ตอนที่ 11 : ให้ฉันดูแลเธอ
“อะไรกันคะ” ธารธาราเอ่ยถามด้วยความงุนงง เมื่อเห็นว่าดนัยภัทรหอบโน๊ตบุ๊คส่วนตัวของเขา เข้ามาในห้องของหล่อน แล้ววางที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับผ้าห่มและหมอนใบโตตามมาติดๆ
“คุณไม่สบาย ยัยด้าบอกว่าให้ผมดูแลคุณดีๆ ไม่งั้นจะขึ้นมาจัดการผมถึงนี่ ข้อหาที่ปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายกับคุณ”
ชายหนุ่มบอกถึงเหตุผล ก่อนจะก้มลงปูที่นอนลงข้างๆ เตียงของหล่อนอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนว่าเจ้าของห้องจะกำลังนั่งจ้องมองเขาด้วยความตกใจแค่ไหน
“อย่าลำบากเลยค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงเสียหน่อย ฉันดูแลตัวเองได้ คุณต้องทำงานด้วยนี่คะ”
“ผมนั่งทำในระหว่างที่เฝ้าคุณได้ คุณนอนพักเถอะ ไม่ต้องสนใจว่ามีผมอยู่ในนี้ด้วย”
ใครมันจะไปหลับลงกันล่ะ ธารธาราคิดในใจ เกิดมาไม่เคยมีใครต้องมานั่งเฝ้าหล่อนแบบนี้เลย อีกทั้งดนัยภัทรเองก็เป็นผู้ชายที่หล่อนเพิ่งรู้จักได้ไม่นาน จะให้หล่อนทำเหมือนสนิทสนมกันถึงขนาดมานอนห้องร่วมกันได้ มันก็เกินไปหน่อยล่ะ
“แต่ว่าฉัน...” ธารธารารู้สึกไม่สบายใจ
“นอนไป ผมจะทำงานแล้ว” ดนัยภัทรหันมาเอ็ดหล่อน พร้อมกับมองด้วยสายตาบังคับอยู่ในที ทำให้ธารธาราจำต้องล้มตัวนอนลงตามคำสั่งของเขา พร้อมกับพลิกตัวหันหลังให้ แล้วแอบบ่นเขาอยู่ในใจตามลำพัง ที่เขาเอาแต่บังคับหล่อนไปเสียทุกอย่าง โดยที่หล่อนเองก็ไม่กล้าขัดคำสั่งเขาเสียด้วย
ดนัยภัทรยกยิ้มเมื่อเห็นอาการไม่พอใจของหล่อน ก่อนจะหันมาสนใจงานของตัวเองที่ยังคั่งค้างอีกมาก ความจริงมันก็ไม่ใช่งานด่วนอะไรหรอก แต่ที่ต้องหอบมาทำด้วย ก็เพราะกลัวว่าหล่อนจะขัดเขินที่มีคนมานอนเฝ้าเอา เขาจึงได้เอางานมาบังหน้าเพื่อคลายความขัดเขินนั้น
ดนัยภัทรหันไปมองคนบนเตียงหลังจากนั่งทำงานเงียบๆ มาได้สักชั่วโมง ก่อนจะบิดแขนและขาแล้วลุกจากเก้าอี้เดินมาหาหล่อนที่เตียง พร้อมกับชะโงกมองใบหน้าของคนหลับใกล้ๆ แล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ไหน...ขอวัดอุณหภูมิร่างกายหน่อย ชายหนุ่มแอบกังวลกับอาการไข้ เขาแตะหลังมือไปที่หน้าผากของคนหลับทันที ก่อนจะทำหน้าตกใจ เมื่อรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นจนผิดปกติของธารธารา
ยุ่งล่ะสิ! ดนัยภัทรสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนจะเดินก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว เพื่อหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้หล่อนทันที
ธารธารานอนตัวสั่นอยู่บนเตียง พิษไข้ทำให้หล่อนไม่สามารถลืมตาตื่นขึ้นมามองคนที่กำลังทรุดตัวลงนั่งบนเตียงได้ แต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าเขากำลังพูดอะไรสักอย่างกับหล่อน
“ธารธารา ขออนุญาตเช็ดตัวก่อนนะครับ”
ธารธาราครางงึมงำในลำคอ ตอนนี้ลำคอของหล่อนแห้งผาก รู้สึกถึงความปวดระบมไปหมดทั้งตัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นอะไรเลยสักนิด
“คุณภัทร...”
