ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    end - (exo) lone wolf | chanbaek

    ลำดับตอนที่ #6 : L O N E W O L F | Know thy self.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.89K
      121
      23 ก.ย. 59

    ? cactus






    Chapter 4

    Know thy self, know thy enemies.

    A thousand battles, a thousand victories.

    (รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง)










              “มีของถึงคุณ”


              เขาจ้องคยองซูเขม็ง ความเคลือบแคลงคงฉายชัดทางสายตา อีกฝ่ายจึงบอกว่า “ส่งไปที่แฟลตเดิมของคุณ ทางแฟลตส่งต่อมาให้เรา”


              “ขอบคุณ”


              แม้จะรับของมาแล้ว ชายหนุ่มร่างเล็กก็ยังคิดถึงเรื่องที่ได้ฟัง จากปากคำของร้อยโทปาร์ค ถ้าจำเป็น และต้องการที่หลบภัย หรือที่ซ่อนตัวสักพัก สถานทูตอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แบคฮยอนไตร่ตรอง แต่ไม่ใช่สถานทูตโรมาเนีย และชาติยุโรปตะวันออกทั้งหมด พวกนี้เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคสังคมนิยมมาก่อน


              ยกเอาของชิ้นดังกล่าวขึ้นไปวางไว้บนโต๊ะทำงาน มันหนักเอาเรื่อง


              ไม่ใช่อียิปต์ หรืออิหร่าน นี่ก็อีหรอบเดียวกัน ชาติพันธมิตรทั้งหมดของโซเวียต ไม่ว่าจะเมื่อห้าสิบปีก่อนหรือตอนนี้ก็ไม่ได้


                “ใครส่งอะไรมา แบคฮยอน”


              ตัวเลือกที่ดีที่สุดคืออังกฤษ เยอรมนี และสวีเดน แต่พวกเขาอยู่ห่างออกไปสองช่วงถนน และการลี้ภัยเข้าไปอยู่สถานทูตของชาติเสรีนิยม อาจทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ อาจ...


              “ขอดูหน่อย”


              “เอามานี่นะ!


              ทั้งเขาและร้อยโทปาร์คหันไปมองทางประตูพร้อมกัน เมื่อไม่เห็นว่าประตูเปิดอยู่ ซึ่งคยองซูจะต้องได้ยินแน่ จึงหันกลับมาเผชิญหน้ากัน


              “ของสำคัญหรือไง”


              “ยังไม่รู้เลยว่าสำคัญหรือไม่สำคัญ ก็นายแย่งเอาไปแล้ว”


              “นายใจลอยนะ... ”


              ไม่มีข้อโต้แย้ง ชานยอลอุ้มห่อของด้วยสองมือ แกะออก และเบ้หน้า “ไหกิมจิ” อีกฝ่ายบอก “จากบ้านของนายแน่ ๆ แล้วก็กระดาษนี่ อ้อ จดหมายน้อยนี่เอง... ”


              “อย่าเปิดนะ”


              “ทำไม... มีความลับหรือไง”


              แม้จะได้รับอนุญาตให้ใช้ภาษาแบบไม่เป็นทางการ แบคฮยอนแห่งมูซานก็ยังไม่กล้าพอจะด่าทออีกฝ่ายว่าไร้มารยาท เขาไม่รู้ว่าขอบเขตความเมตตาของชานยอลสิ้นสุดลงตรงไหน และไม่โง่พอจะพาตัวเองไปอยู่ที่นั่นเพื่อมองหาด้วย


              กวาดสายตาอ่านจดหมายของเขาสักพัก ร้อยโทปาร์คก็ส่งคืนให้ “จากพี่ชายของนาย คิมจงอิน” ชายหนุ่มร่างสูงวางไหกิมจิลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง “ท่าทางเขาขี้บ่นนะ”


              แบคฮยอนไม่แปลกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็ข้อความในจดหมายของจงอิน ทำให้พี่ชายบุญธรรมของเขาดูเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นอย่างหาตัวจับยาก


              “เขาควรจะเรียนรู้วิธีการเขียนจดหมายเสียใหม่ด้วย อย่างน้อยก็ให้แต่ละบรรทัดมีความยาวเท่า ๆ กัน”


             

    แร้งทึ้งแท้ ๆ โบซอกน่ะ! ยายเฒ่า

    มาขอทานที่บ้านเราทุกวัน ฉันล่ะไม่เห็นอยากพบ

    จุนมยอนรึก็ใจอ่อน น้อง

    ไม่เคยห้ามใจไม่ให้สงสารได้เลย ยอม

    บอกยายเฒ่าอีกต่างหาก ว่า

    เรื่องไหกิมจิน่ะ... ว่าเก็บไว้ตรงไหน แต่เรื่อง อะไร!

