ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 22
หลังจากที่เรนยะชนะการประลองแล้วทำให้เขาได้รับตั๋วมาจากระบบถึง3ใบแต่เรนยะได้ปล่อยเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้เขาต้องไปหาริวที่ห้องเพื่อรับของรางวัลตามที่ตกลงกันเอาไว้
ริว : “เอาละนี่เป็นข้อมูลและคาถานินจาที่เธอต้องการตามที่ตกลงกันเอาไว้ตอนแรก”
ริวได้ส่งมอบม้วนคำภีร์ที่ผนึกพวกของที่เรนยะได้ขอเอาไว้ในตอนแรกซึ่งเรนยะก็รับมาก่อนจะนำข้อมูลของชินเรนออกมาเปิดอ่านตรงนั้นเลย
!!!
เรนยะ : “เป็นพวกตระกูลชั้นสูงของหมู่บ้านทากิสินะครับ”
ริว : “ใช่ในสมัยสงครามโลกนินจาครั้งที่2ตระกูลยาโตะนับเป็นตระกูลที่เก่าแก่พอสมควรพวกเขามีความสามารถในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของจักระที่แข็งแกร่งมากทำให้พวกเขาสร้างเกราะจักระที่มีชั้นบางๆจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าครอบคลุมทั่วทั้งร่างกายเพื่อป้องกันการโจมตีรูปแบบต่างๆได้ขีดจำกัดสายเลือดนี้เรียกว่าเกราะดำและด้วยการแต่งงานทางการเมืองของตระกูลยาโตะทำให้ตระกูลของพวกเขาให้กำเนิดสายเลือดคัดสรรขึ้นมาก็คือ ยาโตะ ชินเรน ที่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไปโดยเกราะของเขามีสีขาวที่แตกต่างจากเกราะสีดำที่เป็นสายเลือดดั้งเดิมและยังแข็งแกร่งมากกว่าเกราะปกติอีกด้วย”
เรนยะ : “แถมเกราะของพวกเขาที่นอกจากจะป้องกันคาถานินจาได้เกือบทุกประเภทแล้วยังใช้เกราะนั่นเพื่อการโจมตีศัตรูได้อีกด้วย”
ริว : “ถูกต้องและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้คาถาเฉพาะตัวของ ยาโตะ ชินเรน ที่ใช้การผสานคุณสมบัติทั้งสามธาตุเลยว่ามันเป็นคาถาแบบไหนเพราะหมู่บ้านนินจาของทากิโนะคุนินั้นค่อนข้างที่จะลึกลับทำให้ทางเราหาข้อมูลค่อนข้างจะยาก”
เรนยะ : “เข้าใจแล้วขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณริว”
ริว : “ฉันสิที่ต้องขอบคุณเธอ อาคุสะ เรนยะ นินจาแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ”
!!!
เรนยะ : “แหม ~ ความแตกซะได้สมกับเป็นเจ้าพ่อใต้ดินจริงๆ”
ริว : “หึ หึ หึ เอาเถอะใช้ชื่อปลอมมันก็เป็นเรื่องปกติในที่แห่งนี้อยู่แล้วละนะฉันจะเรียกเธอว่าโอคามิเหมือนเดิมก็แล้วกันขอให้เธอโชคดีในการสอบจูนินละฉันอาจจะไปดูด้วยในวันแข่ง”
เรนยะ : “ยินดีครับ”
ริว : “เช่นกันยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน โอคามิ”
ทั้งสองได้จับมือรำลาแต่ก่อนที่จะออกจากห้องเรนยะก็ได้รับคำเตือนมาจากริว
ริว : “อีกอย่างนะโอคามิ เธอระวังเจ้า อิบาชิเอาไว้หน่อยก็ดีนะเพราะเจ้าหมอนั่นมันมีข่าวลือว่าเวลาเจรจากับคู่ค้าและไม่ถูกใจกับเงื่อนไขที่ตัวมันได้รับมันจะชอบส่งนินจาที่มันจ้างเอาไว้ไปตามเก็บทีหลังตลอด”
เรนยะ : “เจ้าหมูตอนนั่นน่ะเหรอ . . ขอบคุณสำหรับคำเตือนผมไปก่อนนะ”
ริว : “โชคดี”
เรนยะได้เดินออกมาจากกลุ่มใต้ดินและเดินทางออกจากเมืองซากะทันทีโดยที่ไม่ได้ใช้ลบตัวตนในระหว่างการเดินทางและเมื่อตัวของเขาได้เดินทางกลับโคโนฮะมาครึ่งทางแล้วนั้นจู่ๆเหล่า Servant ของเรนยะก็ได้เตือนเขาว่ามีคนกำลังตามเขามาจำนวน6คน
หนูเงียบ : “Master มีคนตามท่านมาค่ะ”
แขนต้องสาป : “ขอคำสั่งด้วยครับ Master”
ไรโค : “ลูกอยากให้แม่คนนี้จัดการให้เสร็จๆไปเลยไหมจ้ะ”
เรนยะที่เห็นว่าเหล่า Servant ของเขากำลังคันไม้คันมืออยากจะสู้ซะเหลือเกินเรนยะก็เลยได้ออกคำสั่ง
เรนยะ : “ในเมื่อพวกมันอยากจะเล่นกับพวกเรางั้นก็มาเล่นกับพวกมันกันเถอะ”
----------- -------------
ผ่านไปไม่นานในจุดที่เรนยะเคยอยู่ก็ได้มีนินจาใส่ชุดดำปกปิดใบหน้าจำนวน6คนกำลังมองสำรวจรอบๆและตรวจร่องรอยที่พื้นดิน
นินจา 1 : “ร่องรอยมันหายไปตรงนี้”
นินจา 2 : “มันคงจะเริ่มรู้ตัวแล้วละ”
นินจา 3 : “มันคงไปได้ไม่ไกล”
นินจา 4 : “งั้นแยกกันค้นหาเถอะ”
ทั้ง6คนได้ตัดสินใจแยกย้ายกันค้นหาตัวของเด็กผมทอง
เมื่อหาบริเวณนี้จนทั่วแล้วก็หาไม่เจอทั้ง6คนจึงได้กลับมาเจอกันที่เดิม
นินจา 1 : “หามันเจอไหม ?”
นินจา 2 : “ทางฉันไม่เจอแล้วนายละ”
นินจา 3 : “เหมือนกัน”
นินจา 4 : “เดี๋ยวนะแล้วอีก2คนอยู่ไหน”
ระหว่างที่กำลังสุมหัวกันนั้นจู่ๆทั้ง4คนที่เหลือก็ได้ยินเสียงร้องของพรรคพวกของพวกเขา
อ้ากกกกกก !!!!!!
!!!
นินจา 1 : “ทางนั้นไปเร็ว !!!”
พวกเขาทั้งหมดอีก4คนได้มุ่งหน้าไปตามทิศทางของเสียงร้องก็พบว่าพวกของเขาคนหนึ่งกำลังนอนแน่นิ่งมีเลือดไหลออกจากคอและคนที่2ถูกเชือกผูกขาห้อยกลับหัวที่ไร้ซึ่งการตอบสนอง
ทั้ง4คนได้รีบเข้ามาตรวจดูก็พบว่าคนแรกถูกเชือดคอซึ่งคาดว่าหน้าจะโดนลอบสังหารส่วนอีกคนที่ห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ที่พวกเขาเอาลงมานั้นไม่มีบาดแผลภายนอกเลยแต่เขากลับไม่หายใจอีกต่อไปแล้ว
นินจา 2 : “หมายความว่ายังไงกันสาเหตุการตายของหมอนี่แปลกประหลาดชะมัด”
นินจา 1 : “ไม่หรอกลองดูนี่”
นินจา1ได้นำมีดคุไนออกมาและลองเฉือนเนื้อของคนที่ถูกจับห้อยหัวบนต้นไม้ที่ไม่มีบาดแผลภายนอกและพอมีดบาดศพจนเลือดไหลออกมาแล้วนั้นพวกเขาทั้ง4คนก็รู้สึกตกใจมาก
!!!
