ลำดับตอนที่ #23
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 23
ในวันประลองที่หน้าทางเข้าของหมู่บ้านโคโนฮะวันนี้มีเหล่าไดเมียวและคนจากนอกหมู่บ้านได้เดินทางเข้ามาอย่างคับคั่งเพื่อเข้ามาชมการประลองคัดเลือกจูนินที่2ปีจะมีสักครั้ง
ภายในหมู่บ้านมีร้ายขายของริมทางมากมายที่คอยตะโกนเรียกลูกค้ากันอย่างขยันขันแข็ง
ผู้คนมากมายพูดคุยกันอย่างสนุกปากว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้
ในตอนเที่ยงพลุได้ถูกจุดขึ้นฟ้าอันเป็นการบอกให้ทุกคนทราบว่าการแข่งขันกำลังใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว
ที่ลานประลองเหล่าผู้เข้าแข่งขันได้มายืนรออยู่ก่อนแล้วจะยกเว้นก็แต่เจ้าโดซึที่ถูกกาอาระเชือดทิ้งไปแล้วร่วมถึงเจ้าซาซึเกะที่ติดโรคมาสายจากคาคาชิและสุดท้ายเจ้านารูโตะที่ยังมาไม่ถึง
เมื่อวานนี้ก่อนวันประลองพอเรนยะเปิดสุ่มได้การ์ดใบหนึ่งมาได้ก็ทำให้เขาทิ้งการฝึกและกลับบ้านไปนับมูลค่าสมบัติที่ได้มาจากเจ้าอิบาชิอย่างสบายใจทันทีไม่เสียเวลาฝึกอีกต่อไปเพราะเขาชนะไปเรียบร้อยแล้วซึ่งสมบัติที่ได้มาตีเป็นเงินก็ประมาณ8ล้านเรียวเรนยะกะจะนำมันไปฝากที่ธนาคารแต่ตอนที่นับเสร็จมันก็ดึกมากแล้วเรนยะเลยเก็บมันเอาไว้ก่อน
เรนยะ : (เจ้านารูโตะยังไม่มาอีกเหรอเนี่ย อ๊ะ !)
พอพูดถึงพระเอกพระเอกก็มาทันทีเลยเจ้านารูโตะได้ถูกพวกวัวที่เหล่าไดเมียวใช้ลากเกวียนขวิดเสยลอยจนลื่นไถลกับพื้นเข้ามายังสนามประลองทันเวลาพอดีท่ามกลางสายตาของทุกคน
ชิกามารุ : “เห้ย ~ เจ้าหมอนี่มาได้ไงเนี่ย”
เรนยะ : “เปิดตัวเท่ดีนี่นานารูโตะ”
ชิกามารุและเรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้เข้ามาช่วยพยุงนารูโตะยืนขึ้นมาและพอเจ้านารูโตะหายมึนแล้วนั้นก็ได้โวยวายตามภาษาเจ้าตัวว่ามีวัวฝูงใหญ่กำลังมาให้ทุกคนรีบหนีแต่พอนารูโตะไม่เห็นตัวของซาซึเกะทำให้เขาได้ถามออกมา
นารูโตะ : “นี่ชิกามารุ เรนยะ เจ้าซาซึเกะยังไม่มาอีกเหรอ”
ชิกามารุ : “เจ้าโดซึนั่นก็ด้วยไม่เห็นมาเลย”
เรนยะ : “เจ้าซาซึเกะมันคงจะมาสายละนะจากที่ดูส่วนเจ้าโดซึมันคงไม่มาแล้วละนะ”
ชิกามารุ : “หมายความว่ายังไงที่ว่ามันไม่มาแล้วน่ะ เรนยะ”
ดูเหมือนว่าทั้งสามคนจะคุยกันมากเกินไปทำให้ถูกผู้คุมสอบดุเอา
เก็นมะ : “นี่พวกเธอเลิกคุยกันได้แล้ว ยืนหยัดหันไปเผชิญหน้ากับคนดูให้ดูสมเกียรติหน่อยสิ”
นารูโตะที่ได้ยินแบบนั้นก็มองรอบๆก็พบว่าด้านบนมีเหล่าคนดูที่กำลังตบมือและส่งเสียงให้กำลังใจผู้เข้าประลองอย่างพวกเขาจำนวนมาก
เฮ !!! สู้เขานะ !!!
เก็นมะ : “การแข่งรอบจริงพวกนายคือตัวเอกนะ”
ที่ด้านบนสุดปู่โฮคาเงะที่เห็นว่าคาเสะคาเงะได้มาถึงแล้วก็ได้ต้อนรับด้วยรอยยิ้มถึงปู่รุ่น3จะรู้แผนการบุกถล่มโคโนฮะมาจากเก็กโคแล้วก็ตามแต่ปู่รุ่น3ก็เลือกที่จะจัดการประลองต่อไปโดยได้วางกำลังนินจาป้องกันเพิ่มเติมและเข้มงวดมากขึ้นและสั่งให้หน่วยลับหรืออันบุของตนเตรียมพร้อมทุกเมื่อแต่ปู่แกคงจะนึกไม่ถึงว่าคาเสะคาเงะตรงหน้าจะเป็นโอโรจิมารุศิษย์รักของตนปลอมตัวมาแถมในหน่วยลับของเขายังจะมีสปายอย่างคาบูโตะปะปนอยู่อีก
หลังจากที่สองคาเงะคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้วนั้นปู่รุ่น3ก็ได้เริ่มพูดเปิดงานทันที
ปู่รุ่นที่ 3 : เอาละครับทุกท่านต้องขอขอบพระคุณที่ให้เกียรติมาร่วมรับชมการสอบจูนินรอบสุดท้ายในวันนี้ด้วยนะครับ . . ต่อจากนี้ไปจะขอเริ่มการประลองตัดสินระหว่างผู้เข้าสอบ10คนสุดท้ายขอเชิญรับชมกันให้เพลิดเพลินได้แล้ว ณ บัดนี้
เก็นมะ : “เอาละก่อนที่จะเริ่มแข่งฉันมีอะไรที่จะบอกกับพวกนาย”
เก็นมะได้หยิบกระดาษที่มีผังตารางการจับคู่ประลองออกมาให้ทุกคนยืนยันอีกครั้งและพอดูแล้วทุกคนก็พบว่าชื่อของโดซึได้หายไปแล้วแต่การจับคู่ก็ยังคงเหมือนเดิม
ชิกามารุ : (อะไรกันเจ้าคนที่โดซึมันถอนตัวออกไปแล้วงั้นเหรอ)
แต่จู่ๆชิกามารุก็ฉุกคิดได้ว่าเรนยะได้พูดเอาไว้ในตอนแรกว่าโดซึคงจะไม่มาแล้วก็หันไปมองเรนยะด้วยความสงสัย
ชิกามารุ : (หรือว่าเจ้าเรนยะมัน . . .)
เรนยะที่เห็นชิกามารุมองตัวเขาก็รู้ทันทีว่าชิกามารุกำลังคิดอะไรอยู่จึงได้ยิ้มกลับไปให้ชิกามารุ
ชิกามารุ : (คงจะไม่หรอกมั้ง)
นารูโตะ : “เอ่อ . . คือว่าเจ้าซาซึเกะยังไม่มาเลยนะครับอาจารย์ทำยังไงดีละ”
เก็นมะ : “ก็ . . ถ้าหมอนั่นมาไม่ตรงเวลาลงแข่งละก็จะถูกปรับแพ้ทันที”
นารูโตะ : “ฮึ่ย !!! หายหัวไปไหนของมันนะเจ้าซาซึเกะ”
เก็นมะ : “ฟังนะถึงสนามจะเปลี่ยนไปแต่กฎการประลองก็ยังคงเหมือนเดิมก็คือไม่มีกฎข้อห้ามการแข่งจะสิ้นสุดลงเมื่ออีกฝ่ายขอยอมแพ้หรือว่าเสียชีวิตแต่ถ้าฉันตัดสินว่าการต่อสู้จบลงแล้วการต่อสู้จะต้องยุติแค่นั้นไม่รับคำโต้แย้งใดๆทั้งนั้นเข้าใจใช่ไหม”
ทุกคนเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นอันว่าเข้าใจตรงกัน
เก็นมะ : “ถ้างั้นการแข่งรอบแรกก็คือ อุซึมากิ นารุโตะ กับ
ฮิวงะ เนจิ พวกที่เหลือนอกจากสองคนนี้ไปพักผ่อนที่ห้องเก็บตัวได้หรือจะขึ้นไปเพื่อรับชมการประลองก็ได้ตามใจ”
ผู้เข้าสอบทุกคนนอกจากสองคนนั้นที่ถูกเรียกชื่อได้กลับขึ้นไปรับชมการประลองที่ด้านบนที่มีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อน
ณ ที่นั่งคนดู คิบะที่มากับฮินาตะเพื่อมาชมการประลองรอบแรกของนารูโตะได้มาถึงแล้วและได้เริ่มรับชมแต่เรนยะยังไม่เห็นพวกทีมของเขามาเลยแม้แต่คนเดียว
เรนยะ : (ตอนนี้อาจารย์เอรินะคงกำลังไปรับอินามิกับมากิที่โรงพยาบาลละมั้ง)
เรนยะได้มองลงไปดูการประลองของนารูโตะ
นารูโตะได้ทำท่ากำมือเหมือนกับตอนที่ตนกำเลือดของฮินาตะขึ้นมาในวันนั้นและพูดกับเนจิว่าตนจะต้องชนะ
เก็นมะ : “ถ้างั้น . . การแข่งรอบแรกเริ่มได้ !”
เฮ !!! วู้ !!!
นารูโตะกับเนจิเมื่อสัญญาณการประลองได้เริ่มขึ้นทั้งต่างก็ไม่ขยับเพราะกำลังดูเชิงกันอยู่พักหนึ่ง
แต่สุดท้ายเจ้านารูโตะก็เริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อนโดยใช้คุไนปาใส่เนจิแต่ก็ถูกป้องกันเอาไว้ได้นารูโตะที่ปาคุไนใส่เนจิแล้วก็ได้พุ่งเข้าใส่เนจิตรงๆและง้างหมัดต่อยใส่เนจิทันที
แต่ไม่ว่านารูโตะจะโจมตีใส่เนจิเท่าไหร่ก็ตามเนจิก็สามารถป้องกันเอาไว้ได้จนสุดท้ายนารูโตะก็ถูกเนจิซัดมวยอ่อนเข้าไปหมัดหนึ่งทำให้นารูโตะชะงักไปแวบหนึ่งซึ่งเนจิก็ไม่ปล่อยโอกาสเล็งโจมตีที่เส้นจักระที่ไหล่ของนารูโตะต่อทันที
นารูโตะที่เห็นท่าจะไม่ดีก็เลยกลิ้งหลบออกมาทำให้เนจิสกัดจุดพลาดและได้ใช้คาถาแยกเงาพันร่างที่เป็นวิชาหากินของตนออกมาเรียกเสียงฮือฮาของเหล่าผู้ชมได้พอสมควรเพราะตื่นเต้นที่เริ่มมีการใช้คาถากันแล้ว
นารูโตะที่เป็นร่างแยก4คนได้หยิบคุไนเข้าโรมรันใส่เนจิแต่สุดท้ายแล้วพวกร่างแยกก็ถูกจัดการจนหมดและนารูโตะก็พลาดท่าโดนมวยอ่อนเข้าไปจนแทบจะลุกไม่ขึ้น
แต่สุดท้ายนารูโตะก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งและรีดเร้นจักระเก้าหางออกมาปะทะกับเนจิแต่ก็โดนคลื่นสวรรค์ของเนจิสะท้อนการโจมตีจนนอนสลบอยู่กับพื้นแต่จู่ๆร่างของนารูโตะที่ทุกคนคิดว่าแพ้ไปแล้วนั้นก็ได้กลายเป็นควันหายไปส่วนนารูโตะตัวจริงที่ได้พุ่งขึ้นมาจากพื้นข้างใต้ของเนจิและอัปเปอร์คัตใส่คางของเนจิจนกระเด็นพลิกล็อคกลับมาชนะได้
เก็นมะ : “ผู้ชนะ อุซึมากิ นารูโตะ ผ่านเข้ารอบ !!!”
เรนยะ : (หึ หึ เท่านี้ต่อไปก็เป็นตาของคู่ผัวเมียในอนาคตสินะ)
หลังจากนารูโตะขึ้นมาพักข้างบนก็พูดอวดที่ตัวเองผ่านเข้ารอบมาได้
นารูโตะ : “ไงละพวกนายเห็นฝีมือของฉันหรือยัง”
ชิโนะ : “ยินดีด้วย”
เรนยะ : “เก่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนนี่นานารูโตะว่าแต่ว่าต่อไปเป็นตาของเจ้าซาซึเกะไม่ใช่เหรอจนป่านนี้ยังไม่เห็นตัวเลย”
ชิกามารุ : “หรือว่าหมอนั่นจะสละสิทธิ์”
ชิโนะ : “คนฉลาดมักหลบหลีกจากอันตราย . . เขาตัดสินใจถูกแล้ว”
นารูโตะ : “ไม่หรอกเจ้าหมอนั่น . . เจ้าซาซึเกะจะต้องมาแน่ๆ”
เหล่าผู้ชมที่เห็นว่าจบรอบแรกไปแล้วแต่รอตั้งนานก็ยังไม่เริ่มรอบต่อไปเสียทีก็เริ่มโวยวายด้วยความไม่พอใจทำให้ปู่รุ่น3ไม่มีทางเลือกสั่งให้ตัดสิทธิ์ของซาซึเกะแต่คาเสะคาเงะหรือลุงงูที่ปลอมตัวมาได้บอกว่าให้รอซาซึเกะอีกหน่อยเพราะตัวเขาและทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ต้องการดูศึกของผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของตระกูลอุจิวะทั้งนั้น
ทำให้ปู่รุ่น3ตัดสินใจทำการยืดเวลาการแข่งออกไปเพื่อรอซาซึเกะโดยสั่งให้ ไรโด้ นินจาที่คอยอารักขาตนไปบอกให้เก็นมะเลื่อนการประลองของซาซึเกะออกไปก่อน
ที่สนามประลองด้านล่างไรโด้ได้บอกให้เก็นมะเลื่อนคู่ประลองออกไปก่อนเพื่อรอซาซึเกะตามคำสั่งของปู่รุ่น3
เก็นมะ : “อืมเข้าแล้วช่วยไม่ได้ละนะ . . . ทุกๆท่านเนื่องจากผู้เข้าแข่งขันรอบที่สองจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มาเพราะฉะนั้นจะขอยกการแข่งรอบต่อไปมาแทนแล้วกันครับ”
!!!
