ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [รวมSF] Just 2min the series

    ลำดับตอนที่ #84 : SF ::Tell me your wish

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 401
      0
      8 พ.ย. 59






     

    Tell me your wish

    #ฟิคจทม

    CHOI MINHO x LUHAN KIM x LEE TAEMIN





    ไหนลองบอกมาซิ.....ว่าต้องการอะไร?”

    จะให้ทุกอย่างที่ขอจริงๆน่ะหรอ?”

    บอกมาสิ

     

    เลิกไร้สาระแล้วเข้าบ้านไปอ่านหนังสือซะ!”

    แต่ผมพึ่งออกมาเล่นเองนะครับ

    ลูกฟุตบอลช่วยให้อนาคตแกดีขึ้นหรือยังไง!? เข้าบ้าน!”

    ไม่ใช่แค่ลูกฟุตบอลความฝันอังสูงสุดของเด็กวัย 7 ขวบ แต่มันคือความฝันของเขา เขาเฝ้ามองเด็กๆคนอื่นที่สนามโดยที่ตัวเองต้องก้มหน้าก้มตาจ้องมองหนังสือในมือเพียงอย่างเดียว ชีวิตของเด็กชายคนนี้ถูกกำหนดมาแล้ว ว่าต้องเดินอย่างไร เดินไปทางไหน พ่อและแม่ของเขาปูทางเอาไว้หมดแล้ว

    หนังสืออะไรเนี่ย!! ไร้สาระ ฉันให้แกทำโจทย์เลข ทำไมถึงยังไม่เสร็จ!”

    ผมแค่ขออ่าน

    ไม่ได้! ตำราพวกนี้สิ ที่แกควรอ่าน!”

    หนังสือวิชาการเกินกว่าความเข้าใจของเด็กวัย 7 ขวบ เขาต้องนั่งอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า การ์ตูนที่เพื่อนๆในโรงเรียนอ่านก็ไม่เคยแตะต้อง หน้าที่ของเขาคือเรียนและท่องตำรา ไม่มีสังคม ไม่มีแม้กระทั่งความสุข

     

    ขอให้พ่อกับแม่หายไปจากโลกนี้

     

    ได้ไหม?........”

     

    เมื่อหลายร้อยปีก่อน โลกมนุษย์ไม่ได้มีแค่มนุษย์ ยุคมืดเกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งเหนือธรรมชาติจำพวกผี ปิศาจ เหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย สภาพอากาศแปรปรวน ผู้คนถูกโรคภัยไข้เจ็บเล่นงาน ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ มนุษย์จึงว่าเป็นฝีมือของปิศาจ โดยเฉพาะพวกแม่มด ที่ถูกปลูกฝังว่าอมนุษย์เหล่านี้อยู่ร่วมกันและแฝงตัวอาศัยทำความเดือดร้อนให้แก่มนุษย์

    ช่วงที่โหดที่สุดเกิดขึ้นราวๆศตวรรษที่ 15 เรื่อยมา หญิงสาวจำนวนมากถูกกล่าวหาทั้งที่ไม่มีความผิด ผู้หญิงสวยที่สุด ไปจนถึงหญิงอัปลักษณ์ที่สุด มนุษย์เชื่อว่าพวกผู้หญิงเหล่านี้เป็นทาสรับใช้ของจอมมาร พวกนางจะต้องหาผู้เข้าร่วมเพื่อเป็นพวกเดียวกัน

    แม่มดจึงถูกประณามว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย เป็นสมุนที่ซาตานส่งมาทำความเดือดร้อนแก่มนุษย์ พวกมนุษย์จึงทำการล่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้อย่างเอาเป็นเอาตาย ผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ทำตัวแปลกแยกชอบอยู่อย่างสันโดษ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นโดยไม่สามารถหาสาเหตุได้ พวกผู้หญิงต้องสงสัยเหล่านี้จึงถูกจัดการเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัดหัว เผาทั้งเป็น และทรมานอย่างทารุณ

    ปัจจุบันนิทานเหล่านี้เลือนหายไปตามกาลเวลา มนุษย์ในยุคปัจจุบันไม่ได้ถูกปลูกฝังให้จงเกลียดจงชังพวกเหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย เพราะไม่เคยเห็นด้วยสายตาเลยไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริง แม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้การดำเนินชีวิตของมนุษย์เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าเกิด แก่ เจ็บ หรือตาย วิทยาการทางการแพทย์รวมถึงการวินิจฉัยที่แม่นยำ ต่างทำให้มนุษย์หวังพึ่งสิ่งเหล่านี้มากกว่าความลึกลับเหนือธรรมชาติ

     

    หนังสือพวกนี้....ของใครครับ?”

    ของลูกชายเจ้าของบ้านค่ะ

    บ้านไม้สีดำสนิททั้งหลังให้ความรู้สึกคลาสสิคอย่างที่แฟนของเขาต้องการ กว่าหาเจอและได้แบบตามที่แฟนของเขาฝันก็ใช้เวลาตั้งเกือบปี ลู่ฮานคิม แฟนหนุ่มของชเวมินโฮ ลู่ฮานเป็นหนุ่มลูกครึ่งเจีนผสมเกาหลี เขาเข้าใจภาษาเกาหลีเพียงเล็กน้อยแม้ว่าจะมีเชื้อจากทางแม่บ้างนิดหน่อย ผิดกับชเวมินโฮที่พ่อแม่เป็นเกาหลีแท้แต่ย้ายมาอยู่ที่วอชิงตันตั้งแต่เด็กๆ มินโฮเข้าใจภาษาเกาหลีและวัฒนธรรมของเกาหลีเป็นอย่างดี

     พวกเขาเจอกันที่งานปาร์ตี้ของเพื่อนในสังคมอเมริกัน ลู่ฮานคิมถูกเลี้ยงมาแบบตะวันตก ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันเพราะแอลกอฮอล์แก้วเดียว ลู่ฮานจูบที่ปากของมินโฮก่อน จากนั้นทุกอย่างก็เลยเถิด พวกเขามีเซ็กส์ด้วยกันครั้งแรกตอนมหาวิทยาลัยปีสอง

    เป็นอย่างที่คิดไว้ไหมคะ?”

