ตอนที่ 131 : Error : 0x00000125 อีกด้านหนึ่ง
ERROR Online : Overkill
“ใช้ได้นี่”
เด็กสาวเจ้าของแว่นสายตาสีแดงพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่นัยน์ตาก็ยังคงมองตรงไปยังแท็บเล็ทในมือ
ภาพการถ่ายทอดสดเบื้องหน้าปรากฏร่างในชุดสูทเก่าสีดำกำลังยืนก้มหน้ามองดูคู่ต่อสู้ในสภาพไร้วิญญาณนอนกองอยู่ที่พื้น ขณะที่เขาเองก็เพียงแค่ยกมือขึ้นมาจับหน้ากากคล้ายกับกำลังใช้ความคิดว่าจะเอายังไงต่อไป…
“ตอนสุดท้ายถ้ารองหัวหน้ากิลด์นักดูดาวคุมสติดีๆ หน่อย...”
คือสิ่งที่หยกพึมพำออกมาจากปากเบาๆ
แต่คงจะต้องบอกว่าการคาดเดาล่วงหน้า รวมไปถึงสิ่งที่หมอนี่ทำในการต่อสู้ครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นการวางแผน เรียงลำดับเหตุการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จนถึงขนาดที่ว่าเธอเองก็ยังรู้สึกขนลุกเล็กน้อย เมื่อมองดูผ่านกล้องมุมต่ำข้างๆ ต้นไม้ เมื่อเห็น หมอนั่นยืนนิ่งโดยไม่มีอาการลนลานสักนิดในระหว่างที่ซุ่มแอบดูทุกอย่างเกิดขึ้นอยู่เงียบๆ
มันไม่ใช่เรื่องปกติ สำหรับผู้เล่นเกินกว่า 99% ภายในเกมที่จะใจเย็นขนาดนั้น เมื่ออยู่ในสถานการณ์กดดันกับคู่ต่อสู้ระดับสูงที่สามารถพุ่งเข้ามาประชิดและปลิดชีพตัวเองได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที
“Hey Princess! Have you watched Naga’s fight that just ended?”
[เฮ้ เจ้าหญิง เธอได้ดูแมทซ์ที่นาคาสู้เมื่อกี้ไหม]
ซึ่งก็เป็นจังหวะที่เธอกำลังคิดอะไรอยู่นั้นเอง เสียงตึ๊ง! แจ้งเตือนของโปรแกรมแชทสำหรับเกมเมอร์ชื่อดังอย่าง Sidcord ก็ดังขึ้นมาพร้อมกับหน้าต่างสนทนาไอดี Christishere#1431 จะเด้งขึ้นมา
คือเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับอีโมต .gif รูปคาวบอยอ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึงแสดงให้เห็นว่าตัวผู้ส่งนั้นรู้สึกยังไงกับการต่อสู้ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“Yeah, Jesus. Your “Darling” has done a good job, hasn’t he?”
[อือ พระเยซู “สุดที่รัก” ของนายก็ใช้ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือไง]
“True, he’s pretty good. And uh...I don’t usually swing that way mind you.”
[ใช่ หมอนั่นใช้ได้เลย แล้วก็ เอ่อ...ทางนี้ไม่ใช่คนที่เดินบน “เส้นทางสายนั้น” น่ะนะ เข้าใจด้วย]
“Or maybe you just don’t know it yet.”