ทุกคนดูจะตกใจมากและก็สงสัยไปตามๆกันว่า อุจิวะ ซาซึเกะ
ทำไมถึงยังไม่มา
นารูโตะ : “เห้อ ~ รอดตัวไปทีนะเจ้าบ้าซาซึเกะ”
ชิกามารุ : “เห้ย ! งั้นก็แปลว่าพวกเราต้องลงแข่งเร็วขึ้นน่ะซิแบบนี้”
เรนยะ : (อย่างที่คิดสินะคู่เจ้าเป็ดโดนเลื่อนออกไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง . . ถ้าตามเหตุการณ์แล้วพวกซึนะและโอโตะจะเริ่มบุกโคโนฮะตอนที่เจ้าซาซึเกะแข่งสินะแต่ว่าตามเนื้อเรื่องเดิมในตอนที่โคโนฮะถูกโจมตีดูเหมือนว่าพวกหน่วยรากจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวเลยนี่นา . . หรือว่าเรื่องนี้เจ้าแก่ดันโซจะมีเอี่ยวด้วยชักอยากรู้แล้วสิเรา)
ด้วยความสงสัยใคร่รู้เรนยะจึงได้สื่อสารกับฮัซซันทั้งสองผ่านตราเรย์จู
เรนยะ : (แขนต้องสาป)
แขนต้องสาป : (ครับ Master)
เรนยะ : (นายกับความเงียบช่วยไปสืบดูการเคลื่อนไหวของพวกหน่วยรากและเจ้าดันโซทีส่วนทางไปที่หน่วยรากนั้นความเงียบเธอรู้ทางดีเพราะเคยไปด้วยกันกับฉันมาก่อนไปสืบดูท่าทีว่ามันมีแผนอะไรไปได้)
แขนต้องสาป : “ครับ Master”
หนูเงียบ : “รับทราบค่ะ Master”
Servant ทั้งสองได้ออกจากสนามประลองและไปตามสืบเรื่องของหน่วยรากและดันโซตามที่ Master ของตนสั่งทันที
----------- -------------
ตัดมาทางสนามประลองเก็นมะได้เรียกคู่ประลองรอบต่อไปทันที
เก็นมะ : “ถ้าหยั่งงั้นเริ่มรอบต่อไปได้ คันคุโร่ กับ อาบุราเมะ ชิโนะ ทั้งสองคนลงมา”
คันคุโร่ : “ผู้คุมสอบผมขอยอมแพ้ครับ ! เริ่มคู่ถัดไปได้เลยครับ”
!!!
ชิโนะที่ได้ยินว่าคู่ต่อสู้ของเขาได้ขอยอมแพ้นั้นถึงกลับหัน
ควับมามองคันคุโร่อย่างไม่พอใจ
เหตุที่คันคุโร่ได้ขอยอมแพ้เพราะตนไม่อยากจะเผยไพ่ในมือก่อนที่แผนการจะเริ่มต้นขึ้น
เก็นมะ : “เห้อ ~ คันคุโร่ขอยอมแพ้ อาบุราเมะ ชิโนะ ผ่านเข้ารอบต่อไป”
เหล่าผู้ชมเริ่มจะไม่พอใจมากขึ้นเพราะเริ่มเบื่อเพราะคันคุโร่ยอมแพ้ง่ายเกินไป
เทมาริที่เห็นแบบนั้นจึงได้ลงไปที่สนามประลองเพื่อถ่วงเวลาเพราะถ้าให้การประลองจบง่ายๆแบบนี้แผนการของพวกเขาที่จะให้กาอาระคลายผนึกสัตว์หางหลังจากสู้กับซาซึเกะเพื่ออาละวาดสร้างความวุ่นวายขณะที่พวกนินจาโอโตะเข้าบุกโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะจะพังไม่เป็นท่าเอา
สายลมได้พัดอย่างรุนแรงพร้อมกับที่เทมาริที่นั่งพัดลงมาที่สนามประลอง
เก็นมะ : “นี่ . . เธอคือ”
เทมาริ : “ก็ตาฉันแล้วไม่ใช่เหรอ”
เก็นมะ : “หึ ดูท่าเธอพร้อมจะสู้แล้วสินะ ดีละ งั้นก็มาเริ่มกันเถอะ เอ้า ! อีกคนก็ลงมาสิ นารา ชิกามารุ”
ชิกามารุ : “หน๊อย ~ ทำไมมันถึงได้ข้ามมารอบของฉันเร็วขนาดนี้เนี่ย” (เรายอมแพ้แบบเจ้านั่นดีกว่าแหะ)
ในขณะที่ชิกามารุกำลังจะขอยอมแพ้นั้นจู่ๆเจ้านารูโตะก็มาผลักเจ้าชิกามารุตกลงไปนอนกองด้านล่างสนามประลอง
เป๊ง ๆ !!! กี๊ง ๆ !!!
ชิเรนที่ถูกอาวุธจำนวนมากยิงใส่ก็รู้สึกตกใจอยู่บ้างแต่เกราะของเขายังสามารถป้องกันได้และเขาก็ได้ตัดสินใจใช้จักระเสริมชั้นเกราะของตนให้แน่นหนาขึ้นทันทีเพราะถึงจะป้องกันอาวุธเหล่านั้นเอาไว้ได้แต่โดนโจมตีไปมากแบบนี้ความทนทานเกราะของเขาก็เริ่มลดลงเหมือนกัน
เหล่าอาวุธที่ถูกเกราะของชินเรนสะท้อนออกมาตกเรียงรายปักตามพื้นนั้นได้กลายเป็นละอองแสงสีทองแล้วหายไปแต่เหล่าผู้ชมที่กำลังอึ้งกิมกี่อยู่นั้นไม่ได้สังเกตเห็นเลย
ชินเรน : “นี่ . . แก”
เรนยะ : “เห ~ อาวุธระดับ D ทำอะไรไม่ได้อย่างที่คิดสินะ . . งั้นถ้าแบบนี้ละ”
!!!
เมื่อสิ้นเสียงของเรนยะวงคลื่นมิติสีทองก็ได้ปรากฎออกมาจำนวนมากและยิงดาบและหอกจำนวน 10 เล่มเข้าใส่ชิเรนจนกระเด็นไปเลยทีเดียวและอาวุธเหล่านั้นก็ได้สลายกลายเป็นละอองสีทองหายไปท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าผู้ชมที่เริ่มตื่นจากภวังค์
ชินเรน : “อัก !!! บ . . บ้าน่าเกราะของฉันถึงกับร้าวเลยงั้นเรอะเป็นไปไม่ได้ !!!” (ฉันคนนี้บาดเจ็บเนี่ยนะบ้าชัดๆ)
เรนยะ : “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอกนะ”
ซึ่งอาวุธที่เรนยะยิงออกไปคือโฮกุระดับ B นั้นเองถึงจะทำลายเกราะของชินเรนไม่ได้ในทันทีแต่ก็สร้างรอยร้าวให้กับเกราะของชินเรนได้แถมความรุนแรงของอาวุธนั้นยังทำให้ตัวของชินเรนถูกแรงกระแทกของอาวุธกระเด็ดออกไปและสามารถสร้างความเจ็บปวดให้แก่เขาได้
ใช่แล้วการ์ดที่เรนยะเปิดได้มาหลังจากที่เกลือมานานเมื่อวานก็คือการ์ดโฮกุนั่นเองและโฮกุนั้นก็คือ
Gate of Babylon / คลังสมบัติแห่งราชา
ประเภท : ต่อต้านบุคคล (ตนเอง)
ระดับ : E ~ EX
(EA เงื่อนไขการใช้งานถูกต้อง)
-เป็นคลังสมบัติที่เก็บรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์ร่วมถึงพวกต้นแบบของทุกสิ่งทุกสิ่งบนโลกเอาไว้ ต้นแบบของสมบัติวีรชนรวมถึงของวิเศษมากมายถูกเก็บเอาไว้เรียกได้ว่าเป็นที่เก็บรวมทุกภูมิปัญญาของมนุษย์ และสามารถเรียกออกมาผ่านประตูมิติหรือเกทที่สามารถวาปโผล่ออกมาจากที่ไหนก็ได้ในระยะรอบๆตัวของผู้ใช้ ซึ่งประตูมิติสามารถยิงอาวุธต่างๆออกมาโจมตีใส่ศัตรูได้และอาวุธที่ยิงออกมานั้นจะกลับเข้าไปในคลังสมบัติเองโดยอัตโนมัติทำให้สามารถยิงมันออกมาได้เรื่อยๆแถมทุกสิ่งในคลังสมบัตินั้นเป็นต้นแบบของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก เมื่อปะทะกับของแบบเดียวกันก็จะชนะเสมอ
----------- -------------
ทางด้านคนดู
นารูโตะ : “ไอ้นั่นมันอะไรน่ะ !!!”
คาคาชิ : “หรือว่านั่นจะเป็นคาถามิติ”
ไก : “เด็กนั่นเก่งชะมัดฝึกคาถามิติได้ด้วยอายุแค่นี้”
คาคาชิ : “ไม่สิฉันไม่เคยได้ยินหรือเคยเห็นคาถาแบบนั้นมาก่อนเลยนะ . . . อ่ะ !”
แต่จู่ๆคาคาชิก็นึกถึงคำพูดของเอรินะที่บอกว่าเรนยะก็ไม่ใช่นินจาธรรมดาเหมือนกันทำให้เขาสะกิดใจเลยหันไปถามเอรินะที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด
คาคาชิ : “เอรินะหรือว่าเรนยะเขาจะเป็นนินจาสายเลือดคัดสรรด้วยเหมือนกัน”
นารูโตะ : “นี่อาจารย์คาคาชิสรุปแล้วไอ้สายเลือดคัดสรรนี่มันคืออะไรกันแน่ครับผมสงสัยมาตั้งแต่ที่ได้ยินครั้งแรกที่ลานประลองครั้งนั้นแล้วนะ”
เพราะนารูโตะนั้นตกใจกับจิตสังหารของเรนยะในการสอบรอบที่สองทำให้นารูโตะลืมถามเรื่องนี้ไปซะเสียสนิทไม่ใช่แค่นารูโตะเท่านั้นเกะนินทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็สงสัยเหมือนกันเพราะพวกเขารู้จักแต่ขีดจำกัดสายเลือดเท่านั้น
คาคาชิ : “ก็อย่างที่พวกเธอรู้ ขีดจำกัดสายเลือดน่ะ เป็นวิชาลับหรือความพิเศษทางร่างกายที่ส่งผ่านกันทางการมีทายาทสืบสายเลือดเท่านั้นยกตัวอย่างก็ เนตรวงแหวนของ ซาซึเกะ และขีดจำกัดสายเลือดรูปแบบจักระ ที่เป็นสายเลือดที่พิเศษเพราะมีการใช้จักระธาตุได้ 2 ธาตุในคาถาเดียวกันอย่างเช่น คาถาน้ำแข็งของตระกูลยูกิ แต่ถ้ามีคุณสมบัติธาตุที่เหมือนกันต่อให้ไม่ใช่คนในตระกูลยูกิก็มีโอกาสที่จะใช้คาถาน้ำแข็งได้เหมือนกัน แต่ว่า . . .”
ไก : “ยังมีขีดจำกัดสายเลือดเฉพาะหรือที่เราเรียกกันว่าสายเลือดคัดสรรซึ่งเป็นสายเลือดที่หายากยิ่งกว่าขีดจำกัดสายเลือดเพราะมีการใช้จักระธาตุได้มากกว่า 3 ธาตุในคาถาเดียวกันได้และที่พวกเรารู้ตอนนี้สายเลือดคัดสรรก็มีซึจิคาเงะแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระและพวกเขาทั้งสองคนที่กำลังประลองอยู่ในตอนนี้ซึ่งหมายความว่าในโลกนินจานี้มีสายเลือดคัดสรรเพียง3คนเท่านั้นในตอนนี้”
อึก !!!
พวกเกะนินทุกคนที่ได้รู้ว่าสายเลือดคัดสรรคืออะไรก็ถึงกับลอบกลืนนำ้ลายกันเลยทีเดียว
ซากุระ : “หมายความว่าเรนยะคุง . .”
ร็อคลี : “พรสวรรค์ . . . สินะครับ”
ซาซึเกะ : “ชิ !” (ฉันคนนี้ด้อยกว่างั้นเรอะ!)
คาริน : “เรนยะคุงแข็งแกร่งอยู่แล้วละ”
อินามิ : “ดูท่าแล้วพวกเราคงจะได้กินเนื้อย่างแล้วละนะ”
มากิ : “แหะ แหะ”
นารูโตะไม่ได้พูดอะไรเอาแต่จับจ้องเรนยะไม่วางตาด้วยความอิจฉา
คาคาชิ : “และแน่นอนว่าเนตรวงแหวนน่ะไม่สามารถลอกเลียนแบบคาถาพวกนั้นได้เพราะมันเป็นวิชาเฉพาะตัวจริงๆไม่นึกเลยว่าคุณจะได้ลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์แบบนี้”
เอรินะ : “ก็อาจจะถูกอย่างที่พวกคุณบอกแต่ว่านะ . . . เรนยะน่ะเขาพิเศษยิ่งกว่าสายเลือดคัดสรรเสียอีก”
!!!
คาคาชิ : “หมายความว่ายังไง ?”
เอรินะ : “ต้องขอโทษด้วยฉันคงบอกได้แค่นี้เท่านั้น”
ไก : “เรามาดูกันต่อเถอะคาคาชิอย่างน้อยอาจจะได้รู้อะไรบ้าง”
คาคาชิ : “อา ก็ตั้งใจเอาไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว”
----------- -------------
ชินเรนที่ล้มก็ได้ลุกขึ้นมาและเริ่มคิดที่จะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่จักระของเขาจะหมดลงเพราะวิชาม่านเกราะของตระกูลยาโตะของเขานั้นค่อนข้างจะกินจักระปริมาณมาก
เรนยะที่ได้ใช้เนตรพันลี้มองดูก็เห็นว่าม่านเกราะที่ร้าวของชินเรนนั้นได้ถูกซ่อมแซมจนเกราะอยู่ในสภาพเต็มร้อยอีกครั้งแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเรนยะก็สังเกตเห็นว่าตามร่างกายของชินเรนจะมีรอยช้ำที่เกิดจากอาวุธระดับ Bของเขาอย่างชัดเจน
เรนยะ : “อ้าวๆ เป็นอะไรไปละไหนว่าอยากจะทำให้ฉันพิการแต่มีน้ำยาแค่นี้หรือยังไง”
ชินเรน : “หน๊อยแก !!!”
ชินเรนที่ถูกเรนยะพูดยั่วโทสะทำให้ตัวเขาพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ด้วยความเคยชิน
เรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้เปิดเกทเรียกอาวุธออกมายิงใส่อีกฝ่ายด้วยความสนุก
ฟุบ !!! เป๊ง ๆ !!! กี๊ง ๆ !!!
