ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พัชรประกายแสง : รักนี้แบบนายไม่มีอีกแล้ว (นิยายเกย์)

    ลำดับตอนที่ #5 : โจรปล้นใจ

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 57


      เพชรไม่ได้เจอปิยวุฒิมาเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว ซึ่งเพชรยังคงถวิลหาปิยวุฒิทุกครั้งที่เห็นที่คั้นหนังสือที่ปิยวุฒิมอบไว้  และตอนนี้เพชรชั้นม.6 แล้ว ด้วยความเป็นตัวของเพชรเองทำให้เพชรเป็นที่ชื่นชมของคุรครูและผู้อำนวยการฯ รวมทั้งเพื่อนๆและรุ่นน้องในโรงเรียน ถึงเพชรจึงไม่เก่งกาจไม่ครบทุกทางเหมือนปิยวุฒิ แต่ก็นับได้ว่าตอนนี้เพชรก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ปิยวุฒิเคยยืนมาก่อน คือ เป็นดาวเด่นของโรงเรียน เป็นที่รู้จักของน้องๆและยังเป็นแบบอย่างที่ดีของรุ่นน้อง คงด้วยความเป็นเด็กดีของเพชรจึงทำให้เพชรได้รับความรักและความเอ็นดูจากผู้คนรอบข้างเช่นนี้ 

        เพชรทราบดีว่าตนเองในขณะนี้มาไกลเกินความคาดหมายคือการเป็นดาวเด่นของโรงเรียนหรือบุคคลที่เป็นที่รู้จัก แต่สำหรับเพชรแล้ว ดาวเด่นของเพชรก็หนีไม่พ้นปิยวุฒิชายหนุ่มที่เพชรรัก ปิยวุฒิสำหรับเพชรแล้วก็คือดวงดาวที่สุกสกาวที่ลอยอยู่สูงเกินที่เพชรจักคว้ามา ส่วนเพชรนั้นก็ต่ำด้อยมากเมื่อเทียบกับปิยวุฒิ 

         เพชรยังคงจูบและหอมกับที่คั้นหนังสือที่ถูกทำเป็นพวงกุญแจอย่างนุ่มนวลให้หายคิดถึงชายคนรักที่แสนห่างไกล

         วันหนึ่งทางคุณครูภาควิชาภาษาไทยให้นักเรียนชั้นม.6ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นพี่ใหญ่แล้วนั้นจัดการแสดงละครเวทีเนื่องในวันสุนทรภู่ โดยแบ่งตามคณะสี ซึ่งห้องของเพชรนั้นได้คู่กับห้องสายวิทย์-คณิตห้องที่5 เพราะห้องสายวิทย์-คณิตมีทั้งหมด 5 ห้อง นอกนั้นเป็นสายศิลป์-คำนวณ ภาษา และการงานอาชีพ  เมื่อเหล่านักเรียนม.6ทุกสีทราบดังนั้นก็รีบเสนอชื่อเรื่องที่จักนำมาเล่นในวันสุนทรภู่กันจนครบทุกสีแล้ว เว้นแต่สีห้องวิทย์-คณิตห้องที่5กับห้องศิลป์ฝรั่งเศสที่ยังตกลงกันไม่ได้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงส่งตัวแทนมาประชุมเพื่อหารือถึงการนำผลงานของสุนทรภู่เรื่องไหนมาแสดงเพราะผลงานเด่นๆของสุนทรภู่ก็ถูกสีอื่นๆแย่งไปหมดแล้ว โดยฝ่ายห้อง5ส่ง เพ็ญ หัวหน้าห้องมาคุยกับฝ่ายศิลป์ฝรั่งเศสซึ่งเพชรรับหน้าที่นี้เอง โดยเพ็ญเป็นฝ่ายมาหาเพชรเองที่ห้องสมุดในช่วงพักกลางวัน

        "สวัสดีเพชร" เพ็ญทัก

         "สวัสดีครับ เพ็ญ"

         "สวัสดีค่ะ คุณครูจันจิรา" คุณครูจันจิรายิ้มและรับไหว้

        "คุณครูจันจิราขออนุญาตไปปรึกษากับเพ็ญเรื่องงานสุนทรภู่ก่อนนะครับ" 

        คุณครูจันจิรายิ้ม "ได้ เดี๋ยวครูนั่งแทนเอง" 