    ผมค่อนข้างชอบครับ ส่วนจะตัดสินใจยังไง ก็คงต้องรอแฟนผมก่อน เขามีงานด่วนจะมาถึงอีกสามวันครับ

    สำเนียงภาษาเกาหลีของมินโฮค่อนข้างแปล่ง คุณป้าผู้ดูแลบ้านส่งยิ้มด้วยไมตรี ซ้ำค่ำนี้ยังชวนเขามาทานอาหารที่บ้านด้วย

    เผื่อคุณสนใจจะดูในส่วนอื่นก็ตามสบาย ในนี้มีกุญแจทุกห้อง ขาดเหลืออะไรก็ไปเรียกฉันได้นะ

    ขอบคุณครับ

    ชายหนุ่มร่างสูงก้มหัวขอบคุณ เขายืนคนเดียวในห้องโถงใหญ่ เขารู้ว่าหัวศิลป์อย่างลู่ฮานคิมแฟนของเขาต้องออกแบบให้บ้านเก่าๆหลังนี้ออกมาดีแน่ๆ

    โต๊ะ ตู้ โซฟาเก่าๆรวมถึงของใช้ภายในบ้านยังไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปไหน ทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิมและดูสะอาดสะอ้านดีเพราะมีผู้ดูแล กรอบรูปที่แขวนไว้บนผนังมีตั้งแต่รูปถ่ายวางโครงสร้างของบ้านหลังนี้ เรื่อยมาจนกระทั่งบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ เมื่อก่อนบ้านหลังดำทะมึนนี้คงจะสวยมากจริงๆ

    ไง.....

    สวยมากเลยที่รัก ฉันบอกคุณแล้วว่าอะไรที่ฉันเลือก ไม่มีทางผิดหวัง

    แน่นอน ถูกใจคุณมากอยู่แล้ว จะมาถึงที่นี่ได้หรือยัง?”

    ชเวมินโฮส่งยิ้มให้กับกำแพงไม้ หูเขาคอยฟังแฟนของเขาบ่นเรื่องขนมปัง ตั้งแต่มินโฮไม่อยู่ อาหารอร่อยๆที่ลู่ฮานคิมเคยได้ทานก็ไม่ถูกปากไปซะหมด มันไม่อร่อยเท่าแฟนตัวเองทำให้ทานเลยสักนิด

    คิดถึงหรอ?”

    อืม

    รอก่อนสิ อีกสามวันก็จะบินแล้ว มารับด้วยนะ

    รู้แล้วครับ

    เสียงส่งจูบครั้งสุดท้ายเป็นการบอกลาสำหรับคู่รัก ชเวมินโฮอมยิ้มอยู่คนเดียว เพราะเขารักลู่ฮานมาก เขาถึงยอมตามใจ บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อดูบ้านที่มองเห็นได้จากภาพในอินเตอร์เน็ต พวกเขาเรียนจบมาห้าปีแล้ว แปดปีสำหรับการดูใจและไว้เนื้อเชื่อใจมีทั้งอุปสรรคและความสุข ลู่ฮานเป็นหนุ่มมั่น มีสังคมและรักอิสระ ผิดกับชเวมินโฮที่ค่อนข้างสุขุม เขาอยากให้ลู่ฮานปาร์ตี้ให้น้อยลงและสนใจเขาให้มากขึ้น แต่เพราะการใช้ชีวิตของพวกเขาต่างคนต่างตึงเกินไป เชือกมันจึงขาดก่อนเวลาอันควร พอต่างคนต่างใช้ชีวิตในแบบไม่มีกันและกัน ลองใช้ชีวิตตามใจในแบบของตัวเอง พวกเขาทั้งสองคนถึงรู้ว่าจริงๆแล้วพวกเขาทั้งสองคนเหมาะสมกันที่สุด และตั้งใจจะแต่งงานใช้ชีวิตคู่อย่างที่หวังไว้เสียที

    บ้านไม้หลังใหญ่ที่เขากำลังสำรวจอยู่นี้ แสดงให้เห็นว่าเจ้าของต้องเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย เพราะนอกจากไม้จะเก่าและผุพังได้ง่าย แต่บ้านหลังนี้กลับยังดูดีแม้ว่าผ่านมาหลายยุคสมัย เขาอยากถามคำถามคุณป้าผู้ดูแลบ้าน ว่าทำไมเจ้าของเก่าถึงคิดขายบ้านหลังนี้ ทั้งที่ข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่เต็มบ้าน

    ชั้นบนมีห้องใต้หลังคาที่สามารถมองเห็นวิวของทุ่งหญ้าและแนวป่า บันไดเวียนแคบๆ มินโฮต้องก้มตัวลงมาเล็กน้อยเพื่อเดินผ่านขึ้นไปถึงชั้นบน เสียงไม้ลั่นตามจังหวะการเดิน แต่เขาคือเด็กที่เติบโตมาในยุคดิจิตอลที่ไม่มีคำว่ากลัวผีขึ้นสมอง เขาไม่เคยเห็นผีและไม่กลัวผี เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย

    บรรยากาศชายทุ่งเขียวขจี กลิ่นหอมของไอดินลอยขึ้นมาจนเขาสัมผัสได้ ชายหนุ่มเท้ามือกับขอบหน้าต่างแล้วก็ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับสายลม หน้าหนาว หน้าฝน หรือแม้กระทั่งหน้าร้อน บรรยากาศของที่นี่ต้องดีมากแน่ๆ สายตาของเขาเพ่งมองไปที่บ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่สุดชายทุ่ง ควันไฟเล็กๆผุดขึ้นมาจากปล่องไฟ แม้ว่าบ้านหลังอื่นๆในระแวกเดียวกันจะมีสภาพใหม่โดยส่วนใหญ่ แต่บ้านหลังเล็กท้ายทุ่งกลับดูเก่าสวยไปอีกแบบ

     

    เป็นยังไงบ้าง บ้านถูกใจใช่ไหม?”

    ชเวมินโฮสำรวจบ้านจนพอใจ เขากลับไปที่บ้านหลังเก่าที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านไม้หลังนี้ เขาพบคุณป้าคนดูแลบ้านที่กำลังตั้งท่ารดน้ำผักในแปลง หล่อนส่งเสียงทักทายเขาเหมือนเคย

    ครับ

    พ่อหนุ่มไม่กลัวใช่ไหมล่ะ?”

    ไม่เห็นน่ากลัวสักนิดเลยครับ บ้านสวยน่าอยู่มากๆครับ วิวบนห้องใต้หลังคาก็เยี่ยมมาก คุณป้าไม่เห็นบอกเลยนะครับว่าบ้านหลังนี้มีห้องใต้หลังคา

    พ่อหนุ่มขึ้นไปข้างบนมาหรอ?”

    ใช่ครับ ตายจริง....ผมลืมหนังสือปกสีน้ำตาลเอาไว้บนห้อง จะเป็นอะไรไหมครับ

    ฝักบัวรดน้ำต้นไม้หลุดจากมือของหญิงร่างท้วม หล่อนมีท่าทีเปลี่ยนไป ทั้งแสดงสีหน้าหวานหวั่น อึกอักราวกับมีอะไรจะบอกเขา แต่พอเขาส่งสีหน้าถาม คุณป้าผู้ดูแลบ้านกลับปิดปากเงียบ

    เอาเถอะ ถ้าบ้านถูกใจก็ดี คืนนี้เรานอนโรงแรมหรือที่ไหนล่ะ?”

