ลำดับตอนที่ #40
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : ตอนที่ 40
หลังจากที่เรนยะทานข้าวเช้าเสร็จแล้วเขาก็ได้กลับมาที่ห้องรับแขกเพื่อทำการจับอเล็กคุงมานั่งปรับทัศนคติ(ทำให้เชื่อง)ในทันทีเพราะเดี๋ยวมันบุกหมู่บ้านขึ้นมาจริงๆจะเป็นเรื่องใหญ่เอา
เรนยะ : “นี่อเล็กคุงถึงนายอยากจะยึดหมู่บ้านโคโนฮะก็เถอะนะแต่มีแค่นายคนเดียวเนี่ยมันจะไหวเหรอ”
อเล็ก : “นั่นสินะ Master ถ้าอย่างนั้นผมจะออกไปทำการเกณฑ์คนในหมู่บ้านนี้มาเป็นทหารของผมจะได้หมดปัญหา”
เรนยะถึงกับปวดหัวกับความคิดของราชาวัยทีนคนนี้สุดๆคิดได้ยังไงก็ไม่รู้ไปชวนคนในหมู่บ้านโคโนฮะบุกยึดหมู่บ้านของตัวเองเนี่ยนะ
เรนยะ : “นี่อเล็กคุงนายเชื่อฟัง Master ของนายไหม”
อเล็ก : “แน่นอน Master ขอแค่คุณสั่งพวกเราทั้งคู่จะร่วมมือกันเพื่อพิชิตโลกใบนี้กัน”
เรนยะ : “ที่หมู่บ้านนี้น่ะเป็นผู้มีพระคุณสำหรับฉันเพราะตั้งแต่พ่อแม่(ในโลกนี้)ของฉันเสียไปหมู่บ้านนี้ก็คอยดูแลฉันมาตลอดถ้านายเป็นราชาก็ต้องรู้บุญคุณคนอื่นเขานะใช่ไหมอเล็กคุง”
อเล็ก : “อืมๆ ผมเข้าใจแล้วละ Master เอเมเนส(เสนาธิการของอเล็กซานเดอร์)ก็เคยบอกแบบนั้นกับผมอยู่เหมือนกันละนะว่าราชาน่ะต้องรู้จักบุญคุณในเมื่อหมู่บ้านโคโนฮะแห่งนี้เคยช่วยเหลือ Master . . ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่ยึดหมู่บ้านนี้ก็ได้”
เรนยะได้พยักหน้าอย่างยินดีที่ในที่สุดเจ้าราชาคนนี้ก็ยอมเลิกลาเรื่องการยึดครองหมู่บ้านโคโนฮะแต่เขากลับต้องตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินประโยคถัดไปของอเล็กซานเดอร์
อเล็ก “งั้นก็ขอเจรจาเป็นพันธมิตรกับโคโนฮะและก็ทำการขอยืมกำลังคนเพื่อไปบุกยึดหมู่บ้านซึนะงาคุเระแทนก็แล้วกัน”
เรนยะได้แต่คิดในใจว่า
เรนยะ : (เจ้าหมอนี่ถึงภายนอกจะดูร่าเริงแต่ก็เป็นพวกหัวรุนแรงน่าดูเลยแฮะเอะอะก็จะบุกยึดอย่างเดียวเลย . . ตูละเพลีย)
เรนยะได้ลงความเห็นเลยว่าเจ้าโชตะหัวแดงคนนี้มันตัวอันตรายชัดๆ
อเล็ก : “Master ว่าแบบนี้ใช้ได้ไหม”
อเล็กซานเดอร์ได้ยิ้มถามความเห็นกับ Master อย่างเรนยะซึ่งเรนยะก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม
เรนยะ : “ก็ . . นะ . . . แต่อเล็กคุงทุกหมู่บ้านนินจาน่ะพวกเขาได้มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพกันอยู่นะเพราะแบบนั้นถ้าเกิดว่านายทำการเปิดสงครามขึ้นมาจริงๆละก็ทุกหมู่บ้านก็จะร่วมมือกันเพื่อโจมตีนายและนั่นก็จะทำให้นายต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนต่อให้นายแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตามแต่น้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟอยู่ดีนะอย่าลืมสิ”
อเล็ก : “งั้น Master ว่าผมควรจะทำยังไงดีละ”
เรนยะ : “ง่ายมากก็แค่รอให้มีการฉีกสนธิสัญญาและเปิดสงครามระหว่างหมู่บ้านก่อนยังไงละในบรรดา5หมู่บ้านนินจาน่ะไม่ค่อยจะกินเส้นกันอยู่แล้วละนะถ้าเกิดมีการโจมตีกันเกิดขึ้นละก็ได้ปะทุสงครามโลกนินจาอย่างแน่นอนและเมื่อถึงเวลานั้นนายก็จะได้บุกยึดหมู่บ้านพวกนั้นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะร่วมมือกันอีกไงละ”
อเล็ก : “ผมเข้าใจแล้วที่ต้องทำก็แค่รองั้นสินะขอบคุณมากนะ Master ที่แนะนำผม”
หลังจากที่เรนยะหลอกอเล็กซานเดอร์สำเร็จเขาก็ได้ออกจากบ้านไปเพื่อตระเวนค้นหาสถานที่ที่มีพลังงานธรรมชาติเพื่อทำการดูดซับตามที่เขาวางแผนเอาไว้เมื่อวาน