เลือดที่ไหลออกมาจากศพถึงกับละลายพื้นดินเป็นหลุมลึกไม่ต่างจากกรดส่วนคุไนที่ใช้พิสูจน์ก็ถึงกับละลายจนเหลือแต่ด้ามจับเลยทีเดียว
นินจา 4 : “อึก ! นี่มันพิษงั้นเรอะ”
นินจา 1 : “เป็นพิษที่ร้ายกาจมากถึงขนาดทำให้เลือดในร่างกายกลายสภาพได้แบบนี้”
นินจา 3 : “ถ้าให้คาดเดาเจ้านั้นคงจะใช้พิษฆ่าพวกเราคนแรกและก็เอาศพไปแขวนห้อยหัวเอาไว้บนต้นไม้และดักรอคนที่จะมาพบศพและจัดการลอบสังหารโดยทำการเฉือดคอที่เส้นเลือดใหญ่ซึ่งเป็นจุดตายเจ้าเด็กนี่ฉลาดเอาเรื่องเลยละ”
นินจา 2 : “เดี๋ยวนะ !!! คาถาตรวจจับของฉันตรวจเจอคนๆหนึ่งข้างหน้านี่ไม่ไกลนัก”
นินจา 3 : “ที่ข้างหน้านั้นสินะไปกันเถอะพวกเราจะกลับไปมือเปล่าไม่ได้”
ทั้ง4คนได้มุ่งหน้าไปยังจุดที่คาถาตรวจจับจับสัมผัสได้และเมื่อมาถึงทั้ง4คนก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งได้รออยู่แล้วโดยที่ด้านหลังของเธอมีเป้าหมายของพวกเขาที่กำลังยิ้มทำหน้าระรื่นอยู่
เรนยะ : “ยินดีต้อนรับชอบของขวัญของผมไหม ฮิ ฮิ”
ทั้ง4คนที่เห็นเป้าหมายของพวกเขาแล้วนั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ทันที
เรนยะ : “เอาเลยครับไรโคผมอนุญาตให้ใช้โฮกุได้เลยครับ”
ไรโค : “ตามที่ Master บัญชา ไรโคผู้นี้จักกลายเป็นยักษา !!!จงออกมาซะสี่จตุรเทพ ไม่สิ เหล่าผู้ส่งสารแห่งราชันย์สวรรค์โกซุ จงรับรูปลักษณ์และความทรงจำแห่งข้าไปเสีย . . . ”
จู่ๆนินจาทั้ง4คนก็เห็นว่ารอบตัวของไรโคหญิงสาวตรงหน้าที่ขวางทางของพวกตนนั้นได้มีสายฟ้า4สี(ตามสีอาวุธ)ได้ผ่าลงมารอบตัวของหญิงสาวคนนั้นและเมื่อแสงสายฟ้าหายไปพวกเขาทั้ง4คนก็พบว่าได้มีร่างอีก4ร่างที่เหมือนกับผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่รอบตัวของเธอซึ่งพวกเขาก็คิดว่าพวกนั้นคือร่างแยกธรรมดาก็เตรียมที่จะเข้าปะทะทันที
แต่ถ้าสังเกตดีๆก็จะพบว่าร่างแยกของไรโคนั้นจะถืออาวุธที่แตกต่างกันอยู่ถึง4แบบ ซึ่งโฮกุของไรโคนั้นคือ
Goo Shorai Tenmokaikai (โก โอวโชวไร เทนโมวไคไค) / ราชาวัวอัญเชิญสายฟ้าตาข่ายสวรรค์ไร้ทางเลี่ยง
โฮกุประเภท : ต่อต้านกองทัพ
ระดับ : B++
-ความสามารถในการเรียกอีกตัวตนของเธอออกมาหรือเรียก อุชิ โกเซ็น(ปีศาจวัว)โดยเธอจะอัญเชิญเหล่าอุชิโกเซ็นออกมาช่วยต่อสู้ถึง4ตนโดยแต่ละตนนั้นจะมีความสามารถเหมือนกับเธอทุกอย่างแต่จะแตกต่างกันตรงอาวุธที่แต่ละตนถือซึ่งอาวุธทั้ง4นั้นจะเป็นอาวุธของเหล่า4ราชันย์สวรรค์ที่เป็นสหายศึกของเธอในครั้งที่เธอยังมีชีวิต โดยจะมี
ขวานของซากาตะ คินโทกิ(ขวานสายฟ้าสีเหลือง)
ดาบของวาตานาเบะ ซึนะ (ดาบเพลิงสีแดง)
หอกของอุซุย ซาดามิทสึ(หอกปราบปีศาจสีขาว)
ธนูของอุราเบะ ซุเอทากะ(ธนูลมสีเขียว)
ไรโคที่ถือธนูได้ง้างธนูยิงลูกศรที่เคลือบสายลมอันรุนแรงยิงเข้าใส่นินจาผู้โชคร้ายจนกระเด็นออกไปทำให้พวกนินจาที่เหลือตกใจมากเพราะลูกศรนั้นมันเร็วเอามากๆแถมไม่หมดแค่นั้นสายลมที่สถิตย์อยู่กับลูกศรที่ยิงนั้นเมื่อปะทะกับนินจาคนนั้นแล้วมันยังสร้างลมพายุออกมาโดยรอบทำให้อีก3คนที่เหลือไม่ทันตั้งตัวกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
เรนยะ : “เสร็จไปหนึ่ง”
นินจาพวกนั้นได้พยายามลุกขึ้นแต่ไรโคที่ถือขวานเล่มยักษ์สีเหลืองได้กระโดดขึ้นฟ้าและกระโดดลงมาสับนินจาอีกคนจนเลือดสาดกระจาย
เรนยะ : “เสร็จไปสองเหลืออีกสอง”
นินจาอีกคนที่กำลังจะลุกขึ้นมาได้ก็ถูกไรโคที่ถือดาบเพลิงฟันเข้าที่กลางลำตัวแถมตัวดาบยังส่งเปลวไฟแผดเผานินจาคนนั้นจนสลายหายไปขนาดเลือดจากปากแผลตอนที่ฟันยังระเหยไปไม่เหลือสักหยด
ส่วนนินจาคนสุดท้ายนั้นเมื่อเห็นว่าพวกของเขาได้ตายหมดแล้วก็คิดที่จะหนีแต่ในขณะที่จะหนีไรโคที่ถือหอกก็ได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนนินจาคนสุดท้ายหลบไม่ทันทำให้แขนข้างซ้ายได้ถูกหอกตวัดฟันจนขาดกระเด็นไป
อ้ากกกก !!!
แต่ถึงแขนจะขาดไปแล้วแต่นินจาคนสุดท้ายกลับไม่ยอมแพ้มันยังคงวิ่งหลบเข้าไปในป่าอย่างไม่คิดชีวิตแต่ไรโคร่างต้นได้เตรียมง้างดาบที่เต็มไปด้วยสายฟ้าที่ดูเกรี้ยวกราดและตวัดฟันสายฟ้าเข้าใส่ป่าที่นินจาคนสุดท้ายหนีไป
ไรโค : “โก โอวโชวไร เทนโมวไคไค!” (ราชาวัวอัญเชิญสายฟ้าตาข่ายสวรรค์ไร้ทางเลี่ยง)
สายฟ้าที่รุนแรงของไรโคได้เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเข้าทำลายทุกสิ่งทุกอย่างด้านหน้าจนเกิดแสงสว่างจนแสบตาและเสียงระเบิดของสายฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว
ตู้ม !!!!!!
พอเรนยะเปิดตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าเขาถึงกับทึ่งในพลังทำลายล้างโฮกุของคุณแม่ไรโคจนอ้าปากค้าง
เรนยะพบว่าป่าด้านหน้าที่ถูกโฮกุของไรโคเข้าไปจากป่าไม้สีเขียวกลับกลายเป็นที่ราบรกล้างมีคราบเขม่าสีดำอยู่ตามพื้นและพวกต้นไม้ใบหญ้าได้ถูกสายฟ้าที่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายนั้นทำลายหายไปทั้งหมด
เรนยะ : (พอให้ Servant ใช้โฮกุโดยไม่ใช้พลังของตราเรย์จูแล้วเนี่ยจักระของเราหายไปเยอะเอาเรื่องเลยแหะทำเอาจักระของเราเหลือแค่40เปอร์เซนต์เองแต่ก็นะไม่คิดเลยว่าโฮกุของไรโคจะถึงกับเปลี่ยนภูมิประเทศได้แบบนี้ นี่ขนาดยังไม่ได้ปลดขีดจำกัดให้นะเนี่ยแม่จ๋าจะโหดเกินไปแล้ว!)
การต่อสู้ . . ไม่สิการสังหารโหดฝ่ายเดียวของไรโคจบลงภายในเวลาแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น
ติ้ง !!!
