ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #58 : ภาค 12 นินจาองครักษ์ ตอนที่ 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.18K
      598
      18 ธ.ค. 62

    ก่อนหน้าที่ปราสาทไดเมียวจะพัง ที่หลังคาตึกหน่วยแพทย์กำลังมีเงาคนปริศนากำลังยืนมองดูเมืองหลวงที่กำลังลุกเป็นไฟด้วยสายตาคมกริบดั่งใบมีด



        

        “ภาพเมืองหลวงที่กำลังลุกเป็นไฟมันช่างงดงามจริงๆ . . .” เงาคนปริศนาได้มองดูความวุ่นวายที่เกิดจากฝีมือของตนเองด้วยความพึงพอใจ

        

        “เธอว่างั้นไหม . . . อาคุสะ เรนยะเงาคนปริศนาได้หันไปมองผู้มาใหม่อย่างเรนยะโดยไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด

        

        “เป็นคุณจริงๆเสียด้วยน่าเสียดายที่เรนยะไม่ได้ใส่แว่นตาเหมือนกับเจ้าหนูนักสืบที่ไปที่ไหนมีคนตายที่นั่นไม่อย่างนั้นเขาคงทำท่าขยับแว่นตาไปแล้ว

        

        เมื่อจบประโยคของเรนยะเปลวไฟก็ได้ลุกโชนขึ้นบริเวณตึกหน่วยแพทย์เผยให้เรนยะได้เห็นโฉมหน้าของคนปริศนาตรงหน้าชัดๆเต็มตา

        

        . . . คนร้ายที่โจมตีเมืองหลวงก็คือเซงาว่าที่เป็น 1 ในสมาชิก 12 นินจาองครักษ์นั่นเอง

        

        “ผมควรจะเรียกคุณว่า มุซัน เซงาว่า สินะเรนยะได้เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเซงาว่าอย่างไม่เร่งรีบ

        

        “ดูเธอไม่แปลกใจเลยนะ . . .” เซงาว่าที่เห็นเรนยะกำลังเดินมาใกล้ๆก็ไม่ได้มีทีท่าอะไรเขารู้สึกแปลกใจด้วยซ้ำที่เรนยะยังคงสงบนิ่งได้แบบนี้

        

        “ที่คุณทำแบบนี้ . . ก็เพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลสินะจนเรนยะเดินมายืนข้างๆตัวเซงาว่าเขาก็ได้พูดขึ้น

        

        “ฮึ ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮะ ฮะ ฮะ!!!” แต่คำพูดของเรนยะนั้นมันกลับทำให้เซงาว่าหัวเราะออกมาเสียอย่างนั้น

        

        “เปล่าเลย . . ผิดถนัดเลยเรนยะคุง . . ฉันไม่สนใจจะแก้แค้นอะไรนั่นหรอก นายไม่คิดว่านี่มันสุดยอดมากหรอกเหรอที่แค่วางแผนการนิดๆหน่อยๆก็สามารถกุมอำนาจแคว้นทั้งแคว้นได้น่ะ ฮึ ฮึเซงาว่าได้เผยรอยยิ้มอันบ้าคลั่งออกมาอย่างปิดไม่มิด

        

        แถมรอยยิ้นนั่นยังทำให้เรนยะถึงกับชะงักไปเลยเพราะมันเป็นรอยยิ้มของคนที่ต้องการทำลายทุกๆอย่างโดยไม่เลือกวิธีการเพื่อสนองกิเลสของตัวเองเท่านั้น

        

        . . . แถมคนประเภทนี้ยังรับมือยากมากเสียด้วย

        

        “ใช่ . . เป็นแผนการที่ยอดมากเรนยะตอบกลับอีกฝ่ายไปด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้าย

        

        “ใช่ไหมล่ะเซงาว่าได้พยักหน้าภูมิใจแต่คำพูดต่อมาของเรนยะมันกลับทำให้เขาเดือดดานขึ้นมาแทน

        

        “แต่แผนของคุณก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ดีเรนยะได้ชักดาบร้อยขาออกมาถือเอาไว้

        

        “แผนของฉันสมบูรณ์แบบแล้ว !!! มันไม่มีอะไรผิดพลาดทั้งนั้น !!!” เซงาว่าได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแผนการที่เขาคิดมาเป็นอย่างดีมันไม่มีทางมีจุดอ่อนได้หรอก !

