คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #57 : ภาค 12 นินจาองครักษ์ ตอนที่ 14
ในขณะเดียวกัน ณ อีกฝั่งหนึ่งของเมืองหลวงตามท้องถนนที่ผู้คนพากันหนีตายได้มีเด็กหนุ่มผมสีแดงกำลังควบขี่อาชาสีดำมุ่งหน้าไปที่ปราสาทไดเมียว
ซึ่งระหว่างทางเด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้ตวัดดาบฟาดฟันเหล่าสัตว์ประหลาดช่วยเหลือผู้คนในเมืองหลวงไว้เป็นจำนวนมาก
. . . ถึงจริงๆแล้วจะฟันทิ้งเพราะมันขวางทางก็เถอะ
“ฮี่ ฮี่ แค่เอาธงไปปักบนยอดปราสาทไดเมียวเท่านี้เราก็ยึดเมืองหลวงได้แล้ว รอผมก่อนนะ Master” พ่อหนุ่มหัวแดงคนนี้จะเป็นใครเป็นไม่ได้เลยนอกเสียจากอเล็กซานเดอร์โชตะหัวแดงที่ยังคงไม่ยอมล้มเลิกความคิดที่จะยึดเมืองชาวบ้านเขา
และจากคำพูดของหมอนี่ จุดประสงค์ก็คงจะไม่พ้นไปปักธงเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของประเทศตามแบบฉบับของเจ้าตัว
ส่วนสาเหตุที่ต้องนำธงไปปักบนยอดปราสาทไดเมียวก็เป็นเพราะมันเป็นจุดที่สูงที่สุดในเมืองแล้ว
. . . เรียกได้ว่าเป็นการยึดครองแบบเชิงสัญลักษณ์กันเลยทีเดียว
ถ้าเรนยะรู้ว่า Servant ของตนมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้เขาคงอยากตบกบาลมันสักที
แต่จะไปว่าอเล็กคุงก็คงจะไม่ได้เนื่องจากเรนยะเป็นคนบอกเองว่าให้เหล่า Servant ของตนทำตามใจชอบ
“ทางที่เร็วที่สุดคือทางตรง Let’s Go !!!” อเล็กซานเดอร์ได้ขี่ Bucephalus พุ่งทะลุเข้าไปในปราสาทจนเจอเข้ากับก้อนเนื้อสีม่วงที่เกาะตามกำแพงปราสาทแถมตามก้อนเนื้อนั้นยังมีร่างของพวกขุนนางที่ถูกจับมาตรึงเอาไว้พร้อมกับพวงไข่ตะขาบที่กำลังใกล้จะฟักตัว
มันช่างบังเอิญเหลือเกินที่ปราสาทไดเมียวมันเป็นที่ที่ตะขาบมันมาทำรังโดยคนในเมืองหลวงที่ไม่ถูกฆ่าจะถูกจับมาที่รังเพื่อวางไข่ลงในสมองหนำซ้ำจำนวนคนที่ถูกจับมาที่ปราสาทไดเมียวกฃส่วนใหญ่จะเป็นพวกคนจากตระกูลขุนนางทั้งหมดเลย
เดาได้ไม่ยากเลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังตะขาบเหล่านี้คงจะต้องการควบคุมพวกขุนนางพวกนี้ให้เป็นหุ่นเชิดของตนเพื่อควบคุมแคว้นไฟให้อยู่ในกำมือ
“ทางขึ้นอยู่ไหนกันเนี่ย” ในระหว่างที่กำลังหาทางไปต่อจากบนหลังม้ารังตะขาบที่รู้ว่ามีผู้บุกรุกมันก็ได้ส่งลูกๆตะขาบจำนวนมากออกมาจู่โจมอเล็กซานเดอร์
“น่ารำคาญจริง กำจัดให้หมดๆไปเลยก็แล้วกัน Bucephalus !!!” เมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้านายของตนอาชาสีดำก็ได้กู่ร้องขึ้นก่อนที่มันจะทำการยกขาหน้าทั้ง 2 ข้างขึ้นและรวบรวมเวทสายฟ้าที่กีบเท้าของมัน
Bucephalus ได้กระทืบกีบเท้าของมันส่งสายฟ้าเข้าทำลายตะขาบทุกตัวและไม่ใช่แค่นั้นเวทสายฟ้ามันได้ทำลายก้อนเนื้อรวมไปถึงพวงไข่ตะขาบทั้งหลายด้วย