[หรือบางที นายอาจจะแค่ยังหาตัวตนของตัวเองไม่เจอเฉยๆ ก็เป็นได้]
“Hmm, no I don't think so Princess”
[อืม...ฉันว่าไม่น่าใช่นะ เจ้าหญิง]
“People can change, anyway stop calling me princess already, it's kind of remind me of someone I don't really enjoy thinking about”
[คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ เอาเป็นว่าตอนนี้ นายก็เลิกเรียกฉันว่าเจ้าหญิงซะที มันทำให้ฉันนึกไปถึงใครบางคนที่ไม่ค่อยอยากจะนึกถึงเท่าไหร่น่ะ]
“Yeah alright, I guess I'll call you Alice since well it's a cute name after all”
[โอเคๆ งั้นฉันจะเรียกเธอว่าอลิซละกัน เพราะยังไงมันก็เป็นชื่อที่น่ารักดีน่ะนะ]
บทสนทนาดังกล่าวทำเอาหยกถึงกับขนลุกขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะรีบพิมตอบไปในทันทีว่า
“You are much more creepy than I thought Jesus, no wonder people nowadays convert to atheist”
[นายนี่โรคจิตกว่าที่ฉันคิดนะ พระเยซู มิน่าคนยุคปัจจุบันนี่ย้ายไปไม่นับถือศาสนาอะไรเลยกันเยอะ]
“Hey chill, I'm just joking. Also stop calling me Jesus already.”
[ใจเย็น ฉันก็แค่พูดเล่น แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าพระเยซูได้ล่ะ]
เธอไม่ได้พิมอะไรต่อนอกจากส่ง .gif รูปนักบุญที่กำลังยืนสวดให้กับรูปปั้นทางศาสนาพร้อมกับคำพูดที่อยู่ในภาพดังกล่าวว่า
“Amen.”
[อาเมน]
แชทดังกล่าวที่เธอพิมทำเอาตัวอักษร Christishere is typing… ถึงกับหยุดไปชั่วขณะ เสียงแจ้งเตือนของโปรแกรมซิดคอร์ดเงียบไปสักพัก ก่อนที่ลูกครึ่งเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอจะกลับมาเขียนอีกรอบด้วยข้อความเป็นภาษาไทยว่า
“ว่าแต่...เธอได้ดูฝั่งของสองคนที่เหลือไปหรือยัง”
“ยัง ฉันเพิ่งดูการต่อสู้ของหมอนั่นจบไปแล้วนายก็ทักมานี่ละ”
อีกฝั่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่ภาพการต่อสู้ระหว่างซีเนีย มิโกะแห่งเทือกเขาคาซารัส และจิลล์แห่งทีมโปโตรชิเทล’ จะถูกส่งมาให้เธอ
มันเป็นภาพของเกาะร้างขนาดเล็กที่ถูกปกคลุมไปด้วยหยาดฝน เดาได้ว่าคงจะอยู่ในแอเรียที่ห่างจากตำแหน่งของนาคาไม่ไกลมากนักจากสภาพอากาศที่ใกล้เคียงกัน
“ภาพสวยดีนี่ อย่าลืมพกร่มด้วยละ ถ้านายจะไปเที่ยวที่เกาะนั่นน่ะ”
เป็นครั้งที่สองที่ตัวอักษร Christishere is typing… จะหยุดลงไปอีกครั้ง ก่อนที่คริสต์จะพิมกลับมาว่า
“ไม่ใช่สิ เจ้าหญิง ลองดูใกล้ๆ หาดตรงที่มีเงาสีดำๆ ยืนล้อมๆ กันอยู่น่ะ”
เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนที่จะทำตามที่อีกฝั่งบอกเลื่อนสายตาเบื้องหลังกรอบแว่นไปยังตำแหน่งดังกล่าว
ก่อนจะต่อด้วยอาการลุกขึ้นยืนด้วยความแปลกใจพร้อมกับนัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นสีแดงที่เบิกกว้าง...
ร่างเล็กของเด็กผู้หญิงในชุดกาวน์มองดูมิโกะสาวในสภาพ “ถูกสิงสู่โดยยักษ์แดง” [Possessed by Red Oni] ด้วยนัยน์ตาขาวสีขุ่น กับลมหายใจที่ค่อยๆ อ่อนระทวยลงไปเรื่อยๆ จากกรงเล็บของซีเนียที่แทงเข้าทะลุทรวงอก
ภาพที่มองเห็นได้ค่อนข้างชัดท่ามกลางหยาดฝนที่โหมกระหน่ำอยู่รอบข้างจากของเหลวสีเข้มที่ไหลชุ่มออกมาจากบาดแผล ปนเปื้อนไปกับสายฝนก่อนที่จะไหลลงสู้พื้นเป็นลำธารสีแดง
เปรี้ยงงง!!!
