คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #85 : SF :: Red lip
RED LIP
CHOI MINHO x LEE TAEMIN x KIM JONGHYUN x LEE JINKI
เรื่องนี้ ไม่เเน่ใจว่าจะมีกี่ตอน อิอิอิ อาจจะยาวนิดโหน่ย~
“พิซซ่ามาส่งแล้วครับ!”
น้ำเสียงโมโนโทนดังขึ้นภายในห้องชุดสุดหรู เสียงของชายหนุ่มถูกกรอวนไปมาไม่กี่ประโยค แต่กลับทำให้ร่างเพรียวบางนั่งชันขาอยู่บนที่นอนนุ่มร้องซี้ดปากด้วยความเสียวซ่าน ตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาจนถึงศีรษะ มืออีกข้างเกร็งแน่นกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่
“จะให้ผมวางไว้ไหนครับ”
“………………………….”
“ขอบคุณครับ”
ส่วนกลางร่างกายร้อนผ่าวรอการปลดปล่อย ร่างเล็กขยี้หน้าอกตัวเองด้วยอารมณ์กระสันอย่างรุนแรง และสามารถสำเร็จความใคร่ของตนเองเพียงแค่ได้ยินเสียงของเขา
“อ่ะ!......มินโฮ…..มินโฮ อื้อ!!!!”
ร่างบางกระตุกสั่น หอบเอาลมเข้าปอดและเหนื่อยจนต้องหงายหลังลงบนพื้นเตียง เรียวขาขาวๆเปรอะไปด้วยความใคร่ที่ถูกปล่อยออกมา
เรื่องมันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่……
“ฮัลโหล สั่งพิซซ่าครับ”
ลีแทมินเป็นหนุ่มโสด อายุ 28 ปี ใช้ชีวิตอยู่ในย่านใจกลางเมืองมา 3 ปีแล้ว หลังจากที่ย้ายกลับมาทำงานในประเทศถาวร เด็กหนุ่มพกประสบการณ์และความสามารถมาเต็มเปี่ยม เพียบพร้อมทั้งฐานะและหน้าตา แทมินเคยมีแฟนหลายคนแล้วด้วย แต่ละคนก็มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ตั้งแต่คุณหมอ นักธุรกิจ นักดนตรี นักเขียน ดาราและนักร้อง คบแล้วก็เลิก เพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ ยิ่งคนบ้างานอย่างแทมินรักอิสระยิ่งกว่าอะไร เกลียดการผูกมัดด้วยคำว่าแต่งงานและวัตถุเชื่อมใจ
และเหตุผลหลายประการทำให้แทมินทิ้งงานในต่างแดนที่สร้างมูลค่าต่อปีหลายล้านบาท เพื่อกลับบ้านเกิด และใช้เงินทุนที่มีอยู่หุ้นกับเพื่อนเปิดร้านพรีเวดดิ้ง รับจัดงานทั้งในและนอกสถานที่ และแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองที่กำลังเป็นที่รู้จัก
วันที่ฝนตกทั่วกรุงโซล หมอกสีเทาหนาทึบบดบังทัศนวิสัยการมองเห็น แม้กระทั่งตอนที่มองออกไปนอกกระจก ละอองฝนทำให้เกิดฝ้าและก่อให้เกิดความหงุดหงิดเล็กๆขึ้น ช่วงบ่ายแทมินมีติดต่องานกับลูกค้าเรื่องเสื้อผ้า แฟ้มงานที่เอาออกมาเตรียมไว้ ถูกวางกองอยู่บนโต๊ะเล็กๆหน้าทีวี พอแง้มผ้าม่านออกมาดูฟ้าฝน ริมฝีปากแดงๆก็ยู่ไปกองรวมกัน
