ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 22

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.95K
      1.34K
      1 ส.ค. 62

    หลังจากที่เรนยะชนะการประลองแล้วทำให้เขาได้รับตั๋วมาจากระบบถึง3ใบแต่เรนยะได้ปล่อยเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้เขาต้องไปหาริวที่ห้องเพื่อรับของรางวัลตามที่ตกลงกันเอาไว้

    ริว : “เอาละนี่เป็นข้อมูลและคาถานินจาที่เธอต้องการตามที่ตกลงกันเอาไว้ตอนแรก”

    ริวได้ส่งมอบม้วนคำภีร์ที่ผนึกพวกของที่เรนยะได้ขอเอาไว้ในตอนแรกซึ่งเรนยะก็รับมาก่อนจะนำข้อมูลของชินเรนออกมาเปิดอ่านตรงนั้นเลย

    !!!

    เรนยะ : “เป็นพวกตระกูลชั้นสูงของหมู่บ้านทากิสินะครับ”

    ริว : “ใช่ในสมัยสงครามโลกนินจาครั้งที่2ตระกูลยาโตะนับเป็นตระกูลที่เก่าแก่พอสมควรพวกเขามีความสามารถในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของจักระที่แข็งแกร่งมากทำให้พวกเขาสร้างเกราะจักระที่มีชั้นบางๆจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าครอบคลุมทั่วทั้งร่างกายเพื่อป้องกันการโจมตีรูปแบบต่างๆได้ขีดจำกัดสายเลือดนี้เรียกว่าเกราะดำและด้วยการแต่งงานทางการเมืองของตระกูลยาโตะทำให้ตระกูลของพวกเขาให้กำเนิดสายเลือดคัดสรรขึ้นมาก็คือ ยาโตะ ชินเรน ที่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไปโดยเกราะของเขามีสีขาวที่แตกต่างจากเกราะสีดำที่เป็นสายเลือดดั้งเดิมและยังแข็งแกร่งมากกว่าเกราะปกติอีกด้วย”

    เรนยะ : “แถมเกราะของพวกเขาที่นอกจากจะป้องกันคาถานินจาได้เกือบทุกประเภทแล้วยังใช้เกราะนั่นเพื่อการโจมตีศัตรูได้อีกด้วย”

    ริว : “ถูกต้องและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้คาถาเฉพาะตัวของ ยาโตะ ชินเรน ที่ใช้การผสานคุณสมบัติทั้งสามธาตุเลยว่ามันเป็นคาถาแบบไหนเพราะหมู่บ้านนินจาของทากิโนะคุนินั้นค่อนข้างที่จะลึกลับทำให้ทางเราหาข้อมูลค่อนข้างจะยาก”

    เรนยะ : “เข้าใจแล้วขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณริว”

    ริว : “ฉันสิที่ต้องขอบคุณเธอ อาคุสะ เรนยะ นินจาแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ”

    !!!

    เรนยะ : “แหม ~ ความแตกซะได้สมกับเป็นเจ้าพ่อใต้ดินจริงๆ”

    ริว : “หึ หึ หึ เอาเถอะใช้ชื่อปลอมมันก็เป็นเรื่องปกติในที่แห่งนี้อยู่แล้วละนะฉันจะเรียกเธอว่าโอคามิเหมือนเดิมก็แล้วกันขอให้เธอโชคดีในการสอบจูนินละฉันอาจจะไปดูด้วยในวันแข่ง”

    เรนยะ : “ยินดีครับ”

    ริว : “เช่นกันยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน โอคามิ”

    ทั้งสองได้จับมือรำลาแต่ก่อนที่จะออกจากห้องเรนยะก็ได้รับคำเตือนมาจากริว

    ริว : “อีกอย่างนะโอคามิ เธอระวังเจ้า อิบาชิเอาไว้หน่อยก็ดีนะเพราะเจ้าหมอนั่นมันมีข่าวลือว่าเวลาเจรจากับคู่ค้าและไม่ถูกใจกับเงื่อนไขที่ตัวมันได้รับมันจะชอบส่งนินจาที่มันจ้างเอาไว้ไปตามเก็บทีหลังตลอด”

    เรนยะ : “เจ้าหมูตอนนั่นน่ะเหรอ . . ขอบคุณสำหรับคำเตือนผมไปก่อนนะ”

    ริว : “โชคดี”

    เรนยะได้เดินออกมาจากกลุ่มใต้ดินและเดินทางออกจากเมืองซากะทันทีโดยที่ไม่ได้ใช้ลบตัวตนในระหว่างการเดินทางและเมื่อตัวของเขาได้เดินทางกลับโคโนฮะมาครึ่งทางแล้วนั้นจู่ๆเหล่า Servant ของเรนยะก็ได้เตือนเขาว่ามีคนกำลังตามเขามาจำนวน6คน

    หนูเงียบ : “Master มีคนตามท่านมาค่ะ”

    แขนต้องสาป : “ขอคำสั่งด้วยครับ Master”

    ไรโค : “ลูกอยากให้แม่คนนี้จัดการให้เสร็จๆไปเลยไหมจ้ะ”

