ตอนที่ 15 : หลอกผี…ผีหลอก! (1)
“คุณจะไปไหน”
“ก็ไปจัดการไล่ผู้บุกรุกน่ะสิ!”
พู่กันให้นึกสนุกอยาก ‘หลอกผี’ นักล่าท้าผี
สีหน้านิ่งๆ ติดจะดุของหนุ่มเย็นชาแต่แววตาของเขาที่มองจ้องเธอเขม็งคงคิดว่าเธอเป็นบ้าไม่ก็เพี้ยนขนาดหนัก
พู่กันไม่ถือสา ริมฝีปากอิ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจดูไม่น่าไว้ใจในสายตาจาเรด
“ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
ร่างผอมบางก้าวมายืนขวางทาง ก้าวขามาข้างหน้า จาเรดเผลอก้าวถอยหลังหนีจนกระทั่งแผ่นหลังติดกับต้นไม้
ทำไมเขาต้องถอยหนียัยเด็กเพี้ยนนี้ด้วยนะ!
พู่กันทาบมือบนต้นไม้ด้านหลัง มองบน (ต้นไม้) แล้วจ้องมองเขาเขม็ง
“ฉันปีนต้นไม้ไม่เก่งคุณช่วยส่งฉันขึ้นไปที”
จาเรดพ่นลมหายใจพรืด แอบปีนเข้าบ้านคนอื่นแล้วยังมาขอให้เขาช่วยอีก มันน่าดีดกะโหลก
ผู้ชายฉลาดๆ แบบเขาต้องปฏิเสธแล้วซิ่งหนี แต่ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจทำให้จาเรดยื่นสองมือออกไปรวบเอวเล็กบาง…เอวเล็กขนาดสองมือโอบรอบ ไม่รู้เอาไส้ไปเก็บไว้ตรงไหน จาเรดคิดในใจพร้อมกับจับยกร่างบางขึ้น
ว้าว! แข็งแรงจริงๆ พ่อคุณพ่อขนุนหนัง
มือเรียวคว้ากิ่งไม้หมับ! เหนี่ยวตัวปีนขึ้นไปนั่งบนกิ่งมะม่วงไวปานวอกแล้วยังมีหน้าก้มลงมายิ้มตาหยีให้อีกแน่ะ
“คุณปีนขึ้นขนุนต้นนั้นนะพอฉันพูดจบคุณก็ขย่มแรงๆ”
ชีวิตที่เงียบสงบอันน่าเบื่อของฉัน! จาเรดคร่ำครวญในใจ เดินไปยังต้นขนุนแล้วปีนขึ้นไปความคล่องแคล่วว่องไวปานวอก
นักล่าท้าผีชายสองหญิงหนึ่งเดินถือไฟฉายกวาดไปรอบๆ บริเวณบ้านเรือนไทย
เด็กหนุ่มคนที่ถือไฟฉายเดินนำหน้าท่าจะเป็นหัวโจ๊กเล่าประวัติบ้านเรือนไทยด้วยโทนเสียงเย็นๆ
สายลมเย็นๆ ที่พัดผ่านต้องร่างทำให้นักล่าท้าผีทั้งสามรู้เย็นยะเยือกอย่างไรก็ไม่รู้
หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มเอื้อมมือไปคว้าชายเสื้อด้านหลังของเพื่อนหนุ่มขยุ้มแรงๆ เจ้าของเสื้อหันขวับมามอง “นะ…นั่นเสียอะไร ฉะ…ฉันว่าเรากลับบ้านกันเถอะ” คนพูดยกมือขึ้นลูบขนแขนที่ลุกซู่
“เสียงลม อย่าป๊อดน่า”
“อ่อนวะ! ถ้าจะกลับก็กลับไปคนเดียวเลยไป”
หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มเมื่อถูกเพื่อนๆ พูดจาดูถูกก็กลัวเสียฟอร์มทำเป็นใจกล้าไม่กลัว เดินนำหน้าสองหนุ่ม
“ใครกลัว! กลัวที่ไหน? ผีเผลอมีที่ไหนกัน”
“อยากเจอผีโว้ย แน่จริงก็ออกมาเด้”
สกิลปากหมาบวกสกิลใจกล้าก็มา! อยากเจอผีใช่ไหมเดี๋ยวแม่จัดให้หนักๆ !
เสียงลูกมะม่วงหล่นดังตุบ!
นักล่าท้าผีทั้งสามเงยหน้าขึ้นมองเห็นผีสาวผมยาวตัวขาวซีดหน้าตาเลอะมอมแมมนั่งห้อยขาอยู่เหนือศีรษะ แล้วยังผีชุดไทยสไบเขียวตาแดงก่ำ
“มาหาใครจ๊ะ”
สิ้นเสียงถามยานคางต้นขนุนก็เขย่า ใบขนุนร่วงกราว
หลอนโคตร! นักล่าท้าผีทั้งสามกรีดร้อง สองหนุ่มที่ปากดีบอกไม่กลัวร้องกรี๊ดแต๋วแตกวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปคนล่ะทิศล่ะทาง
ผีขนุนเอ๊ย! จาเรดปีนต้นขนุนกลับลงมา กระโดดลงมายืนบนพื้นในช่วงท้าย ส่ายหน้าไปมาด้วยความระอาเด็กสาวต้นเรื่อง ‘หลอกผี’ ที่นั่งห้อยขาหัวเราะคิกคักอยู่บนกิ่งต้น
แต่ชายหนุ่มยอมรับว่าเรื่อง ‘หลอกผี’ นี้เป็นเรื่องสนุกอันดับหนึ่งจากเรื่องทั้งหมดที่เขาประสบพบเจอมาในหลายเดือน!
จบอีเว้นท์….จาเรดหมุนตัวเดินบ่ายหน้าไปยังบ้านเรือนไทยโดยไม่สนใจเจ้าของเสียงใสที่ร้องเรียกให้ช่วย
แขกไม่ได้รับเชิญทำไมเขาต้องช่วยเหลือด้วย!
พู่กันที่นั่งห้อยขาสวยๆ อยู่บนกิ่งต้นมะม่วงสรรเสริญให้พรอีตายักษ์ขี้เก๊ก แต่ลมเย็นยะเยือกที่พัดผ่านต้องร่างบางแต่ใบมะม่วงไม่ขยับไหวแม้แต่ใบเดียวทำให้ขนที่หลังต้นคอหญิงสาวลุกซู่ พลันหางตาเห็นอะไรเขียวๆ ไม่ใช่ใบมะม่วงแต่เป็นชายสไบสีเขียวสะบัดพลิ้ว
ฮื่อ! ขอให้ไอ้ยักษ์ขี้เก๊กตกนรกขุมที่ลึกที่สุด
พู่กันที่ถือคติไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่เข่นเขี้ยวในใจ ยกสองมือพนมไหว้ปรกๆ แล้วค่อยๆ ยื่นสองมือที่สั่นน้อยๆ ออกไปโอบกอดรอบลำต้นต้นมะม่วง รูดไถลตัวลงไปเหมือนกับลิงค่างจนแขนขาเรียวเล็กรู้สึกแสบแต่ ณ เวลานั้นความเจ็บแสบจากแผลถลอกไปเท่าความกลัว พอเท้าเล็กแตะถึงพื้นเธอก็สวมวิญญาณนักวิ่งโอลิมปิก วิ่งสับขาหน้าตั้ง แหกปากตะโกนเสียงดังโหวกเหวก
“ผี…ผีหลอก”
โหลดตอนพิเศษฟรี ที่นี่ >
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