“ครับ อยู่นิ่งๆ ครับ คุณต้องเช็ดตัวก่อน” ดนัยภัทรใช้ผ้าชุบน้ำที่บิดหมาดๆ เช็ดหน้าและลำคอให้หล่อนอย่างแผ่วเบา ทำไมคนอย่างเขาต้องมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ก็ไม่รู้สินะ ชายหนุ่มวนถามตัวเองด้วยความขบขัน
เกิดมาไม่เคยดูแลใครแบบนี้เลยให้ตาย ดนัยภัทรส่ายหัวให้กับความเงอะงะของตัวเอง ผิวเนื้ออ่อนละมุนที่อยู่ใต้ชุดนอนบางเบาของหล่อน ทำให้เขาเสียการควบคุมการเต้นของหัวใจไปหลายรอบ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังต้องทำหน้าที่นี้ให้ลุล่วงไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วธารธาราอาจจะอาการแย่ลง
เขาโทร. ตามหมอเพียงฟ้ามาดูอาการของหล่อนแล้ว และอีกสักพักเธอคงมาถึง แต่ตอนนี้เขาต้องช่วยลดไข้ให้หล่อนก่อน พร้อมกับสังเกตอาการหล่อนไม่ให้คลาดสายตาตามที่หมอเพียงฟ้าแนะนำ
“ธารธารา เป็นยังไงบ้างครับ” ดนัยภัทรกระซิบถามเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง
“หนาวค่ะ” เจ้าหล่อนบอกเสียงแหบแห้ง
ดนัยภัทรห่มผ้าให้หล่อนทันที ก่อนจะหยิบผ้าห่มของตัวเองที่หยิบเข้ามาห่มให้อีกผืน พร้อมกับอดที่จะลูบฝ่ามือลงบนแก้มนุ่มนั้นด้วยความกังวลไม่ได้
“อุ่นขึ้นหรือยังครับ”
ไม่มีเสียงตอบจากริมฝีปากสีซีดนั่น มีเพียงมือเล็กๆ ที่ยกขึ้นมาจับมือเขาแล้วกุมเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนดนัยภัทรถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเพราะความสงสาร
“เดี๋ยวหมอก็มา อดทนอีกนิดนะครับ”
“หนาวค่ะ กอดน้ำหน่อยสิคะ”
หืม...ดนัยภัทรครางออกมาในลำคอ ผ้าห่มสองผืนไม่ได้ทำให้หล่อนอุ่นขึ้นได้เลยอย่างนั้นเหรอ
“คุณภัทรคะ” คนป่วยยังพึมพำไม่หยุด
ดนัยภัทรถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจล้มตัวนอนลงข้างๆ หล่อน แล้วยกแขนกว้างโอบรอบตัวหล่อนเอาไว้อย่างถือวิสาสะ และแทนที่หล่อนจะผละหนีออกไป หล่อนกลับซุกตัวเข้ามาในอ้อมกอดของเขาหน้าตาเฉยเลยทีเดียว ราวกับว่าร่างใหญ่หนาของเขาคือความอบอุ่นที่หล่อนต้องการ
ยัยบ๊อง...นี่ป่วยจนสมองเพี้ยนไปแล้วสินะ ถึงได้เต็มใจให้เขานอนกอดแบบนี้ นี่ถ้าเป็นเวลาปกติ หล่อนคงได้ร้องแว้ดๆ ใส่เขาแน่ๆ
