“โทษทีนะพี่ เสื้อยับไปหมดเลย...ฮ่าๆ”ผมพยายามทำให้เป็นแก๊กตลก แต่ไอ้คุณพี่กานต์ตัวดีก็ดันยิ้มหวานให้
“ง่วงไม่ใช่เหรอ นอนต่อสิ~”
ง่ะ...แล้วไหงมันกลายเป็นงี้วะ...
ผมไม่เคยเห็นพี่กานต์ทำสายตาแบบนี้มาก่อนเลย มันดูเหมือน...อืม...คนเจ้าชู้...แต่...ก็นะ จะมาทำใส่ผมให้ได้สวรรค์วิมานอะไรล่ะคร้าบบบบบ
“ไม่เอาแล้วล่ะ เดี๋ยวโดนพี่อั๋นยิง”ผมถอนหายใจเฮือก หยิบทรัมเป็ตขึ้นมาเป่าแต่โดยดี เป่าไปพลางในหัวก็คิดโน่นคิดนี่เรื่อยเปื่อย ไม่น่าเลย...ผมล่ะหนักใจที่เผลอปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ คือก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก แต่คิดว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเราจะถูกมองว่าเป็นพวก...เอ้อ...แบบนั้น
“วาๆ”ไอ้จูนไอ้กรีนคู่หูคู่บ้าเพอร์คัสชั่นเจ้าเก่าเดินมาสะกิดผมยิกๆ ผมจึงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามทั้งที่ยังซ้อมเพลงอยู่ “พี่กานต์กับมึงเป็นแฟนกันเหรอ?”
แปร๊ดดดดด!!!!!
คุณเคยได้ยินเสียงทรัมเป็ตเวลาแปร๋นแบบสุดๆไหม...นั่นล่ะเสียงที่ผมปล่อยพรืดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งวงหันขวับมามอง หยุดการซ้อมของตัวเองในทันทีด้วยความสยดสยองในน้ำเสียงอันทุเรศเกินรับนั้น
ผมหันไปหาพี่กานต์เจ้าของคดีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แน่นอน ไอ้ประโยคเมื่อกี้พี่แกก็คงได้ยิน แต่นอกจากจะไม่แก้ข่าวแล้วยังทำยิ้มหน้าตาเฉย...พับผ่าดิ!!
“ไม่ใช่เว้ย!”ผมกัดฟันตอบพวกมัน แล้วหันขวับไปหาตัวต้นเหตุ “พี่กานต์ก็พูดไรบ้างสิ”
“อืม...’ตอนนี้’ ยังไม่ใช่ครับ”พี่กานต์ตอบทั้งใบหน้ายิ้มแย้ม ฟังดูก็เป็นคำตอบที่เข้าท่าดีหรอก แต่...ตอนนี้ยัง ก็แปลว่าอนาคตไม่แน่น่ะสิวะ...
“อย่าพูดจากำกวมสิครับ!”ผมโวย ฮือ! ผมเป็นผู้เสียหายนะ!
พี่กานต์หัวเราะ ในขณะที่ไอ้กรีนไอ้จูนทำหน้าข้องจิตกับคำตอบ แต่พวกมันก็ไม่ถามต่อ เดินกลับไปที่ถิ่นพวกเพอร์ทั้งที่ยังคงซุบซิบๆกันไปตลอดทาง...
ผมตบหน้าผากตัวเองป้าบใหญ่
เอาแล้วไง! เข้าใจผิดไปกันใหญ่เลย!
เพราะไอ้สองตัวนั่น(บวกพี่อั๋นที่ตะโกนด่า)แท้ๆ ทั้งวงเลยลือกันให้แซ่ดว่าพี่กานต์กับผมคบกันอยู่ ข่าวมีหลายกระแสมากทั้งเป็นแฟนกันแล้ว ทั้งพี่กานต์กำลังพยายามจีบอยู่ แล้วก็มีแม้แต่ข่าวที่บอกว่าไอ้วา...แม่งอ่อย!?
อะไรวะประเทศไทย...กูเนี่ยนะอ่อย?....ผมรึก็อยู่ของผมดีๆ...เฮ้อ...