    รถที่ผมจองไว้จะเข้ามารับตอนห้าโมงเย็นครับ

    ดีแล้ว....บ้านน่ะ สวยแค่ตอนกลางวันเท่านั้นแหละ

     







     

    เขากลับมา?”

    ใคร?”

    ผู้ชายคนนั้น

    ใช่เขาแน่หรอ?”

    ฉันจำได้

    อย่ายุ่งกับเขา!”

    หญิงสาวซ่อนใบหน้าสวยงามเอาไว้ใต้ผ้าคลุมสีดำสนิท ริมฝีปากแดงราวกลีบกุหลาบฉีกยิ้มด้วยความพอใจ หล่อนใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากของตนแล้วก็ส่งเสียงชู่....เบาๆ เพื่อให้อีกคน หยุด และระลึกได้เสียที ว่าการแสดงท่าทีโกรธผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า ผลลัพธ์ที่ได้คืออะไร

    อย่าขึ้นเสียง....หนุ่มน้อย

    หล่อนย้ายตัวเองไปตรงหน้าเตาผิง เปลวไฟลุกโชนช่วยทำให้ร่างบางของหนุ่มน้อยตรงหน้าผ่อนปรนความโกรธลงได้บ้าง

    พอเปลวไฟสว่างวาบขึ้น ใบหน้าของหนุ่มน้อยที่ว่า ช่างสวยงาม หากเปรียบหญิงสาวสวยราวกับเทพธิดา ชายหนุ่มก็ช่างสวยงามปานเทพธิดาไม้แพ้กัน

    ยังจำไม่ได้หรือ ว่าตัวตนของเธอคืออะไร?”

    ฉันรู้ เพราะแบบนี้ถึงอยากจะขอ

    ขอ?.....เป็นครั้งที่เท่าไหร่?”

    สุดท้าย

    ร่างบางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เฝ้ามองหญิงสาวที่กำลังย้ายตัวเอง เพื่อเดินไปดูหม้อแขวนบนเตาผิงกำลังมีของเหลวสีเข้มเดือดปุดๆกลิ่นของมันชวนน่าขยะแขยง แต่หล่อนกลับไม่รังเกียจนอกจากใช้ช้อนด้ามยาวคนวนไปมาสองสามรอบ เมื่อได้ที่ดี ก็ยกขึ้นมาชิม และส่งสีหน้าพึงพอใจ

    ก่อนจะขออะไรทำไมถึงไม่ไตร่ตรองดีๆซะก่อน

    หล่อนไม่มองหน้าเขา แต่ก็พอรู้ว่าสีหน้าของร่างบางจะเป็นยังไง

    เพราะความใจอ่อนของเธอ ที่นี่ จึงเหลือแค่เธอกับฉัน

    ใบหน้าของหญิงสาวหลังจากปลดผ้าคลุมลง ผมสีดำขลับราวกับปีกกา และผิวขาวราวกับหิมะ ดวงตาสีเปลือกไม้รับกับขนตาเป็นแพยาว

    ความงามอมตะที่มนุษย์ในศตวรรษก่อน ว่ากันว่ามันเป็นใบหน้าของผู้รับใช้ซาตาน

     หนุ่มน้อยก็ช่างไม่ต่างกันเพียงแต่ผมสีบลอนด์สว่าง พบเห็นได้ยากตามชนบทและที่ห่างไกลความเจริญเช่นนี้ เส้นผมสีนี้ติดตัวหนุ่มน้อยมาตั้งแต่เกิด จึงทำให้หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นผู้หญิง

    ข้างนอกอันตราย คนพวกนั้นก็ใจร้ายกับเธอไม่ใช่หรือ?”

    เขาก็แค่รังเกียจในสิ่งที่พวกเขาสงสัย

    นั่นน่ะสิ พวกมันปฏิบัติกับเรา ราวกับเราไม่ใช่มนุษย์

    หญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถ เลือกนั่งตรงข้างหน้าต่าง สายตามองพ้นหญ้าด้านนอกสูงท่วมหัว หล่อนเรียกงูในโหลแก้วออกมา แล้วมันก็ค่อยๆเลื้อยพันไปฝ่ามือ ดวงตาสีทองจ้องมองหล่อนราวกับผู้ให้ชีวิต ลิ้นสองแฉกแลบเข้าออกรวดเร็วและมันส่องเสียงฟ่อๆ ตลอดเวลา

    มันขังเรา จับเราเผา เฆี่ยนตีเรา ทรมานเราให้เจ็บปวด ฝีมือของพวกมันทั้งนั้น

    นั่นก็เพราะพวกมนุษย์หวาดกลัวสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ โรคระบาดที่ทำให้คนพวกนั้นเอาชีวิตไม่รอด พืชผลทางการเกษตรเสียหายเมื่อฤดูแล้งมาเยือน และมันก็ยาวนานกว่าทุกปี ชีวิตย่ำแย่ ความต่ำตมในอารมณ์ก็แย่ลงทุกที สุดท้ายคนประหลาดก็ถูกลงทัณฑ์โดยที่ไม่มีความผิด ข้อกล่าวหาร้ายแรงเพราะเพราะถูกมองว่าไม่เข้าพวก

    อย่าขอเลยแทมิน ขอให้ใช้ชีวิตปราศจากพระผู้เป็นเจ้าดีกว่า ไม่เช่นนั้น เธอจะตายอย่างทรมาน

    หนุ่มน้อยคว้าเสื้อคลุมขึ้นสวม เก็บปลายผมสีบลอนด์ของตัวเอง นอกจากไม่เหมือนคนอื่นยังเป็นที่สงสัยต่อคนรอบข้าง ก็แค่ต้องการไปเห็นด้วยตาตัวเองว่าใช่เขา หรือปล่าวเท่านั้นเอง

     

    ชเวมินโฮยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เวลาที่เขานัดกับรถทางโรงแรมคือเวลา 5  โมงเย็น แต่นี่กลับล่วงเลยมาเกือบชั่วโมง ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้มจางๆ กลิ่นของทุ่งหญ้าลอยเข้ามาปะทะจมูก ในความคิดของเขาที่ต้องพบปะผู้คนไม่ซ้ำหน้า ช่วงเวลาแบบนี้ช่างเงียบสงบและชวนให้คิดอะไรหลายอย่างได้ดีทีเดียว

    แสงสว่างจากหน้าจอโทรศัพท์ดับลง และเขามองไปไกลเห็นแต่สีเขียวขจีของทุ่งหญ้า บ้างก็โล่งเตียนและมีหญ้ารกไกลสุดลูกหูลูกตา

    ตึง!!!’

     

    เสียงปิดประตูจากด้านหลังเรียกให้ชายหนุ่มหันมาสนใจบ้านหลังใหญ่ เมื่อครู่เขาได้ยินเสียงปิดประตูและเขามั่นใจว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขาพึ่งเอ่ยลาป้าผู้ดูแลบ้าน ชเวมินโฮไม่ใช่คนขี้กลัวมาแต่ไหนแต่ไร เขาเก็บความสงสัยเอาไว้คนเดียว อาจจะเป็นนกกลางคืนที่ได้เวลากลับรัง มันคงบินชนหลังคาด้านบนจนทำให้เกิดเสียงตึงตังขึ้นมา

     

    ตึง!!!!!”