    วันที่ โบซอกมาที่นี่อีกหน จะตะเพิดให้ สี่

    พฤศจิกายนนี้ จำได้ไหม คือ

    วันครบรอบการตาย อย่าลืมที่ นัดหมาย

    จงแดคงดีใจแย่ ถ้ารู้ว่าเราไม่เคยลืมเขา เขาจะอยู่

    ในใจเรา ที่ที่

    ปลอดภัย จากการถูกลบเลือนด้วยกระแสแห่งกาลเวลา แล้ว

    “เจอกันนะ แบคฮยอน”


     

                “เขาเขียนอะไรไม่เคยรู้เรื่องเลย” เขารีบสนับสนุนข้อกล่าวหาของชานยอล “ทั้งภาษา ช่องไฟ การเรียบเรียง จงอินไม่ใช่คนหัวดีนัก”


              แต่หัวดีมากต่างหาก


              การส่งข้อความในลักษณะนี้เป็นรหัส ป้องกันการถูกเปิดอ่าน คำแรกและคำสุดท้ายของบรรทัดต่างหากคือข้อความที่แท้จริง หากส่วนแรกและส่วนสุดท้ายของบรรทัดประกอบด้วยสองคำแทนที่จะเป็นหนึ่งคำ คำนั้นจะถูกเว้นช่องไฟไว้ ส่วนข้อความในอัญประกาศคือข้อความที่จำเป็นต้องใช้โดยไม่ตัดทอน


              ดังนั้น ข้อความในจดหมายน้อยนี้จึงอ่านได้ว่า


              แร้งเฒ่ามาพบจุนมยอน น้องไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร วันที่สี่พฤศจิกายนคือวันนัดหมาย จงแดอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว เจอกันนะ แบคฮยอน


                วันนัดหมายยังอีกไกล และการที่คิมจงแดอยู่ในที่ปลอดภัยก็ทำให้เขาพอใจ เพียงแต่ข้อความแรกไม่ชวนให้สบายใจเอาเสียเลย





     

              “ผมต้องการโทรศัพท์มือถือ”


              เห็นได้ชัดว่าคยองซูมีท่าทีประหลาดใจ “โทรศัพท์มือถือหรือครับ” อีกฝ่ายทวนคำสั่ง “แบบไหน”


              “แบบเดียวกับผม” ชานยอลบอกพลางชูสมาร์ตโฟนยี่ห้ออารีรังของตัวเองขึ้นในระดับสายตา “แบบนี้ หนึ่งเครื่อง สำหรับแบคฮยอน รวมถึงไมโครชิป อ้อ คุณเองช่วยประสานงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ คอยตรวจสอบการใช้งานโทรศัพท์มือถือของเขาด้วย”


              เลขานุการต้นห้องขมวดคิ้ว “ท่านต้องการติดตามเขานี่เอง” คยองซูพยักหน้า “แต่... จะไม่มากไปหน่อยหรือครับ”


              “อะไรที่ว่ามากเกินไป ผมอาจจับตาดูแบคฮยอนในห้องของเขาได้ แต่เขาอาจ... แค่อาจ ทำอะไร ๆ ที่อื่น” อย่างน้อยก็ในห้องน้ำ ชานยอลคิด แต่ฉันไม่อยากได้ยินหรือได้เห็นอะไรในห้องน้ำของแบคฮยอนหรอก “อย่างนี้รอบคอบกว่า”


              “ท่านครับ ที่ว่ามากเกินไป... ผมเปล่าหมายถึงการเฝ้าระวัง” อีกฝ่ายสั่นศีรษะ “หมายถึงราคาของมันต่างหาก สมาร์ตโฟนเลยหรือครับ สำหรับผู้ติดตาม บยอนแบคฮยอนไม่จำเป็นต้องใช้มันด้วยซ้ำ”


              ร้อยโทปาร์คเกือบสำลัก “เถอะน่า” เขาบอกปัด “ผมจ่ายไหว”