ประกายแสงขนาดใหญ่พุ่งวิถีของมันลงสู่พื้นน้ำ ท้องฟ้าที่ส่งเสียงครืน...ครืน...เป็นจังหวะ รวมไปถึงสายลมเกรี้ยวกราดสาดหยาดฝนเทน่ำใส่ทั่วอาณาเขต “เกาะร้างแห่งอาณาจักรสูญสลาย” [Desert Island of the Lost Kingdom] บ่งบอกว่ามันกำลังถูกปกคลุมไปด้วยพายุฝนฟ้ากระหน่ำ รวมไปถึงเงาสีดำปริศนาที่บินวนเวียนกรีดร้องอยู่รอบข้าง
สภาพอากาศที่หากผู้เล่นคนใดเพิ่งจะเปิดเข้ามาดู ก็คงจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “พายุฝนนี่แรงเป็นบ้า” “ฝนตกหนักยิ่งกว่าแมทซ์เมื่อกี้อีกหรือไง!?” หรือไม่ก็ “นี่มันเกาะร้างหรือเกาะผีสิงกันแน่เนี่ย!!”
เแต่สำหรับเหล่าผู้ชมที่เปิดเข้ามาไลฟ์สตรีมนี้ตั้งแต่แรกแล้วนั้น ทั้งหมดต่างก็เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งหยาดฝนที่โหมกระหน่ำแทบจะทั่วทั้งสิบอาณาจักร ทั้งพายุสายฟ้า [Thunderstorm] ที่แสนจะไม่เป็นธรรมชาติ ทั้งๆ ที่เมื่อไม่นานมานี้บนเกาะร้างดังกล่าวนั้นยังปรากฏแสงสีทองของพระอาทิตย์ส่องสว่าง
ทั้งสองมาจากทักษะของมิโกะแห่งเทือกเขาคาซารัส [Miko of the Kazarus Mountain]
The Storm of Samsara
[พายุแห่งสังสาระ]
คู่ต่อสู้ของจิลล์แห่งทีมโปโตรชิเทล’ ที่ทำการเรียกใช้มาตั้งแต่ในตอนแรกที่เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ของเธอ
นักฆ่าในชุดกาวน์ที่กำลังอยู่ในสถานการณ์เป็นรองอย่างไม่น่าจะพลิกกลับมาได้
เป็นเวลาไม่นานก่อนที่โลหิตสีแดงจะทะลักออกมาจากริมฝีปากบางของเด็กผู้หญิงอีกครั้งเช่นเดียวกับแสงสุดท้ายวาบหายไปจากแววตา
เห็นดังนั้นมิโกะสาวซีเนียในร่างยักษ์แดงจึงสะบัดแขนสีแดงขนาดใหญ่ของตัวเองส่งผลให้ร่างของจิลล์หลุดกระเด็นออก ลอยไปไถลร่วงหล่นลงกับพื้นไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตาสายป่านขาดที่ถูกเขวี้ยงทิ้ง
เธอเลื่อนดวงตาสีดำสนิทของยักษ์ทั้งสองข้างมองตรงไปยังร่างของคู่ต่อสู้อยู่สักพัก ก่อนที่จะชูคทาที่อยู่ในมืออีกข้างของเธอขึ้นฟ้า
เวลาเดียวกันกับที่ประกายแสงจะสว่างขึ้นมาอีกครั้งยังร่างไร้วิญญาณของจิลล์ที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น
พร้อมกับเสียงประกาศพิเศษจากอีเวนท์ที่เกริ่นดังขึ้นมาว่า
“Entering Final Phase : Congratulations to the two players…”
[เข้าสู่เฟสสุดท้ายของการต่อสู้ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นทั้งสอง…]
“Entering Final Phase : Congratulations to the two players for achieving the title of Final Phase Contender.