สิบโมงทั้งที่ยังมึนๆกับแอลกอฮอล์เมื่อคืน แทมินกำลังเครียดเรื่องหานายแบบเพื่อมาลองสวมชุดที่เขาดีไซน์ใหม่ เพื่อนสนิทของเขาลิสต์รายการมาว่า นายแบบคนดังกล่าวต้องใหม่เอี่ยม ไม่เคยเดินแบบที่ไหนทั้งสิ้น ที่สำคัญต้องมีดวงตาทำลายล้าง
พอคิดมากเข้า ท้องก็เริ่มร้องกระตุ้นให้ร่างกายหาสารอาหารที่เป็นประโยชน์ส่งตรงลงสู่กระเพาะเสียที
“ขอคนส่งหน้าตาดีๆ มาถึงแล้วก็โทรขึ้นมานะครับ จะลงไปรับ”
เจ้าตัวรีเควสเสร็จสรรพ ก็เตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมเปียกๆถูกเป่าให้แห้งหมาดๆ จัดทรงเล็กน้อยใช้สเปรย์เซตก็เข้าทรงเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีขาวสว่างตาของแบรนด์ที่ตัวเองออกแบบถูกเลือกมาใส่คู่กับสกินนี่สีเข้ม รองเท้าบูธ และกระเป๋ารวมทั้งเครื่องประดับต่างๆเข้ากับชุดได้เป็นอย่างดี
25 นาทีผ่านไป
มือถือของแทมินส่งเสียงร้อง ร่างเล็กที่กำลังวุ่นกับการตรวจงานเป็นครั้งสุดท้าย เข็มของนาฬิกาชี้ไปที่เวลา 10.25 น. ถือว่าช้าไปสำหรับช่วงเวลาเร่งรีบแบบนี้ แทมินหัวเสียอยากจะบ่นให้คนส่งพิซซ่าเหลือเกิน แม้ว่าน้ำเสียงของเด็กหนุ่มพยายามขอโทษขอโพย เพราะฝนในเช้านี้ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก แทมินลงมาจากชั้น 23 ด้วยลิฟท์ของคอนโด ความหงุดหงิดแสดงออกมาทางสีหน้า ร่างเล็กเดินลงมาตามที่เด็กหนุ่มคนส่งพิซซ่าอธิบาย แน่นอนว่าเขามาส่งสินค้าภายในคอนโดไม่ได้
“เอ่อ…..คุณลีแทมิน”
แทมินยืนกอดอกปากเชิดอย่างทุกที ที่อะไรๆไม่ค่อยถูกใจ
“ช้ามากเลยนะวันนี้!”
แทมินตะโกนคุยกับเขา เพราะช่วงตึกและที่เขายืนอยู่ห่างกันไม่มาก เพียงแต่ฝนที่กำลังตกอย่างบ้าคลั่งก็ทำให้ชายหนุ่มลำบากในการจัดของและพูดคุยกับคุณลูกค้าใจร้อน
“รถติดครับ ฝนตก”
แทมินมองร่างสูงตรงหน้าอีกครั้ง เขาสวมชุดกันฝนสีฟ้า เนื้อตัวเปียกปอน เขาก้มหัวขอโทษขอโพยแล้วก็ถอดชุดตัวโคร่งออกมาพาดไว้กับเบาะรถ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกสะดุดตาร่างสูงที่อีกมือกำลังประคองถาดส่งพิซซ่าร้อนฉ่าเดินตรงเข้ามาหาแทมิน เขาดูเหมือนนายแบบโฆษณาบุหรี่ ผิวเข้มๆร่างกายสูงใหญ่ ถ้ามีควันเทาๆฟุ้งอยู่รอบๆตัวเขา ต้องใช่แน่ๆ
“จะให้ฉันเดินออกไปรับทั้งที่ฝนตกหรอ?!”
“………………”
เขารับคำแทมินอย่างไม่มีท่าทีโมโหหรือหงุดหงิดแต่อย่างใด พิซซ่าของแทมินปลอดภัยดี แต่ตัวเขาเปียกไปแล้วทั้งตัว
“ชื่ออะไร?”