ซึ่งเรนยะก็ได้มองไปที่โรงพยาบาลโคโนฮะที่เหล่าเด็กๆยังคงวิ่งเล่นกันอยู่เหมือนเดิมถึงจะมีบางคนที่ได้กลับบ้านไปบ้างแล้วก็ตาม
เรนยะ : (เท่านี้ดันโซก็คงไม่กล้าเคลื่อนไหวภายในปีสองปีนี้แล้วละนะ)
ก็อย่างที่เรนยะคิดเอาไว้ดันโซที่โดนเล่นงานไปขนาดนั้นมันคงจะไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกแล้วเพราะการที่พวกเด็กๆที่หายตัวไปถูกหาตัวเจอในหมู่บ้านโคโนฮะแบบนี้ทำให้ในการประชุมระดับสูงของหมู่บ้านดันโซมันทำได้แค่ปิดปากเก็บเรื่องของผู้บุกรุกที่โจมตีตัวมันเอาไว้เป็นความลับเท่านั้นเพราะถ้าบอกเรื่องนี้ออกไปมันอาจจะโดนสงสัยเอาก็เป็นได้
ถ้าดันโซมันจะลงมือลักพาตัวเด็กอีกครั้งจริงๆมันจะต้องไม่พลาดแบบนี้อีกเพราะถ้ามันถูกขัดขวางอีกรอบและเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกละก็พวกระดับสูงของหมู่บ้านก็จะเริ่มสงสัยและไม่เป็นผลดีต่อตัวของดันโซอย่างแน่นอนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอมิยะที่ดันโซคอยระวังตัวอยู่อีก
เรนยะ : (เอาเถอะไอ้เราก็ช่วยได้เต็มที่ได้แค่นี้ละนะเดี๋ยวที่เหลือก็ให้ซึนาเดะรับช่วงต่อจัดการเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน)
แต่ในขณะที่เรนยะเขากำลังเดินสำรวจหมู่บ้านเพื่อหาสถานที่ที่มีพลังงานธรรมชาติอยู่นั้นจู่ๆก็มีนินจาอันบุคนหนึ่งมาบอกให้เรนยะไปที่ห้องของโฮคาเงะเพราะว่าซึนาเดะเรียกตัวของเขา
เรนยะ : “ช่วยไม่ได้แฮะเอาไว้ค่อยหาทีหลังก็แล้วกัน”
เรนยะได้บ่นออกมาอย่างเซ็งๆที่กำหนดการหาพลังงานธรรมชาติต้องเลื่อนออกไปอย่างน่าเสียดายก่อนที่เขาจะเดินไปที่สำนักงานโฮคาเงะเพื่อไปหาซึนาเดะตามคำสั่ง
โดยเมื่อเรนยะได้มาถึงห้องทำงานของโฮคาเงะแล้วนั้นเขาก็ได้เปิดประตูเข้าไปแต่เรนยะก็ต้องแปลกใจเพราะว่าภายในห้องนั้นนอกจากซึนาเดะและก็ปู่รุ่น3แล้วยังมีคนที่เขาคาดไม่ถึงอยู่อีกคนซึ่งก็คือดันโซนั่นเอง
ซึนาเดะ : “มาแล้วสินะ . . เอาละมาเข้าเรื่องกันเถอะมีภารกิจสำคัญที่ต้องให้เธอทำ ส่วนรายละเอียดของภารกิจนั้นดันโซจะเป็นคนอธิบายเอง”
หลังพูดเสร็จซึนาเดะก็ได้หันไปพยักหน้าให้กับดันโซก่อนที่ดันโซจะอธิบายภารกิจให้กับเรนยะฟัง
ดันโซ : “เมื่อวันก่อนจู่ๆสายลับของหมู่บ้านเราที่แฝงตัวอยู่ภายในแคว้นมิซึโนะคุนิ(แคว้นน้ำ)ก็ได้ขาดการติดต่อไปพวกเราเลยอยากให้เธอไปตรวจสอบเรื่องนี้และกลับมารายงานพวกเรา”
ปู่รุ่นที่ 3 : “ช่วงนี้ข้าได้ยินข่าวจากพวกพ่อค้าทางทะเลมาว่าภายในแคว้นมิซึโนะคุนิมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นซะด้วยภารกิจนี้น่าจะไม่ง่ายและก็ใช้เวลานานคิดว่าเจ้าไหวไหมเรนยะ”
พอดันโซอธิบายเสร็จปู่รุ่น3ก็ได้ถามความพร้อมของเรนยะทันทีเพราะภารกิจนี้มีความเสี่ยงมากพอดู
แต่เรนยะเขากลับยังไม่ตอบพร้อมกับจ้องมองดันโซสักพักก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยและพยักหน้าตอบรับภารกิจนี้ไป
เรนยะ : “ไม่ต้องห่วงครับผมจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จเองวางใจผมได้เลย”
ซึนาเดะที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกวางใจก่อนที่เธอจะทำการมอบม้วนภารกิจให้กับเรนยะเพื่อเป็นการอนุญาตให้ออกจากหมู่บ้านไปทำภารกิจได้
ซึนาเดะ : “นี่ถือว่าเป็นภารกิจสืบข่าวระดับ A ระวังตัวด้วยละและก็ . . .”
