คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เกมร้ายร่ายปรารถนา - 4
2
“หนูเมย์เดี๋ยวขอผักบุ้งให้ป้าเลยจ้ะ”
คุณจิตราเอ่ยขอ มือก็ผัดกระเทียมทุบพอแตกๆ
ให้เหลืองหอมไปด้วย
มัลลิกาสาวผักบุ้งขึ้นมาใส่ตะกร้า
เขย่าสองสามครั้งให้สะเด็ดน้ำแล้วรีบส่งให้…
“เหลืออีกกี่อย่างคะ” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างนุ่มนวลพลางรับตะกร้าคืน
“เดี๋ยวทำไข่ตุ๋นให้หนูผิงอีกอย่างก็เสร็จแล้วจ้ะ”
“งั้นเมย์ไปจัดโต๊ะเลยนะคะคุณป้า
นี่จะทุ่มหนึ่งแล้ว”
“จ้ะ”
มัลลิกาหอบจานชามช้อนออกมาจัดเรียงอย่างสวยงามเป็นระเบียบบนโต๊ะไม้สักแกะสลักลวดลายวิจิตรที่แทบไม่ได้ใช้งานเลย
เพราะเจ้าของมักจะพาตัวเองไปฝากท้องที่บ้านใหญ่แทบทุกมื้อ
“ครูเมย์…” เด็กหญิงตัวอ้วนกลมละมือจากของเล่นที่กำลังเล่นกับคุณยายทวดวิ่งมาเขย่าชายเสื้อคุณครูคนใหม่ให้หันมามองหน้ากัน
“ว่าไงคะ”
“คุณพ่อมาแล้วค่ะ”
เด็กหญิงชี้ไปที่ประตูบ้าน
จังหวะนั้นที่มัลลิกาเหลียวตามมือป้อมๆ ไปมอง เจตน์ก้าวเข้ามาถึงกลางบ้านแล้ว ทั้งสองจึงสบตากันเข้าอย่างจัง
ดวงหน้าหวานคมอย่างไทยที่ไม่เคยคุ้นสะกดให้ชายหนุ่มชะงักไปจังหวะหนึ่ง
นัยน์ตาคมกริบจ้องมองมาด้วยอาการตะลึงงัน แม้ว่าหญิงสาวนบไหว้อย่างนอบน้อมแล้วก็ยังยืนนิ่งไม่รับไหว้
คุณใจแก้วเห็นแล้วลอบยิ้มยกใหญ่
‘สวยถูกใจล่ะสิ’
“กลับมาแล้วหรือตาเจตน์”
ท่านทำเป็นแกล้งเรียก ก็เห็นยืนตะลึงอยู่นานแล้ว
นานจนสาวเจ้าแก้มแดงเรื่อขึ้นมาด้วยความขัดเขินที่ถูกจ้องอย่างต้องตาต้องใจ
“ครับ”
เจตน์หันไปมองหน้าคุณยายแล้วเดินเข้าไปหา
ลูกสาวก็วิ่งเข้ามากอดแล้วผลัดกันหอมแก้มไปมา
“คุณพ่อขา คุณพ่อ… คุณย่าหาคุณครูสอนพิเศษมาให้หนูผิงด้วยค่ะ”
นิ้วอูมๆ ชี้ไปทางครูเมย์อย่างภาคภูมิใจ “…นั่นค่ะ ครูเมย์
สวยไหมคะคุณพ่อ”
“ครับ”
หนูผิงยิ้มแฉ่งแล้วถามอีกให้มั่นใจว่า...
“สวย แล้วคุณพ่อชอบคุณครูของหนูผิงไหมคะ คุณย่าบอกว่าถ้าคุณพ่อไม่ชอบ ครูเมย์คนสวยก็ต้องไปสอนพิเศษให้คนอื่น
คุณพ่อชอบไหมคะ หนูผิงชอบคุณครูมากๆ เลยค่า”
เพราะทำความคุ้นเคยกันมาตั้งแต่มาถึง
หนูผิงเลยพูดได้จากใจจริงว่าชอบครูเมย์มากๆ ครูเมย์ตามใจแล้วยังเป็นเพื่อนเล่นที่ดีที่สุด
ดีกว่าทุกในบ้านเลยด้วย
“ชอบครับ”
ให้ตอบอย่างไรได้อีกเล่า…
ก็ลูกสาวบอกชอบครูเมย์มากขนาดนั้น เขาก็ต้องรีบรับปากไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจ
หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีว่าหล่อนจะดีจริงหรือไม่
“ไปล้างมือไป...
