ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #8 : Rhythm 6 : Confusing Love

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.05K
      10
      30 ธ.ค. 52

     Rhythm 6 : Confusing Love

     

     

                งานเดินซื้อของกร่อยลงในพริบตาเพราะผมรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แม้จะพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแต่สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น พี่กานต์เองก็คงจะรู้เลยออกปากบอกว่ากลับกันเลยดีกว่า จะได้ไปส่งที่บ้านด้วย

                ผมชักจะเริ่มสับสนขึ้นมาเสียแล้วว่าตอนนี้ตัวเองกำลังคิดถึงเรื่องของใครกันแน่ระหว่าง...เรื่องของพี่กานต์...กับ...เรื่องของซี

                ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันที่พี่กานต์พูดแบบนั้นกับผม แต่ผมคงยังตอบอะไรไม่ได้หรอก เพราะรู้สึกเหมือนช่วงนี้ผมถูกรุกด้วยเรื่องพวกนี้บ่อยมาก...ก...ก...จนเริ่มจะทำตัวไม่ถูก

                พี่กานต์เป็นรุ่นพี่ที่ดีสำหรับผมมาตลอด เป็นเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง ส่วนไอ้ซีก็เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนคนสำคัญที่ไม่มีใครสามารถมาแทนได้

                การจะบอกให้เลือกคนใดคนหนึ่งน่ะ...ผมทำไม่ได้หรอก...อย่างน้อยๆก็ในตอนนี้น่ะนะ

                ตลอดทางกลับบ้านมีแต่ความเงียบ ผมรู้สึกอึดอัด หนักใจที่ทำตัวไม่ดี ดังนั้นพอใกล้ถึงบ้านผม ผมจึงเป็นฝ่ายชวนคุยขึ้นมาก่อน

                พี่กานต์ครับผมเรียกเบาๆ และอีกฝ่ายก็หันมามองทันทีเหมือนรออยู่นานแล้ว คือ...เรื่องที่พี่พูดน่ะ...

                ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร พี่ขอโทษนะพี่กานต์ยังคงยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มใจดีแบบเดิมๆ ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่ ส่วนหนึ่งพี่ก็แค่อยากบอก ไม่ได้อยากเร่งรัดอะไรวาหรอก

                ให้ตายสิ...ผมสบถในใจ...ยิ่งพี่แกดีกับผมแบบนี้ผมก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก

                ผมไม่ได้ลำบากใจครับ แต่...แค่มีหลายอย่างที่ต้องคิดผมพยายามตอบเลี่ยงๆ...ใครมันจะกล้าพูดล่ะฟะว่าที่อึกอักก็เพราะเพิ่งจะโดนเพื่อนสนิทพูดประโยคเดียวกันนี้ใส่...

                ขอเวลาให้ผมก่อน...นะครับ?...แล้วสักวันผมจะตอบให้

                ไม่รู้เหมือนกันว่า สักวันที่ว่าคือวันไหน....แต่ที่แน่ๆคือไม่ใช่เร็วๆนี้ชัวร์...

                วาไม่ว่าหรอกนะครับถ้าพี่จะทำอะไรที่ต่างไปจากเดิม แต่สำหรับวาพี่กานต์ก็จะยังเป็นพี่กานต์อยู่เสมอ

                พี่กานต์เหมือนจะอึ้งไปนิด แต่สุดท้ายก็ยิ้มให้

                พี่พอจะรู้อยู่ว่าตัวเองมีคู่แข่งคำพูดส่อๆของพี่แกทำเอาผมหน้าร้อนวาบ เตรียมอ้าปากจะปฏิเสธแต่ดันโดนชิงตัดหน้าเสียก่อน อย่าบอกว่าไม่ใช่เลย พี่ดูออก ถึงจะยังไม่เคยเผชิญหน้ากันตรงๆก็เถอะ  

                พี่กานต์น่าจะหมายถึงเรื่องที่ไอ้ซีที่ไปยืนจ้องพวกผมอยู่กลางร้านฟูจิเมื่อตอนบ่าย ผมนั่งหันหลังเลยไม่เห็น ในขณะที่พี่กานต์คงเห็นสีหน้ามันเต็มๆ