ชินเรนที่ถูกอาวุธจำนวนมากยิงใส่ก็ทำได้เพียงแค่ยืนหยัดป้องกันเอาไว้เท่านั้นเพราะไม่มีทางเลือก
ความจริงแล้วเรนยะจะเลือกยิงโฮกุระดับ Aใส่ชินเรนให้มันจบๆไปเลยก็ได้แต่เขายังอยากลองใช้โฮกุนี้ให้ชำนาญก่อนและอีกอย่างเขาจะอยากจะสร้างความอัปยศอดสูและทำลายความภาคภูมิใจของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการเอาคืนที่มันทำกับอินามิเพื่อนของเขา
----------- -------------
ในสายตาของเหล่าคนดูนั้นพวกเขาเห็นแต่ชินเรนที่น่าจะเป็นผู้ชนะในรอบนี้แน่ๆถูกเหล่าสรรพาวุธจำนวนมากที่ออกมาจากวงคลื่นสีทองที่โผล่ออกมากจากอากาศยิงใส่อยู่ฝ่ายเดียวแถมยังเข้าใกล้เรนยะไม่ได้เลยด้วยซำ้
เฮ !!!
พวกผู้ชมได้ส่งเสียงเชียร์อย่างถูกใจและเหล่าไดเมียวก็เริ่มให้ความสนใจในตัวของเรนยะกันแล้ว
ปู่รุ่นที่ 3 : “ไม่นึกเลยว่าหมู่บ้านของเราจะมีนินจาหน้าใหม่ที่มีความสามารถขนาดนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ”
ไรโด้ : “นั่นสิครับ ท่านโฮคาเงะ”
ส่วนโอโรจิมารุที่ปลอมตัวเป็นคาเสะคาเงะที่นั่งดูการประลองของเรนยะอยู่ข้างๆปู่รุ่นที่3นั้นถึงกับตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
ในตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความโลภและเขาต้องการที่จะศึกษาความสามารถนี้ . . . เขาอยากได้สายเลือดที่ทรงพลังแบบนี้เขาอยากที่จะได้ร่างของเด็กที่ชื่อ อาคุสะ เรนยะ โอโรจิมารุแทบอยากจะยืดคอไปฝากอักขระต้องสาปให้เรนยะจากตรงนี้เสียด้วยซำ้แต่โชคดีที่มีคนเรียกสติของเขาเอาไว้ซะก่อน
ปู่รุ่นที่ 3 : “หืม ? ท่านคาเสะคาเงะท่านเป็นอะไรไปหรือ”
โอโรจิมารุ : “ป . . ป่าวครับไม่มีอะไร”
ดูเหมือนว่าโอโรจิมารุจะตื่นเต้นมากจนเกินไปจนเกือบจะหลุดไต๋ออกมาเสียแล้ว
----------- -------------
ทางด้านสนามประลองชินเรนที่ถูกบังคับให้เป็นฝ่ายป้องกันเพียงฝ่ายเดียวนั้นก็เริ่มที่จะร้อนใจแล้วเพราะในตอนนี้ตัวของเขาสูญเสียจักระไปในการซ่อมแซมเกราะของเขาไปมากกว่าที่คิดแถมยังอาการบาดเจ็บสะสมนี่อีกถ้าปล่อยเอาไว้เขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่
ชินเรนจึงทำการรวมจักระเอาไว้ที่เกราะของตนและปล่อยมันออกมาอย่างรุนแรงทำให้อาวุธที่กำลังมาถึงนั้นถูกแรงดีดของจักระที่ตัวเขาปล่อยออกมาทำให้อาวุธที่ยิงออกมานั้นชะลอความเร็วลงและได้ใช้โอกาสนี้พุ่งหลบอาวุธที่กำลังตามมาแถมใช้จังหวะนี้พุ่งฝ่าอาวุธอันมากมายเพื่อเข้าโจมตีเรนยะด้วยวิชาทำลายเส้นจักระแบบเดียวกันกับที่ใช้โจมตีอินามิในการสอบคัดตัว
เรนยะ : “โห ~ ไม่เลวเลยนี่ แต่แกจะมีปัญญามาถึงตัวฉันได้รึป่าวก็อีกเรื่อง”
ชินเรน : “แค่ฉันแตะตัวแกได้แกก็จบแล้ว !!! ย้าก !!!”
ในขณะที่ชินเรนกำลังมาถึงตัวเรนยะได้ครึ่งทางเรนยะก็ได้เปิดเกตขึ้นข้างบนหลังของชินเรนที่กำลังมาทางตัวเขาและยิงพวกอาวุธที่มีนำ้หนักมากอย่างดาบใหญ่และค้อนเข้าใส่ชินเรนโดยที่เขานั้นไม่รู้ตัว
ชินเรนที่วิ่งมาได้ครึ่งทางแล้วนั้นเขาก็ถูกอาวุธยิงใส่จากด้านหลังที่เป็นมุมอับของเขาจนตัวล้มทิ่มพื้นฝุ่นตลบ
ตู้ม !!!
เรนยะ : “อะไรกันเนี่ย จอดแค่นี้เหรอคุณสายเลือดคัดสรร”
เรนยะได้ปิดเกทมิติสีทองแล้วเดินเข้าไปหาชินเรนเพื่อจัดการให้เสร็จๆแต่เพราะเรนยะมีสกิลเนตรพันลี้ทำให้มองเห็นล่วงหน้าได้ว่าเจ้าชินเรนกำลังเตรียมที่จะโจมตีตัวเขาในตอนที่ประมาท
ชินเรนที่เห็นเรนยะก้าวเข้ามาใกล้พอแล้วก็ได้ลุกขึ้นมาอย่างกระทันหันเพื่อโจมตีอีกฝ่ายในตอนที่เขาคิดว่ากำลังประมาทไม่ทันได้ระวังตัว
ชินเรน : “เจ้าโง่ !!! ระยะนี้ฉันไม่พลาดแน่ !!! ตายซะ !!!”
พวกเพื่อนๆของเรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้ตะโกนร้องเตือนเรนยะเพราะถ้าให้ชินเรนแตะตัวเรนยะได้ชีวิตนินจาของเรนยะก็คงต้องถึงจุดจบไม่ต่างจากอินามิหรือร้ายแรงกว่านั้นก็อาจตายก็ได้
นารูโตะ : “หลบเร็วเรนยะ !!!”
อินามิ ถึงกับหลับตาไม่กล้ามองต่อ
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเรนยะจะต้องแพ้แล้วนั้นจู่ๆทุกคนก็พบว่ารอบตัวของชินเรนนั้นได้มีวงคลื่นสีทองโผล่ออกมาและยิงโซ่รัดครากุมตัวของชินเรนเอาไว้จนขยับไม่ได้
เคล้ง !!! กึก !!! (เสียงโซ่)
!!!
เรนยะ : “ว่าไง จะเล่นกันต่อไหม ?”
ชินเรน : “เหอะ !!! กะอีแค่โซ่กระจอกๆเดี๋ยวฉันจะฉีกมันทิ้งให้ดู !!! ย้าก !!!”
ทุกคนนั้นต่างคิดว่าโซ่แค่นั้นคงจะไม่อาจจะรั้งตัวของชินเรนได้แน่ๆแต่ต่อมาทุกคนก็ต้องตกใจเพราะว่าขนาดคนร่างใหญ่อย่างชินเรนยังไม่สามารถกระชากโซ่นั่นออกได้
เคล้ง !!! กึก !!!
?!!
ชินเรน : “บ้าน่ะ ทำไมมันไม่ขาด !!!”
เรนยะ : “ก็บอกแล้วว่าเปล่าประโยชน์อาวุธของฉันในตอนนี้แตกต่างจากอาวุธที่แกเห็นครั้งก่อนราวฟ้ากับเหวเลยละ”
โซ่นี้ที่แท้แล้วก็คือหนึ่งในโฮกุ(สมบัติวีรชน)
ที่อยู่ใน Gate of Babylon ซึ่งมันก็คือ
Enkidu / โซ่สวรรค์
ประเภท : ต่อต้านเทพเจ้า
ระดับ : B (EXเมื่อใช้กับเป้าหมายที่มีความเป็นเทพเจ้า)
-มันเป็นโซ่ที่ใช้รัดตรึงกระทิงแห่งสวรรค์ตามตำนานโดยตัวโซ่นั้นมีการลงอาคมคำบัญชาแห่งพระเจ้าพลังของมันนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อใช้กับเป้าหมายที่มีความเป็นเทพซึ่งยิ่งใกล้เคียงความเป็นเทพมากเท่าไรโซ่ก็จะรัดแน่นขึ้นเท่านั้นและสำหรับเป้าหมายที่ไม่มีความเป็นเทพเลย มันไม่อาจเป็นอะไรไปมากกว่าโซ่ธรรมดาแต่ก็ยากที่จะดิ้นหลุดออกมาได้อยู่ดีโซ่นี้สามารถใช้โจมตี ป้องกัน และ รัดเป้าหมายได้
เรนยะ : “นำ้หน้าแบบนายน่ะดิ้นหลุดจากโซ่นี้ไม่ได้ง่ายๆหรอก”
ชินเรนนั้นไม่คิดว่าโซ่ที่รัดตนอยู่นั้นจะมีความทนทานมากขนาดนี้เขาจึงคิดที่จะใช้ไม้ตายสุดท้ายของตนทันที
ชินเรน : “แกบังคับฉันเองนะ !!!”
!!!
ชินเรนได้อ้าปากแล้วรวมจักระธาตุดินไฟและหยางเข้าด้วยกันและยิงก้อนจักระสามธาตุออกมาจากปากเข้าโจมตีใส่เรนยะอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจมากที่พบว่าคาถาที่ชินเรนใช้ไม่จำเป็นต้องใช้มือผสานอินเลย
ตู้ม !!!
ก้อนจักระที่ชินเรนยิงออกมานั้นได้เข้าปะทะกับเรนยะเต็มๆและเกิดการระเบิดที่รุนแรงมากจนทุกคนคิดว่าเรนยะต้องไม่รอดจากการโจมตีนี้แน่
โล่แห่งเทพ
ประเภท : สนับสนุน
ระดับ : EX
-โล่หรูหราขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงใช้ป้องกันเวทย์มนต์/คาถาได้ดี และยังสามารถป้องกันการโจมตีที่รุนแรงได้โดยไร้รอยขีดข่วน
เรนยะ : “แหม ~ เกือบไปแล้วสิ ~ มีความพยายามแต่ก็ยังอ่อนหัดถ้านั่นเป็นเฮือกสุดท้ายของนายแล้วฉันก็ขอจบการต่อสู้นี้เลยก็แล้วกัน”
เรนยะได้ยกมือข้างขวาขึ้นแล้วเปิดเกทเรียกอาวุธชิ้นหนึ่งออกมาและอาวุธชิ้นนั้นก็คือ
Gram / ดาบมาร ดาบแห่งสุริยัน
ประเภท : ต่อต้านบุคคล / ต่อต้านกองทัพ
ระดับ : A++
-ดาบมาร ดาบแห่งสุริยัน กรัม มันเป็นดาบมารแห่งความพินาศและความรุ่งโรจน์มันคือต้นแบบของดาบบัลมุงและดาบคาลิเบิร์น(ดาบที่ปักลงบนศิลาที่ใช้คัดสรรกษัตริย์แห่งอังกฤษ)มันเป็นได้ทั้งดาบต้องคำสาปหรือดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้พิฆาตมังกรก็ได้ตามแต่ผู้ใช้ต้องการแถมตัวดาบยังสามารถปล่อยคลื่นพลังออกมาโจมตีเป็นวงกว้างได้อีกด้วย
เรนยะได้เปลี่ยนให้ดาบกรัมเป็นดาบต้องคำสาปทำให้ตัวดาบมีสีดำและยิงมันเข้าใส่ชินเรนที่กำลังช็อคกับความจริงที่เรนยะสามารถป้องกันคาถาที่ร้ายกาจที่สุดของเขาได้
ชินเรนที่เห็นดาบกำลังพุ่งมาก็ได้พยายามดิ้นให้หลุดจากโซ่ที่รัดตัวของเขาอยู่แต่ก็ไม่อาจดิ้นหลุดจากพันธนาการนี้ได้เขาจึงได้ตัดสินใจใช้จักระทั้งหมดไปเสริมให้กับเกราะบนตัวของเขาเพื่อรอรับการโจมตีจากดาบเล่มนั้น
เพล้ง !!! ฉึก !!!
!!!
ชินเรน : “ก . . เกราะของฉัน”
ดาบกรัมที่เปลี่ยนเป็นสีดำได้พุ่งแทงเข้าใส่ที่ท้องของชินเรนทะลุเกราะที่ตัวเขาภาคภูมิใจจนแตกสลายทำให้ชินเรนได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งแรกในชีวิตแถมเขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเข้ามาในตัวของเขาอีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่เข้าไปในตัวของชินเรนมันก็คือคำสาปนั่นเองคำสาปของดาบกรัมได้เริ่มแทรกซึมเข้าไปตัวของชินเรนและคอยกัดกร่อนเส้นชีพจรจักระของเขา
!!!
ชินเรนตกใจมากและพยายามใช้จักระธาตุหยางขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกไปแต่เขาก็พบว่าไม่อาจยับยั้งมันได้
ชินเรน : “ทำไมกัน หายไป . . หายไปสิวะ !!!”
เรนยะ : “เปล่าประโยชน์ สิ่งนั้นเรียกว่าคำสาปมันจะค่อยๆทำลายเส้นชีพจรจักระของแกอย่างช้าๆอ้อแล้วก็มันจะเจ็บปวดเอาเรื่องเลยละอดทนเอาหน่อยละกันนะ หึ หึ”
!!!
สิ้นคำของเรนยะคำสาปก็ได้เริ่มออกฤทธิ์สร้างความเจ็บปวดให้แก่ชินเรนที่ถูกโซ่รัดขยับไม่ได้ถ้าไม่มีโซ่มัดตัวเอาไว้คงได้เห็นคนลงไปนอนกลิ้งกับพื้นเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหวแน่ๆ
อ้ากกก !!!!!!
เก็นมะ : “ยุติการประลองผู้ชนะ อาคุสะ เรนยะ !!!”
เรนยะที่ได้ยินกรรมการบอกว่าตนชนะแล้วก็ได้ทำการเก็บโซ่สวรรค์ที่มัดอีกฝ่ายและดาบกรัมที่ปักอยู่ที่ท้องของชินเรนกลับเข้ามาในคลังสมบัติเหมือนเดิม
ทุกคนเห็นว่าดาบที่แทงที่ท้องและโซ่ที่จับตัวของชินเรนนั้นได้กลายเป็นละอองสีทองและหายไปพร้อมกับเรนยะที่เดินออกไปจากสนามประลองโดยทิ้งเอาไว้เพียงเสียงกรีดร้องและร่างที่ดิ้นทุรนทุรายของคู่ต่อสู้ของตนเอาไว้
เรนยะ : “สิ่งที่แกทำกับ อินามิ และพูดว่าจะทำให้ฉันต้องพิการฉันขอคืนให้ . . . ทีนี้ . . เราก็เจ๊ากันแล้ว”
และเรนยะก็ได้เดินหายไปในทางเข้าของผู้แข่งขันพร้อมกับเหล่าคนดูที่ส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้อง
เฮ !!! จ้าวศาสตราวุธ !!! จ้าวศาสตราวุธ !!!