         เพชรยกมือไหว้ขอบคุณคุณครูจันจิราแล้วเดินออกจากเคาว์เตอร์แล้วพาเพ็ญไปยังท้ายห้องสมุดซึ่งส่วนท้ายของห้องสมุดนั้นมีห้องกระจกสำหรับเป็นห้องซ่อมหนังสือเก่งที่ชำรุด และเก็บหนังสือใหม่ที่จักขึ้นชั้นในปีการศึกษาหน้า เพชรเลือกหนังสือที่ใช้เป็นข้อมูลไว้ประมาณ 5 เล่ม ซึ่งถูกซ่อมไว้บนชั้นหนังสือมุมหนึ่งของห้องแห่งนี้ 

       "เพ็ญนั่งก่อนครับ" เพชรดึงเก้าอี้ไม้ออกมาให้เพ็ญนั่ง

        "ขอบใจจ๊ะ"
         
         เพชรยิ้มแล้วนั่งบนเก้าอี้ตัวถัดไปแล้วเริ่มวางหนังสือทั้งหมดลงบนตัก แล้วค่อยเลือกหนังสือเล่มหนึ่งแล้วเปิดออก

       "หนังสือที่เราหามาเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับผลงานของสุนทรภู่และวรรณคดีไทยเรื่องอื่นๆ" 

       "เพชร เราว่าผลงานของสุนทรภู่ที่เลือกอยู่นะไม่เหลือแต่เรื่องที่มันไม่เด่นแล้วนะ อย่าง พระอภัยมณี ลักษณวงศ์ สิงหไกรภพ โคบุตร ก็ถูกสีอื่นเสนอเรื่องไปแล้ว หากมีเลือกก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยนิยมหรือไม่เป็นที่รู้จักแล้วนะเพชร อย่างเราจะเอานิราศต่างๆของท่านก็เล่นยาก สุภาษิตสอนหญิงยิ่งยากนักเลย" 

       "เราเห็นด้วยนะเพชร เอาอย่างนี้ซิ เราขออนุณาตคุณครูสุมาลีขอให้เราเล่นวรรณคดีเรื่องอื่นที่ไม่ใช่บทงานของสุนทรภู่ไหม แค่เราสีเดียวเองคงไม่เป็นไร"

       "น่าจะโอเคนะ แต่เราจักเอาเรื่องอะไรอ่ะ" เพ็ญถามอย่างสงสัย

       "วรรณคดีไทยที่มีอยู่ในใจเพชรตอนนี้นะ ก็เรื่อง ไกรทอง ครับ บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2" 

      เพ็ญยิ้มจนแก้มปริ "เอาเลยเรื่องนี้น้องๆต้องชอบมากแน่ๆ" 

       เพชรยิ้ม "ถ้าเพ็ญเห็นชอบด้วยเราก็ดีใจ แต่ต้องดูก่อนนะว่าคุณครูสุมาลีจักอนุญาตให้เราเล่นเรื่องนี้หรือเปล่า" 

       "นั้นซิ นั้นเราไปกันเลยไหม ตอนนี้พักกลางวัน คุณครูเขาน่าจะอยู่ที่ห้องพักครู"

        เพชรพยักหน้าแล้วทั้งสองก็รีบลุกออกจากห้องกระจกนี้ออกไปแล้วออกจากห้องสมุดไป 

       "คุณครูจันจิราครับ ผมกับเพ็ญขอตัวไปพบคุณครูสุมาลีก่อนนะครับ"

        "จ๊ะ" คุณครูจันจิรายิ้มรับ

       ทั้งสองรีบเดินข้างไปยังอาคารเรียนซึ่งไม่ไกลจากห้องสมุดนักซึ่งเป็นอาคารเรียนสำหรับสาขาภาษาต่างๆ โดยห้องพักครูภาควิชาภาษาไทยนั้นอยู่ชั้นสงของอาคาร เพชรกับเพ็ญเข้าไปยังห้องพักครูก็ต้องถอดรองเท้าแล้วนั่งคุกชันแล้วค่อยๆเข้าไปหาคุณครูท่านหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ท่านเดียว เพชรยกมือขึ้นไหว้ 

       "สวัสดีครับ คุณครูลัดลาภรณ์" 

       "สวัสดีค่ะ" เพ็ญกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้เช่นกัน

       "สวัสดีจ๊ะ มาหาครูเหรอเพชร เพ็ญ"

       "คือผมกับเพ็ญมาหาคุณครูสุมาลีครับ คุณครูลัดดาภรณ์"

       "อืม คุณครูเขาอยู่ในห้องนั้นนะเข้าไปเคาะเรียกได้เลย"

