ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ:WONKYU | HANTEUKCIN] :: My Bloody Valentine

    ลำดับตอนที่ #21 : 16' :ก็แล้วจะให้ทำยังไงล่ะวะ!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.07K
      2
      21 ม.ค. 55

      "นี่ป๋า ข้าวน่ะจะกินมั้ย ถ้ายังโอ้เอ้ชักช้าอยู่แบบนี้กูจะเก็บแล้วนะ"

     

    "ไม่กินแล้ว! มึงจะไปไหนก็ไปสักทีสิ!"

    คนที่ใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชั่วโมงในตอนเช้านอนซุกตัวหลบอยู่ที่ด้านหลังของตุ๊กตาหมีตัวยักษ์ตะโกนตอบรูมเมทที่เก็บจานก๊องแก๊งอยู่ในครัวด้านนอกกลับไป คยูฮยอนชะเง้อคอมองผ่านเจ้าหมียักษ์ไปนิดเพื่อเช็คว่าเสียงด้านนอกที่เงียบไปทันทีที่สิ้นคำของเขานั้นหมายถึงอะไร และหลังจากนอนหยั่งเชิงอีกพักนึง เขาก็ตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียน แต่หย่อนขาลงมา เท้ายังไม่ทันสัมผัสพื้นดี ประตูห้องนอนก็ถูกผลักเปิดเข้ามาจนเขาชักขากลับขึ้นมาแทบไม่ทัน รูมเมทตัวใหญ่ของเขายืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ที่หน้าประตูห้อง หมอนั่นอิงไหล่ข้างหนึ่งเข้ากับขอบประตูพร้อมกับยกสองแขนขึ้นกอดอกด้วยท่าทางหาเรื่อง เขม่นตามองหน้าเขาด้วยสายตาจับผิดแบบไม่มีปิดบัง

     

    คิดว่ากูกลัวรึไงวะ!

     

    "มะ...มีอะไร!"

     

    "มึงหลบหน้ากู"

     

    "ปะ...เปล่าสักหน่อย! อย่ามาใส่ร้ายกูนะ!"

    คนที่โดนใส่ร้ายว่าหลบหน้าขยับตัวหลบวูบมาซ่อนอยู่ที่ด้านหลังของตุ๊กตาหมีตามเดิม คยูฮยอนจับเจ้าตุ๊กตายักษ์(ที่เขาเพิ่งมาเห็นค่าของมันก็สองสามวันมานี้)ขึ้นมานั่งตักเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างตัวเองกับรูมเมทให้มากขึ้น แต่ถึงแม้จะมีตุ๊กตาตัวใหญ่ยักษ์ยังกับเด็กแปดขวบนั่งบังหน้าอยู่ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้อยู่ดีว่าซีวอนกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ ตอนสองสามวินาทีแรกก็ไม่ได้อะไรเท่าไรหรอก แต่พอเริ่มเข้าวินาทีที่สี่ แก้มของเขาก็ชักจะร้อนเห่อขึ้นมาเหมือนจะระเบิด สุดท้ายเลยต้องมุดหน้าหลบสายตาของมันกับตุ๊กตาหมีในอ้อมแขนเพื่อหลบเลี่ยงอาการฟิดปกติไม่ให้ไอ้ตัวต้นเหตุได้เอาไปเอ่ยล้อ

     

    "แล้วที่ป๋ากำลังทำอยู่เรียกว่าอะไรล่ะ...เฮ้อออ"

    ไอ้รูมเมทเชี่ยตัวต้นเหตุ(ใช่! มันเพราะมึงทั้งนั้นล่ะไอ้ห่า!)ถอนหายใจออกมาเสียงดังแถมยังยืดยาวเหมือนจะใช้เสียงนั้นด่าว่าเขาเป็นพวกปัญญานิ่มที่เข้าใจอะไรยาก(ไม่ได้เข้าใจอะไรยาก แต่เข้าใจอะไรช้า มันต่างกันนะเฟ้ย!) เอ้อ! วันนี้กูยอมมึง(อีก)วันนึงนะสัด! คยูฮยอนไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปใช้สายตาด่าไอ้คนพูดด้วยซ้ำ เขาอ้าปาก(ทั้งๆที่แม่งยังมุดหน้าอยู่กับหมีนั่นล่ะ) ตั้งท่าจะเอ่ยปากไล่ไอ้คนตัวใหญ่ที่บอกรักเขาแล้วยังทำเฉยให้ออกไปพ้นหน้าพ้นตาอีกรอบ แต่ยังไม่ทันที่จะเปล่งเสียงออกไป ผู้ช่วยของเขาอย่างเจ้าหมียักษ์ก็โดนดึงไปจากอ้อมแขนอย่างง่ายดาย ซีวอนโยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดีก่อนจะผลักไหล่ของเขาให้หงายลงไปนอนแผ่อยู่บนเตียงและตามเข้ามากดตรึงข้อมือทั้งสองข้างของเขาเอาไว้กับเตียง หมอนั่นยกเข่าข้างหนึ่งขึ้นมากดวางอยู่แนบสะโพกของเขาราวกับอยากจะกักขังเขาเอาไว้ใต้ร่างไม่ให้ได้ดิ้นหนีไปไหน คยูฮยอนตั้งท่าจะอ้าปากด่า แต่พอเห็นสายตาจริงจังแบบนั้นของรูมเมทแล้ว เขาก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอและเบนสายตาหลบไปมองทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตา

     

    ก็มองตาแล้วใจสั่นจะให้ทำยังไงล่ะวะ?!