    เรนยะที่เห็นว่าเหล่า Servant ของเขากำลังคันไม้คันมืออยากจะสู้ซะเหลือเกินเรนยะก็เลยได้ออกคำสั่ง

    เรนยะ : “ในเมื่อพวกมันอยากจะเล่นกับพวกเรางั้นก็มาเล่นกับพวกมันกันเถอะ”

    ----------- -------------

    ผ่านไปไม่นานในจุดที่เรนยะเคยอยู่ก็ได้มีนินจาใส่ชุดดำปกปิดใบหน้าจำนวน6คนกำลังมองสำรวจรอบๆและตรวจร่องรอยที่พื้นดิน 

    นินจา 1 : “ร่องรอยมันหายไปตรงนี้”

    นินจา 2 : “มันคงจะเริ่มรู้ตัวแล้วละ”

    นินจา 3 : “มันคงไปได้ไม่ไกล”

    นินจา 4 : “งั้นแยกกันค้นหาเถอะ”

    ทั้ง6คนได้ตัดสินใจแยกย้ายกันค้นหาตัวของเด็กผมทอง

    เมื่อหาบริเวณนี้จนทั่วแล้วก็หาไม่เจอทั้ง6คนจึงได้กลับมาเจอกันที่เดิม

    นินจา 1 : “หามันเจอไหม ?”

    นินจา 2 : “ทางฉันไม่เจอแล้วนายละ”

    นินจา 3 : “เหมือนกัน”

    นินจา 4 : “เดี๋ยวนะแล้วอีก2คนอยู่ไหน”

    ระหว่างที่กำลังสุมหัวกันนั้นจู่ๆทั้ง4คนที่เหลือก็ได้ยินเสียงร้องของพรรคพวกของพวกเขา

    อ้ากกกกกก !!!!!!

    !!!

    นินจา 1 : “ทางนั้นไปเร็ว !!!”

    พวกเขาทั้งหมดอีก4คนได้มุ่งหน้าไปตามทิศทางของเสียงร้องก็พบว่าพวกของเขาคนหนึ่งกำลังนอนแน่นิ่งมีเลือดไหลออกจากคอและคนที่2ถูกเชือกผูกขาห้อยกลับหัวที่ไร้ซึ่งการตอบสนอง

    ทั้ง4คนได้รีบเข้ามาตรวจดูก็พบว่าคนแรกถูกเชือดคอซึ่งคาดว่าหน้าจะโดนลอบสังหารส่วนอีกคนที่ห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ที่พวกเขาเอาลงมานั้นไม่มีบาดแผลภายนอกเลยแต่เขากลับไม่หายใจอีกต่อไปแล้ว

    นินจา 2 : “หมายความว่ายังไงกันสาเหตุการตายของหมอนี่แปลกประหลาดชะมัด”

    นินจา 1 : “ไม่หรอกลองดูนี่”

    นินจา1ได้นำมีดคุไนออกมาและลองเฉือนเนื้อของคนที่ถูกจับห้อยหัวบนต้นไม้ที่ไม่มีบาดแผลภายนอกและพอมีดบาดศพจนเลือดไหลออกมาแล้วนั้นพวกเขาทั้ง4คนก็รู้สึกตกใจมาก

    !!!

    เลือดที่ไหลออกมาจากศพถึงกับละลายพื้นดินเป็นหลุมลึกไม่ต่างจากกรดส่วนคุไนที่ใช้พิสูจน์ก็ถึงกับละลายจนเหลือแต่ด้ามจับเลยทีเดียว

    นินจา 4 : “อึก ! นี่มันพิษงั้นเรอะ”

    นินจา 1 : “เป็นพิษที่ร้ายกาจมากถึงขนาดทำให้เลือดในร่างกายกลายสภาพได้แบบนี้”

    นินจา 3 : “ถ้าให้คาดเดาเจ้านั้นคงจะใช้พิษฆ่าพวกเราคนแรกและก็เอาศพไปแขวนห้อยหัวเอาไว้บนต้นไม้และดักรอคนที่จะมาพบศพและจัดการลอบสังหารโดยทำการเฉือดคอที่เส้นเลือดใหญ่ซึ่งเป็นจุดตายเจ้าเด็กนี่ฉลาดเอาเรื่องเลยละ

    นินจา 2 : “เดี๋ยวนะ !!! คาถาตรวจจับของฉันตรวจเจอคนๆหนึ่งข้างหน้านี่ไม่ไกลนัก”

    นินจา 3 : “ที่ข้างหน้านั้นสินะไปกันเถอะพวกเราจะกลับไปมือเปล่าไม่ได้”

    ทั้ง4คนได้มุ่งหน้าไปยังจุดที่คาถาตรวจจับจับสัมผัสได้และเมื่อมาถึงทั้ง4คนก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งได้รออยู่แล้วโดยที่ด้านหลังของเธอมีเป้าหมายของพวกเขาที่กำลังยิ้มทำหน้าระรื่นอยู่

    เรนยะ : “ยินดีต้อนรับชอบของขวัญของผมไหม ฮิ ฮิ”