                แต่ผมก็พูดอะไรไม่ออกอยู่ดี เลยได้แต่กลอกตาไปมาอย่างอับจนคำ ...อ่า...เอาเป็นว่า...สำหรับเรื่องนี้ขอเวลาให้วาหน่อยนะครับ

                รถมาจอดป้ายแถวบ้านผมแล้ว ผมจึงบอกลาพี่กานต์แล้วเตรียมจะลง แต่ก่อนลงพี่กานต์ก็รั้งแขนผมเอาไว้ พร้อมทั้งกระซิบเสียงหนักแน่น

     

                พี่ไม่ยอมแพ้หมอนั่นหรอกนะ...ไม่มีทาง

     

                แม้ประโยคนั้นจะเบา แต่มันกลับดังชัดในโสตประสาทผมและติดตรึงไม่รู้ลืม

     

     

     

                และแล้ววันหยุดสวรรค์สามวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ของผมก็หมดลง และพอวันจันทร์มาเยือน ผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะต้องกลับไปเจอกับปัญหาที่โยนทิ้งไปตั้งแต่วันเสาร์อีกแล้ว

                ปัญหาโลกแตกที่แถวบ้านเรียกกันว่า...ปัญหาหัวใจ...ให้ตายห่าสิ

                ผมพยายามไม่คิดทั้งเรื่องไอ้ซีและเรื่องพี่กานต์ นั่งเล่นเพลย์ทูข้ามชาติกับน้องชายจนโดนท่านแม่ที่เคารพด่าจิก พี่สาวผมทำหน้างงนิดๆเมื่อรู้ว่าผมเกิดบ้าเลือดนั่งยิงผียันเช้าโดยไม่หลับไม่นอน นั่นจึงเป็นสาเหตุของอาการง่วงเกินพิกัดร้อยในวันจันทร์

                ผมแทบจะเดินไม่ตรงทางแถมหวิดจะชนเสาไปก็หลายรอบ ระหว่างทางเดินขึ้นห้องซ้อมที่อยู่ชั้นหกมีแต่คนมองผมเหมือนมองคนบ้า บุญแค่ไหนไม่รู้ที่ลากสังขารไปถึงห้องวงได้สำเร็จ

                อ้าว ไปทำไรมาเนี่ย? หน้าตาดูไม่ได้เลยพี่กานต์ทักผมทันทีที่เราเห็นหน้ากัน น้ำเสียงของพี่เขาก็ฟังดูห่วงใยดีหรอกนะ แต่รูปประโยคกับเสียงหัวเราะนั่นมันไม่ใช่แล้วล่ะ...

                มันดูแย่ขนาดนั้นเชียว?ผมนั่งลงข้างๆพี่กานต์ หยิบทรัมเป็ตออกจากกล่องแล้วนั่งลูบๆคลำๆด้วยยังง่วงจัด แทบจะเห็นทรัมเป็ตเป็นหมอนหนุน วาแค่ง่วงน่ะ...หาวววววว

                ไม่ได้หลับได้นอนเลยรึไง?

                อือ เล่นเกมโต้รุ่งหนักไปหน่อย

                ผมไม่ได้โกหกสักคำเลยนะ แค่พูดไม่ครบ ไม่ได้ใส่คำว่า เล่มเกมโต้รุ่งก็เพราะพี่กับไอ้ซีนั่นแหละเข้าไปด้วย

                งั้นเหรอ...อืมพี่กานต์ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ผมเองก็สะลึมสะลือเต็มทน ได้ยินพี่กานต์พูดอะไรอีกก็ไม่รู้ แล้วอยู่ๆหัวผมก็ถูกจับให้เอนไปซบกับอะไรสักอย่างอุ่นๆ

                อา...สบาย...อะไรก็ไม่รู้ล่ะ...แต่ให้ตายเถอะ...สบายจนจะหลับอยู่แล้ว...

                ชอบเหรอ?ได้ยินเสียงพี่กานต์ถามแว่วๆ หมายถึงอะไรหว่า? ไอ้ที่นอนอยู่เนี่ยนะ...ใช่ครับ วาชอบ ก็วาง่วงจะตายแล้วนี่...

                อืมผมงึมงำตอบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไร

                หมอนที่ผมหนุนอยู่สั่นกึกๆเล็กน้อย เหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆอยู่ข้างหู แต่ผมไม่นึกสนหรอก สติที่ไม่คงที่อยู่แล้วเริ่มขาดๆหายๆ จนในที่สุดก็ล่องลอ...