              “แต่ท่านครับ แบคฮยอนจะอยู่กับท่านอีกไม่นาน อย่างน้อย ๆ ก็จนกว่าท่านจะหาเหตุปลดเขาจากราชการได้สำเร็จ ผมเกรงว่าค่าใช้จ่ายจำนวนนี้... ”


              “ผมจ่ายไหว คยองซู”


              คยองซูเลิกคิ้ว ถึงอย่างนั้น ก็ยังนับว่าเก็บความรู้สึกได้ดีจนน่าทึ่ง “ครับท่าน” เลขานุการโดรับคำ “ผมเพียงแต่เกรงว่าจะเป็นการสิ้นเปลือง”


              ชายหนุ่มร่างสูงถอนหายใจ “ยังอีกไกล” เขาบอก “ระหว่างผมกับเขา ยังอีกไกลและยังอีกนาน ต่อให้แบคฮยอนได้เป็นสมาชิกพรรคแรงงาน พ้นจากตำแหน่งผู้ติดตามของผม เขาก็ยังเป็นครูสอนภาษาเยอรมัน... ของผม”


              คราวนี้คยองซูอ้าปากค้าง “ท่านให้เขาสอนภาษาเยอรมันให้!


              “ใช่... ทำไมล่ะ”


              “เปล่าครับ” เลขานุการต้นห้องแบ่งรับแบ่งสู้ “ผมแค่สับสน ท่านไม่ได้กำลังจะผลักไสเขาหรือครับ แล้วทำไมถึงได้... ประทานโทษ ผูกแบคฮยอนไว้กับตัวเอง”


              “เพราะแบคฮยอนยังมีประโยชน์” ชานยอลโต้ หูทั้งสองร้อนขึ้น และคงจะกลายเป็นสีแดงภายในไม่กี่วินาทีข้างหน้า “ทันทีที่พิสูจน์ได้ว่าแบคฮยอนมาร้าย ผมจะเขี่ยเขาทิ้งแน่ ไม่ต้องสงสัยเลย”


              คยองซูเสมองไปอีกทางหนึ่ง ทันเห็นแบคฮยอนซึ่งเพิ่งจะกลับจากห้องน้ำเดินตรงมา “เขามาแล้ว ท่านกลับเข้าไปในห้องดีกว่า” อีกฝ่ายเสนอ “แล้วผมจะจัดการให้ เอ้อ... ท่านครับ”


              ร้อยโทปาร์คส่งเสียง “หือ... ” ในลำคอ


              “ระวังตัวนะครับ” ท่าทางเลขานุการโดเป็นกังวลจริง ๆ “ระวังตัวให้มาก ๆ เลย”

     






              แบคฮยอนนึกค่อนแคะอยู่ในใจเสมอว่า งานของชานยอลรวมถึงสมาชิกพรรคแรงงานทั้งหมดนั้น ทั้งจำเจ พาฝัน และไร้ประโยชน์สิ้นดี แม้เมื่อเขากลายเป็นผู้ติดตามของอีกฝ่ายแล้ว ความรู้สึกนั้นก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง มีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นตามจำนวนเอกสารที่อ่านแล้วถึงกับต้องเบือนหน้าหนีเสียก่อนจะแบะปากให้ใครเห็น


              เช่นเดียวกับพลเมืองทั่วไป แบคฮยอนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เขาจึงไม่อาจถือสิทธิ์เปรียบเทียบระบบราชการในเปียงยางกับระบบราชการในประเทศอื่น ๆ ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกที่ว่ามันเป็นเนื้อร้ายแห่งรัฐก็ยังแจ่มชัด ชายหนุ่มร่างเล็กมองเห็นสิ่งเหล่านั้นผ่านเอกสารตั้งใหญ่บนโต๊ะทำงานของชานยอล มันแสดงภาพการทำงานอย่างสุกเอาเผากิน ทั้งเช้าชามเย็นชาม ระเบียบพิธีอันยุ่งเหยิง ล่าช้า ไปจนถึงชนชั้น ลำดับอาวุโส และหมู่เหล่าภายในองค์กรซึ่งต่างคนต่างทำปากว่าตาขยิบ ปฏิเสธว่าไม่มีอยู่จริง น่าเศร้าเมื่อคิดว่าสายธารแห่งงบประมาณไหลหลากมายังพรรคแรงงานและกองทัพ โดยแทบจะไม่เหลือเผื่อแผ่ถึงใครอื่นซึ่งอาจทำประโยชน์ได้มากกว่า ยิ่งกว่าโชคร้ายเสียอีก เขาเคยคิดอย่างขมขื่น ข้างนอกนั่น พลเมืองยังพอจะลืมตาอ้าปากได้ แต่ที่นี่... ประเทศนี้... ไม่มีคำว่าเอกชน มีแต่คำว่ารัฐบาล รัฐบาลเท่านั้น


