ตอนที่ 4 : กระต่ายน้อยของฉัน
“อะไรนะคะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ”
กระต่ายแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อตรีภพกลับเข้ามาบอกกับเธอว่าบริเวณที่เธอเห็นเหตุการณ์เมื่อสามสิบนาทีก่อน ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ หรือมีใครถูกทำร้ายด้วยมีดปลายแหลมอย่างที่เธอบอกเขาเลย
“ครับ ไม่มีรอยเลือด ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ และชายชราคนนั้นที่คุณต่ายบอกว่าถูกทำร้าย ก็ไม่มีแม้แต่เงาในบริเวณที่เกิดเหตุนะครับ”
ตรีภพอธิบาย เพราะหลังจากที่กระต่ายวิ่งเข้ามาบอกเขาว่ามีคนถูกทำร้ายที่ซอกตึกในมุมหนึ่งของโรงแรม เขาก็รีบโทร. แจ้งตำรวจให้รีบมาตรวจสอบทันที พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปยังที่เกิดเหตุ แต่ทว่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่กระต่ายบอกเลยสักนิด
“มันจะเป็นไปได้ยังไงกันคะ ในเมื่อต่ายเห็นชัดๆ เต็มสองตา ว่ามีคนถูกทำร้ายตรงนั้น”
กระต่ายยืนยันเสียงหนักแน่น เพราะเธอมั่นใจว่าสิ่งที่เห็นมันคือความจริง เป็นไปไม่ได้ที่ตรีภพหรือตำรวจจะบอกว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มันต้องมีอะไรผิดพลาดสิ กระต่ายเชื่ออย่างนั้น ไม่มีทางที่เธอจะตาฝาดหรือเข้าใจผิดอย่างแน่นอน อีกอย่างเธอก็จำสายตาฆาตกรคนนั้นได้แม่นเลย
มันเห็นหน้าเธอ เช่นเดียวกับที่เธอเห็นหน้ามัน...
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ครับคุณต่าย ผมว่าที่คุณต่ายเห็นมัน...”
“จะบอกว่าต่ายตาฝาด หรือเข้าใจผิดไปอย่างนั้นหรือคะ” กระต่ายทำเสียงขึ้นจมูก บ่งบอกความไม่พอใจสุดฤทธิ์ที่ตรีภพเองก็ไม่เชื่อเธอเหมือนกัน
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ เพียงแต่...”
“กล้องวงจรปิดล่ะคะ เราสามารถขอทางโรงแรมดูได้นี่นา” กระต่ายบอกเหมือนนึกขึ้นได้ แต่ทว่าตรีภพกลับส่ายหน้า แล้วมองมาที่เธอเหมือนรู้สึกลำบากใจ
“ตำรวจเช็กแล้วครับ แต่ไม่มีอะไร ผมว่าคุณต่ายอาจจะตาฝาด หรือเข้าใจผิดไปเองนั่นแหละครับ”
“แต่ว่าต่าย...”
“คุณต่าย” ตรีภพเดินเข้ามายืนตรงหน้าหญิงสาว พร้อมกับถือโอกาสฉวยมือเล็กขึ้นมาจับแล้วบีบเบาๆ ราวกับกำลังปลอบให้เธอใจเย็นลง
“จะอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่อยากให้คุณต่ายเข้าไปยุ่งด้วยทั้งนั้น ช่างมันเถอะนะครับ”
“แต่ว่า...” กระต่ายไม่ชอบใจ ในเมื่อเธอเห็นชัดเต็มสองตา และยังจำหน้าผู้ชายคนนั้นได้แม่นขนาดนี้ ตรีภพกับตำรวจยังบอกว่าไม่มีอะไรอย่างนั้นเหรอ บ้าจริง...มันไม่ยุติธรรมกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นสักนิด
“ไม่มีแต่ทั้งนั้นครับคุณต่าย ลืมมันไปให้หมดนะครับ”
สายตาเว้าวอนของตรีภพทำให้หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะดึงมือเล็กออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิดเล็กน้อย
“ผมว่าวันนี้คุณต่ายคงเหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะขับรถไปส่ง” ตรีภพบอกอย่างอ่อนใจ รู้ดีว่ากระต่ายคงไม่ยอมลืมเรื่องนี้ไปง่ายๆ
เธอวิ่งเข้าไปบอกเรื่องนี้กับเขาในงาน ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ตรีภพไม่อยากเชื่อว่าเธอจะตาฝาดและสร้างเรื่องโกหกนี้ขึ้นมาเอง แต่ในเมื่อตำรวจตรวจสอบและยืนยันแล้วว่ามันไม่มีอะไร ตรีภพเองก็แปลกใจและสับสนไปไม่น้อยกว่ากระต่ายเลย