เรนยะ : “เห้อ ~ ฉายาใหม่มาอีกแล้วหรือเนี่ย แต่ก็ดีกว่าปีศาจกระหายเลือดเยอะละนะ”
ภายในหมู่บ้านมีร้ายขายของริมทางมากมายที่คอยตะโกนเรียกลูกค้ากันอย่างขยันขันแข็ง
ผู้คนมากมายพูดคุยกันอย่างสนุกปากว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้
ในตอนเที่ยงพลุได้ถูกจุดขึ้นฟ้าอันเป็นการบอกให้ทุกคนทราบว่าการแข่งขันกำลังใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว
ที่ลานประลองเหล่าผู้เข้าแข่งขันได้มายืนรออยู่ก่อนแล้วจะยกเว้นก็แต่เจ้าโดซึที่ถูกกาอาระเชือดทิ้งไปแล้วร่วมถึงเจ้าซาซึเกะที่ติดโรคมาสายจากคาคาชิและสุดท้ายเจ้านารูโตะที่ยังมาไม่ถึง
เมื่อวานนี้ก่อนวันประลองพอเรนยะเปิดสุ่มได้การ์ดใบหนึ่งมาได้ก็ทำให้เขาทิ้งการฝึกและกลับบ้านไปนับมูลค่าสมบัติที่ได้มาจากเจ้าอิบาชิอย่างสบายใจทันทีไม่เสียเวลาฝึกอีกต่อไปเพราะเขาชนะไปเรียบร้อยแล้วซึ่งสมบัติที่ได้มาตีเป็นเงินก็ประมาณ8ล้านเรียวเรนยะกะจะนำมันไปฝากที่ธนาคารแต่ตอนที่นับเสร็จมันก็ดึกมากแล้วเรนยะเลยเก็บมันเอาไว้ก่อน
เรนยะ : (เจ้านารูโตะยังไม่มาอีกเหรอเนี่ย อ๊ะ !)
พอพูดถึงพระเอกพระเอกก็มาทันทีเลยเจ้านารูโตะได้ถูกพวกวัวที่เหล่าไดเมียวใช้ลากเกวียนขวิดเสยลอยจนลื่นไถลกับพื้นเข้ามายังสนามประลองทันเวลาพอดีท่ามกลางสายตาของทุกคน
ชิกามารุ : “เห้ย ~ เจ้าหมอนี่มาได้ไงเนี่ย”
เรนยะ : “เปิดตัวเท่ดีนี่นานารูโตะ”
ชิกามารุและเรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้เข้ามาช่วยพยุงนารูโตะยืนขึ้นมาและพอเจ้านารูโตะหายมึนแล้วนั้นก็ได้โวยวายตามภาษาเจ้าตัวว่ามีวัวฝูงใหญ่กำลังมาให้ทุกคนรีบหนีแต่พอนารูโตะไม่เห็นตัวของซาซึเกะทำให้เขาได้ถามออกมา
นารูโตะ : “นี่ชิกามารุ เรนยะ เจ้าซาซึเกะยังไม่มาอีกเหรอ”
ชิกามารุ : “เจ้าโดซึนั่นก็ด้วยไม่เห็นมาเลย”
เรนยะ : “เจ้าซาซึเกะมันคงจะมาสายละนะจากที่ดูส่วนเจ้าโดซึมันคงไม่มาแล้วละนะ”
ชิกามารุ : “หมายความว่ายังไงที่ว่ามันไม่มาแล้วน่ะ เรนยะ”
ดูเหมือนว่าทั้งสามคนจะคุยกันมากเกินไปทำให้ถูกผู้คุมสอบดุเอา
เก็นมะ : “นี่พวกเธอเลิกคุยกันได้แล้ว ยืนหยัดหันไปเผชิญหน้ากับคนดูให้ดูสมเกียรติหน่อยสิ”
นารูโตะที่ได้ยินแบบนั้นก็มองรอบๆก็พบว่าด้านบนมีเหล่าคนดูที่กำลังตบมือและส่งเสียงให้กำลังใจผู้เข้าประลองอย่างพวกเขาจำนวนมาก
เฮ !!! สู้เขานะ !!!
เก็นมะ : “การแข่งรอบจริงพวกนายคือตัวเอกนะ”
ที่ด้านบนสุดปู่โฮคาเงะที่เห็นว่าคาเสะคาเงะได้มาถึงแล้วก็ได้ต้อนรับด้วยรอยยิ้มถึงปู่รุ่น3จะรู้แผนการบุกถล่มโคโนฮะมาจากเก็กโคแล้วก็ตามแต่ปู่รุ่น3ก็เลือกที่จะจัดการประลองต่อไปโดยได้วางกำลังนินจาป้องกันเพิ่มเติมและเข้มงวดมากขึ้นและสั่งให้หน่วยลับหรืออันบุของตนเตรียมพร้อมทุกเมื่อแต่ปู่แกคงจะนึกไม่ถึงว่าคาเสะคาเงะตรงหน้าจะเป็นโอโรจิมารุศิษย์รักของตนปลอมตัวมาแถมในหน่วยลับของเขายังจะมีสปายอย่างคาบูโตะปะปนอยู่อีก
หลังจากที่สองคาเงะคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้วนั้นปู่รุ่น3ก็ได้เริ่มพูดเปิดงานทันที
ปู่รุ่นที่ 3 : เอาละครับทุกท่านต้องขอขอบพระคุณที่ให้เกียรติมาร่วมรับชมการสอบจูนินรอบสุดท้ายในวันนี้ด้วยนะครับ . . ต่อจากนี้ไปจะขอเริ่มการประลองตัดสินระหว่างผู้เข้าสอบ10คนสุดท้ายขอเชิญรับชมกันให้เพลิดเพลินได้แล้ว ณ บัดนี้
เก็นมะ : “เอาละก่อนที่จะเริ่มแข่งฉันมีอะไรที่จะบอกกับพวกนาย”
เก็นมะได้หยิบกระดาษที่มีผังตารางการจับคู่ประลองออกมาให้ทุกคนยืนยันอีกครั้งและพอดูแล้วทุกคนก็พบว่าชื่อของโดซึได้หายไปแล้วแต่การจับคู่ก็ยังคงเหมือนเดิม
ชิกามารุ : (อะไรกันเจ้าคนที่โดซึมันถอนตัวออกไปแล้วงั้นเหรอ)
แต่จู่ๆชิกามารุก็ฉุกคิดได้ว่าเรนยะได้พูดเอาไว้ในตอนแรกว่าโดซึคงจะไม่มาแล้วก็หันไปมองเรนยะด้วยความสงสัย
ชิกามารุ : (หรือว่าเจ้าเรนยะมัน . . .)
เรนยะที่เห็นชิกามารุมองตัวเขาก็รู้ทันทีว่าชิกามารุกำลังคิดอะไรอยู่จึงได้ยิ้มกลับไปให้ชิกามารุ
ชิกามารุ : (คงจะไม่หรอกมั้ง)
นารูโตะ : “เอ่อ . . คือว่าเจ้าซาซึเกะยังไม่มาเลยนะครับอาจารย์ทำยังไงดีละ”
เก็นมะ : “ก็ . . ถ้าหมอนั่นมาไม่ตรงเวลาลงแข่งละก็จะถูกปรับแพ้ทันที”
นารูโตะ : “ฮึ่ย !!! หายหัวไปไหนของมันนะเจ้าซาซึเกะ”
เก็นมะ : “ฟังนะถึงสนามจะเปลี่ยนไปแต่กฎการประลองก็ยังคงเหมือนเดิมก็คือไม่มีกฎข้อห้ามการแข่งจะสิ้นสุดลงเมื่ออีกฝ่ายขอยอมแพ้หรือว่าเสียชีวิตแต่ถ้าฉันตัดสินว่าการต่อสู้จบลงแล้วการต่อสู้จะต้องยุติแค่นั้นไม่รับคำโต้แย้งใดๆทั้งนั้นเข้าใจใช่ไหม”
ทุกคนเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นอันว่าเข้าใจตรงกัน
เก็นมะ : “ถ้างั้นการแข่งรอบแรกก็คือ อุซึมากิ นารุโตะ กับ
ฮิวงะ เนจิ พวกที่เหลือนอกจากสองคนนี้ไปพักผ่อนที่ห้องเก็บตัวได้หรือจะขึ้นไปเพื่อรับชมการประลองก็ได้ตามใจ”
ผู้เข้าสอบทุกคนนอกจากสองคนนั้นที่ถูกเรียกชื่อได้กลับขึ้นไปรับชมการประลองที่ด้านบนที่มีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อน
ณ ที่นั่งคนดู คิบะที่มากับฮินาตะเพื่อมาชมการประลองรอบแรกของนารูโตะได้มาถึงแล้วและได้เริ่มรับชมแต่เรนยะยังไม่เห็นพวกทีมของเขามาเลยแม้แต่คนเดียว
เรนยะ : (ตอนนี้อาจารย์เอรินะคงกำลังไปรับอินามิกับมากิที่โรงพยาบาลละมั้ง)
เรนยะได้มองลงไปดูการประลองของนารูโตะ
นารูโตะได้ทำท่ากำมือเหมือนกับตอนที่ตนกำเลือดของฮินาตะขึ้นมาในวันนั้นและพูดกับเนจิว่าตนจะต้องชนะ
เก็นมะ : “ถ้างั้น . . การแข่งรอบแรกเริ่มได้ !”
เฮ !!! วู้ !!!
นารูโตะกับเนจิเมื่อสัญญาณการประลองได้เริ่มขึ้นทั้งต่างก็ไม่ขยับเพราะกำลังดูเชิงกันอยู่พักหนึ่ง
แต่สุดท้ายเจ้านารูโตะก็เริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อนโดยใช้คุไนปาใส่เนจิแต่ก็ถูกป้องกันเอาไว้ได้นารูโตะที่ปาคุไนใส่เนจิแล้วก็ได้พุ่งเข้าใส่เนจิตรงๆและง้างหมัดต่อยใส่เนจิทันที
แต่ไม่ว่านารูโตะจะโจมตีใส่เนจิเท่าไหร่ก็ตามเนจิก็สามารถป้องกันเอาไว้ได้จนสุดท้ายนารูโตะก็ถูกเนจิซัดมวยอ่อนเข้าไปหมัดหนึ่งทำให้นารูโตะชะงักไปแวบหนึ่งซึ่งเนจิก็ไม่ปล่อยโอกาสเล็งโจมตีที่เส้นจักระที่ไหล่ของนารูโตะต่อทันที
นารูโตะที่เห็นท่าจะไม่ดีก็เลยกลิ้งหลบออกมาทำให้เนจิสกัดจุดพลาดและได้ใช้คาถาแยกเงาพันร่างที่เป็นวิชาหากินของตนออกมาเรียกเสียงฮือฮาของเหล่าผู้ชมได้พอสมควรเพราะตื่นเต้นที่เริ่มมีการใช้คาถากันแล้ว
นารูโตะที่เป็นร่างแยก4คนได้หยิบคุไนเข้าโรมรันใส่เนจิแต่สุดท้ายแล้วพวกร่างแยกก็ถูกจัดการจนหมดและนารูโตะก็พลาดท่าโดนมวยอ่อนเข้าไปจนแทบจะลุกไม่ขึ้น
แต่สุดท้ายนารูโตะก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งและรีดเร้นจักระเก้าหางออกมาปะทะกับเนจิแต่ก็โดนคลื่นสวรรค์ของเนจิสะท้อนการโจมตีจนนอนสลบอยู่กับพื้นแต่จู่ๆร่างของนารูโตะที่ทุกคนคิดว่าแพ้ไปแล้วนั้นก็ได้กลายเป็นควันหายไปส่วนนารูโตะตัวจริงที่ได้พุ่งขึ้นมาจากพื้นข้างใต้ของเนจิและอัปเปอร์คัตใส่คางของเนจิจนกระเด็นพลิกล็อคกลับมาชนะได้
เก็นมะ : “ผู้ชนะ อุซึมากิ นารูโตะ ผ่านเข้ารอบ !!!”
เฮ !!!
เรนยะ : (หึ หึ เท่านี้ต่อไปก็เป็นตาของคู่ผัวเมียในอนาคตสินะ)
หลังจากนารูโตะขึ้นมาพักข้างบนก็พูดอวดที่ตัวเองผ่านเข้ารอบมาได้
นารูโตะ : “ไงละพวกนายเห็นฝีมือของฉันหรือยัง”
ชิโนะ : “ยินดีด้วย”
เรนยะ : “เก่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนนี่นานารูโตะว่าแต่ว่าต่อไปเป็นตาของเจ้าซาซึเกะไม่ใช่เหรอจนป่านนี้ยังไม่เห็นตัวเลย”
ชิกามารุ : “หรือว่าหมอนั่นจะสละสิทธิ์”
ชิโนะ : “คนฉลาดมักหลบหลีกจากอันตราย . . เขาตัดสินใจถูกแล้ว”
นารูโตะ : “ไม่หรอกเจ้าหมอนั่น . . เจ้าซาซึเกะจะต้องมาแน่ๆ”
เหล่าผู้ชมที่เห็นว่าจบรอบแรกไปแล้วแต่รอตั้งนานก็ยังไม่เริ่มรอบต่อไปเสียทีก็เริ่มโวยวายด้วยความไม่พอใจทำให้ปู่รุ่น3ไม่มีทางเลือกสั่งให้ตัดสิทธิ์ของซาซึเกะแต่คาเสะคาเงะหรือลุงงูที่ปลอมตัวมาได้บอกว่าให้รอซาซึเกะอีกหน่อยเพราะตัวเขาและทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ต้องการดูศึกของผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของตระกูลอุจิวะทั้งนั้น
ทำให้ปู่รุ่น3ตัดสินใจทำการยืดเวลาการแข่งออกไปเพื่อรอซาซึเกะโดยสั่งให้ ไรโด้ นินจาที่คอยอารักขาตนไปบอกให้เก็นมะเลื่อนการประลองของซาซึเกะออกไปก่อน
ที่สนามประลองด้านล่างไรโด้ได้บอกให้เก็นมะเลื่อนคู่ประลองออกไปก่อนเพื่อรอซาซึเกะตามคำสั่งของปู่รุ่น3
เก็นมะ : “อืมเข้าแล้วช่วยไม่ได้ละนะ . . . ทุกๆท่านเนื่องจากผู้เข้าแข่งขันรอบที่สองจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มาเพราะฉะนั้นจะขอยกการแข่งรอบต่อไปมาแทนแล้วกันครับ”
!!!