เรนยะได้ดูที่กล่องจดหมายของระบบก็พบว่าเขาได้รับตั๋วมาจากที่ไรโคจัดการพวกนินจาของอิบาชิทั้งหมดคนละสองใบถ้าร่วมกับของบาบะในตอนนี้เรนยะก็มีตั๋วทั้งหมดอยู่จำนวน 15ใบ
ไรโค : “ฟู่...การต่อสู้เนี่ย เป็นสิ่งที่รุนแรงจริงๆนะคะ”
ไรโคได้เก็บดาบและยกเลิกการใช้โฮกุของตนทำให้ร่างที่เธออัญเชิญมา4ร่างได้หายไป
เรนยะ : (คุณสิไม่ว่าที่เป็นสิ่งรุนแรงน่ะ) “เห้อ ~ พวกเรารีบไปกันเถอะครับ”
ไรโคได้กลายสภาพเป็นร่างวิญญาณตามเดิมเรนยะได้ใช้ลบตัวตนและก็เริ่มออกเดินทางกลับโคโนฮะต่อทันทีเพราะตัวเขาฟื้นฟูจักระได้เร็วอยู่แล้วทำให้ไม่จำเป็นต้องหยุดพักแถมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องมีคนออกมาตรวจสอบแน่ๆแต่ก่อนจะออกเดินทางนั้นเรนยะก็ได้สั่งงานกับฮัซซันทั้งสองตนก่อนไป
เรนยะ : “แขนต้องสาปกับความเงียบพวกนายทั้งสองคนไปจัดการกับเจ้าอ้วนอิบาชิซะและก็นี่อย่าลืมเอาของมีค่าของมันใส่ผนึกเอาไว้ในคำภีร์มาด้วยละพวกนายคงรู้วิธีใช้มันนะ”
แขนต้องสาป : “รับทราบครับ Master”
หนูเงียบ : “แน่นอนค่ะ Master”
เรนยะ : “เมื่อพวกนายเสร็จงานแล้วก็รีบกลับมาหาผมที่โคโนฮะเอาละไปได้แล้ว”
ฮัซซันทั้งสองได้ออกเดินทางไปทำตามที่ Master ของตนสั่งส่วนเรนยะก็ได้เดินทางกลับโคโนฮะตามเดิม
----------- -------------
ทางด้านอิบาชิ
อิบาชิ : “เจ้า6คนนั่นใช้เวลานานเสียจริงไม่ได้เรื่องเอาซะเลย”
ณ โรงแรงห้าดาวในเมืองซากะอิบาชิกำลังนั่งดื่มไวน์แดงรอการกลับมาของพวกหกนินจาที่กำลังไปไล่ล่าเด็กสวมหน้ากากกะโหลกคนนั้นที่ทำให้เขาแพ้พนันแต่ตอนนี้มันก็เริ่มจะนานมากแล้วโดยไม่รู้ตัวเลยว่าเหล่าคนที่เขาส่งไปได้ถูเก็บไปหมดแล้ว
อิบาชิ : “เดี๋ยวพวกมันก็คงกลับมาตอนนี้เราไปที่โกดังที่เราเช่าเก็บพวกของที่พวกเราประมูลได้มาดีกว่า”
อิบาชิที่รอนานจนรู้สึกเบื่อก็ได้เดินออกไปจากโรงแรมและมุ่งหน้าไปยังโกดังที่ตนได้เช่าเอาไว้ภายในเมืองซากะเพื่อชื่นชมสมบัติที่ตนประมูลได้มา
โดยปกติพวกเศรษฐีที่มาประมูลสินค้าหรือมาเที่ยวสนุกนั้นส่วนมากมักจะมาเช่าโกดังเก็บของเอาไว้เพื่อความปลอดภัยขณะที่ตนท่องเที่ยวอยู่ในเมืองและเมื่อซื้อของอะไรก็ตามจะมีบริการขนมาเก็บเอาไว้ในโกดังในเมืองนั้นๆเมื่อเที่ยวจนพอใจแล้วเวลากลับจะได้มาขนของที่ตนฝากเอาไว้กลับบ้านของตนในทีเดียว
อิบาชิได้ยื่นป้ายหมายเลขโกดังของตนให้แก่พนักงานดูเมื่อยืนยันหมายเลขของป้ายเสร็จแล้วนั้นพนักงานก็ได้ปล่อยให้อิบาชิเข้าไปได้
ขณะที่อิบาชิได้ชื่นชมสมบัติที่เขาประมูลมาได้นั้นจู่ๆเขาก็เหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากข้างหลังแต่ยังไม่ทันได้หันกลับไปดูเขาก็ถูกมีดคุไนเล่มหนึ่งปักเข้าที่ขาความเจ็บปวดครั้งแรกในชีวิตทำให้เขาถึงกับร้องเป็นเป็นหมูถูกเชือด
ฉึก !!! อ้ากกกก !!!
พออิบาชิร้องจนพอบรรเทาความเจ็บปวดลงแล้วเขาก็ได้ลืมตามองคนที่ทำร้ายเขาก็พบกับผู้ชายกับผู้หญิงผิวดำเมี่ยมใส่หน้ากากกะโหลก(ตอนหนูเงียบทำงานลอบสังหารเธอจะใส่หน้ากากกะโหลกฮัซซัน)เหมือนกับของเด็กผมทองที่เขาได้สั่งให้นินจาของเขาไปฆ่าเพราะทำให้ตนเสียเงินพนัน
อิบาชิ : “น . . นี่พวกแก”
แขนต้องสาป : “ตายซะ”
แขนต้องสาปไม่พูดพร่ำทำเพลงโยนมีดเข้าใส่อิบาชิตัดขั้วหัวใจของเขาจนตายทันที
ส่วนหนูเงียบก็ได้ทำการกวาดสมบัติทั้งหมดของอิบาชิที่อยู่ในโกดังเข้ามาในคำภีร์เก็บของที่เรนยะได้เตรียมเอาไว้ให้
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนั้นฮัซซันทั้งสองก็ได้ออกมาจากโกดังโดยทิ้งศพของอิบาชิเอาไว้และเดินทางกลับโคโนฮะตามคำสั่งของ Master ของตนทันที
----------- -------------
ในที่สุดเรนยะก็ได้เดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านโคโนฮะเรียบร้อยหลังจากที่เข้ามาในหมู่บ้านแล้วเรนยะก็ได้เลิกใช้ลบตัวตนทันทีและเดินไปตลาดเพื่อซื้อของตามปกติ
เรนยะได้เดินไปตลาดขายของของโคโนฮะเพื่อซื้อวัตถุดิบทำอาหารให้แก่คุณแม่ไรโคเพราะตอนนี้มันก็เริ่มจะเย็นมากแล้ว
แต่ระหว่างที่เรนยะกำลังเดินกลับบ้านเขาก็ถูกเรียกโดยคนๆหนึ่ง
? : “เห้ ! เธอน่ะ !!!”
เรนยะได้หยุดเท้าแล้วหันมามองคนที่เรียกเขาก็พบว่าเป็นจิไรยะหนึ่งในสามนินจาในตำนานผู้โด่งดัง
เรนยะ : “มีอะไรครับลุง”
จิไรยะที่ถูกเรียกว่าลุงก็คิ้วกระตุกก่อนจะเก๊กท่าประจำของตนที่คิดว่าเท่ออกมา
จิไรยะ : “ชิชะ ! เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นนำ้นมมาเรียกใครว่าลุงมิทราบ ฉันคือเซียนกบแห่งภูเขาเบียวโบคุ หนึ่งในสามนินจาที่แม้แต่เด็กร้องไห้ยังต้องเงียบ ท่านจิไรยะ ไงละ !!!”
เรนยะ : . . . . . .
จิไรยะ : “ฮี่ ฮี่ ตะลึงไปเลยละสิเจ้าหนู”
เรนยะ : “ครับๆแล้วคุณมีอะไรกับผมเหรอ คุณจิไรยะ”
จิไรยะ : “เธอชื่ออะไรเจ้าหนู ?”
เรนยะ : “อาคุสะ เรนยะครับ”
จิไรยะ : “แล้วใครเป็นคนสอนวิชาให้เธอกันช่วยบอกฉันมาหน่อยสิ”
เรนยะ : ครูโจนินของผมคืออาจารย์เอรินะที่เป็นคนตระกูล
ฮิวงะ แต่ส่วนมากผมจะฝึกวิชาเอาเองเสียมากกว่าครับ
จิไรยะ : “อืม ~”
เรนยะ : “มีอะไรหรือป่าวครับ ?”
จิไรยะ : “ไม่ละเธอไปเถอะโทษทีที่รบกวน”
จิไรยะได้กลายเป็นควันและหายไปตามแบบนินจา
เรนยะ : “ประหลาดคนชะมัด รีบกลับบ้านดีกว่า”
บนตึกด้านบนจิไรยะยังคงแอบเฝ้าดูเรนยะอยู่เหมือนเดิมเพราะตนนั้นสงสัยกลิ่นอายและบรรยากาศในตัวของเด็กที่ชื่อเรนยะ
จิไรยะ : (น่าแปลก . . เด็กคนนั้นมีพลังงานธรรมชาติในตัวอยู่หนาแน่นมากราวกับคนฝึกวิชาเซียนจนชำนาญแล้วเลยแหะ)
ด้วยสกิลความเป็นเทพระดับA ของเรนยะทำให้จิไรยะนั้นเข้าใจผิดไปว่าเรนยะคือผู้ฝึกวิชาเซียนที่เก่งกาจคนหนึ่ง
จิไรยะ : “ช่างเถอะเราก็ไปเก็บข้อมูลเพิ่มมาเขียนนิยายดีกว่า”
และแล้วจิไรยะก็ได้ทิ้งเรื่องของเรนยะแล้วไปเก็บข้อมูลที่อ่างอาบนำ้ร้อนทางฝั่งผู้หญิงตามกิจวัตรประจำวันของตน
----------- -------------
เช้าวันต่อมา
เรนยะได้ตื่นขึ้นโดยมีไรโคกับหนูเงียบนอนกอดอยู่เรนยะได้ทำการทานข้าวเช้าที่ไรโคทำเมื่อทานข้าวเช้าเสร็จแล้วเรนยะก็ได้ออกไปที่สนามฝึกเพียงลำพังโดยเรนยะได้นำคัมภีร์นินจาระดับตำ่ที่ริวให้มาตามข้อตกลงและคำภีร์คาถานำ้ที่ตนได้มาจากพวกนินจาคิริตอนขากลับจากภารกิจนอกหมู่บ้านครั้งนั้นมาเปิดอ่านแล้วเริ่มฝึกคาถาทุกเล่มจนชำนาญ