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะเริ่มเอาหัวเสือกไสไปกับโต๊ะเรียนเพื่อเตรียมงีบ แต่แล้วไอ้ซีก็เดินเข้ามาในห้อง(ตอนนี้ตอนพักเบรกครับ) มันกำลังฟังไอพอดอย่างสบายอารมณ์ และพอมันมานั่งตรงที่มันที่อยู่ข้างหน้าผม ผมก็ไม่รอช้าที่จะทำนิสัยเสียๆโดยการดึงหูฟังของมันออกมาข้างหนึ่ง
“กูฟังด้วย”
แน่นอน ของรางวัลแรกของมันคือป้าบหนึ่งกลางกระหม่อมพร้อมคำบริภาษ “ไอ้สันดานเสีย!!”ทำเอาผมได้แต่ยิ้มแหยๆให้มัน(แต่ก็ไม่คิดจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น...) ผมรู้ครับว่าซีมันไม่ชอบให้ทำแบบนี้ มันดูไม่มารยาทสำหรับไอ้คุณชายเรื่องมากแบบมัน แต่ทำไงได้...มันติดนิสัยอ่ะ...
“ตบกบาลกูมากๆเดี๋ยวกูก็โง่กันพอดี”ผมพยายามหาเรื่องคุย...แม้จะเป็นเรื่องเขาบนหัวตัวเองก็เหอะ
“ไม่ต้องคิดมาก เพราะมึงโง่อยู่แล้ว”และไอ้ซีก็กัดกลับอย่างเจ็บแสบ แต่เสียใจจิ๊บเป๋งที่มันเป็นเรื่องจริง...เชอะ
“นั่งด้วยดิ”ผมลากเก้าอี้ข้างๆมาและขยับเข้าไปหาซีอีกนิด ทำให้ภาพที่ออกมาตอนนี้เลยกลายเป็นพวกเรานั่งไหล่ชิด หัวเอียงเข้าหากัน(เพราะหูฟังมันสั้นครับ...อย่าคิดลึก)
เรานั่งฟังเพลงไปเงียบๆ ไม่ได้คุยอะไรมากเพราะไอ้ซีมันไม่ชอบให้ใครกวนเวลาฟังเพลง แม้มันจะเป็นพวกหูดีจัด คุยรู้เรื่องก็ตามที ผมอยากจะถามเรื่องที่มันไปจ๊ะเอ๋ผมกับพี่กานต์ที่ฟูจิแล้วชิ่งหนีไปเหลือเกิน แต่ผมกลับรู้สึกว่าถ้าถามออกมา...เรื่องมันคงไม่จบง่ายๆ
ซีมันเป็นคนอารมณ์รุนแรงกว่าที่เห็นภายนอกมากครับ แถมยังมีวิธีระบายแปลกๆให้หนาวสันหลังเล่นทีละหลายๆเฮือก ดูอย่างตอนที่มันมาได้ยินพวกไอ้นัทแซวผมกับพี่กานต์ที่โรงอาหารก็ได้ รู้หรอกว่าคงโมโห แต่ถ้าแม่งจะเล่นบีบแขนบีบข้อมือผมจนแทบจะแหลกขนาดนั้นก็ไม่ไหวนะ...
ซีเยือกเย็น ตรงไปตรงมาได้พอๆกับที่ชอบอมพะนำไม่ยอมบอกอะไร วันนั้นอ่ะโคตรเป็นบุญหูสุดๆเลยครับที่มันยอมพูดออกมาตรงๆว่าให้ผมคบกับมัน(แต่ความจริงจะดีใจกว่านี้มากถ้าพูดตรงๆในเรื่องอื่น...) ซีคิดว่าเรื่องบางเรื่องถ้าไม่ควรพูดก็จะไม่ยอมปริปากออกมาแม้แต่นิด เหมือนกับพวกที่...ชอบความสมบูรณ์แบบล่ะมั้ง?
ไม่รู้สินะ ผมเคยคิดว่าตัวเองสนิทกับมันแล้ว แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมต้องเรียนรู้ แต่ถ้าถามว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ตอบตกลง...ก็น่าจะตอบได้ว่าเพราะยังรู้สึกว่ายังไม่รู้จักตัวจริงของไอ้บ้านี่ดีพอน่ะสิ
ผมก็แค่...ไม่อยากให้สถานะของเราแปลกไปจากเดิม...
แต่อยู่ๆเพลงถัดมาที่เพิ่งเล่นก็ทำเอาทั้งผมทั้งไอ้ซีสะดุ้ง
รัก...คำเดียวคำนี้ได้ยินบ่อย
ชั้นยังไม่รู้...มันมีความหมายว่าอะไร
อาจจะร้อนจะแรงเหมือนกับไฟ...อาจจะเผาจนใจไหม้เกรียม
อาจเป็นฝนที่หนาวเหน็บ...ชั้นก็ยอมเสี่ยง...
