ตอนที่ 42 : Aria 37 : Bakugou, being a daddy for one day straight.
Aria 37
Bakugou, being a daddy for one day straight.
เมื่อวานนี้เธอกลับมาถึงห้องได้ยังไงกันนะ...
อายาเมะนอนเหม่อมองเพดานห้องของตัวเอง แขนทั้งสองข้างกอดตุ๊กตากระต่ายโง่เอาไว้แน่นขณะที่หัวสมองของเธอกำลังประมวลผลเหตุการณ์เมื่อวาน
บาคุโกจูบเธอที่ยอดเขา
จูบแรกของเธอ
จูบแรกของเธอกับคนที่เธอชอบ…
นิ้วที่ไล้ไปตามริมฝีปากพลันรู้สึกอุ่นขึ้นนิดๆ
ทั้งที่ผ่านมาหนึ่งคืนแล้ว แต่อายาเมะก็ยังรู้สึกราวกับว่าสัมผัสนั้นยังติดอยู่บนริมฝีปากของเธอ
‘อายาเมะ…’
เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของบาคุโกที่เรียกชื่อเธอเป็นครั้งแรกลอยวนเวียนอยู่ข้างหู ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนราวกับว่ามันจะหลุดออกมา
ใบหน้าของอายาเมะพลันร้อนผ่าวจนเด็กสาวต้องเอากระต่ายโง่ขึ้นมาปิดเอาไว้แล้วนอนกลิ้งไปมาขณะที่ริมฝีปากขยับยิ้มกว้างเหมือนกับคนบ้าไม่มีผิด
บาคุโกจูบ…
อยู่ๆ ความคิดนั้นก็พลันชะงักไปเมื่อมีความคิดอีกอย่างแทรกเข้ามาในหัวของเธอพอดี
อายาเมะเพิ่งจะคิดเรื่องสำคัญอีกอย่างขึ้นมาได้
สถานะของเธอกับบาคุโกในตอนนี้...คืออะไรกันแน่
อย่าว่าแต่บาคุโก แต่คนปกติทั่วไปเขาก็คงไม่จูบคนที่ตัวเองไม่ได้คิดอะไรด้วยแน่
แต่ก็เพราะเป็นเขาอีกนั่นล่ะ เธอถึงต้องมานอนงงด้วยความไม่เข้าใจอย่างในตอนนี้
ถึงอายาเมะจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่เธอก็พอจะรู้หรอกว่าความสัมพันธ์มันควรจะเริ่มจากการทำความรู้จัก สารภาพรัก ไปเดท ตัดสินใจคบ จากนั้นจึงค่อยๆ เลื่อนระดับขึ้นไปเรื่อยๆ
เหมือนของเธอมันจะข้ามขั้นไปสักหน่อย
ถ้าเป็นคนปกติอายาเมะอาจจะพอเดาได้ว่าเขาคงมีใจให้เธอ
แต่นี่คือบาคุโกนะ พระเจ้ายังไม่รู้เลยมั้งว่าเขาจูบเธอทำไม
อายาเมะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในตอนนั้นเธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเธอตั้งใจจะถ่ายรูปแรกของเธอกับบาคุโกที่ยอดเขาตอนที่ปีนขึ้นไปถึง แต่ก็ถูกเขาจูบเสียก่อน
แล้วหลังจากนั้น...เอาเป็นว่าหลังจากนั้นเธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากลับมาถึงยูเอได้ยังไงกันแน่
นี่ไปเดทกันครั้งที่สองแล้ว ยังไม่มีแม้แต่รูปคู่สักรูปเลยจริงๆ เหรอเนี่ย
อายาเมะยู่ปากพลางเปิดเข้าไปดูในอัลบั้มรูป
แต่ภาพที่อยู่บนสุดของอัลบั้มก็ทำให้เธอตกใจจนทำมือถือร่วงลงไปบนเตียง
แม้จะเป็นภาพไหวๆ ที่ถูกถ่ายจากมุมเสย แต่คนผมบลอนด์ทั้งสองคนในรูปก็คือเธอกับบาคุโก…
ที่กำลังจูบกันอยู่
มะ--มายังไงอ่ะ!?
ถ่ายเอาไว้ตอนไหนกัน!!
อายาเมะหยิบมือถือขึ้นมาอีกรอบเพื่อจะพิจารณารูปอีกครั้ง เธอพยายามนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อวานโดยตัดเหตุการณ์ที่เธอถูกจูบออกไป
จะว่าไป ในตอนนั้นโทรศัพท์ของเธออยู่ไหนกันนะ?
เหมือนว่ารู้ตัวอีกทีคือตอนหยิบออกมาจากกระเป๋าเมื่อเช้านี้
ถ้าอย่างนั้นรูปนี้ใครเป็นคนถ่ายล่ะ?