“ชเวมินโฮครับ”
“อืม….”
คุณลูกค้าใจร้อนอย่างแทมิน ควักแบงค์ 50,000 วอนในกระเป๋า ยื่นส่งให้เขาและตัวเองก็รับพิซซ่ามา แม้ว่าชายหนุ่มร่างสูงจะเรียกให้ร่างบางหันกลับมารับเงินทอน เขาเห็นร่างเล็กเดินหายไปคุยอะไรบางอย่างอยู่หน้าฟร้อนท์ และยิ่งงงเข้าไปอีกเมื่อกระดาษที่ถูกยัดใส่ในมือคือเบอร์โทรศัพท์ของร่างบาง
แน่นอนว่าชเวมินโฮยืนงงเป็นไก่ตาแตก ข้อแรก เขาได้ทิป และข้อสอง เขาได้เบอร์โทรศัพท์จากใครไม่รู้ที่ขี้โมโหเอามากๆ ร่างผอมบางบวกกับหน้ามุ่ยๆ เขาจำได้แม่นยำโดยเฉพาะริมฝีปากแดงฉ่ำ
“ผู้หญิงอะไรวะ?”
แทมินวางพิซซ่าลงบนโต๊ะหน้าทีวี หัวหมุนคิดอะไรไม่ออก ในสมองมีแต่ภาพใบหน้าของชายหนุ่มในครั้งแรกที่เจอ ‘ชเวมินโฮ’ ชื่อนี้ติดหูสุดๆ หน่วยก้านดี สูงยาวเข่าดี แบบที่ต้องการเป๊ะๆ แถมยังทำให้หัวใจคนอายุ 28 เต้นไม่เป็นจังหวะ
โอย……ให้ตายเถอะ สเปคของแทมินต้องใช่เขาแน่ๆ!
เพราะชเวมินโฮเด็กส่งพิซซ่าคนเดียวเลย ที่ทำให้เวลาของแทมินต้องคลาดเคลื่อนเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะใบหน้าแล้วก็หุ่นเร้าอารมณ์ของเขาทำให้แทมินวุ่นวายไปตลอดบ่าย ยังดีที่เขายอมให้แทมินเสนองานจนเสร็จ แม้จะมีติเตียนด้วยสายตาไปบ้าง แทมินก็ทำเพียงแค่รับคำและขอโทษขอโพย และสาบานเลยคราวหน้าจะเรทน้อยกว่านี้แน่ๆ
หลังจากจบงานนำเสนอ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ลูกค้าตกลง และเขาต้องการให้บริษัทของแทมินจัดงานให้ตามที่ได้รับมา แม้จะแปลกใจนิดหน่อย เพราะว่าเขากำลังจะแต่งงานและว่าจ้างบริษัทขอแทมินเป็นผู้จัดการให้ แต่วันนี้กลับมีแค่เขาและคนติดตามสองคน มาเลือกชุด ของชำร่วย และดูงานอื่นๆเพิ่มด้วยตัวเอง ไม่เห็นแม้แต่เงาเจ้าสาวของเขาเลยสักนิด
ใช่…..มันแปลก และแปลกมาก เพราะพ่อหนุ่มในชุดเสื้อกันฝนสีฟ้าที่ทำชีวิตของแทมินวุ่นวาย ยังไม่ถูกพรีเซนต์ให้คิมคิบอมฟัง แทมินตั้งใจไว้แล้ว ว่าเขานี่แหละ คือนายแบบที่มีดวงตาทำลายล้าง เป๊ะๆ! แบบที่คิบอมต้องการ
“ฮัลโหลคิบอม ฉันหานายแบบให้นายได้แล้วล่ะ”
“หรอ เขาเป็นใครล่ะ เป็นคนในวงการ ผ่านงานเดินแบบมาก่อนมั้ย อย่าลืมนะ ฉันชอบแบบไม่ผ่านอะไรเลย คนเดินดินแต่หน้าเทพบุตร ที่สำคัญ…….”