*More info can be read here...[>]”
เข้าสู่เฟสสุดท้ายของการต่อสู้ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นทั้งสองคนที่สามารถผ่านเข้ามาถึงเฟสสุดท้ายได้ค่ะ
*ข้อมูลที่เหลือสามารถอ่านต่อได้ที่นี่…[>]
เสียงแว่วเข้ามาสู่โสตประสาท เจ้าของชุดสูทเก่าสีดำหรี่ตาลงช้าๆ ก่อนที่จะละสายตาจากร่างไร้วิญญาณของรองหัวหน้ากิลด์นักดูดาวมาสู่หน้าต่างสีฟ้าที่เด้งขึ้นมาเบื้องหน้าเมื่อครู่
แล้วจึงเลื่อนนิ้วไปกดยังคำว่า ‘ที่นี่’ เพื่อเรียกหน้าต่างข้อมูลที่เหลือขึ้นมา
The Ten Kingdom of Catastrophe : Final Phase
[สิบอาณาจักรแห่งความล่มสลาย : เฟสสุดท้าย]
ข้อมูลที่เหลือเป็นข้อมูลพื้นฐานของกิจกรรมคล้ายกับรอบก่อนๆ รายละเอียดรวมไปถึงเงื่อนไขในการเป็นผู้ชนะที่ถูกปรับเปลี่ยนจากเงื่อนไขเดิม ตราสัญลักษณ์ที่ถูกลดลงมาจากทั้งหมดสิบเหลือห้า การจำกัดลดเงื่อนไขในการได้รับเหรียญตราที่ทำให้ง่ายลงกว่าเดิม
และนอกเหนือไปจากนั้น…
“ระยะเวลาที่เหลือจากเดิมที่จะจบลงไปในตอนก่อนจะสิ้นสุดวัน”
รูปแบบเงื่อนไขการจำกัดเวลาที่ทางผู้จัดการแข่งขันมองว่ามันทำให้การแข่งขันนั้นยืดเยื้อมากขึ้น สุดท้ายหลังจากที่ผ่านการประชุมโดยอีเวนท์มาสเตอร์รวมไปถึงกรรมการบริหารของรูนการ์ดแล้ว ทั้งหมดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้…
อ่านมาตรงถึงจุดนี้ ดวงตาสีดำของนาคาก็กระตุกเล็กน้อย ก่อนที่มือข้างขวาจะค่อยๆ ถูกเลื่อนขึ้นมากุมที่หน้ากากช้าๆ
เจ้าของชุดสูทเก่าสีดำถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ มองดูไปยังท้องฟ้าที่เริ่มถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีครึ้มอีกครั้งหนึ่ง
แล้วจึงพึมพำออกมาว่า
“อีก 1 ชั่วโมง...อย่างนั้นสินะ”
มือทั้งสองถูกประสานขึ้นที่หน้าผากของตัวเอง ขณะที่ลมหายใจของเขาก็ดังออกมาคลอกับพัดลมชำรุดมือสองภายในบ้านที่กำลังส่ายไปมาอย่างไม่เป็นจังหวะ
อีกครั้งที่พิรุณถอนหายใจเสียงเครียดออกมา
เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมยุ่งยังคงยกมือกุมขมับของตัวเองเป็นเวลาร่วม 10 นาทีนับตั้งแต่การแข่งขันระหว่างรองหัวหน้ากิลด์นักดูดาวและจบลงไป
แม้จะเตรียมใจไว้แล้วว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในรอบสุดท้าย แต่ในใจลึกๆ ที่เชื่อมั่นว่าหนึ่งในสมาชิกกิลด์ คนที่เขาไว้วางใจมากที่สุดอย่างคุณเร็คท์
จะสามารถเอาชนะการแข่งขันในรอบสุดท้ายนี้และขึ้นมาเป็นหนึ่งในตำแหน่งแรงค์กิ้งยูสเซอร์เช่นเดียวกันกับเขาได้
ความหวัง...ที่ถูกทำลายลงไปอย่างไม่เหลือชิ้นดีจากร่างสูงเจ้าของชุดสูทเก่า
นาคา ไพศาลธารา อดีตแชมโอลิมปิกคณิตศาสตร์เพื่อนร่วมโรงเรียนที่เขาเคยนับถือ
คนที่แม้แต่พิรุณเองก็รู้สึกสนใจในตัวอีกฝั่ง กับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาที่ไม่เคยถูกสานต่อมากไปกว่าศัตรูคู่อริที่มองหน้ากันไม่ติด
“เฮ่อ…”
อีกครั้งที่เขาเผลอถอนหายใจออกมา
สถานการณ์ปัจจุบันที่แม้แต่คนที่มักจะมองโลกในแง่บวกอย่างพิรุณเองก็ยังรู้สึกคับข้องอยู่ภายในจิตใจ กับผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
เขานั่งกุมศีรษะที่เริ่มเต้นตุบๆ จากเส้นเลือดบนศีรษะ ก่อนที่พิรุณจะตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศลดความตึงเครียดของตัวเองโดยการเปลี่ยนการถ่ายทอดสดไปยังประกาศของทาง ERROR ที่เพิ่งเด้งขึ้นมาในแถบแจ้งเตือนเมื่อไม่นานมานี้
“ขอแสดงความยินดีแก่ผู้เล่นทั้งสองคนที่ผ่านเข้ารอบ...”