                “อย่าลืมอะไรนะ”


              ชายหนุ่มร่างเล็กตื่นจากความโกรธขึ้ง “ได้” เขาบอก “ไม่ได้ลืมอะไรแน่ ๆ ล่ะ”


     ชานยอลจะไม่มาที่พรรคแรงงานในวันพรุ่งนี้ อย่างที่เคยบอกเขา อีกฝ่ายเป็นทั้งสมาชิกพรรคแรงงานและนายทหารชั้นสัญญาบัตร สองตำแหน่งนั้นตอกย้ำความเหนือชั้นทางอิทธิพลของพลเรือเอกเขี้ยวลากดินได้เป็นอย่างดี


              “มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”


              “ไม่” ชานยอลมองเขา ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะถามว่า “แต่ว่า... ตัดผมหน่อยไหม”


              พรุ่งนี้ ชานยอลจะพาเขาไปยังกองบัญชาการกองทัพประชาชน


              แบคฮยอนรีบจับผมบนศีรษะของตัวเอง ราวกับกลัวว่าผู้บังคับบัญชาจะตรงเข้ามาพรากมันไปจากเขาเดี๋ยวนั้น “ยาวเกินไปหรือไง” ผู้ติดตามละล่ำละลัก “ต้องสั้นกว่านี้อีก... ใช่ไหม”


              “หน่อยเดียว”


              “ต้องตัดผมจริง ๆ ใช่ไหม”


              คราวนี้ชายหนุ่มร่างสูงขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะ”


              “ฉัน... ” แบคฮยอนกลืนน้ำลาย “มีประสบการณ์ที่ไม่ดีนักกับช่างตัดผม”


              อันที่จริง จะเรียกการถูกกรรไกรตัดผมเฉือนปลายหูไปหน่อยหนึ่งว่าไม่ดีนักก็ไม่ได้ มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเอามาก ๆ ต่างหาก


              “ฉันจะตัดให้” ชานยอลบอกส่ง ๆ “ถ้าไม่ลืมอะไรแล้วล่ะก็ ไปกันเถอะ เรายังต้องแวะอีกที่หนึ่งก่อนกลับบ้าน”


              “ที่ไหน”


              แต่อีกฝ่ายกลับอมพะนำ “คิดให้ออกสิ คุณผู้ติดตาม ลืมเรื่องเมื่อเช้าไปแล้วหรือไง”


              “มัสยิดสินะ หรือว่าสถานทูต”


              ชานยอลโคลงศีรษะ “ไม่ใกล้เคียงเลย” เมื่อเห็นว่าเขายังครุ่นคิด ร้อยโทปาร์คจึงหันมาคว้าข้อมือของแบคฮยอน ก่อนจะออกแรงดึง ทำให้ผู้ติดตามเซถลา และทำให้ตรงที่ถูกจับนั้นร้อนผ่าว


              เพราะอะไรบางอย่าง แม้จะไม่มีกุญแจมือ แต่เรี่ยวแรงของชานยอลก็ทำให้พันธนาการนั้นดูจะแน่นหนา แข็งแกร่งกว่าตรวนในค่ายกักกัน แบคฮยอนขืนตัว ร้องว่า “ฉันเดินเองได้” เพียงแต่ร้อยโทปาร์คกลับหัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะอย่างมั่นอกมั่นใจ


              “จะหนีไปไหนพ้น”


              ราวกับจะให้เป็นคำสาปติดตัวไปตลอดกาล

     






              ดูก็รู้ว่าแบคฮยอนไม่เคยมาห้างสรรพสินค้า อย่างน้อยก็ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่โตอย่างนี้ อีกฝ่ายผลุบเข้าผลุบออกระหว่างแผนกต่าง ๆ จ้องดูป้ายราคาด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก


              เขาซื้อเสื้อคลุมอาบน้ำสามตัว ตัวสีฟ้าและสีเหลืองทำจากผ้าฝ้าย ตัวสีขาวทำจากผ้าซาตินซึ่งให้สัมผัสลื่นและเย็น มันบิดตัวไปมาบนมือของชานยอลราวกับงูที่เกียจคร้าน


                แบคฮยอนจะดูเป็นยังไง...


