คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เกมร้ายร่ายปรารถนา - 3
ดวงอาทิตย์หายลับไปนานแล้ว…
บรรยากาศยามค่ำคืนภายในบ้านสวนจึงมาเยือนอีกครั้ง
เสียงจิ้งหรีดตัวน้อยที่แอบอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้แข่งกันร้องให้ระงม มัลลิกาเงยหน้าจากการถักผ้าปูโต๊ะขึ้นมามองประตูที่ถูกเคาะ
มันถูกผลักเข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมตลบอบอวลของดอกมะลิซ้อนที่ป้ามักจะจัดใส่แจกันแก้วใบเล็กนำมาวางบนโต๊ะหัวเตียงให้หล่อนทุกคืนๆ
“หอมจังค่ะ”
หลานสาวกล่าวประจบ
คนเป็นป้าเลยเดินมาหยอกแกมหยิกที่แก้มนุ่มเบาๆ วางแจกันแก้วไว้บนโต๊ะหัวนอนแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
มือหนึ่งประคองแก้มนุ่มของหลานสาวค้างเอาไว้
“นอนได้แล้ว
พรุ่งนี้เราต้องลุกไปทำกับข้าวใส่บาตรด้วยกัน ลืมไปแล้วหรือ…”
“ไม่ลืมค่ะ แต่เมย์นอนไม่หลับ
ขอถักอะไรเล่นสักพักก่อนนะคะ”
หลานสาวบอกอย่างแย้มยิ้ม
ทว่าคนเป็นป้ารู้ว่าข้างในใจขึ้งเครียดมากแค่ไหนกับเรื่องที่ท่านขอไปเมื่อบ่าย…
“ป้าขอหนูมากไปหรือเปล่าเมย์
ป้าไม่สบายใจเลย”
มัลลิกาวางอุปกรณ์ถักผ้าปูโต๊ะทั้งหมดลงในตะกร้า
คว้ามือป้ามากุม “ตั้งแต่โตมาเมย์มีแค่ป้าวิคนเดียวที่เป็นทุกอย่างในชีวิต
เรื่องแค่นี้เมย์ทำให้ได้ค่ะ”
“แต่เมย์อาจจะถูกมองเป็นคนไม่ดี”
“ความดีเดียวที่เมย์ต้องการ...
คือได้ตอบแทนป้าวิด้วยความกตัญญู ที่เมย์ยอมรับข้อเสนอของป้าจิตก็เพราะว่าเมย์คิดดีแล้ว
การไปเป็นเมียกันชนให้ลูกชายป้าจิตไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
เพราะวันหนึ่งวันใดที่ผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป
เมย์ก็แค่เซ็นใบหย่าแล้วกลับมาอยู่กับป้าเหมือนเดิม แค่นี้เอง… ไม่ใช่หรือคะ”
คนเป็นป้าพยักหน้าน้ำตาคลอ
ปลื้มใจอย่างที่สุดที่หลานสาวโตมามีหลักการ... เป็นผู้ใหญ่กว่าที่คิดไว้มากมายนัก
“ป้าขอบคุณเมย์มากนะลูกที่ช่วยให้บ้านและที่ดินของคุณยายยังอยู่กับเรา”
มันเป็นบ้านและที่ผืนสุดท้ายที่สองป้าหลานยังคงมี
ส่วนอีกแปลงเป็นพื้นที่นานอกเมืองคงต้องขายเอาเงินมาใช้จ่ายเพราะป้าไม่ได้ทำงานแล้ว
น้องชายหล่อน...
