NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมร้ายร่ายปรารถนา

    ลำดับตอนที่ #4 : เกมร้ายร่ายปรารถนา - 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.07K
      68
      5 ม.ค. 63



    ลิงก์ E - book เกมร้ายร่ายปรารถนา >>>คลิก<<<





    ดวงอาทิตย์หายลับไปนานแล้วบรรยากาศยามค่ำคืนภายในบ้านสวนจึงมาเยือนอีกครั้ง เสียงจิ้งหรีดตัวน้อยที่แอบอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้แข่งกันร้องให้ระงม มัลลิกาเงยหน้าจากการถักผ้าปูโต๊ะขึ้นมามองประตูที่ถูกเคาะ

    มันถูกผลักเข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมตลบอบอวลของดอกมะลิซ้อนที่ป้ามักจะจัดใส่แจกันแก้วใบเล็กนำมาวางบนโต๊ะหัวเตียงให้หล่อนทุกคืนๆ

    หอมจังค่ะ”

    หลานสาวกล่าวประจบ คนเป็นป้าเลยเดินมาหยอกแกมหยิกที่แก้มนุ่มเบาๆ วางแจกันแก้วไว้บนโต๊ะหัวนอนแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ มือหนึ่งประคองแก้มนุ่มของหลานสาวค้างเอาไว้

    นอนได้แล้ว พรุ่งนี้เราต้องลุกไปทำกับข้าวใส่บาตรด้วยกัน ลืมไปแล้วหรือ…”

    ไม่ลืมค่ะ แต่เมย์นอนไม่หลับ ขอถักอะไรเล่นสักพักก่อนนะคะ”

    หลานสาวบอกอย่างแย้มยิ้ม ทว่าคนเป็นป้ารู้ว่าข้างในใจขึ้งเครียดมากแค่ไหนกับเรื่องที่ท่านขอไปเมื่อบ่าย

    ป้าขอหนูมากไปหรือเปล่าเมย์ ป้าไม่สบายใจเลย”

    มัลลิกาวางอุปกรณ์ถักผ้าปูโต๊ะทั้งหมดลงในตะกร้า คว้ามือป้ามากุมตั้งแต่โตมาเมย์มีแค่ป้าวิคนเดียวที่เป็นทุกอย่างในชีวิต เรื่องแค่นี้เมย์ทำให้ได้ค่ะ”

    แต่เมย์อาจจะถูกมองเป็นคนไม่ดี”

    ความดีเดียวที่เมย์ต้องการ... คือได้ตอบแทนป้าวิด้วยความกตัญญู ที่เมย์ยอมรับข้อเสนอของป้าจิตก็เพราะว่าเมย์คิดดีแล้ว การไปเป็นเมียกันชนให้ลูกชายป้าจิตไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย เพราะวันหนึ่งวันใดที่ผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป เมย์ก็แค่เซ็นใบหย่าแล้วกลับมาอยู่กับป้าเหมือนเดิม แค่นี้เอง… ไม่ใช่หรือคะ”

    คนเป็นป้าพยักหน้าน้ำตาคลอ ปลื้มใจอย่างที่สุดที่หลานสาวโตมามีหลักการ... เป็นผู้ใหญ่กว่าที่คิดไว้มากมายนัก

    ป้าขอบคุณเมย์มากนะลูกที่ช่วยให้บ้านและที่ดินของคุณยายยังอยู่กับเรา”

    มันเป็นบ้านและที่ผืนสุดท้ายที่สองป้าหลานยังคงมี ส่วนอีกแปลงเป็นพื้นที่นานอกเมืองคงต้องขายเอาเงินมาใช้จ่ายเพราะป้าไม่ได้ทำงานแล้ว

    น้องชายหล่อน... หรือลูกชายคนเดียวของป้าที่เกิดกับสามีคนแรกก็กำลังเรียนอยู่ที่ต่างประเทศต้องใช้เงินมาก จะให้กลับมาอย่างคนมีอนาคตก็คงไม่ได้

     

    ร่างสูงสง่าทรงตัวตรงอยู่บนหลังอาชาไนยตัวสีน้ำตาลเข้ม ดวงตะวันแดงฉานสาดส่องไปทั่วไร่องุ่นกว้างใหญ่ไพศาล คนงานทยอยขึ้นรถกลับบ้านเมื่อได้เวลาเลิกงาน