    ทั้ง4คนที่เห็นเป้าหมายของพวกเขาแล้วนั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ทันที

    เรนยะ : “เอาเลยครับไรโคผมอนุญาตให้ใช้โฮกุได้เลยครับ”

    ไรโค : “ตามที่ Master บัญชา ไรโคผู้นี้จักกลายเป็นยักษา !!!จงออกมาซะสี่จตุรเทพ ไม่สิ เหล่าผู้ส่งสารแห่งราชันย์สวรรค์โกซุ จงรับรูปลักษณ์และความทรงจำแห่งข้าไปเสีย . . . ”

    จู่ๆนินจาทั้ง4คนก็เห็นว่ารอบตัวของไรโคหญิงสาวตรงหน้าที่ขวางทางของพวกตนนั้นได้มีสายฟ้า4สี(ตามสีอาวุธ)ได้ผ่าลงมารอบตัวของหญิงสาวคนนั้นและเมื่อแสงสายฟ้าหายไปพวกเขาทั้ง4คนก็พบว่าได้มีร่างอีก4ร่างที่เหมือนกับผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่รอบตัวของเธอซึ่งพวกเขาก็คิดว่าพวกนั้นคือร่างแยกธรรมดาก็เตรียมที่จะเข้าปะทะทันที



    แต่ถ้าสังเกตดีๆก็จะพบว่าร่างแยกของไรโคนั้นจะถืออาวุธที่แตกต่างกันอยู่ถึง4แบบ ซึ่งโฮกุของไรโคนั้นคือ

    Goo Shorai Tenmokaikai (โก โอวโชวไร เทนโมวไคไค) / ราชาวัวอัญเชิญสายฟ้าตาข่ายสวรรค์ไร้ทางเลี่ยง
    โฮกุประเภท : ต่อต้านกองทัพ
    ระดับ : B++
    -ความสามารถในการเรียกอีกตัวตนของเธอออกมาหรือเรียก อุชิ โกเซ็น(ปีศาจวัว)โดยเธอจะอัญเชิญเหล่าอุชิโกเซ็นออกมาช่วยต่อสู้ถึง4ตนโดยแต่ละตนนั้นจะมีความสามารถเหมือนกับเธอทุกอย่างแต่จะแตกต่างกันตรงอาวุธที่แต่ละตนถือซึ่งอาวุธทั้ง4นั้นจะเป็นอาวุธของเหล่า4ราชันย์สวรรค์ที่เป็นสหายศึกของเธอในครั้งที่เธอยังมีชีวิต โดยจะมี
    ขวานของซากาตะ คินโทกิ(ขวานสายฟ้าสีเหลือง)
    ดาบของวาตานาเบะ ซึนะ (ดาบเพลิงสีแดง)
    หอกของอุซุย ซาดามิทสึ(หอกปราบปีศาจสีขาว)
    ธนูของอุราเบะ ซุเอทากะ(ธนูลมสีเขียว)

    ไรโคที่ถือธนูได้ง้างธนูยิงลูกศรที่เคลือบสายลมอันรุนแรงยิงเข้าใส่นินจาผู้โชคร้ายจนกระเด็นออกไปทำให้พวกนินจาที่เหลือตกใจมากเพราะลูกศรนั้นมันเร็วเอามากๆแถมไม่หมดแค่นั้นสายลมที่สถิตย์อยู่กับลูกศรที่ยิงนั้นเมื่อปะทะกับนินจาคนนั้นแล้วมันยังสร้างลมพายุออกมาโดยรอบทำให้อีก3คนที่เหลือไม่ทันตั้งตัวกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง

    เรนยะ : “เสร็จไปหนึ่ง”

    นินจาพวกนั้นได้พยายามลุกขึ้นแต่ไรโคที่ถือขวานเล่มยักษ์สีเหลืองได้กระโดดขึ้นฟ้าและกระโดดลงมาสับนินจาอีกคนจนเลือดสาดกระจาย

    เรนยะ : “เสร็จไปสองเหลืออีกสอง”

    นินจาอีกคนที่กำลังจะลุกขึ้นมาได้ก็ถูกไรโคที่ถือดาบเพลิงฟันเข้าที่กลางลำตัวแถมตัวดาบยังส่งเปลวไฟแผดเผานินจาคนนั้นจนสลายหายไปขนาดเลือดจากปากแผลตอนที่ฟันยังระเหยไปไม่เหลือสักหยด

    ส่วนนินจาคนสุดท้ายนั้นเมื่อเห็นว่าพวกของเขาได้ตายหมดแล้วก็คิดที่จะหนีแต่ในขณะที่จะหนีไรโคที่ถือหอกก็ได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนนินจาคนสุดท้ายหลบไม่ทันทำให้แขนข้างซ้ายได้ถูกหอกตวัดฟันจนขาดกระเด็นไป

    อ้ากกกก !!!


    นินจา 1 : อึก ! บัดซบเอ๊ย !!!