ซึนาเดะได้ทำท่าทางลำบากใจออกมาก่อนที่เธอจะมองที่ดันโซอีกทีก่อนที่ดันโซจะทำการเรียกนินจาหน่วยรากออกมาสองคน
ดันโซ : “พอดีว่าสายลับคนนั้นเป็นคนของฉันเพราะฉะนั้นภารกิจนี้ฉันจะส่งทั้งสองคนนี้ไปกับเธอด้วยในฐานะหน่วยย่อยของเธอเอาละแนะนำตัวสิพวกนาย”
หน่วยรากทั้งสองคนเมื่อได้ยินคำสั่งของดันโซก็ได้ทำการแนะนำตัวกับเรนยะทันที
ทาดาระ : “ผมชื่อว่า ทาดาระ ฝากตัวด้วยครับหัวหน้าเรนยะ”
ซึกาสะ : “ส่วนผมมีชื่อว่า ซึกาสะ ครับหัวหน้าเรนยะ”
เรนยะ : “อ่า ยินดีที่(ไม่)รู้จักงั้นก็กลับไปเตรียมตัวกันก่อนอีกครึ่งชั่วโมงค่อยไปเจอกับผมที่ประตูทางออกหมู่บ้าน”
นินจาหน่วยรากทั้งสองคนได้พยักหน้าเข้าใจก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะหายไปก่อนที่เรนยะจะบอกขอตัวกับทุกคนในห้อง
เรนยะ : “งั้นผมไปก่อนนะครับ”
หลังจากที่เรนยะบอกขอตัวแล้วเขาก็ได้เปิดประตูออกมาจากห้องทำงานโฮคาเงะก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาโหดๆก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆว่า
เรนยะ “หึ ไม่เลิกลาจริงๆแฮะตาแก่ดันโซนี่ . . เอาแบบนั้นก็ได้ฉันจะเล่นกับแกดูก็แล้วกัน”
ด้วยการที่ตาแห่งดวงจิตของเรนยะสามารถมองเห็นหัวใจคนได้อย่างทะลุปรุโปร่งทำให้เขาแค่มองดูก็สามารถรู้สิ่งที่ดันโซคิดจะทำได้ไม่ยาก
เมื่อรู้แผนของอีกฝ่ายแล้วแบบนี้ที่เหลือก็แค่ตอบโต้อีกฝ่ายกลับไปก็เท่านั้นพอคิดได้ดังนั้นแล้วเรนยะก็เลยกลับไปเตรียมตัวที่บ้านของเขาเพื่อรอให้ถึงเวลาที่เขาได้นัดกับคนของดันโซเอาไว้
----------- -------------
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เมื่อถึงเวลาที่นัดกันเอาไว้เรนยะก็ได้เดินมาที่หน้าประตูทางออกของหมู่บ้าน
ทันทีที่เรนยะมาถึงทาดาระกับซึกาสะก็ได้ปรากฎตัวออกมาทันที
เรนยะ “ถ้าพร้อมกันแล้วพวกเราก็ไปกันเถอะ”
ทาดาระ/ซึกาสะ : “ครับ !”
เมื่อเห็นว่าพร้อมกันแล้วเรนยะก็ได้สั่งออกเดินทางโดยมีนินจารากสองคนที่ตอนนี้เป็นลูกน้ององเขาตอบรับอย่างเชื่อฟัง
เรนยะได้เดินทางไปยังทิศตะวันออกที่เป็นทิศทางไปแคว้นมิซึโนะคุนิ(แคว้นน้ำ)
จนเมื่อเรนยะข้ามชายแดนประเทศไฟเข้าสู่ประเทศคลื่นแล้วนั้นก็ได้หันไปสั่งกับลูกหน่วยทั้งสองคนด้านหลังของเขาว่า
เรนยะ : “ต่อจากนี้พวกเราจะเดินทางต่อด้วยการเดินเท้าธรรมดาเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเพราะฉะนั้นถอดหน้ากากออกแล้วก็เปลี่ยนชุดด้วย”
ทาดาระ/ซึกาสะ : “ครับหัวหน้า”
ทั้งสองได้ถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าของพวกเขาและก็ได้ทำการเปลี่ยนชุดไปใส่ชุดชาวบ้านธรรมดาตามคำสั่งของเรนยะ
เรนยะ : (เจ้าสองคนนี้ใช้คาถาลวงตาซ่อนใบหน้าเอาไว้สินะแต่เสียใจด้วยที่มันซ่อนฉันไม่ได้หรอกนะ หึ หึ)
เรนยะได้มองสำรวจลูกน้องของเขาทั้งสองคนอย่างยิ้มๆก่อนที่เขาจะถอดผ้าคาดแขนตรานินจาโคโนฮะของตัวเองออกมาเก็บเอาไว้ในกระเป๋านินจาที่เอวของเขาก่อนที่จะสั่งให้ออกเดินทางต่อไป
เมื่อถึงตอนเที่ยงพวกเรนยะก็ได้เดินทางมาถึงตลาดท่าเรือแห่งหนึ่งในประเทศคลื่นโดยถ้าตามแผนที่แล้วถ้าเรนยะต้องการจะเดินทางไปแคว้นมิซึโนะคุนิเขาก็จำเป็นที่จะต้องนั่งเรือจากท่าเรือนี้ไปเท่านั้น
แต่เรนยะเขาก็กลับพบว่าไม่ว่าจะไปถามคนเดินเรือคนไหนก็ตามพอเขาบอกว่าจะไปแคว้นมิซึโนะคุนิพวกคนเดินเรือพวกนั้นก็จะบ่ายเบี่ยงไม่ขอไปส่งทุกทีด้วยข้ออ้างสารพัดอาทิเช่น น้ำมันหมดบ้างละ ไกลไปบ้างละ ส่งเรือบ้างละ
ซึ่งพอเรนยะเขาเจอแบบนี้เข้าไปก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่เหมือนกันก็ไม่รู้ว่าเรือพวกนั้นจะแขวนป้ายคำว่า ว่าง เอาไว้ทำไมถ้าไม่คิดจะไปส่งกันแบบนี้บอกตรงๆเสียความรู้สึกชะมัด
เรนยะ : (ไอ้เราก็อยากจะนั่งวิมารไปเหมือนกันแต่ขืนทำแบบนั้นได้ Stealth แตกกันพอดี)
แต่ในขณะที่เรนยะกำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อดีนั้นจู่ๆก็มีลุงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาก่อนที่จะทักกับเรนยะว่า