     

    เสียงเหมือนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับมันต้องการย้ำให้เขาได้ฟังชัดๆ ว่าเขาไม่ได้หูฝาด และเงาคนที่ยืนมองเขาจากหลังม่าน กำลังผละจากตรงนั้นและหายไป

    คุณ?!!”

    ชายหนุ่มวิ่งพรวดเดียวเขาก็ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูไม่บานใหญ่ และประตูถูกล็อกจากด้านใน เหมือนที่เขามาที่นี่ครั้งแรก ในเมื่อเขาเป็นคนออกจากบ้านหลังนี้เป็นคนสุดท้าย กุญแจที่มีป้าผู้ดูแลบ้าน ถืออยู่แค่คนเดียว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองเห็นคนจากด้านใน

    เขาลองหมุนลูกบิดหลายครั้ง มันไม่มีท่าทีว่าจะเปิดออก บานประตูแข็งแรง ขนาดว่าตัวเขาเองสูงเกือบสองเมตรและผลักบานประตูด้วยกำลังทั้งหมด มันกลับไม่ขยับเลยสักนิด

    ความมืดทำให้เขามองไม่เห็นอะไรเลย โทรศัพท์ของเขาสั่นและตกจากมือ ชื่อของลู่ฮานคิมโชว์อยู่บนหน้าจอ ในขณะที่เขาตั้งใจจะก้มลงเก็บและพูดคุยกับคนในสาย ความเงียบและความมืดมาพร้อมกับมัจจุราชไร้เสียง มันคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบจนเขาตั้งตัวไม่ทัน

     

    สติของเขาขาดห้วงและปล่อยให้โทรศัพท์จากคนรักสั่นอยู่แบบนั้น

    เขาไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว…….แม้แต่เอ่ยคำร่ำลา  

     

     

    เธอ?”

    “…………….”

    ทำไมถึงร้องไห้?”

    อย่ามายุ่ง!”

    เสียงตลาดดังมาจากร่างเล็ก เขากอดเข่านั่งยองๆกับพื้นร้องไห้ตัวคนเดียว ร่างเล็กกว่าภายใต้ผ้าคลุม เส้นผมสีบลอนด์ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด เดินขยับเข้ามาใกล้ด้วยความสงสัย ว่าทำไมเด็กชายคนนี้ถึงแอบมานั่งร้องไห้คนเดียว

    จะมืดแล้วนะ ไม่กลับบ้านหรอ?”

    ร่างเล็กขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แต่ยังคงเหลือระยะห่างเอาไว้นิดหน่อยเผื่อว่าอีกคนที่กำลังร้องไห้จะลุกขึ้นมาตวาดใส่อีก

    บอก ว่า ไม่ต้องมายุ่งไงล่ะ!”

    เด็กชายตัวสูงกว่าว่าด้วยความโมโห เขาลุกขึ้นแล้วก็ผลักร่างเล็กที่ตัวเล็กกว่าจนหงายหลังนั่งจมปุกกับพื้น

    มันจะมากไปแล้วนะ!”

    ร่างเล็กว่าด้วยความโมโห แล้วก็ผลักกลับด้วยแรงที่ไม่น้อยกว่ากัน เด็กผู้ชายตัวโตกว่าตั้งรับแล้วก็ยื้อกันไปมา จนกระทั่งผ้าคลุมสีดำเข้มถูกดึงออก

    เด็กประหลาด!”

    เด็กผู้ชายว่า เมื่อเขาเห็นเส้นผมสีบลอนด์แปลกตา ซ้ำเด็กที่ตัวเล็กกว่ายังมีบุคลิกที่แปลกประหลาด ดวงตาสองสียิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับเขา ข้างหนึ่งสีน้ำตาลแดงราวท้องฟ้ายามเย็นของฤดูร้อน ส่วนอีกข้างสีเทาราวกับแสงสว่างในฤดูหนาว

    ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้!”

    ร่างเล็กเริ่มโกรธ เขาไม่ปิดบังตัวเองอีกต่อไป นอกจากก้าวเท้าช้าๆเข้าไปใกล้เด็กผู้ชายตัวสูงด้วยท่าทีไม่มีความหวาดกลัวใดๆ

    เป็นแค่ผู้หญิง อย่ามาอวดเก่ง!”

    บอกให้ถอนคำพูด

    กะ…..ก็…..ก็ได้

    เสียงหัวใจเต้นดังตุบๆ ยิ่งเมื่อฝ่ามือของร่างเล็กเอื้อมมาแตะที่หัวไหล่ ดวงตากลมดูมีเสน่ห์แต่ก็น่ากลัว ผมสีบลอนด์แปลกตา เข้ากันดีกับใบหน้าของร่างเล็ก ตัวขาวเหมือนหิมะกลางฤดูหนาว เพราะประหลาดแบบนี้ใช่ไหมถึงต้องพรางตัวตลอดเวลา

    เป็นแม่มดหรอ?”

    แม่มด?”

    เธอน่ะ

    ปล่าว

    โกหก! ทำไมถึงมีตาสองสีล่ะ คนปกติเขาไม่มีตาสองสีหรอกนะ

    การสนทนาเริ่มทำให้ทั้งคู่ผ่อนคลายมากขึ้น ร่างเล็กยอมถอยห่างรักษาระยะห่างของตัวเองเอาไว้เท่าเดิม และมือก็เปลี่ยนจากจับไหล่ของร่างสูง มาจับชายผ้าคลุมตัวเองขยับให้เขาที่เพื่อปิดบังร่างกายของตนไว้เหมือนเดิม

    แน่ใจหรอ?”

    ใช่…..”

    ร่างเล็กแปลกใจ ได้แต่กระพริบตาโตๆของตัวเองแล้วก็จ้องหน้าของเด็กผู้ชายตัวสูง สลับกับเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม

    เธอชื่ออะไรหรอ?”

    เราไม่บอกชื่อ

    แม่มด

    หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

    งั้นก็บอกมาสิ ถ้าไม่บอกก็จะเรียกแม่มด

    งั้นก็เรียกแม่มด

    แล้วทำอะไรได้บ้าง

    จากที่ยืนคุยกัน ก็เปลี่ยนเป็นนั่งคุยหลังพิงกัน และสุดท้ายก็สนิทจนก้าวผ่านคำว่าแปลกหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว เด็กชายตัวสูงรู้สึกสนุกที่มีเพื่อนใหม่ ดวงตากลมสองสีแล้วก็น่ารักเอามากๆ เขาจะไม่ต้องกลัวการไม่มีเพื่อนอีกต่อไป เขาจะมาที่นี่ทุกวัน เขาจะได้เจอกับแม่มดทุกวัน

    ทำไม่ได้

    ร่างเล็กตอบ

    แต่แม่มดต้องเสกเวทมนตร์ได้สิ ขออะไรก็ได้แบบนั้น

    ร่างเล็กทำท่าคิดอยู่นาน เขาหันกลับมาเผชิญหน้าและจ้องเข้าไปในดวงตาอันแน่วแน่ของเด็กผู้ชายตัวสูงกว่า และก็เป็นร่างเล็กกว่าที่เอ่ยคำพูดออกมา

    ลองบอกมาสิ….ว่าต้องการอะไร

     

     

    ไม่….ไม่อยากได้…...ปล่อยผม…..”