     

    "นี่ป๋า ถามจริงๆเหอะ...เป็นอะไร ไม่สบายรึไง ถ้าไม่สบายกูจะได้ลงไปซื้อยาให้กิน"

     

    "ปะ...เปล่าสักหน่อย! ปล่อยกูนะสัด!"

     

    "เปล่าสักหน่อยแล้วทำไมหน้าแดงหูแดงแบบนี้ มีไข้แล้วทำไมไม่บอกกูล่ะป๋า"

     

    นี่มึงไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งถามไปงั้นเองวะไอ้ห่า!

    แม่งเป็นเพราะมึงทั้งนั้นนั่นล่ะ!!

     

    "กูบอกว่าม่ะ...ไม่ก็ไม่ไง!"

    เขาสูญเสียความมั่นใจไปสักหน่อยในช่วงกลางของประโยคเพราะไอ้คนที่จู่ๆก็กลายเป็นคนช่างห่วงใยได้ลดใบหน้าลงมาแนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากของเขา จะผงะถอยห่างออกมาก็ทำไม่ได้ เขาเลยได้แต่นอนตัวแข็งอยู่อย่างนั้นและทำได้เพียงเบือนสายตาหลบออกไปมองทางอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองได้เห็นใบหน้าของผู้ชายที่ทำให้เขาใจเต้นในระยะที่ใกล้เกินไปนัก ซีวอนพึมพำเบาๆกับตัวเองเป็นทำนองว่าก็ไม่มีไข้นี่พลางค่อยๆผละตัวออกห่าง(แต่แม่งก็ยังคร่อมเขาอยู่ดีนั่นล่ะ!) รูมเมทตัวใหญ่ละมือข้างหนึ่งออกมาจากข้อมือของเขาเพื่อใช้มันบีบจับเข้าที่แก้มของเขาแทนที่ หมอนั่นออกแรงบังคับใบหน้าของเขาให้หันไปสบตาอย่างเอาแต่ใจ

     

    "อย่าหลบตากูป๋า อย่าหันไปมองที่อื่นนอกจากที่ที่มีกูอยู่"

     

    ก็กูใจเต้น จะให้กูทำยังไงล่ะวะไอ้คนป่าเถื่อนชอบบังคับ!

     

    หัวใจของเขาเต้นแรง โอ้ แน่ล่ะ...เต้นแรงแน่อยู่แล้ว! คยูฮยอนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนหน้าบางใจเสาะขี้เขินงุงิอะไรแบบนั้น แต่ห่าเหอะ! เขาก็เพิ่งรู้ว่าการโดนบอกรักมันจะทำให้เขาเป็นมากถึงขนาดนี้

     

    ก็ใช่ว่าจะมีผู้ชายป่าเถื่อนกล้ามใหญ่แถมยังชอบวอนตีนมาบอกรักเขาทุกวันนี่!

     

    "กูไม่...อุ๊บ!"

    ไอ้ผู้ชายป่าเถื่อนกล้ามใหญ่แถมยังชอบวอนตีนไม่รอฟังประโยคจากปากของเขาจนจบ หมอนั่นประกบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็วไม่ให้เขาได้ทันตั้งตัวว่ากำลังจะโดนจู่โจม(?)แบบนี้ มือใหญ่บีบจับแก้มของเขาแน่นขึ้น บังคับให้ริมฝีปากของเขาเผยออ้าอย่างเอาแต่ใจเพื่อจะได้จูบเขาได้ร้อนแรงมากขึ้น รสของนมสดจางๆจากปลายลิ้นที่คอยเอาแต่จะรุกรานเขาทำให้เขามึนงงไปชั่วขณะ

     

    ซีวอนยอมผละออกห่างให้เขาได้หายใจในที่สุด หมอนั่นละมือออกมาจากใบหน้าของเขา แต่ก็ยังไม่วายใช้นิ้วโป้งไล้ไปมาที่เรียวปากของเขาซึ่งเจ้าตัวเป็นคนทำให้มันบวมเจ่อขึ้นมาแต่เช้า(กูยังต้องไปเรียนอีกนะไอ้ห่า! ทำอะไรไม่เคยคิดถึงอนาคตกูเลยมึงอ่ะ!) ดวงตาของหมอนั่นที่ก้มมองลงมายังใบหน้าของเขาจริงจังได้มากเท่านั้นจนเขาไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกไป ลูกแมวตัวเล็กที่โดนเจ้าของข่มให้นอนอยู่ใต้ร่างจึงได้แต่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นด้วยหัวใจที่ไม่สงบลงเสียที...และตอนนี้หน้าอกของเขาก็เจ็บไปหมดแล้ว

     

    "ถ้าไม่อยากเห็นหน้ากูมึงก็บอกมาตรงๆ กูจะได้ไม่มาให้เห็นหน้าอีก"

     

    .........................................................................