ลุง : “ว่าไงพ่อหนุ่มได้ข่าวว่าเธออยากจะเดินทางไปที่แคว้นมิซึโนะคุนิสินะ”
เรนยะที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยก่อนที่เขาจะตอบกลับคุณลุงไป
เรนยะ “ครับคุณลุงพอดีว่าผมจะไปเยี่ยมญาติที่นั่นน่ะครับแต่ว่าดันไม่มีใครยอมออกเรือพาพวกผมไปเลยเนี่ยสิ . . แย่ชะมัดเลย”
ลุง : “โฮะ โฮะ นี่เธอไม่รู้ข่าวหรอกรึ”
เรนยะ : “ข่าว ? ข่าวอะไรหรือครับคุณลุง”
เรนยะได้ถามกลับไปด้วยความสงสัย
ลุง : “ดูถ้าจะไม่รู้จริงๆสินะเอาเถอะฉันจะบอกให้ถึงฉันจะไม่รู้รายละเอียดมากนักแต่เท่าที่ฉันรู้ก็คือที่หมู่บ้านนินจาคิริงาคุเระจะเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นเลยทำให้แคว้นนั้นอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน”
เรนยะ : “มิน่าล่ะ ถึงได้ไม่มีใครกล้าไป”
ในที่สุดเรนยะก็เข้าใจเสียทีว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าเดินเรือไปที่แคว้นมิซึโนะคุนิ
ลุง : “ก็ตามนั้นละนะแต่ถึงจะไม่มีใครกล้าออกเรือไปที่นั่นก็ตามทีแต่ฉันยินดีรับงานนี้นะ . . ในราคาเหมาๆว่าไงละ”
เรนยะ : “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงครับเดี๋ยวผมไปเรียกเพื่อนของผมอีกสองคนก่อนนะคุณลุง”
ลุง : “ตกลงสินะถ้างั้นฉันจะไปเตรียมเรือก่อนเอาไว้ไปเจอกันที่ท่าเรือก็แล้วกันนะพ่อหนุ่ม”
หลังจากตกลงราคากันได้แล้วเรนยะก็ได้กลับไปที่จุดรวมตัวเพื่อไปบอกพวกลูกน้องทั้งสองของเขาว่าสามารถหาเรือได้แล้ว
พอทั้งสามคนได้เดินมาถึงท่าเรือแล้วนั้นพวกเขาก็ได้เห็นคุณลุงได้เตรียมเรือเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อพวกเรนยะขึ้นมาบนเรือแล้วก็พบว่านอกจากคุณลุงแล้วก็ยังมีชายหนุ่มอีกคนอยู่บนเรือนี้ด้วยเช่นกันและพอคุณลุงเห็นสายตาสงสัยของเรนยะลุงแกก็เลยแนะนำชายหนุ่มคนนี้ให้รู้จัก
ลุง : “จะแนะนำให้รู้จักนะเจ้าเด็กนี่ชื่อ โทริเดะ เป็นลูกมือและก็เป็นหลานชายของฉันเองละนะ”
ชายหนุ่มคนนั้นได้หันมามองหน้าคุณลุงด้วยสีหน้าไม่สู้ดีก่อนที่จะพูดว่า
โทริเดะ : “นี่ลุง . . แน่ใจเหรอว่าจะพาพวกนี้ไปส่งที่นั่นจริงๆน่ะ”
ลุง : “แกก็อย่าปอดแหกไปหน่อยเลยน่า ! เป็นลูกผู้ชายทั้งทีก็กล้าๆหน่อยสิ . . ปัดโธ่ !”
ลุงได้พูดตอบกลับหลานชายไปอย่างฉุนเฉียว
โทริเดะ : “เข้าใจแล้วน่าลุงไม่เห็นต้องฉุนเฉียวหงุดหงิดแบบนั้นเลยก็ได้นี่นา”
ลุง : “ใครหงุดหงิด ห๊ะ ! เสียงของฉันมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วและก็อีกอย่างนะถ้างานนี้ฉันไม่ทำแล้วใครจะทำ ! คิดว่าอยากทำนักหรือไง ! อยากทำนักหรือไง ! ห๊ะ ! มาทำเองไหม !นี่เหนื่อยนะ ! ปัดโธ่ !!!”
เรนยะ : (ฉุนเฉียวหงุดหงิดสุดๆเลยนี่หว่าลุง . . .)
เรนยะทำได้เพียงมองลุงฉุนเฉียวอยู่ห่างๆเท่านั้นทำอะไรลุงแกไม่ได้เพราะลุงแกกำลังเถียงกับหลานชายแกอยู่
จนสองลุงหลานทะเลาะกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาออกเรือเสียทีโดยการเดินทางด้วยเรือนี้นั้นเป็นไปอย่างราบรื่นบอกตรงๆว่าเรือลำนี้มันน่าเกรงขามสุดๆจนขนาดพวกโจรสลัดก็ยังไม่กล้ายุ่งกับเรือลำนี้เลยสักกลุ่มไม่รู้ว่าพวกโจรสลัดมันกลัวเรือหรือว่ากลัวลุงแกกันแน่
เรนยะที่นั่งอยู่บนเรือเบื่อๆก็เลยออกจากห้องพักในเรือไปคุยกับลุงแกเพราะเวลาเรนยะคุยกับเจ้าสองหน่อทาดาระกับซึกาสะแล้วเจ้าสองคนนี้มันก็เอาแต่ตอบกลับมาว่า ครับ , นั่นสินะ , ดีครับหัวหน้า , ใช่ครับผม พูดอยู่แค่นี้ไม่รู้จะพูดน้อยไปไหน
เรนยะก็เลยออกมาคุยกับลุงแก้เบื่อแทนส่วนหลานชายแกนั้นเรนยะเห็นว่ากำลังยุ่งๆก็เลยไม่ขอรบกวน
เรนยะ : “นี่ลุงทำไหมพวกโจรสลัดถึงได้ไม่กล้าเข้ามาใกล้เรือลำนี้ละครับ”
ลุง : “เพราะพวกมันถูกฉันใช้ไอ้นี่ทุมใส่ยังไงละพวกมันก็เลยกลัวและไม่กล้ามาหาเรื่องกับฉัน”
----------- -------------
เรนยะ : “นี่อเล็กคุงถึงนายอยากจะยึดหมู่บ้านโคโนฮะก็เถอะนะแต่มีแค่นายคนเดียวเนี่ยมันจะไหวเหรอ”
อเล็ก : “นั่นสินะ Master ถ้าอย่างนั้นผมจะออกไปทำการเกณฑ์คนในหมู่บ้านนี้มาเป็นทหารของผมจะได้หมดปัญหา”