    น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น เปลือกตาหนักอึ้ง เขามองเห็นแต่ความมืดสนิท ได้ยินแต่เสียง ในขณะที่เขานอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงสะอาดสีขาว รอบกายของเขาเป็นห้องทึบๆมีเพียงแสงเทียนเท่านั้นที่คอยส่องสว่างและทำให้สายตาพร่ามัวของเขาเริ่มมองเห็นหลายสิ่งอย่างในห้องนี้ กลิ่นหอมสะอาดคละคลุ้งอยู่ที่นี่ และเตียงนอนที่ชายหนุ่มนอนอยู่นี้ถูกวางชิดบานหน้าต่าง

    อา…..เขานอนที่นี่มากี่วันแล้วนะ แม้กระทั่งแรงผงกหัวขึ้นมามองทุกอย่างโดยรอบยังทำไม่ได้ ชายหนุ่มได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากตรงหน้าต่าง เขาพยายามจะเปล่งเสียงออกมาจากลำคอที่แห้งผากเพื่อขอความช่วยเหลือ สุดท้ายเขาก็แค่หลับตาและรอคอยต่อไป

    เรียวขาของมนุษย์ก้าวเข้ามาในห้องที่มีร่างหลับสนิทนอนอยู่ เขาเฝ้ารอหลายคืนแล้วเพื่อที่จะพบเจอเจ้าของบ้าน เขาอยากจะถามว่าทำไมถึงต้องจับเขามาขังเอาไว้ เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ นอกจากความง่วงและถูกปลุกให้ตื่นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า หวังจะได้ลืมตามาพบเจอสุดท้ายก็ว่างปล่าว ร่างกายแสนอ่อนเพลียของเขากลับถูกความง่วงงุนครอบงำ

     

    เขาได้ยินเสียง……

    เขารู้สึกว่าร่างนั้นเริ่มเข้ามาใกล้……

    และก็ช่างทรมานเหลือเกินที่ไม่สามารถลืมตาขึ้นมองได้

     

    เสียงพ่นลมหายใจของเขาดังขึ้นข้างหูของชายหนุ่ม แรงยวบตรงข้างเตียงเมื่อเขาทิ้งน้ำหนักลงมา และหลังมือของเขาช่างเย็นยะเยือกราวกับไม่ใช่เนื้อหนังของมนุษย์ เขาลูบไล้ข้างแก้มของร่างสูงเรื่อยมาจนถึงลำคอ และเขาก็ก้มลงกระซิบบางอย่าง ร่างกายของชายหนุ่ม รู้สึกร้อนไปหมด พยายามอย่างยิ่งที่จะต่อต้านเขาและลืมตามอง

    คุณอย่าฝืนเลย….ที่รัก

    “…..ช่วย……ช่วยผม…..”

    เขาหัวเราะ เสียงของเขาห่างออกไปราวกับเขาหายออกไปจากห้องนี้ ปล่อยให้เบาใจได้ไม่นานเมื่อรู้ว่าเสียงของเขามาจากริมหน้าต่างและใกล้เข้ามาทุกทีๆ เขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ทันทีที่ได้ยินเสียงของเขา ชายหนุ่มถึงรู้ว่า เขาอยู่ใกล้แค่นี้เอง

    ฉันนี่ไงที่จะช่วยคุณ

    เขาตอบ จินตนาการไม่ได้เลยว่าใบหน้าของเขาเป็นยังไง นอกจากน้ำเสียง ฝ่ามือที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง เขาเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงจับตัวของชายหนุ่มมาที่นี่ เขากระซิบสั่งให้หลับตาลงและนิทราในทุกๆคืน

    ทำไมคุณถึงฝืนตัวเอง ฉันบอกให้คุณหลับ หลับไปซะ….เหมือนทุกคืน

    ไม่ผมไม่อยากหลับ…”

    ทำไมคุณถึงดื้อนักล่ะ….คุณชเว

    ริมฝีปากเย็นชืดประทับบนหน้าผากและลากลงมาตามโหนกแก้ม สุดท้ายก็จบลงทีริมฝีปากของคุณชเว เขาจูบเก่งแม้กระทั่งชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่นี้สัมผัสได้ เขาจูบตั้งแต่ริมฝีปากและเรื่อยมาถึงลำคอ เขาทำให้ชายหนุ่มเคลิ้มและหลับไป จากนั้นชายหนุ่มจะนอนเหมือนคนไม่มีแรงจนเช้า

    ได้โปรด….ขอผม….”

    เขานิ่งเงียบ รอฟัง และก้มลงมาจนริมฝีปากของเขาชิดใบหู เขาหยอกเย้าด้วยการเป่าลมหายใจร้อนๆจากนั้นทั้งร่างกายก็ราวกับถูกสะกดด้วยเสน่ห์ของเขา ถลำลึกด้วยตัณหาและความทรมาน แม้ร่างกายของตัวเองก็ไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะเอ่ยขอ ให้เขาปล่อยให้เป็นอิสระและมองเห็นตัวเขา

    คุณควรจะนอนนิ่งๆ อย่างที่ทำมาตลอด อย่าขยับเลยที่รัก

     

    เช้านี้ก็เช่นกันที่มินโฮพยายามฝืนตัวเองเพื่อให้ได้มองเห็นสิ่งต่างๆโดยรอบ แสงแดดที่ลอดผ่านรอยแยกของไม้กระดาน เสียงมันลั่นดังเอี้ยดเหมือนทุกวันและเหมือนกับตัวเขาเองที่ได้แต่นอนฟัง มินโฮไร้เรี่ยวแรง ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ดวงตาของชายหนุ่มพร่ามัว รู้สึกคอแห้งผากและต้องการน้ำดื่ม

    เขาหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ทรมานร่างกายที่นอนอย่างกับคนตายมานาน มันอาจจะนานนับเดือน มินโฮไม่รู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมถึงได้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้

    เขาจำได้ หลายวันก่อน เขาพยายามผลักบานประตูหลังจากที่เขาได้ยินเสียงตึงตังและมองเห็นเงาอยู่ด้านใน เขาหลับไป เขาฝันและแม้แต่ตอนนี้ก็ยังคิดว่าตัวเองฝันอยู่ เขาภาวนาให้ตัวเองตื่นจากฝันร้ายนี้เสียที ลูฮานจะเป็นยังไง เมื่อตัวเขาเองยังนอนหลับอยู่ที่นี่ ลู่ฮานจะต้องสงสัยและจะต้องตามหาเขา แต่ทำไม…..ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานอย่างไม่รู้วันรู้คืน เขาถูกลืมจากโลกภายนอก เขาติดอยู่บนเตียงขยับไปไหนไม่ได้

    และวันนี้ก็เช่นกัน…..เมื่อเขากลับมาอีก

    ผมพยายามลืมตามองและฝืนตัวเองไม่ให้ง่วงอย่างทุกวัน ผ้าคลุมสีดำลากไปกับพื้นไม้ เมื่อร่างตรงหน้าย่ำไปตรงไหน เสียงพื้นลั่นดังเอี้ยดอ้าดตามจังหวะการย่างเท้าของเขา

    แม่มด…..”