ในเมื่อไม่ใช่เธอแน่ๆ ก็เหลืออีกแค่คนเดียวเท่านั้น
ยิ่งถ้าคิดรวมกับการที่รูปคู่รูปแรกเป็นรูปจูบ…
อายาเมะก็คิดว่าถ้าไม่ใช่บาคุโกก็คงไม่มีใครทำหรอก
เธอได้แต่นอนกอดตุ๊กตามองดูรูปนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลายที่แล่นผ่านไป มองเสร็จก็ซุกหน้ากับตุ๊กตาอีกรอบ จนไม่ทันได้ยินเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นในตอนนั้น
“ไอจัง!”
เสียงตะโกนลั่นทำให้อายาเมะตกใจจนสะดุ้งเฮือก เด็กสาวลุกลี้ลุกลนปิดหน้าจอมือถือก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูห้อง
ซาโยริยืนเท้าเอวขมวดคิ้วมองเธอราวกับเป็นคุณแม่อีกคนหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นกวาดสำรวจอายาเมะไปทั่วทั้งตัว
“เป็นอะไรน่ะ ตอบช้าจังเลยนะ เมื่อวานตอนกลับมาก็ดูลอยๆ ชอบกล”
“ไม่มีอะไรหรอก!”
อายาเมะยิ้มกลบเกลื่อน คว้าโทรศัพท์ใส่กระเป๋าสะพายไหล่
“จะมาชวนไปกินข้าวใช่ไหม ไปกันเถอะ”
ซาโยริหรี่ตามองอย่างจับผิด แต่พอเห็นตาแป๋วๆ คู่นั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
เธอแพ้ลูกอ้อนของไอจังทุกทีเลย ให้ตายสิ
พวกเธอเดินออกมาจากหอพักห้อง 1-C เพื่อไปยังโรงอาหาร ระหว่างทางมีเหล่านักเรียนจำนวนน้อยนิดในชุดไปรเวทกำลังทำกิจกรรมของตัวเองอยู่
อาจจะเป็นเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์แล้วก็ยังเช้ามาก นักเรียนส่วนใหญ่จึงยังไม่ตื่นกัน
ที่จริงแล้วถ้าไม่ติดว่าต้องตื่นมากินข้าวเช้าตามนิสัย อายาเมะก็คงไม่ลากสังขารลงจากเตียงเหมือนกัน
“เมื่อวานเป็นยังไงบ้าง” ซาโยริถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้เธอชี้ไปยังขาที่แทบจะยกไม่ขึ้นแทนคำตอบ
“ปวดขาสุดๆ เลยอ่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย”
“เอ๊ะ…”
“นายบาคุโกคนนั้นน่ะ เขาไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ กับเธอใช่ไหม?”
คำถามของซาโยริปักเข้ากลางใจเธอดังอัก
ภาพใบหน้าของบาคุโกที่อยู่ใกล้จนแนบชิดกันลอยเข้ามาในหัวอีกครั้งจนใบหน้าของเธอร้อนผ่าว
อายาเมะกะพริบตาปริบๆ พยายามคงสีหน้าสุขุมเอาไว้ขณะที่สมองก็ปัดคนที่ลอยวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอทั้งคืนออกไป
แต่ปัดไปปัดมา…ทำไมถึงคลับคล้ายคลับคลาว่าเห็นบาคุโกอยู่บนทางเดินฝั่งตรงข้ามกันนะ?
อายาเมะกะพริบตาอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ดวงตาสีแดงสดคู่นั้นตวัดมามองเธอพอดี
ชั่ววินาทีที่ประสานสายตากัน ก็ราวกับความทรงจำของเมื่อวานย้อนกลับเข้ามาเป็นฉากๆ
ดวงอาทิตย์สีส้ม กลิ่นคาราเมล ความอบอุ่นจากอ้อมกอด…
จูบ…
ความเขินอายที่แล่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ทำให้อายาเมะชะงักเท้าในทันที
อยู่ไม่ได้แล้ว!
ไม่ต้องรอให้บาคุโกได้มีโอกาสเดินมาหาเธอ อายาเมะก็หมุนตัวหันหลังกลับในทันทีโดยที่มีซาโยริเรียกไล่หลังมาอย่างงุนงง
แต่เธอไม่กล้าแม้กระทั่งจะหันกลับไปมองเพื่อนสนิทของเธอ ไม่อย่างนั้นซาโยริอาจจะเห็นได้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวมากแค่ไหน
อายาเมะน้ำตานองหน้าในใจ ทีตอนที่อยากเจอล่ะไม่ค่อยจะได้เจอหรอก แต่ตอนที่เธออยากหลบหน้าเขาแทบตาย อยู่ๆ ก็เดินเจอกันง่ายๆ เสียอย่างนั้น
เด็กสาวเดินสาวเท้าเร็วๆ ไปตามทางเดิน โชคดีที่มีคนอยู่ไม่มากทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะวิ่งชนใคร ขณะที่ในหัวพยายามคิดว่าเธอจะหนีไปหลบที่ไหนก่อนดี
หรือว่าจะกลับไปที่หอพัก…
“เธอตรงนั้นน่ะ ระวัง!!”