        

        “ผมไง . . . ผมคือจุดอ่อนของแผนการของคุณเรนยะได้ชี้ดาบร้อยขาใส่หน้าเซงาว่าด้วยรอยยิ้มมั่นใจ

        

        “แกหยุดฉันไม่ได้หรอก ! ตอนนี้พวกขุนนางทุกคนอยู่ในกำมือฉันแล้ว !!!” เซงาว่าได้ชี้ไปที่ปราสาทไดเมียวที่งดงามตระการตา

        

        ซึ่งทันทีที่เซงาว่าชี้นิ้วไปที่ปราสาทไดเมียวเรนยะก็ทำสีหน้าเคร่งเครียดออกมาเพราะเขาพอที่จะเดาได้ว่าเซงาว่าคิดจะทำอะไรกับขุนนางพวกนั้น

        

        ถึงเรนยะจะไม่สนใจชีวิตพวกขุนนางพวกนั้นก็ตาม แต่จะปล่อยให้ตายมันก็คงจะไม่ได้

        

        . . . ถ้าตายกันหมดแล้วใครจะจ่ายเงินเดือนให้กับเขากันล่ะ

        

        ดังนั้นเรนยะเลยแอบสั่งให้ฮัซซันทั้ง 2 ไปช่วยเหลือพวกขุนนางที่ปราสาทผ่านตราเรย์จู

        

        โดยเรนยะได้กำชับ Servant ของตนว่าพยายามอย่าทำให้ปราสาทไดเมียวเกิดความเสียหายมากเกินไปนักเพราะว่าช่วงที่ผ่านมาที่เรนยะทำหน้าที่ของนินจาองครักษ์นั้นเรนยะได้ย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในปราสาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วแถมห้องของเขาก็ยังมีหินรูนจำนวนมากที่เขาอุตส่าห์สร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากอีกด้วย

        

        . . . เขาไม่อยากไปควานหาหินรูนของเขาในซากปรักหักพังหรอกนะ

        

        แต่ยังไม่ทันที่ฮัซซันทั้ง 2 จะได้เคลื่อนไหวจู่ๆที่ปราสาทไดเมียวก็ได้มีประกายแสงของสายฟ้าสีเหลืองส่องสว่างขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับเซงาว่าอย่างมาก

        

        “ . . . เกิดอะไรขึ้น !!!” เซงาว่าเริ่มตื่นตะหนกเพราะนี่มันไม่ได้เป็นไปตามแผนของเขา

        

        “อย่าบอกนะว่า . . .” ผิดกับเรนยะที่รู้ว่าสายฟ้าสีเหลืองนั่นเป็นของใครซึ่งมันไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับเขาเลยสักนิด

        

        “แกทำอะไรลงไป ตอบมา !!!” เซงาว่าได้หันไปถามเรนยะเพราะเขาเชื่อว่านี่เป็นฝีมือของอีกฝ่ายแน่ๆ

        

        ส่วยเจ้าตัวที่ถูกถามนั้นก็ยังคงยืนมองไปนังจุดเกิดเหตุที่ปราสาทไดเมียวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

        

        . . . เอาตรงๆเรนยะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าโชตะหัวแดงนั่นมันทำอะไรลงไปบ้างทำเอาเรนยะอยากจะตอบเซงาว่าไปดังๆเลยว่า ตูก็ไม่รู้เฟ้ย !!!

        

        หลังจากนั้นไม่นานปราสาทไดเมียวอันงดงามก็ได้พังทลายลงสร้างความช็อคให้แก่เซงาว่าอย่างมาก

        

        “อ้ากกก ! รังของฉัน !!!” แผนที่การที่เขาอุตส่าห์วางแผนมานานหลายปีกลับต้องมาพังลงต่อหน้าต่อตาแบบนี้เป็นใครก็คงจะช็อคอยู่นั่นแหละนะ

        

        และไม่ใช่แค่ตัวเซงาว่าเท่านั้นที่กำลังช็อคและรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เรนยะเองก็รับไม่ได้ด้วยเช่นกัน !

        

        ปราสาทไดเมียวกลายเป็นซากแบบนี้หินรูนที่อยู่ในห้องนอนของเขาก็คง . . .

        

        เมื่อเรนยะคิดถึงตรงนี้เครื่องหมายโมโหก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา

        

        “อเล็กซานเดอร์ !!! เอ็งทำอะไรลงไป !!!” เรนยะเองก็ได้ตะโกนออกมาอย่างหัวเสียไม่แตกต่างจากเซงาว่าเช่นกัน

        

        หลังจากจบเรื่องนี้เขาจะให้เจ้าโชตะหัวแดงนั่นอดทานข้าวฝีมือของเอมิยะเป็นการลงโทษให้หมอนั่นทรมานชักดิ้นชักงอกันไปเลย !