ด้วยการสู้กับบาบะในลานประลองใต้ดินทำให้เรนยะได้รับคุณสมบัติจักระสายฟ้ามาซึ่งก็หมายความว่าตอนนี้เรนยะได้มีคุณสมบัติจักระครบทุกธาตุแล้วนั่นเอง
เพราะแทบไม่มีใครรู้เรื่องวิชาเซียนเลยทำให้ทุกคนเข้าใจกันไปเองว่าคาถาไม้คือคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งก็อาจจะไม่ผิดนักแต่ตัวของเรนยะกลับคิดว่าไม่ว่าคาถาอะไรก็ตามที่ใช้ออกด้วยพลังงานธรรมชาติมันก็จะกลายเป็นคาถาเซียนที่ทรงพลังอยู่แล้ว
เรนยะที่เบื่อเพราะรอร่างแยกของตนฝึกนั้นก็ได้เรียกระะบบและนำการ์ดExpเพิ่มเลเวลให้แก่ไรโคจนเต็ม 50/50 และไม่รอช้าเรนยะได้ปลดขีดจำกัดให้คุณแม่ไรโคทันที
ตัวของไรโคได้ส่องแสงออกมาและสายลมได้พัดบริเวณนี้อย่างรุนแรงมากจนเรนยะที่เป็นร่างแยกเสียสามาธิทำธาตุที่กำลังผสานระเบิดไปหลายคนเลยทีเดียวและเมื่อทุกอย่างสงบดีแล้วเรนยะก็พบว่าคุณแม่ของเขานั้นได้ถอดผ้าคลุมอกออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไรโค : แหม ~ Master ใช้ได้หรือเปล่าคะ ? ดิฉันในตอนนี้
เลเวลของไรโคได้เปลี่ยนไปเป็น 50/60 และเรนยะเห็นได้ชัดเลยว่าไรโคในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าก่อนปลดขีดจำกัดให้เสียอีก
ร่างแยกของเขาระเบิดเป็นว่าเล่นแต่เรนยะก็ได้รับประสบการณ์มาเยอะพอสมควรรวมถึงความเจ็บปวดตอนเกิดระเบิดด้วยเป็นของแถม
จนในที่สุดเรนยะก็ทำสำเร็จจนได้โดยเรนยะได้ผสานจักระ
ดิน ไฟ ลม เข้าด้วยกันจนสำเร็จแปลว่าเรนยะสามารถฝึกและใช้คาถาธุลีได้เช่นเดียวกับซึจิคาเงะรุ่นที่2และ3แล้ว
เรนยะที่ทำสำเร็จก็ดีใจมากเพราะขีดจำกัดสายเลือดนี้เรียกได้ว่าร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของโลกนินจาเลยทีเดียวเรนยะกะว่าตัวเขาจะแอบลอบเข้าไปขโมยคำภีร์คาถาลอยตัวและคาถาธุลีจากซึจิคาเงะที่หมู่บ้านอิวะงาคุเระ(หินผา)มาฝึกถ้าตนมีเวลาว่าง
เรนยะได้ฝึกจนตัวของเขานั้นลืมเวลาพอรู้ตัวอีกทีก็พบว่านี่เป็นตอนเย็นแล้ว
เรนยะ : (จะว่าไปปู่รุ่นที่3คงจะรู้เรื่องแผนถล่มโคโนฮะของพวกนินจาซึนะและพวกนินจาโอโตะแล้วสินะวันนี้เราถึงไม่ค่อยเห็นพวกนินจาในหมู่บ้านเลยคงกำลังประชุมกันอยู่แน่ๆเอาเถอะปู่แกคงมีแผนรับมือแล้วละมั้งถ้าจวนตัวเราค่อยไปช่วยละกัน)
เรนยะได้ตัดสินใจจบการฝึกของวันนี้และไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมอินามิตามประสาเพื่อนร่วมทีม
เมื่อเรนยะมาถึงและได้แจ้งเรื่องขอเยี่ยมคนไข้ที่เคาน์เตอร์พยาบาลแต่วันนี้เขากลับไม่เจอมากิและคารินเขาจึงได้ถามนางพยาบาลไปเพราะสงสัยก็ได้รู้ว่าวันนี้พวกเธอทั้งสองเปลี่ยนเวรกลับบ้านไปแล้วเมื่อไม่นาน
เรนยะได้เข้ามาเยี่ยมอินามิที่ห้อง VIP พอเปิดประตูเข้าไปเรนยะก็พบกับอินามิกำลังนั่งอยู่ที่เตียงและอ่านหนังสืออยู่เงียบๆเรนยะจึงได้เรียกทักไป
เรนยะ : “ไงสบายดีไหม”
อินามิ : “อะไรกันนายเองเหรอเรนยะแล้วของฝากละ”
อินามิได้แบมือขอของฝากจากเรนยะ
เรนยะ : “ขอโทษทีพอดีว่าฉันไม่ได้ซื้อมาน่ะ”
อินามิ : “ชิ ! มาเยี่ยมแต่ไม่มีของฝากเนี่ยนะตาซื้อบื้อ ขนาดอาจารย์เอรินะยังเอาหนังสือมาให้ฉันอ่านแก้เบื่อเลยนะ”
เรนยะ : “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพอเธอหายดีแล้วฉันจะพาเธอไปทานเนื้อย่างสุดหรูละกัน”
อินามิ : “อย่ากลับคำพูดซะละ !”
อินามิได้พูดย้ำไม่ให้เรนยะลืมคำที่เขาพูดว่าจะพาไปเลี้ยงเนื้อย่างสุดหรู
เรนยะ : (นำ้ลายไหลแล้ว ~ แม่คุณ)
----------- -------------
บรรยากาศนั้นเงียบมากเพราะทั้งสองไม่ได้พูดอะไรต่อแต่สักพักอินามิก็ได้เป็นฝ่ายพูดขึ้น
อินามิ : “ได้ข่าวว่านายต้องสู้กับชินเรนในวันประลองสินะ”
เรนยะ : “ใช่”
อินามิ : “งั้นฉันแนะนำให้นายยอมแพ้ไปซะเถอะ”
เรนยะ : . . . . . .
อินามิ : “ฉันได้ยินมาจากอาจารย์เอรินะแล้วนะว่ามีดของนายถึงกับพังด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากเจ้านั่นพวกเราเป็นนินจาที่ใช้อาวุธเหมือนๆกันฉันจึงรู้ข้อจำกัดของนายดีนินจาสายอาวุธอย่างพวกเราน่ะถ้าศัตรูฟันแทงไม่เข้าก็เท่ากับโอกาสแพ้ก็มากเกินครึ่งแล้วนะ”
เรนยะ : . . . . . .
อินามิ : “แถมอีกฝ่ายยังเป็นสายเลือดคัดสรรและยังไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำถ้าไม่ได้นายช่วยเอาไว้ฉันคงจะตายไปแล้วนายอยากจะเป็นเหมือนกับฉันงั้นหรือไง”
เรนยะไม่ได้ตอบอะไรอินามิและได้เดินไปที่ประตูเตรียมจะจากไปอินามิที่เห็นแบบนั้นจึงได้ขึ้นเสียงใส่เรนยะด้วยความโกรธที่เพื่อนชายของเธอไม่ฟังคำเตือน
อินามิ : “นายอยากจะตายงั้นหรือไง เรนยะ !!! แฮ่ก แฮ่ก”
สุดท้ายเรนยะก็ได้ตอบอินามิกลับไปทั้งที่ยังหันหลังอยู่
เรนยะ : “ก็จริงอยู่ . . ถ้าฉันไปสู้กับเจ้าชินเรนในวันประลองฉันอาจจะตายก็ได้ . . . แต่ถ้าฉันมาแพ้ตรงนี้ความฝันของฉันก็คงจะไม่มีวันเป็นจริง . . . ใช่ . . . ถ้าฉันไปสู้ก็อาจจะตายหรือไม่ก็ต้องเป็นเหมือนกับเธอ . . . แต่ว่า . . ถ้าฉันยอมแพ้และหนีเจ้านั่นไปจริงๆละก็ฉันต้องตายแน่ๆ . . . ความฝันของฉันจะต้องถูกฆ่าตายและอาจจะเอามันกลับมาอีกไม่ได้แน่ๆสำหรับฉันถ้าต้องสูญเสียความฝันก็ไม่ต่างอะไรจากตายหรอก”
เรนยะที่พูดจบแล้วก็ได้เปิดประตูออกไปทันทีโดยที่มีเสียงของอินามิไล่หลังตัวเขามาด้วย
อินามิ : “นายต้องชนะและห้ามตายแล้วต้องพาฉัน มากิและอาจารย์เอรินะไปทานเนื้อย่างให้ได้ สัญญานะเรนยะ !!!”
----------- -------------
เวลาได้ไหลผ่านไปรู้ตัวอีกทีก็เหลือแค่หนึ่งวันสุดท้ายก่อนการประลอง
การประสานคุณสมบัติธาตุ4อย่างของเรนยะก็ยังคงล้มเหลวและเกิดระเบิดตูมตามมาตลอดที่ผ่านมา
เรนยะ : “เห้อ ~ สงสัยเราต้องพึ่งระบบวีรชนซะแล้วละมั้งอีแบบนี้”
เรนยะได้ใช้สิทธิ์การสุ่มรวมทั้งตั๋วด้วยซึ่งระบบก็ให้การ์ดExpเกลือๆมาเยอะตามสูตรแต่ในขณะที่เรนยะกำลังปลงอยู่นั้นการ์ดใบสุดท้ายกลับทำให้เรนยะดีใจกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว
เรนยะ : “พรุ่งนี้ได้สนุกแน่ ชินเรน หึ หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า !!!”
ริว : “เอาละนี่เป็นข้อมูลและคาถานินจาที่เธอต้องการตามที่ตกลงกันเอาไว้ตอนแรก”
ริวได้ส่งมอบม้วนคำภีร์ที่ผนึกพวกของที่เรนยะได้ขอเอาไว้ในตอนแรกซึ่งเรนยะก็รับมาก่อนจะนำข้อมูลของชินเรนออกมาเปิดอ่านตรงนั้นเลย
!!!