“อย่าเลยค่ะ ต่ายกลับเองได้ คุณไปดูแลงานของคุณต่อเถอะค่ะ” กระต่ายปฏิเสธทันที ในตอนนี้เธอยอมรับว่าทั้งมึนและงงจนทำอะไรไม่ถูกไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจึงอยากที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า
“ผมเป็นห่วงนะครับ” ตรีภพบอกจากใจจริง รู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้หญิงสาวต้องมาพบกับเหตุการณ์แปลกๆ ในคืนนี้ ถ้าเขาไม่ชวนเธอมา กระต่ายก็คงไม่ต้องเจอกับเรื่องบ้าๆ ที่หาคำตอบไม่ได้อย่างนี้แน่นอน
“ขอบคุณค่ะ แต่ต่ายดูแลตัวเองได้ดีอยู่แล้ว คุณภพไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
พูดจบกระต่ายก็เดินหนีออกไปจากโรงแรมทันที ปล่อยให้ตรีภพได้แต่มองตามไปด้วยสายตาเป็นห่วง เขารู้ว่ากระต่ายเก่งและเอาตัวรอดได้เสมอ และด้วยสาเหตุนี้นี่เอง ที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง หลังจากได้พบและพูดคุยกันที่ร้านรอรักขนมหวานอยู่เสมอ
น่ารัก อ่อนหวาน แถมยังเก่งสารพัด ยืนหยัดได้ด้วยตัวเองตามลำพังมาตลอด สักวันตรีภพจะทำให้เธอใจอ่อน และยอมให้เขาเข้าไปในโลกส่วนตัวของเธอมากขึ้น สักวัน...เขาจะเป็นเจ้าของหัวใจหยิ่งๆ ดวงนั้นของกระต่ายให้ได้
บทที่ 2
กระต่ายกลับมาถึงบ้านสวนในเวลาเกือบเที่ยงคืน เพราะมัวแวะเข้าไปดูความเรียบร้อยที่ร้านขนมก่อน และพอเห็นว่าขนมบางอย่างหมดเกลี้ยงไปทั้งชั้น เธอก็เลยอยู่ช่วยแอนนาและพนักงานเตรียมของและวัตถุดิบใหม่ ที่จะทำและวางขายในวันพรุ่งนี้ต่อไป ขนมทุกอย่างในร้านของเธอจึงสดและใหม่ เป็นที่ถูกใจของลูกค้าที่แวะเวียนมาอุดหนุนเป็นประจำทุกวัน
กระต่ายจัดร้านด้านหน้าให้เป็นที่นั่งเล่นเกือบสิบโต๊ะ สำหรับลูกค้าที่เข้ามาคุยธุรกิจ หรือพักผ่อนกัน เพราะนอกจากลูกค้าจะสั่งขนมหวานเป็นของว่างแล้ว ก็ยังสั่งชา กาแฟ และน้ำผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพของร้านรอรักอีกด้วย ทำให้ทุกวันของร้านรอรัก ค่อนข้างครึกครื้นพอสมควร
กระต่ายปิดรั้วบ้านหลังลงจากรถด้วยความอ่อนเพลีย ความจริงเธอชินแล้วกับการทำงานจนดึกดื่นแบบนี้ หากแต่วันนี้เป็นเพราะเธอต้องเจอกับเรื่องแปลกๆ และน่าตื่นเต้นมาหมาดๆ จึงทำให้สมองครุ่นคิดถึงมันด้วยความกังวลตลอดเวลา
กระต่ายไม่ได้ตาฝาด หญิงสาวมั่นใจ วิ่งหนีคนร้ายออกมาแทบไม่ทันอย่างนั้น เขาคงไม่เรียกว่าเข้าใจผิดไปเองอย่างแน่นอน ทำไมตรีภพกับตำรวจถึงไม่ชื่อเธอกันนะ
เธอตกใจ แต่ก็ไม่ได้กลัวจนเกิดภาพหลอนไปเองหรอก หากมีอาวุธหรือปืนสักกระบอกป้องกันตัวเองในตอนนั้น รับรองว่ากระต่ายจะไม่วิ่งหนีมันแน่
เฮ้อ...ยิ่งคิดยิ่งงง หญิงสาวส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ สลัดเรื่องราวอันน่าปวดหัวทิ้งไปจากสมองชั่วคราว ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากอาการเมื่อยล้ามาเกือบทั้งวัน พรุ่งนี้เธอจะตื่นสายๆ หน่อย แล้วค่อยออกไปดูที่ร้าน
ความเหนื่อยและความง่วงงุน ทำให้กระต่ายหลับไปโดยง่ายดายเหมือนทุกคืน เธอมักใช้วิธีนี้เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในแต่ละวัน ไม่อย่างนั้นแล้ว ความรู้สึกบางอย่างที่คั่งค้างอยู่ในใจของเธอมาตลอดหลายปี จะทำให้เธอฟุ้งซ่านและนอนไม่หลับเหมือนที่เคยเป็นมาตลอดหลายปี
“กระต่ายน้อยของฉัน”
เสียงเรียกด้วยน้ำเสียงทรงพลังที่ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ทำให้กระต่ายขยับตัวเบาๆ ด้วยความขี้เกียจ หากแต่ก็ยังหลับตาอยู่อย่างนั้นเพราะความงัวเงีย