เสียงตะโกนดังลั่นทำให้อายาเมะชะงักฝีเท้า
ดวงตาสีน้ำทะเลกวาดมองรอบๆ อย่างงุนงง แต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร จนกระทั่งเธอหันไปมองทางขวามือเยื้องไปทางด้านหลัง
ลำแสงสีเหลืองที่พุ่งตรงมาทางเธอทำให้ดวงตาสีน้ำทะเลเบิกกว้าง ความตกใจทำให้ขาแข็งทื่อไปในชั่วขณะนั้นจนทำได้แค่เพียงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
อายาเมะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเรียกชื่อของเธอ เป็นจังหวะเดียวกับที่ลำแสงนั้นปะทะเข้ากับร่างของเธอพอดี
ปุ้ง!
“ไอจัง!!”
กลุ่มควันสีขาวลอยขึ้นมาปกคลุมร่างของอายาเมะไปจนหมด ซาโยริรีบวิ่งตามเพื่อนสนิทของเธอมาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
ซาโยริสำลักควันอยู่พักหนึ่ง เธอพยายามปัดมือไปมาไล่ควันพวกนั้นออกไป ทำให้มันจางหายไปในที่สุด
สิ่งที่เหลืออยู่คือร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงวัยสี่ขวบที่กำลังนั่งแหมะอยู่บนพื้น
ดวงตาสีน้ำทะเลกลมโตคู่นั้นฉายแววใสซื่อในขณะที่เธอหันมองไปรอบๆ จนกลุ่มผมสีบลอนด์สว่างพลิ้วไหวไปมา
“อายาโตะ”
เสียงเล็กๆ เรียกหาฝาแฝดของเธอ
“อะ--ไอจัง!?” ซาโยริตะโกนลั่นด้วยความตกใจขณะที่ถลาลงไปหาเพื่อนของเธอที่กลายเป็นเด็กสี่ขวบไปแล้ว
แต่เธอก็ยังช้ากว่าร่างอีกร่างที่พุ่งเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
ซาโยริรู้ตัวอีกทีก็เห็นบาคุโกยืนอยู่ข้างอายาเมะแล้ว เขาถอดเสื้อโค้ทตัวนอกออกเพื่อคลุมร่างเล็กๆ ของเพื่อนเธอไว้ ในขณะที่ดวงตาสีแดงสดตวัดมองตัวการของเรื่องทั้งหมดที่ยืนขาสั่นอ้าปากค้างอยู่อีกทาง
“ขะ...ขอโทษด้วยนะ ขอโทษจริงๆ!” เด็กสาวไม่คุ้นหน้าคนหนึ่งโค้งตัวตะโกนขอโทษขอโพยเสียงดัง แต่ซาโยริก็ยังเดินเข้าไปยืนกอดอกหรี่ตามองข่มขู่อีกฝ่าย
“เธอทำอะไรไอจังน่ะ!?”
“มันเป็นอุบัติเหตุนะ! คือว่าฉันตั้งใจจะใช้อัตลักษณ์กับต้นไม้ตรงนั้น ไม่ได้คิดว่ามันจะพุ่งผ่านมาโดนคนอื่นสักหน่อย”
สีหน้าของอีกฝ่ายเหมือนใกล้จะร้องไห้เต็มที
ซาโยริไม่ใสซื่อพอจะคิดว่าอีกฝ่ายกลัวเธอหรอก
น่าจะเป็นเพราะกลิ่นอายทะมึนจากทางด้านหลังของเธอนั่นมากกว่า
บาคุโกอุ้มอายาเมะตัวน้อยที่ถูกห่อด้วยเสื้อโค้ทจนเป็นก้อนกลมๆ เอาไว้ในอ้อมแขน น่าแปลกที่รังสีทะมึนนั่นทำอะไรเด็กหญิงไม่ได้เลย
อายาเมะตัวน้อยจ้องมองคนอุ้มด้วยดวงตากลมแป๋วอย่างสนอกสนใจ
แต่บาคุโกยังคงจ้องเขม็งไปยังตัวการที่รีบละล่ำละลักพูดออกมาด้วยความหวาดกลัว
“อัตลักษณ์ของฉันทำได้แค่ทำให้ย้อนอายุได้ชั่วคราวไม่เกินหนึ่งวันเท่านั้นเอง ถึงจะไม่ทำอะไรเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะกลับมาเป็นปกติแล้วล่ะ!”