    แต่ถึงแขนจะขาดไปแล้วแต่นินจาคนสุดท้ายกลับไม่ยอมแพ้มันยังคงวิ่งหลบเข้าไปในป่าอย่างไม่คิดชีวิตแต่ไรโคร่างต้นได้เตรียมง้างดาบที่เต็มไปด้วยสายฟ้าที่ดูเกรี้ยวกราดและตวัดฟันสายฟ้าเข้าใส่ป่าที่นินจาคนสุดท้ายหนีไป

    ไรโค : “โก โอวโชวไร เทนโมวไคไค!” (ราชาวัวอัญเชิญสายฟ้าตาข่ายสวรรค์ไร้ทางเลี่ยง)

    สายฟ้าที่รุนแรงของไรโคได้เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเข้าทำลายทุกสิ่งทุกอย่างด้านหน้าจนเกิดแสงสว่างจนแสบตาและเสียงระเบิดของสายฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว

    ตู้ม !!!!!!

    พอเรนยะเปิดตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าเขาถึงกับทึ่งในพลังทำลายล้างโฮกุของคุณแม่ไรโคจนอ้าปากค้าง

    เรนยะพบว่าป่าด้านหน้าที่ถูกโฮกุของไรโคเข้าไปจากป่าไม้สีเขียวกลับกลายเป็นที่ราบรกล้างมีคราบเขม่าสีดำอยู่ตามพื้นและพวกต้นไม้ใบหญ้าได้ถูกสายฟ้าที่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายนั้นทำลายหายไปทั้งหมด

    เรนยะ : (พอให้ Servant ใช้โฮกุโดยไม่ใช้พลังของตราเรย์จูแล้วเนี่ยจักระของเราหายไปเยอะเอาเรื่องเลยแหะทำเอาจักระของเราเหลือแค่40เปอร์เซนต์เองแต่ก็นะไม่คิดเลยว่าโฮกุของไรโคจะถึงกับเปลี่ยนภูมิประเทศได้แบบนี้ นี่ขนาดยังไม่ได้ปลดขีดจำกัดให้นะเนี่ยแม่จ๋าจะโหดเกินไปแล้ว!)

    การต่อสู้ . . ไม่สิการสังหารโหดฝ่ายเดียวของไรโคจบลงภายในเวลาแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น

    ติ้ง !!!

    เรนยะได้ดูที่กล่องจดหมายของระบบก็พบว่าเขาได้รับตั๋วมาจากที่ไรโคจัดการพวกนินจาของอิบาชิทั้งหมดคนละสองใบถ้าร่วมกับของบาบะในตอนนี้เรนยะก็มีตั๋วทั้งหมดอยู่จำนวน 15ใบ

    ไรโค : “ฟู่...การต่อสู้เนี่ย เป็นสิ่งที่รุนแรงจริงๆนะคะ”

    ไรโคได้เก็บดาบและยกเลิกการใช้โฮกุของตนทำให้ร่างที่เธออัญเชิญมา4ร่างได้หายไป

    เรนยะ : (คุณสิไม่ว่าที่เป็นสิ่งรุนแรงน่ะ) “เห้อ ~ พวกเรารีบไปกันเถอะครับ”

    ไรโคได้กลายสภาพเป็นร่างวิญญาณตามเดิมเรนยะได้ใช้ลบตัวตนและก็เริ่มออกเดินทางกลับโคโนฮะต่อทันทีเพราะตัวเขาฟื้นฟูจักระได้เร็วอยู่แล้วทำให้ไม่จำเป็นต้องหยุดพักแถมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องมีคนออกมาตรวจสอบแน่ๆแต่ก่อนจะออกเดินทางนั้นเรนยะก็ได้สั่งงานกับฮัซซันทั้งสองตนก่อนไป

    เรนยะ : “แขนต้องสาปกับความเงียบพวกนายทั้งสองคนไปจัดการกับเจ้าอ้วนอิบาชิซะและก็นี่อย่าลืมเอาของมีค่าของมันใส่ผนึกเอาไว้ในคำภีร์มาด้วยละพวกนายคงรู้วิธีใช้มันนะ”

    แขนต้องสาป : “รับทราบครับ Master”

    หนูเงียบ : “แน่นอนค่ะ Master”

    เรนยะ : “เมื่อพวกนายเสร็จงานแล้วก็รีบกลับมาหาผมที่โคโนฮะเอาละไปได้แล้ว”

    ฮัซซันทั้งสองได้ออกเดินทางไปทำตามที่ Master ของตนสั่งส่วนเรนยะก็ได้เดินทางกลับโคโนฮะตามเดิม

    ----------- -------------

    ทางด้านอิบาชิ

    อิบาชิ : “เจ้า6คนนั่นใช้เวลานานเสียจริงไม่ได้เรื่องเอาซะเลย”

    ณ โรงแรงห้าดาวในเมืองซากะอิบาชิกำลังนั่งดื่มไวน์แดงรอการกลับมาของพวกหกนินจาที่กำลังไปไล่ล่าเด็กสวมหน้ากากกะโหลกคนนั้นที่ทำให้เขาแพ้พนันแต่ตอนนี้มันก็เริ่มจะนานมากแล้วโดยไม่รู้ตัวเลยว่าเหล่าคนที่เขาส่งไปได้ถูเก็บไปหมดแล้ว