เรนยะ : “เป็นพวกตระกูลชั้นสูงของหมู่บ้านทากิสินะครับ”
ริว : “ใช่ในสมัยสงครามโลกนินจาครั้งที่2ตระกูลยาโตะนับเป็นตระกูลที่เก่าแก่พอสมควรพวกเขามีความสามารถในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของจักระที่แข็งแกร่งมากทำให้พวกเขาสร้างเกราะจักระที่มีชั้นบางๆจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าครอบคลุมทั่วทั้งร่างกายเพื่อป้องกันการโจมตีรูปแบบต่างๆได้ขีดจำกัดสายเลือดนี้เรียกว่าเกราะดำและด้วยการแต่งงานทางการเมืองของตระกูลยาโตะทำให้ตระกูลของพวกเขาให้กำเนิดสายเลือดคัดสรรขึ้นมาก็คือ ยาโตะ ชินเรน ที่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไปโดยเกราะของเขามีสีขาวที่แตกต่างจากเกราะสีดำที่เป็นสายเลือดดั้งเดิมและยังแข็งแกร่งมากกว่าเกราะปกติอีกด้วย”
เรนยะ : “แถมเกราะของพวกเขาที่นอกจากจะป้องกันคาถานินจาได้เกือบทุกประเภทแล้วยังใช้เกราะนั่นเพื่อการโจมตีศัตรูได้อีกด้วย”
ริว : “ถูกต้องและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้คาถาเฉพาะตัวของ ยาโตะ ชินเรน ที่ใช้การผสานคุณสมบัติทั้งสามธาตุเลยว่ามันเป็นคาถาแบบไหนเพราะหมู่บ้านนินจาของทากิโนะคุนินั้นค่อนข้างที่จะลึกลับทำให้ทางเราหาข้อมูลค่อนข้างจะยาก”
เรนยะ : “เข้าใจแล้วขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณริว”
ริว : “ฉันสิที่ต้องขอบคุณเธอ อาคุสะ เรนยะ นินจาแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ”
!!!
เรนยะ : “แหม ~ ความแตกซะได้สมกับเป็นเจ้าพ่อใต้ดินจริงๆ”
ริว : “หึ หึ หึ เอาเถอะใช้ชื่อปลอมมันก็เป็นเรื่องปกติในที่แห่งนี้อยู่แล้วละนะฉันจะเรียกเธอว่าโอคามิเหมือนเดิมก็แล้วกันขอให้เธอโชคดีในการสอบจูนินละฉันอาจจะไปดูด้วยในวันแข่ง”
เรนยะ : “ยินดีครับ”
ริว : “เช่นกันยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน โอคามิ”
ทั้งสองได้จับมือรำลาแต่ก่อนที่จะออกจากห้องเรนยะก็ได้รับคำเตือนมาจากริว
ริว : “อีกอย่างนะโอคามิ เธอระวังเจ้า อิบาชิเอาไว้หน่อยก็ดีนะเพราะเจ้าหมอนั่นมันมีข่าวลือว่าเวลาเจรจากับคู่ค้าและไม่ถูกใจกับเงื่อนไขที่ตัวมันได้รับมันจะชอบส่งนินจาที่มันจ้างเอาไว้ไปตามเก็บทีหลังตลอด”
เรนยะ : “เจ้าหมูตอนนั่นน่ะเหรอ . . ขอบคุณสำหรับคำเตือนผมไปก่อนนะ”
ริว : “โชคดี”
เรนยะได้เดินออกมาจากกลุ่มใต้ดินและเดินทางออกจากเมืองซากะทันทีโดยที่ไม่ได้ใช้ลบตัวตนในระหว่างการเดินทางและเมื่อตัวของเขาได้เดินทางกลับโคโนฮะมาครึ่งทางแล้วนั้นจู่ๆเหล่า Servant ของเรนยะก็ได้เตือนเขาว่ามีคนกำลังตามเขามาจำนวน6คน
หนูเงียบ : “Master มีคนตามท่านมาค่ะ”
แขนต้องสาป : “ขอคำสั่งด้วยครับ Master”
ไรโค : “ลูกอยากให้แม่คนนี้จัดการให้เสร็จๆไปเลยไหมจ้ะ”
เรนยะที่เห็นว่าเหล่า Servant ของเขากำลังคันไม้คันมืออยากจะสู้ซะเหลือเกินเรนยะก็เลยได้ออกคำสั่ง
เรนยะ : “ในเมื่อพวกมันอยากจะเล่นกับพวกเรางั้นก็มาเล่นกับพวกมันกันเถอะ”
----------- -------------
ผ่านไปไม่นานในจุดที่เรนยะเคยอยู่ก็ได้มีนินจาใส่ชุดดำปกปิดใบหน้าจำนวน6คนกำลังมองสำรวจรอบๆและตรวจร่องรอยที่พื้นดิน
นินจา 1 : “ร่องรอยมันหายไปตรงนี้”
นินจา 2 : “มันคงจะเริ่มรู้ตัวแล้วละ”
นินจา 3 : “มันคงไปได้ไม่ไกล”
นินจา 4 : “งั้นแยกกันค้นหาเถอะ”
ทั้ง6คนได้ตัดสินใจแยกย้ายกันค้นหาตัวของเด็กผมทอง
เมื่อหาบริเวณนี้จนทั่วแล้วก็หาไม่เจอทั้ง6คนจึงได้กลับมาเจอกันที่เดิม
นินจา 1 : “หามันเจอไหม ?”
นินจา 2 : “ทางฉันไม่เจอแล้วนายละ”
นินจา 3 : “เหมือนกัน”
นินจา 4 : “เดี๋ยวนะแล้วอีก2คนอยู่ไหน”
ระหว่างที่กำลังสุมหัวกันนั้นจู่ๆทั้ง4คนที่เหลือก็ได้ยินเสียงร้องของพรรคพวกของพวกเขา
อ้ากกกกกก !!!!!!
!!!
นินจา 1 : “ทางนั้นไปเร็ว !!!”
พวกเขาทั้งหมดอีก4คนได้มุ่งหน้าไปตามทิศทางของเสียงร้องก็พบว่าพวกของเขาคนหนึ่งกำลังนอนแน่นิ่งมีเลือดไหลออกจากคอและคนที่2ถูกเชือกผูกขาห้อยกลับหัวที่ไร้ซึ่งการตอบสนอง
ทั้ง4คนได้รีบเข้ามาตรวจดูก็พบว่าคนแรกถูกเชือดคอซึ่งคาดว่าหน้าจะโดนลอบสังหารส่วนอีกคนที่ห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ที่พวกเขาเอาลงมานั้นไม่มีบาดแผลภายนอกเลยแต่เขากลับไม่หายใจอีกต่อไปแล้ว
นินจา 2 : “หมายความว่ายังไงกันสาเหตุการตายของหมอนี่แปลกประหลาดชะมัด”
นินจา 1 : “ไม่หรอกลองดูนี่”
นินจา1ได้นำมีดคุไนออกมาและลองเฉือนเนื้อของคนที่ถูกจับห้อยหัวบนต้นไม้ที่ไม่มีบาดแผลภายนอกและพอมีดบาดศพจนเลือดไหลออกมาแล้วนั้นพวกเขาทั้ง4คนก็รู้สึกตกใจมาก
!!!