จะได้มากินข้าวกัน แม่เรามาแล้ว” คุณใจแก้วขัดขึ้น พลางพยักพเยิดไปทางลูกสาวคนเดียวที่กำลังเดินมาทางนี้
เจตน์หันไปทางประตูครัวเห็นคนเป็นแม่เดินยิ้มแฉ่งออกมาพร้อมถ้วยอาหารขนาดกลางก็อุ้มลูกสาวไปล้างมือด้วยกัน
บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารครึกครื้นด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาว
คงดีใจที่ได้ทั้งครูและเพื่อนเล่นคนใหม่
ก็เล่นกับป้าเนียมซึ่งเป็นแม่บ้านวัยห้าสิบเก้ามันเบื่อแล้วเพราะไม่สนุกเอาเสียเลย
เด็กแถวนี้ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาเล่นด้วยเพราะเห็นว่าเป็นลูกเจ้านาย
“แม่รีบกลับไหมครับ
กินข้าวเสร็จแล้วขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ”
ท่านตอบสบายๆ
รู้อยู่แล้วว่าลูกชายจะคุยด้วยเรื่องอะไร!
“แม่หาครูมาให้หนูผิงไม่ปรึกษาผมเลย”
คุณจิตราทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายสบายๆ
แม้นใบหน้าลูกชายจะเข้มขรึมไม่พอใจที่ท่านทำลงไปโดยพลการ
“มันสุดวิสัย
แต่หนูเมย์เป็นคนดี ไว้ใจได้… เธอเป็นหลานสาวเพื่อนแม่เอง น้าวิศณีไง”
“ผมจำไม่ได้”
ไม่แปลกหรอกที่เจตน์บอกแบบนั้นเพราะวิศณีไม่เคยมาเที่ยวไร่องุ่นของเราเลย
มีแต่นัดเจอกันเป็นครั้งคราวเพราะฝ่ายนั้นทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่
เป็นอดีตเลขานุการซีอีโอไฟแรงเลยไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน ก่อนปลดเกษียณตัวเองออกมาอยู่บ้านสวนกับหลานสาวเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง
และสามีใหม่ตัวดีที่ก่อเรื่องทิ้งไว้ให้ก่อนหายลับไปกับหญิงอื่นเสียแล้ว
วิศณีถูกทำร้ายและถูกสามีลอบปล้นจนหมดตัว
หากไม่ตัดสินใจยกหลานสาวให้นางก็คงหมดตัวไปแล้ว
แต่นางจะยังไม่บอกเรื่องนี้ให้เจตน์ทราบหรอก
ให้เข้าใจว่ามัลลิกาเป็นครูของหนูผิงไปก่อน อย่างน้อยๆ
ก็ให้เวลาทุกคนได้ทำใจก่อนที่อะไรๆ จะดำเนินไปตามเกมที่นางวางไว้
“แล้วไงครับ
จะให้อยู่ที่นี่กับผมหรือไงถึงได้ยกโขยงกันมากินข้าวบ้านนี้”
“แหงสิ… เป็นครูหนูผิง ก็ต้องอยู่กับหนูผิงสิจ๊ะ”
“แต่บ้างผมมีสองห้อง
แม่จะให้เขาจะนอนตรงไหน โซฟาห้องรับแขกหรือไง” เจตน์ตอบอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อไม่มีทางออกที่ดีต่อใจ
“ห้องหนูผิง
เจ้าตัวเขาอนุญาตเองเลยนะ แม่ไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการยัดเยียดให้เลย”
“หรือครับ” เจตน์เยาะด้วยน้ำเสียงกดต่ำ
ไม่เชื่อเลยสักนิด
“ไม่ต้องมาประชดแม่”
นางค้อนขวับ “เอาล่ะ… ดึกแล้ว แม่จะพาคุณยายกลับไปนอน เราก็ทำตัวดีๆ
กับหนูเมย์เขาด้วยล่ะ หน้าดุๆ ไม่ต้องไปทำใส่เขานะ เขาไม่ใช่หนูผิง”
ความคิดเห็น