“ฟ้าฉีดยาให้เธอแล้วนะคะ อีกสักพักก็น่าจะดีขึ้น”
หมอเพียงฟ้าหันมาบอกกับชายหนุ่ม ที่กำลังนั่งทำหน้าเครียดอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ ก่อนจะหันมาเก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ของตัวเองลงกระเป๋า หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจของหมออย่างเธอ
แม้จะอิจฉาและริษยาธารธารามากมาย ที่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายที่มีเสน่ห์ที่สุดอย่างดนัยภัทร แต่ด้วยจรรยาบรรณของอาชีพที่เธอทำด้วยใจรัก ก็มิอาจทำให้หมอเพียงฟ้าละเลยคนป่วยได้ ต่อให้ดึกดื่นค่ำคืนแค่ไหน หมอก็ต้องช่วยคนไข้ให้ถึงที่สุด และในทุกสถานการณ์ด้วย
“ขอบคุณนะครับหมอฟ้า ที่มาดูอาการคุณน้ำให้” ดนัยภัทรหันมาขอบคุณเธอด้วยรอยยิ้มหล่อเหมือนเดิม
“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฟ้าอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเธอหรอกนะคะภัทร คุณธารธาราไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่มีอาการไข้ขึ้นสูงเท่านั้น หมั่นเช็ดตัวให้บ่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วค่ะ"
“ครับ ผมจะหมั่นเช็ดตัวตามที่หมอฟ้าบอกเลย”
“เอ่อ...จะดีหรือคะภัทร ให้ฟ้าอยู่ช่วยดีไหม” หมอเพียงฟ้าทำท่าไม่วางใจ เพราะถ้าดนัยภัทรกับธารธาราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอย่างที่ธารธาราบอกเธอ เพียงฟ้าก็ไม่ควรปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน
“ไม่เป็นไรครับหมอฟ้า ผมดูแลเธอได้ แค่นี้ผมก็รบกวนหมอฟ้ามากแล้ว ยังไงหมอฟ้ารีบกลับไปพักผ่อนเถอะครับ นี่มันก็ดึกมากแล้ว ขอบคุณหมอฟ้าอีกครั้งนะครับ ที่มาดูอาการคนป่วยให้”
คำพูดของดนัยภัทรทำให้หมอเพียงฟ้าห่อเหี่ยวใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกว่าหวงเขาไปได้มากกว่านั้น เธอกับดนัยภัทรยังคงความสัมพันธ์กันแบบเพื่อนสนิทอยู่ และถึงจะสนิทมากแค่ไหนก็ยังไม่ใช่ในฐานะแฟนอยู่ดี
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับหมอฟ้า” ดนัยภัทรยิ้มขัน เมื่อเห็นหมอเพียงฟ้าทำหน้าแปลกๆ
“ฟ้าว่าชายหญิงอยู่ด้วยกัน เอ่อ...มันจะ...”