“ต้องมีดวงตาทำลายล้าง!”
แทมินโพล่งคำตอบขึ้นมา นอกจากดวงตาจะทำลายล้างมนุษย์ฮอร์โมนรุนแรงอย่างแทมิน สายตาของเขาราวกับจะแผดเผาทุกอย่างให้เป็นจุล เขาจะต้องเร่าร้อนมากแน่ๆตอนที่……..
“ฮัลโหลๆ เงียบทำไมล่ะ นี่อย่าบอกนะ ว่าเทรนมาแล้ว”
“โน โน โน จะบ้าหรือไง! ฉันพึ่งเจอเขานะ แต่เสียดายจังฉันโมโหหิวไปหน่อย ไม่มีรูปเขาเลย”
แทมินลิ้นพันกันจนแทบคุยไม่รู้เรื่อง ไหนจะเรื่องแบบเสื้อผ้าของลูกค้าที่แทมินต้องนำเสนอวันนี้อีก แทมินลืมแฟ้มไว้บนโต๊ะเล็กๆ พอนึกได้ก็ต้องวนรถกลับมาเอาที่คอนโด เลยเวลานัดไปเกือบครึ่งชั่วโมง
“คุณคิม….เอ่อ….นายคิมจงฮยอนอะไรของเธอเนี่ย เขาค่อนข้างไม่ประทับใจ รู้ตัวหรือปล่าว”
“ฉันรู้ โอ้ย….ฉันเองก็จะบ้าเหมือนกัน เอกสารสำคัญขนาดนั้นลืมไปได้ยังไงนะ”
‘เอี้ยด!!!!!!’
‘โครม!!!!!’
“คะ….คิบอม!!!!!”
“ลีแทมิน?! เกิดอะไรขึ้น?!”
“……………..”
เพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์และไม่มีสมาธิ ประจวบเหมาะกับทางโค้งพอดี รถของแทมินจึงเฉี่ยวไปโดนมอเตอร์ไซค์ที่ขับสวนมา รถของเขาล้มตรงหน้าแทมิน ข้าวของกระจัดกระจายแถมเจ้าตัวก็ทำอะไรไม่ถูก นอกจากลากรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่ดับไปแล้วมาข้างฟุตบาท
“ขับรถบ้าอะไรของคุณเนี่ย! ลงมาเลย!”
เขาสวมหมวกกันน็อคแล้วก็เคาะกระจกเรียกให้แทมินลงมารับผิดชอบ ชุดหนาๆของเขาทำให้แทมินเดาไม่ออกว่าเขาบาดเจ็บตรงไหน
“ขอโทษ…..คือ…..มะ….มินโฮ!”
“คุณ?.....”
ถนนในกรุงโซลกลมสุดๆ เขาเฉี่ยวรถมอเตอร์ไซค์ของพนักงานส่งพิซซ่าสุดหล่อ ที่พึ่งจากกันไม่กี่ชั่วโมงก่อน ข้าวของ ของเขาเสียหาย ตอนแรกแทมินกลัวแทบตายว่าจะไปชนนักเลงที่ไหนเข้า ท่าทางของเขาดูเอาเรื่องเริ่มอ่อนลง
“นายต้องไปโรงพยาบาลนะ ฉันจะพาไป โอเคมั้ย?”