ส่วนพวกขุนนางที่ถูกจับมานั้นเนื่องจากร่างของพวกเขามีก้อนเนื้อจากรังตะขาบห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ทำให้เวทสายฟ้าของอเล็กซานเดอร์ถูกลดทอนความรุนแรงทำให้พวกขุนนางไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เรียกได้ว่าแค่อเล็กซานเดอร์โจมตีเพียงครั้งเดียวเขาก็สามารถทำลายรังตะขาบอีกทั้งยังสามารถช่วยขุนนางที่ถูกจับตัวมาได้ทั้งหมดในคราวเดียวนับว่าน่าชื่นชมในผลงานครั้งนี้จริงๆ
“ช่วยไม่ได้แฮะ” เมื่อเห็นร่างของพวกขุนนางที่หมดสติอเล็กซานเดอร์ก็เลยไม่มีทางเลือกต้องช่วยพวกเขาเหล่านี้ออกไปจากปราสาท
ถึงเขาจะเป็นพวกที่ทำอะไรตามใจไปบ้างแต่อเล็กซานเดอร์ก็รู้ดีว่าถ้าพวกขุนนางพวกนี้ตายไปล่ะก็ Master ของตนอาจจะลำบากเอาทีหลังได้
ดังนั้นอเล็กซานเดอร์จึงได้เรียกรถลากออกมาซึ่งรถลากที่ว่านี้เป็นส่วนเสริมพิเศษของ Bucephalus เป็นที่นั่งที่สามารถนั่งได้หลายคน
อเล็กซานเดอร์ได้โยนตัวพวกขุนนางขึ้นรถลากทีละคนก่อนที่เขาจะพาตัวพวกขุนนางทั้งหมดออกมาวางทิ้งเอาไว้รอบๆนอกปราสาทไดเมียว
“เท่านี้ก็เรียบร้อย ไปปักธงต่อดีกว่า” แต่ในขณะที่อเล็กซานเดอร์กำลังจะขึ้นหลังม้านั้นมันก็ได้เกิดเรื่องที่ถึงขั้นทำให้เขาถึงกับเหงื่อตก !
ซึ่งสิ่งที่ทำให้เจ้าโชตะหัวแดงเหงื่อตกนั่นก็คือปราสาทไดเมียว ! ปราสาทไดเมียวอันแสนงดงามมันได้เริ่มพังทลายลงโดยไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันเป็นเพราะฝีมือใคร
ด้วยสายฟ้าที่ Bucephalus ปล่อยออกมานั้นนอกจากมันจะทำลายรังตะขาบแล้วมันยังทำให้คานไม้ที่คอยพยุงโครงสร้างของปราสาทไดเมียวเกิดความเสียหายไปด้วย
และไม่ใช่แค่สายฟ้าเท่านั้น ด้วยแรงกระทืบเท้าของ Bucephalus จึงทำให้ตัวปราสาทเกิดความสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงดังนั้นคานไม้ที่เกิดความเสียหายจากสายฟ้าก่อนหน้าจึงได้แตกหักลงทำให้ปราสาทไดเมียวพังทลายอย่างที่เห็น
อเล็กซานเดอร์กับ Bucephalus ได้หันมาสบตากันครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าให้แก่กันและกัน
“ปราสาทสร้างไม่แข็งแรงเลยนะ แย่ๆผมไม่อยากได้เมืองนี้แล้วอ่ะ ไปกันเถอะ Bucephalus” และแล้วอเล็กซานเดอร์ก็ได้กระโดดขึ้นหลัง Bucephalus และลี้ภัยออกจากตรงนั้นในทันทีโดยหวังว่า Master ของตนจะไม่รู้ว่านี่เป็นฝีมือของตน
“อเล็กซานเดอร์ !!! เอ็งทำอะไรลงไป !!!” เสียงของเรนยะที่อยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองหลวงได้ตะโกนออกมาอย่างเหลืออด
(ลงจ้า)
จะเปิดหาอาบีเกลแต่ได้น้องอตาลันต้ามาแทนซะงั้น อยากได้อาบีเกลอ่ะ TvT
ความคิดเห็น