“เราเป็นคนรักกันนะครับหมอฟ้า ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงตอนนี้เราจะมีเรื่องทะเลาะกันโกรธกันไปบ้าง จนถึงขั้นคุณน้ำไปบอกใครต่อใครว่าเราไม่มีอะไรกันก็ตาม แต่เราก็งอนกันไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวเราก็คืนดีกันแล้ว”
“อะไรนะคะ งอนกัน” หมอเพียงฟ้าทำหน้าตกใจ หมายความว่าที่ธารธาราบอกเธอว่าไม่มีอะไรกับดนัยภัทร ก็เพราะว่าทั้งคู่กำลังงอนกันอยู่อย่างนั้นเหรอ
“ครับ เรางอนกันนิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นคุณน้ำเขาก็น่ารักนะครับ เธอเป็นคนจิตใจดีมาก เป็นคนน่ารัก แถมคุณพ่อคุณแม่ของผมก็ชอบเธอมากด้วย”
ดนัยภัทรได้ทีก็ฉวยโอกาสนี้เสียเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนี่นะ ในเมื่อเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับหมอเพียงฟ้านอกจากคำว่าเพื่อนเลย เขาก็ควรจะทำให้เธอตัดใจไปจากเขา แล้วมองคนอื่นบ้างเสียที ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเขาคงลำบากใจแน่
“อย่างนั้นหรือคะ” หมอเพียงฟ้าบอกออกมาทั้งที่เจ็บหัวใจ ในเมื่อดนัยภัทรออกตัวขนาดนี้แล้ว เธอคงไม่ต้องดันทุรังที่จะชอบเขาต่อไปแล้วสินะ ในเมื่อสายตาและท่าทางของดนัยภัทร ที่มีต่อคนป่วยบนเตียงในตอนนี้ มันบ่งบอกถึงความรักความห่วงหาออกมาได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
“ถ้าอย่างนั้นฟ้าขอตัวกลับก่อนก็แล้วกันนะคะ มีอะไรก็เรียกฟ้าได้ตลอดเลย ไม่ต้องเกรงใจ” หมอเพียงฟ้าบอกด้วยใบหน้าที่ฝืนยิ้ม หัวใจปวดหนึบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ครับหมอฟ้า ขอบคุณมากเลยนะครับ”
ดนัยภัทรกล่าวขอบคุณเธออีกครั้ง พร้อมกับเดินไปส่งเธอที่หน้าห้องด้วยความรู้สึกผิดในใจ ที่ไม่อาจตอบสนองความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างที่ต้องการได้
“ขอโทษนะครับหมอฟ้า”
ดนัยภัทรพึมพำกับตัวเองเบาๆ หลังจากที่เพียงฟ้าจากไป ก่อนจะกลับเข้ามาหาคนป่วยที่นอนซมเพราะพิษไข้อีกครั้ง โดยไม่ลืมที่จะแตะหลังมือกับหน้าผากมนเพื่อวัดไข้ให้หล่อนอย่างกังวล
“ค่อยยังชั่ว แบบนี้ค่อยหายห่วงหน่อย” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างยินดี เมื่ออุณหภูมิของหล่อนลดลงมาแล้ว และไม่อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วงเหมือนในตอนแรก
เฮ้อ...คงจะตากแดดทั้งวันจนป่วยแน่ๆ ไหนจะต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ อีก หล่อนคงทั้งเหนื่อยทั้งตกใจและหวาดกลัวมากๆ สินะ คงได้นอนซมหมดสภาพแบบนี้
ร่างที่นอนฟุบหน้าอยู่ข้างเตียงในตอนเช้าตรู่ ทำให้ธารธารารู้สึกตกใจและละอายใจยิ่งนัก ที่ตัวเองเป็นสาเหตุทำให้เขาต้องมารับภาระดูแลหล่อนทั้งคืนแบบนี้