                คำถามนั้นปรากฏขึ้นก่อนจะยับยั้งได้ทัน สีฟ้าเข้ากับลักษณะภายนอกของแบคฮยอนมากที่สุด ชานยอลให้คำตอบอย่างเงียบเชียบ สีเหลืองเข้ากับผิวของเขาเมื่อมันกลายเป็นสีชมพู


                เสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวทำจากผ้าซาตินต่างหากที่ออกจะพิเศษ... พิเศษเกินไป พนักงานขายส่งยิ้มให้เขาอย่างรู้เท่าทัน เป็นรอยยิ้มที่ร้อยโทปาร์คไม่ชอบเอาเสียเลย ชายหนุ่มร่างสูงพามันไปที่หน้ากระจก ทาบกับตัวเอง หันซ้าย หันขวา จนแน่แก่ใจว่าที่ถืออยู่ไม่ใช่เสื้อคลุมอาบน้ำ แต่เป็นเสื้อคลุมชุดนอนต่างหาก


              ทันใดนั้น สายตาล้อเลียนของพนักงานขายก็ดูจะมีความหมายขึ้นมาทันที ชานยอลกัดฟัน พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้หูทั้งสองข้างกลายเป็นสีแดง


              ก็เสื้อคลุมชุดนอนตัวที่เขากำลังถืออยู่นั้นทำจากผ้าซาติน รูปทรงคล้ายกิโมโนขนาดสั้น เมื่อพิจารณาดูดี ๆ จะเห็นลายพิมพ์รูปดอกเบญจมาศอยู่ทั่ว พนักงานขายคนที่ว่าย่อมจะคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากร้อยโทปาร์คชานยอลซื้อให้คู่หมั้น คนรัก หรืออย่างน้อยก็หญิงสาวที่กำลังติดพัน


              ชายหนุ่มร่างสูงก้าวฉับ ๆ กลับไปที่เคาน์เตอร์ “ผมขอเปลี่... ”


              แต่แบคฮยอนที่เพิ่งจะเลิกผลุบเข้าผลุบออกระหว่างแผนกต่าง ๆ หันมาพอดี “ขอฉันดูก่อน” อีกฝ่ายบอก จากนั้นก็หันไปพูดกับพนักงานขาย “เรามาด้วยกันครับ ไหน... ขอฉันดูหน่อย”


              “ตัวนี้ไม่ใช่เสื้อคลุมอาบน้ำ ฉันกำลัง... ”


              “ตัวไหน” ว่าแล้วก็คว้าเอาเสื้อคลุมชุดนอนเจ้าปัญหาไป “ทำไมล่ะ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ฉันชอบตัวนี้นะ ขอตัวนี้ให้ฉันเถอะ”


              “มันสั้นเกินไป”


              “นายตัวสูงเกินไปต่างหาก เอาตัวนี้แหละ”


              ไม่แน่ใจนักว่าทำไมแบคฮยอนจึงยืนกรานอย่างหนักแน่น ผู้ชายคนหนึ่งจะต้องการเสื้อคลุมชุดนอนสีขาว พิมพ์ลายดอกเบญจมาศ ทำจากผ้าซาตินที่ยาวไม่ถึงเข่า ราวกับชุดคอสเพลย์ของดาวยั่วบนปกหนังสือปลุกใจเสือป่าไปทำไม แต่ก่อนจะทันคิดหาคำตอบ อีกฝ่ายก็โยนเสื้อคลุมอาบน้ำทั้งสามตัวลงบนเคาน์เตอร์แล้วหันมาบอกว่า “ขอบคุณนะ” เพื่อมัดมือชก “ขอบคุณมาก ชานยอล”


              เขาจะพูดอะไรได้... ในเมื่อการพยายามไม่จ้องดูชุดเจ้าปัญหาก็นับว่ายากอย่างยิ่งแล้ว ร้อยโทปาร์ค ทหารหนุ่มผู้มีอนาคตไกลจะไม่มายืนหูแดงก่ำ น่าสังเวชยิ่งกว่าอะไรในห้างสรรพสินค้าแน่ ๆ ล่ะ!


