ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #70 : ภาค 12 นินจาองครักษ์ ตอนที่ 26

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.76K
      480
      18 ก.พ. 63

        เรนยะที่ถูกนินจาหน่วยลับเรียกตัวไปพบโฮคาเงะเขาจึงได้ใช้ข่ายเทพอัสนีโดดไปโผล่ที่ห้องทำงานโฮคาเงะโดยตรงทันที

        

        “มาไวดีนิซึนาเดะที่เห็นเรนยะจู่ๆก็โผล่มาในห้องทำงานของเธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่

        

        “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอครับ ?” เมื่อมาถึงเรนยะก็ได้ถามเข้าประเด็นในทันทีถึงสาเหตุที่ถึงกับต้องเรียกตัวเขามาพบแบบนี้

        

        “เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนินจาที่มีหน้าที่เฝ้าม่านตรวจจับของหมู่บ้านรายงานมาว่ามีการเคลื่อนไหวที่ผิดแปลกเกิดขึ้นแต่พอหน่วยลับไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นสายลับจากหมู่บ้านอิวะลักลอบออกจากโคโนฮะไปซึนาเดะถอนหายใจ

        

        “แล้ว ?” เรนยะทำท่าเอียงคอสงสัยประมาณว่าแล้วไงสรุปว่าเรียกเขามาทำไมกันแน่

        

        “พวกนั้นหลบหนีออกไปได้ 3 คนแถมยังได้ข้อมูลสำคัญของหมู่บ้านโคโนฮะไปอีกฉันจึงต้องเรียกเธอมานี่แหละซึนาเดะพูดสบายๆราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่

        

        “ทำไมต้องเป็นผมละเนี่ย ?” เรนยะชี้ตัวเองอย่างไม่เข้าใจเพราะงานสำคัญแบบนี้ในความคิดของเขาซึนาเดะควรออกคำสั่งให้หน่วยลับไล่ล่าสายลับทั้ง 3 คนนั้นมากกว่าที่จะเรียกใช้เขาแบบนี้

        

        “เพราะเธอเป็นนินจาที่เร็วที่สุดในหมู่บ้านโคโนฮะแล้วยังไงละ เพราะงั้นฝากด้วยนะถึงว่าซึนาเดะถึงไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรทั้งๆที่ข้อมูลสำคัญของหมู่บ้านถูกสายลับเอาไป

        

        ก็นะภารกิจไล่ล่าแบบนี้มันเหมาะกับตัวเรนยะจริงๆนั่นแหละทำให้สุดท้ายเรนยะก็ต้องยอมรับภารกิจนี้ไปอย่างช่วยไม่ได้

        

        5 นาทีหลังจากที่เรนยะได้รับมอบหมายงานไล่ล่านินจาสายลับที่ถูกส่งมาจากอิวะ 3 คน

        

        ในขณะนี้สายลับทั้ง 3 คนที่ว่านั้นกำลังรีบเร่งเดินทางกลับหมู่บ้านอิวะงาคุเระของตัวเองอย่างเร่งรีบ

        

        “ฮะ ฮะ ป่านนี้ไอ้พวกโคโนฮะคงกำลังหัวเสียกันอยู่แน่ๆสายลับนินจาอิวะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

        

        “ข้อมูลของนินจาสายลับโคโนฮะที่แฝงตัวอยู่ในทุกหมู่บ้านนี่นับว่าเป็นของดีเลยละ เท่านี้ท่านซึจิคาเงะก็สามารถปิดหูปิดตาพวกหมู่บ้านโคโนฮะได้ง่ายๆแล้วถ้าข้อมูลนี้เกิดหลุดไปละก็นินจาสายลับของโคโนฮะที่แฝงตัวอยู่ในหมู่บ้านนินจาต่างๆคงไม่พ้นต้องถูกกำจัดทิ้ง

        

        สำหรับทุกหมู่บ้านนินจาการส่งสายลับไปแฝงตัวตามที่ต่างๆนั้นนับว่าเป็นเรื่องปกติแต่การจะจับผิดว่าใครเป็นสายลับนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากอย่างมากเพราะสายลับบางคนที่เป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่ใช่ผู้ฝึกจักระก็มีอยู่เหมือนกัน