    เขาหยุดนิ่งไม่ไหวติง นั่นทำให้ชายหนุ่มมั่นใจว่าต้องเป็นเขา

    เธอ….แม่มด

    เขาครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่เลือกมาที่นี่ เขาจะขัดใจลู่ฮาน เขาจะบอกแฟนของตัวเองและทำให้ลู่ฮานเปลี่ยนใจเพื่อเลือกสถานที่อื่นเป็นเรือนหอ และถ้าขอได้เป็นครั้งสุดท้าย เขาจะไม่กลับมาที่เกาหลีใต้เด็ดขาด

    ขอร้องล่ะ….คืนนี้….อึก…..”

    ชายหนุ่มพยายามเค้นคำพูดออกมาจากริมฝีปากแห้งผาก เขาเหนื่อยและหมดแรง

    อย่า….จูบผม….อึก….”

    ชเวมินโฮหายใจหอบ เพียงชั่วครู่ที่เขารู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้งกำลังจะเปิดออก เขากระดิกนิ้วมือและคราวนี้ เขาขยับตัวได้มากกว่าเก่า เขามองแสงสว่างริบหรี่จากเทียนไขที่ตั้งอยู่มุมห้อง

    เขาเห็นร่างเล็กยืนอยู่ตรงริมหน้าต่าง ผมบลอนด์สว่างเขาจำเธอได้ แม้ว่าภาพมันจะเลือนรางและไม่ค่อยชัดเจน 20 ปีที่เขาลืมไปหมดแล้ว ลืมแม้กระทั่งบ้านและแม่มดของเขา

    แม่มด

    เขาพยายามลุกขึ้นและยืนด้วยตัวเอง ตั้งใจจะเดินไปหาร่างเล็กที่กำลังยืนนิ่งตรงมุมห้อง เขาล้มลงและร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด

    ขอร้องล่ะแม่มด ได้โปรด ปล่อยผมไปเถอะ

    ฉันไม่ได้ขังคุณ

    ร่างเล็กหันกลับมา ใบหน้าหวานที่คุ้นเคย ดวงตาหนึ่งข้างสีน้ำตาลแดงและอีกหนึ่งข้างสีเทา ดูสวยสง่า เรียวปากสีชมพูอิ่ม เส้นผมสีบลอนด์ยังคงพลิ้วไหวตามแรงลมที่พัดมาจากนอกหน้าต่าง กาลเวลาทำให้ร่างเล็กเปลี่ยนไปทั้งรูปร่างและหน้าตา แต่สิ่งที่เขาจำได้คือแววตาเศร้าสองสีกับเส้นผมสีบลอนด์

    เธอ….จริงๆด้วย แม่มด

    เขาแสดงสีหน้าดีใจที่รู้ว่าร่างตรงหน้าเป็นใคร 20 ปีที่แล้ว เพื่อนคนเดียวของเขาคือเด็กคนนี้ ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ แต่เขากลับเรียกติดปากว่าแม่มด เพียงเพราะร่างเล็กเป็นคนประหลาด เขาไม่เคยถามว่าบ้านอยู่ไหน แค่มาวิ่งเล่นที่ชายป่า รอไม่นาน เด็กน้อยสวมผ้าคลุมสีดำ มักจะปรากฏตัวที่ท้ายทุ่งเสมอ พวกเขาวิ่งเล่นด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน เล่าเรื่องราวต่างๆของตัวเองให้กันและกันฟัง

    เด็กน้อยชเวมินโฮเกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์ เขาเป็นความหวังของครอบครัว พ่อแม่ของเขาต้องการให้ชายหนุ่มไปได้ดีในอาชีพหมอ พวกเขาจึงฝึกฝนให้ชเวมินโฮอยู่กับหนังสือตั้งแต่เด็ก ความอิสระถูกจำกัดไว้ด้วยตารางการใช้ชีวิตอันหนักอึ้ง เขาไม่ได้เตะฟุตบอล ไม่ได้อ่านหนังสือการ์ตูนอย่างที่อยากทำ ความฝันของเขาคือการวิ่งเล่นในสนามหญ้ากับเด็กรุ่นเดียวกัน เขาอยากเป็นนักฟุตบอล ไม่ใช่หมอ

    เพราะโมโหและโกรธรวมทั้งคนเดียวที่เข้าใจเขามากที่สุดคือลีแทมิน เขาจึงพลั้งปาก เอ่ยขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ

     

    ขอให้พ่อกับแม่หายไปจากโลกนี้

     

    และแม่มดผู้ใจอ่อน ก็ช่วยให้เขาสมปรารถนา ชเวมินโฮกลับไปที่บ้านหลังใหญ่ ทุกอย่างเงียบสนิท ไม่มีพ่อแม่ แม้แต่รูปถ่าย ความทรงจำก็ค่อยๆเลือนหายไป เขาย้ายไปใช้ชีวิตที่อเมริกากับพ่อแม่บุญธรรม โดยทิ้งความโหดร้ายและเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา เขาไม่ได้เอ่ยลาเด็กน้อยในชุดเสื้อคลุม

    ผมขอโทษ…….”

    ชายหนุ่มร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น เพราะเขาทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ ทุกๆคนจากไปเหลือแค่เขา เขาต้องทนกับความทรงจำอันเจ็บปวด การที่ถูกลืมไปช้าๆมันทั้งเจ็บปวดและทรมาน โดยเฉพาะกับคนที่เขารัก

    ผมขอโทษ…..ผมขอโทษ

    มินโฮสะอื้นเป็นเด็กๆ ร่างเล็กสวมผ้าคลุมสีดำเดินเข้ามาใกล้และหยุดนิ่งตรงหน้าเขา ก่อนที่ร่างเล็กจะนั่งยองๆต่อหน้าเขา

    คำขอเรียกกลับมาไม่ได้หรอก

    “……………….”

    แล้วผมต้องทำยังไง?”