              ระหว่างทางกลับบ้าน แบคฮยอนวางไหกิมจิจากครอบครัวไว้ข้างตัว ขณะเบียดเข้ากับประตูรถเพื่อให้มีที่เหลือ ชานยอลได้ยินเสียงครืด ๆ ราวกับเสียงฟ้าร้องดังมาจากที่ไกล ๆ แต่เท่าที่เห็น ท้องฟ้าก็ยังแจ่มใสดี แดดยามเย็นเต้นระริกอยู่เหนือหลังคามัสยิดนิกายชีอะห์ซึ่งมองเห็นได้ในระยะสองร้อยหลา


              “ได้ยินเสียงไหม แบคฮยอน”


              “เสียงอะไร”


              “เสียงเหมือนฟ้าร้อง”


              อย่างที่เขาสงสัย อีกฝ่ายเอื้อมมือไปแตะที่ปากไห “เปล่านี่”


              “ฉันคงหูฝาดไปเอง”


              คราวนี้ผู้ติดตามยกไหกิมจิขึ้น วางบนตักและกอดแน่น “พักสักหน่อยดีกว่า จะถึงบ้านแล้ว”


              ชานยอลยิ้ม “ภายในครึ่งชั่วโมง มาที่ห้องทำงานนะ ฉันจะตัดผมให้”


              “ต้องเร็วอย่างนั้นเลยหรือ... ”


              ชายหนุ่มร่างสูงหันไปมองไหกิมจิอีกครั้ง แบคฮยอนโน้มตัวลงกอดมันอย่างหวงแหน ขณะสบตาเขาอย่างแน่วแน่ “ต้องเร็วอย่างนั้นแหละ” ร้อยโทปาร์คกระซิบเสียงเย็น “ต้องเร็วอย่างนั้นเลย”

     






                หมอนั่นรู้แล้วหรือไง!


              หัวใจเต้นตุบตับ ใจเย็น ๆ ในนี้มีกล้องวงจรปิด แบคฮยอนบอกตัวเอง แกล้งทำเป็นเปิดไหไม่ได้ แล้วเข้าไปในห้องน้ำเดี๋ยวนี้ เร็วเข้าเดี๋ยวนี้!


                ชายหนุ่มร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึก แกล้งทำเป็นเปิดไหล้ำค่าใบนั้นไม่ได้ และกลัวว่าจะทำให้กิมจิที่อยู่ภายในหกเลอะเทอะ ก่อนจะอุ้มมันเข้าไปในห้องน้ำ ดึงจุกไม้ที่ปิดไหอยู่ออกอย่างง่ายดาย ล้างมือให้สะอาดและล้วงลงไป...


              มันอยู่ตรงนั้นเอง... หัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนกลองขณะดึงเอาถุงซิปล็อกขึ้นจากก้นไห ภายในบรรจุรูปถ่ายของชายคนหนึ่ง อายุไล่เลี่ยกับแบคฮยอนอย่างไม่ต้องสงสัย ชายคนนั้นสวมเสื้อคอเต่าสีเบจกับเสื้อคลุมสีน้ำตาล กำลังอ่านหนังสืออยู่บนหอระฆัง ที่ไหนสักแห่ง ไกลออกไป... ชายคนที่ว่ามีหางคิ้วตกลง และมีมุมปากซึ่งยกขึ้นด้วย


              แค่อยู่ที่ในปลอดภัยก็พอแล้ว ชายหนุ่มร่างเล็กคิด อย่างน้อยจงอินก็ว่าอย่างนั้น


                นอกจากรูปถ่ายแล้ว สิ่งที่ทำให้ร้อยโทปาร์คสงสัย และเกือบจะนำแบคฮยอนไปสู่ชะตากรรมอันไม่น่าพิสมัยก็อยู่ตรงนั้นด้วย เป็นสีดำมะเมื่อม ขนาดกะทัดรัด เหมาะมือ


              โทรศัพท์มือถือตกรุ่น หน้าตาธรรมดาอย่างที่สุดเครื่องหนึ่งนั่นเอง


              แบคฮยอนรีบกดปุ่มเปิดหน้าจอ มือสั่นเทิ้ม หน้าจอโทรศัพท์สาดแสงสีเขียวอมเหลืองออกมาทันที แจ้งว่ามีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับ


              อย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าจะติดต่อกับชายในภาพอย่างไร

     






              เขาจะไม่ยอมถูกหลอกแน่


              ชานยอลเคาะนิ้วชี้ข้างหนึ่งกับโต๊ะอย่างประสาทเสีย กรรไกรตัดผมวางอยู่บนนั้นด้วย เป็นสีเงิน ทอประกายคมกริบพอ ๆ กับดวงตา