     

    "ทะเลาะกับผัวมาล่ะสิ ปากงี้เจ่อเชียว อ้ะๆ...อย่ามาเบะปากนะมึง ขึ้นมาอย่าลีลา"

    เชี่ยโย่งชางมินก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ไม่เคยจะให้กำลังใจเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พอปั่นจักรยานมาจอดตรงหน้าเขาปุ๊บ สิ่งแรกที่ปากกว้างๆของมันพ่นออกมาก็คือประโยคถากถางที่ห่างไกลจากคำว่าสวัสดีตอนเช้ามากแบบคนละขั้ว แถมพอเขาตั้งท่าจะทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเองบ้างก็โดนแม่งไล่ให้รีบขึ้นไปนั่งซ้อนอยู่ที่เบาะด้านหลังอีก คยูฮยอนเก็บความคับข้องใจไว้กับตัวเองพลางรีบกระโดดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานก่อนที่ไอ้เพื่อนโย่งจะเปลี่ยนใจไล่ให้เขาเดินไปเรียนด้วยตัวเอง

     

    "ยังหลบหน้ารูมเมทอยู่อีกรึไง เลิกเหอะกูพูดตรงๆ ถ้าเป็นกูนะ กูโคตรเสียใจอ่ะ"

    ชางมินว่าพลางออกแรงปั่นจักรยานไปตามทางเพื่อตรงไปยังตึกคณะสถาปัตยกรรมที่อยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกล แหงล่ะ...ถึงอยากจะเก็บเป็นความลับไปจนวันตายขนาดไหน แต่เขาก็ไม่เคยมีความลับกับไอ้เชี่ยโย่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว(เรียกว่าเป็นสันดานที่แก้ไม่หาย และเขาก็เสียใจเป็นบ้าที่ตัวเองติดนิสัยแบบนั้นมาได้!) คยูฮยอนย่นจมูกใส่ไอ้เพื่อนสนิทที่ไม่เคยคิดจะเข้าข้างเขา แต่ก็ไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียงด้วยเลยได้แค่ฝังหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้างของเพื่อนสนิทพร้อมกับวาดแขนกอดเอวของมันเอาไว้อย่างเคยชิน

     

    อาการอ้อนกระทันหันของไอ้เพื่อนสนิทหน้าแมวทำเอาเขาทำจักรยานเป๋ออกนอกเส้นกั้นทางจักรยานไปสักหน่อย แต่เขาก็บังคับให้มันกลับมาวิ่งตรงๆได้อย่างปลอดภัยในเวลาไม่นาน ชางมินพ่นเสียงเหอะออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อที่ไอ้แมวจรจัด(?)ชอบใช้ความรุนแรงจะมาไม้นี้กับเขาแต่เช้า แต่ถึงจะอย่างนั้น เขาก็ยังยิ้มออกมาอย่างขบขัน...แม่งก็เป็นได้แค่ลูกแมวที่พอโดนคนอื่นแหย่ก็หาคนอ้อนล่ะหว้าาา

     

    "เงียบปากไปเลย"

    ไอ้หน้าแมวสมองน้อยบ่นงุบงิบออกมาพลางไซ้หน้าไปมากับแผ่นหลังของเขาด้วยท่าทางที่ยิ่งกว่าพวกลูกแมวขี้อ้อนช่างออเซาะ ก็นะ...ไอ้ห่าหน้าแมวก็มีไม้ตายอยู่ท่าเดียวเท่านั้นนั่นล่ะ!(ชางมินล่ะโดนตั้งแต่ป.ห้าจนตอนนี้ด้านชาไปแล้ว) เขาถอนหายใจออกมาเบาๆคล้ายอยากจะสงสารตัวเองที่หลงไปติดบวงกรรมของไอ้หน้าแมวที่อยากได้อะไรก็อ้อนก็ตี(?)

     

    "มึงก็ได้คำตอบแล้วนี่ไงว่าซีวอนมาเอาตูดมึงทำไม"

     

    "เพราะตอนนั้นกูเมาต่างหากล่ะ"

     

    บ๊ะ! สมองช้าแล้วยังปากแข็งอีก! มันน่าเอาแตะหนีบตบๆๆๆหัวแม่งไปสักหลายๆทีจริงๆ!

    (ชางมินล่ะเบื่อที่มีเพื่อนโง่จริงๆ!)

     

    "แล้วครั้งที่สองมึงเมารึไง แล้วที่ให้มันจูบจนปากช้ำนี่มึงก็เมาอีกงั้นเรอะ?!"

     

    "ไม่รู้! มึงเลิกถามกูสักทีได้มั้ย!"

    ไอ้หน้าแมวตัดบทเอาดื้อๆแบบนั้นพร้อมกับกระชับอ้อมแขนรอบเอวของเขาแน่นขึ้น เหอะ! ทีงี้มาทำเป็นอ้อนขอความเห็นใจ ทีจะเอาแต่ใจนะ ตีเขาเอาๆๆอยู่นั่นล่ะ!(แม่ยังไม่เคยตีชางมินแบบไอ้ห่าหน้าแมวนี่เลยบอกตรงๆ!) คนที่มีเพื่อนสนิทแสนเอาแต่ใจถอนหายใจออกมาอีกครั้งพลางหักรถจักรยานเลี้ยวไปตามทาง คยูฮยอนบ่นพึมพำพลางพลิกหน้าเอนแก้มแนบลงมากับแผ่นหลังของเขา(ถ้าเป็นแจจุงนะ ชางมินคงจะมีความสุขกว่านี้เป็นล้านเท่าอ่ะ!)

     

    "ก็แค่คิดว่ามันรู้สึกแบบนั้นกับกูมาตั้งสามปีแล้วมันเขินนี่! จะให้กูทำยังไงล่ะวะ ใจกูเต้นจะหลุดออกมาทางปากอยู่แล้วจะให้กูมองหน้ามันยังไงล่ะ กูไม่ได้บอกว่ารู้สึกแย่ที่มันมาบอกรักนี่! กูแค่ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงอ้ะ!!"