ความโกรธของบาคุโกเหมือนจะจางลงนิดหน่อยในตอนที่ได้ยินคำอธิบายนั้น ซาโยริเองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหันกลับไปสนใจเพื่อนของเธอแทน
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูแลอายาเมะตัวน้อยไปอีกหนึ่งวันเท่านั้นเอง
“ไอจัง” ซาโยริทำท่าจะเดินเข้าไปอุ้มอายาเมะคืนมาจากบาคุโก แต่เขากลับขยับก้อนกลมๆ นั่นหลบไปอีกทาง
ซาโยริขมวดคิ้วนิดๆ แต่ก็ยังเอื้อมมือไปอีกรอบ
ก้อนกลมๆ ถูกขยับหลบไปอีกครั้ง
คราวนี้ซาโยริโมโหขึ้นมาจริงๆ แล้ว
“บาคุโก ส่งไอจังมานะ!”
บาคุโกแค่นเสียงใส่เธอทันที
“เรื่องสิวะ”
ถึงจะกระฟัดกระเฟียดด้วยความโมโหไปก็ทำอะไรบาคุโกไม่ได้ ซาโยริจึงปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง หันไปหาอายาเมะพร้อมกับรอยยิ้มหวานแทน
“ไอจัง”
อายาเมะตัวน้อยไม่มีท่าทางหวาดกลัว ยังคงจ้องมองพี่สาวแปลกหน้าด้วยดวงตากลมโตจนคนมองรู้สึกอยากแย่งมากอดไว้เองให้รู้แล้วรู้รอด
“มาอยู่กับพี่สาวดีกว่านะ”
ซาโยริกล่อม พร้อมกันนั้นก็ยื่นมือออกไปอีกครั้ง
คราวนี้บาคุโกไม่ได้ขยับหนีจนเธอสามารถแตะก้อนกลมๆ นั่นได้เสียที
“ไอจัง?”
แต่พอคิดจะดึงออกมา เด็กหญิงกลับจับเสื้อของบาคุโกเอาไว้แน่น พอออกแรงมากอีกหน่อย หัวทุยๆ สีบลอนด์สว่างนั่นก็มุดหนีหายลงไปในเสื้อโค้ทเสียเลย
เสียงแค่นในลำคอทำให้ซาโยริตวัดดวงตาไปมองในทันที
คงเพราะด้วยส่วนสูงที่ต่างกันมาก บาคุโกจึงหลุบตามองต่ำในขณะที่เหยียดยิ้มขึ้นบนริมฝีปาก
ท่าทางที่แสดงออกถึงความเหนือกว่าอย่างชัดเจนนั้นทำให้ซาโยริโกรธจนอยากจะกระทืบเท้าลงบนพื้นหนักๆ สักที
ไอจังเห็นอะไรในตัวไอ้หมอนี่กันแน่ เธอน่ะไม่เข้าใจรสนิยมของเพื่อนเธอเลยจริงๆ
“บาคุโก ส่งไอจังมาให้ฉันนะ”
“เหอะ”
สีหน้าเหยียดหยามเหมือนจะบอกว่า ‘ถามเพื่อนหล่อนก่อนเหอะว่าอยากอยู่กับใคร’ ทำให้ซาโยริโกรธจนความดันขึ้น
“อายาเมะอยากไปกับฉัน”
แม้จะเห็นกันชัดๆ อยู่แล้ว แต่พอถูกบาคุโกพูดใส่หน้ามันก็ยังน่าโมโหมากอยู่ดี
แล้วเมื่อวันก่อนหมอนี่ยังเรียกไอจังว่า ‘ยัยกระต่าย’ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้กลายเป็น ‘อายาเมะ’ แล้วล่ะ
ตอนปีนเขาไปทำอะไรมากันแน่!?
“เดี๋ยว! นั่นนายจะพาไอจังไปไหนน่ะ!”
“กลับหอสิวะ”
ซาโยริอาจจะไม่ค่อยเข้าใจบาคุโกนัก แต่เธอแน่ใจว่าหอที่พูดถึงไม่ใช่หอ 1-C ของพวกเธอแน่ๆ ล่ะ
“แล้วทำไมไอจังต้องไปกับนายด้วยไม่ทราบ!” เธอตะโกนกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ แม้ว่าอายาเมะตัวน้อยจะดูติดบาคุโกมากด้วยเหตุผลบางประการก็ตาม
“หล่อนมีเสื้อเด็ก?”
“แล้วนายมีเหรอ!”
สายตาหวาดระแวงของซาโยริทำให้บาคุโกแค่นเสียงกลับไป
“เหอะ ฉันมีวิธีแล้วกัน!”