        

        “พวกนาย 2 คนเลิกคุยและเร่งเดินทางซะอย่าประมาทไปเชียวทางโคโนฮะต้องส่งหน่วยลับมาไล่ล่าพวกเราทั้ง 3 คนแน่เพราะงั้น . . .” แต่ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยคนินจาสายลับคนนี้ก็ถูกบางอย่างโจมตีเข้าที่บริเวณหัวจนหัวระเบิดเลือดสาดกระจายเปื้อนใบหน้าสายลับที่เหลืออีก 2 คน

        

        “ . . หัวหน้า !!!”

        

        “บ้าเอ้ยมันโจมตีจากตรงไหนกัน !!!” 

        

        การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของหัวหน้าหน่วยทำให้นินจาอิวะอีก 2 คนที่เหลือเริ่มเสียขบวน

        

        บนเนินเขาห่างจากจุดที่พวกนินจาสายลับอิวะอยู่ประมาณ 1,200 เมตร 

        

        “แตกหนึ่ง !!!” เรนยะตะโกนออกมาหลังจากที่เขาลั่นไกปืน Thompson Arms contender 

        

        “สวยพี่สวย !!!” เอมิยะที่ใช้ตาเหยี่ยวมองดูระยะการยิงให้กับเรนยะตะโกนตอบทันทีที่เขาเห็นว่า Master ของตนนั้นยิงโดนเป้าหมายตายคาที่

        

        “ดูเหมือนว่าพวกนั้นคิดจะแยกกันหนีนะ Master” เอมิยะได้รายงานการเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามให้แก่เรนยะ

        

        “ไม่มีปัญหาจุดนี้ยังอยู่ในระยะยิงแต่อีกคนผมคงจะต้องไปล่าด้วยตัวเองหลังพูดเสร็จเรนยะก็ทำการ Reload กระสุนก่อนที่เขาจะเริ่มกลั้นหายใจเพื่อเล็งยิงอีกครั้ง

        

        มาทางด้านผู้ถูกล่า

        

        “แยกกันหนี !!!” สายลับทั้ง 2 คนได้ตัดสินใจที่จะแยกกันหนีเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตโดยที่ก่อนที่จะหนีนั้นทั้ง 2 คนก็ไม่ลืมที่จะนำม้วนข้อมูลที่อยู่ในตัวศพหัวหน้าของพวกเขาหนีกลับไปด้วย

        

        “คาถาแยกร่าง !!!” โดยระหว่างหนีพวกเขาทั้ง 2 คนก็ยังใช้คาถาแยกร่างเพื่อสร้างความสับสนให้แก่ศัตรูอีกด้วย

        

        เพราะถึงจะไม่รู้ว่าหัวหน้าของพวกตนตายเพราะอะไรก็ตามแต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามันต้องเป็นการจู่โจมจากระยะไกลแน่ๆดังนั้นวิธีนี้นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้แล้ว

        

        และถึงวิธีนี้จะสามารถสร้างความสับสนให้แก่ศัตรูได้เป็นอย่างดีก็ตาม

        

        . . . แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับเรนยะที่มีตาแห่งดวงจิตหรอก

        

        เรนยะได้ลั่นไกส่งกระสุน . 44 Magnum เข้าใส่ต้นขาของนินจาสายลับอิวะอีกคนจนขาขาดล้มลงไปกับพื้น

        

        “อ้ากกก !!!” สายลับอิวะได้แต่ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด

        

        “บัดซบเอ้ย มันรู้ได้ยังไงว่าร่างไหนเป็นร่างจริง !!!” สายลับอีกคนที่เห็นพรรคพวกคนสุดท้ายขาขาดก็คิดที่จะเข้าไปช่วย

        