     

    ............................................................

     

    เขาหัวเสียไปหน่อย

     

    ซีวอนรู้ตัวเองดีว่าเมื่อเช้าเขาควรจะอดทนให้มากกว่านี้...ให้เหมือนกับตลอดสามปีที่ผ่านมา แต่การที่โจวคยูฮยอนคอยเอาแต่จะหลบเลี่ยงเขาก็เป็นสิ่งที่เขาทนไม่ได้...เขาไม่อยากให้ความรักของเขาถอยตัวห่างออกไปจากเขาจนสุดท้ายแล้วมันก็จะห่างออกไปไกลเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมไปดึงกลับเข้ามา แต่ก็นั่นล่ะนะ...โจวคยูฮยอนก็อ่านได้ง่ายมากพอๆกับเข้าใจได้ยากนั่นล่ะ

     

    ร่างสูงดับเครื่องมอเตอร์ไซต์ ถอดหมวกกันลมใบใหญ่ออกมาจากหัวก่อนจะวาดขาก้าวออกมาจากรถอย่างคล่องแคล่ว เขาแค่คิดอะไรกับตัวเองไปเรื่อยเปื่อยระหว่างขับรถออกมาจากหอ มารู้ตัวอีกทีก็มาจอดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลที่ไอ้ฮยอกแจนอนพักอยู่เสียแล้ว...คงเป็นเพราะสองสามวันมานี้เขามาที่นี่แทบจะทุกครั้งที่มีเวลาว่างล่ะมั้ง(ลองไม่โผล่หัวมาสิ ไอ้ไก่ตัวเล็กได้โทรจิกยิกๆไม่เป็นอันได้ทำอะไรกันพอดี!)

     

    เขาถอนหายใจออกมาเหมือนจะเบื่อตัวเองพลางวางหมวกกันลมไว้บนเบาะนั่งของรถ ใช้มือขยี้ผมให้พองฟูขึ้นมานิดแล้วจึงก้าวเดินเข้าไปด้านในโรงพยาบาล ตรงไปยังลิฟต์โดยไม่คิดจะหยุดทักทายพี่พยาบาลประจำเค้าน์เตอร์ด้านหน้าให้เสียเวลาของตัวเองมากไปกว่านี้ เสื้อกล้ามสีดำและกางเกงยีนส์ขาดๆที่เขาใส่มาทำให้พยาบาลหลายคนที่เดินสวนผ่านเขาไปเหลือบสายตามามองเขาด้วยสายตาเหมือนจะสงสัย หากแต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจอะไรและก้าวเข้าไปในลิฟต์ทันทีที่มันเปิดออก

     

    บ้าชะมัดเลย! แล้วเขาก็นึกถึงลูกแมวที่หนีเตลิดไปอีกจนได้!

     

    อาการคันปากอยากบุหรี่ขึ้นมาตะหงิดๆทำให้เขาต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันนิดพร้อมกับสัญญากับตัวเองว่าจะป้อนนิโคตินให้ปอดเป็นการทำโทษตัวเองที่อารมณ์เสียใส่ลูกแมวไปเมื่อเช้าทันทีที่เยี่ยมไอ้ฮยอกแจเสร็จ ซีวอนก้าวเดินออกมาจากลิฟต์เมื่อมันพาเขาขึ้นมาถึงยังชั้นที่เขาต้องการ และเขาก็ยังไม่ได้เอ่ยทักทายอะไรเหล่าพยาบาลสาวที่ประจำอยู่ที่วอร์ดด้านนี้อีกเช่นกัน  เขาเดินผ่านเค้าน์เตอร์ที่พวกหล่อนนั่งประจำอยู่ไปโดยไม่แม้แต่จะหยุดเพื่อสบตาและส่งรอยยิ้มไปให้

     

    เสียงร้องแง้วๆที่ดังลอดออกมาจากประตูห้องพักผู้ป่วยที่มีชื่อของลีฮยอกแจแปะติดอยู่ทำให้เขาเผลอถอนหายใจออกมาก่อนที่มือจะทันได้เอื้อมไปแตะที่ลูกบิดเสียอีก

     

    "กินหน่อยสิพี่ฮยอกแจ ทงเฮปอกเองเลยนะ"

     

    ไอ้เด็กเตี้ยล่ำของป๋าไม่ใช่เด็กที่ชอบทำตัวแอ๊บแบ๊วไปวันๆธรรมดาจริงๆ

     

    "ไม่อยากกิน! เมื่อไรจะไปสักที เราไม่อยากเห็นหน้านาย! ซีวอนอ่า! ทำไมเพิ่งมา กูคอยมึงนานแล้วนะ!"

    เปิดประตูเข้าไป ยังไม่ทันจะได้อ้าปากเอ่ยทักทายด้วยซ้ำ ร่างผอมๆของเพื่อนสนิทของเขาก็กระโดดลงมาจากเตียงและวิ่งตึกตักมาเกาะแขนของเขาเอาไว้ราวกับอยากจะใช้ตัวของเขาเป็นที่ซ่อนจากเจ้าเด็กเตี้ยล่ำ(ที่สองสามวันมานี้เขาชักจะเริ่มสักเกตว่าโคตรอินดี้)ที่มาที่นี่ได้ทุกวี่ทุกวัน(แล้วก็โดนไอ้ฮยอกแจแม่งไล่อยู่ทุกวี่ทุกวันเหมือนกัน)

     

    "กระโดดได้แบบนี้คือหายแล้วงั้นสิ"

     

    "ก็ไอ้เด็กนั่นไม่ยอมไปให้พ้นหน้ากูอ้ะ!"

