ตอนที่ 14 : สเปก สป๊าค (จบ)
‘คุณก็คงไม่มีเงินไม่ต่างจากฉัน’ เด็กสาวเบะปากมองมาด้วยสายตาดูแคลน
‘เฮอะ! นังหนูน้อยอย่ามาดูถูกหรือสงสารฉัน ฉันมีสองมือและนี่’ คนพูดชี้ไปที่ศีรษะของตัวเองแล้วมองด้วยสายตาสมเพช เวทนา ‘เอาตัวเองให้รอดเถอะ’
ความจริงชายไร้บ้านคืออัจฉริยะด้านศิลปะ นักลอกเลียนแบบ หัวขโมย และนักต้มตุ๋นขั้นเทพในร่างเดียวกันถูกเปิดเปิงจับกุมติดคุกหลายปี มีเพื่อน (อาชญากร) ที่น่าสนใจมากมายในหลายวงการ ตลอดชีวิตซานโดรเข้าๆ ออกๆ คุก ครั้งล่าสุดอินดี้ติสต์แตกพอออกจากคุกก็มาใช้ชีวิตข้างถนนเหมือนคนไร้บ้าน
เด็กสาวเรียนรู้ศิลปะ เทคนิคการวาดภาพมากมายจากชายไร้บ้านซึ่งหาไม่ได้ในมหาวิทยาลัย อาจารย์กับลูกศิษย์ตัวน้อยพากันเดินทางขึ้นเหนือ หยุดแวะพักวาดภาพตามเมืองสวยๆ ของยุโรป ระหว่างการเดินทางพู่กันได้รู้จักเพื่อนๆ (อาชญากร) ของซานโดรตั้งหลายคน
‘อย่าเศร้าไปเลย ทุกการพบเจอ ย่อมมีการจากลา ทุกการสิ้นสุด ย่อมมีการเริ่มต้นใหม่ แล้วนี่ก็เป็นการจากเป็นไม่ได้จากตาย’
หลังจากแยกย้าย ข่าวล่าสุดที่พู่กันได้รับจากเพื่อนๆ ของซานโดรคือเขาได้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่ระบาดหนักในยุโรป (โลก) ในรอบร้อยปี
เธออยากบินไปเคารพหลุมศพของอาจารย์ซึ่งสอนสั่งประสิทธิ์ประสาทวิชาศิลปะให้และดูแลสั่งสอนเหมือนพ่อคนหนึ่ง แต่ก็ไปไม่ได้เพราะติดล็อกดาวน์ การบินเข้าหรือออกประเทศค่อนข้างยุ่งยาก ไว้สถานการณ์โรคโควิด-19 ดีขึ้นเธอจะบินไปเคารพหลุมศพของอาจารย์อย่างแน่นอน
และต่อให้สตรองแค่ไหนลึกลงไปในจิตใจอันเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวเธอให้รู้สึก…เหงา!
“เป็นเด็กเป็นเล็กริอ่านเป็นโจรขโมย” เสียงนุ่มทุ้มลึกซึ่งแฝงไว้ด้วยความอันตรายที่กล่าวหาแทรกเข้ามาในโสตประสาททำให้พู่กันตื่นจากภวังค์ความคิด
“ฉันไม่ใช่โจรหรือหัวขโมย” จิตรกรสาวที่ถูกกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐานเถียงคอเป็นเอ็น คนที่เหมือนโจรเก้าร้อยคือเขาต่างหาก
“ไม่ใช่แล้วลอบปีนเข้าบ้านคนอื่นยามมืดๆ ค่ำๆ ทำไมหรือเป็นนางนกต่อ”
“จะบ้าหรือไงใครเป็นนางนกต่อ บ้าบอ! หัวสมองก็โต้โตแต่คิดได้แต่เรื่องร้ายๆ ใช่ไหม? ฉันเนี่ยอยู่บ้านข้างๆ แค่แวะมาส่องแล้วอบคุกกี้โฮมเมดอร่อยที่สุดในสามโลกมาฝากตามประสาเพื่อนบ้านที่ดี”
อ้อ! ขี้เผือก ชอบสอดรู้สอดเห็น “ประตูมีทำไมไม่เข้าเพี้ยนเรอะ” จาเรดคำรามถามเสียงดังเหมือนหมีขี้โมโห
พู่กันให้นึกฉุน “มันไกลขี้เกียจเดินอ้อม คุณไม่รู้หรือว่าไม่ควรย่องเข้าหาผู้หญิงเวลามืดๆ ค่ำๆ ฉันอาจจะทำร้ายคุณได้”
จาเรดแค่นเสียงฮึด้วยความดูถูก ตัวเท่าลูกหมาดิ้นกระแด่วๆ อยู่ในมือเขายังมีหน้ามาแยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ
จริงอยู่ที่ยัยเด็กนี่ท่าจะดุใช่เล่น แต่รูปร่างผอมบางราวไม้เสียบพริกแค่นี้ไม่คณนามือของเขาหรอก
“งั้นเธอก็เพี้ยนจริงๆ สินะ ถ้าฉันตั้งใจจะเล่นงานเธอละก็ไม่คณนามือหรอก” ภาพมือหนาที่รวบคอเล็กๆ ของยัยตัวเล็กปากเก่งแล้วยกขึ้นจนขาห้อยต่องแต่งในอากาศ ดิ้นกระแด่วๆ ปรากฏขึ้นในหัว
ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น “คุณพูดถูก ฉันผิดเองทีนี้พอใจหรือยัง?” น้ำเสียงฟังเหมือนไม่ได้สำนึกผิดแล้วยังมองแรง ทำหน้าวีนพร้อมเหวี่ยง
ก่อนที่จาเรดจะได้สั่งสอนยัยเด็กเพี้ยนข้างบ้าน สองหนุ่มสาวก็ได้ยินเสียงของผู้บุกรุกคาดว่าจะมากกว่าหนึ่งคน
“ปล่อย!” กดเสียงต่ำสั่ง
จาเรดคำรามต่ำๆ เหมือนเสียงเสือ แต่ยอมปล่อยมือแต่โดยดี
กรอบแกรบ! เสียงเหยียบกิ่งไม้ใบไม้แห้งดังขึ้น
ผู้บุกรุกใกล้เข้ามาแล้ว อะไรนักหนาขอแค่อยู่เงียบๆ ไม่ได้หรืออย่างไร? ชายหนุ่มที่หงุดหงิดหัวเสียหมุนตัวจะเดินไปจัดการผู้บุกรุกชุดที่สอง
มือเรียวเล็กเอื้อมไปคว้าแขนแกร่งหมับ!
“คุณจะไปไหน”
“ก็ไปจัดการไล่ผู้บุกรุกน่ะสิ!”
พู่กันให้นึกสนุกอยาก ‘หลอกผี’ นักล่าท้าผี
โหลดตอนพิเศษฟรี ที่นี่ >
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