     

              ไอ้วา! ไอ้กานต์! พวกมึงจะซบกันอีกนานแค่ไหนวะ!!!?

     

                เสียงพี่อั๋นที่ลอยมาจากอีกฝั่งหนึ่งทำเอาผมสะดุ้งลืมตาพรึ่บ หายง่วงเป็นปลิดทิ้งในทันใด ผมกะพริบตาถี่งุนงง และพอหันไปเห็นใบหน้ายิ้มๆขำๆของพี่กานต์และไหล่เสื้อนักเรียนที่มีรอยยับนิดๆ ผมก็เดาได้ในทันทีเลยว่าตะกี้ตัวเองนอนอยู่บนอะไร

                ผม...นอนซบไหล่พี่กานต์เนี่ยนะ...!!?

                โอ้ละหนอ...รู้สึกเหมือนงานจะเข้าพิก๊ลพิกล ผมเกาหัวยิก กำลังคิดว่าตัวเองตอนง่วงนอนนี่คงสติไม่สมประกอบสุดๆ ถึงได้ทำอะไรแบบนี้ได้

                โทษทีนะพี่ เสื้อยับไปหมดเลย...ฮ่าๆผมพยายามทำให้เป็นแก๊กตลก แต่ไอ้คุณพี่กานต์ตัวดีก็ดันยิ้มหวานให้

                ง่วงไม่ใช่เหรอ นอนต่อสิ~”

                ง่ะ...แล้วไหงมันกลายเป็นงี้วะ...

                ผมไม่เคยเห็นพี่กานต์ทำสายตาแบบนี้มาก่อนเลย มันดูเหมือน...อืม...คนเจ้าชู้...แต่...ก็นะ จะมาทำใส่ผมให้ได้สวรรค์วิมานอะไรล่ะคร้าบบบบบ

                ไม่เอาแล้วล่ะ เดี๋ยวโดนพี่อั๋นยิงผมถอนหายใจเฮือก หยิบทรัมเป็ตขึ้นมาเป่าแต่โดยดี เป่าไปพลางในหัวก็คิดโน่นคิดนี่เรื่อยเปื่อย ไม่น่าเลย...ผมล่ะหนักใจที่เผลอปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ คือก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก แต่คิดว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเราจะถูกมองว่าเป็นพวก...เอ้อ...แบบนั้น

                วาๆไอ้จูนไอ้กรีนคู่หูคู่บ้าเพอร์คัสชั่นเจ้าเก่าเดินมาสะกิดผมยิกๆ ผมจึงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามทั้งที่ยังซ้อมเพลงอยู่ พี่กานต์กับมึงเป็นแฟนกันเหรอ?

                แปร๊ดดดดด!!!!!

                คุณเคยได้ยินเสียงทรัมเป็ตเวลาแปร๋นแบบสุดๆไหม...นั่นล่ะเสียงที่ผมปล่อยพรืดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งวงหันขวับมามอง หยุดการซ้อมของตัวเองในทันทีด้วยความสยดสยองในน้ำเสียงอันทุเรศเกินรับนั้น

                ผมหันไปหาพี่กานต์เจ้าของคดีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แน่นอน ไอ้ประโยคเมื่อกี้พี่แกก็คงได้ยิน แต่นอกจากจะไม่แก้ข่าวแล้วยังทำยิ้มหน้าตาเฉย...พับผ่าดิ!!

                ไม่ใช่เว้ย!”ผมกัดฟันตอบพวกมัน แล้วหันขวับไปหาตัวต้นเหตุ พี่กานต์ก็พูดไรบ้างสิ

                อืม...ตอนนี้ ยังไม่ใช่ครับพี่กานต์ตอบทั้งใบหน้ายิ้มแย้ม ฟังดูก็เป็นคำตอบที่เข้าท่าดีหรอก แต่...ตอนนี้ยัง ก็แปลว่าอนาคตไม่แน่น่ะสิวะ...

                อย่าพูดจากำกวมสิครับ!”ผมโวย ฮือ! ผมเป็นผู้เสียหายนะ!