“ของผมพังหมด เหลือพิซซ่าอีก 3 เจ้า ผมต้องไปส่งให้ทัน”
“แต่ฉันยินดีรับผิดชอบ ไปหาหมอก่อนเถอะ”
แทมินพยายามคุยกับเขา เรื่องรอยบนตัวรถแทมินไม่สนแล้ว แต่สนเขามากกว่า ชเวมินโฮเดินตรงไปประคองมอเตอร์ไซค์ของเขา พิซซ่ายังอยู่ในถาดอย่างดี แม้ว่ากล่องจะบุบบ้าง
“เอางี้นะ หลังจากเสร็จงานแล้ว ช่วยโทรหาฉันหน่อยแล้วกัน ตามเบอร์ที่ให้ไว้เลย”
“เสียใจด้วยครับคุณผู้หญิง เบอร์คุณมันละลายไปกับน้ำฝนแล้ว”
เขาพูดจาห้วนๆ แน่นอนว่าเขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว เจอผู้หญิงปากแดงทีไร งานของเขามักไม่ราบรื่นทุกที
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิง!”
“ตลกละ จะบอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายหรือไง”
“ใช่!”
“งั้นคุณรีบไปไกลๆเลย ผมโคตรเกลียดเลย พวกตุ๊ดเกย์เนี่ย รีบไปเลย!”
เขาไม่ใส่ใจแทมิน ไม่สนท่าทางที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นห่วงเป็นใยด้วย เขาพูดอย่างชัดเจนว่าเขาเกลียดสภาพเพศที่แทมินเป็นอยู่ แม้ว่าแทมินจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าคงเป็นเพราะเขาโมโห ที่งานของเขาไม่เสร็จตามเป้าหมาย แทมินไม่ต้องเรียกประกัน ไม่ต้องทำอะไรเลยเมื่อเขาจากไป ค่าเสียหายสักบาทก็ไม่ต้องจ่าย
ร่างเล็กหอบเอาลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ หน้าฝนที่กำลังจะผ่านไป ตกส่งท้ายอย่างไม่ลืมหูลืมตา และนั่นท้องฟ้าเหนือยอดตึกฝั่งนู้นก็เริ่มตั้งเค้ามาอีกรอบ อาหารเย็นวันนี้แทมินเลือกที่จะไม่กิน พิซซ่าที่พึ่งกินไปได้สามชิ้นก่อนจะออกไปทำงาน ถูกยัดเอาไว้ในตู้เย็น แทมินตั้งใจว่าขากลับจะจัดการมันอีกครั้ง
คนส่งรูปหล่อแถมปากเสีย ขัดใจแทมินสุดๆ
“พี่แทมินนนนน!!!!!!~”
เครื่องบินและรถยนต์ขนาดเท่าแขนของแทมิน บินผ่านไปตรงหน้า พร้อมเสียงฟิ้วๆ ในขณะที่แทมินดันประตูเข้าไป แอร์เย็นฉ่ำ กลิ่นเค้กและกาแฟหอมฉุย เสียงเอ่ยทักทายและรอยยิ้มของพนักงานในร้านต่างกระตือรือร้นที่จะต้อนรับแขกขาประจำ
“ไฮ~ ฝาแฝด”
แทมินก้มลงจุ๊บปากแดงๆของเด็กชายฝาแฝดที่น่าตาเหมือนกันเป๊ะ คนนึงเกาะมือซ้าย คนนึงเกาะมือขวา รีบพาแทมินไปนั่งด้านในสุดของร้านติดกระจก ซึ่งเป็นที่ประจำ ที่แทมินมักจะมานั่งบ่อยๆ แถมยังถูกเอาใจพิเศษจากลูกชายฝาแฝดของเจ้าของร้านด้วย
“ป๊ะป๋าของจินกับยูลไปไหนหรอ?”
“พี่แทมินคิดถึงป๊ะป๋าหรอ?”
ร่างเล็กหน้าแดง แล้วก็ใช้นิ้วชี้จิ้มปากตัวเองส่งเสียงชู่ใส่เด็กแฝดด้วยความร้อนรน ตายแน่ๆ จินเล่นพูดออกมาซะเสียงดัง ถึงจะปลื้มป๊ะป๋าของฝาแฝดมากก็เถอะ แทมินก็อายมากเหมือนกัน
“ปล่าว พี่แทมินคิดถึงจินกับยูลต่างหาก”
“จริงหรอฮะ?~”
ฝาแฝดทำตาโต แม้ว่าตาเล็กๆจะดูหยีมากก็เถอะ ช่างน่ารักมากจริงๆ
“อื้อ….จริงสิ แล้วตอบได้หรือยัง ป๊ะป๋าไปไหน?”
