ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พัชรประกายแสง : รักนี้แบบนายไม่มีอีกแล้ว (นิยายเกย์)

    ลำดับตอนที่ #6 : มิตรภาพที่หมายปอง กับ ความรักที่โหยหา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 112
      0
      25 ส.ค. 57

      เพชรวิ่งอย่างสุดชีวิตจนมาถึงห้องเรียน ซึ่งมีเพื่อนร่วมห้องจำนวนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ว เพชรเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เพื่อนๆหันมามองเพชรเป็นสายตาเดียว 

       "เพชรทำไมมาช้าจัง ดีนะที่ครูสมใจติดธุระคุยกับครูชาวฝรั่งเศสเห็นว่าครูเขาจะขึ้นมาช้าหน่อย" 

       เพชรยิ้มแล้วนั่งลงที่โต๊ะข้างเพื่อนหญิงที่ทักเขา 

        "เหนื่อย" เพชรถอนหายใจแรง 

        "เพชร ไปทำอะไรมาเหงื่อเต็มน้ำเลย" เพื่อนหญิงอีกคนทักขึ้น 

        "เราไปเสนอขอเปลี่ยนเรื่องละครวันสุนทรภู่มากับเพ็ญเพื่อนห้อง 5 อืม ครูสุมาลียินยอมแล้วนะว่าให้สีเราเล่นละครเรื่องไกรทองได้" เพชรยิ้ม 

        "จริงหรือเพชร ดีจังเลย" 

        "จริงซิ พลอย" เพชรยังเช็ดเหงื่อไม่เลิก
      
        "เอ้า เช็ดจัง นี้ทิชชู" เพื่อนหญิงอีกคนส่งกระดาษทิชชูแบบฉกพามาให้เพชร

        "ขอบใจครับ ใหม่" 

         "เรื่องไกรทองหรอ... อุ๊ยตายดีจังเลย ฉันขอเล่นเป็นนางตะเภาทองนะ อยากเป็นนางเอกกับเขาบ้าง" 

         "หยุดเลยอีนางชาติชาย ไม่ใช่เรื่องของตุ๊ด" ใหม่กล่าวกับชาติชาย

         "นางใหม่ ทำไมเป็นตุ๊ดแล้วอยากเล่นเป็นหญิงมันผิดด้วยหรือไงย่ะ" ชาติชายพูดเสียงดังใส่ใหม่

       "เอานะครับ อย่าทะเลาะกัน เรื่องตัวละครว่าใครได้รับบทไหน ว่าควรปรึกษาหรือประชุมร่วมกับห้อง 5 ด้วยนะครับ"

        "จริงด้วย อีนางชาย หยุดระงับกิริยาตุ๊ดของแกเสียเถิด" 

       "อีสมศักดิ์ มึงก็ตุ๊ดเหมือนกู"

        "อืม กูรู้ไม่ต้องมาเตือน กูรู้ตั้งแต่เกิดแล้วว่ากูเป็นผู้หญิงข้ามเพศ"

        "ผู้หญิงข้ามเพศ พูดออกมาได้" ชาติชายขำเสียงอยู่ในลำคอ

        "อีนางญาติจระเข้" สมศักดิ์ดูทีท่าไม่ยอมชาติชาย

        "ดูซิ สองนางทะเลาะกันเสียแล้ว ฉันว่านะชาติชายกับสมศักดิ์น่าเล่นเป็นเมียชาละวันที่สุดแล้ว นางวิมาลาและนางเลื่อมลายวรรณ"

        "หยุดเลยนะ นางเก๋" ชาติชายว่าเก๋อย่างไม่พอใจ

        "ชาติชาย สมศักดิ์ครับ เดี๋ยวยังไงเราจะเสนอให้เป็นตัวแทนห้องเราไปเล่นละครล่ะกันนะ"

        "อุ๊ยตายแล้ว จริงหรือเพชร เราขอบทนางตะเภาทองนะค่ะ" ชาติชายเปลี่ยนอารมณ์ทันที

        "นางชาย ดูมันทำ เพชรขา ขอเราบทนางตะเภาเงินก็ได้ค่ะ"

        "เอ้า อีศักดิ์ ไหนมึงว่าแต่กู ดูมึงทำเอา มึงนะนางญาติจระเข้"

        "ตบกับกูไหมอีชาย"

        "มาซิ"

        และแล้วเสียงเหมือนคนจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งขึ้นบันไดอย่างอลหม่าน เพื่อนชายอีกสิบกว่าวิ่งแข่งกันเข้าห้อง บางคนล้มลงบางคนพลัดกัน

        "ครูสมใจมาแล้วว่ะ ทุกคน" และเพื่อนชายสิบคนนั้นก็นั่งในตำแหน่งของตนเองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 