                พี่กานต์หัวเราะ ในขณะที่ไอ้กรีนไอ้จูนทำหน้าข้องจิตกับคำตอบ แต่พวกมันก็ไม่ถามต่อ เดินกลับไปที่ถิ่นพวกเพอร์ทั้งที่ยังคงซุบซิบๆกันไปตลอดทาง...

                ผมตบหน้าผากตัวเองป้าบใหญ่

    เอาแล้วไง! เข้าใจผิดไปกันใหญ่เลย!

     

     

     

    เพราะไอ้สองตัวนั่น(บวกพี่อั๋นที่ตะโกนด่า)แท้ๆ ทั้งวงเลยลือกันให้แซ่ดว่าพี่กานต์กับผมคบกันอยู่ ข่าวมีหลายกระแสมากทั้งเป็นแฟนกันแล้ว ทั้งพี่กานต์กำลังพยายามจีบอยู่ แล้วก็มีแม้แต่ข่าวที่บอกว่าไอ้วา...แม่งอ่อย!?

    อะไรวะประเทศไทย...กูเนี่ยนะอ่อย?....ผมรึก็อยู่ของผมดีๆ...เฮ้อ...

                ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะเริ่มเอาหัวเสือกไสไปกับโต๊ะเรียนเพื่อเตรียมงีบ แต่แล้วไอ้ซีก็เดินเข้ามาในห้อง(ตอนนี้ตอนพักเบรกครับ) มันกำลังฟังไอพอดอย่างสบายอารมณ์ และพอมันมานั่งตรงที่มันที่อยู่ข้างหน้าผม ผมก็ไม่รอช้าที่จะทำนิสัยเสียๆโดยการดึงหูฟังของมันออกมาข้างหนึ่ง

                กูฟังด้วย

                แน่นอน ของรางวัลแรกของมันคือป้าบหนึ่งกลางกระหม่อมพร้อมคำบริภาษ ไอ้สันดานเสีย!!”ทำเอาผมได้แต่ยิ้มแหยๆให้มัน(แต่ก็ไม่คิดจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น...) ผมรู้ครับว่าซีมันไม่ชอบให้ทำแบบนี้ มันดูไม่มารยาทสำหรับไอ้คุณชายเรื่องมากแบบมัน แต่ทำไงได้...มันติดนิสัยอ่ะ...

                ตบกบาลกูมากๆเดี๋ยวกูก็โง่กันพอดีผมพยายามหาเรื่องคุย...แม้จะเป็นเรื่องเขาบนหัวตัวเองก็เหอะ

                ไม่ต้องคิดมาก เพราะมึงโง่อยู่แล้วและไอ้ซีก็กัดกลับอย่างเจ็บแสบ แต่เสียใจจิ๊บเป๋งที่มันเป็นเรื่องจริง...เชอะ

                นั่งด้วยดิผมลากเก้าอี้ข้างๆมาและขยับเข้าไปหาซีอีกนิด ทำให้ภาพที่ออกมาตอนนี้เลยกลายเป็นพวกเรานั่งไหล่ชิด หัวเอียงเข้าหากัน(เพราะหูฟังมันสั้นครับ...อย่าคิดลึก)

                เรานั่งฟังเพลงไปเงียบๆ ไม่ได้คุยอะไรมากเพราะไอ้ซีมันไม่ชอบให้ใครกวนเวลาฟังเพลง แม้มันจะเป็นพวกหูดีจัด คุยรู้เรื่องก็ตามที ผมอยากจะถามเรื่องที่มันไปจ๊ะเอ๋ผมกับพี่กานต์ที่ฟูจิแล้วชิ่งหนีไปเหลือเกิน แต่ผมกลับรู้สึกว่าถ้าถามออกมา...เรื่องมันคงไม่จบง่ายๆ

                ซีมันเป็นคนอารมณ์รุนแรงกว่าที่เห็นภายนอกมากครับ แถมยังมีวิธีระบายแปลกๆให้หนาวสันหลังเล่นทีละหลายๆเฮือก ดูอย่างตอนที่มันมาได้ยินพวกไอ้นัทแซวผมกับพี่กานต์ที่โรงอาหารก็ได้ รู้หรอกว่าคงโมโห แต่ถ้าแม่งจะเล่นบีบแขนบีบข้อมือผมจนแทบจะแหลกขนาดนั้นก็ไม่ไหวนะ...