    เจ้าคนขี้ฟ้องว่าพลางพยักเพยิดไปยังเจ้าเด็กเตี้ยล่ำที่ยืนค้างอยู่ที่ข้างเตียง รุ่นน้องที่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าชื่อทงเฮลบยิ้มออกจากเรียวปากและเปลี่ยนมาทำหน้ามุ่ยมองหน้าเขาเขม็งทันทีที่เขาเลื่อนสายตาไปสบตากับดวงตาที่เขามองยังไงมันก็ดูกลมโตน่ารัก(แต่ก็นะ มันก็ยังดูคมเข้มได้เท่านั้นอยู่ดีนั่นล่ะ) จานใส่ชิ้นแอปเปิ้ลขนาดพอดีคำ(ที่เขายอมรับจริงๆว่าเจ้าเด็กอินดี้เตี้ยล่ำปอกออกมาได้สวยมากๆ)ถูกโยนลงไปวางบนเตียงคนไข้ส่งๆเหมือนคนปอกไม่คิดจะให้ความสำคัญกับมันอีกต่อไปเมื่อคนที่เจ้าตัวอยากจะให้ทานไม่ยอมทานเลยสักชิ้น

     

    การโกรธแบบหึงหน้ามืดทำให้เด็กแอ๊บแบ๊วหล่อขึ้นได้ เขาก็เพิ่งรู้

     

    "มีอะไรรึเปล่า"

    เขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน ทงเฮตั้งท่าจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างออกมา หากแต่สุดท้ายแล้วเจ้าตัวกลับหุบปากฉับและหมุนตัวหันหลังเดินไปหยิบข้าวของของตัวเองที่เจ้าตัววางทิ้งไว้ที่โซฟาด้านหลัง เจ้าเด็กเตี้ยล่ำคว้าหยิบกระเป๋าสะพายของตนขึ้นมาสะพายคาดไปด้านข้างแล้วจึงหยิบกระดานวาดรูปอันใหญ่ขึ้นมาหนีบเอาไว้อยู่ใต้วงแขนด้วยท่าทางทะมัดทะแมง

     

    "พี่ฮยอกแจไม่ได้คอยทงเฮก็ไม่เป็นไร แต่พี่ห้ามทงเฮไม่ให้มาหาพี่ไม่ได้หรอกนะ...พี่ห้ามทงเฮไม่ให้หยุดรักพี่ไม่ได้หรอก"

     

    เขาล่ะสงสัยจริงๆว่าป๋าไปรู้ว่าจากไหนว่าเจ้าเด็กอินดี้เตี้ยล่ำนี่มีผัวแล้ว

    แมนขนาดนี้ใครจะกดมันได้วะ เขาล่ะโคตรสงสัยเลย

     

    เพื่อนสนิทของเขาส่งเสียงครางประหลาดๆออกมาทันทีที่สิ้นคำของเจ้าเด็กนั่นพร้อมกับที่ร่างเล็กๆของมันขยับตัวซุกหลบเข้ามากับตัวของเขามากขึ้นคล้ายอยากจะกันตัวเองออกจากถ้อยคำเหล่านั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องรับรู้ถึงมัน...ราวกับไม่อยากจะได้ยินคำเหล่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างที่เคยเป็นมาเปลี่ยนไป

     

    เขาถึงบอกไงล่ะว่าเจ้าเด็กทงเฮนี่ไม่ธรรมดา

    คนที่สามารถพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาตรงๆได้ซ้ำๆอยู่ทุกวันน่ะไม่ธรรมดาแน่อยู่แล้ว

     

    ร่างที่ค่อนไปทางเล็กของทงเฮหมุนกลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง สายตาจริงจังและใบหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มของเจ้าเด็กที่เขามักจะเห็นว่ายิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอทำให้ฮยอกแจพึมพำชื่อของเขาออกมาเบาๆคล้ายอยากจะขอให้เขาช่วย แต่ก็เถอะนะ...เรื่องของเขาเองยังเอาไม่รอดเลย แล้วจะให้เขาทำยังไงล่ะ ทงเฮกระชับสายกระเป๋าที่พาดอยู่ที่ไขว้อยู่ที่หน้าอกพลางกระชับกระดานรองวาดรูปในวองแขนอีกด้านหนึ่งให้เข้าที่นิด

     

    "ถึงพี่ฮยอกแจจะเป็นของใคร ทงเฮก็ยังมีสิทธิที่จะรักพี่ไม่ใช่รึไง...พี่ฮยอกแจไม่มีสิทธิห้ามไม่ให้ทงเฮรักหรอกนะ"

    ทงเฮพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนเจ้าตัวจะก้าวเดินเฉียดไหล่ของเขาออกจากห้องไปโดยไม่มีบอกลาตามประสาเด็กมารยาทดีเหมือนอย่างทุกครั้ง แถมยังปิดประตูไล่หลังเสียงดังแบบไม่เกรงใจอีกต่างหาก

     

    "มึงรู้ตัวใช่มั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่ลีฮยอกแจ"