ทุกคนดูจะตกใจมากและก็สงสัยไปตามๆกันว่า อุจิวะ ซาซึเกะ
ทำไมถึงยังไม่มา
นารูโตะ : “เห้อ ~ รอดตัวไปทีนะเจ้าบ้าซาซึเกะ”
ชิกามารุ : “เห้ย ! งั้นก็แปลว่าพวกเราต้องลงแข่งเร็วขึ้นน่ะซิแบบนี้”
เรนยะ : (อย่างที่คิดสินะคู่เจ้าเป็ดโดนเลื่อนออกไปไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง . . ถ้าตามเหตุการณ์แล้วพวกซึนะและโอโตะจะเริ่มบุกโคโนฮะตอนที่เจ้าซาซึเกะแข่งสินะแต่ว่าตามเนื้อเรื่องเดิมในตอนที่โคโนฮะถูกโจมตีดูเหมือนว่าพวกหน่วยรากจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวเลยนี่นา . . หรือว่าเรื่องนี้เจ้าแก่ดันโซจะมีเอี่ยวด้วยชักอยากรู้แล้วสิเรา)
ด้วยความสงสัยใคร่รู้เรนยะจึงได้สื่อสารกับฮัซซันทั้งสองผ่านตราเรย์จู
เรนยะ : (แขนต้องสาป)
แขนต้องสาป : (ครับ Master)
เรนยะ : (นายกับความเงียบช่วยไปสืบดูการเคลื่อนไหวของพวกหน่วยรากและเจ้าดันโซทีส่วนทางไปที่หน่วยรากนั้นความเงียบเธอรู้ทางดีเพราะเคยไปด้วยกันกับฉันมาก่อนไปสืบดูท่าทีว่ามันมีแผนอะไรไปได้)
แขนต้องสาป : “ครับ Master”
หนูเงียบ : “รับทราบค่ะ Master”
Servant ทั้งสองได้ออกจากสนามประลองและไปตามสืบเรื่องของหน่วยรากและดันโซตามที่ Master ของตนสั่งทันที
----------- -------------
ตัดมาทางสนามประลองเก็นมะได้เรียกคู่ประลองรอบต่อไปทันที
เก็นมะ : “ถ้าหยั่งงั้นเริ่มรอบต่อไปได้ คันคุโร่ กับ อาบุราเมะ ชิโนะ ทั้งสองคนลงมา”
คันคุโร่ : “ผู้คุมสอบผมขอยอมแพ้ครับ ! เริ่มคู่ถัดไปได้เลยครับ”
!!!
ชิโนะที่ได้ยินว่าคู่ต่อสู้ของเขาได้ขอยอมแพ้นั้นถึงกลับหัน
ควับมามองคันคุโร่อย่างไม่พอใจ
เหตุที่คันคุโร่ได้ขอยอมแพ้เพราะตนไม่อยากจะเผยไพ่ในมือก่อนที่แผนการจะเริ่มต้นขึ้น
เก็นมะ : “เห้อ ~ คันคุโร่ขอยอมแพ้ อาบุราเมะ ชิโนะ ผ่านเข้ารอบต่อไป”
เหล่าผู้ชมเริ่มจะไม่พอใจมากขึ้นเพราะเริ่มเบื่อเพราะคันคุโร่ยอมแพ้ง่ายเกินไป
เทมาริที่เห็นแบบนั้นจึงได้ลงไปที่สนามประลองเพื่อถ่วงเวลาเพราะถ้าให้การประลองจบง่ายๆแบบนี้แผนการของพวกเขาที่จะให้กาอาระคลายผนึกสัตว์หางหลังจากสู้กับซาซึเกะเพื่ออาละวาดสร้างความวุ่นวายขณะที่พวกนินจาโอโตะเข้าบุกโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะจะพังไม่เป็นท่าเอา
สายลมได้พัดอย่างรุนแรงพร้อมกับที่เทมาริที่นั่งพัดลงมาที่สนามประลอง
เก็นมะ : “นี่ . . เธอคือ”
เทมาริ : “ก็ตาฉันแล้วไม่ใช่เหรอ”
เก็นมะ : “หึ ดูท่าเธอพร้อมจะสู้แล้วสินะ ดีละ งั้นก็มาเริ่มกันเถอะ เอ้า ! อีกคนก็ลงมาสิ นารา ชิกามารุ”
ชิกามารุ : “หน๊อย ~ ทำไมมันถึงได้ข้ามมารอบของฉันเร็วขนาดนี้เนี่ย” (เรายอมแพ้แบบเจ้านั่นดีกว่าแหะ)
ในขณะที่ชิกามารุกำลังจะขอยอมแพ้นั้นจู่ๆเจ้านารูโตะก็มาผลักเจ้าชิกามารุตกลงไปนอนกองด้านล่างสนามประลอง
ว้ากก !!! ตุบ !!!
ชิกามารุ : (เจ้าบ้านารูโตะ!)
เรนยะ : “เอาหน่อยน่าชิกามารุจะได้ช่วยถ่วงเวลาให้ไอ้เจ้าคนมาสายนั่นไงพวก !!!”
นารูโตะ : “สู้ๆนะชิกามารุ !!!”
ชิกามารุ : “เห้อ ~ เอาก็เอา”
เจ้าชิกามารุไม่ยอมลุกขึ้นมาเสียทีมัวแต่มองแรงใส่เจ้านารูโตะอยู่ที่พื้นเหมือนเดิมจนพวกคนดูทนไม่ไหวโยนพวกขยะใส่เจ้าชิกามารุเต็มๆ
ชิกามารุ : (ให้ตายสิ พวกคนดูคงอยากจะดูคู่ของเจ้าซาซึเกะแต่พอมาเป็นรอบของเราแทนพวกคนดูเลยไม่พอใจสินะ ไอ้ฉันก็ไม่อยากจะสู้กับผู้หญิงด้วยสิ)
นารูโตะ : “โว้ย !!! มัวทำอะไรอยู่ได้ตั้งใจสู้หน่อย ชิกามารุ !!!”
เรนยะ : “ดูเหมือนฝั่งตรงข้ามจะเริ่มแล้วนะ”
เทมาริที่เห็นว่าเจ้าหัวสับปะรดไม่ยอมลุกขึ้นมาเสียทีก็เริ่มที่จะอารมณ์เสีย
เทมาริ : “ถ้านายไม่เข้ามาฉันจะเข้าไปเอง”
เทมาริได้วิ่งเข้าใส่ชิกามารุที่ยังคงนอนกองอยู่กับพื้นทันทีเพราะเธออยากสู้แล้ว
เก็นมะ : “เห้ย ! ยังไม่ได้บอกให้เริ่มเลยนะ”
ชิกามารุ : “ยัยนี่จะคึกอะไรขนาดนั้นเนี่ย”
ย้ากก!!! ตู้ม !!!
ชิกามารุที่เห็นว่าเทมาริกระโดดง้างพัดเตรียมจะฟาดเขานั้นก็ได้หยิบคุไนออกมาและปาไปที่กำแพงและกระโดดหลบการโจมตีไปยืนบนคุไนได้อย่างหวุดหวิด
ชิกามารุ : “เอาเถอะถึงฉันจะไม่อยากสู้แต่ให้มาแพ้ผู้หญิงเนี่ยไม่เอาด้วยหรอก”
การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างช้าๆเพราะเจ้าชิกามารุตั้งใจจะถ่วงเวลาให้เจ้าซาซึเกะซึ่งด้วยIQ200ของเขาชิกามารุได้ค่อยๆไล่ต้อนและหลอกให้เทมาริคอยคำนวนและหนีคาถาเงาเลียนแบบของเขาไปเลื่อยๆจนไปถึงหลุมที่เจ้านารูโตะได้ขุดขึ้นมาโจมตีเนจิในรอบแรก
เทมารินั้นสุดท้ายก็ถูกคาถาเงาเลียนแบบของชิกามารุจับเข้าจนได้เธอได้เคลื่อนไหวมาอยู่ตรงหน้าของชิกามารุและได้ยกมือขึ้นตามการเคลื่อนไหวของชิกามารุ
เทมาริได้หลับตาเตรียมใจยอมรับความพ่ายแพ้แล้วแต่จู่ๆเจ้าชิกามารุก็ดันทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
ชิกามารุ : “น่ารำคาญ ฉันขอยอมแพ้”
ทุกคนที่ได้ยินชิกามารุที่กำลังได้เปรียบขอยอมแพ้นั้นก็ถึงกับเหวอกันไปเป็นแถบ
ห๊า ! เอ๋ !
เรนยะ : “ฮ่า ฮ่า ฮ่า สมกับเป็นหมอนั่นจริงๆ”
เรนยะได้ลงมาพร้อมกับเจ้านารูโตะที่กระโดดลงมาโวยวายถามชิกามารุว่าทำไมถึงยอมแพ้แบบนั้น
นารูโตะ : “เจ้าบ้าทำไมถึงได้ไปยอมแพ้แบบนั้นกันละ !”
ชิกามารุ : “หนวกหูน่าเจ้าบ้านารูโตะ มันเรื่องของฉัน”
นารูโตะ : “ฮึ่ย ! นายนี่มันจริงๆเลย”
เรนยะ : “เหนื่อยหน่อยนะชิกามารุ”
ชิกามารุ : “เห้อ ~ ว่าแต่พอหรือป่าวเรนยะ”
เรนยะ : “อ่า ~ เกินพอเลยละ . . ต่อไปฉันรับช่วงต่อเอง”
ชิกามารุ : “ฉันว่านายยอมแพ้ไม่ดีกว่าเหรอเรนยะเจ้าชินเรนนั่นเป็นนินจาที่ร้ายกาจเอาเรื่องเชียวนะ”
นารูโตะ : . . .
เรนยะ : “ไม่เอาน่า ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้หรอกนะเพราะเจ้านั่นมีหนี้ที่ฉันต้องชำระที่มันทำกับเพื่อนของฉัน”
ชิกามารุ : “ตามใจนายละกัน . . ไปกันเถอะนารูโตะ”
เรนยะ : “อย่าลืมเชียร์กันละพวกนาย”
นารูโตะ : “โอ๊ส !!! อย่าแพ้เจ้านั่นละเรนยะ”
หลังจากพวกนารูโตะได้ขึ้นไปแล้วนั้นเรนยะก็ได้หันไปพยักหน้าให้ผู้คุมสอบเก็นมะก่อนจะมองขึ้นไปที่ตัวของเจ้าชินเรน
เรนยะ : “ลงมาได้แล้วน่าคุณสายเลือดคัดสรร ~”
ชินเรน : “เหอะ ! ถ้าแกอยากตายขนาดนั้นฉันจะสังเคราะห์ให้”
ตู้ม !!!
ชินเรนได้กระโดดลงมาจากชั้นที่นั่งคนดูทำให้พื้นสนามแตกเสียงดังสนั่นเรียกเสียงเชียร์จากเหล่าผู้ชมได้ดีเลยทีเดียว
เฮ !!!
----------- -------------
ทางด้านคนดูโจนินและเพื่อนร่วมทีมของเรนยะได้มาถึงกันแล้วและกำลังหาที่นั่ง
เอรินะ : “มาเร็ว อินามิ มากิ คาริน ตรงนั้นมีที่ว่างพอดีเลยละ”
ซากุระ : “เอ๋ ! อินามิจังเธอหายแล้วเหรอจ้ะ”
อินามิ : “ฉันดีขึ้นแล้วละซากุระขอบคุณนะ”
ไก : “โย่ ! เหล่าวัยรุ่นที่น่ารัก และก็เอรินะคุง”
ร็อคลี : “โอ๊ส !!!”
ซาซึเกะ : “ครูไก แม้แต่คุณลีก็ด้วยหรือเนี่ย”
เอรินะ : “ลูกศิษย์คุณไกหายดีแล้วเหรออาการหนักขนาดนั้นน่ะ”
ไก : “ก็นะ เจ้าลีน่ะมันอยากจะมาดูให้ได้น่ะครับ”
อินามิ : “นี่ มากิ คาริน . . . พวกเรามาเชียร์หมอนั่นให้สุดใจขาดดิ้นกันเถอะ”
ทั้งสองที่ถูกเรียกได้หันมามองกันและกันก่อนจะพยักหน้าและหันไปตะโกนให้กำลังใจกับเพื่อนของพวกเธอ
มากิ : “ชนะให้ได้นะจ้ะเรนยะคุง !!!”
คาริน : “สู้เขานะเรนยะคุง !!!”
อินามิ : “พาพวกเราไปเลี้ยงเนื้อย่างให้ได้นะเรนยะ !!!”
----------- -------------
บรรยากาศของพวกคนดูเริ่มดุเดือดเพราะศึกครั้งนี้พวกเขาทราบกันดีว่านินจาจากหมู่บ้านทากิงาคุเระนั้นเป็นนินจาสายเลือดคัดสรร
เก็นมะที่กำลังจะออกปากเริ่มการประลองนั้นจู่ๆบริเวณโดยรอบสนามก็ได้เกิดสายลมแรงขึ้นพัดเหล่าใบไม้ให้ปลิวว่อน
พอสายลมผ่านพ้นไปก็ปรากฏร่างของ คนที่ทุกคนกำลังรอคอยมาเนิ่นนาน
เฮ !!! วู้ !!!
เก็นมะ : “ดูท่าจะติดโรคมาสายจากคุณแล้วสิท่า”
คาคาชิ : “แหะ แหะ คือว่า . . ไม่รู้ว่าซาซึเกะโดนตัดสิทธิ์ไปหรือยังตอนนี้ยังทันไหม”
เก็นมะ : “ไอ้ทันมันก็ทันนั่นละแต่ตอนนี้เป็นตาของสองคนนี้น่ะพวกนายคงต้องหลบออกไปก่อนละนะ”
เรนยะ : (ให้ตายสิจะมาทำไมตอนรอบของฉันกันฟ่ะ)
ซาซึเกะ : “อาคุสะ เรนยะ ได้ยินว่านายต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่หินเอาเรื่องเลยนี่หวังว่านายจะไม่แพ้ไปซะก่อนจะมาเจอกับฉันนะ”
เรนยะ : “มาก็ช้ายังจะมาทำเก๊กอยู่อีกหลบออกไปได้แล้วเพราะนี่มันตาของฉันนายค่อยไปกระลองปิดท้ายนู้นคุณอันดับหนึ่งของห้อง”
ซาซึเกะ : “หึ !”
คาคาชิ : “ไปกันเถอะซาซึเกะ”
ซาซึเกะพยักหน้าและเดินตามคาคาชิขึ้นไปรับชมการประลองพร้อมกับพวกซากุระ
คาคาชิ : “ไง ทุกคน ~”
ซากุระ : “อาจารย์คาคาชิ ซาซึเกะคุง !”
นารูโตะ : “เจ้าบ้ามาช้าชะมัดยาด”
ซาซึเกะ : “ก็มาทันแล้วกันเจ้าซื่อบื้อ”
เอรินะ : “มาสายสมเป็นคุณเลยนะคุณคาคาชิ”
คาคาชิ : “เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ เอรินะ เธอรีบไปบอกให้ลูกศิษย์ของเธอยอมแพ้จะดีกว่านะ”
!!!
คาริน : “ทำไมละเรนยะคุงน่ะเก่งออกจะตายเพราะงั้นเขาไม่มีวันแพ้หรอกนะ !”
เอรินะ : . . .