                ซีเยือกเย็น ตรงไปตรงมาได้พอๆกับที่ชอบอมพะนำไม่ยอมบอกอะไร วันนั้นอ่ะโคตรเป็นบุญหูสุดๆเลยครับที่มันยอมพูดออกมาตรงๆว่าให้ผมคบกับมัน(แต่ความจริงจะดีใจกว่านี้มากถ้าพูดตรงๆในเรื่องอื่น...) ซีคิดว่าเรื่องบางเรื่องถ้าไม่ควรพูดก็จะไม่ยอมปริปากออกมาแม้แต่นิด เหมือนกับพวกที่...ชอบความสมบูรณ์แบบล่ะมั้ง?

                ไม่รู้สินะ ผมเคยคิดว่าตัวเองสนิทกับมันแล้ว แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมต้องเรียนรู้ แต่ถ้าถามว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ตอบตกลง...ก็น่าจะตอบได้ว่าเพราะยังรู้สึกว่ายังไม่รู้จักตัวจริงของไอ้บ้านี่ดีพอน่ะสิ

                ผมก็แค่...ไม่อยากให้สถานะของเราแปลกไปจากเดิม...

                แต่อยู่ๆเพลงถัดมาที่เพิ่งเล่นก็ทำเอาทั้งผมทั้งไอ้ซีสะดุ้ง

     

                รัก...คำเดียวคำนี้ได้ยินบ่อย

              ชั้นยังไม่รู้...มันมีความหมายว่าอะไร

              อาจจะร้อนจะแรงเหมือนกับไฟ...อาจจะเผาจนใจไหม้เกรียม

              อาจเป็นฝนที่หนาวเหน็บ...ชั้นก็ยอมเสี่ยง...

              เพียงได้เจอรักแท้...

               

                หางตาไอ้ซีเหลือบมองผมแวบหนึ่ง ผมเลยสะดุ้งอีกครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่รู้สิครับ...แต่ซีเป็นคนตาดุ ผมเคยบอกแล้วว่ามันตาตี่ แถมไม่ใช่ตี่แบบอาตี๋หน้าซื่อแต่เป็นตี่แบบมาเฟียฮ่องกง - - ซึ่งทั้งนี้ก็เพราะหางตามันชี้ขึ้นครับ เวลามันทำหน้าเฉยๆไม่ได้ยิ้มไม่ได้หัวเราะเลยดูดุเอามากๆ

                ผมไม่เคยเข้าใจในความหมายของความเงียบของมันเลย ซีมันชอบคิดนู่นคิดนี่คนเดียวโดยไม่ยอมบอกให้ใครรู้ แม้กระทั่งกับผมเองมันก็มีลิมิตของมันในการบอก ทำให้ถึงปากจะบอกใครต่อใครปาวๆว่าสนิทกัน แต่ความจริงแล้วในใจผมก็มักจะแกว่งไปมาเสมอเพราะไม่เคยรู้เลยว่ามันคิดอะไรกันแน่...

     

                จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว

              จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม

              ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...

              อยากมีรักจริงๆสักที

              ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ

              เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ  

                 

                สายตาของไอ้ซีเอาแต่จับจ้องมาที่ผมในขณะที่เพลงก็ยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ ผมจึงไม่อาจที่จะบังคับตัวเองไม่ให้มองตอบได้ แล้วอยู่ๆ...ใจมันก็แกว่งไปมาแถมยังเต้นผิดแปลกไปจากเดิม

                ผม...เป็นอะไร?

                อะไรไม่ทราบดลใจให้ผมขยับปากพูดในสิ่งที่สงสัยที่สุดออกไป

                ซี...ทำไมตอนนั้นมึงถึงวิ่งหนีกูล่ะ?

               

                รัก...คำเดียวคำนี้ได้ยินบ่อย

              ชั้นยังไม่รู้...มันมีความหมายว่าอะไร

              อาจจะร้อนจะแรงเหมือนกับไฟ อาจจะเผาจนใจไหม้เกรียม

              อาจเป็นฝนที่หนาวเหน็บ...ชั้นก็ยอมเสี่ยง...

              เพียงได้เจอรักแท้...

     

                ทำไม...ถึงหันหลังให้กู?

     

                จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว

              จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม

              ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...