บทแสดงความยินดีให้แก่นาคา ยิ่งทำให้พิรุณรู้สึกได้ถึงความกระอักกระอ่วนที่ก่อตัวขึ้นมาในจิตใจมากขึ้นอีก เขาเลื่อนหน้าต่างดังกล่าวไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่คลิปไฮไลท์ของการแข่งขัน...ที่เขาเลือกจะข้ามคู่ของเร็คท์และนาคาไปด้วยความรวดเร็ว
มาอยู่ที่ภาพไฮไลท์ .gif ของเหตุการณ์สุดท้ายที่เกิดขึ้น
สายฟ้าที่ฟาดลงมายังร่างของจิลล์ ก่อนในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ทั่วทั้งร่างของยักษ์สีแดงที่เป็นผู้ร่ายทักษะจะเริ่มปรากฏรูโหว่ขึ้น ภาพที่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วขณะ แต่กับสายตาที่เฉียบคงของพิรุณ…
รวมไปถึงมอนิเตอร์รุ่นไฮเฟรมเรท 360 hz ก็ทำให้เขาสามารถที่จะระบุได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เงาสีดำรอบข้าง ไม่ใช่ทักษะของคุณซีเนีย...เหมือนจะเป็นอย่างนั้นละมั้ง”
พิรุณพึมพำออกมาเบาๆ
เงาสีดำทั้ง 18 ร่างที่ปรากฏขึ้นมาข้างเคียงก่อนที่มีดในมือทั้ง 18 เล่มจะถูกเสียบทะลุพร้อมกับจากทุกด้านแปรสภาพของมิโกะให้ไม่ต่างอะไรไปจากชีสของสวิสเซอร์แลนด์
เสี้ยววินาทีที่แม้แต่พิรุณเองก็ยังได้แค่เลิกคิ้วมองมันอย่างทึ่งๆ
พูดกันตามตรงพายุแห่งสังสาระนั่น จริงๆ แล้วค่อนข้างจะส่งผลเสียให้กับคุณซีเนียมากกว่าผลดี เนื่องจากหยาดฝนและเหล่าวิญญาณร้ายที่ปรากฏขึ้นอยู่โดยรอบ ค่อนข้างจะปิดบังภูมิทัศน์ได้อย่างมิดชิดเกินไป
ทำให้เงาสีดำพวกนั้นดูเป็นเหมือนภาพประกอบฉากมากกว่าคู่ต่อสู้ที่ควรจะระมัดระวังตัว
จะว่าไปท่าแปลงร่างเป็นยักษ์นั่นก็ยิ่งทำให้ทัศนะวิสัยของตัวเองแย่ลงไปอีกไม่ใช่หรือไง ถึงจะบอกว่ามันเป็นการเพิ่มความสามารถทางกายภาพรวมไปถึงเวทมนตร์ให้ตัวเองอย่างมหาศาลก็เถอะ
แต่สุดท้ายแล้วถ้ามันส่งผลเสียที่ร้ายแรงขนาดนี้ บางทีมันก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไหร่
“ร่างแยก...หรือไม่ก็ร่างเสมือน”
ความสามารถที่ทำให้พิรุณย้อนนึกไปถึงใครบางคนที่มีความถนัดในด้านดังกล่าว...หรือคงจะบอกได้ว่าเชี่ยวชาญมันมากเสียจนแม้แต่เขา...