    อิบาชิ : “เดี๋ยวพวกมันก็คงกลับมาตอนนี้เราไปที่โกดังที่เราเช่าเก็บพวกของที่พวกเราประมูลได้มาดีกว่า”

    อิบาชิที่รอนานจนรู้สึกเบื่อก็ได้เดินออกไปจากโรงแรมและมุ่งหน้าไปยังโกดังที่ตนได้เช่าเอาไว้ภายในเมืองซากะเพื่อชื่นชมสมบัติที่ตนประมูลได้มา

    โดยปกติพวกเศรษฐีที่มาประมูลสินค้าหรือมาเที่ยวสนุกนั้นส่วนมากมักจะมาเช่าโกดังเก็บของเอาไว้เพื่อความปลอดภัยขณะที่ตนท่องเที่ยวอยู่ในเมืองและเมื่อซื้อของอะไรก็ตามจะมีบริการขนมาเก็บเอาไว้ในโกดังในเมืองนั้นๆเมื่อเที่ยวจนพอใจแล้วเวลากลับจะได้มาขนของที่ตนฝากเอาไว้กลับบ้านของตนในทีเดียว

    อิบาชิได้ยื่นป้ายหมายเลขโกดังของตนให้แก่พนักงานดูเมื่อยืนยันหมายเลขของป้ายเสร็จแล้วนั้นพนักงานก็ได้ปล่อยให้อิบาชิเข้าไปได้

    ขณะที่อิบาชิได้ชื่นชมสมบัติที่เขาประมูลมาได้นั้นจู่ๆเขาก็เหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากข้างหลังแต่ยังไม่ทันได้หันกลับไปดูเขาก็ถูกมีดคุไนเล่มหนึ่งปักเข้าที่ขาความเจ็บปวดครั้งแรกในชีวิตทำให้เขาถึงกับร้องเป็นเป็นหมูถูกเชือด

    ฉึก !!! อ้ากกกก !!!

    พออิบาชิร้องจนพอบรรเทาความเจ็บปวดลงแล้วเขาก็ได้ลืมตามองคนที่ทำร้ายเขาก็พบกับผู้ชายกับผู้หญิงผิวดำเมี่ยมใส่หน้ากากกะโหลก(ตอนหนูเงียบทำงานลอบสังหารเธอจะใส่หน้ากากกะโหลกฮัซซัน)เหมือนกับของเด็กผมทองที่เขาได้สั่งให้นินจาของเขาไปฆ่าเพราะทำให้ตนเสียเงินพนัน

    อิบาชิ : “น . . นี่พวกแก”

    แขนต้องสาป : “ตายซะ”

    แขนต้องสาปไม่พูดพร่ำทำเพลงโยนมีดเข้าใส่อิบาชิตัดขั้วหัวใจของเขาจนตายทันที

    ส่วนหนูเงียบก็ได้ทำการกวาดสมบัติทั้งหมดของอิบาชิที่อยู่ในโกดังเข้ามาในคำภีร์เก็บของที่เรนยะได้เตรียมเอาไว้ให้

    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนั้นฮัซซันทั้งสองก็ได้ออกมาจากโกดังโดยทิ้งศพของอิบาชิเอาไว้และเดินทางกลับโคโนฮะตามคำสั่งของ Master ของตนทันที

    ----------- -------------

    ในที่สุดเรนยะก็ได้เดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านโคโนฮะเรียบร้อยหลังจากที่เข้ามาในหมู่บ้านแล้วเรนยะก็ได้เลิกใช้ลบตัวตนทันทีและเดินไปตลาดเพื่อซื้อของตามปกติ

    เรนยะได้เดินไปตลาดขายของของโคโนฮะเพื่อซื้อวัตถุดิบทำอาหารให้แก่คุณแม่ไรโคเพราะตอนนี้มันก็เริ่มจะเย็นมากแล้ว

    แต่ระหว่างที่เรนยะกำลังเดินกลับบ้านเขาก็ถูกเรียกโดยคนๆหนึ่ง

    ? : “เห้ ! เธอน่ะ !!!”

    เรนยะได้หยุดเท้าแล้วหันมามองคนที่เรียกเขาก็พบว่าเป็นจิไรยะหนึ่งในสามนินจาในตำนานผู้โด่งดัง

    เรนยะ : “มีอะไรครับลุง”

    จิไรยะที่ถูกเรียกว่าลุงก็คิ้วกระตุกก่อนจะเก๊กท่าประจำของตนที่คิดว่าเท่ออกมา

    จิไรยะ : “ชิชะ ! เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นนำ้นมมาเรียกใครว่าลุงมิทราบ ฉันคือเซียนกบแห่งภูเขาเบียวโบคุ หนึ่งในสามนินจาที่แม้แต่เด็กร้องไห้ยังต้องเงียบ ท่านจิไรยะ ไงละ !!!”

    เรนยะ : . . . . . .