“ป๊ะป๋าไปธุระฮะ ป๊ะป๋าบอกว่าให้เป็นเด็กดี รอป๊ะป๋า”
แทมินพยักหน้า ฝาแฝดจินกับยูลไม่ดื้อไม่ซนมากเท่าไหร่ นอกจากจะเล่นเสียงดังไปบ้าง แต่ก็สร้างความประทับให้กับลูกค้าที่เข้ามาดื่มกาแฟที่นี่ แทมินสนิทคุ้นเคยกับเด็กๆและพนักงานในร้าน และสนิทกับเจ้าของร้านในระดับหนึ่งเพราะเคยขอตัวฝาแฝดไปเป็นนายแบบให้กับเสื้อผ้าเด็กชุดใหม่เมื่อปีที่แล้ว สนิทกับลูกๆก็เลยสนิทกับพ่อเขาไปด้วย
ร้านกาแฟเล็กๆไม่ไกลจากร้านของแทมินมากเท่าไหร่ เดินเท้าประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้ว ร้านนี้เป็นของพ่อฝาแฝด อายุ 33 แต่เป็นป๊ะป๋าที่ดูดีและเท่เอามากๆ ป๊ะป๋าของฝาแฝดเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ปีหน้าเด็กๆก็จะเข้าโรงเรียน ชายหนุ่มก็จะผันตัวมาทำร้านกาแฟได้อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เด็กๆเลยต้องไป-กลับเนอสเชอรี่ และร้านอยู่บ่อยๆ
“พี่แทมินวาดรูปให้หน่อยฮะ ป๊ะป๋าบอกว่าพี่แทมินวาดรูปสวย”
เด็กชายยูลแฝดน้องยื่นสมุดพร้อมกับเปิดหน้ากระดาษสีขาวพร้อมกับดินสอ มาวางตรงหน้า แล้วก็วิ่งหายไปสักพัก และในมือก็กลับมาพร้อมสีไม้กล่องใหญ่ที่แทมินเป็นคนซื้อให้กับมือ
“วันนี้ยูลจะเอารูปอะไรครับ?”
“รูป….”
เด็กน้อยยูลใช้นิ้วป้อมๆจิ้มหัวอย่างใช้ความคิด เด็กชายจินที่นั่งตรงข้ามกันก็พลอยลุ้นไปด้วย ว่าพี่แทมินจะวาดอะไรให้ คราวที่แล้วพี่แทมินวาดรูปเครื่องบินลอยอยู่บนท้องฟ้า ให้กับเขา เด็กชายอวดทั้งป๊ะป๋าแล้วก็พี่ๆในร้าน รูปเครื่องบินสวยมากๆเลย พี่แทมินเจ็งสุดๆ
“เอ๋?.......พี่แทมิน……”
เด็กน้อยยูล สกุลลี อ้าปากค้างตอนที่พี่แทมินคนสวยจับดินสอแล้วก็วาดๆ อย่างเดียว โดยที่เขายังไม่ได้บอกเลยว่าจะเอารูปอะไร แต่ช่างเถอะ ถ้าเป็นพี่แทมินวาดรูปอะไรก็สวยไปหมด
“เสร็จแล้วครับ”
แทมินยื่นสมุดวาดรูปมาวางตรงหน้าเด็กน้อยยูล ทั้งเด็กชายจินก็สนใจด้วย เด็กแฝดทั้งสองทำตาโตแล้วก็ยู่ปากกลมๆ ส่งเสียงโอ้โห!ออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ใครใส่เสื้อกันฝนหรอฮะ?”