หรือให้พูดตามตรงแม้แต่แรงค์กิ้งยูสเซอร์ทั้งสองคนที่อันดับสูงกว่าเขา ก็อาจจะไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากันกับคนๆ นั้นได้
กลุ่มทักษะที่น่าสนใจแต่ก็แลกมาด้วยค่าความสามารถของผู้เล่น
จากที่เคยได้ยินผู้เล่นที่มีทักษะสายนี้พูด อธิบายกันว่า เแค่คงร่างไว้ 2 ร่างหรือ 3 ร่างก็เต็มกลืนแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการสร้างร่างแยกหรือร่างเสมือนที่มีจำนวนมากถึง 18 ร่าง…
คาดว่าน่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้ร่างทั้งหมดกลายเป็นแค่ร่างอ่อนปวกเปียกในระดับเดียวกันกับสไลม์ในตอนต้นเกม
ความเร็วขนาดนี้...มันเป็นไปได้หรือไง
พิรุณคลิกย้อนกลับไปดูวนไปสองสามรอบก่อนที่เขาจะเริ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย
...หรือบางทีอาจจะไม่ใช่ทักษะร่างแยก?
เงาสีดำพวกนั้นไม่เหมือนกับร่างในชุดกาวน์ที่สูญสลายหายไปในตอนแรก
มันมีลักษณะร่างที่สูงกว่า คล้ายกับ...ผู้ชายในวัยกลางคนมากกว่าจิลล์ที่มีสภาพเป็นเด็กผู้หญิง
บางทีเขาอาจจะมองอะไรผิดไป
พิรุณนั่งเลื่อนคอตัวเองไปใกล้ๆ แล้วจึงกดเพลย์สลับกับหยุดซ้ำๆ อีกครั้งก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้อนกลับไปในช่วงแรกหยุดอยู่ที่ร่างในชุดกาวน์ กับสาวน้อยผู้มีนามว่าจิลล์ในชุดที่ยาวรุ่มร่ามจนเกินพอดี
ถ้าให้เขาเดาจริงๆ นี่ก็ไม่ใช่ร่างแยก
“...”
พิรุณหรี่ตามองภาพดังกล่าวไปสักพักก่อนที่ความคิดจะขึ้นมาในหัวว่า
เป็นไปได้ไหมว่า สไตล์การต่อสู้จริงๆ ของเด็กผู้หญิงคนนี้...
จะไม่ใช่สายอาชีพนักฆ่าอย่างที่ยูสเซอร์ทุกคนคิดกันมาตั้งแต่แรก
บันทึกข้อมูลลับ [Secret Data Entry]
สิบอาณาจักรแห่งความล่มสลาย : เฟสสุดท้าย
[The Ten Kingdom of Catastrophe : Final Phase]
ความหวังไม่มีอยู่จริง
[Hope doesn't Exist]
รายละเอียด [Information] : การแข่งขันจะจบลงเมื่อมีผู้เล่นที่สามารถรวบรวมห้าสัญลักษณ์ของอาณาจักรทั้งสิบหรือมากกว่านั้น [Collect Five or more of said Kingdom] เมื่อเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงแค่หนึ่งคน หรือเมื่อเวลากิจกรรมสิ้นสุดลง
อีเวนท์พิเศษจะเริ่มขึ้นหากผู้เข้าแข่งขันยังคงมีชีวิตรอดอยู่ใน 10 นาทีสุดท้ายและสัญลักษณ์ทั้งห้ายังไม่ถูกเก็บรวบรวม
[Special Event will occur if both contestant are alive during the last 10 minutes and 5 Symbol haven't been collected]
จำกัดเวลา [Time Limit] : 1 ชั่วโมง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 มกราคม 2564 / 21:28