        สักครู่ไม่กี่นาทีหญิงร่างอ้วนพีในชุดลูกไม้สีชมพูพร้อมกับย่ามถุงผ้าในมือถือสายไมค์ ได้ผ่านเข้ามาในห้อง เธอคือครูสมใจที่เป็นที่เกรงกลัวของเด็กสายศิลป์ภาษา และยิ่งเป็นเกรงของเด็กห้องเพชรเป็นอย่างยิ่งเพราะครูสมใจเป็นครูที่ปรึกษาห้องเพชรเสียด้วย ครูสมใจเป็นครูสอนวิชาภาษาและวัฒนธรรมอังกฤษ ซึ่งด้วยความเป็นนักเรียนนอกแต่หัวใจไทย จึงนิยมแต่งชุดด้วยผ้าไทยมาสอนทุกครั้ง แต่กิริยาบางอย่างยังคงติดกิริยาความเป็นนักเรียนนอก เช่น สำเนียงที่ฝรั่งจ๋า และความรู้ที่ครูสมใจชอบเล่าถึงประสบการณ์ในต่างแดนในขณะที่ท่านเรียนอยู่ที่อังกฤษ

         เสียงวางย่ามดังขึ้น พร้อมกับไมค์เคาะกับโต๊ะ ครูสมใจน้ำหนักที่มาก จึงทำให้ครูเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยห้องเรียนนี้อยู่ถึงชั้น 4 แต่ห้องพักครูอยู่ชั้น 1  

          "เหนื่อยจริงๆเลย เอ้าเธอเสียบไมค์ให้ครูหน่อย" พลอยซึ่งนั่งหน้าลุกขึ้นเอาสายไมค์ไปเสียบกับปลั๊กของมัน พร้อมกับยืนไมค์ให้ครูสมใจ 

          "ขอบใจนะ พลอยบุษราคัม"

          พลอยยกมือไหว้ครูสมใจ เมื่อพลอยเข้ามานั่งเรียบร้อยแล้ว เพชรซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าห้องจึงกล่าวให้ทุกคนทำความเคารพครูสมใจ "นักเรียนทุกคนทำความเคารพ" "สวัสดีครับ/ค่ะคุณครู"

        "สวัสดีจ๊ะ เด็กศิลป์ฝรั่งเศสทุกคน ได้ข่าวมาว่ากำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานแสดงละครเวทีวันสุนทรภู่อยู่ใช่ไหม"

        "ใช่ครับ" เพชรขานรับ

        "อืม กิจกรรมนี้ครูขอให้พวกเธอตั้งใจทำ ถึงครูจะเป็นครูหมวดภาษาต่างประเทศก็จริง แต่ครูก็มีใจรักในความเป็นไทย ดังนั้นครูขอฝากสำหรับเธอที่จะไปเป็นนักแสดงบนเวทีว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการออกสำเนียงอักขระในขณะที่เล่นให้ชัดเจนตามระบบสำเนียงของภาษาไทย เพราะวันสุนทรภู่เป็นวันที่โชค์ศักยภาพทางภาษาของเรา ดังนั้นครูหวังเป็นอย่างยิ่งเลยว่า พวกเธอจะไม่ทำให้ครูผิดหวัง"

        เพชรยิ้มรับคำสอนของครูสมใจ และแล้วครูสมใจก็เริ่มหยิบหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนาออกมาจากย่อม แล้วเริ่มบรรยายสอนทั้งคาบวิชานี้เด็กทุกคนเงียบสงบ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าคงมีแอบหลับในกันบ้าง คือมีเด็กที่ตั้งใจฟังครูสมใจสอนและไม่ตั้งใจฟังปะปนกันไปตลอดทั้งคาบวิชานี้ เพชรถึงจะเป็นเด็กที่เรียนดีแต่มีบางทีที่หลุดบ้าง เพชรแอบมองไปนอกหน้าต่างที่มีกิ่งต้นพญาเสือโคร่งออกดอกสีชมพูสวยงามราวกับดอกซากุระ ภาพในความทรงจำครั้งก่อนหวนกลับมาอีกครั้ง ภาพของปิยวุฒิชายที่เพชรรักปรากฏขึ้นอีกครั้ง ภาพรอยยิ้มและความเป็นสุภาพบุรุษที่หาได้ยาก จนบางทีเพชรเหมือนฝันกลางวันเลยทีเดียวว่าเหมือนตัวเองได้อยู่กับปิยวุฒิตลอดเวลาจนเพชรสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในทุกครั้งที่เพชรระลึกถึงปิยวุฒิ     