หรือลูกชายคนเดียวของป้าที่เกิดกับสามีคนแรกก็กำลังเรียนอยู่ที่ต่างประเทศต้องใช้เงินมาก
จะให้กลับมาอย่างคนมีอนาคตก็คงไม่ได้
ร่างสูงสง่าทรงตัวตรงอยู่บนหลังอาชาไนยตัวสีน้ำตาลเข้ม
ดวงตะวันแดงฉานสาดส่องไปทั่วไร่องุ่นกว้างใหญ่ไพศาล
คนงานทยอยขึ้นรถกลับบ้านเมื่อได้เวลาเลิกงาน
เจตน์มักจะชอบอยู่ตรงนี้เป็นประจำ
มองดูความสำเร็จในแต่ละวันของตัวเองที่ฝ่าฟันมาอย่างยากลำบากกว่าจะประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้
ใช่… เขาไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง และช่วงหนึ่งที่เศรษฐกิจย่ำแย่อย่างที่สุดเขากำลังศึกษาเรื่องการทำไวน์อยู่ที่ฝรั่งเศส
แต่ต้องกลับบ้านอย่างกะทันหันเพราะกิจการครอบครัวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นอย่างหนัก
เขากลับมาช่วยมารดาแก้ปัญหาเกือบเจ็ดปี
กว่าทุกอย่างจะคลี่คลายกลายมาเป็นมั่งมีอย่างมั่งคั่งอีกครั้ง
จากไร่องุ่นธรรมดาๆ
ที่ตัดผลและทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ เพื่อส่งขายภายในประเทศ
ตอนนี้ผลิตไวน์ขาวไวน์แดงส่งออกไปยังหลายประเทศจนขึ้นชื่อไม่แพ้ไวน์ต้นตำรับที่อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมาเลย
และแม้จะเรียนไม่จบหลักสูตรกลับมา...
แต่เจตน์ไม่ได้ละความพยายามที่จะเอาความรู้นั้นมาต่อยอดด้วยการศึกษาและทดลองเองอย่างต่อเนื่อง
แต่กระนั้นเขาจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย… หากไม่ได้ไวน์เมกเกอร์ฝีมือดีอย่างนิสรินทร์ที่เคยไปร่ำเรียนพร้อมกันยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
หล่อนมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ไวน์ของเขามีชื่อเสียงหลังเรียนจบแล้วตามกลับมาช่วยงานอยู่ที่นี่เป็นการถาวร
จากร่วมงานกัน...
สุดท้ายเราร่วมรักกันอยู่หลายปีเพราะเคมีที่ตรงกัน
แต่ทุกอย่างกลับพลิกผันเมื่อจู่ๆ หล่อนตัดสินใจหมั้นหมายอย่างกะทันหันกับข้าราชการหนุ่มน้ำดีอย่างปลัดพิบูลย์เมื่อต้นปี…
เพราะเขาเป็นต้นเหตุ!
เขาถึงไม่โกรธหล่อนเลย
แต่โกรธตัวเองมากกว่าที่ปล่อยหล่อนให้หลุดมือไปง่ายๆ แบบนั้น
ถึงยังไปมาหาสู่กับหล่อนด้วยดี หวังว่าสักวันหล่อนจะให้อภัยแล้วยอมกลับมารักกันดังเดิม
เขาไม่สนหรอกว่าหล่อนจะหมั้นหมายไปแล้วหรือไม่
ขอแค่ให้หล่อนเปลี่ยนใจกลับมารักกันก็พอ…
“นายยังไม่กลับอีกหรือครับ”
หัวหน้าคนงานลงจากรถจักรยานยนต์เดินเข้ามาทักถามด้วยท่าทีสุภาพนอบน้อม
เจตน์หันไปมอง คลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบกลับไปอย่างใจดี
“ว่าจะไปพอดี นายก็กลับเถอะจะค่ำแล้ว”
ชยาค้อมตัวต่ำลงเป็นการขอบคุณและล่ำลา
เจ้านายก็บังคับอาชาไนยตัวโปรดออกไปจากตรงนั้น
เจตน์เอามันไปเก็บเข้าคอกแล้วขับรถกลับบ้าน
เขาเก็บรถเข้าที่แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปฝั่งบ้านมารดา
ทว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนนอกจากป้าเนียม
“เขาไปไหนกันหมด”
“ไปบ้านคุณเจตน์ไงคะ”
“ไปทำไม”
คิ้วเข้มที่พาดเฉียงเหนือดวงตาคู่คมกริบขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
ปกติแม่กับยายจะไม่ค่อยไปบ้านนั้นหรอก จะไปบ้างก็ตอนส่งหนูผิงกลับไปนอนตอนเขากลับดึก
แล้วก็ไปกำกับป้าเนียมให้ทำความสะอาดครั้งใหญ่ในแต่ละอาทิตย์เท่านั้น
“ไปดูเองเถอะค่ะ”
ความคิดเห็น