เลือดที่ไหลออกมาจากศพถึงกับละลายพื้นดินเป็นหลุมลึกไม่ต่างจากกรดส่วนคุไนที่ใช้พิสูจน์ก็ถึงกับละลายจนเหลือแต่ด้ามจับเลยทีเดียว
นินจา 4 : “อึก ! นี่มันพิษงั้นเรอะ”
นินจา 1 : “เป็นพิษที่ร้ายกาจมากถึงขนาดทำให้เลือดในร่างกายกลายสภาพได้แบบนี้”
นินจา 3 : “ถ้าให้คาดเดาเจ้านั้นคงจะใช้พิษฆ่าพวกเราคนแรกและก็เอาศพไปแขวนห้อยหัวเอาไว้บนต้นไม้และดักรอคนที่จะมาพบศพและจัดการลอบสังหารโดยทำการเฉือดคอที่เส้นเลือดใหญ่ซึ่งเป็นจุดตายเจ้าเด็กนี่ฉลาดเอาเรื่องเลยละ”
นินจา 2 : “เดี๋ยวนะ !!! คาถาตรวจจับของฉันตรวจเจอคนๆหนึ่งข้างหน้านี่ไม่ไกลนัก”
นินจา 3 : “ที่ข้างหน้านั้นสินะไปกันเถอะพวกเราจะกลับไปมือเปล่าไม่ได้”
ทั้ง4คนได้มุ่งหน้าไปยังจุดที่คาถาตรวจจับจับสัมผัสได้และเมื่อมาถึงทั้ง4คนก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งได้รออยู่แล้วโดยที่ด้านหลังของเธอมีเป้าหมายของพวกเขาที่กำลังยิ้มทำหน้าระรื่นอยู่
เรนยะ : “ยินดีต้อนรับชอบของขวัญของผมไหม ฮิ ฮิ”
ทั้ง4คนที่เห็นเป้าหมายของพวกเขาแล้วนั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ทันที
เรนยะ : “เอาเลยครับไรโคผมอนุญาตให้ใช้โฮกุได้เลยครับ”
ไรโค : “ตามที่ Master บัญชา ไรโคผู้นี้จักกลายเป็นยักษา !!!จงออกมาซะสี่จตุรเทพ ไม่สิ เหล่าผู้ส่งสารแห่งราชันย์สวรรค์โกซุ จงรับรูปลักษณ์และความทรงจำแห่งข้าไปเสีย . . . ”
จู่ๆนินจาทั้ง4คนก็เห็นว่ารอบตัวของไรโคหญิงสาวตรงหน้าที่ขวางทางของพวกตนนั้นได้มีสายฟ้า4สี(ตามสีอาวุธ)ได้ผ่าลงมารอบตัวของหญิงสาวคนนั้นและเมื่อแสงสายฟ้าหายไปพวกเขาทั้ง4คนก็พบว่าได้มีร่างอีก4ร่างที่เหมือนกับผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่รอบตัวของเธอซึ่งพวกเขาก็คิดว่าพวกนั้นคือร่างแยกธรรมดาก็เตรียมที่จะเข้าปะทะทันที
แต่ถ้าสังเกตดีๆก็จะพบว่าร่างแยกของไรโคนั้นจะถืออาวุธที่แตกต่างกันอยู่ถึง4แบบ ซึ่งโฮกุของไรโคนั้นคือ
Goo Shorai Tenmokaikai (โก โอวโชวไร เทนโมวไคไค) / ราชาวัวอัญเชิญสายฟ้าตาข่ายสวรรค์ไร้ทางเลี่ยง
โฮกุประเภท : ต่อต้านกองทัพ
ระดับ : B++
-ความสามารถในการเรียกอีกตัวตนของเธอออกมาหรือเรียก อุชิ โกเซ็น(ปีศาจวัว)โดยเธอจะอัญเชิญเหล่าอุชิโกเซ็นออกมาช่วยต่อสู้ถึง4ตนโดยแต่ละตนนั้นจะมีความสามารถเหมือนกับเธอทุกอย่างแต่จะแตกต่างกันตรงอาวุธที่แต่ละตนถือซึ่งอาวุธทั้ง4นั้นจะเป็นอาวุธของเหล่า4ราชันย์สวรรค์ที่เป็นสหายศึกของเธอในครั้งที่เธอยังมีชีวิต โดยจะมี
ขวานของซากาตะ คินโทกิ(ขวานสายฟ้าสีเหลือง)
ดาบของวาตานาเบะ ซึนะ (ดาบเพลิงสีแดง)
หอกของอุซุย ซาดามิทสึ(หอกปราบปีศาจสีขาว)
ธนูของอุราเบะ ซุเอทากะ(ธนูลมสีเขียว)
ไรโคที่ถือธนูได้ง้างธนูยิงลูกศรที่เคลือบสายลมอันรุนแรงยิงเข้าใส่นินจาผู้โชคร้ายจนกระเด็นออกไปทำให้พวกนินจาที่เหลือตกใจมากเพราะลูกศรนั้นมันเร็วเอามากๆแถมไม่หมดแค่นั้นสายลมที่สถิตย์อยู่กับลูกศรที่ยิงนั้นเมื่อปะทะกับนินจาคนนั้นแล้วมันยังสร้างลมพายุออกมาโดยรอบทำให้อีก3คนที่เหลือไม่ทันตั้งตัวกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
เรนยะ : “เสร็จไปหนึ่ง”
นินจาพวกนั้นได้พยายามลุกขึ้นแต่ไรโคที่ถือขวานเล่มยักษ์สีเหลืองได้กระโดดขึ้นฟ้าและกระโดดลงมาสับนินจาอีกคนจนเลือดสาดกระจาย
เรนยะ : “เสร็จไปสองเหลืออีกสอง”
นินจาอีกคนที่กำลังจะลุกขึ้นมาได้ก็ถูกไรโคที่ถือดาบเพลิงฟันเข้าที่กลางลำตัวแถมตัวดาบยังส่งเปลวไฟแผดเผานินจาคนนั้นจนสลายหายไปขนาดเลือดจากปากแผลตอนที่ฟันยังระเหยไปไม่เหลือสักหยด
ส่วนนินจาคนสุดท้ายนั้นเมื่อเห็นว่าพวกของเขาได้ตายหมดแล้วก็คิดที่จะหนีแต่ในขณะที่จะหนีไรโคที่ถือหอกก็ได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนนินจาคนสุดท้ายหลบไม่ทันทำให้แขนข้างซ้ายได้ถูกหอกตวัดฟันจนขาดกระเด็นไป
อ้ากกกก !!!
นินจา 1 : อึก ! บัดซบเอ๊ย !!!
แต่ถึงแขนจะขาดไปแล้วแต่นินจาคนสุดท้ายกลับไม่ยอมแพ้มันยังคงวิ่งหลบเข้าไปในป่าอย่างไม่คิดชีวิตแต่ไรโคร่างต้นได้เตรียมง้างดาบที่เต็มไปด้วยสายฟ้าที่ดูเกรี้ยวกราดและตวัดฟันสายฟ้าเข้าใส่ป่าที่นินจาคนสุดท้ายหนีไป
ไรโค : “โก โอวโชวไร เทนโมวไคไค!” (ราชาวัวอัญเชิญสายฟ้าตาข่ายสวรรค์ไร้ทางเลี่ยง)
สายฟ้าที่รุนแรงของไรโคได้เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วเข้าทำลายทุกสิ่งทุกอย่างด้านหน้าจนเกิดแสงสว่างจนแสบตาและเสียงระเบิดของสายฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว
ตู้ม !!!!!!
พอเรนยะเปิดตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าเขาถึงกับทึ่งในพลังทำลายล้างโฮกุของคุณแม่ไรโคจนอ้าปากค้าง
เรนยะพบว่าป่าด้านหน้าที่ถูกโฮกุของไรโคเข้าไปจากป่าไม้สีเขียวกลับกลายเป็นที่ราบรกล้างมีคราบเขม่าสีดำอยู่ตามพื้นและพวกต้นไม้ใบหญ้าได้ถูกสายฟ้าที่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายนั้นทำลายหายไปทั้งหมด
เรนยะ : (พอให้ Servant ใช้โฮกุโดยไม่ใช้พลังของตราเรย์จูแล้วเนี่ยจักระของเราหายไปเยอะเอาเรื่องเลยแหะทำเอาจักระของเราเหลือแค่40เปอร์เซนต์เองแต่ก็นะไม่คิดเลยว่าโฮกุของไรโคจะถึงกับเปลี่ยนภูมิประเทศได้แบบนี้ นี่ขนาดยังไม่ได้ปลดขีดจำกัดให้นะเนี่ยแม่จ๋าจะโหดเกินไปแล้ว!)
การต่อสู้ . . ไม่สิการสังหารโหดฝ่ายเดียวของไรโคจบลงภายในเวลาแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น
ติ้ง !!!
เรนยะได้ดูที่กล่องจดหมายของระบบก็พบว่าเขาได้รับตั๋วมาจากที่ไรโคจัดการพวกนินจาของอิบาชิทั้งหมดคนละสองใบถ้าร่วมกับของบาบะในตอนนี้เรนยะก็มีตั๋วทั้งหมดอยู่จำนวน 15ใบ
ไรโค : “ฟู่...การต่อสู้เนี่ย เป็นสิ่งที่รุนแรงจริงๆนะคะ”
ไรโคได้เก็บดาบและยกเลิกการใช้โฮกุของตนทำให้ร่างที่เธออัญเชิญมา4ร่างได้หายไป
เรนยะ : (คุณสิไม่ว่าที่เป็นสิ่งรุนแรงน่ะ) “เห้อ ~ พวกเรารีบไปกันเถอะครับ”
ไรโคได้กลายสภาพเป็นร่างวิญญาณตามเดิมเรนยะได้ใช้ลบตัวตนและก็เริ่มออกเดินทางกลับโคโนฮะต่อทันทีเพราะตัวเขาฟื้นฟูจักระได้เร็วอยู่แล้วทำให้ไม่จำเป็นต้องหยุดพักแถมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องมีคนออกมาตรวจสอบแน่ๆแต่ก่อนจะออกเดินทางนั้นเรนยะก็ได้สั่งงานกับฮัซซันทั้งสองตนก่อนไป
เรนยะ : “แขนต้องสาปกับความเงียบพวกนายทั้งสองคนไปจัดการกับเจ้าอ้วนอิบาชิซะและก็นี่อย่าลืมเอาของมีค่าของมันใส่ผนึกเอาไว้ในคำภีร์มาด้วยละพวกนายคงรู้วิธีใช้มันนะ”
แขนต้องสาป : “รับทราบครับ Master”
หนูเงียบ : “แน่นอนค่ะ Master”
เรนยะ : “เมื่อพวกนายเสร็จงานแล้วก็รีบกลับมาหาผมที่โคโนฮะเอาละไปได้แล้ว”
ฮัซซันทั้งสองได้ออกเดินทางไปทำตามที่ Master ของตนสั่งส่วนเรนยะก็ได้เดินทางกลับโคโนฮะตามเดิม
----------- -------------
ทางด้านอิบาชิ
อิบาชิ : “เจ้า6คนนั่นใช้เวลานานเสียจริงไม่ได้เรื่องเอาซะเลย”
ณ โรงแรงห้าดาวในเมืองซากะอิบาชิกำลังนั่งดื่มไวน์แดงรอการกลับมาของพวกหกนินจาที่กำลังไปไล่ล่าเด็กสวมหน้ากากกะโหลกคนนั้นที่ทำให้เขาแพ้พนันแต่ตอนนี้มันก็เริ่มจะนานมากแล้วโดยไม่รู้ตัวเลยว่าเหล่าคนที่เขาส่งไปได้ถูเก็บไปหมดแล้ว
อิบาชิ : “เดี๋ยวพวกมันก็คงกลับมาตอนนี้เราไปที่โกดังที่เราเช่าเก็บพวกของที่พวกเราประมูลได้มาดีกว่า”
อิบาชิที่รอนานจนรู้สึกเบื่อก็ได้เดินออกไปจากโรงแรมและมุ่งหน้าไปยังโกดังที่ตนได้เช่าเอาไว้ภายในเมืองซากะเพื่อชื่นชมสมบัติที่ตนประมูลได้มา
โดยปกติพวกเศรษฐีที่มาประมูลสินค้าหรือมาเที่ยวสนุกนั้นส่วนมากมักจะมาเช่าโกดังเก็บของเอาไว้เพื่อความปลอดภัยขณะที่ตนท่องเที่ยวอยู่ในเมืองและเมื่อซื้อของอะไรก็ตามจะมีบริการขนมาเก็บเอาไว้ในโกดังในเมืองนั้นๆเมื่อเที่ยวจนพอใจแล้วเวลากลับจะได้มาขนของที่ตนฝากเอาไว้กลับบ้านของตนในทีเดียว
อิบาชิได้ยื่นป้ายหมายเลขโกดังของตนให้แก่พนักงานดูเมื่อยืนยันหมายเลขของป้ายเสร็จแล้วนั้นพนักงานก็ได้ปล่อยให้อิบาชิเข้าไปได้
ขณะที่อิบาชิได้ชื่นชมสมบัติที่เขาประมูลมาได้นั้นจู่ๆเขาก็เหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากข้างหลังแต่ยังไม่ทันได้หันกลับไปดูเขาก็ถูกมีดคุไนเล่มหนึ่งปักเข้าที่ขาความเจ็บปวดครั้งแรกในชีวิตทำให้เขาถึงกับร้องเป็นเป็นหมูถูกเชือด
ฉึก !!! อ้ากกกก !!!