       เสียงออนดังขึ้นเป็นดุจเสียงแตรแห่งสวรรค์เตือนว่าตอนนี้ทุกคนพ้นจากขุมนรกแห่งความเบื่อหน่ายแล้ว ปิยวุฒิกล่าวทำความเคารพคุณครูสมใจก่อนที่ท่านจะออกจากห้องไป นักเรียนทุกคนต่างเก็บสัมภาระและถือกระเป๋าออกจากห้องอย่างไม่เป็นระเบียบ เพชรเดินออกเป็นคนสุดท้ายปิดไฟและพัดลมตรวจความเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกไปจากห้องเรียน แสงอาทิตย์ราวสี่โมงเย็นเป็นแสงสีส้มสวยชวนมอง เพชรเดินมาเรื่อยๆจนถึงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนที่จอแจด้วยรถยนต์มากมาย เพชรนั่งรอรถเมล์เพื่อที่จะกลับบ้าน แต่แล้วเพชรต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นคนที่วิ่งชนกับเพชรเมื่อตอนเที่ยง เพชรจำได้ว่าเพชรประทับใจในความคมคายของเพื่อนร่วมโรงเรียนคนนี้ เพชรเก็บอารมณ์ความเขินอายไว้ แต่คงด้วยสัญชาตญาณความเจ้าชู้ของเพชรจึงทำให้เพชรอยากทำความรู้จักกับเพื่อนคนนี้มากขึ้น เพชรจึงหันไปยังเพื่อนคนนั้น

         "โทษทีนะครับที่วิ่งชน เป็นอย่างไรบ้างครับ"

         "ไม่เป็นไรครับ มันเป็นอุบัติเหตุ" เพื่อนยิ้มให้เพชร

         เพชรใจละลายในรอยยิ้มซึ่งเพชรรู้สึกว่าอยากเห็นรอยยิ้มนี้ทุกวัน แต่คงเป็นไปไม่ได้เมื่อเพชรกลัวทุกคนรู้ว่าเพชรเป็นเกย์และกลัวเพื่อนใหม่ของเพชรจะรังเกลียดเพชร เพชรจึงพยายามปรับความรู้สึกจากความรักเป็นความเป็นมิตรระหว่างคนรู้จักกันเสียมากกว่า

        "อืม ทำไมไม่เคยเห็นเลยครับ เพิ่งเข้ามาเรียนที่นี้เหรอ"

        "ใช่ เราย้ายโรงเรียนมา"

        "ว่าแล้วเชียว เรียนอยู่ห้องไหนครับ"

       "ห้อง 5 ครับ"

        "อืม เก่งจังสายวิทย์ด้วย โทษทีนะครับ ไม่ทราบว่าชื่ออะไรครับ"

        "เราชื่ออ้วนครับ"
     
        "ชื่ออ้วน แต่ไม่เห็นอ้วนเลยนี้ครับ" เพชรหัวเราะ

        "ก็ตอนเด็กเราอ้วนมากเลยครับ เกือบ 90 และนายชื่ออะไร"

       "ผมชื่อเพชรครับ เรียนอยู่ศิลป์ฝรั่งเศส"

       "อืม...เหรอครับ และกำลังจะไปไหนครับ" 

       "ผมจะกลับบ้านครับ นั้นรถเมล์มาพอดีเลย"

       "จริงซิ นั่งสายเดียวกันเลย"

      "ดีเลย ผมจะได้มีเพื่อนกลับ" เพชรยิ้มราวกับเป็นมิตร แต่สิ่งที่เพชรได้กลับมาเป็นแววตาที่มีนัยบางอย่างที่ชวนทำให้เพชรใจสั่นไหว แต่เพชรก็คุ้มมันจนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเพชร

      รถเมล์จอดที่ป้าย อ้วนขึ้นก่อนโดยมีเพชรตามขึ้นรถ บนรถไม่มีที่นั่งเหลือเลยเพชรกับอ้วนจึงต้องทนยืนทั้งสองพูดคุยจนสนุก ซึ่งนี่คือสิ่งที่เพชรต้องการคือความเป็นมิตรที่มีสถานะที่คงทนและถาวรกว่าคนรัก ซึ่งเพชรอยากเก็บมิตรภาพนี้มากกว่าความรักที่เพชรใฝ่ปอง จนมีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งลงจากรถเมล์จึงมีที่นั่งว่าง เพชรกับอ้วนนั่งลงในตำแหน่งที่ว่างใกล้ประตูรถ ทั้งสองยังคงสนทนากันไปเรื่อยๆ จนอ้วนลงจากรถเมล์ก่อน เพชรจึงถูกความเหงาครอบงำจนถึงบ้าน เพชรลงจากรถเมล์ทั้งๆที่มีเรื่องราวอยู่ในห้วมากมาย เพชรรู้สึกได้ถึงมหาสงครามเกิดขึ้นในใจที่ใจส่วนหนึ่งของเพชรเรียกร้องหาปิยวุฒิ แต่อีกใจหนึ่งก็ราวว่าหาโบยบินไปหาอ้วน เพื่อนชายที่เพชรเพิ่งสนิทด้วยบนรถเมล์ เพชรคิดขึ้นว่า มีทางเดียวเท่านั้นที่จะยุติความหลายใจของตนเองคือการปรับให้อ้วนกลายเป็นเพื่อนเท่านั้น และมีปิยวุฒิคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ครองใจของเพชร 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×