ซาโยริเริ่มจะคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่ชอบสะสมเสื้อผ้าเด็กเอาไว้ดูเล่น แต่สายตาเชือดเฉือนที่มองมาราวกับจะบอกว่า ‘อย่าคิดอะไรบ้าๆ’ ทำให้เธอพลันนึกขึ้นมาได้
จริงสิ ดูเหมือนว่ายาโอโยโรสึห้อง 1-A จะมีอัตลักษณ์สร้างสิ่งของนี่นา
ซาโยริเม้มริมฝีปาก สบตากับดวงตากลมแป๋วที่โผล่ออกมาจากก้อนเสื้อโค้ทอีกครั้ง
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้
เด็กสาวก้มลงเก็บกระเป๋าของอายาเมะพลางหันไปหาตัวการ
“เธอน่ะมากับฉันเลย ไปหาอาจารย์กัน...ส่วนนาย” ซาโยริหรี่ตามองไปทางบาคุโก “เย็นนี้ฉันจะไปรับไอจัง”
“ไม่ต้องสะเออะ”
บาคุโกไม่รอคำโต้ตอบของซาโยริในขณะที่เขาพาก้อนเสื้อโค้ทกลมๆ เดินกลับไปทางหอพักห้อง 1-A
พอเดินมาได้สักพัก อายาเมะตัวน้อยก็โผล่หันออกมาจากกลุ่มเสื้อโค้ท เธอหันไปหาบาคุโกก่อนจะถามว่า “พี่ชายจะพาอายาเมะไปหาอายาโตะเหรอ”
คำถามใสซื่อของเด็กหญิงทำให้คิ้วของบาคุโกกระตุกนิดๆ
คำก็อายาโตะ สองคำก็อายาโตะ เป็นอะไรนักหนากับไอ้อายาโตะนี่วะ
“พี่ชาย อายาโตะล่ะ? พาไปหาอายาโตะได้มั้ย”
“ตอนนี้ยัง”
ถึงคำตอบของบาคุโกจะไม่ปิดความหวังไปเสียทีเดียวทำให้เธอไม่ถึงกับร้องไห้งอแง แต่อายาเมะก็พองแก้มด้วยความไม่พอใจ
คิดว่าเป็นเด็กมาพองแก้มใส่แล้วเขาจะไม่จิ้มแก้มแตกหรือไงวะ
บาคุโกพ่นลมหายใจออก ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเป็นเด็กดี เดี๋ยวก็ได้เจอ”
พอได้ยินแบบนั้น อายาเมะก็เลิกพองแก้มทันที เธอนั่งสงบเสงี่ยม ดวงตากลมโตจ้องมองบาคุโกอย่างมีความหวังไปตลอดทาง
เออ ก็ยังดีที่ไม่ใช่ลูกกระต่ายขี้แย
เด็กหนุ่มมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าหอพัก 1-A จนได้ เขาขมวดคิ้วเมื่อคิดได้ว่าหากพาอายาเมะในวัยเด็กเข้าไปในหอพักตอนนี้คงจะต้องวุ่นวายมากแน่
แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
น่ารำคาญเป็นบ้า
ถึงจะบ่นอยู่ในใจ แต่เขาก็ผลักประตูเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมอยู่ดี
ชั่วแวบแรกดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมในก้อนเสื้อโค้ทของเขา แต่พอเขาพาอายาเมะไปหยุดยืนอยู่ตรงยัยรองหัวหน้า สายตาแต่ละคู่ก็เริ่มหันมามองด้วยความสงสัยมากขึ้น
“เฮ้ย สร้างเสื้อผ้าเด็ก”
“คะ?” ยาโอโยโรสึอุทานออกมาอย่างงุนงง เหมือนกับกลุ่มสาวๆ ที่หันมามองเขาด้วยสายตาตั้งคำถาม
ก่อนที่สายตาทุกคู่จะสะดุดเข้ากับความน่ารักที่อยู่ในก้อนเสื้อโค้ทกลมๆ
ดวงตาสีน้ำทะเลกลมโตของอายาเมะวัยเยาว์กวาดมองคนแปลกหน้าทั้งหมด ก่อนที่เธอจะผลุบกลับลงไปด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องวี๊ดว๊ายของสาวๆ แต่ละคน
“นะ...น่ารักจัง!? เด็กที่ไหนกันน่ะ”
“ผมสีคล้ายๆ นายนะ น้องสาวของนายเหรอบาคุโก”
“ไม่อะ ไม่มีทาง! บาคุโกจะมีน้องสาวเป็นนางฟ้าตัวน้อยได้ยังไง”
ไม่นานนัก เสียงร้องด้วยความตื่นเต้นของสาวๆ ก็เรียกความสนใจของทุกคนในห้องนั่งเล่นมาทางพวกเขา ทำให้บาคุโกมองตอบกลับไปด้วยความหงุดหงิด
เสียงพูดคุยถามเรื่องที่มาที่ไปของเด็กในอ้อมแขนของเขาเริ่มจะน่ารำคาญ แต่บาคุโกยังไม่ทันได้ตวาดกลับไป ก็มีคนที่เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติเสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนนะเคโระ” อะซุยยกนิ้วแตะที่ปากเหมือนทุกครั้งที่กำลังใช้ความคิด “ไม่คิดว่าเด็กคนนั้นหน้าตาคุ้นๆ เหรอเคโระ”
“หน้าตาคุ้นๆ…?” ฮางาคุเระพูดทวนขณะที่หันกลับไปมองเด็กหญิงที่ยื่นหัวออกมามองพวกเธอด้วยความสงสัยอีกครั้ง แม้จะยังดูกล้าๆ กลัวๆ อยู่ก็ตาม
ผมสีบลอนด์สว่างที่ปลายหยักศกนิดๆ
ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลกลมโต
ใบหน้าน่ารักเหมือนกับตุ๊กตาตัวน้อย
และอยู่กับบาคุโกได้โดยไม่ถูกระเบิดตายหรือระเบิดตัวเองตายไปด้วยความโมโหเสียก่อน…
อ๊ะ! นั่นมัน…
“อะ...อิชิคาวะเหรอ!?” จิโร่อุทานขึ้นมา ทำให้บาคุโกพ่นลมหายใจออกราวกับจะบอกว่า ‘กว่าจะคิดได้ สมองช้าเป็นบ้า’
ถึงเด็กหนุ่มจะไม่ได้พูดตอบรับอะไร แต่การที่เขาไม่ได้ปฏิเสธก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนมากพอแล้ว
“ได้ไงอ่ะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ!?”