หล่อนจำได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพียงแต่ไม่มีแรงและกำลังจะเอื้อนเอ่ยออกมาเท่านั้น หล่อนรู้ว่าหมอเพียงฟ้ามาที่นี่เมื่อคืนนี้เพื่อดูอาการหล่อน รู้ว่าทั้งคืนชายหนุ่มที่เอาแต่เอ็ดและดุหล่อนตลอดเวลานั้นเป็นคนดูแลไม่ห่างจากเตียงเลย ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ภาระหน้าที่ของเขาสักนิด
“คุณดนัยภัทรคะ” ธารธาราแตะมือที่แขนเขาแล้วสะกิดเบาๆ พร้อมกับเรียกชื่อ
ดนัยภัทรรู้สึกตัวขึ้นมาทันที พร้อมกับสะบัดศีรษะไปมา เพื่อขับไล่ความง่วงงุนและอิดโรยออกไป หลังจากที่เขาอดหลับอดนอนเฝ้าไข้หล่อนทั้งคืน
“ตื่นแล้วหรือครับ” เขาเอ่ยถามหล่อนด้วยอาการงัวเงีย
“ค่ะ นี่คุณ...เฝ้าฉันทั้งคืนเลยหรือคะ” ธารธารารู้สึกผิดในใจ นี่หล่อนกลายเป็นภาระให้เขาจนได้สินะ
ดนัยภัทรไม่ตอบ แต่กลับลุกขึ้นและชะโงกตัวเข้ามาใกล้ๆ แล้วแตะหลังมือมาที่หน้าผากของหล่อนเหมือนที่ชอบทำ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เมื่อร่างกายของหล่อนกลับมาเป็นปกติแล้ว
“ฉันหายแล้วค่ะ” ธารธาราบอกให้เขาสบายใจ เพราะตอนนี้หล่อนรู้สึกสดใสและกระชุ่มกระชวยขึ้นมาก หลังจากที่เหนื่อยและเพลียจากพิษไข้จนหมดเรี่ยวแรง
“อวดดี เรื่องนี้ผมตัดสินใจเองครับธารธารา ว่าคุณหายแล้วหรือว่ายังไม่หาย”
น้ำเสียงและสายตาดุๆ ของดนัยภัทรทำให้ธารธาราหน้าหงอยลงทันที แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้คนออกคำสั่งถึงกับอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความขบขันไม่ได้ พอโดนเอ็ดเข้าหน่อยก็ทำหน้าเศร้าทันทีเลยนะแม่ตัวดี ให้มันอยู่ในโอวาทอย่างนี้ตลอดไปเสียก็ดีหรอก
“จริงสิคะ คุณต้องไปทำงานนี่” ธารธาราเอ่ยขึ้นมาเหมือนนึกได้ ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง และก็พบว่ามันเป็นเวลาเกือบสองโมงเช้าเข้าไปแล้ว
“ไม่เป็นไร ผมเข้าไปสายหน่อยก็ได้ ว่าแต่คุณเถอะ ดีขึ้นแล้วใช่ไหม ยังเจ็บยังปวดตรงไหนอยู่หรือเปล่า”
“ไม่แล้วค่ะ ฉันหายแล้ว ไม่เชื่อเดี๋ยวจะพิสูจน์ให้ดู”
ด้วยความที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายกังวลกับอาการป่วย ธารธาราจึงกระโดดลงจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว เพื่อแสดงให้ดนัยภัทรเห็นว่าหล่อนสบายดีแล้ว แต่ทว่าด้วยความที่หล่อนรีบร้อนจนเกินไป บวกกับร่างกายที่เพิ่งฟื้นจากพิษไข้ ทำให้หล่อนรู้สึกตัวเบาโหวง จนเสียหลักเซซ้ายเซขวา และทำท่าจะล้มลงดื้อๆ ยังดีที่ดนัยภัทรนั้นรีบยืนมือมาคว้าเอวบางของหล่อนไว้ได้ทันเสียก่อน ไม่งั้นแล้วหล่อนคงล้มลงไปนอนหัวฟาดพื้นแน่ๆ
“บอกแล้วว่าอย่าอวดดี น่าตีนักคุณนี่” ดนัยภัทรดุหล่อนอีกครั้ง ก่อนจะวาดวงแขนโอบล้อมเอวบาง แล้วตวัดร่างของหล่อนขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็ว
“อะไรกันคะคุณภัทร ปล่อยฉันลงนะคะ” หญิงสาวถามเขาหน้าตาตื่น ทั้งตกใจและนึกไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะอุ้มหล่อนขึ้นมาแบบนี้