เพียงได้เจอรักแท้...
หางตาไอ้ซีเหลือบมองผมแวบหนึ่ง ผมเลยสะดุ้งอีกครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่รู้สิครับ...แต่ซีเป็นคนตาดุ ผมเคยบอกแล้วว่ามันตาตี่ แถมไม่ใช่ตี่แบบอาตี๋หน้าซื่อแต่เป็นตี่แบบมาเฟียฮ่องกง - - ซึ่งทั้งนี้ก็เพราะหางตามันชี้ขึ้นครับ เวลามันทำหน้าเฉยๆไม่ได้ยิ้มไม่ได้หัวเราะเลยดูดุเอามากๆ
ผมไม่เคยเข้าใจในความหมายของความเงียบของมันเลย ซีมันชอบคิดนู่นคิดนี่คนเดียวโดยไม่ยอมบอกให้ใครรู้ แม้กระทั่งกับผมเองมันก็มีลิมิตของมันในการบอก ทำให้ถึงปากจะบอกใครต่อใครปาวๆว่าสนิทกัน แต่ความจริงแล้วในใจผมก็มักจะแกว่งไปมาเสมอเพราะไม่เคยรู้เลยว่ามันคิดอะไรกันแน่...
จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว
จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม
ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...
อยากมีรักจริงๆสักที
ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ
เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ
สายตาของไอ้ซีเอาแต่จับจ้องมาที่ผมในขณะที่เพลงก็ยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ ผมจึงไม่อาจที่จะบังคับตัวเองไม่ให้มองตอบได้ แล้วอยู่ๆ...ใจมันก็แกว่งไปมาแถมยังเต้นผิดแปลกไปจากเดิม
ผม...เป็นอะไร?
อะไรไม่ทราบดลใจให้ผมขยับปากพูดในสิ่งที่สงสัยที่สุดออกไป
“ซี...ทำไมตอนนั้นมึงถึงวิ่งหนีกูล่ะ?”
รัก...คำเดียวคำนี้ได้ยินบ่อย
ชั้นยังไม่รู้...มันมีความหมายว่าอะไร
อาจจะร้อนจะแรงเหมือนกับไฟ อาจจะเผาจนใจไหม้เกรียม
อาจเป็นฝนที่หนาวเหน็บ...ชั้นก็ยอมเสี่ยง...
เพียงได้เจอรักแท้...
“ทำไม...ถึงหันหลังให้กู?”
จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว
จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม
ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...
อยากมีรักจริงๆสักที
ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ
เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ
“กูไม่ได้อยากให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้เลยนะ”
ผมจ้องตากลับไม่ยอมหลบ จะไม่หลบและไม่ให้มันหลบอีกแล้ว
“ซี...มึงห้ามหนีเด็ดขาดเลยนะ มึงต้องตอบกู”
จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว
จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม
ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...
อยากมีรักจริงๆสักที
ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ
เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ
“ถ้ามึงเงียบ...กูจะถือว่ากูบ้าเองที่ถาม”ผมยื่นคำขาด และนั่นเองจึงทำให้คำแรกหลุดออกจากปากของมัน
“มึงตอบตกลงไปใช่ไหม”
ผมเลิกคิ้ว งงแว้บขึ้นมาถนัดจิตว่าแม่งพูดเรื่องอะไรอยู่ “หา?”
ไอ้ซีจ้องหน้าผมแบบเอาเรื่อง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมคิดว่าสายตาของมันนั่นแหละที่ไม่มั่นคงยิ่งกว่าผมเสียอีก
“...ช่างเถอะ”อยู่ๆซีก็ถอดหูฟังโยนทิ้งแล้วลุกขึ้น ทิ้งไอพอดของมันเอาไว้เหมือนไม่เห็นค่า และมันเดินไม่กี่พรวดก็หายออกไปจากห้อง ปล่อยให้ผมได้แต่นั่งอึ้งอยู่ที่เดิมคนเดียว ในขณะที่เสียงเพลงก็ยังคงดังต่อไปเรื่อยๆเหมือนไม่รับรู้อะไร
จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว
จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม
ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...
อยากมีรักจริงๆสักที
ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ
เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ
รัก...คำเดียวคำนี้...ได้ยิน...หรือเปล่า...
(Ost. ม.3 ปี 4 เรารักนาย : รัก...ได้ยินหรือเปล่า)
เพลงเดิมจบลงโดยที่ผมยังคงคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี
ซีมันเป็นอะไร? ผมทำอะไรให้มันโกรธกันแน่นะ?