เรนยะถึงกับปวดหัวกับความคิดของราชาวัยทีนคนนี้สุดๆคิดได้ยังไงก็ไม่รู้ไปชวนคนในหมู่บ้านโคโนฮะบุกยึดหมู่บ้านของตัวเองเนี่ยนะ
เรนยะ : “นี่อเล็กคุงนายเชื่อฟัง Master ของนายไหม”
อเล็ก : “แน่นอน Master ขอแค่คุณสั่งพวกเราทั้งคู่จะร่วมมือกันเพื่อพิชิตโลกใบนี้กัน”
เรนยะ : “ที่หมู่บ้านนี้น่ะเป็นผู้มีพระคุณสำหรับฉันเพราะตั้งแต่พ่อแม่(ในโลกนี้)ของฉันเสียไปหมู่บ้านนี้ก็คอยดูแลฉันมาตลอดถ้านายเป็นราชาก็ต้องรู้บุญคุณคนอื่นเขานะใช่ไหมอเล็กคุง”
อเล็ก : “อืมๆ ผมเข้าใจแล้วละ Master เอเมเนส(เสนาธิการของอเล็กซานเดอร์)ก็เคยบอกแบบนั้นกับผมอยู่เหมือนกันละนะว่าราชาน่ะต้องรู้จักบุญคุณในเมื่อหมู่บ้านโคโนฮะแห่งนี้เคยช่วยเหลือ Master . . ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่ยึดหมู่บ้านนี้ก็ได้”
เรนยะได้พยักหน้าอย่างยินดีที่ในที่สุดเจ้าราชาคนนี้ก็ยอมเลิกลาเรื่องการยึดครองหมู่บ้านโคโนฮะแต่เขากลับต้องตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินประโยคถัดไปของอเล็กซานเดอร์
อเล็ก “งั้นก็ขอเจรจาเป็นพันธมิตรกับโคโนฮะและก็ทำการขอยืมกำลังคนเพื่อไปบุกยึดหมู่บ้านซึนะงาคุเระแทนก็แล้วกัน”
เรนยะได้แต่คิดในใจว่า
เรนยะ : (เจ้าหมอนี่ถึงภายนอกจะดูร่าเริงแต่ก็เป็นพวกหัวรุนแรงน่าดูเลยแฮะเอะอะก็จะบุกยึดอย่างเดียวเลย . . ตูละเพลีย)
เรนยะได้ลงความเห็นเลยว่าเจ้าโชตะหัวแดงคนนี้มันตัวอันตรายชัดๆ
อเล็ก : “Master ว่าแบบนี้ใช้ได้ไหม”
อเล็กซานเดอร์ได้ยิ้มถามความเห็นกับ Master อย่างเรนยะซึ่งเรนยะก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม
เรนยะ : “ก็ . . นะ . . . แต่อเล็กคุงทุกหมู่บ้านนินจาน่ะพวกเขาได้มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพกันอยู่นะเพราะแบบนั้นถ้าเกิดว่านายทำการเปิดสงครามขึ้นมาจริงๆละก็ทุกหมู่บ้านก็จะร่วมมือกันเพื่อโจมตีนายและนั่นก็จะทำให้นายต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนต่อให้นายแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตามแต่น้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟอยู่ดีนะอย่าลืมสิ”
อเล็ก : “งั้น Master ว่าผมควรจะทำยังไงดีละ”
เรนยะ : “ง่ายมากก็แค่รอให้มีการฉีกสนธิสัญญาและเปิดสงครามระหว่างหมู่บ้านก่อนยังไงละในบรรดา5หมู่บ้านนินจาน่ะไม่ค่อยจะกินเส้นกันอยู่แล้วละนะถ้าเกิดมีการโจมตีกันเกิดขึ้นละก็ได้ปะทุสงครามโลกนินจาอย่างแน่นอนและเมื่อถึงเวลานั้นนายก็จะได้บุกยึดหมู่บ้านพวกนั้นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะร่วมมือกันอีกไงละ”
อเล็ก : “ผมเข้าใจแล้วที่ต้องทำก็แค่รองั้นสินะขอบคุณมากนะ Master ที่แนะนำผม”
หลังจากที่เรนยะหลอกอเล็กซานเดอร์สำเร็จเขาก็ได้ออกจากบ้านไปเพื่อตระเวนค้นหาสถานที่ที่มีพลังงานธรรมชาติเพื่อทำการดูดซับตามที่เขาวางแผนเอาไว้เมื่อวาน
ซึ่งเรนยะก็ได้มองไปที่โรงพยาบาลโคโนฮะที่เหล่าเด็กๆยังคงวิ่งเล่นกันอยู่เหมือนเดิมถึงจะมีบางคนที่ได้กลับบ้านไปบ้างแล้วก็ตาม
เรนยะ : (เท่านี้ดันโซก็คงไม่กล้าเคลื่อนไหวภายในปีสองปีนี้แล้วละนะ)
ก็อย่างที่เรนยะคิดเอาไว้ดันโซที่โดนเล่นงานไปขนาดนั้นมันคงจะไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกแล้วเพราะการที่พวกเด็กๆที่หายตัวไปถูกหาตัวเจอในหมู่บ้านโคโนฮะแบบนี้ทำให้ในการประชุมระดับสูงของหมู่บ้านดันโซมันทำได้แค่ปิดปากเก็บเรื่องของผู้บุกรุกที่โจมตีตัวมันเอาไว้เป็นความลับเท่านั้นเพราะถ้าบอกเรื่องนี้ออกไปมันอาจจะโดนสงสัยเอาก็เป็นได้
ถ้าดันโซมันจะลงมือลักพาตัวเด็กอีกครั้งจริงๆมันจะต้องไม่พลาดแบบนี้อีกเพราะถ้ามันถูกขัดขวางอีกรอบและเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกละก็พวกระดับสูงของหมู่บ้านก็จะเริ่มสงสัยและไม่เป็นผลดีต่อตัวของดันโซอย่างแน่นอนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอมิยะที่ดันโซคอยระวังตัวอยู่อีก
เรนยะ : (เอาเถอะไอ้เราก็ช่วยได้เต็มที่ได้แค่นี้ละนะเดี๋ยวที่เหลือก็ให้ซึนาเดะรับช่วงต่อจัดการเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน)