              อยากมีรักจริงๆสักที

              ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ

              เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ 

     

              กูไม่ได้อยากให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้เลยนะ

                ผมจ้องตากลับไม่ยอมหลบ จะไม่หลบและไม่ให้มันหลบอีกแล้ว

                ซี...มึงห้ามหนีเด็ดขาดเลยนะ มึงต้องตอบกู

               

    จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว

              จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม

              ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...

              อยากมีรักจริงๆสักที

              ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ

              เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ 

     

              ถ้ามึงเงียบ...กูจะถือว่ากูบ้าเองที่ถามผมยื่นคำขาด และนั่นเองจึงทำให้คำแรกหลุดออกจากปากของมัน

                มึงตอบตกลงไปใช่ไหม

                ผมเลิกคิ้ว งงแว้บขึ้นมาถนัดจิตว่าแม่งพูดเรื่องอะไรอยู่ หา?

              ไอ้ซีจ้องหน้าผมแบบเอาเรื่อง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมคิดว่าสายตาของมันนั่นแหละที่ไม่มั่นคงยิ่งกว่าผมเสียอีก

                ...ช่างเถอะอยู่ๆซีก็ถอดหูฟังโยนทิ้งแล้วลุกขึ้น ทิ้งไอพอดของมันเอาไว้เหมือนไม่เห็นค่า และมันเดินไม่กี่พรวดก็หายออกไปจากห้อง ปล่อยให้ผมได้แต่นั่งอึ้งอยู่ที่เดิมคนเดียว ในขณะที่เสียงเพลงก็ยังคงดังต่อไปเรื่อยๆเหมือนไม่รับรู้อะไร

     

    จะเหน็บหนาวเท่าไหร่ไม่กลัว

              จะเปียกฝนเท่าไหร่ก็ยอม

              ชั้นหวังแค่ให้มีคนที่ชั้นรักยืนคอยตรงนั้นก็ชื่นใจ...

              อยากมีรักจริงๆสักที

              ไม่ว่าร้ายว่าดี ชั้นพร้อมแลกด้วยใจ

              เพราะว่าหมดทั้งตัวและใจ...ชั้นให้เธอ

              รัก...คำเดียวคำนี้...ได้ยิน...หรือเปล่า...

              (Ost. ม.3 ปี 4 เรารักนาย : รัก...ได้ยินหรือเปล่า) 

     

              เพลงเดิมจบลงโดยที่ผมยังคงคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี

                ซีมันเป็นอะไร? ผมทำอะไรให้มันโกรธกันแน่นะ?

              หรือว่าเรื่องพี่กานต์...?

                จริงสิ...

                พอนึกถึงพี่กานต์ ผมก็เลยพลอยนึกถึงเรื่องที่มันพูดกับผมได้

                มันเป็นฝ่ายพูดก่อนแท้ๆ เรื่องที่...จะขอคบกับผม...แต่ผมกลับทำเมินเฉยเหมือนมันไม่เคยพูดอะไรออกมา

                ซี...มันรออยู่งั้นหรือ...?

                ผมเริ่มรู้สึกผิด เพราะถ้าเรื่องเป็นอย่างนั้นจริง เมื่อมารวมกับเรื่องที่พี่กานต์พูดกับผมด้วยแล้วมันเลยกลายเป็นว่าผมต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง

                ผมไม่อยากเลือกไอ้ซีเพราะอยากให้เราเป็นเพื่อนกันต่อไป...เป็นเช่นนี้ตลอดไป

                แต่ผมก็ไม่ได้อยากตอบตกลงกับพี่กานต์ เพราะถ้าผมพูดว่าตกลงออกไป ไอ้ซีมันคงจะจากผมไปตลอดกาลแน่...

                ผมตบหน้าผากตัวเองแรงๆ ถึงจะพูดอย่างงั้นอย่างงี้ ลังเลระหว่างสองคนนี้มากแค่ไหน แต่ในหัวผมก็ดันมีแต่เรื่องของไอ้บ้านั่นอยู่เต็มชนิดแงะไม่ได้คลายไม่ออก ให้ตายเถอะ!

                ผมน่ะ...ไม่ได้อยากทำร้ายใครคนใดคนหนึ่งหรอกนะ...ไม่อยากเลยแม้แต่นิดเดียว

                เพราะถ้าเลือกคนหนึ่ง...อีกคนก็ต้องเป็นฝ่ายเจ็บ

                บ้าเอ๊ย!