หรือว่าเรื่องพี่กานต์...?
จริงสิ...
พอนึกถึงพี่กานต์ ผมก็เลยพลอยนึกถึงเรื่องที่มันพูดกับผมได้
มันเป็นฝ่ายพูดก่อนแท้ๆ เรื่องที่...จะขอคบกับผม...แต่ผมกลับทำเมินเฉยเหมือนมันไม่เคยพูดอะไรออกมา
ซี...มันรออยู่งั้นหรือ...?
ผมเริ่มรู้สึกผิด เพราะถ้าเรื่องเป็นอย่างนั้นจริง เมื่อมารวมกับเรื่องที่พี่กานต์พูดกับผมด้วยแล้วมันเลยกลายเป็นว่าผมต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง
ผมไม่อยากเลือกไอ้ซีเพราะอยากให้เราเป็นเพื่อนกันต่อไป...เป็นเช่นนี้ตลอดไป
แต่ผมก็ไม่ได้อยากตอบตกลงกับพี่กานต์ เพราะถ้าผมพูดว่าตกลงออกไป ไอ้ซีมันคงจะจากผมไปตลอดกาลแน่...
ผมตบหน้าผากตัวเองแรงๆ ถึงจะพูดอย่างงั้นอย่างงี้ ลังเลระหว่างสองคนนี้มากแค่ไหน แต่ในหัวผมก็ดันมีแต่เรื่องของไอ้บ้านั่นอยู่เต็มชนิดแงะไม่ได้คลายไม่ออก ให้ตายเถอะ!
ผมน่ะ...ไม่ได้อยากทำร้ายใครคนใดคนหนึ่งหรอกนะ...ไม่อยากเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะถ้าเลือกคนหนึ่ง...อีกคนก็ต้องเป็นฝ่ายเจ็บ
บ้าเอ๊ย!
ผมควรจะทำยังไงดีเนี่ย?
(โนว์/หลบระเบิด)
ช่วงสับสนชีวิตสินะ เหอๆ สุดท้ายหนูวาก็ยังไม่ได้เลือกใครสักคน พอๆกับที่สับสนแม่งทั้งสองคน คนหนึ่งก็เพื่อนอีกคนก็พี่ ฮาๆ
เพลงที่โนว์ใช้ในตอนนี้มาจากเรื่อง ม.3 ปี 4 เรารักนาย เป็นเพลงหนึ่งที่โนว์โคตรชอบบบบ แต่เรื่องนี้ก็คงไม่ได้อยู่ม.3 แล้วโดดไปปี 4 หรอก - - เหอๆ
ลองเอาให้ฟังกันดูนะคะ อยู่ด้านล่างสุด กดเพลย์ได้เลยถ้าโค้ดไม่เจ๊งซะก่อน.....
ควิซที่แล้วหลายคนตอบเหมือนที่โนว์คิดนะ ซีคงอยากฆ่าคนจริงๆ เอิ๊กอ๊าก มาดูควิซใหม่ อันนี้ง่าย...
ทุกท่านคิดว่าวาจะเลือกใครคะ?
เหอๆๆๆ (จากไปพร้อมเสียงหัวเราะชั่วร้าย)
อ่ะ พักเรื่องหนุ่มๆไว้ก่อน มาตอบเม้นท์กันก่อนดีกว่าเนอะ!
คุณ knight - จ้าๆ อัพให้แล้ว อ่านต่อด่วนนะคะ หึๆ
คุณ bummi - มาพร้อมบทวิเคราะห์ตาซีแบบละเอียดยิบ ฮา...โนว์ก็ว่าซีอยากฆ่าคน ไอ้น้อยใจน่ะคงไม่ใช่จริงๆ แต่ที่เดินหนีไปไม่ยอมอยู่ฟังคำตอบคงจะเพราะ....เซ็งนั่นแหละ เอิ๊กอ๊าก ขำๆเหมือนกันค่ะ ตาซีมันเข้าใจยากกส์
คุณ pea pae - น้อยใจก็ต้องคู่กับ ง้อ แต่หนูวาของเรายังคงพิศวงตัวเองไม่หายว่าไปทำอะไรให้แม่งโกรธเอาในเมื่อก็นั่งอยู่เฉยๆดีๆ หึๆ ก็ต้องดูกันต่อไป(แสยะยิ้ม)
คุณ frem - ชีวิตนี้คือละคร เรามักจะชอบเดินหนีก่อนรู้ความจริง ฮ่าๆ โนว์เองก็เคยเจอแบบนั้นนะ มีอยู่จริงไม่ได้มีแค่ในนิยาย ถึงจะยังไม่ได้ตอบอะไรไปก็เหอะ โดนโกรธวายวอดไปเป็นชาติเลยค่าาาาา ฮา....