พออิบาชิร้องจนพอบรรเทาความเจ็บปวดลงแล้วเขาก็ได้ลืมตามองคนที่ทำร้ายเขาก็พบกับผู้ชายกับผู้หญิงผิวดำเมี่ยมใส่หน้ากากกะโหลก(ตอนหนูเงียบทำงานลอบสังหารเธอจะใส่หน้ากากกะโหลกฮัซซัน)เหมือนกับของเด็กผมทองที่เขาได้สั่งให้นินจาของเขาไปฆ่าเพราะทำให้ตนเสียเงินพนัน
อิบาชิ : “น . . นี่พวกแก”
แขนต้องสาป : “ตายซะ”
แขนต้องสาปไม่พูดพร่ำทำเพลงโยนมีดเข้าใส่อิบาชิตัดขั้วหัวใจของเขาจนตายทันที
ส่วนหนูเงียบก็ได้ทำการกวาดสมบัติทั้งหมดของอิบาชิที่อยู่ในโกดังเข้ามาในคำภีร์เก็บของที่เรนยะได้เตรียมเอาไว้ให้
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนั้นฮัซซันทั้งสองก็ได้ออกมาจากโกดังโดยทิ้งศพของอิบาชิเอาไว้และเดินทางกลับโคโนฮะตามคำสั่งของ Master ของตนทันที
----------- -------------
ในที่สุดเรนยะก็ได้เดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านโคโนฮะเรียบร้อยหลังจากที่เข้ามาในหมู่บ้านแล้วเรนยะก็ได้เลิกใช้ลบตัวตนทันทีและเดินไปตลาดเพื่อซื้อของตามปกติ
เรนยะได้เดินไปตลาดขายของของโคโนฮะเพื่อซื้อวัตถุดิบทำอาหารให้แก่คุณแม่ไรโคเพราะตอนนี้มันก็เริ่มจะเย็นมากแล้ว
แต่ระหว่างที่เรนยะกำลังเดินกลับบ้านเขาก็ถูกเรียกโดยคนๆหนึ่ง
? : “เห้ ! เธอน่ะ !!!”
เรนยะได้หยุดเท้าแล้วหันมามองคนที่เรียกเขาก็พบว่าเป็นจิไรยะหนึ่งในสามนินจาในตำนานผู้โด่งดัง
เรนยะ : “มีอะไรครับลุง”
จิไรยะที่ถูกเรียกว่าลุงก็คิ้วกระตุกก่อนจะเก๊กท่าประจำของตนที่คิดว่าเท่ออกมา
จิไรยะ : “ชิชะ ! เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นนำ้นมมาเรียกใครว่าลุงมิทราบ ฉันคือเซียนกบแห่งภูเขาเบียวโบคุ หนึ่งในสามนินจาที่แม้แต่เด็กร้องไห้ยังต้องเงียบ ท่านจิไรยะ ไงละ !!!”
เรนยะ : . . . . . .
จิไรยะ : “ฮี่ ฮี่ ตะลึงไปเลยละสิเจ้าหนู”
เรนยะ : “ครับๆแล้วคุณมีอะไรกับผมเหรอ คุณจิไรยะ”
จิไรยะ : “เธอชื่ออะไรเจ้าหนู ?”
เรนยะ : “อาคุสะ เรนยะครับ”
จิไรยะ : “แล้วใครเป็นคนสอนวิชาให้เธอกันช่วยบอกฉันมาหน่อยสิ”
เรนยะ : ครูโจนินของผมคืออาจารย์เอรินะที่เป็นคนตระกูล
ฮิวงะ แต่ส่วนมากผมจะฝึกวิชาเอาเองเสียมากกว่าครับ
จิไรยะ : “อืม ~”
เรนยะ : “มีอะไรหรือป่าวครับ ?”
จิไรยะ : “ไม่ละเธอไปเถอะโทษทีที่รบกวน”
จิไรยะได้กลายเป็นควันและหายไปตามแบบนินจา
เรนยะ : “ประหลาดคนชะมัด รีบกลับบ้านดีกว่า”
บนตึกด้านบนจิไรยะยังคงแอบเฝ้าดูเรนยะอยู่เหมือนเดิมเพราะตนนั้นสงสัยกลิ่นอายและบรรยากาศในตัวของเด็กที่ชื่อเรนยะ
จิไรยะ : (น่าแปลก . . เด็กคนนั้นมีพลังงานธรรมชาติในตัวอยู่หนาแน่นมากราวกับคนฝึกวิชาเซียนจนชำนาญแล้วเลยแหะ)
ด้วยสกิลความเป็นเทพระดับA ของเรนยะทำให้จิไรยะนั้นเข้าใจผิดไปว่าเรนยะคือผู้ฝึกวิชาเซียนที่เก่งกาจคนหนึ่ง
จิไรยะ : “ช่างเถอะเราก็ไปเก็บข้อมูลเพิ่มมาเขียนนิยายดีกว่า”
และแล้วจิไรยะก็ได้ทิ้งเรื่องของเรนยะแล้วไปเก็บข้อมูลที่อ่างอาบนำ้ร้อนทางฝั่งผู้หญิงตามกิจวัตรประจำวันของตน
----------- -------------
เช้าวันต่อมา
เรนยะได้ตื่นขึ้นโดยมีไรโคกับหนูเงียบนอนกอดอยู่เรนยะได้ทำการทานข้าวเช้าที่ไรโคทำเมื่อทานข้าวเช้าเสร็จแล้วเรนยะก็ได้ออกไปที่สนามฝึกเพียงลำพังโดยเรนยะได้นำคัมภีร์นินจาระดับตำ่ที่ริวให้มาตามข้อตกลงและคำภีร์คาถานำ้ที่ตนได้มาจากพวกนินจาคิริตอนขากลับจากภารกิจนอกหมู่บ้านครั้งนั้นมาเปิดอ่านแล้วเริ่มฝึกคาถาทุกเล่มจนชำนาญ
ด้วยการสู้กับบาบะในลานประลองใต้ดินทำให้เรนยะได้รับคุณสมบัติจักระสายฟ้ามาซึ่งก็หมายความว่าตอนนี้เรนยะได้มีคุณสมบัติจักระครบทุกธาตุแล้วนั่นเอง
เพราะแทบไม่มีใครรู้เรื่องวิชาเซียนเลยทำให้ทุกคนเข้าใจกันไปเองว่าคาถาไม้คือคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งก็อาจจะไม่ผิดนักแต่ตัวของเรนยะกลับคิดว่าไม่ว่าคาถาอะไรก็ตามที่ใช้ออกด้วยพลังงานธรรมชาติมันก็จะกลายเป็นคาถาเซียนที่ทรงพลังอยู่แล้ว
เรนยะได้เริ่มการผสานสามคุณสมบัติต่อทันทีแต่ในการฝึกการผสานสามคุณสมบัตินั้นเรนยะได้ให้ร่างแยกของตนเป็นคนทำแทนเพราะเขาเข็ดแล้ว
เรนยะที่เบื่อเพราะรอร่างแยกของตนฝึกนั้นก็ได้เรียกระะบบและนำการ์ดExpเพิ่มเลเวลให้แก่ไรโคจนเต็ม 50/50 และไม่รอช้าเรนยะได้ปลดขีดจำกัดให้คุณแม่ไรโคทันที
ตัวของไรโคได้ส่องแสงออกมาและสายลมได้พัดบริเวณนี้อย่างรุนแรงมากจนเรนยะที่เป็นร่างแยกเสียสามาธิทำธาตุที่กำลังผสานระเบิดไปหลายคนเลยทีเดียวและเมื่อทุกอย่างสงบดีแล้วเรนยะก็พบว่าคุณแม่ของเขานั้นได้ถอดผ้าคลุมอกออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไรโค : แหม ~ Master ใช้ได้หรือเปล่าคะ ? ดิฉันในตอนนี้
เลเวลของไรโคได้เปลี่ยนไปเป็น 50/60 และเรนยะเห็นได้ชัดเลยว่าไรโคในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าก่อนปลดขีดจำกัดให้เสียอีก
ร่างแยกของเขาระเบิดเป็นว่าเล่นแต่เรนยะก็ได้รับประสบการณ์มาเยอะพอสมควรรวมถึงความเจ็บปวดตอนเกิดระเบิดด้วยเป็นของแถม
จนในที่สุดเรนยะก็ทำสำเร็จจนได้โดยเรนยะได้ผสานจักระ