ภาพวาดด้วยดินสอคือชายหนุ่มใส่เสื้อกันฝนสีฟ้าตัวโคร่ง อีกมือถือถาดพิซซ่าและรถมอเตอร์ไซค์ก็จอดอยู่ข้างๆกัน
“ยูลไง แต่ต้องสัญญากับพี่นะ ว่าโตมาจะต้องหล่อแล้วก็นิสัยดี ห้ามเป็นแบบหมอนี่เด็ดขาด”
เด็กชายสี่ขวบทั้งสองคนรับฟังอย่างตั้งใจ ป๊ะป๋าของเขาก็สอนว่าต้องเป็นเด็กดี แล้วพี่แทมินก็สอนอีก จินกับยูลก็เลยเกี่ยวก้อยสัญญากับพี่แทมินคนสวย
“ฮะ….”
“โอ….ตายละ วันนี้พี่อยู่นานไม่ได้แล้ว ไหนมาจุ๊บก่อนเร็ว”
เด็กฝาแฝดว่าง่ายแล้วก็ยื่นทั้งปากแล้วก็แก้มให้พี่แทมินจุ๊บคนละที
“พี่แทมินไปไหนฮะ?”
“ไปทำงานครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่นะ”
“ไปด้วยไม่ได้หรอฮะ?”
เด็กชายจินรู้สึกโดดเดียวทุกที เวลาที่ผู้ใหญ่ใช้คำว่าเร่งรีบกับพวกเขา จินอยากไปกับพี่แทมิน ที่ทำงานของพี่แทมินคนเยอะแถมยังมีของเล่นเยอะด้วย พี่ๆที่ร้านก็ใจดี มีกระดาษกับสีให้วาดรูปได้เยอะๆด้วย และถ้าพี่แทมินชวนไปเที่ยวล่ะก็ สองแฝดจะรีบตกลงทันทีอย่างไม่ต้องคิดนานให้เสียเวลาเลย
“โธ่ จินจ๋า ยูลจ๋า เอาไว้ถ้าพี่ไม่ติดงานนะ พี่จะพาไปเที่ยว ตกลงไหม?”
“ก็ได้ฮะ”
สองหนุ่มทำให้แทมินหัวใจสลาย โดยเฉพาะสีหน้าเวลาจากกัน แม้ว่าวันพรุ่งนี้จะกลับมาเจอกันใหม่ก็เถอะ ถึงจะอยากจะรอเจอป๊ะป๋าของสองหนุ่มมากขนาดไหน แต่งานที่รออยู่ก็ทำให้แทมินมัวรอช้าไม่ได้ ได้แต่ขอโทษสองหนุ่มด้วยความรู้สึกผิด
“แหม….ถ้าอาลัยเด็กๆขนาดนั้น ก็แต่งงานกับพ่อเขาซะสิ รับรองเลย ไม่ต้องคลอดเองก็มีให้เลี้ยงตั้งสองคน แถมทันใช้ด้วยนะ”
คิบอมแหย่ตอนที่เห็นแทมินหอบงานมาโยนตุ๊บลงบนโต๊ะ ร่างเล็กเล่าให้ฟังหมดแล้วว่าวันนี้ไปเจออะไรมาบ้าง แต่ดูจากสีหน้าของแทมินเลเว ก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว และคนที่ไม่ยอมแพ้อย่างแทมินต้องหาวิธีเอาคืนจนได้นั่นแหละ
“ก็อยากแต่งอยู่นะ”
“อืม ออกตัวแรงซะขนาดนี้ ไปรับไปส่งลูกเขาทุกวัน คุณจินกิ เขาต้องรู้อยู่แล้วล่ะว่านายน่ะ คิดยังไง”
แทมินดูดชาเขียวในแก้วจนดังโครก ในหัวก็ถูกฟรีทไปด้วยความเย็นของน้ำแข็งจนต้องล้มตัวนอนบนโซฟา