แต่ในขณะที่เรนยะเขากำลังเดินสำรวจหมู่บ้านเพื่อหาสถานที่ที่มีพลังงานธรรมชาติอยู่นั้นจู่ๆก็มีนินจาอันบุคนหนึ่งมาบอกให้เรนยะไปที่ห้องของโฮคาเงะเพราะว่าซึนาเดะเรียกตัวของเขา
เรนยะ : “ช่วยไม่ได้แฮะเอาไว้ค่อยหาทีหลังก็แล้วกัน”
เรนยะได้บ่นออกมาอย่างเซ็งๆที่กำหนดการหาพลังงานธรรมชาติต้องเลื่อนออกไปอย่างน่าเสียดายก่อนที่เขาจะเดินไปที่สำนักงานโฮคาเงะเพื่อไปหาซึนาเดะตามคำสั่ง
โดยเมื่อเรนยะได้มาถึงห้องทำงานของโฮคาเงะแล้วนั้นเขาก็ได้เปิดประตูเข้าไปแต่เรนยะก็ต้องแปลกใจเพราะว่าภายในห้องนั้นนอกจากซึนาเดะและก็ปู่รุ่น3แล้วยังมีคนที่เขาคาดไม่ถึงอยู่อีกคนซึ่งก็คือดันโซนั่นเอง
ซึนาเดะ : “มาแล้วสินะ . . เอาละมาเข้าเรื่องกันเถอะมีภารกิจสำคัญที่ต้องให้เธอทำ ส่วนรายละเอียดของภารกิจนั้นดันโซจะเป็นคนอธิบายเอง”
หลังพูดเสร็จซึนาเดะก็ได้หันไปพยักหน้าให้กับดันโซก่อนที่ดันโซจะอธิบายภารกิจให้กับเรนยะฟัง
ดันโซ : “เมื่อวันก่อนจู่ๆสายลับของหมู่บ้านเราที่แฝงตัวอยู่ภายในแคว้นมิซึโนะคุนิ(แคว้นน้ำ)ก็ได้ขาดการติดต่อไปพวกเราเลยอยากให้เธอไปตรวจสอบเรื่องนี้และกลับมารายงานพวกเรา”
ปู่รุ่นที่ 3 : “ช่วงนี้ข้าได้ยินข่าวจากพวกพ่อค้าทางทะเลมาว่าภายในแคว้นมิซึโนะคุนิมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นซะด้วยภารกิจนี้น่าจะไม่ง่ายและก็ใช้เวลานานคิดว่าเจ้าไหวไหมเรนยะ”
พอดันโซอธิบายเสร็จปู่รุ่น3ก็ได้ถามความพร้อมของเรนยะทันทีเพราะภารกิจนี้มีความเสี่ยงมากพอดู
แต่เรนยะเขากลับยังไม่ตอบพร้อมกับจ้องมองดันโซสักพักก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยและพยักหน้าตอบรับภารกิจนี้ไป
เรนยะ : “ไม่ต้องห่วงครับผมจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จเองวางใจผมได้เลย”
ซึนาเดะที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกวางใจก่อนที่เธอจะทำการมอบม้วนภารกิจให้กับเรนยะเพื่อเป็นการอนุญาตให้ออกจากหมู่บ้านไปทำภารกิจได้
ซึนาเดะ : “นี่ถือว่าเป็นภารกิจสืบข่าวระดับ A ระวังตัวด้วยละและก็ . . .”
ซึนาเดะได้ทำท่าทางลำบากใจออกมาก่อนที่เธอจะมองที่ดันโซอีกทีก่อนที่ดันโซจะทำการเรียกนินจาหน่วยรากออกมาสองคน
ดันโซ : “พอดีว่าสายลับคนนั้นเป็นคนของฉันเพราะฉะนั้นภารกิจนี้ฉันจะส่งทั้งสองคนนี้ไปกับเธอด้วยในฐานะหน่วยย่อยของเธอเอาละแนะนำตัวสิพวกนาย”
หน่วยรากทั้งสองคนเมื่อได้ยินคำสั่งของดันโซก็ได้ทำการแนะนำตัวกับเรนยะทันที
ทาดาระ : “ผมชื่อว่า ทาดาระ ฝากตัวด้วยครับหัวหน้าเรนยะ”
ซึกาสะ : “ส่วนผมมีชื่อว่า ซึกาสะ ครับหัวหน้าเรนยะ”
เรนยะ : “อ่า ยินดีที่(ไม่)รู้จักงั้นก็กลับไปเตรียมตัวกันก่อนอีกครึ่งชั่วโมงค่อยไปเจอกับผมที่ประตูทางออกหมู่บ้าน”
นินจาหน่วยรากทั้งสองคนได้พยักหน้าเข้าใจก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะหายไปก่อนที่เรนยะจะบอกขอตัวกับทุกคนในห้อง
เรนยะ : “งั้นผมไปก่อนนะครับ”
หลังจากที่เรนยะบอกขอตัวแล้วเขาก็ได้เปิดประตูออกมาจากห้องทำงานโฮคาเงะก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาโหดๆก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆว่า
เรนยะ “หึ ไม่เลิกลาจริงๆแฮะตาแก่ดันโซนี่ . . เอาแบบนั้นก็ได้ฉันจะเล่นกับแกดูก็แล้วกัน”
ด้วยการที่ตาแห่งดวงจิตของเรนยะสามารถมองเห็นหัวใจคนได้อย่างทะลุปรุโปร่งทำให้เขาแค่มองดูก็สามารถรู้สิ่งที่ดันโซคิดจะทำได้ไม่ยาก
เมื่อรู้แผนของอีกฝ่ายแล้วแบบนี้ที่เหลือก็แค่ตอบโต้อีกฝ่ายกลับไปก็เท่านั้นพอคิดได้ดังนั้นแล้วเรนยะก็เลยกลับไปเตรียมตัวที่บ้านของเขาเพื่อรอให้ถึงเวลาที่เขาได้นัดกับคนของดันโซเอาไว้
----------- -------------
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เมื่อถึงเวลาที่นัดกันเอาไว้เรนยะก็ได้เดินมาที่หน้าประตูทางออกของหมู่บ้าน
ทันทีที่เรนยะมาถึงทาดาระกับซึกาสะก็ได้ปรากฎตัวออกมาทันที
เรนยะ “ถ้าพร้อมกันแล้วพวกเราก็ไปกันเถอะ”
ทาดาระ/ซึกาสะ : “ครับ !”