คาคาชิ : “คู่ต่อสู้ของเขาร้ายกาจเกินไปนินจาสายเลือดคัดสรรน่ะนินจาธรรมดาเอาชนะไม่ได้หรอกนะ”
ทุกคนได้หันมามองเอรินะว่าเธอจะตัดสินใจให้เรนยะสู้หรือถอยกันแน่ แต่สุดท้ายเอรินะก็พูดว่า
เอรินะ : “ไม่ต้องห่วงหรอก . . เพราะเรนยะน่ะก็ไม่ใช่นินจาธรรมดาเหมือนกัน”
???
ไก : “หมายความว่ายังไงกันแน่เอรินะคุง”
ทุกคนได้รอฟังอย่างใจจดใจจ่อด้วยความสงสัย
เอรินะ : “เดี๋ยวพวกเราก็คงจะได้เห็นกันแล้วละ”
เอรินะไม่ยอมบอกแต่กลับให้ทุกคนดูด้วยตาตนเองเพราะเธอเชื่อในตัวลูกศิษย์ของเธอว่าในครั้งนี้เขาจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้เหมือนกับที่ผ่านๆมา
ชิกามารุ : (เจ้าบ้านารูโตะ!)
เรนยะ : “เอาหน่อยน่าชิกามารุจะได้ช่วยถ่วงเวลาให้ไอ้เจ้าคนมาสายนั่นไงพวก !!!”
นารูโตะ : “สู้ๆนะชิกามารุ !!!”
ชิกามารุ : “เห้อ ~ เอาก็เอา”
เจ้าชิกามารุไม่ยอมลุกขึ้นมาเสียทีมัวแต่มองแรงใส่เจ้านารูโตะอยู่ที่พื้นเหมือนเดิมจนพวกคนดูทนไม่ไหวโยนพวกขยะใส่เจ้าชิกามารุเต็มๆ
ชิกามารุ : (ให้ตายสิ พวกคนดูคงอยากจะดูคู่ของเจ้าซาซึเกะแต่พอมาเป็นรอบของเราแทนพวกคนดูเลยไม่พอใจสินะ ไอ้ฉันก็ไม่อยากจะสู้กับผู้หญิงด้วยสิ)
นารูโตะ : “โว้ย !!! มัวทำอะไรอยู่ได้ตั้งใจสู้หน่อย ชิกามารุ !!!”
เรนยะ : “ดูเหมือนฝั่งตรงข้ามจะเริ่มแล้วนะ”
เทมาริที่เห็นว่าเจ้าหัวสับปะรดไม่ยอมลุกขึ้นมาเสียทีก็เริ่มที่จะอารมณ์เสีย
เทมาริ : “ถ้านายไม่เข้ามาฉันจะเข้าไปเอง”
เทมาริได้วิ่งเข้าใส่ชิกามารุที่ยังคงนอนกองอยู่กับพื้นทันทีเพราะเธออยากสู้แล้ว
เก็นมะ : “เห้ย ! ยังไม่ได้บอกให้เริ่มเลยนะ”
ชิกามารุ : “ยัยนี่จะคึกอะไรขนาดนั้นเนี่ย”
ย้ากก!!! ตู้ม !!!
ชิกามารุที่เห็นว่าเทมาริกระโดดง้างพัดเตรียมจะฟาดเขานั้นก็ได้หยิบคุไนออกมาและปาไปที่กำแพงและกระโดดหลบการโจมตีไปยืนบนคุไนได้อย่างหวุดหวิด
ชิกามารุ : “เอาเถอะถึงฉันจะไม่อยากสู้แต่ให้มาแพ้ผู้หญิงเนี่ยไม่เอาด้วยหรอก”
การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างช้าๆเพราะเจ้าชิกามารุตั้งใจจะถ่วงเวลาให้เจ้าซาซึเกะซึ่งด้วยIQ200ของเขาชิกามารุได้ค่อยๆไล่ต้อนและหลอกให้เทมาริคอยคำนวนและหนีคาถาเงาเลียนแบบของเขาไปเลื่อยๆจนไปถึงหลุมที่เจ้านารูโตะได้ขุดขึ้นมาโจมตีเนจิในรอบแรก
เทมารินั้นสุดท้ายก็ถูกคาถาเงาเลียนแบบของชิกามารุจับเข้าจนได้เธอได้เคลื่อนไหวมาอยู่ตรงหน้าของชิกามารุและได้ยกมือขึ้นตามการเคลื่อนไหวของชิกามารุ
เทมาริได้หลับตาเตรียมใจยอมรับความพ่ายแพ้แล้วแต่จู่ๆเจ้าชิกามารุก็ดันทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
ชิกามารุ : “น่ารำคาญ ฉันขอยอมแพ้”
ทุกคนที่ได้ยินชิกามารุที่กำลังได้เปรียบขอยอมแพ้นั้นก็ถึงกับเหวอกันไปเป็นแถบ
ห๊า ! เอ๋ !
เรนยะ : “ฮ่า ฮ่า ฮ่า สมกับเป็นหมอนั่นจริงๆ”
เรนยะได้ลงมาพร้อมกับเจ้านารูโตะที่กระโดดลงมาโวยวายถามชิกามารุว่าทำไมถึงยอมแพ้แบบนั้น
นารูโตะ : “เจ้าบ้าทำไมถึงได้ไปยอมแพ้แบบนั้นกันละ !”
ชิกามารุ : “หนวกหูน่าเจ้าบ้านารูโตะ มันเรื่องของฉัน”
นารูโตะ : “ฮึ่ย ! นายนี่มันจริงๆเลย”
เรนยะ : “เหนื่อยหน่อยนะชิกามารุ”
ชิกามารุ : “เห้อ ~ ว่าแต่พอหรือป่าวเรนยะ”
เรนยะ : “อ่า ~ เกินพอเลยละ . . ต่อไปฉันรับช่วงต่อเอง”
ชิกามารุ : “ฉันว่านายยอมแพ้ไม่ดีกว่าเหรอเรนยะเจ้าชินเรนนั่นเป็นนินจาที่ร้ายกาจเอาเรื่องเชียวนะ”
นารูโตะ : . . .
เรนยะ : “ไม่เอาน่า ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้หรอกนะเพราะเจ้านั่นมีหนี้ที่ฉันต้องชำระที่มันทำกับเพื่อนของฉัน”
ชิกามารุ : “ตามใจนายละกัน . . ไปกันเถอะนารูโตะ”
เรนยะ : “อย่าลืมเชียร์กันละพวกนาย”
นารูโตะ : “โอ๊ส !!! อย่าแพ้เจ้านั่นละเรนยะ”
หลังจากพวกนารูโตะได้ขึ้นไปแล้วนั้นเรนยะก็ได้หันไปพยักหน้าให้ผู้คุมสอบเก็นมะก่อนจะมองขึ้นไปที่ตัวของเจ้าชินเรน
เรนยะ : “ลงมาได้แล้วน่าคุณสายเลือดคัดสรร ~”
ชินเรน : “เหอะ ! ถ้าแกอยากตายขนาดนั้นฉันจะสังเคราะห์ให้”
ตู้ม !!!
ชินเรนได้กระโดดลงมาจากชั้นที่นั่งคนดูทำให้พื้นสนามแตกเสียงดังสนั่นเรียกเสียงเชียร์จากเหล่าผู้ชมได้ดีเลยทีเดียว
เฮ !!!
----------- -------------
ทางด้านคนดูโจนินและเพื่อนร่วมทีมของเรนยะได้มาถึงกันแล้วและกำลังหาที่นั่ง
เอรินะ : “มาเร็ว อินามิ มากิ คาริน ตรงนั้นมีที่ว่างพอดีเลยละ”
ซากุระ : “เอ๋ ! อินามิจังเธอหายแล้วเหรอจ้ะ”
อินามิ : “ฉันดีขึ้นแล้วละซากุระขอบคุณนะ”
ไก : “โย่ ! เหล่าวัยรุ่นที่น่ารัก และก็เอรินะคุง”
ร็อคลี : “โอ๊ส !!!”
ซาซึเกะ : “ครูไก แม้แต่คุณลีก็ด้วยหรือเนี่ย”
เอรินะ : “ลูกศิษย์คุณไกหายดีแล้วเหรออาการหนักขนาดนั้นน่ะ”
ไก : “ก็นะ เจ้าลีน่ะมันอยากจะมาดูให้ได้น่ะครับ”
อินามิ : “นี่ มากิ คาริน . . . พวกเรามาเชียร์หมอนั่นให้สุดใจขาดดิ้นกันเถอะ”
ทั้งสองที่ถูกเรียกได้หันมามองกันและกันก่อนจะพยักหน้าและหันไปตะโกนให้กำลังใจกับเพื่อนของพวกเธอ
มากิ : “ชนะให้ได้นะจ้ะเรนยะคุง !!!”
คาริน : “สู้เขานะเรนยะคุง !!!”
อินามิ : “พาพวกเราไปเลี้ยงเนื้อย่างให้ได้นะเรนยะ !!!”
----------- -------------
บรรยากาศของพวกคนดูเริ่มดุเดือดเพราะศึกครั้งนี้พวกเขาทราบกันดีว่านินจาจากหมู่บ้านทากิงาคุเระนั้นเป็นนินจาสายเลือดคัดสรร
เก็นมะที่กำลังจะออกปากเริ่มการประลองนั้นจู่ๆบริเวณโดยรอบสนามก็ได้เกิดสายลมแรงขึ้นพัดเหล่าใบไม้ให้ปลิวว่อน
พอสายลมผ่านพ้นไปก็ปรากฏร่างของ คนที่ทุกคนกำลังรอคอยมาเนิ่นนาน
เฮ !!! วู้ !!!
เก็นมะ : “ดูท่าจะติดโรคมาสายจากคุณแล้วสิท่า”
คาคาชิ : “แหะ แหะ คือว่า . . ไม่รู้ว่าซาซึเกะโดนตัดสิทธิ์ไปหรือยังตอนนี้ยังทันไหม”
เก็นมะ : “ไอ้ทันมันก็ทันนั่นละแต่ตอนนี้เป็นตาของสองคนนี้น่ะพวกนายคงต้องหลบออกไปก่อนละนะ”
เรนยะ : (ให้ตายสิจะมาทำไมตอนรอบของฉันกันฟ่ะ)
ซาซึเกะ : “อาคุสะ เรนยะ ได้ยินว่านายต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่หินเอาเรื่องเลยนี่หวังว่านายจะไม่แพ้ไปซะก่อนจะมาเจอกับฉันนะ”
เรนยะ : “มาก็ช้ายังจะมาทำเก๊กอยู่อีกหลบออกไปได้แล้วเพราะนี่มันตาของฉันนายค่อยไปกระลองปิดท้ายนู้นคุณอันดับหนึ่งของห้อง”
ซาซึเกะ : “หึ !”
คาคาชิ : “ไปกันเถอะซาซึเกะ”
ซาซึเกะพยักหน้าและเดินตามคาคาชิขึ้นไปรับชมการประลองพร้อมกับพวกซากุระ
คาคาชิ : “ไง ทุกคน ~”
ซากุระ : “อาจารย์คาคาชิ ซาซึเกะคุง !”
นารูโตะ : “เจ้าบ้ามาช้าชะมัดยาด”
ซาซึเกะ : “ก็มาทันแล้วกันเจ้าซื่อบื้อ”
เอรินะ : “มาสายสมเป็นคุณเลยนะคุณคาคาชิ”
คาคาชิ : “เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ เอรินะ เธอรีบไปบอกให้ลูกศิษย์ของเธอยอมแพ้จะดีกว่านะ”
!!!
คาริน : “ทำไมละเรนยะคุงน่ะเก่งออกจะตายเพราะงั้นเขาไม่มีวันแพ้หรอกนะ !”
เอรินะ : . . .
คาคาชิ : “คู่ต่อสู้ของเขาร้ายกาจเกินไปนินจาสายเลือดคัดสรรน่ะนินจาธรรมดาเอาชนะไม่ได้หรอกนะ”
ทุกคนได้หันมามองเอรินะว่าเธอจะตัดสินใจให้เรนยะสู้หรือถอยกันแน่ แต่สุดท้ายเอรินะก็พูดว่า
เอรินะ : “ไม่ต้องห่วงหรอก . . เพราะเรนยะน่ะก็ไม่ใช่นินจาธรรมดาเหมือนกัน”
???
ไก : “หมายความว่ายังไงกันแน่เอรินะคุง”
ทุกคนได้รอฟังอย่างใจจดใจจ่อด้วยความสงสัย
เอรินะ : “เดี๋ยวพวกเราก็คงจะได้เห็นกันแล้วละ”
เอรินะไม่ยอมบอกแต่กลับให้ทุกคนดูด้วยตาตนเองเพราะเธอเชื่อในตัวลูกศิษย์ของเธอว่าในครั้งนี้เขาจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้เหมือนกับที่ผ่านๆมา
คันคุโร่ : เจ้าเด็กบ้านั่นได้ตายแน่ทีนี้
เทมาริ : ก็ต้องรอดูกันไปละนะ
กาอาระ : (ขอฉันดูหน่อยเถอะ อาคุสะ เรนยะ ว่านายจะผ่านอุปสรรคนี้ไปยังไง)
----------- -------------
ที่สนามประลองเรนยะและชินเรนทั้งสองได้จ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใครทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มกดดันจนเหล่าผู้ชมทุกคนถึงกับกลืนนำ้ลายดังอึก
เก็นมะที่เห็นว่าผู้เข้าสอบทั้งสองพร้อมกันแล้วแถมพร้อมชนิดที่ว่ากะจะฆ่าให้ตายกันไปข้างเขาก็ได้เริ่มการประลองในทันที
เก็นมะ : “อาคุสะ เรนยะ vs ยาโตะ ชินเรน . . . เริ่มได้ !!!”
เมื่อสัญญาณประลองได้เริ่มขึ้นเรนยะได้เป็นฝ่ายโจมตีก่อนด้วยการซัดคุไนเข้าใส่อีกฝ่ายซึ่งตัวของชินเรนนั้นไม่คิดที่จะหลบการโจมตีนี้ให้เสียเวลาด้วยซ้ำ
กิ๊ง !!!
เกราะชั้นบางๆสีขาวที่ถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงจะไม่เห็นของชินเรนได้ป้องกันคุไนทั้งหมดทำให้เขาไร้ซึ่งรอยแผล
เรนยะ : “ไม่เข้าอย่างที่คิดสินะ”
ชินเรน : “เคยบอกแกไปแล้วไงว่าอาวุธของแกทำอะไรฉันคนนี้ไม่ได้หรอก ทีนี้แกก็เตรียมตัวตายได้แล้ว”
ชินเรนได้ค่อยๆเดินเข้าไปหาเรนยะอย่างช้าๆเพราะเขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรเขาได้
เรนยะ : “งั้น . . เจอนี่หน่อยเป็นไง”
!!!
