คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #71 : ภาค 12 นินจาองครักษ์ ตอนที่ 27
เรนยะที่กำลังถูกดูดเข้าไปในมิติของอีกฝ่ายเขาก็ได้ใช้ข่ายเทพอัสนีหลบออกมาได้แบบเฉียดฉิว
!!!
“นี่มันวิชาเทพอัสนี !” เมื่อเห็นวิชาที่ตนคุ้นเคยอีกครั้งแววตาของโทบิก็เริ่มปลดปล่อยความต้องการฆ่าออกมา
แบบนี้ถ้าขืนปล่อยให้เด็กนั่นรอดไปได้วันนี้
ในอนาคตมันต้องเป็นศัตรูที่ร้ายกาจยิ่งกว่าโฮคาเงะรุ่นที่ 4 แน่และถ้ามันเป็นแบบนั้นละก็แผนอ่านจันทรานิรันดร์ของเขาก็คง . .
เมื่อชายสวมหน้ากากคิดถึงตรงนี้เขาก็เผลอกำหมัดจนแน่น
. . . ไม่ว่ายังไงก็ต้องฆ่าเด็กนี่ให้ได้ !!!
เมื่อคิดได้ดังนั้นโทบิจึงได้เริ่มมองหาตัวเรนยะที่น่าจะอยู่บริเวณนี้เพราะโทบิคิดว่าอีกฝ่ายคงหนีไปได้ไม่ไกลหรอก
หลังต้นไม้ไม่ไกลจากจุดปะทะเมื่อครู่
เรนยะได้หันหลังพิงต้นไม้ซุ่มคิดแผนรับมือกับอีกฝ่าย
“ไม่คิดเลยว่าหมอนั่นจะออกมาเองแบบนี้” ว่าเสร็จเรนยะก็ถอนหายใจโล่งอกเพราะเมื่อกี้เขาก็เกือบไปเหมือนกัน
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผาของตระกูลอุจิวะนั้นเมื่อเบิกเนตรนี้สำเร็จก็จะได้รับเทพหรือความสามารถมา 2 แบบตามสภาพจิตใจของเจ้าของดวงเนตรนั้นๆ
อย่างอุจิวะ ชิซุยที่มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องการควบคุมไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลอุจิวะกับหมู่บ้านโคโนฮะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ฉะนั้นเมื่อชิซุยเบิกเนตรกระจกเงาหมื่นบุบผาได้เขาจึงได้รับความสามารถที่มีชื่อว่า เทพต่างสวรรค์ ที่ควบคุมผู้อื่นให้ตกอยู่ในภาพลวงตาของตนได้แบบสมบูรณ์โดยถึงขนาดผู้ที่ตกอยู่ในคาถานี้นั้นไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
แต่ในกรณีของโอบิโตะหลังจากได้เห็นโนฮาระ รินหญิงสาวอันเป็นที่รักถูกเพื่อนสนิทของตนอย่างคาคาชิฆ่าตายต่อหน้าต่อตามันจึงทำให้ตัวโอบิโตะต้องการหนีจากความจริงนี้ดังนั้นเขาจึงได้รับ คามุย หรือบัญชาสวรรค์ที่มีความสามารถหลีกหนีจากทุกสิ่งได้
. . . เป็นความสามารถที่น่ารำคาญสุดๆ
เพราะไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยคาถานินจาหรือกระบวนท่าก็ใช้ไม่ได้ผลกับอีกฝ่ายส่วนอาวุธในคลังสมบัตินั้นก็คงจะไม่ต่างกันนัก
ส่วนดาบ EA นั้นถึงจะมีพลังจนถึงขั้นทำลายห้วงมิติได้ก็ตามแต่เรนยะนั้นเลี่ยงที่จะใช้มันเพราะว่าตรงนี้มันอยู่ใกล้กับเขตชายแดนถ้าขืนใช้ดาบ EA ละก็พวกนินจาแคว้นอิวะคงตื่นตระหนกกันหมดพอดี
แบบนั้นถึงจะฆ่าอีกฝ่ายได้แต่แผนการจบสงครามที่เรนยะวางเอาไว้ก็คงพังไม่เป็นท่า
ส่วนเรื่องเรียกเหล่า Servant ออกมาช่วยรุมสหบาทาอีกฝ่ายนั้นถึงจะเป็นตัวเลือกที่ดีก็ตามแต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เพราะถ้าโอบิโตะเกิดดูด Servant ของเขาเข้าไปขังในมิติคามุยละก็ไม่สนุกแน่ๆ
“ช่วยไม่ได้แฮะถึงมันจะเสี่ยงแต่ก็คงต้องใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อแล้วค่อยหาโอกาสฆ่าให้ได้ด้วยการโจมตีเดียวละนะ” ตัดสินใจอยู่นานสุดท้ายเรนยะก็สรุปได้ว่าคงต้องใช้วิธีเดียวกันกับโฮคาเงะรุ่นที่ 4
เรนยะได้หยิบปืน Thompson Arms contender ของตนขึ้นมาบรรจุกระสุนเงียบๆหลังต้นไม้ก่อนที่เขาจะใช้ข่ายเทพอัสนีออกไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตรงๆ
“โผล่ออกมาเองสินะ” ชายสวมหน้ากากยักไหล่ประมาณว่าเรนยะออกมาเองก็ดีแล้วเขาจะได้ไม่ต้องหาให้เสียเวลา