    จิไรยะ : “ฮี่ ฮี่ ตะลึงไปเลยละสิเจ้าหนู”

    เรนยะ : “ครับๆแล้วคุณมีอะไรกับผมเหรอ คุณจิไรยะ”

    จิไรยะ : “เธอชื่ออะไรเจ้าหนู ?”

    เรนยะ : “อาคุสะ เรนยะครับ”

    จิไรยะ : “แล้วใครเป็นคนสอนวิชาให้เธอกันช่วยบอกฉันมาหน่อยสิ”

    เรนยะ : ครูโจนินของผมคืออาจารย์เอรินะที่เป็นคนตระกูล
    ฮิวงะ แต่ส่วนมากผมจะฝึกวิชาเอาเองเสียมากกว่าครับ

    จิไรยะ : “อืม ~”

    เรนยะ : “มีอะไรหรือป่าวครับ ?”

    จิไรยะ : “ไม่ละเธอไปเถอะโทษทีที่รบกวน”

    จิไรยะได้กลายเป็นควันและหายไปตามแบบนินจา

    เรนยะ : “ประหลาดคนชะมัด รีบกลับบ้านดีกว่า”

    บนตึกด้านบนจิไรยะยังคงแอบเฝ้าดูเรนยะอยู่เหมือนเดิมเพราะตนนั้นสงสัยกลิ่นอายและบรรยากาศในตัวของเด็กที่ชื่อเรนยะ

    จิไรยะ : (น่าแปลก . . เด็กคนนั้นมีพลังงานธรรมชาติในตัวอยู่หนาแน่นมากราวกับคนฝึกวิชาเซียนจนชำนาญแล้วเลยแหะ)

    ด้วยสกิลความเป็นเทพระดับA ของเรนยะทำให้จิไรยะนั้นเข้าใจผิดไปว่าเรนยะคือผู้ฝึกวิชาเซียนที่เก่งกาจคนหนึ่ง

    จิไรยะ : “ช่างเถอะเราก็ไปเก็บข้อมูลเพิ่มมาเขียนนิยายดีกว่า”

    และแล้วจิไรยะก็ได้ทิ้งเรื่องของเรนยะแล้วไปเก็บข้อมูลที่อ่างอาบนำ้ร้อนทางฝั่งผู้หญิงตามกิจวัตรประจำวันของตน

    ----------- -------------

    เช้าวันต่อมา

    เรนยะได้ตื่นขึ้นโดยมีไรโคกับหนูเงียบนอนกอดอยู่เรนยะได้ทำการทานข้าวเช้าที่ไรโคทำเมื่อทานข้าวเช้าเสร็จแล้วเรนยะก็ได้ออกไปที่สนามฝึกเพียงลำพังโดยเรนยะได้นำคัมภีร์นินจาระดับตำ่ที่ริวให้มาตามข้อตกลงและคำภีร์คาถานำ้ที่ตนได้มาจากพวกนินจาคิริตอนขากลับจากภารกิจนอกหมู่บ้านครั้งนั้นมาเปิดอ่านแล้วเริ่มฝึกคาถาทุกเล่มจนชำนาญ

    ด้วยการสู้กับบาบะในลานประลองใต้ดินทำให้เรนยะได้รับคุณสมบัติจักระสายฟ้ามาซึ่งก็หมายความว่าตอนนี้เรนยะได้มีคุณสมบัติจักระครบทุกธาตุแล้วนั่นเอง


    เรนยะเริ่มฝึกการผสานธาตุต่อในทันทีโดยผสานสองธาตุได้ทั้งหมดแล้วรวมทั้งคาถาไม้เขาก็สามารถใช้ได้แต่ถ้าเกิดเขาดันใช้มันออกมาต่อหน้าธารกำนัลละก็รับรองว่าได้มีปัญหาตามมาแน่นอนแถมคาถาไม้ยังใช้จักระจำนวนมากอีกด้วยทำให้เรนยะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลา เซนจู ฮาชิรามะใช้คาถาไม้ทีไรจะต้องเข้าโหมดเซียนก่อนแถบทุกครั้งเพื่อใช้พลังงานธรรมชาติมาใช้แทนจักระที่ไม่เพียงพอแถมยังเพิ่มความรุนแรงของคาถาไม้ได้อีกด้วย

    เพราะแทบไม่มีใครรู้เรื่องวิชาเซียนเลยทำให้ทุกคนเข้าใจกันไปเองว่าคาถาไม้คือคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งก็อาจจะไม่ผิดนักแต่ตัวของเรนยะกลับคิดว่าไม่ว่าคาถาอะไรก็ตามที่ใช้ออกด้วยพลังงานธรรมชาติมันก็จะกลายเป็นคาถาเซียนที่ทรงพลังอยู่แล้ว


    เรนยะได้เริ่มการผสานสามคุณสมบัติต่อทันทีแต่ในการฝึกการผสานสามคุณสมบัตินั้นเรนยะได้ให้ร่างแยกของตนเป็นคนทำแทนเพราะเขาเข็ดแล้ว