    อยู่กับฉัน

    คนรักของผมรออยู่ เรากำลังจะแต่งงานกัน

    แม่มดของเขากำลังยิ้มแต่รอยยิ้มที่มอบให้เขาช่างน่าเศร้าเหลือเกิน

    ลืมเขา เหมือนที่ลืมพ่อแม่ของเธอ

    แม่มดจูบเขาเหมือนทุกคืน แต่แปลกที่คืนนี้เขากลับไม่ง่วงเหมือนที่ผ่านมา เขาโต้ตอบแม่มดกลับไปด้วยจูบที่ร้อนแรงกว่า เสียงแม่มดครางอื้ออึงตรงข้างหู ช่างรัญจวน แม่มดค่อยๆไล่ปลดกระดุมเสื้อของเขาลงทีละเม็ด ดวงตากลมที่ผละมามองเขาช่างดูน่าค้นหาและเรียกร้อง

    ต้องการฉัน…..เรียกฉันสิ

    แม่มดกระซิบข้างหู ปีนขึ้นตักเขาด้วยท่าทีน่าอาย แม่มดเปิดเปลือยร่างกายของตัวเองให้เผยชัดสู่สายตาของเขา ผิวแม่มดขาว อัญมณีสีชมพูตัดกับผิวอย่างดีประดับประดาอยู่บนหน้าอกทั้งสองข้าง

    แม่มด….”

    ลีแทมิน….ฉันชื่อลีแทมิน

     

    เขาจูบแม่มด ที่บอกให้เรียกชื่อเขาว่าลีแทมิน กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเขาที่มินโฮได้สัมผัสอยู่ทุกวัน ร่างสูงขยับมืออย่างเชื่องช้าไล่ไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม แขนแข็งแรงสอดประคองไปด้านหลัง โอบกอดเอวคอดดึงร่างบางเข้ามาใกล้ ริมฝีปากประทับจูบอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงลมหายใจและปลายลิ้นที่ป้อนให้กันด้วยความร้อนแรง บางจังหวะที่ฝ่ามือของแทมินสะเปะสะปะโดนร่างกายของชายหนุ่มบ้าง เขาดูพอใจและมีความต้องการมากกว่าเดิม

    จากที่นั่งอยู่บนตัก ร่างเล็กก็ถูกดันให้นอนราบลงบนพื้นไม้ เรียวขาขาวเกาะเกี่ยวเอวของเขาไว้ไม่ให้ห่าง สองแขนก็โอบรอบคอของเขา ส่งเสียงกระเส่าเรียกร้องไม่ขาด ในตอนนี้ชเวมินโฮไม่อาจเบนความสนใจมาจากร่างขาวเนียนตรงหน้าได้เลย มีแต่ความลุ่มหลงจนลืมไปแล้วว่าเขากำลังนอกใจแฟนของเขา

    เขาลืมไปแล้วว่านี่คือบ้านที่เขาและลู่ฮานตั้งใจว่าจะกลับมาใชช้ชีวติร่วมกัน เขาถูกความมีเสน่ห์ของแทมินครอบงำทีละนิด คล้ายกับถูกทำให้หลับอีกครั้ง ชายหนุ่มตกหลุมรักแม่มดของเขาอย่างห้ามใจไม่ไหว เพียงแต่เขาไม่ได้หลับ สายตาของเขายังเห็นร่างของแม่มด เห็นสีหน้าคลั่งรักของแทมิน

    เสียงเรียกชื่อเขาดังอยู่ข้างหู

    มะ….มินโฮ….”

    เขาแทรกผ่านร่างกายอันร้อนผ่าวของแทมิน แม่มดของเขาเกร็งตัวแน่น ระบายความเจ็บกับหัวไหล่ของเขา สีหน้าแสดงความเจ็บปวด แต่ร่างกายกลับตอบว่ายังไหว ร่างกายของแม่มดร้อนรุ่ม และร้อนกว่านี้เป็นร้อยเท่าเมื่อความปรารถนาของเขาเคลื่อนผ่านเข้าไปในตัวแทมิน ร่างบางผวาโอบกอดเขาไว้แน่น

    ชู่……ไม่เจ็บนะคนดี

    แม่มดตาสองสีสะอื้นในอ้อมกอดของเขา ความบริสุทธิ์ในครั้งแรกของแทมินถูกมอบให้เขา เหมือนกับที่พร่ำกระซิบว่าแทมินรอเขามาตลอด

    ฉะฉัน….ไม่เป็นไรหรอก

    แม่มดตอบ ความกังวลทั้งหมดทั้งมวลคลายลง เมื่อถูกเขาปลุกเร้าทั้งส่วนบนและส่วนล่าง แทมินดิ้นเร่า ตอนที่ถูกเขาจัดการส่วนหน้าอย่างไม่ปราณี เขาเองก็ทนไม่ไหวถึงได้จัดการแทมินตามแรงปรารถนาที่คุกกรุ่น ไม่มีคำปลอบโยนใดๆ เมื่อเขาตั้งใจเคลื่อนผ่านร่างกายเข้าไปในมวลความร้อน ร่างกายของแทมินโอบรัดเขาแน่น เสียงหายใจของเขาขาดห้วงไปตามจังหวะ ยิ่งร้อน แทมินก็ยิ่งเร่งเร้า ไฟราคะโหมกระหน่ำพัดกระพือ แสงเทียนวูบไหว มันมีความร้อนและความเย็นกระจายตัวไปทั่วห้องกว้างแห่งนี้

    แม่มดเกร็งตัวเมื่อความรู้สึกทั้งหมดอันแน่นได้เวลาปลดปล่อย สุดท้ายก็เป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำช่วยให้คำขอของแม่มดเป็นจริง มวลความสุขกระจายตัวเมื่อแม่มดปลดปล่อยความน่าอึดอัดใส่หน้าท้องของเขา แม่มดหอบฮัก ครางหงิงๆไม่ต่างจากลูกแมว

    มินโฮ……”

    อา….คนดี….”

    เขาจูบที่หน้าผากชื้นเหงื่อ เรื่อยมาจนถึงริมฝีปากเต่งตึงของแม่มด แม้ว่าเขาต้องหลับไปเมื่อสัมผัสริมฝีปากสีสดนี้ก็ตาม เขายินดีจะหลับภายใต้อ้อมกอดของแม่มด

    คุณวางยาผมหรือปล่าว?”

    ตรงนี้น่ะหรอ?”

    แม่มดแตะที่ริมฝีปากตัวเองเบาๆ แล้วก็ส่ายหัว

    หลังจากนี้ คุณจะเสกให้ผมเป็นอะไร?”

    ทาสรับใช้ของลีแทมิน ได้ไหม

    ทาสรัก

    ฟังเข้าท่าดี แม้ว่าคุณจะต้องหลับตลอดไปน่ะหรอ?”