                ผมควรจะทำยังไงดีเนี่ย? 

     

     

     ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    (โนว์/หลบระเบิด)
    ช่วงสับสนชีวิตสินะ เหอๆ สุดท้ายหนูวาก็ยังไม่ได้เลือกใครสักคน พอๆกับที่สับสนแม่งทั้งสองคน คนหนึ่งก็เพื่อนอีกคนก็พี่ ฮาๆ

    เพลงที่โนว์ใช้ในตอนนี้มาจากเรื่อง ม.3 ปี 4 เรารักนาย เป็นเพลงหนึ่งที่โนว์โคตรชอบบบบ แต่เรื่องนี้ก็คงไม่ได้อยู่ม.3 แล้วโดดไปปี 4 หรอก - - เหอๆ  
    ลองเอาให้ฟังกันดูนะคะ อยู่ด้านล่างสุด กดเพลย์ได้เลยถ้าโค้ดไม่เจ๊งซะก่อน.....

    ควิซที่แล้วหลายคนตอบเหมือนที่โนว์คิดนะ ซีคงอยากฆ่าคนจริงๆ เอิ๊กอ๊าก มาดูควิซใหม่ อันนี้ง่าย...
    ทุกท่านคิดว่าวาจะเลือกใครคะ?
    เหอๆๆๆ (จากไปพร้อมเสียงหัวเราะชั่วร้าย)
    อ่ะ พักเรื่องหนุ่มๆไว้ก่อน มาตอบเม้นท์กันก่อนดีกว่าเนอะ!

    คุณ knight - จ้าๆ อัพให้แล้ว อ่านต่อด่วนนะคะ หึๆ

    คุณ bummi - มาพร้อมบทวิเคราะห์ตาซีแบบละเอียดยิบ ฮา...โนว์ก็ว่าซีอยากฆ่าคน ไอ้น้อยใจน่ะคงไม่ใช่จริงๆ แต่ที่เดินหนีไปไม่ยอมอยู่ฟังคำตอบคงจะเพราะ....เซ็งนั่นแหละ เอิ๊กอ๊าก ขำๆเหมือนกันค่ะ ตาซีมันเข้าใจยากกส์

    คุณ [ประกบปากกระชากลิ้นTeuk] - เห็นชื่อแล้วสะดุ้ง เหอๆ แซวขำๆนะคะอย่าคิดมาก ^O^ หลายคนคิดเห็นตรงกันว่าซีคงอยากฆ่าคน ซึ่งก็ถูกค่าาาาาาาา

    คุณ pea pae - น้อยใจก็ต้องคู่กับ ง้อ แต่หนูวาของเรายังคงพิศวงตัวเองไม่หายว่าไปทำอะไรให้แม่งโกรธเอาในเมื่อก็นั่งอยู่เฉยๆดีๆ หึๆ ก็ต้องดูกันต่อไป(แสยะยิ้ม)

    คุณ frem - ชีวิตนี้คือละคร เรามักจะชอบเดินหนีก่อนรู้ความจริง ฮ่าๆ โนว์เองก็เคยเจอแบบนั้นนะ มีอยู่จริงไม่ได้มีแค่ในนิยาย ถึงจะยังไม่ได้ตอบอะไรไปก็เหอะ โดนโกรธวายวอดไปเป็นชาติเลยค่าาาาา ฮา....

    คุณ Prince"Z - หมายถึงแหวนสินะคะ หึๆ อันนี้เดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆจะได้รู้กัน แม่ยกคู่ซี-วาเพิ่มอีกคนค่ะ! >< แฮปปี้นิวเยียร์เช่นกันจ้า ^^
    เม้นท์สอง ฮาๆ รวบสองเม้นท์ วาหลายใจมากเลยเหรอจ๊ะ หึๆ อัพให้แล้วนะค้า ลองมาดูกันต่อไปว่าวาจะเลือกไผ

    คุณ p_infinity - หลังจากนี้วาก็คงงานเข้าอยู่เรื่อยๆจนเซ็งชีวิต เอิ๊กอ๊าก(รู้สึกช่วงนี้ชอบหัวเราะแบบนี้?) แต่ที่ท่านถามอ่ะมีมูลมากเลยนะคะ นั่นจิ? ถ้าซีไม่อยู่กับวาแล้วจริงๆจะเป็นไงน้า หุๆ ^o^ ไม่ได้สปอยล์นะคะ อุ้ย...
    ตาซีมันก็รู้สึกปนๆกันไปแหละ โกรธ เซ็ง น้อยใจก็มีบ้าง แต่อยากฆ่าคนเทไปมากสุด เหอๆ