       เพชรและเพ็ญยกมือขอบคุณ คุณครูลัดดาภรณ์แล้วค่อยลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องที่คุณครูลัดดาภรณ์บอก เพชรเคาะประตู สักพักประตูก็ถูกเปิดออก ซึ่งภาพที่เพชรเห็นคือ คุณครูสุมาลีและคุณครูมัทรีหัวหน้าภาควิชาภาษาไทยซึ่งรายรอบด้วยนักเรียนตัวแทนสีมานั่งกันจนเต็มห้อง 

       "สวัสดีครับ คุณครูมัทรี สวัสดีครับคุณครูสุมาลี"

       "วันนี้ห้อง 5 กับ ห้องศิลป์ฝรั่งเศสจักมาเสนอชื่อละครหรือ" คุณครูมัทรีถาม

       เพชรกับเพ็ญนั่งลงแล้วชันเข่าเข้าไปใกล้คุณครูมัทรีซึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะ "วันนี้สีผมมาขอคำปรึกษาเท่านั้นครับคุณครูมัทรี"

        "อะไรกันนี้สีอื่นเขาเสนอชื่อกันหมดแล้วนะ เพชร" คุณครูสุมาลีกล่าว

        "ผมทราบครับ แต่สีผมมีเหตุผลครับคุณครูสุมาลี"

        "ไหม เธอบอกเหตุผลที่ยังคิดเรื่องไม่ได้ให้ครูฟังซิเพชร" คุณครูมัทรีเอ็นดูเพชรเพราะท่านทราบว่าเพชรนั้นเป็นเด็กดีซึ่งท่านเคยสอบเพชรมาก่อนตอนเพชรเรียนอยู่ม.1

        "คือว่า ผลงานของท่านสุนทรภู่มีอยู่หลายเรื่องก็จริง แต่ผลงานที่ถือได้ว่าเป็นผลงานน้ำเอกของท่านและเป็นที่รู้จักก็มีอยู่น้อยเรื่องมากเลยครับ ซึ่งสีอื่นเขาก็เอาไปกันหมดแล้ว เช่น พระอภัยมณี ลักษณวงศ์ สิงหไกรภพ และ โคบุตร ซึ่งที่เหลือก็เป็นนิราศ สุภาษิต สวัสดิรักษา ซึ่งยากมากต่อการนำมาดัดแปลงเป็นละครครับ"

       "อืม น่าเห็นใจและจริงอย่างที่เพชรว่าน่ะค่ะคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรีกล่าว

      "แต่วันสุนทรภู่ก็ต้องเล่นละครที่เป็นผลงานของท่านนะค่ะคุณครูมัทรี" คุณครูสุมาลีกล่าวเหมือนไม่ยอม

      "นั้นเอาอย่างนี้ มีวรรณคดีไทยเรื่องไหนบ้างไหมที่สุนทรภู่ท่านแต่งประพันธ์ร่วมกวีท่านอื่น"
     
      "ก็พอมีครับ เป็นเรื่องรามเกียรติ์ บางตอน กับ ขุนช้าง ขุนแผนบางตอน ครับคุณครูมัทรี"

       "นะเราสามารถนำวรรณคดีเหล่านี้มาเล่นได้ไหมล่ะเพชร"

        "ผมเกรงว่ามันจักยากไปอ่ะครับ เพราะอย่างรามเกียรติ์ก็ไม่นิยมเล่นในหมู่ประชาชนอยู่แล้ว ส่วนขุนช้าง ขุนแผน ตัวละครก็เยอะครับ งบที่ทางภาควิชาให้กับสีก็เก่งว่าจักไม่พอเอาครับ"

       "อืม นั้นซินะ" คุณครูมัทรีกล่าวแล้วหันไปทางคุณครูสุมาลี

       "นั้น ครูขอถามว่า พวกเธอจักเล่นเรื่องอะไรล่ะ" คุณครูสุมาลีถามเพชรกับเพ็ญ

        "ผมคิดว่า สีของผมจักแสดงเรื่อง ไกรทอง ครับ"

        "ไกรทอง เหรอไม่เลวนะคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรียิ้ม

        "จะดีหรือค่ะคุณครูมัทรี"

         "อย่างน้อยก็เป็นบทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 กษัตริย์ผู้มีคุณูปการต่อสุนทรภู่มิใช่หรือคุณครูสุมาลี" คุณครูมัทรีพยายามเชียร์เพชร

        "คงได้ค่ะ นั้นครูอนุญาตแล้วให้ห้อง 5 และห้องศิลป์ฝรั่งเศสเล่นละครเรื่อง ไกรทอง" คุณครูสุมาลีเขียนชื่อเรื่องลงในแผ่นกระดาษ