ดิน ไฟ ลม เข้าด้วยกันจนสำเร็จแปลว่าเรนยะสามารถฝึกและใช้คาถาธุลีได้เช่นเดียวกับซึจิคาเงะรุ่นที่2และ3แล้ว
เรนยะที่ทำสำเร็จก็ดีใจมากเพราะขีดจำกัดสายเลือดนี้เรียกได้ว่าร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของโลกนินจาเลยทีเดียวเรนยะกะว่าตัวเขาจะแอบลอบเข้าไปขโมยคำภีร์คาถาลอยตัวและคาถาธุลีจากซึจิคาเงะที่หมู่บ้านอิวะงาคุเระ(หินผา)มาฝึกถ้าตนมีเวลาว่าง
เรนยะได้ฝึกจนตัวของเขานั้นลืมเวลาพอรู้ตัวอีกทีก็พบว่านี่เป็นตอนเย็นแล้ว
เรนยะ : (จะว่าไปปู่รุ่นที่3คงจะรู้เรื่องแผนถล่มโคโนฮะของพวกนินจาซึนะและพวกนินจาโอโตะแล้วสินะวันนี้เราถึงไม่ค่อยเห็นพวกนินจาในหมู่บ้านเลยคงกำลังประชุมกันอยู่แน่ๆเอาเถอะปู่แกคงมีแผนรับมือแล้วละมั้งถ้าจวนตัวเราค่อยไปช่วยละกัน)
เรนยะได้ตัดสินใจจบการฝึกของวันนี้และไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมอินามิตามประสาเพื่อนร่วมทีม
เมื่อเรนยะมาถึงและได้แจ้งเรื่องขอเยี่ยมคนไข้ที่เคาน์เตอร์พยาบาลแต่วันนี้เขากลับไม่เจอมากิและคารินเขาจึงได้ถามนางพยาบาลไปเพราะสงสัยก็ได้รู้ว่าวันนี้พวกเธอทั้งสองเปลี่ยนเวรกลับบ้านไปแล้วเมื่อไม่นาน
เรนยะได้เข้ามาเยี่ยมอินามิที่ห้อง VIP พอเปิดประตูเข้าไปเรนยะก็พบกับอินามิกำลังนั่งอยู่ที่เตียงและอ่านหนังสืออยู่เงียบๆเรนยะจึงได้เรียกทักไป
เรนยะ : “ไงสบายดีไหม”
อินามิ : “อะไรกันนายเองเหรอเรนยะแล้วของฝากละ”
อินามิได้แบมือขอของฝากจากเรนยะ
เรนยะ : “ขอโทษทีพอดีว่าฉันไม่ได้ซื้อมาน่ะ”
อินามิ : “ชิ ! มาเยี่ยมแต่ไม่มีของฝากเนี่ยนะตาซื้อบื้อ ขนาดอาจารย์เอรินะยังเอาหนังสือมาให้ฉันอ่านแก้เบื่อเลยนะ”
เรนยะ : “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพอเธอหายดีแล้วฉันจะพาเธอไปทานเนื้อย่างสุดหรูละกัน”
อินามิ : “อย่ากลับคำพูดซะละ !”
อินามิได้พูดย้ำไม่ให้เรนยะลืมคำที่เขาพูดว่าจะพาไปเลี้ยงเนื้อย่างสุดหรู
เรนยะ : (นำ้ลายไหลแล้ว ~ แม่คุณ)
----------- -------------
บรรยากาศนั้นเงียบมากเพราะทั้งสองไม่ได้พูดอะไรต่อแต่สักพักอินามิก็ได้เป็นฝ่ายพูดขึ้น
อินามิ : “ได้ข่าวว่านายต้องสู้กับชินเรนในวันประลองสินะ”
เรนยะ : “ใช่”
อินามิ : “งั้นฉันแนะนำให้นายยอมแพ้ไปซะเถอะ”
เรนยะ : . . . . . .
อินามิ : “ฉันได้ยินมาจากอาจารย์เอรินะแล้วนะว่ามีดของนายถึงกับพังด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากเจ้านั่นพวกเราเป็นนินจาที่ใช้อาวุธเหมือนๆกันฉันจึงรู้ข้อจำกัดของนายดีนินจาสายอาวุธอย่างพวกเราน่ะถ้าศัตรูฟันแทงไม่เข้าก็เท่ากับโอกาสแพ้ก็มากเกินครึ่งแล้วนะ”
เรนยะ : . . . . . .
อินามิ : “แถมอีกฝ่ายยังเป็นสายเลือดคัดสรรและยังไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำถ้าไม่ได้นายช่วยเอาไว้ฉันคงจะตายไปแล้วนายอยากจะเป็นเหมือนกับฉันงั้นหรือไง”
เรนยะไม่ได้ตอบอะไรอินามิและได้เดินไปที่ประตูเตรียมจะจากไปอินามิที่เห็นแบบนั้นจึงได้ขึ้นเสียงใส่เรนยะด้วยความโกรธที่เพื่อนชายของเธอไม่ฟังคำเตือน
อินามิ : “นายอยากจะตายงั้นหรือไง เรนยะ !!! แฮ่ก แฮ่ก”
สุดท้ายเรนยะก็ได้ตอบอินามิกลับไปทั้งที่ยังหันหลังอยู่
เรนยะ : “ก็จริงอยู่ . . ถ้าฉันไปสู้กับเจ้าชินเรนในวันประลองฉันอาจจะตายก็ได้ . . . แต่ถ้าฉันมาแพ้ตรงนี้ความฝันของฉันก็คงจะไม่มีวันเป็นจริง . . . ใช่ . . . ถ้าฉันไปสู้ก็อาจจะตายหรือไม่ก็ต้องเป็นเหมือนกับเธอ . . . แต่ว่า . . ถ้าฉันยอมแพ้และหนีเจ้านั่นไปจริงๆละก็ฉันต้องตายแน่ๆ . . . ความฝันของฉันจะต้องถูกฆ่าตายและอาจจะเอามันกลับมาอีกไม่ได้แน่ๆสำหรับฉันถ้าต้องสูญเสียความฝันก็ไม่ต่างอะไรจากตายหรอก”
เรนยะที่พูดจบแล้วก็ได้เปิดประตูออกไปทันทีโดยที่มีเสียงของอินามิไล่หลังตัวเขามาด้วย
อินามิ : “นายต้องชนะและห้ามตายแล้วต้องพาฉัน มากิและอาจารย์เอรินะไปทานเนื้อย่างให้ได้ สัญญานะเรนยะ !!!”
เรนยะที่ได้ยินก็ได้ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจหลังจากที่ได้ยินเสียงของอินามิไล่หลังมา
----------- -------------
เวลาได้ไหลผ่านไปรู้ตัวอีกทีก็เหลือแค่หนึ่งวันสุดท้ายก่อนการประลอง
การประสานคุณสมบัติธาตุ4อย่างของเรนยะก็ยังคงล้มเหลวและเกิดระเบิดตูมตามมาตลอดที่ผ่านมา
เรนยะ : “เห้อ ~ สงสัยเราต้องพึ่งระบบวีรชนซะแล้วละมั้งอีแบบนี้”
เรนยะได้ใช้สิทธิ์การสุ่มรวมทั้งตั๋วด้วยซึ่งระบบก็ให้การ์ดExpเกลือๆมาเยอะตามสูตรแต่ในขณะที่เรนยะกำลังปลงอยู่นั้นการ์ดใบสุดท้ายกลับทำให้เรนยะดีใจกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว
เรนยะ : “พรุ่งนี้ได้สนุกแน่ ชินเรน หึ หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า !!!”
ห๊ะ !!! สัปดาห์หน้าจะสอบแล้ว !!!
True Wallet 0830743639
ค่าอาหารไรท์ ขอขอบคุณผู้ติดตามและผู้สนับสนุนด้วยครับ
เพราะช่วงนี้ผมจะสอบแล้วคงต้องอ่านหนังสือสอบก่อนไม่งั้นต้องไปสอบซ่อมแล้วเสียเวลาอีกเพราะงั้นจนกว่าจะสอบเสร็จผมอาจจะไม่ได้ลงนะครับขอโทษด้วย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น