คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : An accident or not ?? 4
An accident or not ??
“นารุโตะ!!! ผลตรวจนี่มันอะไรน่ะ!!!”
“อ๊ะ!!!! ”
เด็กสาวสะดุ้ง ดวงตาสีฟ้าคลอน้ำใสๆหันควับ มองผู้มาใหม่อย่างตื่นตระหนก!!!
แล้วรีบหันหลังให้คนที่เอ่ยถาม มือคว้าเอาเสื้อนอกสีส้มมาสวมร้อนรน
มือที่ว่างยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลเป็นทางจนแขนเสื้อเปียกชื้น
“มะ มีอะไรรึเปล่า ป้าซึนาเดะ”
“อย่าเปลี่ยนเรื่อง บอกมาเธอใช้มันทำไม ที่ทดสอบการตั้งครรภ์น่ะ!!!” โฮคาเงะสาวขึ้นเสียง
“อย่าบอกนะว่า....”
“อ๊ะ!!จะทำอะไร น่ะ ปล่อยผม!!!”
นารุโตะตะโกนลั่นที่หญิงสาวฉุดมือลากเขาเข้าไปใกล้แล้วรูดซิบแจ็คเก็ตออกอย่างแรง ด้วยแววตาตื่นตกใจ
‘อย่าได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลยนะ เจ้าหนู!!!’
ครืด~~~!!!!
ชายเสื้อนอกถูกปัด คนที่เพิ่งหยุดร้องไห้ไปหมาดๆ หลับตาหันหน้าหนี
นึกอยากจะหายไปจากโลกใบนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เรื่องทุกอย่างมันจบซักที
“บ้าน่ะ นารุโตะ ไม่จริงใช่ไหม!!!”
ซึนาเดะเอ่ยไม่เชื่อสายตา ก็ในเมื่อสิ่งที่หล่อนเห็นภายใต้เสื้อแจ็คเก็ตนั่น
ดูยังไงก็สรีระของเด็กผู้หญิง!!!!
มือของหญิงสาวยังกำอยู่ที่ริมเสื้อนอกมีหยดน้ำใสๆหล่นลงมา ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นดู
เจ้าหนูที่มีฝันยิ่งใหญ่ของเธอกำลังร้องไห้ เสียน้ำตา..........
“ฮึก ฮึก ป้า...ซึนาเดะ..ฮืออออ”
“นารุโตะ อย่าร้องสิ เด็กดี ใจเย็นแล้วเล่าซิ ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”
คุโนะอิจิหญิงปรับเสียงและสีหน้าให้อ่อนลง แล้วดึงเด็กน้อยในสายตาของเธอมากอดเอาไว้
ลูบหลังเบาๆ หญิงสาวคุกเข่าลงเจ้าหนูน้อยกอดเธอแน่นเช่นกัน
‘นี่คงอดทนเก็บไว้คนเดียวมานานแล้วแน่ๆ’ มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากดวงหน้าใสของอีกฝ่าย
“วันงาน..ฮึก...ครบรอบหมู่บ้าน..ฮะ..ฮึก”
ซึนาเดะนึกออกทันที วันนั้นเธออยู่ในเหตุการณ์ด้วย เห็นเจ้าหนูดันคว้าสาเกของคาคาชิมาดื่มแล้วเดินไปทั่วงาน
เธอมองจากชั้นบนท่าทางตอนนั้นดูนารุโตะสนุกมาก เลยไม่อยากจะบ่นว่าอะไร
หลังจากนั้นหล่อนหลบเข้าไปคุยกับนินจาหน่วยลับสักครู่ก่อนออกมาร่วมงานอีกที
ตอนนั้นเจ้าเด็กอุจิวะเต้นรำอยู่กับเจ้าหนูของเธอที่อยู่ในร่างเด็กสาวซะแล้ว ท่าทางจะเมาทั้งคู่อีกต่างหาก
เห็นสีหน้ามีความสุขของทั้งคู่ก็ไม่อยากขัด ตอนแรกคาคาชิจะเข้าไปห้าม
แต่เธอเองล่ะ ที่บอกว่าไม่เป็นไร ปล่อยเด็กๆบ้างก็ได้
แล้วพองานเลิกเธอยังจำได้ว่าบอกคาคาชิให้พานารุโตะกับซาสึเกะไปส่งที่บ้านแต่