        “ แฮ่ก . . รีบนำข้อมูลกลับไปให้ท่านซึจิคาเงะ เร็ว !!!” สายลับอิวะที่ขาขาดที่เห็นเพื่อนอีกคนกำลังจะมาช่วยตนจึงได้โยนส่งม้วนข้อมูลพร้อมทั้งตะโกนให้อีกฝ่ายทิ้งตนเอาไว้แล้วหนีไปซะเพราะถ้าเข้ามาช่วยละก็มีหวังได้ตายหมู่และภารกิจล้มเหลวแน่

        

        “บ้าเอ้ย !!!” สายลับคนสุดท้ายได้แต่กัดฟันอย่างเจ็บใจก่อนที่จะวิ่งหนีต่อโดยทิ้งเพื่อนร่วมทีมเอาไว้

        

        ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้เพราะเขาต้องไม่ทำให้การเสียสละของทั้ง 2 ต้องเสียเปล่า

        

        จุดที่เรนยะซุ่มอยู่

        

        เรนยะที่เห็นเหยื่อคนสุดท้ายหนีออกนอกระยะการยิงเขาก็ได้ลุกขึ้นก่อนที่จะค่อยๆถอดอุปกรณ์เสริมของปืน Thompson Arms contender ออกแบบไม่รีบร้อน

        

        ที่เรนยะยิงที่ขาอีกฝ่ายไม่ใช่เพราะว่าพลาดแต่เป็นการจงใจไว้ชีวิตเพื่อล่อให้อีกคนเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนของตนเพื่อที่จะได้ยิงฆ่าคนที่เข้ามาช่วยทิ้งและหลังจากนั้นเรนยะก็จะเข้าไปจับคนที่ขาขาดมารีดข้อมูลเพื่อดำเนินแผนการของตัวเองหลังจากนี้

        

        แต่ดูเหมือนว่ามันจะผิดแผนไปหน่อยเพราะสายลับอีกคนนั้นไม่ได้เข้ามาช่วยเพื่อนของตัวเองตามที่เรนยะคิดแต่ดันวิ่งหนีไปซะงั้นทำให้เรนยะต้องเปลี่ยนมาไล่ตามคนที่หนีไปก่อนแล้วค่อยกลับมารีดข้อมูลจากคนขาขาดทีหลัง

        

        “ยึดถือภารกิจเป็นอันดับแรกสินะ . . ก็สมเป็นนินจาละนะเรนยะได้บินไล่ตามสายลับคนสุดท้ายไปด้วยคาถาลอยตัวที่คัดลอกมาจากตาแก่โอโนกิโดยปล่อยสายลับที่ขาขาดทิ้งเอาไว้แบบนั้น

        

        . . . เพราะถึงยังไงอีกฝ่ายก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือเขาอยู่ดีในสภาพขาขาดแบบนั้นจะคลานหนีไปได้ไกลสักแค่ไหนกันเชียว

        

        ส่วนเอมิยะที่ทำหน้าที่เป็นคนชี้เป้าก็กลายสภาพเป็นร่างวิญญาณเพื่อตาม Master ของตนไปติดๆ

        

        ทางด้านผู้ถูกล่า

        

        นินจาสายลับคนสุดท้ายได้เร่งเดินทางกลับหมู่บ้านอิวะของตนอย่างสุดชีวิตโดยไม่คิดที่จะหันหลังไปดูแม้แต่น้อย

        

        “แฮ่กๆ อีกนิดเดียวเท่านั้นแต่ในขณะที่กำลังวิ่งหนีอยู่นั้นนินจาสายลับอิวะคนนี้ก็ได้สังเกตเห็นเงาบนพื้นเคลื่อนที่ผ่านหัวตนไปจึงได้เงยหน้าขึ้นมองบนฟ้า

        

        “รอดตายแล้ว !!!” สิ่งที่นินจาสายลับคนนี้เห็นก็คือเงาของคนที่กำลังค่อยลอยลงมาหาตนอย่างช้าๆ

        

        ส่วนที่เขาดีใจนั้นก็เป็นเพราะว่านินจาที่บินบนฟ้าได้นั้นก็มีเพียงแค่ท่านซึจิคาเงะแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระเท่านั้น

        

        . . . แต่ความจริงมักโหดร้ายเสมอ

        

        เพราะรอยยิ้มดีใจของสายลับคนนี้ถึงกับแข็งค้างทันทีที่เห็นว่าคนที่กำลังลอยลงมาหาตนนั้น 

        

        ไม่ใช่ท่านซึจิคาเงะอย่างที่เขาหวัง !!!