              เพราะมักกลายเป็นสีแดงอย่างควบคุมไม่ได้ หูของเขาจึงอาจสร้างความรำคาญใจให้บ่อยครั้ง แม้จะเป็นอย่างนั้น ทักษะการฟังของร้อยโทปาร์คก็ยังอยู่ในระดับที่โอ้อวดได้ ทันทีที่รู้ความ ชานยอลถูกฝึกฝนให้ฟังเสียง แยกแยะเสียงออกจากกัน และตามเสียงไปอย่างเข้มงวด เขาไม่ได้เป็นแค่นักเรียนดีเด่นในโครงการยุวชนแนวหน้า ซึ่งผลิตบุคลากรรุ่นใหม่เพื่อป้อนสู่ท้องไส้อันอิ่มเต็มอยู่เสมอของพรรคแรงงานเท่านั้น แต่ยังเป็นลูกชายของนายทหารมีชื่อ และเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพประชาชนมาโดยตลอดด้วย


              เสียงครืด ๆ นั้นดังมาจากไหกิมจิของแบคฮยอน ชานยอลแน่ใจ... แน่ใจเหลือเกินจนเกือบจะอุปาทานว่าเห็นอาการสั่นไหวของมันด้วยซ้ำ และการที่ผู้ติดตามโอบอุ้มมัน พยายามปกป้องมันอย่างผิดสังเกต ก็ยิ่งทำให้ความเคลือบแคลงที่มีอยู่แต่แรกนั้นเพิ่มพูน


              “เพจเจอร์” ชานยอลรำพึงกับตัวเอง “หรือเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ” แต่จะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อเครื่องส่งสัญญาณวิทยุนั้นยิ่งกว่าล้าสมัย มันอาจเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ก่อการลับ เมื่อครั้งที่ประดาทหารของพระจักรพรรดิญี่ปุ่นยังเพ่นพ่านอยู่ทั่วคาบสมุทรเกาหลี แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่


              แบคฮยอนเป็นคนของพลเอกชเว เขาหันไปคว้ากรรไกรขึ้นมา และปล่อยให้มันส่งเสียงฉับ ๆ อย่างมุ่งร้ายบ้าง ยังไงก็เป็นคนของแร้งเฒ่า...


                ได้ยินเสียงเคาะประตูสามครั้ง เหยื่อของเขามาแล้ว


              “เข้ามา” ชานยอลบอก


              มือข้างหนึ่งแง้มประตูเปิดออกอย่างเงียบเชียบ ขาข้างหนึ่งก้าวเข้ามาก่อน และร้อยโทปาร์คที่กำลังทอดสายตาลงต่ำก็เกือบจะสำลัก


              ผมของแบคฮยอนเปียกน้ำ ได้กลิ่นหอมของสบู่ซึ่งวันนี้ดูจะรุนแรงกว่าปกติ ริมฝีปากของอีกฝ่ายเผยอ เป็นสีแดงเรื่อพอ ๆ กับผิว ชายหนุ่มร่างเล็กสวมเสื้อคลุมชุดนอนเจ้าปัญหา อย่างที่ชานยอลคิด ความยาวของมันแทบไม่ปรกเข่าผอม ๆ ของแบคฮยอน ผ้าซาตินสีขาวแนบไปกับสัดส่วนอันบอบบาง คล้ายจะแตกหัก ผู้ติดตามดูเหมือนนกกระสาบาดเจ็บซึ่งกระโดดออกมาจากนิทานเรื่องชายหนุ่มกับนกกระสา ในเรื่องนั้นนกกระสาจำแลงกายเป็นหญิงสาว ทอผ้าอยู่หลังฉากเพื่อให้ชายหนุ่มนำไปขาย ชายคนดังกล่าวผิดสัญญาที่ว่าจะไม่แอบดู ท้ายที่สุด นกกระสาจึงจากไป


              ราวกับผ้าซาตินที่ทั้งเย็นและลื่นนั้นคือผ้าที่แบคฮยอนในร่างนกกระสาทอขึ้น และถ้าเขาแอบดูโดยเสียมารยาท ก็จะเห็นอีกฝ่ายกำลังทึ้งขนของตัวเองด้วยจะงอยปาก นำมาทอเป็นผ้าซึ่งหายากและมีราคาแพง ชายหนุ่มร่างเล็กอาจจะเป็นนกกระสาจริง ๆ ก็ได้ เพราะตลอดแขนและขานั้นเป็นชมพูเรื่อเสมอกัน แทบจะมองไม่เห็นขนเลยสักเส้น