เด็กหนุ่มอุจิวะนั่นไม่ยอม จะกลับเองและยืนยันว่าจะไปส่งนารุโตะท่าเดียว
ทั้งที่หน้าแดงเพราะฤทธิ์เหล้าสาเกไม่พอยังเดินเซหน่อยๆอีกต่างหาก
แต่ก็เก่งที่ยังอุตส่าห์แบกเจ้าหนูนารุโตะที่หลับไม่รู่เรื่องไว้ได้โดยไม่ล้ม
ตอนนั้นเธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรเลยปล่อยไป เพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็อยู่ทีมเดียวกันคงจะไม่มีปัญหา
หลังจากทวนความจำแล้วแต่เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าตัวยุ่งของเธอถึงได้มาอยู่ในสภาพนี้ได้
“ซาสึเกะได้ไปส่งเธอที่บ้านรึเปล่า”
คำตอบดั่งคาด นารุโตะส่ายหัวพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลบังการมองเห็นจนมองอะไรเบลอไปทุกอย่าง
“ผม...กับ ฮึก ซาสึเกะ...ฮึก ...ร่าง ฮึก ผู้หญิงอยู่...” แรงสะอื้นทำให้เริ่มพูดเป็นประโยคได้ยากลำบาก
แต่ไม่จำเป็นต้องพูดหญิงสาวก็รู้
“ป้า....ผม..ฮึก ฮึก...ท้อง.กับหมอนั่น..ฮึก ..โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”
ครั้งนี้เด็กสาวเป็นฝ่ายโผเข้าหาอ้อมกอด หวังจะได้แบ่งเบา ทั้งที่สัญญากับตัวเองจะเข้มแข็งแต่เรื่องนี้หนัก.....
หนักหนาเกินไปสำหรับเขาเสียแล้ว
ซึนาเดะจับไหล่บอบบางแน่น พยายามอย่างที่สุดที่ถ่ายทอดความเข้มแข็งและความเป็นห่วงไปให้อีกฝ่ายได้รับรู้
ก่อนเอ่ยเรียบนิ่ง น้ำเสียงเปี่ยมเหตุผล
“เธอต้องบอกซาสึเกะ”
“ไม่ !!ไม่ต้อง!!! หมอนั่นจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยทำอะไรไว้น่ะ!! ฮึก”
คนที่ได้ยินขึ้นเสียงแทบจะทันที ตอนนี้เด็กสาวนัยน์ตาสีฟ้าสดสุดจะทนแล้ว
น้ำตาที่พยายามเก็บกลืนเอาไว้ข้างในเริ่มจะทะลักจนหยุดไม่ได้ เหมือนกับเขื่อนที่แตกพัง
ไม่อาจกั้นน้ำที่เอ่อท้นเชี่ยวกรากกระนั้น
นารุโตะทิ้งตัวลงพิงข้างฝาห้อง กอดเข่าตัวเองให้แน่น แล้วขดตัวเองให้เล็กลงหรือถ้าหายไปได้ยิ่งดี
ซึนาเดะพยายามพูด แต่อีกฝ่ายเงียบลงเก็บเสียงสะอื้นหากน้ำตายิ่งไหลหนัก
มือเกาะกุมอยู่ที่มือของคุโนะอิจิหญิง พร่ำแต่คำเดิมซ้ำๆว่า
“อย่าบอก ฮึก ซาสึเกะ ฮึก อย่าบอก อย่าบอก.....”
หญิงสาวทรุดตัวลงข้างๆแล้วกอดนารุโตะเอาไว้อีกครั้งให้คลายกังวลแม้จะรู้ดีไม่ได้ช่วยอะไรมากเลยก็ตาม
มืออุ่นลูบหัวเบาๆ
ไม่รู้ว่าทำไมเด็กหนุ่มที่เข้มแข็งและกล้าบ้าบิ่นจะกลับกลายมาเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ร้องไห้อยู่เพียงลำพังได้อย่างไร
นี่ถ้าหล่อนไม่มารู้ เด็กคนนี้จะแบกรับมันไหวล่ะหรือเพียงลำพัง
เด็กที่ตั้งแต่เกิดไม่เคยคิดว่าจะต้องมารับภาระของการเป็น ผู้หญิง..... เป็นแม่
.
หรือแม้แต่การอุ้มท้อง.... คลอดลูก ..........