“อืม ฉันรู้ ก็ไปกินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกันก็ออกบ่อย”
“แล้วจะกังวลอะไรหรอ โปรไฟล์นายดีจะตายเพื่อนรัก เก่งสวย และรวยสุดๆไปเลย”
“กังวลเรื่องจินกับยูลน่ะสิ ถ้าหากว่าฉันกับป๊ะป๋าของเขาแต่งงานกัน แล้วพอโตขึ้นเด็กถามล่ะ ว่าทำไมป๊ะป๋าเป็นผู้ชาย กับพี่แทมินที่เป็นผู้ชายเหมือนกันถึงแต่งงานกันได้ ฉันจะตอบว่ายังไงล่ะ แล้วฝาแฝดจะไม่อายเพื่อนหรอ มันแปลกนะคีย์ ประเทศเกาหลีใต้จะมีสักกี่คู่ ที่ผู้ชายกับผู้ชายแต่งงานกัน แล้วพาลูกไปส่งโรงเรียนได้แบบไม่อายเพื่อนน่ะ”
สังคนแบบนี้ไม่เปิดกว้างเท่าที่ควร แม้ว่าจะยินยอมให้ชายๆร่วมรักและใช้ชีวิตคู่อยู่ในสังคมได้ก็เถอะ แต่เรื่องแบบนี้มันก็ช่างละเอียดอ่อนต่อจิตใจเหลือเกิน
“โอย….แม่พระจริงๆเชียวเพื่อนฉัน แล้วตกลงเรื่องของชเวมินโฮล่ะว่าไง?”
“ใช่! หมอนั่นน่ะ ที่สุดของความปากเสียเลย นายรู้มั้ยคิบอม ตอนที่ฉันถามเขาว่าเป็นยังไงบ้าง เขากลับว่าฉันแถมยังด่าฉันว่าเป็นตุ๊ด เป็นเกย์อีก ปากเสียสุดๆเลย”
“โอ….ช่างแตกต่างจากตอนที่นายพรีเซนต์ถึงเขาเลย”
“เขาน่ะมันซาตานของแท้เลย”
แทมินว่าด้วยความโมโห พอนึกหน้าเขาแล้วแม้จะหล่อด้วยก็เถอะ
“ฉันต้องการเขา ไปหาตัวเขามาเดี๋ยวนี้เลย”
คิบอมว่า แล้วสายตาก็ช่างแน่วแน่และเด็ดขาดเหลือเกิน ถ้าคิบอมบอกว่าใช่ ยังไงก็ใช่
“ดะ….เดี๋ยวคิบอม จะทำอะไรน่ะ?”
คิบอมคนจริงแสร้งยิ้มร้าย ร่างบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็ใช้นิ้วชี้แตะปากส่งเสียงชู่ออกมาเบาๆ นิ้วเรียวกดหมายเลขสี่หลักที่จำได้ขึ้นใจ
“สั่งพิซซ่าครับ ขอรีเควสคนส่งที่ชื่อชเวมินโฮ อ้อ….สวมเสื้อกันฝนสีฟ้ามาด้วยนะครับ เขตคังนัม ตึกไฮโซบล็อกที่สาม มาถึงแล้วให้โทรเข้ามานะครับ เดี๋ยวลีแทมินจะออกไปรับ”
“…………………”
“ง่ายจัง ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย”
คิบอมส่งยิ้มให้แทมิน ร่างเล็กกำลังสติแตก ดวงตาโตเบิกกว้าง ปากแดงๆก็หุบไม่ลง พระเจ้า….นอกจากคิมคิบอมจะร้ายสุดๆ ยังหาเรื่องให้เขาอีกด้วย
…………………………………………จบไปก่อนครึ่งนึง เดี๋ยวมาต่อ…………………………………………………..
ความคิดเห็น