        

        แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่เนื่องจากรังตะขาบที่เป็นเหมือนกับตัวปล่อยจักระและสัญญาณควบคุมพวกผู้คนรวมถึงซากศพภายในเมืองหลวงถูกทำลายลงจึงทำให้สถานการณ์ภายในเมืองหลวงเริ่มทุเลาลงซากศพที่ถูกพวกตะขาบเข้าควบคุมก็หยุดเคลื่อนไหวส่วนพวกคนภายในเมืองหลวงที่ถูกฝังไข่ตะขาบลงในสมองก็ทยอยกันได้สติเพราะไข่ตะขาบที่ไม่มีการส่งจักระจากรังมันก็จะสลายหายไปเอง

        

        “มันจบแล้วล่ะหลังจากคิดบทลงโทษอเล็กซานเดอร์ได้แล้วเรนยะก็เลยใช้ตาเหยี่ยวมองดูสถานการณ์ภายในเมืองหลวงก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้นมา

        

        “ยังหรอก มันยังไม่จบ !!!” ถึงแผนการควบคุมพวกขุนนางจะถูกทำลายลงแต่เซงาว่าก็ยังมีโอกาสอยู่

        

        . . . ใช่แล้วไดเมียวยังไงล่ะ !

        

        โดยปกติหากในยามที่เมืองหลวงไม่ปลอดภัยนินจาองครักษ์ก็จะพาตัวท่านไดเมียวหลบหนีออกจากเมืองหลวงผ่านช่องทางลับหากเซงาว่าตามไปจัดการกับไดเมียวได้สำเร็จแผนการกุมอำนาจทั้งแคว้นไฟก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้

        

        “คาถาดินกระสุนดิน !” เซงาว่าได้เริ่มโจมตีใส่เรนยะด้วยคาถานินจา

        

        เรนยะได้กระโดดหลบออกมาตั้งหลักก่อนที่เขาจะทำการส่งจักระเข้าไปในดาบร้อยขาจนเกิดใบมีดจักระยืดยาวแล้วลงมือฟันสวนกลับเซงาว่าไป

        

        ตัวเซงาว่าที่เห็นดังนั้นเขาจึงทิ้งตัวลงมาจากหลังคาเพื่อหลบใบมีดจักระของเรนยะทำให้ในตอนนี้ทั้ง 2 คนกำลังยืนเผชิญหน้ากันท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกไหม้

        

        “แค่ฉันจัดการแกแล้วตามไปจับตัวไดเมียวมาได้ฉันก็จะชนะเซงาว่าได้เริ่มสาธยายว่าหลังจากที่เขาควบคุมไดเมียวได้สำเร็จแล้วเขาจะใช้อำนาจนั้นก่อสงครามโลกนินจาขึ้นอีกครั้งเพื่อใช้สนามรบที่เหล่าแคว้นใหญ่ทั้ง 5 ห้ำหั่นกันในการกระจายไข่ของตะขาบของเขาแล้วค่อยๆทำลายพวกแคว้นใหญ่ทั้งหมดนั้นให้พินาศในคราวเดียวหลังจากนั้นเขาก็จะกลายเป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดแล้วสร้างความสงบสุขให้แก่โลกนินจาแห่งนี้

        

        “งี่เง่า อำนาจมันก็เหมือนกับเมฆยิ่งเราไขว่คว้ามันก็ยิ่งลอยห่าง ความสงบสุขงั้นเรอะน่าหัวเราะชะมัดเรนยะนั้นคิดว่าตัวเซงาว่านั้นช่างทำตัวไม่ต่างจากกบในกะลาเลยสักนิดขนาดเทพเจ้านินจาอย่าง เซนจู ฮาชิรามะ ทำได้อย่างมากก็แค่แจกจ่ายสัตว์หางให้หมู่บ้านต่างๆเพื่อชะลอสงครามเท่านั้นไม่อาจสร้างสันติภาพอย่างเด็ดขาดได้เลย

        

        . . . โลกนินจาน่ะมันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ

        

        เรนยะได้กระดิกนิ้วท้าทายยั่วโมโหเซงาว่าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

        

        “เข้ามาสิ ผมจะสอนคุณเองว่าหากใฝ่ฝันในสิ่งที่เกินเอื้อมผลสุดท้ายมันจะออกมาเป็นยังไง

        

        การต่อสู้ครั้งสุดท้ายได้เริ่มขึ้นแล้ว

        

        (ลงจ้า)



        

        ทำไมถึงไม่ออกมาหาพี่ชายกัน . . ทำไม

        

        สรุปว่าตู้นี้ได้ อตาลันต้ากับเมียโซโลม่อนมา งานนี้ไรท์ถึงกับหมดตูดเลยทีเดียว สายฟรีช่างทรมานเสียจริงๆอยู่แค่เอื้อมมือแล้วแท้ๆ TvT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×