ตอนแรกบาคุโกไม่ได้ตอบอะไรนอกจากขมวดคิ้วมองยาโอโยโรสึด้วยใบหน้าบูดบึ้งเหมือนจะบอกอีกฝ่ายให้รีบๆ ทำตามที่เขาสั่งเสียที แต่พอถูกเซ้าซี้บ่อยๆ เข้า เด็กหนุ่มก็เริ่มรำคาญ
“โดนอัตลักษณ์ของไอ้พวกตัวประกอบ”
คำตอบนั้นไม่ค่อยจะช่วยอธิบายอะไรสักเท่าไร แต่ก็คงจะมากที่สุดที่บาคุโกจะพูดแล้ว เพราะไอความหงุดหงิดเริ่มแผ่ออกมาจากร่างของเขาอย่างชัดเจน
“เสื้อผ้า” เขาพูดย้ำอีกครั้ง ทำให้ยาโอโยโรสึเหมือนจะรู้ตัวในที่สุด
“ดะ...เดี๋ยวฉันจัดการให้เองค่ะ”
พอยาโอโยโรสึเอื้อมมือมารับก้อนเสื้อโค้ทอายาเมะ บาคุโกจึงส่งไปให้เพื่อจะปล่อยเด็กหญิงไปเปลี่ยนเสื้อเสียที
แต่คนที่ไม่ยอมปล่อยมือกลับเป็นตัวอายาเมะเสียเอง
มือเล็กๆ เอื้อมไปคว้าแขนเสื้อของบาคุโกเอาไว้ขณะที่เธอช้อนตามองคนตัวโตกว่า
“พี่ชาย...”
เสียงเล็กๆ นั่นทำให้สาวๆ แทบจะใจละลายไปกับความน่ารักของเด็กตัวน้อย แต่บาคุโกกลับแค่เหลือบมองมือที่ยังจับเสื้อเขาไว้ ก่อนจะพูดเตือนว่า “เป็นเด็กดี”
อ๊ะ! ต้องเป็นเด็กดีถึงจะได้เจออายาโตะ
อายาเมะปล่อยมือจากเสื้อของเขาในทันที แล้วก็อยู่นิ่งๆ ในอ้อมแขนของยาโอโยโรสึเพื่อรอให้อีกฝ่ายพาไปแต่งตัว
ทั้งที่ตั้งใจจะรีบจัดการให้เสร็จๆ ไป แต่พอกลุ่มพวกผู้หญิงเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้วมันก็ชักจะเริ่มกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ
กว่าที่อายาเมะจะได้กลับลงมาจากหอพักฝั่งผู้หญิงอีกรอบก็ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง
เด็กหญิงถูกอุราระกะจูงออกมาจากลิฟต์ เธออยู่ในเสื้อฮู้ดหูกระต่ายทรงปีกค้างคาวปักลายกระต่ายสีครีมกับกระโปรงเข้าชุดกัน เด็กน้อยดูเหมือนหลุดออกมาจากแคตตาล็อคเสื้อผ้าสำหรับเด็กไม่มีผิด
ความน่ารักของเธอทำให้แต่ละคนเข้าไปรุมล้อมกันอย่างยุ่งวุ่นวาย
“คนหน้าตาดีนี่ต้องหน้าตาดีตั้งแต่เด็กจริงๆ สินะ” เซโระพูดขณะที่ยืนอยู่ข้างบาคุโก มองดูสาวๆ ที่กำลังถกเถียงกันว่าจะทำอย่างไรกับผมยาวๆ สีบลอนด์นั่นดี
ดูเหมือนว่าพวกเธอจะยังตกลงกันไม่ได้เสียทีว่าอายาเมะตัวน้อยควรจะทำผมทรงอะไร หวีและโบว์ผูกผมจึงถูกยื้อแย่งสลับกันไปมาอย่างไม่ได้ข้อสรุป ในขณะที่อายาเมะยืนอยู่ตรงกลางวงล้อม มองซ้ายมองขวาอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
จนในที่สุด ดวงตากลมโตสีน้ำทะเลก็ตวัดมามองบาคุโก แล้วทำท่าจะเดินเข้ามาหาเขา
“ยังไปไม่ได้นะอิชิคาวะจัง ยังไม่ได้ทำผมเลย”
“ก็บอกว่าถักเปียไงล่ะ ถักเปีย!”