        และแล้ว "พวกหนูไม่ยอมค่ะ" นักเรียนหญิงคนหนึ่งยกมือค้าน

        "ไหน กัลยาบอกครูซิว่าเธอไม่ยอมให้เพื่อนเราเรื่องนี้เพราะอะไร" คุณครูมัทรีถาม

        "ก็ทั้ง 4 สีล้วนเล่นละครที่เป็นผลงานของสุนทรภู่ทั้งนั้นเลย และจะให้มีเรื่องไกรทองเข้ามาเป็นแกะดำในฝูงแกะขาวได้อย่างไรค่ะ"

        "จริงด้วยครับ สีผมก็ไม่ยอมนะครับคุณครู"

         "สุพจน์ เธอใจเย็น อะไรกัน เราก็เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมาในโรงเรียนเดียวกันนี้ เพื่อนเขามีความจำเป็น ทำไมพวกเธอไม่เห็นใจเขา"

        "ผมว่าน่าเห็นใจนะครับ ก็พวกเราเลือกเรื่องที่ง่ายต่อการเล่นละครมากันหมดแล้ว สีของเพชรเขาลำบากทำไมพวกเราไม่เห็นใจเพื่อนกันเลยเหรอ" อนุชิตซึ่งเป็นเพื่อนของเพชรมาตั้งแต่ม.1แต่แยกอยู่กันคนละคนตั้งแต่ม.4 เพราะอนุชิตเรื่องไปเรียนสายไทย-สังคมแทน

        "นั้นซิค่ะ ฉันไม่เห็นด้วยนะที่อีกสองสีจักรังแกสีเพชรกับเพ็ญ" นารีรัตน์ซึ่งเคยเรื่องห้องเดียวกับเพชรมาตั้งแต่ม.1แต่ต้องแยกไปเรียนห้องอื่นตอนม.4 โดยเลือกเรียนศิลป์-คำนวณ

        "สงสัยกลัวว่าจะดีเกินหน้าเกินตาตัวเองแน่เลยเพชร" เพ็ญกระซิบ

        "นั้นผมขอเปลี่ยนบ้าง ที่จริงเรื่องที่สีผมเลือกก็ไม่ชอบนักครับ" สุพจน์กล่าว

         "เอ้าไหนเธอลองเสนอมาซิ สุพจน์" คุณครูสุมาลีถาม

         "ผมขอเปลี่ยนจากโคบุตร ซึ่งเป็นผลงานหนึ่งของสุนทรภู่ที่ผมมองว่าก็ไม่มีคนรู้จักเท่าไร เป็นเรื่องแก้วหน้าม้าครับ"

         "สุพจน์ แก้วหน้าม้า นี้เป็นนิทานพื้นบ้านนะ และไม่มีความร่วมสมัยกับสุนทรภู่เลย"

        "เอาเถิด คุณครูสุมาลี"

         "คุณครูมัทรีค่ะ นี้มันเริ่มจักเลอะไปกันใหญ่แล้วนะค่ะ"

         "สุพจน์เธอไหวหรือที่เลือกเอาเรื่องแก้วหน้าม้ามาเล่น"

         "ผมว่าไหวครับ และอีกอย่างถ้าสีผมได้เล่นเรื่องนี้จักแฮปปี้มากกว่าเรื่องโคบุตรเพราะที่จริงแล้วพวกผมยังไม่เคยอ่านหรือรู้จักโคบุตรเลย จึงขอเลือกนิทานธรรมดาดีกว่าครับ เพราะใครๆก็รู้จักนิทานเรื่องแก้วหน้าม้า และจะได้ง่ายต่อการทำงานของสีด้วยครับ"

        "อืม เหตุผลฟังใช้ได้ นั้นครูอนุญาต ไหนกัลยาเธอจักเปลี่ยนจากเรื่องลักษณวงศ์เป็นเรื่องอะไร ที่จริงเรื่องลักษณวงศ์ก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้วนะ เมื่อเร็วๆนี้ก็ถูกสร้างเป็นละครจักรๆวงศ์ๆอยู่เลย"

       "สีของหนูขอเปลี่ยนเป็นเรื่อง ปลาบู่ทองค่ะ"

        "ตายแล้ว นี้จักเอานิทานพื้นบ้านมาอีกแล้ว" คุณสุมาลีเหมือนไม่พอใจ

        "ครูอนุญาต แต่อีกสองสีที่เหลือ คือ พระอภัยมณี และ สิงหไกรภพนี้ไม่มีการเปลี่ยนเรื่องอีกแล้วนะ เพราะเพื่อนของพวกเรารักง่าย รักสะดวกเรื่องเอานิทานพื้นบ้านไปแล้ว สองเรื่อง ถ้าสีที่เหลือคิดเปลี่ยนอีก วันสุนทรภู่คงไม่ใช่วันสุนทรภู่แล้วมันจะเป็นวันนิทานพื้นบ้านแห่งชาติแล้ว" คุณครูมัทรีกล่าวอย่างขำๆ