        

        “ไงจะรีบไปไหนเหรอร่างของเรนยะร่อนลงพื้นดินอย่างช้าๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใส

        

        “ . . อาคุสะ เรนยะ !” สายลับพูดชื่อบุคคลตรงหน้าตนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเพราะสายลับอย่างเขารู้จักชื่อจ้าวศาสตราวุธแห่งหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระเป็นอย่างดี

        

        แต่ว่าเขาไม่เห็นจะเคยได้ยินข่าวเลยว่าเรนยะนั้นสามารถบินบนฟ้าได้เหมือนกับท่านซึจิคาเงะแบบนี้ !!!

        

        ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายคิดนานเรนยะก็ได้เปิดคลังสมบัติหยิบดาบออกมาหนึ่งเล่ม

        

        “ยอมแพ้ซะจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่านะเรนยะค่อยๆย่างสามขุมเข้าหาอีกฝ่ายเหมือนดั่งสัตว์ร้ายที่กำลังล่าเหยื่อ

        

        ถึงจะสั่นกลัวแต่สายลับคนนี้ก็ยังคงหยิบคุไนออกมาถือเตรียมรับมือกับเรนยะ

        

        แต่สายลับคนนี้แค่เผลอกระพริบตาแค่เสี้ยววินาทีเรนยะก็มายืนอยู่ข้างๆตัวของเขาแล้ว !!!

        

        เรนยะได้ฟันดาบใส่อีกฝ่ายเพื่อหวังจบเกมแมวไล่จับหนูนี่เสียที

        

        แต่สายลับคนนี้ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองไวพอสมควรจึงสามารถรับคมดาบของเรนยะได้อย่างหวุดหวิด

        

        “อึก ! เจ้าเด็กนี่เร็วแถมยังแรงเยอะชะมัดแต่ถึงจะรับการโจมตีนี้ได้ก็ตามแต่ตัวเขาก็กระเด็นไปตามแรงฟันอันมหาศาลของเรนยะ

        

        และไม่ใช่เพียงแค่นั้นคุไนที่เขาใช้รับดาบของเรนยะยังแตกเป็นชิ้นๆอีกด้วยบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าดาบในมือของเรนยะนั้นมีประสิทธิภาพมากขนาดไหน

        

        “โห ~ ตอบสนองไวดีนี่เรนยะคาดไม่ถึงเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองกับคาถาข่ายเทพอัสนีอีกทั้งยังรับดาบของเขาได้แบบนี้

        

        . . . แต่มันก็เท่านั้นแหละ

        

        เรนยะได้สลายดาบในมือของตนเป็นละอองแสงกลับไปในคลังสมบัติก่อนที่เขาจะควักปืน Thompson Arms contender ของตนออกมาเล็งที่หัวอีกฝ่าย

        

        ส่วนนินจาสายลับที่เห็นจู่ๆดาบในมือเรนยะสลายหายไปก็เริ่มระวังตัวเพราะนึกว่าเรนยะจะเริ่มใช้คาถานินจาแต่พอเขาเห็นเรนยะนำเอาสิ่งที่คล้ายกับแท่งเหล็กสีดำที่มีด้ามจับเป็นไม้ออกมาชี้ใส่ตนก็เกิดความสับสนว่าเรนยะนั้นตั้งใจจะทำอะไรกันแน่

        

        ปัง !!! เสียงที่ดังจากปากกระบอกปืนทำให้เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆรอบบริเวณหนีกันอย่างแตกตื่น

        

        และนั่นก็คือเสียงสุดท้ายที่นินจาสายลับอิวะได้ยินเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา

        