“แต่ผมอิชิคาวะจังนุ่มออก ปล่อยไว้แล้วผูกโบว์ก็พอแล้ว!”
อยู่ๆ หวีในมือของฮางาคุเระก็ถูกดึงออกไป พร้อมๆ กับยางรัดผมและสารพัดโบว์กุ๊กกิ๊กในมือของอาชิโดะ
ตัวของอายาเมะน้อยถูกยกจนลอยหวือขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะถูกจับไปนั่งบนโซฟาตัวหนึ่งกลางห้องรับแขก
ตอนแรกอายาเมะขยับไปมาอย่างงุนงง เหมือนพยายามจะลงไปจากโซฟา แต่พอได้ยินเสียงพูดเตือนของบาคุโกแล้วเธอจึงเปลี่ยนมานั่งนิ่งตัวตรง
“เป็นเด็กดี”
“อึ้ม!”
เหล่าบรรดาสมาชิกห้อง 1-A พากันอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าควรจะตกใจอะไรก่อนดีระหว่างเด็กที่น่ารักเหมือนกับนางฟ้าเชื่อฟังระเบิดเดินได้อย่างบาคุโก หรือการที่เจ้าตัวถือหวีกับโบว์สีชมพูไว้ในมือแล้วทำหน้าตาจริงจังกันแน่
บาคุโกขมวดคิ้ว มองหัวสีบลอนด์เล็กๆ นั่นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเริ่มหวีแบ่งผมของเป็นสองข้างเท่าๆ กัน ท่าทางมัดยางรัดผมและผูกโบว์อย่างคล่องแคล่วทำไมคนอื่นได้แต่หยุดนิ่งมองด้วยสายตาตกตะลึง
แค่ไม่ถึงนาที ผมทวินเทลของอายาเมะก็เสร็จสมบูรณ์
“ส…สุดยอด…”
“สมกับเป็นบาคุโก! แม้แต่เรื่องแบบนี้ก็ยังสมบูรณ์แบบสินะ”
“การทำผมแห่งความมืด…”
“นายไม่มีพี่สาวน้องสาวไม่ใช่เหรอ ไปฝึกมาจากไหนกันน่ะ...”
“เหอะ มีแต่พวกกระจอกเท่านั้นแหละว่ะที่ทำไม่ได้”
“ดูถูกกันมาก”
“ปากนายนี่มัน…”
ในขณะที่สาวๆ เริ่มเบะปากใส่บาคุโก เซโระก็หันไปถามมิโดริยะที่นั่งมองเหตุการณ์ต่างๆ เงียบๆ มาตั้งแต่ต้น
“มิโดริยะ ไอ้หมอนี่ทำแบบนี้ได้ตั้งนานแล้วเหรอ?”
“อ๊ะ ไม่หรอกครับ แต่ที่ทำได้อาจจะเป็นเพราะมิทสึกิซัง…”
“หุบปาก! ไอ้เวรเดกุ!”
“บาคุโก ห้ามพูดคำหยาบต่อหน้าเด็กนะ!” ฮางาคุเระโวยวายพลางพุ่งเข้ามาเหมือนจะปิดหูอายาเมะไว้
“หนวกหู!”
“พี่ชาย”
เสียงเล็กๆ ของอายาเมะดังแทรกเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของบาคุโก
มือของเด็กน้อยข้างหนึ่งกระตุกชายเสื้อของเขา ส่วนอีกข้างพยายามเอื้อมไปแตะฮู้ดหูกระต่ายอย่างลำบากนิดหน่อย
ท่าทางที่พยายามอย่างทุลักทุเลนั่นทำให้บาคุโกเอ็ดเอา “ปล่อยมือก่อน”
แต่อายาเมะกลับส่ายหน้าจนฮู้ดหล่นลงไปอีกครั้ง
ใบหน้านั่นเริ่มมุ่ยนิดหน่อยอย่างที่เพื่อนๆ ลงความเห็นกันว่ามันน่ารักมาก ส่วนบาคุโกก็เอื้อมมือไปสวมฮู้ดให้เธอตัดรำคาญแล้วเลิกคิ้ว
“มีอะไร”
ดวงตาสีฟ้าใต้ฮู้ดกระต่ายช้อนมองเขาก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบท้อง
“พี่ชาย หิว”
“…”
“…”
“…”
จะว่าไป นี่มันก็เลยเวลาอาหารเช้าแล้ว
สมาชิกห้อง 1-A เริ่มแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างเลิ่กลั่กราวกับกำลังถามว่ามีใครเลี้ยงเด็กเล็กเป็นบ้าง
นั่นเด็กกี่ขวบกันน่ะ แล้วเด็กอายุเท่านั้นชอบกินอะไรบ้างนะ
หลายคนหันไปหาอะซุยด้วยสายตาเปี่ยมความคาดหวัง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตอบอะไร บาคุโกกลับพูดกับอายาเมะน้อยเสียงเข้มว่า
“นั่งรอ”
“อึ้ม!”