“เธอตั้งใจจะทำยังไงต่อไป อย่าลืมสิเธอเพิ่งจะ 14 เท่านั้น แล้วไหนจะค่าเลี้ยงดูเด็กอีก คนเดียวจะไหวแน่รึ”
และประโยคที่ไม่คิดว่าตนเองจะพูดก็หลุดออกมา “เอาออกไหม”
และประโยคนั้นทำให้หล่อนตระหนักถึงความเข้มแข็งที่ยังซุกซ่อนอยู่กับคนตรงหน้า
ร่างที่กำลังสะอื้นหยุดนิ่งฟังทันที และตอบอย่างเด็ดเดี่ยว ไร้ความลังเลใจใดๆ!!!!!
“ไม่ว่ายังไง ผมจะคลอดเด็กคนนี้ และจะเลี้ยงเด็กคนนี้แน่นอน ถึงแม้ว่า
.......เด็กคนนี้....จะไม่มีพ่อก็ตาม”
ซึนาเดะยิ้มออกมาหลังจากได้ฟังประโยคนั้น
“ค่อยดูเข้มแข็งสมจะเป็นโฮคาเงะในอนาคตหน่อย
.แต่ฉันว่า....
สักวันเจ้าหนูซาสึเกะนั่นก็ต้องรู้ ท้องเธอจะโตขึ้นทุกวัน แล้วจะปิดยังไง และอีกอย่าง
เธอทำภารกิจเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ เพราะอันตรายเกินไปกับเด็ก เรื่องนี้ยังไงก็ต้องบอกคาคาชิ”
“ครูคาคาชิผมบอกแน่แต่...ไม่ว่ายังไงซาสึเกะก็รู้ไม่ได้!!”
หญิงสาวทอดถอนใจนึกถึงเด็กหนุ่มตระกูลอุจิวะ หล่อนมั่นใจเด็กคนนั้นมีความรับผิดชอบมากพอ
และดูเป็นห่วงนารุโตะอยู่มากทีเดียว จะเพราะอะไรถ้าไม่ใช่เพราะรักนั้นได้บังเกิดมีขึ้นแล้วในใจ
เพียงแต่จะรับเรื่องนี้ได้รึเปล่า ขนาดนารุโตะเองยังดูเหมือนจะรับไม่ได้เลย
คุโนะอิจิหญิงนึกอะไรขึ้นได้จึงลองถามหยั่งเชิงร่างที่นั่งเช็ดน้ำตาอยู่ดู
“ตระกูลอุจิวะ ไม่สิ ซาสึเกะต้องการฟื้นฟูตระกูล ไม่คิดหรือว่านี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับเขา เรื่องลูกน่ะ”
นารุโตะมีปฏิกิริยาทันที
“ทำไมหมอนั่นจะต้องดีใจด้วย ในเมื่อซาสึเกะออกจะ
”
“ไม่ชอบเธอ” ซึนาเดะต่อท้ายประโยคให้ฉับพลัน
นารุโตะได้แต่พยักหน้าน้ำตาเริ่มไหลอีกครั้ง มันทรมานนะกับที่ต้องอดทนเก็บงำในสิ่งที่เรียกว่า รัก
ทั้งที่อยากจะให้รู้ อยากให้ซาสึเกะรู้ รู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องความรู้สึกที่เขามี เรื่องความสัมพันธ์ที่หมอนั่นลืม
และ ที่สำคัญเรื่องลูก!! ลูกของเขากับซาสึเกะ!!
แต่ทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น มันจะเจ็บปวดสักแค่ไหน!!!
ซึนาเดะเองก็รู้ว่าเจ้าหนูของเธอมีใจให้ฝ่ายนั้นมานานแล้วแต่ไม่ยอมรับใจตัวเอง
ที่วิ่งวุ่นมาหาเราให้ช่วยรักษาซาสึเกะคุงครั้งนั้นก็เพราะเหตุผลนี้สินะ
“และสุดท้ายที่ฉันอยากจะถาม
..”
นารุโตะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว ดวงตารื้นน้ำไม่ขาดสาย
“เธอแน่ใจได้ยังไงว่าซาสึเกะลืมเรื่องเมื่อคืนนั้น......คืนที่อยู่กับเธอ”
“..............................” นารุโตะมองค้างนิ่งงัน
ซึนาเดะถอนใจอีกหน ก่อนที่จะบีบหัวไหล่เด็กสาวเบาๆเพื่อคลายกังวล แล้วยิ้มให้
“ดูสิ นี่เหรอจะเป็นแม่คน อุ้มเด็กยังไม่เป็นเลยมั้งเนี่ย แล้วชุดนี่อีก ใส่ทำไมหนาๆรัดๆ ฉันขอสั่งห้ามเลยนะ
ถอดเสื้อออกๆ เดี๋ยวฉันจะหาชุดมาให้ใหม่ แล้วผ้ารัดอกน่ะไม่ต้องใช้แล้ว
มันจะทำให้น้ำนมไหลไม่สะดวกหลังคลอด”
หญิงสาวบ่นพลางกุลีกุจอจัดนู่นจัดนี่ให้กับนารุโตะที่เริ่มจะยิ้มได้ ซึนาเดะถือโอกาสตรวจร่างกายให้ด้วยเลย
“เกือบจะเดือนแล้วนี่ มีอาการแพ้ท้องบ้างรึยัง”
“อือ แต่ไม่รู้ว่าใช่เปล่า ได้กลิ่นกับข้าวแล้วจะแหวะ แล้วก็อยากกินอะไรเปรี้ยวๆยิ่งเปรี้ยวยิ่งชอบ”
หญิงสาวหัวเราะพรืด เจ้าเด็กอวดดีคนเก่าทำหน้าไร้เดียงสาก็เป็น
“นี่ขนาดท้องเกือบเดือนนี่ยังไม่ค่อยรู้อะไรเลยเหรอเนี่ย ”
นารุโตะทำหน้างง
“มันต้องเป็นทุกคนเลยรึเปล่า”
“ไม่หรอก แต่ส่วนมากจะเป็นนะ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ไปปฏิบัติภารกิจลำบากน่ะสิ”
“ยังจะห่วงภารกิจอีก เธอทำได้แค่ช่วง 2-3 เดือนแรกเท่านั้นแหละและต้องเป็นภารกิจระดับ c
ลงมาเท่านั้นหลังจากนั้นน่ะห้ามเด็ดขาด”
หญิงสาวสังเกตเห็นว่านารุโตะสีหน้าหม่นลง นี่คงจะนึกถึงซาสึเกะล่ะสิ
“แน่ใจจริงๆน่ะเหรอว่าจะไม่บอกซาสึเกะ
“อือ”
“ช่วงที่ยังต้องไปปฏิบัติภารกิจก็อดทนหน่อยแล้วกัน เพราะยังไงก็คงเลี่ยงการพบปะกันไม่ได้หรอก”
“ผมรู้แล้ว ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงหรอกฮะ
ก๊อก ก๊อก ~~
“ใครมากัน” ซึนาเดะมองหน้าเด็กสาวที่ส่ายหัวช้าปฎิเสธ แล้วลุกขึ้นไปดู
แกร๊ก แอ๊ด~~~
“นารุโตะ ว่างรึอยู่รึปะ....”
ปัง!!!
ร่างที่เปิดประตูชักมือปิดแทบไม่ทัน คนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือคนที่นึกถึงและพูดถึงกันเมื่อสักครู่
“ซาสึเกะมา!!!!”
นารุโตะตะโกนตอบซึนาเดะที่ทำหน้าสงสัย แล้วรีบรูดซิบที่เสื้อ
ขืนออกไปทั้งแบบนั้นได้รู้แน่ว่าเขาไม่ใช่เด็กชายอีกแล้ว
เด็กหนุ่มที่ยืนรอแปลกใจที่อยู่ๆพอนารุโตะเห็นเขาก็ปิดประตูใส่หน้าซะนี่
“เฮ้ อะไรของนาย เจ้าคนไร้มารยาท คนอุตส่าห์มาหานะ”
ซาสึเกะตะโกนว่าทั้งที่คำพูดที่อยู่ในหัวน่ะไม่ได้คิดจะว่าด้วยซ้ำ จะถามว่าเป็นอะไรรึเปล่าต่างหาก
แล้วก็ฉันเอาส้มมาฝาก แต่สักพักใบหน้าขาวก็โผล่ออกมาจากหลังประตู
“โทษที เออ คือ ฉันลืมอะไรนิดหน่อยน่ะ เอ้า เข้ามาสิ ท่านโฮคาเงะอยู่ด้วยนะ”