เมื่อเห็นว่าพร้อมกันแล้วเรนยะก็ได้สั่งออกเดินทางโดยมีนินจารากสองคนที่ตอนนี้เป็นลูกน้ององเขาตอบรับอย่างเชื่อฟัง
เรนยะได้เดินทางไปยังทิศตะวันออกที่เป็นทิศทางไปแคว้นมิซึโนะคุนิ(แคว้นน้ำ)
จนเมื่อเรนยะข้ามชายแดนประเทศไฟเข้าสู่ประเทศคลื่นแล้วนั้นก็ได้หันไปสั่งกับลูกหน่วยทั้งสองคนด้านหลังของเขาว่า
เรนยะ : “ต่อจากนี้พวกเราจะเดินทางต่อด้วยการเดินเท้าธรรมดาเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเพราะฉะนั้นถอดหน้ากากออกแล้วก็เปลี่ยนชุดด้วย”
ทาดาระ/ซึกาสะ : “ครับหัวหน้า”
ทั้งสองได้ถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าของพวกเขาและก็ได้ทำการเปลี่ยนชุดไปใส่ชุดชาวบ้านธรรมดาตามคำสั่งของเรนยะ
เรนยะ : (เจ้าสองคนนี้ใช้คาถาลวงตาซ่อนใบหน้าเอาไว้สินะแต่เสียใจด้วยที่มันซ่อนฉันไม่ได้หรอกนะ หึ หึ)
เรนยะได้มองสำรวจลูกน้องของเขาทั้งสองคนอย่างยิ้มๆก่อนที่เขาจะถอดผ้าคาดแขนตรานินจาโคโนฮะของตัวเองออกมาเก็บเอาไว้ในกระเป๋านินจาที่เอวของเขาก่อนที่จะสั่งให้ออกเดินทางต่อไป
เมื่อถึงตอนเที่ยงพวกเรนยะก็ได้เดินทางมาถึงตลาดท่าเรือแห่งหนึ่งในประเทศคลื่นโดยถ้าตามแผนที่แล้วถ้าเรนยะต้องการจะเดินทางไปแคว้นมิซึโนะคุนิเขาก็จำเป็นที่จะต้องนั่งเรือจากท่าเรือนี้ไปเท่านั้น
แต่เรนยะเขาก็กลับพบว่าไม่ว่าจะไปถามคนเดินเรือคนไหนก็ตามพอเขาบอกว่าจะไปแคว้นมิซึโนะคุนิพวกคนเดินเรือพวกนั้นก็จะบ่ายเบี่ยงไม่ขอไปส่งทุกทีด้วยข้ออ้างสารพัดอาทิเช่น น้ำมันหมดบ้างละ ไกลไปบ้างละ ส่งเรือบ้างละ
ซึ่งพอเรนยะเขาเจอแบบนี้เข้าไปก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่เหมือนกันก็ไม่รู้ว่าเรือพวกนั้นจะแขวนป้ายคำว่า ว่าง เอาไว้ทำไมถ้าไม่คิดจะไปส่งกันแบบนี้บอกตรงๆเสียความรู้สึกชะมัด
เรนยะ : (ไอ้เราก็อยากจะนั่งวิมารไปเหมือนกันแต่ขืนทำแบบนั้นได้ Stealth แตกกันพอดี)
แต่ในขณะที่เรนยะกำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อดีนั้นจู่ๆก็มีลุงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาก่อนที่จะทักกับเรนยะว่า
ลุง : “ว่าไงพ่อหนุ่มได้ข่าวว่าเธออยากจะเดินทางไปที่แคว้นมิซึโนะคุนิสินะ”
เรนยะที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยก่อนที่เขาจะตอบกลับคุณลุงไป
เรนยะ “ครับคุณลุงพอดีว่าผมจะไปเยี่ยมญาติที่นั่นน่ะครับแต่ว่าดันไม่มีใครยอมออกเรือพาพวกผมไปเลยเนี่ยสิ . . แย่ชะมัดเลย”
ลุง : “โฮะ โฮะ นี่เธอไม่รู้ข่าวหรอกรึ”
เรนยะ : “ข่าว ? ข่าวอะไรหรือครับคุณลุง”
เรนยะได้ถามกลับไปด้วยความสงสัย
ลุง : “ดูถ้าจะไม่รู้จริงๆสินะเอาเถอะฉันจะบอกให้ถึงฉันจะไม่รู้รายละเอียดมากนักแต่เท่าที่ฉันรู้ก็คือที่หมู่บ้านนินจาคิริงาคุเระจะเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นเลยทำให้แคว้นนั้นอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน”
เรนยะ : “มิน่าล่ะ ถึงได้ไม่มีใครกล้าไป”
ในที่สุดเรนยะก็เข้าใจเสียทีว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าเดินเรือไปที่แคว้นมิซึโนะคุนิ
ลุง : “ก็ตามนั้นละนะแต่ถึงจะไม่มีใครกล้าออกเรือไปที่นั่นก็ตามทีแต่ฉันยินดีรับงานนี้นะ . . ในราคาเหมาๆว่าไงละ”
เรนยะ : “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงครับเดี๋ยวผมไปเรียกเพื่อนของผมอีกสองคนก่อนนะคุณลุง”
ลุง : “ตกลงสินะถ้างั้นฉันจะไปเตรียมเรือก่อนเอาไว้ไปเจอกันที่ท่าเรือก็แล้วกันนะพ่อหนุ่ม”
หลังจากตกลงราคากันได้แล้วเรนยะก็ได้กลับไปที่จุดรวมตัวเพื่อไปบอกพวกลูกน้องทั้งสองของเขาว่าสามารถหาเรือได้แล้ว
พอทั้งสามคนได้เดินมาถึงท่าเรือแล้วนั้นพวกเขาก็ได้เห็นคุณลุงได้เตรียมเรือเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
(เรือที่เห็น)
เมื่อพวกเรนยะขึ้นมาบนเรือแล้วก็พบว่านอกจากคุณลุงแล้วก็ยังมีชายหนุ่มอีกคนอยู่บนเรือนี้ด้วยเช่นกันและพอคุณลุงเห็นสายตาสงสัยของเรนยะลุงแกก็เลยแนะนำชายหนุ่มคนนี้ให้รู้จัก
ลุง : “จะแนะนำให้รู้จักนะเจ้าเด็กนี่ชื่อ โทริเดะ เป็นลูกมือและก็เป็นหลานชายของฉันเองละนะ”
ชายหนุ่มคนนั้นได้หันมามองหน้าคุณลุงด้วยสีหน้าไม่สู้ดีก่อนที่จะพูดว่า
โทริเดะ : “นี่ลุง . . แน่ใจเหรอว่าจะพาพวกนี้ไปส่งที่นั่นจริงๆน่ะ”
ลุง : “แกก็อย่าปอดแหกไปหน่อยเลยน่า ! เป็นลูกผู้ชายทั้งทีก็กล้าๆหน่อยสิ . . ปัดโธ่ !”