“เป็นเด็กดี”
“อึ้ม!!”
พอเห็นว่าเด็กหญิงไม่มีทีท่าจะซนแล้ว บาคุโกก็เดินล้วงกระเป๋าออกไปจากหอ โดยมีคามินาริถามไล่หลังอย่างงุนงง
“เฮ้! จะไปไหนน่ะ เสื้อโค้ทก็ไม่ใส่—”
“ไม่ใช่เรื่องของแก!”
“เฮ้ บาคุโก รอด้วย!”
แต่คิริชิมะเร็วกว่ามาก เขารีบวิ่งตามบาคุโกออกไปโดยไม่ลืมหันหลังมาบอกเพื่อนๆ ทุกคน
“ไปโรงอาหาร ใครเอาอะไรพิมพ์ไว้ในแชทนะ!”
ทุกสายตาหันไปมองอายาเมะที่นั่งนิ่งเป็นเด็กดีอยู่บนโซฟา สลับกับบานประตูที่ปิดไล่หลังคิริชิมะไป
“ฉันตาไม่ฝาดใช่ปะ หมอนั่นรีบออกไปซื้อข้าวให้อิชิคาวะจนไม่ใส่เสื้อโค้ทด้วยซ้ำ”
คามินาริคราง ในขณะที่กลุ่มสาวๆ เข้าไปล้อมเด็กน้อยในฮู้ดหูกระต่ายที่จ้องมองประตูด้วยดวงตากลมแป๋วราวกับกำลังรอให้พี่ชายกลับมาอยู่
ฮางาคุเระก้มลงไปพิจารณาทรงผมฝีมือบาคุโกตามประสาสาวน้อยมัธยมปลาย
“โห แบ่งผมสองข้างเท่ากันเด๊ะ แถมยังผูกโบว์สวยเป็นบ้า…”
เธอเปรยขึ้นมาก่อนที่ทั้งหมดจะเงียบลงพร้อมกัน
ในตอนนั้น ความคิดหนึ่งแล่นผ่านหัวของทุกคนอย่างพร้อมเพรียง
อุ้มเขามาที่หอ พามาแต่งตัว ทำผมให้ ไปหาข้าวให้กิน…
บาคุโก…
นายเองน่ะ ก็เป็นคุณพ่อได้นะ!
_________________________________
แด๊ดดี้ที่แปลว่าพ่อน่ะค่ะ แปลว่าพ่อจริงๆ YY
อีก 3 ตอนจะจบอาร์คนี้แล้วค่ะ จะเป็นตอนสบายๆ คั่นประมาณ 2 ตอนก่อนจะเป็นตอนปิดอาร์คค่ะ
อันที่จริงแล้ว ตามที่คิดไว้ตอนแรก ตอนนี้จะได้เป็นตอนพิเศษค่ะ แต่น้อง Pandora P. คิดตอนพิเศษที่น่าสนุกกว่าขึ้นมาได้ พวกเราเลยเอามาหาที่ใส่ในเนื้อหาหลักแทนค่ะ!
น้อง Pandora P. วาดรูปอายาเมะตัวน้อยไว้ให้ด้วยค่ะ น่ารักมากๆ เลย
ใครใจไม่เหลว เราใจเหลวก่อนละค่ะ YY
เนื่องจากตอนถัดไปเป็นตอนติดกัน เราจะมาอัพให้ในวันพรุ่งนี้เลยนะคะ
ปล. เม้นท์ตอนที่แล้วทุบทุกสถิติที่ผ่านมาทั้งหมดเลยค่ะ ไม่ผิดหวังกับจูบแม่มจริงๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พ่อที่ดีของลูกกกกก ความนุ่มฟูในตอนนี้ทำให้เรายิ้มแก้มแทบปริบวกกับความน่ารักของน้องอายาเมะและบาคุโกวทำให้เราใจละลาย อร้ายยยยยย!!!
ปล. คิริชิมะ นายมันเพื่อน vip
ปล. 2 โทโคยามิ อะไรคือการทำผมแห่งความมืด....
เขินๆแทนน้องเลยค่ามีนังคัตคอยดูแล;-;