“ช่างเหอะ นี่ส้ม เห็นหมู่นี้ชอบกินนักนี่ เจ้าตะกละเอ๊ย”
‘นายจะรู้ไหมความหวังดีของนายทำฉันเจ็บปวด’
ซาสึเกะเดินเข้าไปเห็นหญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาก็ค้อมตัวแสดงความเคารพก่อนที่จะเข้าไปนั่งอีกฝั่ง
เจ้าบ้านเดินเข้ามาแล้วเลยเข้าครัวไปพร้อมกับถุงส้มในมือ พอเด็กหนุ่มเห็นก็ลุกขึ้นเดินตามเข้าไป
แต่ก็โดนเสียงหญิงสาวห้ามไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ เธอ..ซาสึเกะคุงใช่ไหม”
“ครับ”
“มานั่งคุยเป็นเพื่อนกันหน่อยสิ ระหว่างเจ้าหนูไปเอาน้ำน่ะ”
ความจริงหล่อนตั้งใจจะให้นารุโตะได้มีเวลาปรับสภาพจิตใจที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มอุจิวะ
หลังจากที่นั่งร้องไห้คร่ำครวญมาหมาดๆ ‘หน้าตาท่าทางดี แต่ปากหนัก ทิฐิสูง’
ด้วยที่ผ่านอะไรมามากทำให้หญิงสาวมองนิสัยเด็กหนุ่มได้ไม่ยากเย็นนัก
“เธอ เอ่อ ฉันเรียกซาสึเกะคุงแล้วกัน เป็นเพื่อนกับเจ้าหนูมานานแค่ไหนแล้ว”
ซาสึเกะรู้สึกไม่พอใจนิดๆที่โฮคาเงะสาวคนนี้เรียกนารุโตะแบบสนิทสนมคุ้นเคย แต่ก็เก็บสีหน้าให้เฉยเอาไว้
แต่มีรึอย่างซึนาเดะ ฮิเมะคนนี้จะไม่รู้
“ก็นานกว่าที่คุณรู้จักนารุโตะก็แล้วกัน”
‘นี่ขนาดว่าเก็บสีหน้าแล้ว ยังพูดแสดงความไม่พอใจได้นิ่งมากเลยนะเนี่ย’ โฮคาเงะสาวคิด
“เธอนี่ปากร้ายกว่าที่คิดอีกนะ แต่คนตรงแบบนี้แหละดี ฉันชอบ”
ตรงไปตรงมาแบบนารุโตะแต่แสดงออกต่างกันเท่านั้นสินะ
ยังไม่ทันได้คุยอะไรมากก็มีเสียงดังมาจากในครัว
เพล้ง ~~ โครม!!!
คนที่ลุกวิ่งไปถึงตัวนารุโตะคนแรกคือเด็กหนุ่มตระกูลนินจาอัจฉริยะ
ซาสึเกะเข้าไปประคองร่างที่แน่นิ่งขึ้นมา
ใบหน้าที่อิงไหล่เขาซีดจัดเหมือนครั้งก่อน เหงื่อเย็นชืดผุดพราวตามใบหน้าขาว
‘เป็นอีกแล้วเหรอเนี่ย’ เด็กหนุ่มร่างสูงคิด คิ้วขมวดเข้าหากัน สีหน้าเคร่งเครียด ไม่นานโฮคาเงะสาวก็ตามเข้ามา
“อุ้มไปไว้ในห้องเลย เดี๋ยวฉันดูอาการเอง”
ซาสึเกะทำตาม หลังจากวางนารุโตะลงบนเตียงนุ่ม เด็กหนุ่มจะคลายเสื้อให้แต่ก็ถูกปรามไว้
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่จากร่างที่นอนอยู่แต่เป็นคุโนะอิจิหญิงผู้นำของหมู่บ้าน ซึนาเดะก้มตัวลงวัดชีพจร
ร่างที่นอนอยู่เปิดเปลือกตาอย่างยากเย็น มือไขว่คว้าคล้ายกำลังทรมาน
เสียงแผ่วโหยเล็ดลอดออกมาจากลำคอ ไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ
“ซะ...ซาสึ...เกะ... อย่า..บอก...อย่าบอก....”
“ซาสึเกะคุง ฉันว่าเธอไปรอข้างนอกก่อนดีกว่านะ”
“แต่ว่า!!!!”
พอเห็นสายตาของหญิงสาวก็เถียงไม่ขึ้นเลยต้องเดินออกไปโดยดี ทั้งที่อยากจะอยู่ใกล้ๆคอยดูแล
ร่างที่นอนไร้เรี่ยวแรงนั้น
TBC
ความคิดเห็น