    ฮยอกแจเหลือบสายตามาค้อนเขานิดเหมือนจะงอนที่เขาทำตัวห่างเหินขึ้นมากระทันหันก่อนจะกระแทกเท้าเดินปึงปังกลับขึ้นไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงเหมือนเดิม ไอ้เพื่อนสนิทเอาแต่ใจของเขาใช้สองมือค่อยๆกวาดชิ้นแอปเปิ้ลที่กระเด็นหล่นออกมาจากจานตกกระจายอยู่ทั่วเตียงกลับขึ้นมาใส่ในจานตามเดิมด้วยท่าทางที่ดูปราณีตเกินพอดีไปสักหน่อย ระหว่างนั้นก็หยิบบางชิ้นขึ้นมาเข้าปากเขี้ยวหงับๆทั้งที่เมื่อกี้ร้องไม่เอาๆอยู่ท่าเดียว....ก็เป็นได้แค่ลูกเจี๊ยบปากแข็งเท่านั้นล่ะหว้าา

     

    "รู้สิวะไอ้ห่า! กูก็แค่เป็นไข้หวัด ไม่ได้สมองกระทบกระเทือนนะถึงจะได้ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่"

     

    "แล้วเมื่อกี้เด็กมันป้อนทำไมไม่กิน เสือกอยากเล่นตัวอะไรขึ้นมาตอนนี้ล่ะ พอเสียตูดไปแล้วมึงก๋เลยคิดจะอัพค่าตัวรึไง"

     

    "นี่มึงพูดบ้าอะไรของมึงเนี่ยห๊าาา!!"

     

    "ไปอ้อยเค้าก่อน พอเขาจะรุกกลับเลยทำตัวไม่ถูกงั้นสิ?"

    ซีวอนไม่ยี่หระต่อท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนของเพื่อนสนิท เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไปพลางเดินไปทรุดตัวนั่งอยู่ที่โซฟาริมห้อง เขายกมือขึ้นกอดอก ขยับขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบนหัวเข่าและปรายสายตามองคนป่วยบนเตียงเพื่อรอดูปฏิกริยาตอบรับต่อไป ฮยอกแจตวัดสายตาค้อนเขานิดก่อนจะรีบเบือนหน้ากลับไปสนใจอยู่กับชิ้นแอปเปิ้ลในจานที่วางอยู่บนหน้าตักตามเดิม แต่กระนั้นก็เหอะ หูเหอแดงแจ๋แบบนั้นจะให้เขาคิดอะไรได้ล่ะ

     

    "อ้อยที่ไหนกัน อย่ามาใส่ร้ายกูนะ"

    เสียงของคนตัวเล็กแผ่วเบาลง อีกทั้งยังเริ่มสั่นเครือเหมือนใกล้จะร้องไห้...และสำหรับผู้ชายที่ชื่อลีฮยอกแจล่ะก็นะ เขามั่นใจพันล้านเปอร์เซนต์เลยล่ะว่าร้องแน่ๆถ้าหากว่าเขายังไม่เลิกพูดเรื่องนี้ ซีวอนถอนหายใจออกมาเบาๆให้กับไอ้เพื่อนสนิทขี้แยที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปคว้ามาเป็นเพื่อนสนิทตอนไหน

     

    "เออๆ ไม่อ้อยก็ไม่อ้อย แต่ถ้าไม่รีบรักไอ้เด็กนั่น ระวังมันจะเลิกรักซะก่อนล่ะ ถึงตอนนั้นอย่ามาร้องไห้ให้กูปลอบนะ ยอมเสียตูดให้มันไปแล้วตั้งครั้งนึง กะอีแค่รักไอ้เด็กนั่นมันจะเป็นไรไปวะ มึงไม่มีอะไรให้ต้องเสียแล้วนะ"

     

    "เชวซีวอน!"

    เจ้าของชื่อเอนคอหลบชิ้นแอปเปิ้ลที่คนที่ไม่มีอะไรต้องเสียแล้วปามาใส่หน้าได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากนัก ซีวอนหัวเราะเหอะออกมาเบาๆให้กับท่าทางกึ่งๆจะโกรธกึ่งๆจะร้องไห้ของเพื่อนสนิทก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น เดินไปจับโยกศีรษะของคนบนเตียงหน่อยเป็นการบอกลาแล้วจึงเดินออกจากห้องมาทั้งอย่างนั้นโดยไม่คิดจะอยู่พูดอะไรให้เสียเวลาอีก เขาเดินตรงไปยังลิฟต์ ระหว่างนั้นก็หยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาคาบค้างไว้ที่ริมฝีปากเพื่อเตรียมจุดทันทีที่ก้าวพ้นออกไปจากเขตโรงพยาบาล

     

    "ซีวอน?"

    เสียงแว่วหวานอันคุ้นเคยที่ดังขึ้นทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกทำให้เขาเผลอหลุดถอนหายใจออกมาอีกพร้อมกับดึงมวนบุหรี่กลับมาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม ผู้ชายตาสวยเจ้าของเสียงเรียกเมื่อครู่ขยับรอยยิ้มบางส่งมาให้เขาพลางขยับตัวเองไปชิดริมด้านหนึ่งของลิฟต์นิดราวกับอยากจะเปิดทางให้เขาเข้าไปยืนด้านใน(อันที่จริงไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้ ก็มันไม่มีใครอยู่ด้านในเลยสักคนน่ะสิ)

     