คุณ Prince"Z - หมายถึงแหวนสินะคะ หึๆ อันนี้เดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆจะได้รู้กัน แม่ยกคู่ซี-วาเพิ่มอีกคนค่ะ! >< แฮปปี้นิวเยียร์เช่นกันจ้า ^^
เม้นท์สอง ฮาๆ รวบสองเม้นท์ วาหลายใจมากเลยเหรอจ๊ะ หึๆ อัพให้แล้วนะค้า ลองมาดูกันต่อไปว่าวาจะเลือกไผ
คุณ p_infinity - หลังจากนี้วาก็คงงานเข้าอยู่เรื่อยๆจนเซ็งชีวิต เอิ๊กอ๊าก(รู้สึกช่วงนี้ชอบหัวเราะแบบนี้?) แต่ที่ท่านถามอ่ะมีมูลมากเลยนะคะ นั่นจิ? ถ้าซีไม่อยู่กับวาแล้วจริงๆจะเป็นไงน้า หุๆ ^o^ ไม่ได้สปอยล์นะคะ อุ้ย...
ตาซีมันก็รู้สึกปนๆกันไปแหละ โกรธ เซ็ง น้อยใจก็มีบ้าง แต่อยากฆ่าคนเทไปมากสุด เหอๆ
คุณ ampakira - เดี๋ยวตาซีทำตัวน่าเตะแล้วจะหายสงสารค่ะ ฮ่าๆ อัพให้แล้วนะคะ ตามต่อด้วยน้าาา ^^
คุณ SmousTy - แบบว่าก็อยากแลกอ่ะค่ะ แต่โนว์โง่คอมชิบๆ แปะไม่เป็นแถมไม่มีแบนให้แลก = = จะว่าโนว์ไม่มีน้ำใจเมินเฉยเม้นท์ท่านอ๊ะเปล่าคะ ขอโทษล่วงหน้า แต่ใครใจบุญขอแบนเนอร์ให้โนว์หน่อยจิคะ -o-
คุณ kiss&hugs - ฮ่าๆ สครีมซ้าาา อัพต่อให้ตามประสงค์แล้วค่า ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าหนูวาจะเอาใคร หึๆ เรื่องที่ขอนั่น คิดว่าคงต้องรอไปอีกอ่ะค่ะ แหะๆ ตามคิวมันยังอีกยาวไกล ปกติไม่ได้ใช้ตาซีดำเนินเรื่องเลย เดี๋ยวคนอ่านรู้ไต๋(ไม่ใช่ละ) แต่อันนั้นมันตอนพิเศษ พิเศษแปลว่าไม่มีบ่อยค่าาาา(วิ่งหนี อย่าขว้างรองเท้าตามมานะ = =)
คุณ >>>BulldoG - โอ๋ๆ ทนเหงือกหุบอีกสักพักนะจ๊ะ ทิศทางเรื่องมันต้องดีขึ้นในสักวัน(ในสักวัน - -?) ฮาๆ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าซีคงอยากฆ่าคน นี่นิสัยของตานี่กลายเป็นคนโหดร้ายสมบูรณ์แบบ เอิ๊กๆ
คุณ ~Little_Killer~ - ขอบคุณสำหรับคำชมค่า ถ้าอ่านจนจบถึงล่าสุดก็คงรู้แล้วแหละว่าซีจะขออะไร คิดว่าวาให้ได้มั้ยน้อ....หุๆ
คุณ Vermouth - ยินดีต้อนรับจ้า ขอบคุณนะจ๊ะที่ชอบ ^^ แม่ยกซีมาเป็นแผง หึๆๆ อัพให้ตามที่ขอค่ะ ก็ลองดูกันต่อๆไปว่าไอ้หนูวาจะเอาไงกะชีวิต(อันวุ่นวาย...มีแต่ผู้ชายมารุมชอบ เจ้ย!!! = = วา/ทำไมพูดไรน่ากลัวชิบงั้นล่ะครับ - -")
คุณ ang ang - ฮาๆ ซีไปแล้วเดี๋ยวมันก็คงกลับมาเยือน อย่าซีเรียสๆ แค่วาโดนบอกรักไม่ได้โดนดักฉุด(เฮ้ย??) ฮา อัพให้แล้วนะคะ ^^
| |||||||
ความคิดเห็น