“ชุดแบบนั้นแสงอุษาสินะคราวก่อนยังไม่เข็ดอีกหรือไง ?” ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่เรนยะก็ต้องทำตีเนียนทำเป็นไม่รู้เอาไว้ก่อน
“เจอกันเป็นครั้งแรกยินดีที่ได้รู้จักอาคุสะ เรนยะฉันมีชื่อว่าโทบิในเมื่อเธอไม่คิดจะเข้าร่วมกับพวกเราก็คงต้องขอให้เธอตายซะจะได้ไม่มาเกะกะองค์กรเราในอนาคต” หลังจากพูดแนะนำกับจุดประสงค์เสร็จโทบิก็เป็นฝ่ายวิ่งเข้าใส่เรนยะทันที
เรนยะได้เปิดคลังสมบัติยิงอาวุธใส่อีกฝ่ายเพื่อลองเชิงถึงจะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ได้ผลก็ตาม
“เปล่าประโยชน์” ด้วยเนตรกระจกเงาหมื่นบุบผาจึงทำให้อาวุธทุกชิ้นที่เรนยะยิงใส่ตัวโทบินั้นผ่านตัวเขาไปเนื่องจากร่างจริงของเขาได้ถูกซ่อนอยู่ในมิติคามุยของตน
เรนยะยังคงยิงอาวุธในคลังสมบัติต่อไปเรื่อยๆส่วนมือขวาก็กระชับปืน Thompson Arms contender เอาไว้แน่นเพื่อรอจังหวะยิงฆ่าอีกฝ่าย
ซึ่งจุดตายของโทบินั้นทั่วร่างกายก็มีแค่ที่เดียวเท่านั้นนั่นก็คือหัวเพราะทั้งร่างกายของอีกฝ่ายนั้นประกอบไปด้วยเซลล์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 จึงทำให้ถึงจะโดนกระซวกหัวใจยังไงโทบิก็ไม่ตายเพราะร่างกายของเขามันจะรักษาฟื้นฟูด้วยอัตราที่น่าตกใจ
เรียกได้ว่าเป็นศัตรูที่นอกจากจะน่ารำคาญแล้วยังตายยากอีกด้วย
“แย่หน่อยนะที่อาวุธของเธอมันทำอะไรฉันไม่ได้” โทบิวิ่งฝ่าอาวุธมาจนถึงตัวเรนยะพร้อมกับยื่นมือเพื่อที่จะจับตัวเรนยะเข้ามิติคามุยของตน
แต่ในตอนที่โทบิคิดว่าตนกำลังจะชนะแล้วนั้นเรนยะก็ได้กระโดดถอยหลังแบบฉับพลันพร้อมกับมือขวาของเขาที่ถือปืน Thompson Arms contender เล็งไปที่หัวของโทบิ
โทบิที่เห็นเรนยะกระโดดถอยหลังหนีเขาก็เร่งถีบเท้าเพื่อหวังเข้าประชิดตัวเรนยะอีกครั้ง
แต่พอเรนยะนำแท่งเหล็กสีดำที่มีด้ามจับไม้ออกมาชี้ใส่โทบิก็เกิดความสับสนนึกว่าเรนยะนำกระบองเหล็กออกมาเพื่อจะฟาดใส่ตน
ถึงระยะกระบองจะยาวก็จริงแต่ถ้าเทียบกับความเร็วของเขาละก็ยังไงซะเรนยะก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
“เลิกดิ้นรนขัดขืนจะดีกว่า” เมื่อคำนวนเสร็จว่ากระบองเหล็กของเรนยะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาโทบิก็ใช้ฝ่ามือเอื้อมเข้าไปจับที่ข้อมือของเรนยะอีกครั้ง
สถานการณ์ในตอนนี้ก็คือเรนยะนั้นกำลังเล็งปืน Thompson Arms contender ไปที่หัวของโทบิด้วยมือข้างขวาซึ่งตัวโทบิเองก็กำลังจะจับข้อมือข้างขวาของเรนยะที่กำลังเล็งปืนใส่เขาโดยไม่ได้ระวังตัวเนื่องจากในโลกนินจาตอนนี้เทคโนโลยีปืนยังไม่ถือกำเนิดขึ้นทำให้เรนยะอาศัยความไม่รู้ของอีกฝ่ายเป็นจุดได้เปรียบของตัวเอง
ในตอนนี้เรนยะแค่ต้องรอให้อีกฝ่ายคลายคามุยออกแล้วค่อยลั่นไกจบชีวิตอีกฝ่ายเท่านั้น
. . . แต่วิธีนี้ใช้ได้ผลแค่ครั้งเดียวเท่านั้นถ้าเกิดพลาดเรนยะก็คงจะต้องหาวิธีอื่น
“ฉันชนะแล้ว” โทบิได้คลายคามุยออกหวังดูดตัวเรนยะไปขังในมิติคามุยของตนเพื่อจบการต่อสู้นี้
แต่นี่ก็เป็นจังหวะที่เรนยะรอคอยเช่นกัน !!!
เมื่อเรนยะกำลังจะขยับนิ้วลั่นไกปืนซึ่งแน่นอนว่าการกระทำอันเล็กน้อยนี้ย่อมไม่มีทางเล็ดลอดสายตาของผู้ที่มีเนตรวงแหวนอย่างโทบิไปได้
แน่นอนว่าการขยับนิ้วเล็กน้อยของเรนยะนั้นโทบิไม่ได้นำมาใส่ใจแต่ไม่นานดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างอย่างตกใจเพราะสัญชาตญาณของโทบินั้นได้ร้องเตือนอย่างรุนแรงว่าอันตราย !!!
ปัง !!!
(ลงจ้า)
. . . GA SHINDA !!! ความรู้สึกของไรท์ที่ไม่มีของอัพชิกิดาบ
ความคิดเห็น