    ซีวอนถอนหายใจออกมาอีกรอบพร้อมกับก้าวเข้าไปยืนด้านในอย่างไม่มีทางเลือก เขาเอื้อมมือไปกดชั้นที่ต้องการแล้วขึงยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างผู้ชายที่เขาไม่คิดจะถามชื่อโดยไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยถามสิ่งใดออกไปก่อน...ผู้ชายคนนั้นก็ยังให้ความรู้สึกแสนเศร้าได้มากเท่านั้นอยู่ดีนั่นล่ะ และเขาก็รับมือกับคนพรรค์นี้ไม่ค่อยเก่งเสียด้วย

     

    "เพื่อนของซีวอนยังไม่หายป่วยอีกหรอ"

     

    "ใกล้แล้วล่ะ"

     

    หายเป็นไข้หวัด แต่กำลังจะเป็นไข้ใจต่อ...อะไรทำนองนั้นนั่นล่ะนะ

     

    "หรอ ขอให้หายไวๆนะ...น้องชายของฉันกำลังจะหายแล้วล่ะ"

    เสียงหวานที่เต็มไปด้วยความยินดีทำให้เขาเหลือบสายตาไปมองคนพูดนิดคล้ายอยากจะดูให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างนั้นจริงๆรึเปล่า และดวงตาคู่สวยที่แย้มยิ้มได้กว้างไม่แพ้เรียวปากก็ทำให้เขาหลุดรอยยิ้มออกมานิดอย่างขบขัน ซีวอนวางมือแปะลงไปบนศีรษะของคนตัวเล็กข้างกายก่อนจะโยกเอนมันไปมา

     

    คนที่อยากจะทำให้ผู้ชายแสนอ่อนหวานคนนี้ร้องไห้ต้องเป็นคนที่ใจร้ายมากๆแน่ๆ เขามั่นใจ

    ผู้ชายที่บอบบางขนาดนี้...ใครไม่รู้สึกอยากจะทะนุถนอมอยากจะเอาใจก็ใจร้ายมากเกินไปแล้ว

     

    "มันเปลี่ยนอะไรไปอย่างนั้นสิ?"

     

    "บางอย่างก็เปลี่ยน...บางอย่างก็ไม่ ซีวอนก็รู้นี่...บางอย่างมันก็เปลี่ยนไม่ได้หรอกนะ"

     

    รู้สิ...รู้แน่อยู่แล้ว

     

    "อยากฉลองมั้ยล่ะ ฉันพาไปเลี้ยงขนมเอามั้ย"

    ดวงตาคู่หวานขยับเบิกโตขึ้นทันทีที่สิ้นคำของเขา คนตัวเล็กที่มีรอยยิ้มเปื้อนอยู่เต็มใบหน้าขยับเข้ามายึดจับชายเสื้อของเขาหมับพร้อมกับช้อนตาขึ้นมามองหน้าเขาเหมือนจะถามว่าพูดจริงใช่มั้ยล้อเล่นรึเปล่า และเขาก็ยืนยันว่าเขาพูดจริงไม่ได้ล้อเล่นด้วยการใช้มืออีกข้างเอื้อมมาบีบเข้าที่จมูกรั้นๆนั่นไปเสียหนึ่งที

     

    คนบางคนก็สมควรที่จะเอาแต่ใจบ้าง

    คนบางคนที่เอาใจคนอื่นมาตลอดก็สมควรจะได้ทำตามความรู้สึกของตัวเองบ้าง

     

    "ถ้าไม่รีบตัดสินใจ ฉันจะเปลี่ยนใจแล้วนะ"

     

    "อย่านะ! ไปทะเล! พาฉันไปทะเลหน่อยนะซีวอนนี่!"

     

    ..............................................................

     

    "คยูฮยอนไม่สบายรึเปล่าครับ"

     

    "อ่าา..."

    เขาตั้งท่าจะเงยหน้าขึ้นไปตอบคนเอ่ยถามว่าไม่ได้เป็นอะไรแค่ง่วงนิดหน่อย แต่พอได้สบตากับคนที่มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะม้าหินที่เขากำลังนั่งอยู่เสียงของเขาก็ชะงักค้างอยู่ที่กลางลำคอเอาเสียดื้อๆ...รอยยิ้มของคิมยองอุนคนนั้นก็สดใสบาดตาเขาจริงๆ คยูฮยอนเหลือบซ้ายมองขวาหาเพื่อนโย่งเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไอ้เพื่อนเชี่ยที่ไม่เคยพึ่งพาได้ก็ยังคงพึ่งพาไม่ได้อยู่อย่างนั้น เพราะไอ้ห่านั่นหายหัวไปไหนก็ไม่รู้(นี่มึงปล่อยให้กูนั่งหง่าวอยู่ตรงนี้คนเดียวมานานเท่าไรแล้วเนี่ย!) เขาก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนกึ่งๆแปลกหน้าและส่งรอยยิ้มแกนๆไปให้

     

    "ว่าไง มาทำอะไรแถวนี้หรอ"

    คยูฮยอนเลือกที่จะทำตัวเป็นมิตร(?)ด้วยการเอ่ยทักทายอีกฝ่ายอย่างสุภาพ คิมยองอุนคนนั้นหัวเราะให้กับท่าทางเกร็งๆของเขาพลางใช้มือข้างหนึ่งวางลงมาบนหัวของเขาและขยี้ผมของเขาไปมาราวกับอยากจะบอกให้เขาผ่อนคลายลงกว่านี้ก็ได้

     

    "มีใครเล่าอะไรเรื่องผมให้ฟังรึไง"

     

    "ปะ...เปล่า แค่...เอ่อ...อื้ออ!"