“ยายเด็กบ้า”
เสียงกระซิบต่อว่าข้างหูทำให้กระต่ายขมวดคิ้วงุนงง เธอฝันอีกแล้วเหรอ หญิงสาวถามตัวเองในใจ เธอทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังจะฝันถึงเขาคนนั้นอีกหรือ
ใช่เขาแน่ กระต่ายจำเสียงของเขาได้ ต่อให้เขาคนนั้นจากไปนานแค่ไหนก็ตาม แต่ว่าเขาจะตามมาหลอกหลอนเธอทุกคืนทำไม ในเมื่อเขาตัดใจที่จะลืมเธอไปจากชีวิตของเขาแล้ว
เคราสากๆ ทิ่มลงบนแก้มนวลเบาๆ จนรู้สึกจักจี้ไปหมด กระต่ายครางอู้อี้แล้วเบี่ยงใบหน้าหนีทันที ฝันคราวนี้เธอสัมผัสตัวเขาได้ด้วยหรือ ดีจัง...ฝันของเธอวิวัฒนาการไปอีกขั้นหนึ่งแล้วอย่างนั้นเหรอ
“อื้อ...” กระต่ายครางในลำคออย่างรำคาญใจ รู้สึกว่าหนวดเครานั่นจะทิ่มตำลงไปทุกส่วนบนใบหน้าของเธอมากจนเกินไปแล้ว ซึ่งมันรบกวนการนอนของเธอเป็นอย่างมาก
“อุ้ย!” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อใบหูของเธอโดนขบแรงๆ จากริมฝีปากร้อนระอุจนเธอขนลุกไปหมด
“ตัวเล็ก” เสียงเรียกนั้นยังดังอยู่ข้างหูของเธอ กระต่ายถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมามองเจ้าของเสียงในความสลัวของแสงไฟจากหัวเตียง
“มากวนกันอยู่ได้ทุกวัน ทำไมไม่ไปให้พ้นจากชีวิตหนูเสียทีคะ” กระต่ายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พร้อมกับจ้องมองเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนด้วยความเหลืออด
บุรุษที่โผล่มาเยี่ยมเธอในฝันเอียงคอมองแล้วทำหน้านิ่ง หากแต่ปลายนิ้วของเขากลับลากไล้ไปมาบนแก้มเนียนของเธอ แล้ววกลงไปยังริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา
“หนูเกลียดคุณ อย่ามาให้เห็นหน้าอีกได้ไหมคะ” กระต่ายบอกเขาเสียงขุ่น ก่อนจะหลับตาลงทันทีเมื่ออีกฝ่ายก้มลงมาหาที่ปากอิ่ม แล้วหลังจากนั้นก็กดริมฝีปากหยักหนาลงบนกลีบปากของเธออย่างแผ่วเบา
อะไรกัน วันนี้ทำไมเขาถึง...
กระต่ายใจเต้นขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ สัมผัสแบบนี้เธอเคยได้รับจากเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ว่า...วันนี้กระต่ายไม่ได้คิดถึงเขามากขนาดนี้เสียหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ได้คิดถึงจูบสั่งลาในครั้งนั้นสักนิดเลย
กระต่ายเผยอปากให้เขาอย่างลืมตัว ในเมื่อนี่มันคือความฝัน แล้วทำไมเธอจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามบทบาทของมันไม่ได้ล่ะ
หญิงสาวปล่อยให้อีกฝ่ายรุกรานอย่างเต็มอกเต็มใจ หากสิ่งนี้มันจะช่วยให้เธอหลับอย่างสบายขึ้นได้ กระต่ายก็จะปล่อยให้มันเป็นไปตามครรลองของมัน
“คิดถึงเธอ” เสียงทุ้มคุ้นหูกระซิบบอกอยู่ข้างพวงแก้ม หลังจากที่ถอนจูบออกไป
***คิดถึงเธอ.... แอร๊ยยยยยยยยยยยยย พี่คาร์ลมาแล้วววว อะไร ยังไง อย่างไร ติดตามกันได้ตอนหน้าจ้าา
***ฝากโหวต ฝากเม้น เป็นกำลังใจให้พี่คาร์ลกับกระต่ายน้อยด้วยนะคะ นะๆ พลีสสสสสสสส ออดอ้อนเอาหน้าถูไถอกอิ่มของนักอ่าน อิอิ
***เจอกันวันอาทิตย์ตามสัญญานะตัวเองงงงงงงงง***
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แค่หลับธรรมดา
ไม่ได้โดนยา ไม่ได้เมาเหล้า
ไม่น่าให้หลับลึกขนาดนี้นะคะไรท์
เกินเหตุไปหน่อย
#คิดถึงเธอ.....ทุกทีที่อยู่คนเดียว แต่ไปนี้จะไม่ต้องคิดถึงมากแล้ว มาให้อยู่ใกล้ๆให้ #ลำไย กันเลยทีนี้
คิดถึงเหมือนกัน 555