ลุงได้พูดตอบกลับหลานชายไปอย่างฉุนเฉียว
โทริเดะ : “เข้าใจแล้วน่าลุงไม่เห็นต้องฉุนเฉียวหงุดหงิดแบบนั้นเลยก็ได้นี่นา”
ลุง : “ใครหงุดหงิด ห๊ะ ! เสียงของฉันมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วและก็อีกอย่างนะถ้างานนี้ฉันไม่ทำแล้วใครจะทำ ! คิดว่าอยากทำนักหรือไง ! อยากทำนักหรือไง ! ห๊ะ ! มาทำเองไหม !นี่เหนื่อยนะ ! ปัดโธ่ !!!”
เรนยะ : (ฉุนเฉียวหงุดหงิดสุดๆเลยนี่หว่าลุง . . .)
เรนยะทำได้เพียงมองลุงฉุนเฉียวอยู่ห่างๆเท่านั้นทำอะไรลุงแกไม่ได้เพราะลุงแกกำลังเถียงกับหลานชายแกอยู่
จนสองลุงหลานทะเลาะกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาออกเรือเสียทีโดยการเดินทางด้วยเรือนี้นั้นเป็นไปอย่างราบรื่นบอกตรงๆว่าเรือลำนี้มันน่าเกรงขามสุดๆจนขนาดพวกโจรสลัดก็ยังไม่กล้ายุ่งกับเรือลำนี้เลยสักกลุ่มไม่รู้ว่าพวกโจรสลัดมันกลัวเรือหรือว่ากลัวลุงแกกันแน่
เรนยะที่นั่งอยู่บนเรือเบื่อๆก็เลยออกจากห้องพักในเรือไปคุยกับลุงแกเพราะเวลาเรนยะคุยกับเจ้าสองหน่อทาดาระกับซึกาสะแล้วเจ้าสองคนนี้มันก็เอาแต่ตอบกลับมาว่า ครับ , นั่นสินะ , ดีครับหัวหน้า , ใช่ครับผม พูดอยู่แค่นี้ไม่รู้จะพูดน้อยไปไหน
เรนยะก็เลยออกมาคุยกับลุงแก้เบื่อแทนส่วนหลานชายแกนั้นเรนยะเห็นว่ากำลังยุ่งๆก็เลยไม่ขอรบกวน
เรนยะ : “นี่ลุงทำไหมพวกโจรสลัดถึงได้ไม่กล้าเข้ามาใกล้เรือลำนี้ละครับ”
ลุง : “เพราะพวกมันถูกฉันใช้ไอ้นี่ทุมใส่ยังไงละพวกมันก็เลยกลัวและไม่กล้ามาหาเรื่องกับฉัน”
(ไอ้นี่ ที่ว่า)
ลุงแกชี้ให้เห็นสิ่งที่เขาใช้ทุ่มใส่พวกโจรสลัดก่อนจะคุยต่ออีกด้วยว่า
ลุง : “แถมฉันยังลากพวกมันมาปรับทัศนคติเรียงตัวตามกฎข้อที่ 44 ของท่าเรือแห่งนี้อีกด้วย”
เรนยะที่ฟังลุงแกโม้ก็เริ่มรู้สึกกลัวๆโดยไม่ทราบสาเหตุแต่เขาก็ยังคงฟังลุงแกโม้ต่อไปพร้อมกับคิดในใจว่า
เรนยะ : (เมื่อไหร่จะถึงฟ่ะเนี่ยนานชะมัดแถมเรื่องที่ลุงแกพูดมันก็ดูอันตรายยังไงก็ไม่รู้)
ลุงแกชี้ให้เห็นสิ่งที่เขาใช้ทุ่มใส่พวกโจรสลัดก่อนจะคุยต่ออีกด้วยว่า
ลุง : “แถมฉันยังลากพวกมันมาปรับทัศนคติเรียงตัวตามกฎข้อที่ 44 ของท่าเรือแห่งนี้อีกด้วย”
เรนยะที่ฟังลุงแกโม้ก็เริ่มรู้สึกกลัวๆโดยไม่ทราบสาเหตุแต่เขาก็ยังคงฟังลุงแกโม้ต่อไปพร้อมกับคิดในใจว่า
เรนยะ : (เมื่อไหร่จะถึงฟ่ะเนี่ยนานชะมัดแถมเรื่องที่ลุงแกพูดมันก็ดูอันตรายยังไงก็ไม่รู้)
----------- -------------
(ชิโร่อย่าเลียสิ 555 . . . ชื่อนี้ช่างปวดใจเหลือเกิน)
แว่นตาไรท์แตกซะได้พิมพ์ไม่ถนัดเซ็งจริงๆ
True Wallet 0830743639
ค่าน้ำชา ขอบคุณผู้ติดตามด้วยครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น