    ลูกแมวที่ชอบโดนคนอื่นแหย่อยู่เรื่อยร้องอื้อออกมาพร้อมกับรีบหดคอเมื่อโดนคนตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะเลื่อนมือลงมาหยิกแก้มเบาๆ ยองอุนหัวเราะออกมาเสียงดังอีกรอบให้กับท่าทางเหมือนพวกแมวขี้ตื่นของเขาพลางหดแขนกลับไปกอดอก และคนโดนแกล้งก็ได้แต่เงยหน้าขึ้นไปทำหน้าบึ้งใส่อย่างขัดเคืองเป็นการเอาคืน

     

    "เพราะคยูฮยอนน่ารักอย่างนี้สิน้าา ไอ้ซีวอนมันถึงหวงนักหวงหนาน่ะ"

     

    "หา?...อ่ะ...เอ่ออ"

     

    แล้วทำไมถึงมีชื่อของไอ้เชี่ยวอนเข้ามาในบทสนทนาได้กัน?!

     

    "ไม่ต้องเขินหรอก ผมชอบคยูฮยอนนะ ผมดีใจที่ในที่สุดไอ้ซีอวนก็หัดเลือกคบคนดีๆเหมือนคนอื่นเค้าสักที"

     

    "หะ...หา?"

    ยองอุ่นอมยิ้มพลางเอื้อมมือมาใช้หลังมือตีเข้าที่ใต้คางของเขาเบาๆคล้ายจะให้เขาเลิกอ้าปากค้างแบบนั้นสักที ผู้ชายตัวใหญ่ที่มีเสื้อช็อปสีกรมท่าของคณะวิศวกรรมศาสตร์พาดอยู่ที่หัวไหล่ข้างหนึ่งอาศัยจังหวะที่เขาไม่รู้จะตอบโต้กลับไปยังไง(คืองงว่าหมอนั่นกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่)คว้าหยิบสมุดสเก็ตภาพของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะไปถือไว้ก่อนจะหมุนตัวเดินหนีไปเสียเฉยๆแบบนั้น

     

    "เฮ้ยยย! นี่!"

    คนที่จู่ๆก็โดนเด็กต่างคณะขโมยของไปรีบคว้ากระเป๋าของตัวเองขึ้นมาสะพายและลุกออกมาจากโต๊ะวิ่งตามหัวขโมยตัวใหญ่ไป หมอนั่นหันมาส่งรอยยิ้มกวนประสาทวอนโดนตีนมาให้เขาพลางใช้นิ้วเกี่ยวเข้าที่เสื้อช็อบที่พาดอยู่กับหัวไหล่และขยับให้มันเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ชูสมุดสเก็ตของเขาขึ้นมาแกว่งไปมาราวกับอยากจะล่อให้เขาวิ่งเข้าไปตะครุบมัน

     

    "มาเอาคืนเร็วครับคยูฮยอน"

     

    ทำไมชีวิตเขาต้องมาเจอแต่คนประสาทๆวะแม่ง!

     

    .........................................................

     

     



     

    อึนเฮ เฮอึนของเราก็ยังคงออกตัวแรงอย่างสม่ำเสมอนะ ก็...ชัดเจนนะคะว่าสรุปแล้ว น้องเตี้ยล่ำของป๋ามีผัวหรือไปเป็นผัวคนอื่นซะเองนะ= = แล้วเด็กอ้วนดำล่ะ? นั่นสินะ รออ่านสเปละกันนะคะ^^ ตอนนี้พระนางของเราป้ะกันนิดเดียวเอง แถมยังเป็นบรรยากาศแบบมาคุ(?)แปลกๆอีกต่างหาก ก็นะ เป็นใครโดนบอกรักอย่างนั้นก็ต้องทำตัวไม่ถูกล่ะนะ(แถมไอ้คนบอกก็ดันทำไม่รู้ไม่เห็นอีกต่างหาก)  ก็เป็นกำลังใจให้ป๋าหน้าแมวของเราต่อปายยยย แนะนำว่าอ่านตอนนี้แล้วให้ตั้งสติให้ดีๆ เพราะตอนต่อจากนี้อีกสองสามตอน ไรเตอร์จะเริ่มเอาสองคู่หลักมาชนกันแล้วค่ะ เรียงเรื่องให้ดีๆน้าว่าตอนนี้ใครอยู่ที่ไหนกับใครยังไง^^

     

     

    ตอนหน้าก็ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ไรเตอร์อยากจะคอมโบสามพีให้จบไปเลย เป็นไปได้ว่าจะสองตอนติด(ถ้ามันยาวเกินไปนะ) ดับเบิ้ลแอกแท็คอย่างงี้ รับกันไหวม้ายยยย จากนั้นก็จะเป็นป๋าลูกแมวอีกสักหน่อยแล้วเราก็จะจบเรื่องนี้กันแล้วค่ะ อีกนิดเดียวเท่านั้น!(บอกตัวเอง- -)

     

    เจอกันครั้งหน้าจ้า^^

     

    ถึงน้องปอ จะเหมือน Never Let Go มั้ย? บอกให้ก็ได้ว่าไม่ได้เอาพล็อตของคู่รองมาจากเรื่องนั้นค่ะ^^ แต่เป็นอีกเรื่องนึงที่เศร้ากว่านั้นพันล้านเท่า(ในความคิดของเราไรเตอร์นะ) *น้องปอ: =o=*



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×