    คุณ ampakira - เดี๋ยวตาซีทำตัวน่าเตะแล้วจะหายสงสารค่ะ ฮ่าๆ อัพให้แล้วนะคะ ตามต่อด้วยน้าาา ^^

    คุณ SmousTy - แบบว่าก็อยากแลกอ่ะค่ะ แต่โนว์โง่คอมชิบๆ แปะไม่เป็นแถมไม่มีแบนให้แลก = = จะว่าโนว์ไม่มีน้ำใจเมินเฉยเม้นท์ท่านอ๊ะเปล่าคะ ขอโทษล่วงหน้า แต่ใครใจบุญขอแบนเนอร์ให้โนว์หน่อยจิคะ -o- 

    คุณ kiss&hugs - ฮ่าๆ สครีมซ้าาา อัพต่อให้ตามประสงค์แล้วค่า ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าหนูวาจะเอาใคร หึๆ เรื่องที่ขอนั่น คิดว่าคงต้องรอไปอีกอ่ะค่ะ แหะๆ ตามคิวมันยังอีกยาวไกล ปกติไม่ได้ใช้ตาซีดำเนินเรื่องเลย เดี๋ยวคนอ่านรู้ไต๋(ไม่ใช่ละ) แต่อันนั้นมันตอนพิเศษ พิเศษแปลว่าไม่มีบ่อยค่าาาา(วิ่งหนี อย่าขว้างรองเท้าตามมานะ = =)

    คุณ >>>BulldoG - โอ๋ๆ ทนเหงือกหุบอีกสักพักนะจ๊ะ ทิศทางเรื่องมันต้องดีขึ้นในสักวัน(ในสักวัน - -?) ฮาๆ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าซีคงอยากฆ่าคน นี่นิสัยของตานี่กลายเป็นคนโหดร้ายสมบูรณ์แบบ เอิ๊กๆ 

    คุณ ~Little_Killer~ - ขอบคุณสำหรับคำชมค่า ถ้าอ่านจนจบถึงล่าสุดก็คงรู้แล้วแหละว่าซีจะขออะไร คิดว่าวาให้ได้มั้ยน้อ....หุๆ

    คุณ Vermouth  - ยินดีต้อนรับจ้า ขอบคุณนะจ๊ะที่ชอบ ^^ แม่ยกซีมาเป็นแผง หึๆๆ อัพให้ตามที่ขอค่ะ ก็ลองดูกันต่อๆไปว่าไอ้หนูวาจะเอาไงกะชีวิต(อันวุ่นวาย...มีแต่ผู้ชายมารุมชอบ เจ้ย!!! = = วา/ทำไมพูดไรน่ากลัวชิบงั้นล่ะครับ - -") 

    คุณ ang ang - ฮาๆ ซีไปแล้วเดี๋ยวมันก็คงกลับมาเยือน อย่าซีเรียสๆ แค่วาโดนบอกรักไม่ได้โดนดักฉุด(เฮ้ย??) ฮา อัพให้แล้วนะคะ ^^


    ตอบหมดแล้ววววว ช่วงนี้ถ้าว่างปั่นมาลงได้ก็จะปั่น เพราะไม่รู้ว่าเปิดปีใหม่แล้วจะยุ่งหรือเปล่า โรงเรียนจะมีงานกีฬาแล้วค่ะ งานอาจจะยุ่ง ช่วงนี้ลงได้ก็จะลงให้มากที่สุด โนว์รักทุกคนน้าค้าาาาาาา >< 



    S! Radio
    เพลงประกอบภาพยนตร์ ม.3 ปี4 เรารักนาย
    เพลง รัก...ได้ยินหรือเปล่า-คณิน ขัตติยา
    ศิลปิน รวมศิลปิน ม.3 ปี4 เรารักนาย
    อัลบั้ม เพลงประกอบภาพยนตร์ ม.3 ปี4 เรารักนาย
    ดูเนื้อเพลงคัดลอกโค้ดเพลงนี้ดาวน์โหลดริงโทน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×