    แสดงว่าผมไม่มีสิทธิ์ขอ

    เขาขยับตัวเล็กน้อย ร่างกายของเขายังคงปวดหนึบ และตัวแม่มดเองยิ่งทำให้เขาทรมาน

    อื้อ…..ละ….ลองว่ามาสิ….”

    แม่มดส่งสายตาท้าทาย และไม่ทันไรก็ถูกเขาพลิกตัวให้นอนคว่ำ และเขาก็จัดการแม่มดในแบบนั้น แบบที่แม่มดแทมินต้องกระเสือกกระสนและเป็นฝ่ายร้องขอชีวิต เสียงของแทมินหวีดลั่นราวกับจะขาดใจ พวกเขาไม่กลัวเสียงจะหลุดรอดออกไปแม้แต่น้อย นอกจากทำทุกอย่างตามใจ

    ชเวมินโฮยึดสะโพกของแทมินเอาไว้เต็มมือ แล้วก็ใส่ความปรารถนาลงไปไม่ยั้ง ปล่อยให้ความสุขของเขาหมุนวนในตัวแม่มดร้าย

    ได้โปรดอยู่กับฉันที่นี่ ลืมเขาไปซะ

    มินโฮดึงร่างบางเข้ามาแนบอก เขาจูบหน้าผากเนียนแล้วก็เลยถึงริมฝีปากอิ่ม ดวงตาของชายหนุ่มพร่าเลือน เขามองเห็นแทมินไม่ชัดอีกต่อไปแล้ว เขาประคองแทมินไว้ในอ้อมกอด แต่ครั้งนี้กลับเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าการหลับในครั้งนี้คือค่ำคืนแห่งความสุข

    ฉันรักคุณ ชเวมินโฮ

    แทมินกระซิบข้างหูของเขา รักเขามากเหลือเกิน ต่อไปนี้จะไม่มีใครมาพรากเขาไปจากแทมินได้อีก แทมินยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเขา แม้ว่าคำขอครั้งสุดท้ายอาจจะใจร้ายไปสำหรับลู่ฮานคิม

     

     

    เธอเลือกที่จะทิ้งฉัน

    ฉันปล่าวทิ้งพี่

    ผู้ชายคนนั้นทิ้งเธอ แล้วเธอก็เลือกที่จะทิ้งฉันหนุ่มน้อย

    ฉันมั่นใจว่าเขาจะกลับมา

    เมื่อไหร่?”

    เด็กหนุ่มตาสองสีตอบไม่ได้ คำขอของเขาสัมฤทธิ์ผล แต่สุดท้ายพ่อแม่พวกนั้นก็พาชเวมินโฮไปจากลีแทมิน แทมินเฝ้ารอเขา วันแล้ววันเล่า จากท้องฟ้าที่กลายเป็นทองสว่างจ้าและมืดมิดมีดวงดาวเข้ามาแทนที่ ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูฝน หรือฤดูใบไม้ผลิ เขาไม่กลับมาสักที

    บ้านหลังใหญ่ว่างปล่าว และห้องลับใต้หลังคาเก็บซ่อนความฝันของชายหนุ่มไว้ในนั้น ความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอล หนังสือนิทานปรัมปราเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับผี ปิศาจและแม่มด ความเพ้อฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง

    ฉันขอพี่เป็นครั้งสุดท้าย

    เพื่ออะไร?”

    เพื่อให้ฉันได้อยู่กับเขา

    แม้ว่าการได้มา มันจะทำให้เขาหมดลมหายใจน่ะหรือ?”

    ฉันไม่มีทางเลือก ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยให้ฉันสมหวัง ได้อยู่กับเขา

    หญิงสาวยิ้ม งูที่ค่อยๆเลื้อยบนมือของหล่อน ส่งเสียงขู่ฟู่ๆ มันเชื่อฟังแค่หล่อนคนเดียว

    ถ้าไม่มีเธอ ฉันก็ต้องอยู่คนเดียวใช่ไหม

    หล่อนว่า หล่อนไม่แสดงสีหน้ากังวลใดๆทั้งสิ้น ราวกับว่ามีหรือไม่มีแทมิน ก็ไม่ส่งผลใดๆต่อชีวิตของเธออยู่แล้ว

    เพราะความใจอ่อนของเธอ ที่นี่จึงเหลือแค่เธอกับฉัน

    “……………………..”

    แม้ว่าเธอสมควรถูกกำจัด แต่ฉันก็ทำร้ายเธอไม่ได้จริงๆ

    หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้หนุ่มน้อย มองดวงตาสองสีด้วยความชื่นชมและเอ็นดู ความแตกต่างตรงนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองคนใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ต้องหลบซ่อนตัวแม้จะถูกพบเห็นได้ง่าย ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่เหมือนคนอื่น

    หญิงสาวส่งยิ้มให้น้องชายเพียงคนเดียว ไม่เคยมีตำนานใดๆบอกว่าแม่มดเป็นได้แค่ผู้หญิง แต่กับมนุษย์ที่ผ่าเหล่าครึ่งคนครึ่งแม่มด พบเห็นได้ยากหรือไม่มีโอกาสเลยด้วยซ้ำ แทมินกลับรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แม้ว่าในวันที่ลืมตาดูโลกเขาจะถูกหมายหัวและสั่งให้ตายก็ตาม

    การล่าแม่มดครั้งใหญ่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน กลางดึกแม่ของพี่น้องตระกูลลี สั่งให้พี่สาวคนโตพาน้องชายคนเล็กที่ยังแบเบาะหนีไป แม่ของพี่น้องลีเป็นแม่มดอย่างไม่ต้องสงสัย แม่ของเขาถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เปลวไฟในคืนนั้นโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งท่ามกลางเสียงสาปแช่งของมนุษย์ พวกเขาโซซัดโซเซไปเรื่อยอย่างไม่รู้ชะตากรรม ย้ายที่อยู่อาศัยไปเรื่อย หลบซ่อนตัวจากนักล่า

    ฉันรักพี่ แต่เขาเป็นความรักครั้งแรกของฉัน เพราะฉะนั้นให้เราได้อยู่ด้วยกันเถอะ

    “……………..”

    ถ้าอย่างนั้นก็ลองขอกับงูของฉันดูสิ บางที มันอาจจะรับฟังคำขอของเธอ

    แทมินจ้องไปที่งูสีประหลาดบนมือของ ลีแทยอน หญิงสาวเผยยิ้ม ยื่นแขนที่มีงูไปตรงหน้าของแทมิน งูประหลาดไม่มีชื่อเพศเมีย เธอมักจะเลื้อยหายไปเป็นวันๆจนกว่าแทยอนพี่สาวของเขาจะเรียกใช้งาน หล่อนจะกลับมาอย่างว่าง่าย

    ว่ากันว่าพิษของหล่อนทำให้คนที่ถูกกัดตายในทันที

     

    ถ้าอย่างนั้น ขอให้มินโฮอยู่กับฉันตลอดไป

     

     

     -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     END

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×