    เจตน์มักจะชอบอยู่ตรงนี้เป็นประจำ มองดูความสำเร็จในแต่ละวันของตัวเองที่ฝ่าฟันมาอย่างยากลำบากกว่าจะประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้

    ใช่เขาไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง และช่วงหนึ่งที่เศรษฐกิจย่ำแย่อย่างที่สุดเขากำลังศึกษาเรื่องการทำไวน์อยู่ที่ฝรั่งเศส แต่ต้องกลับบ้านอย่างกะทันหันเพราะกิจการครอบครัวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นอย่างหนัก

    เขากลับมาช่วยมารดาแก้ปัญหาเกือบเจ็ดปี กว่าทุกอย่างจะคลี่คลายกลายมาเป็นมั่งมีอย่างมั่งคั่งอีกครั้ง

    จากไร่องุ่นธรรมดาๆ ที่ตัดผลและทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ เพื่อส่งขายภายในประเทศ ตอนนี้ผลิตไวน์ขาวไวน์แดงส่งออกไปยังหลายประเทศจนขึ้นชื่อไม่แพ้ไวน์ต้นตำรับที่อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมาเลย

    และแม้จะเรียนไม่จบหลักสูตรกลับมา... แต่เจตน์ไม่ได้ละความพยายามที่จะเอาความรู้นั้นมาต่อยอดด้วยการศึกษาและทดลองเองอย่างต่อเนื่อง แต่กระนั้นเขาจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากไม่ได้ไวน์เมกเกอร์ฝีมือดีอย่างนิสรินทร์ที่เคยไปร่ำเรียนพร้อมกันยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หล่อนมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ไวน์ของเขามีชื่อเสียงหลังเรียนจบแล้วตามกลับมาช่วยงานอยู่ที่นี่เป็นการถาวร

    จากร่วมงานกัน... สุดท้ายเราร่วมรักกันอยู่หลายปีเพราะเคมีที่ตรงกัน แต่ทุกอย่างกลับพลิกผันเมื่อจู่ๆ หล่อนตัดสินใจหมั้นหมายอย่างกะทันหันกับข้าราชการหนุ่มน้ำดีอย่างปลัดพิบูลย์เมื่อต้นปี

    เพราะเขาเป็นต้นเหตุ!

    เขาถึงไม่โกรธหล่อนเลย แต่โกรธตัวเองมากกว่าที่ปล่อยหล่อนให้หลุดมือไปง่ายๆ แบบนั้น ถึงยังไปมาหาสู่กับหล่อนด้วยดี หวังว่าสักวันหล่อนจะให้อภัยแล้วยอมกลับมารักกันดังเดิม

    เขาไม่สนหรอกว่าหล่อนจะหมั้นหมายไปแล้วหรือไม่ ขอแค่ให้หล่อนเปลี่ยนใจกลับมารักกันก็พอ

    นายยังไม่กลับอีกหรือครับ” หัวหน้าคนงานลงจากรถจักรยานยนต์เดินเข้ามาทักถามด้วยท่าทีสุภาพนอบน้อม

    เจตน์หันไปมอง คลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบกลับไปอย่างใจดีว่าจะไปพอดี นายก็กลับเถอะจะค่ำแล้ว”

    ชยาค้อมตัวต่ำลงเป็นการขอบคุณและล่ำลา เจ้านายก็บังคับอาชาไนยตัวโปรดออกไปจากตรงนั้น

    เจตน์เอามันไปเก็บเข้าคอกแล้วขับรถกลับบ้าน เขาเก็บรถเข้าที่แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปฝั่งบ้านมารดา ทว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนนอกจากป้าเนียม

    เขาไปไหนกันหมด”

    ไปบ้านคุณเจตน์ไงคะ”

    ไปทำไม”

    คิ้วเข้มที่พาดเฉียงเหนือดวงตาคู่คมกริบขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ปกติแม่กับยายจะไม่ค่อยไปบ้านนั้นหรอก จะไปบ้างก็ตอนส่งหนูผิงกลับไปนอนตอนเขากลับดึก แล้วก็ไปกำกับป้าเนียมให้ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในแต่ละอาทิตย์เท่านั้น

    ไปดูเองเถอะค่ะ”




    ขอบคุณทุกท่านที่ยังติดตามอ่านนิยายเช่นเคยค่า
    ขอให้สนุก และมีความสุขกับการอ่านน้า

    ดารารินทร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×