              เสียงกรรไกรตกกระทบพื้นโต๊ะปลุกชานยอลตื่นจากจินตนาการ เรียกสติสัมปชัญญะคืนมาจากดินแดนอันไกลโพ้น


              ไม่มีใครจงใจสวมชุดใหม่ที่ยังไม่ได้ซักแน่


              แบคฮยอนต้องการอะไรบางอย่าง

     






              เขาอาจทำสำเร็จก็ได้


              ได้ยินเสียงฉับ ฉับ เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขณะปอยผมสีดำสนิทร่วงลงบนพื้นห้อง น้ำลายเหนียวขึ้น และชีพจรของแบคฮยอนก็ยังเร็วด้วย ไม่ใช่เพราะความตื่นเต้น แต่เป็นความกลัวผสมกับความละอายใจ


              “นายตัดผมมานานแล้วหรือ”


              “พ่อสอนให้” ชานยอลตอบอย่างสงบนิ่ง “พ่อตัดให้ฉันและสอนให้ฉัน มันจำเป็นสำหรับโชซอนอินมินกุน”


              ชายหนุ่มร่างเล็กกลืนน้ำลาย “ฟังดูเข้าที”


              “อยากรู้อะไรอีกไหม”


              “ไม่... ” เขาตอบก่อนจะยั้งตัวเองได้ทัน “ฉันต้อง อยากรู้ ด้วยหรือไง”


              อีกฝ่ายเดินอ้อมมาข้างหน้า “ถามตัวเองซี่... แบคฮยอน”


              ผู้ติดตามจอมปลอมหลับตา กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อร้อยโทปาร์คโน้มตัวลง ใช้กรรไกรและหวีซี่ถี่ค่อย ๆ เล็มผมม้าอย่างใจเย็น


              ชานยอลอยู่ใกล้เหลือเกิน ใกล้เสียจนลมหายใจอุ่น ๆ ของชายหนุ่มร่างสูงสัมผัสจมูกเขา แบคฮยอนได้กลิ่นเหล้า... อาจจะเป็นบรั่นดี ชานยอลดื่มมาหรือ... แล้วดื่มทำไม


                จู่ ๆ อีกฝ่ายก็หยุดมือ ทำให้อกที่เสียดร้าวของเขาแทบจะระเบิดออกด้วยแรงส่งของชีพจร แบคฮยอนลืมตาขึ้น ตัวแข็งทื่อเมื่อพบว่าดวงตาของชานยอลอยู่ห่างจากดวงตาของตัวเองเพียงหนึ่งฝ่ามือกั้น


              “มีอะไรจะบอกฉันหรือเปล่า” ร้อยโทปาร์คหยั่งเชิง


              ลงมือเดี๋ยวนี้! ส่วนหนึ่งในใจกรีดร้อง ลงมือ!


                แต่สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มร่างเล็กทำได้คือผงะ พยายามลุกขึ้นและก้าวถอยหลัง ชานยอลคว้าสาบเสื้อคลุมชุดนอนไว้ได้ มันแยกออกจากกันและเผยให้เห็นผิวเปลือยเปล่าข้างใต้ แบคฮยอนไม่ได้สวมชุดนอน


              เขาสวมแต่เสื้อคลุมชุดนอน...


              ทันทีที่สัมผัสถูกผิวของผู้ติดตาม เขาเห็นร้อยโทปาร์คสูดลมหายใจเข้าทางปาก เป็นเสียงหวีดหวิวที่ทำให้ลมหายใจของแบคฮยอนขาดห้วง


              “ฉันรู้ความลับของนาย” ชายหนุ่มร่างเล็กเอ่ยเสียงแห้ง “รู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ชานยอล... ”






    #ฟิคเปียงยาง

    คือจะบอกว่าเรื่องนี้น่าจะมีฉาก CUT ค่ะ แบบว่าดูทรงเนื้อเรื่องแล้วไม่น่าจะเลี่ยงได้ 555

    ยังไม่เคยลง CUT เป็นจริงเป็นจังเลย แล้วก็ไม่ได้เขียนฉาก CUT เต็มฉากมาหลายปีแล้วด้วย

    ยังไงก็ช่วย ๆ กันลุ้นหน่อยน่อววว 555







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×