    เรนยะที่เบื่อเพราะรอร่างแยกของตนฝึกนั้นก็ได้เรียกระะบบและนำการ์ดExpเพิ่มเลเวลให้แก่ไรโคจนเต็ม 50/50 และไม่รอช้าเรนยะได้ปลดขีดจำกัดให้คุณแม่ไรโคทันที

    ตัวของไรโคได้ส่องแสงออกมาและสายลมได้พัดบริเวณนี้อย่างรุนแรงมากจนเรนยะที่เป็นร่างแยกเสียสามาธิทำธาตุที่กำลังผสานระเบิดไปหลายคนเลยทีเดียวและเมื่อทุกอย่างสงบดีแล้วเรนยะก็พบว่าคุณแม่ของเขานั้นได้ถอดผ้าคลุมอกออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



    ไรโค : แหม ~ Master ใช้ได้หรือเปล่าคะ ? ดิฉันในตอนนี้

    เลเวลของไรโคได้เปลี่ยนไปเป็น 50/60 และเรนยะเห็นได้ชัดเลยว่าไรโคในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าก่อนปลดขีดจำกัดให้เสียอีก

    ร่างแยกของเขาระเบิดเป็นว่าเล่นแต่เรนยะก็ได้รับประสบการณ์มาเยอะพอสมควรรวมถึงความเจ็บปวดตอนเกิดระเบิดด้วยเป็นของแถม

    จนในที่สุดเรนยะก็ทำสำเร็จจนได้โดยเรนยะได้ผสานจักระ
    ดิน ไฟ ลม เข้าด้วยกันจนสำเร็จแปลว่าเรนยะสามารถฝึกและใช้คาถาธุลีได้เช่นเดียวกับซึจิคาเงะรุ่นที่2และ3แล้ว

    เรนยะที่ทำสำเร็จก็ดีใจมากเพราะขีดจำกัดสายเลือดนี้เรียกได้ว่าร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของโลกนินจาเลยทีเดียวเรนยะกะว่าตัวเขาจะแอบลอบเข้าไปขโมยคำภีร์คาถาลอยตัวและคาถาธุลีจากซึจิคาเงะที่หมู่บ้านอิวะงาคุเระ(หินผา)มาฝึกถ้าตนมีเวลาว่าง

    เรนยะได้ฝึกจนตัวของเขานั้นลืมเวลาพอรู้ตัวอีกทีก็พบว่านี่เป็นตอนเย็นแล้ว

    เรนยะ : (จะว่าไปปู่รุ่นที่3คงจะรู้เรื่องแผนถล่มโคโนฮะของพวกนินจาซึนะและพวกนินจาโอโตะแล้วสินะวันนี้เราถึงไม่ค่อยเห็นพวกนินจาในหมู่บ้านเลยคงกำลังประชุมกันอยู่แน่ๆเอาเถอะปู่แกคงมีแผนรับมือแล้วละมั้งถ้าจวนตัวเราค่อยไปช่วยละกัน)

    เรนยะได้ตัดสินใจจบการฝึกของวันนี้และไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมอินามิตามประสาเพื่อนร่วมทีม

    เมื่อเรนยะมาถึงและได้แจ้งเรื่องขอเยี่ยมคนไข้ที่เคาน์เตอร์พยาบาลแต่วันนี้เขากลับไม่เจอมากิและคารินเขาจึงได้ถามนางพยาบาลไปเพราะสงสัยก็ได้รู้ว่าวันนี้พวกเธอทั้งสองเปลี่ยนเวรกลับบ้านไปแล้วเมื่อไม่นาน

    เรนยะได้เข้ามาเยี่ยมอินามิที่ห้อง VIP พอเปิดประตูเข้าไปเรนยะก็พบกับอินามิกำลังนั่งอยู่ที่เตียงและอ่านหนังสืออยู่เงียบๆเรนยะจึงได้เรียกทักไป

    เรนยะ : “ไงสบายดีไหม”

    อินามิ : “อะไรกันนายเองเหรอเรนยะแล้วของฝากละ”

    อินามิได้แบมือขอของฝากจากเรนยะ

    เรนยะ : “ขอโทษทีพอดีว่าฉันไม่ได้ซื้อมาน่ะ”

    อินามิ : “ชิ ! มาเยี่ยมแต่ไม่มีของฝากเนี่ยนะตาซื้อบื้อ ขนาดอาจารย์เอรินะยังเอาหนังสือมาให้ฉันอ่านแก้เบื่อเลยนะ”

    เรนยะ : “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพอเธอหายดีแล้วฉันจะพาเธอไปทานเนื้อย่างสุดหรูละกัน”

    อินามิ : “อย่ากลับคำพูดซะละ !”

    อินามิได้พูดย้ำไม่ให้เรนยะลืมคำที่เขาพูดว่าจะพาไปเลี้ยงเนื้อย่างสุดหรู

    เรนยะ : (นำ้ลายไหลแล้ว ~ แม่คุณ)

    ----------- -------------

    บรรยากาศนั้นเงียบมากเพราะทั้งสองไม่ได้พูดอะไรต่อแต่สักพักอินามิก็ได้เป็นฝ่ายพูดขึ้น

    อินามิ : “ได้ข่าวว่านายต้องสู้กับชินเรนในวันประลองสินะ”

    เรนยะ : “ใช่”

    อินามิ : “งั้นฉันแนะนำให้นายยอมแพ้ไปซะเถอะ”

    เรนยะ : . . . . . .