        หลังจากจัดการอีกฝ่ายเสร็จแล้วเรนยะก็ได้ทำการค้นศพนำม้วนข้อมูลสายลับของหมู่บ้านโคโนฮะที่เป็นเป้าหมายในงานนี้โยนไปเก็บในมิติคลังสมบัติก่อนที่เขาจะลงมือใช้คาถาไฟทำลายศพเพื่อลบหลักฐานทิ้งเพื่อไม่ให้พวกหมู่บ้านนินจาอิวะนั้นตรวจสอบได้

        

        “เรียบร้อยที่เหลือก็พ่อขาขาดคนสุดท้ายที่เหลือก็แค่กลับไปรีดข้อมูลจากสายลับที่เรนยะยิงขาขาดทิ้งเอาไว้แล้วก็เริ่มแผนการของตัวเอง

        

        แต่ในจังหวะที่เรนยะหันหลังกำลังจะจากไปนั้นด้านหลังของเขาก็ได้เกิดคลื่นมิติน้ำวนสีดำพร้อมทั้งมีร่างของชายสวมหน้ากากเกลียวน้ำวนสีส้มยื่นมือเพื่อหวังที่จะจับเรนยะเข้าไปในมิติของตน

        

        แต่มีหรือที่ระดับเรนยะจะไม่รู้ตัวทันทีที่รู้ว่ามีคนลอบจู่โจมเขาจากด้ายหลังเรนยะก็ได้หยิบดาบจากมิติคลังสมบัติหันไปฟันใส่อีกฝ่ายตามสัญชาตญาณ

        

        แต่เรนยะก็ต้องแปลกใจ

        

        . . . เพราะดาบที่เขาฟันใส่อีกฝ่ายนั้นมันผ่านตัวอีกฝ่ายไปราวกับเขากำลังฟันใส่อากาศที่ว่างเปล่า

        

        “นี่มัน !!!” เมื่อเรนยะกระจ่างแล้วว่าใครเป็นผู้ลอบโจมตีตนเขาก็เริ่มคิดที่จะถอยเพราะการสู้กับอีกฝ่ายในระยะประชิดโดยที่ไม่มีแผนคงไม่ใช่ความคิดที่ดี

        

        แต่เมื่อดาบของเรนยะฟันผ่านร่างของอีกฝ่ายไปแล้วนั้นชายสวมหน้ากากสีส้มก็ได้ทำการจับข้อมือของเรนยะเอาไว้อย่างแน่นหนาจนเรนยะขยับหนีจากอีกฝ่ายไม่ได้

        

        . . . ซวยละสิ !!!

        

        “เสร็จฉันละสิ้งเสียงของชายสวมหน้ากากร่างของเรนยะที่ถูกจับก็ค่อยๆถูกดูดเข้าไปในคลื่นมิติสีดำที่ถูกปล่อยออกมาจากดวงตาภายใต้หน้ากาก

        

        (ลงจ้า)

        

        

        

        สภาพหลังจบอีเว้นท์ Valentine + เปิดหาเซมิรามิส สลบแป๊บ แต่ก็ผมก็คืนชีพเมื่อเปิดตั๋วฟรีได้แม่นางคนนี้มา 




        ฮึ ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก๊าก ก๊าก ก๊าก !!! ตั๋วสองใบเปิดเล่นๆได้เฉย


        ขออภัยที่ลงช้าครับพอดีป่วยอาหารเป็นพิษนอนติดบ้านหลายวันแถมพอเขียนตอนใหม่เสร็จแล้วกำลังจะลงผ่านทาง iPhone เว็บเด็กดีใน safari มันก็ดันมีบาร์เมนูเลือกตอนโผล่มาข้างๆหน้าจอในหน้าลงนิยายอีกทำให้ผมลงนิยายในโทรศัพท์ไม่ได้เซ็งมาก . . . ปัญหาเยอะชะมัดยาดเด็กดีเอ๋ยเด็กดี

        

        

        

        คือมันกดอะไรไม่ได้เลยครับแต่ตอนนี้สามารถแก้ไขได้แล้ว



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×