“ไปล้างหน้าล้างตากัน ผมว่าคุณเดินเองไม่ไหวหรอก” พูดจบดนัยภัทรก็พาหล่อนก้าวเข้าไปยังห้องน้ำทันที ท่ามกลางอาการตกตะลึงและคาดไม่ถึงของคนในอ้อมแขน
“ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง ฉันทำเองได้” ธารธาราอยากจะบ้าตาย เมื่อชายหนุ่มบีบยาสีฟันใส่แปรงสีฟันสีชมพูของหล่อน แล้วยื่นมาให้ พร้อมกับแก้วน้ำอีกใบ ในขณะที่เขายืนประคองหล่อนอยู่ไม่ห่าง สร้างความขัดเขินให้กับธารธาราเป็นอย่างมาก
ดนัยภัทรทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะหยิบแปรงสีฟันของตัวเองมาบีบยาสีฟันใส่บ้าง พร้อมกับก้มหน้าก้มตาแปรงฟันไปอย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรอีก ต่างจากธารธาราที่ขัดเขินและงุนงงไปหมด
หล่อนเพิ่งสังเกต ว่ามีของใช้ส่วนตัวของเขาอยู่ในห้องน้ำของหล่อนด้วย นี่หมายความว่าเขา...ย้ายตัวเองมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วสินะ
ธารธารารู้สึกแปลกๆ ในหัวใจ ก่อนจะขับไล่ความรู้สึกนั้นออกไปให้เร็วที่สุด ก่อนจะหันมาทำธุระส่วนตัวของตัวเองบ้าง ในเมื่อเขาไม่อายอะไร หล่อนเองก็ไม่ควรอายเขาด้วยเหมือนกัน
ดนัยภัทรปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระหลังจากนั้น เพื่อจัดการล้างเนื้อล้างตัวให้สดชื่น แต่ก่อนที่เขาจะออกจากห้องไป เขาก็เตรียมผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าชุดใหม่ของหล่อน มาวางไว้ในห้องน้ำให้ด้วย
ธารธาราสับสนและแปลกใจ หล่อนไม่อยากจะเชื่อว่าคนปากร้ายอย่างดนัยภัทรจะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้กับใครด้วย แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ ในเมื่อหล่อนเองก็เห็นกับตามาแล้ว
ธารธาราอยากอาบน้ำ เพราะรู้สึกเหนียวตัวมากเป็นพิเศษ หล่อนปลดเสื้อผ้าออกจากร่างกายโดยไว ก่อนจะยืนมองเรือนร่างตัวเองผ่านกระจกใสในห้องน้ำด้วยความรู้สึกโล่งสบายกว่าเมื่อวาน หากแต่ในวินาทีหลังจากนั้น หล่อนก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
คุณพระ...เมื่อคืนนี้ดนัยภัทรเช็ดตัวให้หล่อนนี่ โอย...อย่างนี้แล้วเขาจะไม่...
***คุณทนายยยยย จะน่ารักเกินไปมั้ย ฮ่าาาาา จะหวานขึ้นเรื่อยๆ และเปิดใจขึ้นเรื่อยๆ นะคะ ตอนหน้าหวานกว่านี้ และจะหวานยิ่งขึ้นไปอีก เตรียมหมอนไว้จิกก็ดี นี่คือคำเตือนของโอบธารา 555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

144 ความคิดเห็น
-
#55 ภาวนา ยะถาเทศ (จากตอนที่ 11)วันที่ 9 กรกฎาคม 2559 / 10:03น่าร้ากกกกกก#550
-
#32 pookpook502 (จากตอนที่ 11)วันที่ 29 มิถุนายน 2559 / 20:05อิจฉามากๆๆๆ น่ารักมากๆๆๆๆคุ ุณทนาย#320
-
#31 jinny (จากตอนที่ 11)วันที่ 28 มิถุนายน 2559 / 12:46น่ารักฝุดๆ#310
-
#30 Paiky Klongluang (จากตอนที่ 11)วันที่ 28 มิถุนายน 2559 / 10:15โฮะๆๆๆๆ คุณทนายน่ารักนะฮับ#300