    อินามิ : “ฉันได้ยินมาจากอาจารย์เอรินะแล้วนะว่ามีดของนายถึงกับพังด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากเจ้านั่นพวกเราเป็นนินจาที่ใช้อาวุธเหมือนๆกันฉันจึงรู้ข้อจำกัดของนายดีนินจาสายอาวุธอย่างพวกเราน่ะถ้าศัตรูฟันแทงไม่เข้าก็เท่ากับโอกาสแพ้ก็มากเกินครึ่งแล้วนะ”

    เรนยะ : . . . . . .

    อินามิ : “แถมอีกฝ่ายยังเป็นสายเลือดคัดสรรและยังไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำถ้าไม่ได้นายช่วยเอาไว้ฉันคงจะตายไปแล้วนายอยากจะเป็นเหมือนกับฉันงั้นหรือไง”

    เรนยะไม่ได้ตอบอะไรอินามิและได้เดินไปที่ประตูเตรียมจะจากไปอินามิที่เห็นแบบนั้นจึงได้ขึ้นเสียงใส่เรนยะด้วยความโกรธที่เพื่อนชายของเธอไม่ฟังคำเตือน

    อินามิ : “นายอยากจะตายงั้นหรือไง เรนยะ !!! แฮ่ก แฮ่ก”

    สุดท้ายเรนยะก็ได้ตอบอินามิกลับไปทั้งที่ยังหันหลังอยู่

    เรนยะ : “ก็จริงอยู่ . . ถ้าฉันไปสู้กับเจ้าชินเรนในวันประลองฉันอาจจะตายก็ได้ . . . แต่ถ้าฉันมาแพ้ตรงนี้ความฝันของฉันก็คงจะไม่มีวันเป็นจริง . . . ใช่ . . . ถ้าฉันไปสู้ก็อาจจะตายหรือไม่ก็ต้องเป็นเหมือนกับเธอ . . . แต่ว่า . . ถ้าฉันยอมแพ้และหนีเจ้านั่นไปจริงๆละก็ฉันต้องตายแน่ๆ . . . ความฝันของฉันจะต้องถูกฆ่าตายและอาจจะเอามันกลับมาอีกไม่ได้แน่ๆสำหรับฉันถ้าต้องสูญเสียความฝันก็ไม่ต่างอะไรจากตายหรอก”

    เรนยะที่พูดจบแล้วก็ได้เปิดประตูออกไปทันทีโดยที่มีเสียงของอินามิไล่หลังตัวเขามาด้วย

    อินามิ : “นายต้องชนะและห้ามตายแล้วต้องพาฉัน มากิและอาจารย์เอรินะไปทานเนื้อย่างให้ได้ สัญญานะเรนยะ !!!”

    เรนยะที่ได้ยินก็ได้ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจหลังจากที่ได้ยินเสียงของอินามิไล่หลังมา


    เรนยะ : “อา ~ เข้าใจแล้วส่วนเจ้าชินเรนฉันจะจัดการมันเองฉันไม่เคยปล่อยคนที่ทำร้ายเพื่อนพ้องของฉันให้ลอยนวลหรอกนะ”

    ----------- -------------

    เวลาได้ไหลผ่านไปรู้ตัวอีกทีก็เหลือแค่หนึ่งวันสุดท้ายก่อนการประลอง

    การประสานคุณสมบัติธาตุ4อย่างของเรนยะก็ยังคงล้มเหลวและเกิดระเบิดตูมตามมาตลอดที่ผ่านมา

    เรนยะ : “เห้อ ~ สงสัยเราต้องพึ่งระบบวีรชนซะแล้วละมั้งอีแบบนี้”

    เรนยะได้ใช้สิทธิ์การสุ่มรวมทั้งตั๋วด้วยซึ่งระบบก็ให้การ์ดExpเกลือๆมาเยอะตามสูตรแต่ในขณะที่เรนยะกำลังปลงอยู่นั้นการ์ดใบสุดท้ายกลับทำให้เรนยะดีใจกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว

    เรนยะ : “พรุ่งนี้ได้สนุกแน่ ชินเรน หึ หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า !!!”



    ห๊ะ !!! สัปดาห์หน้าจะสอบแล้ว !!!


    True Wallet 0830743639

    ค่าอาหารไรท์ ขอขอบคุณผู้ติดตามและผู้สนับสนุนด้วยครับ


    เพราะช่วงนี้ผมจะสอบแล้วคงต้องอ่านหนังสือสอบก่อนไม่งั้นต้องไปสอบซ่อมแล้วเสียเวลาอีกเพราะงั้นจนกว่าจะสอบเสร็จผมอาจจะไม่ได้ลงนะครับขอโทษด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×