สิ้นคำพูดของเรนยะ ที่ด้านหลังของเขาก็ได้ปรากฎวงระลอกคลื่นสีทองขึ้นซึ่งทันใดนั้นปลายหอกและดาบก็ได้เผยออกมาจากคลื่นสีทองจำนวนมากและยิงใส่ตัวของชินเรนทันที
----------- -------------
ที่สนามประลองเรนยะและชินเรนทั้งสองได้จ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใครทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มกดดันจนเหล่าผู้ชมทุกคนถึงกับกลืนนำ้ลายดังอึก
เก็นมะที่เห็นว่าผู้เข้าสอบทั้งสองพร้อมกันแล้วแถมพร้อมชนิดที่ว่ากะจะฆ่าให้ตายกันไปข้างเขาก็ได้เริ่มการประลองในทันที
เก็นมะ : “อาคุสะ เรนยะ vs ยาโตะ ชินเรน . . . เริ่มได้ !!!”
เมื่อสัญญาณประลองได้เริ่มขึ้นเรนยะได้เป็นฝ่ายโจมตีก่อนด้วยการซัดคุไนเข้าใส่อีกฝ่ายซึ่งตัวของชินเรนนั้นไม่คิดที่จะหลบการโจมตีนี้ให้เสียเวลาด้วยซ้ำ
กิ๊ง !!!
เกราะชั้นบางๆสีขาวที่ถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงจะไม่เห็นของชินเรนได้ป้องกันคุไนทั้งหมดทำให้เขาไร้ซึ่งรอยแผล
เรนยะ : “ไม่เข้าอย่างที่คิดสินะ”
ชินเรน : “เคยบอกแกไปแล้วไงว่าอาวุธของแกทำอะไรฉันคนนี้ไม่ได้หรอก ทีนี้แกก็เตรียมตัวตายได้แล้ว”
ชินเรนได้ค่อยๆเดินเข้าไปหาเรนยะอย่างช้าๆเพราะเขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรเขาได้
เรนยะ : “งั้น . . เจอนี่หน่อยเป็นไง”
!!!
สิ้นคำพูดของเรนยะ ที่ด้านหลังของเขาก็ได้ปรากฎวงระลอกคลื่นสีทองขึ้นซึ่งทันใดนั้นปลายหอกและดาบก็ได้เผยออกมาจากคลื่นสีทองจำนวนมากและยิงใส่ตัวของชินเรนทันที
เป๊ง ๆ !!! กี๊ง ๆ !!!
ชิเรนที่ถูกอาวุธจำนวนมากยิงใส่ก็รู้สึกตกใจอยู่บ้างแต่เกราะของเขายังสามารถป้องกันได้และเขาก็ได้ตัดสินใจใช้จักระเสริมชั้นเกราะของตนให้แน่นหนาขึ้นทันทีเพราะถึงจะป้องกันอาวุธเหล่านั้นเอาไว้ได้แต่โดนโจมตีไปมากแบบนี้ความทนทานเกราะของเขาก็เริ่มลดลงเหมือนกัน
เหล่าอาวุธที่ถูกเกราะของชินเรนสะท้อนออกมาตกเรียงรายปักตามพื้นนั้นได้กลายเป็นละอองแสงสีทองแล้วหายไปแต่เหล่าผู้ชมที่กำลังอึ้งกิมกี่อยู่นั้นไม่ได้สังเกตเห็นเลย
ชินเรน : “นี่ . . แก”
เรนยะ : “เห ~ อาวุธระดับ D ทำอะไรไม่ได้อย่างที่คิดสินะ . . งั้นถ้าแบบนี้ละ”
!!!
เมื่อสิ้นเสียงของเรนยะวงคลื่นมิติสีทองก็ได้ปรากฎออกมาจำนวนมากและยิงดาบและหอกจำนวน 10 เล่มเข้าใส่ชิเรนจนกระเด็นไปเลยทีเดียวและอาวุธเหล่านั้นก็ได้สลายกลายเป็นละอองสีทองหายไปท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าผู้ชมที่เริ่มตื่นจากภวังค์
ชินเรน : “อัก !!! บ . . บ้าน่าเกราะของฉันถึงกับร้าวเลยงั้นเรอะเป็นไปไม่ได้ !!!” (ฉันคนนี้บาดเจ็บเนี่ยนะบ้าชัดๆ)
เรนยะ : “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอกนะ”
ซึ่งอาวุธที่เรนยะยิงออกไปคือโฮกุระดับ B นั้นเองถึงจะทำลายเกราะของชินเรนไม่ได้ในทันทีแต่ก็สร้างรอยร้าวให้กับเกราะของชินเรนได้แถมความรุนแรงของอาวุธนั้นยังทำให้ตัวของชินเรนถูกแรงกระแทกของอาวุธกระเด็ดออกไปและสามารถสร้างความเจ็บปวดให้แก่เขาได้
ใช่แล้วการ์ดที่เรนยะเปิดได้มาหลังจากที่เกลือมานานเมื่อวานก็คือการ์ดโฮกุนั่นเองและโฮกุนั้นก็คือ
Gate of Babylon / คลังสมบัติแห่งราชา
ประเภท : ต่อต้านบุคคล (ตนเอง)
ระดับ : E ~ EX
(EA เงื่อนไขการใช้งานถูกต้อง)
-เป็นคลังสมบัติที่เก็บรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์ร่วมถึงพวกต้นแบบของทุกสิ่งทุกสิ่งบนโลกเอาไว้ ต้นแบบของสมบัติวีรชนรวมถึงของวิเศษมากมายถูกเก็บเอาไว้เรียกได้ว่าเป็นที่เก็บรวมทุกภูมิปัญญาของมนุษย์ และสามารถเรียกออกมาผ่านประตูมิติหรือเกทที่สามารถวาปโผล่ออกมาจากที่ไหนก็ได้ในระยะรอบๆตัวของผู้ใช้ ซึ่งประตูมิติสามารถยิงอาวุธต่างๆออกมาโจมตีใส่ศัตรูได้และอาวุธที่ยิงออกมานั้นจะกลับเข้าไปในคลังสมบัติเองโดยอัตโนมัติทำให้สามารถยิงมันออกมาได้เรื่อยๆแถมทุกสิ่งในคลังสมบัตินั้นเป็นต้นแบบของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก เมื่อปะทะกับของแบบเดียวกันก็จะชนะเสมอ
----------- -------------
ทางด้านคนดู
นารูโตะ : “ไอ้นั่นมันอะไรน่ะ !!!”
คาคาชิ : “หรือว่านั่นจะเป็นคาถามิติ”
ไก : “เด็กนั่นเก่งชะมัดฝึกคาถามิติได้ด้วยอายุแค่นี้”
คาคาชิ : “ไม่สิฉันไม่เคยได้ยินหรือเคยเห็นคาถาแบบนั้นมาก่อนเลยนะ . . . อ่ะ !”
แต่จู่ๆคาคาชิก็นึกถึงคำพูดของเอรินะที่บอกว่าเรนยะก็ไม่ใช่นินจาธรรมดาเหมือนกันทำให้เขาสะกิดใจเลยหันไปถามเอรินะที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด
คาคาชิ : “เอรินะหรือว่าเรนยะเขาจะเป็นนินจาสายเลือดคัดสรรด้วยเหมือนกัน”
นารูโตะ : “นี่อาจารย์คาคาชิสรุปแล้วไอ้สายเลือดคัดสรรนี่มันคืออะไรกันแน่ครับผมสงสัยมาตั้งแต่ที่ได้ยินครั้งแรกที่ลานประลองครั้งนั้นแล้วนะ”
เพราะนารูโตะนั้นตกใจกับจิตสังหารของเรนยะในการสอบรอบที่สองทำให้นารูโตะลืมถามเรื่องนี้ไปซะเสียสนิทไม่ใช่แค่นารูโตะเท่านั้นเกะนินทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็สงสัยเหมือนกันเพราะพวกเขารู้จักแต่ขีดจำกัดสายเลือดเท่านั้น
คาคาชิ : “ก็อย่างที่พวกเธอรู้ ขีดจำกัดสายเลือดน่ะ เป็นวิชาลับหรือความพิเศษทางร่างกายที่ส่งผ่านกันทางการมีทายาทสืบสายเลือดเท่านั้นยกตัวอย่างก็ เนตรวงแหวนของ ซาซึเกะ และขีดจำกัดสายเลือดรูปแบบจักระ ที่เป็นสายเลือดที่พิเศษเพราะมีการใช้จักระธาตุได้ 2 ธาตุในคาถาเดียวกันอย่างเช่น คาถาน้ำแข็งของตระกูลยูกิ แต่ถ้ามีคุณสมบัติธาตุที่เหมือนกันต่อให้ไม่ใช่คนในตระกูลยูกิก็มีโอกาสที่จะใช้คาถาน้ำแข็งได้เหมือนกัน แต่ว่า . . .”
ไก : “ยังมีขีดจำกัดสายเลือดเฉพาะหรือที่เราเรียกกันว่าสายเลือดคัดสรรซึ่งเป็นสายเลือดที่หายากยิ่งกว่าขีดจำกัดสายเลือดเพราะมีการใช้จักระธาตุได้มากกว่า 3 ธาตุในคาถาเดียวกันได้และที่พวกเรารู้ตอนนี้สายเลือดคัดสรรก็มีซึจิคาเงะแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระและพวกเขาทั้งสองคนที่กำลังประลองอยู่ในตอนนี้ซึ่งหมายความว่าในโลกนินจานี้มีสายเลือดคัดสรรเพียง3คนเท่านั้นในตอนนี้”
อึก !!!
พวกเกะนินทุกคนที่ได้รู้ว่าสายเลือดคัดสรรคืออะไรก็ถึงกับลอบกลืนนำ้ลายกันเลยทีเดียว
ซากุระ : “หมายความว่าเรนยะคุง . .”
ร็อคลี : “พรสวรรค์ . . . สินะครับ”
ซาซึเกะ : “ชิ !” (ฉันคนนี้ด้อยกว่างั้นเรอะ!)
คาริน : “เรนยะคุงแข็งแกร่งอยู่แล้วละ”
อินามิ : “ดูท่าแล้วพวกเราคงจะได้กินเนื้อย่างแล้วละนะ”
มากิ : “แหะ แหะ”
นารูโตะไม่ได้พูดอะไรเอาแต่จับจ้องเรนยะไม่วางตาด้วยความอิจฉา
คาคาชิ : “และแน่นอนว่าเนตรวงแหวนน่ะไม่สามารถลอกเลียนแบบคาถาพวกนั้นได้เพราะมันเป็นวิชาเฉพาะตัวจริงๆไม่นึกเลยว่าคุณจะได้ลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์แบบนี้”
เอรินะ : “ก็อาจจะถูกอย่างที่พวกคุณบอกแต่ว่านะ . . . เรนยะน่ะเขาพิเศษยิ่งกว่าสายเลือดคัดสรรเสียอีก”
!!!
คาคาชิ : “หมายความว่ายังไง ?”
เอรินะ : “ต้องขอโทษด้วยฉันคงบอกได้แค่นี้เท่านั้น”
ไก : “เรามาดูกันต่อเถอะคาคาชิอย่างน้อยอาจจะได้รู้อะไรบ้าง”
คาคาชิ : “อา ก็ตั้งใจเอาไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว”
คาคาชิได้ยกผ้าคาดหน้าผากขึ้นเพื่อใช้เนตรวงแหวนดูการต่อสู้ของสายเลือดคัดสรรทั้งสอง
----------- -------------
ชินเรนที่ล้มก็ได้ลุกขึ้นมาและเริ่มคิดที่จะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่จักระของเขาจะหมดลงเพราะวิชาม่านเกราะของตระกูลยาโตะของเขานั้นค่อนข้างจะกินจักระปริมาณมาก
เรนยะที่ได้ใช้เนตรพันลี้มองดูก็เห็นว่าม่านเกราะที่ร้าวของชินเรนนั้นได้ถูกซ่อมแซมจนเกราะอยู่ในสภาพเต็มร้อยอีกครั้งแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเรนยะก็สังเกตเห็นว่าตามร่างกายของชินเรนจะมีรอยช้ำที่เกิดจากอาวุธระดับ Bของเขาอย่างชัดเจน
เรนยะ : “อ้าวๆ เป็นอะไรไปละไหนว่าอยากจะทำให้ฉันพิการแต่มีน้ำยาแค่นี้หรือยังไง”
ชินเรน : “หน๊อยแก !!!”
ชินเรนที่ถูกเรนยะพูดยั่วโทสะทำให้ตัวเขาพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ด้วยความเคยชิน
เรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้เปิดเกทเรียกอาวุธออกมายิงใส่อีกฝ่ายด้วยความสนุก
ฟุบ !!! เป๊ง ๆ !!! กี๊ง ๆ !!!
ชินเรนที่ถูกอาวุธจำนวนมากยิงใส่ก็ทำได้เพียงแค่ยืนหยัดป้องกันเอาไว้เท่านั้นเพราะไม่มีทางเลือก
ความจริงแล้วเรนยะจะเลือกยิงโฮกุระดับ Aใส่ชินเรนให้มันจบๆไปเลยก็ได้แต่เขายังอยากลองใช้โฮกุนี้ให้ชำนาญก่อนและอีกอย่างเขาจะอยากจะสร้างความอัปยศอดสูและทำลายความภาคภูมิใจของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการเอาคืนที่มันทำกับอินามิเพื่อนของเขา
----------- -------------
ในสายตาของเหล่าคนดูนั้นพวกเขาเห็นแต่ชินเรนที่น่าจะเป็นผู้ชนะในรอบนี้แน่ๆถูกเหล่าสรรพาวุธจำนวนมากที่ออกมาจากวงคลื่นสีทองที่โผล่ออกมากจากอากาศยิงใส่อยู่ฝ่ายเดียวแถมยังเข้าใกล้เรนยะไม่ได้เลยด้วยซำ้
เฮ !!!