        ทุกสีเงียบ "นั้นแสดงว่าวันสุนทรภู่ปีการศึกษานี้จักมีละครด้วยกัน 5 เรื่อง ครูขอเรียงลำดับเอาผลงานของสุนทรภู่ขึ้นก่อนนะ เป็นว่า เรื่องพระอภัยมณี เป็นเรื่องแรก เรื่องสิงหไกรภพ เป็นเรื่องที่สอง ส่วน เรื่องไกรทอง ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 ขึ้นเป็นเรื่องที่สาม ส่วนอีก 2 เรื่อง ขอเรียงตามพยัญชนะ โดยแก้วหน้าม้าเป็นเรื่องที่4 และปลาบู่ทองเป็นเรื่องสุดท้ายจ๊ะ"

         "ทุกคนเอาตามนี้นะ" คุณครูสุมาลีกล่าว

          "ครับ/ค่ะ" ทุกสีขานรับ

          "เอ้าทุกคน ได้เรื่องครบแล้ว เริ่มซ้อมกันได้แล้วนะจ๊ะ เราเหลือเวลา 1 เดือนในการเตรียมตัว แยกย้ายไปเรียนได้แล้วจ๊ะ" 

         "สวัสดีครับ/ค่ะ" และแล้วนักเรียนทุกคนก็แยกย้ายออกจากห้องพักครูภาควิชาภาษาไทย เพ็ญกับเพชรแยกกันไปเรียน
     
         "เพชรเราไปก่อนนะต้องไปเรียนพละต่อ"  

         "อืม โชคดีนะครับ" เพชรโบยมือให้เพ็ญ และเพ็ญก็ส่งยิ้มมาให้แล้วเดินแยกกันไป

        เพชรรีบไปห้องสมุดเพื่อไปเอากระเป๋า ซึ่งเวลานั้นเหลืออีก 5 นาทีที่จะต้องขึ้นเรียนแล้ว คุณครูจันจิราเห็นเพชรวิ่งมาแต่ก็รีบลุกไปหยิบกระเป๋าถือส่งให้เพชรจักได้ไม่ต้องถอดรองเท้าเข้ามาในห้องสมุด

        "ขอบคุณครับ" เพชรรีบรับกระเป๋าจากมือคุณครูจันจิราแล้ววิ่งลงบันไดแล้วไปขึ้นเรียนอย่างเร่งรีบแต่แล้วเพชรก็ต้องเกิดอุบัติเหตุเมื่อวิ่งไปชนกับนักเรียนคนหนึ่งจนล้มทั้งสอง เพชรไม่ทันได้มองจึงชนเข้ากับเขาอย่างจัง 

        "โอ๊ย เจ็บอ่ะ..." เพชรปวดที่หัวผากที่กระทบพื้นพอรู้สึกตัวก็รีบไปมองคนที่เพชรวิ่งชน 

        "ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ" เพชรลุกพยุงคนที่เพชรวิ่งชน

         "เจ็บเป็นบ้าเลย" คนที่ถูกเพชรชนก็หันมามอง เพชรเห็นหน้าคนที่ชนถึงกับใจเต้นพองโต คนที่เพชรชนนั้นเป็นนักเรียนในชุดพลศึกษา ซึ่งคงกำลังรีบเหมือนเพชรเพราะโรงยิมนั้นอยู่เลยห้องสมุดไปก็ถึง แต่เพชรคิดว่าหน้าคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหน

        "ขอโทษครับ" เพชรพยุงเขาขึ้น

         "ครั้งหน้าดูตาม้าตาเรือบ้างนะ โอ๊ยเจ็บ"

         "ขอโทษจริงๆครับ" และแล้วชายคนนั้นก็วิ่งจากไปอย่างรวดเร็วปานลมกรด

         เพชรมองเขาไปจนหายไประหว่างอาคาร เพชรยืนยิ้มด้วยใจที่เบิกบาน ใครกันหนอหล่อจัง คิ้วคมเข้ม จมูกโด่ง ผิวเนียนเข้ม สงสัยเราคงหลงรักเขาเสียแล้ว

        "พ่อโจรร้ายหยิบหัวใจเราติดไปแล้วเอามาคืนนะครับ" เพชรยิ้มและแล้วเสียงออนเตือนก็ดัง 

        "เอ้าแย่แล้ว" เพชรรีบวิ่งตรงไปยังอาคารเรียนโดยด่วน 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×