พวกผู้ชมได้ส่งเสียงเชียร์อย่างถูกใจและเหล่าไดเมียวก็เริ่มให้ความสนใจในตัวของเรนยะกันแล้ว
ปู่รุ่นที่ 3 : “ไม่นึกเลยว่าหมู่บ้านของเราจะมีนินจาหน้าใหม่ที่มีความสามารถขนาดนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ”
ไรโด้ : “นั่นสิครับ ท่านโฮคาเงะ”
ส่วนโอโรจิมารุที่ปลอมตัวเป็นคาเสะคาเงะที่นั่งดูการประลองของเรนยะอยู่ข้างๆปู่รุ่นที่3นั้นถึงกับตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
ในตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความโลภและเขาต้องการที่จะศึกษาความสามารถนี้ . . . เขาอยากได้สายเลือดที่ทรงพลังแบบนี้เขาอยากที่จะได้ร่างของเด็กที่ชื่อ อาคุสะ เรนยะ โอโรจิมารุแทบอยากจะยืดคอไปฝากอักขระต้องสาปให้เรนยะจากตรงนี้เสียด้วยซำ้แต่โชคดีที่มีคนเรียกสติของเขาเอาไว้ซะก่อน
ปู่รุ่นที่ 3 : “หืม ? ท่านคาเสะคาเงะท่านเป็นอะไรไปหรือ”
โอโรจิมารุ : “ป . . ป่าวครับไม่มีอะไร”
ดูเหมือนว่าโอโรจิมารุจะตื่นเต้นมากจนเกินไปจนเกือบจะหลุดไต๋ออกมาเสียแล้ว
----------- -------------
ทางด้านสนามประลองชินเรนที่ถูกบังคับให้เป็นฝ่ายป้องกันเพียงฝ่ายเดียวนั้นก็เริ่มที่จะร้อนใจแล้วเพราะในตอนนี้ตัวของเขาสูญเสียจักระไปในการซ่อมแซมเกราะของเขาไปมากกว่าที่คิดแถมยังอาการบาดเจ็บสะสมนี่อีกถ้าปล่อยเอาไว้เขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่
ชินเรนจึงทำการรวมจักระเอาไว้ที่เกราะของตนและปล่อยมันออกมาอย่างรุนแรงทำให้อาวุธที่กำลังมาถึงนั้นถูกแรงดีดของจักระที่ตัวเขาปล่อยออกมาทำให้อาวุธที่ยิงออกมานั้นชะลอความเร็วลงและได้ใช้โอกาสนี้พุ่งหลบอาวุธที่กำลังตามมาแถมใช้จังหวะนี้พุ่งฝ่าอาวุธอันมากมายเพื่อเข้าโจมตีเรนยะด้วยวิชาทำลายเส้นจักระแบบเดียวกันกับที่ใช้โจมตีอินามิในการสอบคัดตัว
เรนยะ : “โห ~ ไม่เลวเลยนี่ แต่แกจะมีปัญญามาถึงตัวฉันได้รึป่าวก็อีกเรื่อง”
ชินเรน : “แค่ฉันแตะตัวแกได้แกก็จบแล้ว !!! ย้าก !!!”
ในขณะที่ชินเรนกำลังมาถึงตัวเรนยะได้ครึ่งทางเรนยะก็ได้เปิดเกตขึ้นข้างบนหลังของชินเรนที่กำลังมาทางตัวเขาและยิงพวกอาวุธที่มีนำ้หนักมากอย่างดาบใหญ่และค้อนเข้าใส่ชินเรนโดยที่เขานั้นไม่รู้ตัว
ชินเรนที่วิ่งมาได้ครึ่งทางแล้วนั้นเขาก็ถูกอาวุธยิงใส่จากด้านหลังที่เป็นมุมอับของเขาจนตัวล้มทิ่มพื้นฝุ่นตลบ
ตู้ม !!!
เรนยะ : “อะไรกันเนี่ย จอดแค่นี้เหรอคุณสายเลือดคัดสรร”
เรนยะได้ปิดเกทมิติสีทองแล้วเดินเข้าไปหาชินเรนเพื่อจัดการให้เสร็จๆแต่เพราะเรนยะมีสกิลเนตรพันลี้ทำให้มองเห็นล่วงหน้าได้ว่าเจ้าชินเรนกำลังเตรียมที่จะโจมตีตัวเขาในตอนที่ประมาท
ชินเรนที่เห็นเรนยะก้าวเข้ามาใกล้พอแล้วก็ได้ลุกขึ้นมาอย่างกระทันหันเพื่อโจมตีอีกฝ่ายในตอนที่เขาคิดว่ากำลังประมาทไม่ทันได้ระวังตัว
ชินเรน : “เจ้าโง่ !!! ระยะนี้ฉันไม่พลาดแน่ !!! ตายซะ !!!”
พวกเพื่อนๆของเรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้ตะโกนร้องเตือนเรนยะเพราะถ้าให้ชินเรนแตะตัวเรนยะได้ชีวิตนินจาของเรนยะก็คงต้องถึงจุดจบไม่ต่างจากอินามิหรือร้ายแรงกว่านั้นก็อาจตายก็ได้
นารูโตะ : “หลบเร็วเรนยะ !!!”
อินามิ ถึงกับหลับตาไม่กล้ามองต่อ
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเรนยะจะต้องแพ้แล้วนั้นจู่ๆทุกคนก็พบว่ารอบตัวของชินเรนนั้นได้มีวงคลื่นสีทองโผล่ออกมาและยิงโซ่รัดครากุมตัวของชินเรนเอาไว้จนขยับไม่ได้
เคล้ง !!! กึก !!! (เสียงโซ่)
!!!
เรนยะ : “ว่าไง จะเล่นกันต่อไหม ?”
ชินเรน : “เหอะ !!! กะอีแค่โซ่กระจอกๆเดี๋ยวฉันจะฉีกมันทิ้งให้ดู !!! ย้าก !!!”
ทุกคนนั้นต่างคิดว่าโซ่แค่นั้นคงจะไม่อาจจะรั้งตัวของชินเรนได้แน่ๆแต่ต่อมาทุกคนก็ต้องตกใจเพราะว่าขนาดคนร่างใหญ่อย่างชินเรนยังไม่สามารถกระชากโซ่นั่นออกได้
เคล้ง !!! กึก !!!
?!!
ชินเรน : “บ้าน่ะ ทำไมมันไม่ขาด !!!”
เรนยะ : “ก็บอกแล้วว่าเปล่าประโยชน์อาวุธของฉันในตอนนี้แตกต่างจากอาวุธที่แกเห็นครั้งก่อนราวฟ้ากับเหวเลยละ”
โซ่นี้ที่แท้แล้วก็คือหนึ่งในโฮกุ(สมบัติวีรชน)
ที่อยู่ใน Gate of Babylon ซึ่งมันก็คือ
Enkidu / โซ่สวรรค์
ประเภท : ต่อต้านเทพเจ้า
ระดับ : B (EXเมื่อใช้กับเป้าหมายที่มีความเป็นเทพเจ้า)
-มันเป็นโซ่ที่ใช้รัดตรึงกระทิงแห่งสวรรค์ตามตำนานโดยตัวโซ่นั้นมีการลงอาคมคำบัญชาแห่งพระเจ้าพลังของมันนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อใช้กับเป้าหมายที่มีความเป็นเทพซึ่งยิ่งใกล้เคียงความเป็นเทพมากเท่าไรโซ่ก็จะรัดแน่นขึ้นเท่านั้นและสำหรับเป้าหมายที่ไม่มีความเป็นเทพเลย มันไม่อาจเป็นอะไรไปมากกว่าโซ่ธรรมดาแต่ก็ยากที่จะดิ้นหลุดออกมาได้อยู่ดีโซ่นี้สามารถใช้โจมตี ป้องกัน และ รัดเป้าหมายได้
เรนยะ : “นำ้หน้าแบบนายน่ะดิ้นหลุดจากโซ่นี้ไม่ได้ง่ายๆหรอก”
ชินเรนนั้นไม่คิดว่าโซ่ที่รัดตนอยู่นั้นจะมีความทนทานมากขนาดนี้เขาจึงคิดที่จะใช้ไม้ตายสุดท้ายของตนทันที
ชินเรน : “แกบังคับฉันเองนะ !!!”
!!!
ชินเรนได้อ้าปากแล้วรวมจักระธาตุดินไฟและหยางเข้าด้วยกันและยิงก้อนจักระสามธาตุออกมาจากปากเข้าโจมตีใส่เรนยะอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจมากที่พบว่าคาถาที่ชินเรนใช้ไม่จำเป็นต้องใช้มือผสานอินเลย
ตู้ม !!!
ก้อนจักระที่ชินเรนยิงออกมานั้นได้เข้าปะทะกับเรนยะเต็มๆและเกิดการระเบิดที่รุนแรงมากจนทุกคนคิดว่าเรนยะต้องไม่รอดจากการโจมตีนี้แน่
ปู่รุ่นที่ 3 : (การโจมตีนั่นช่างเหมือนกับกระสุนสัตว์หางเสียจริงจากที่ดูแล้วคงจะใช้คุณสมบัติดินและไฟควบแน่นด้วยธาตุหยางต่างจากกระสุนสัตว์หางปกติที่ใช้หยินกับหยางควบแน่นยิงออกมาสินะถึงพลังทำลายจะเทียบกับกระสุนสัตว์หางไม่ได้แต่ก็ถือว่ารุนแรงทัดเทียมกับคาถานินจาระดับ S เลย)
แต่เมื่อควันจากแรงระเบิดได้จางลงมันก็ทำให้ ชินเรนและทุกคนตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า
ทุกคนได้เห็นโล่ขนาดใหญ่ด้านหน้าของเรนยะที่สามารถป้องกันการโจมตีเมื่อกี๊นี้ได้อย่างไร้รอยขีดข่วนซึ่งโล่นี้ก็คือ
แต่เมื่อควันจากแรงระเบิดได้จางลงมันก็ทำให้ ชินเรนและทุกคนตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า
ทุกคนได้เห็นโล่ขนาดใหญ่ด้านหน้าของเรนยะที่สามารถป้องกันการโจมตีเมื่อกี๊นี้ได้อย่างไร้รอยขีดข่วนซึ่งโล่นี้ก็คือ
โล่แห่งเทพ
ประเภท : สนับสนุน
ระดับ : EX
-โล่หรูหราขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงใช้ป้องกันเวทย์มนต์/คาถาได้ดี และยังสามารถป้องกันการโจมตีที่รุนแรงได้โดยไร้รอยขีดข่วน
โล่ได้กลายเป็นละอองสีทองหายไปเผยให้เห็นตัวของเรนยะที่ไร้บาดแผลยืนยิ้มอยู่
เรนยะ : “แหม ~ เกือบไปแล้วสิ ~ มีความพยายามแต่ก็ยังอ่อนหัดถ้านั่นเป็นเฮือกสุดท้ายของนายแล้วฉันก็ขอจบการต่อสู้นี้เลยก็แล้วกัน”
เรนยะได้ยกมือข้างขวาขึ้นแล้วเปิดเกทเรียกอาวุธชิ้นหนึ่งออกมาและอาวุธชิ้นนั้นก็คือ
Gram / ดาบมาร ดาบแห่งสุริยัน
ประเภท : ต่อต้านบุคคล / ต่อต้านกองทัพ
ระดับ : A++
-ดาบมาร ดาบแห่งสุริยัน กรัม มันเป็นดาบมารแห่งความพินาศและความรุ่งโรจน์มันคือต้นแบบของดาบบัลมุงและดาบคาลิเบิร์น(ดาบที่ปักลงบนศิลาที่ใช้คัดสรรกษัตริย์แห่งอังกฤษ)มันเป็นได้ทั้งดาบต้องคำสาปหรือดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้พิฆาตมังกรก็ได้ตามแต่ผู้ใช้ต้องการแถมตัวดาบยังสามารถปล่อยคลื่นพลังออกมาโจมตีเป็นวงกว้างได้อีกด้วย
เรนยะได้เปลี่ยนให้ดาบกรัมเป็นดาบต้องคำสาปทำให้ตัวดาบมีสีดำและยิงมันเข้าใส่ชินเรนที่กำลังช็อคกับความจริงที่เรนยะสามารถป้องกันคาถาที่ร้ายกาจที่สุดของเขาได้
ชินเรนที่เห็นดาบกำลังพุ่งมาก็ได้พยายามดิ้นให้หลุดจากโซ่ที่รัดตัวของเขาอยู่แต่ก็ไม่อาจดิ้นหลุดจากพันธนาการนี้ได้เขาจึงได้ตัดสินใจใช้จักระทั้งหมดไปเสริมให้กับเกราะบนตัวของเขาเพื่อรอรับการโจมตีจากดาบเล่มนั้น
เพล้ง !!! ฉึก !!!
!!!
ชินเรน : “ก . . เกราะของฉัน”
ดาบกรัมที่เปลี่ยนเป็นสีดำได้พุ่งแทงเข้าใส่ที่ท้องของชินเรนทะลุเกราะที่ตัวเขาภาคภูมิใจจนแตกสลายทำให้ชินเรนได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งแรกในชีวิตแถมเขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเข้ามาในตัวของเขาอีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่เข้าไปในตัวของชินเรนมันก็คือคำสาปนั่นเองคำสาปของดาบกรัมได้เริ่มแทรกซึมเข้าไปตัวของชินเรนและคอยกัดกร่อนเส้นชีพจรจักระของเขา
!!!
ชินเรนตกใจมากและพยายามใช้จักระธาตุหยางขับไล่สิ่งแปลกปลอมออกไปแต่เขาก็พบว่าไม่อาจยับยั้งมันได้
ชินเรน : “ทำไมกัน หายไป . . หายไปสิวะ !!!”
เรนยะ : “เปล่าประโยชน์ สิ่งนั้นเรียกว่าคำสาปมันจะค่อยๆทำลายเส้นชีพจรจักระของแกอย่างช้าๆอ้อแล้วก็มันจะเจ็บปวดเอาเรื่องเลยละอดทนเอาหน่อยละกันนะ หึ หึ”
!!!
สิ้นคำของเรนยะคำสาปก็ได้เริ่มออกฤทธิ์สร้างความเจ็บปวดให้แก่ชินเรนที่ถูกโซ่รัดขยับไม่ได้ถ้าไม่มีโซ่มัดตัวเอาไว้คงได้เห็นคนลงไปนอนกลิ้งกับพื้นเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหวแน่ๆ
อ้ากกก !!!!!!
เก็นมะ : “ยุติการประลองผู้ชนะ อาคุสะ เรนยะ !!!”
เรนยะที่ได้ยินกรรมการบอกว่าตนชนะแล้วก็ได้ทำการเก็บโซ่สวรรค์ที่มัดอีกฝ่ายและดาบกรัมที่ปักอยู่ที่ท้องของชินเรนกลับเข้ามาในคลังสมบัติเหมือนเดิม
ทุกคนเห็นว่าดาบที่แทงที่ท้องและโซ่ที่จับตัวของชินเรนนั้นได้กลายเป็นละอองสีทองและหายไปพร้อมกับเรนยะที่เดินออกไปจากสนามประลองโดยทิ้งเอาไว้เพียงเสียงกรีดร้องและร่างที่ดิ้นทุรนทุรายของคู่ต่อสู้ของตนเอาไว้
เรนยะ : “สิ่งที่แกทำกับ อินามิ และพูดว่าจะทำให้ฉันต้องพิการฉันขอคืนให้ . . . ทีนี้ . . เราก็เจ๊ากันแล้ว”
และเรนยะก็ได้เดินหายไปในทางเข้าของผู้แข่งขันพร้อมกับเหล่าคนดูที่ส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้อง
เฮ !!! จ้าวศาสตราวุธ !!! จ้าวศาสตราวุธ !!!
เรนยะ : “เห้อ ~ ฉายาใหม่มาอีกแล้วหรือเนี่ย แต่ก็ดีกว่าปีศาจกระหายเลือดเยอะละนะ”
นี่สินะโฮกุต่อต้านตนเอง
True Wallet 0830743639
ค่าทำแผลที่หัวเรนยะ ขอบคุณผู้ติดตามด้วยครับ
สอบเสร็จเรียบร้อย รอ ลุ้นคะแนนอีกที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น