ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #472 : รีวิวอย่างแมวๆ Anime Winter 2018 -ไม่มีแจ๊ค แล้วฉันจะดูอะไรดี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.98K
      3
      6 ก.พ. 61

                 

     

    รายชื่ออนิเมะ https://myanimelist.net/anime/season


                  กลับมาอีกครั้ง กลับการรีวิวอย่างแมวๆ ทำไมต้องแมวๆ เพราะเป็นการรีวิวที่ไม่ได้เรื่องสักเท่าไหร่ ดูของเจ้าอื่นยังดีกว่านี้ และคนเขียนบทความดูอนิเมะในเวลาแค่ 3 วินาที ก็นั่งเขียนยาวเป็นครึ่งหน้ากระดาษ 4A (แฉตัวเอกซะงั้น)

                    ปกติ อนิเมะช่วงต้นปีใหม่ หรืออนิเมะฤดูหนาว จะมีอนิเมะหลายเรื่องที่ผมอยากดูมากๆ อย่างปีที่แล้วมีตั้ง 5 เรื่องที่ผมติดตามดูจนจบ (หรือเปล่า?) หากแต่อนิเมะปีนี้มีเรื่องที่ผมอยากดูแค่ 2 เรื่องเท่านั้นเอง (โอเวอร์ลอร์ค กับน้องสาวขโมยซีน เพราะเป็นเรื่องที่ตั้งใจจะดูอยู่แล้ว ส่วนเรื่องนอกเหนือจากนี้จะพิจารณาอีกที)

                    ขอดูรายชื่ออนิเมะปีนี้ก่อน....... คนที่บอกว่าอนิเมะญี่ปุ่นซ้ำซาก นี้ อยากให้มาดูรายชื่ออนิเมะจัง เพราะอนิเมะฤดูหนาว 2018 ค่อนข้างมีหลายแนวเช่นเคย ไอดอล, สาวน้อยเวทย์มนต์, แอ็คชั่น, ไซไฟ ไปจนถึงแนวสืบสวน สยองขวัญก็มา ผมว่าก็น่าดูเหมือนกัน แต่หนักสุดคืออนิเมะชีวิตประจำวันที่มีเนื้อหาเบาๆ แสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นก็คงต้องการอนิเมะที่คลายเครียดมากกว่า ที่จะดูอนิเมะที่เนื้อหาหนัก

                    ส่วนออริจินอลที่น่าสนใจเวลานี้ ก็แนวขับหุ่นอีกละ ทำไมออริจินอลชอบทำแนวขับหุ่นจัง ที่ผ่านมา ผมยังไม่มีอนิเมะแนวขับหุ่นที่เป็นออริจินอลที่ชอบเลย (แต่ ผมชอบโอเวอร์แมนคิงกันเนอร์นะ)  ก็จะดูแค่ตอนเดียวแล้วก็เขียนก็พอ (ไม่อยากติดตามหรอก แค่เห็นการขับหุ่น ก็ไม่อยากดูแล้ว)

                    และต่อไปนี้ เป็นการรีวิวอนิเมะฉบับแมวๆ ที่เป็นการดูอนิเมะแบบครึ่งๆ กลางๆ  ชนิดว่าไปดูมาแล้วเนั่งมาเขียนเลย

                    ปล. รู้สึกว่าซีรีย์ Fate มาวันที่ 28 มกราคม เดี๋ยวดูก่อนว่าบทความนี้จะยาวถึงวันที่เท่าไหร่

                    ปล. รู้สึกว่าปีนี้จะเป็นปีเอาของเก่ามากิน มีอนิเมะหลายเรื่องที่เอากลับมาทำใหม่ เช่น เดวิดแมน, ตำนานเทพประยุทธ์ และภาคต่ออนิเมะในตำนานอย่างการ์ดแคปซากุระด้วย แต่พอดีการ์ตูนเหล่นี้ผมก็ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์ทางด้วยสิ

     

    สีแดง-ติดตาม, สีน้ำเงิน-ดูเป็นบางตอนแต่อาจไม่ติดตาม และสีเทา-ไม่ติดตามเลย

    Overlord II-แน่นอนว่าดูภาคแรกมาแล้ว ก็ต้องดูภาคสองต่อ

    Violet Evergarden

    Nanatsu no Taizai: Imashime no Fukkatsu

    Citrus

    Darling in the FranXX

    Death March kara Hajimaru Isekai Kyousoukyoku

    Karakai Jouzu no Takagi-san

    Poputepipikku

    Koi wa Ameagari no You ni

    Beatless-หุ่นสาวโมเอะ น้องสาวพระเอกสุดยอด

    Kokkoku

    Grancrest Senki

    Fate/Extra Last Encore-เซเบอร์เนโร สู้เขานะเพื่อนแจ๊ค

    Yuru Camp

    Dagashi Kashi 2-จะดูตอนเจ๊แว่นมีบท

    Cardcaptor Sakura: Clear Card-hen

    Sora yori mo Tooi Basho

    Hakata Tonkotsu Ramens

    Ito Junji: Collection

    Killing Bites

    Saiki Kusuo no Ψ-nan 2

    Ryuuou no Oshigoto!

    Gintama.: Shirogane no Tamashii-hen

    Gakuen Babysitters

    Toji no Miko

    Mitsuboshi Colors

    Ramen Daisuki Koizumi-san

    Slow Start

    Märchen Mädchen

    Hakumei to Mikochi

    Miira no Kaikata

    Takunomi.

    Gin no Guardian 2nd Season

    Sanrio Danshi

    Basilisk: Ouka Ninpouchou

    Yowamushi Pedal: Glory Line

    Nanatsu no Bitoku-นางฟ้าศีลธรรมทั้ง 7 แต่เห็นชุดแล้วอยากผิดศีล

    25-sai no Joshikousei

    Zoku Touken Ranbu: Hanamaru

    IDOLiSH7

    Dame x Prince Anime Caravan

    Hataraku Onii-san!

    Kaijuu Girls: Ultra Kaijuu Gijinka Keikaku 2nd Season

    Hug tto! Precure

    gdMen

    Mameneko

    Inazma Delivery: Dougyousha Attack-hen


    Pop Team Epic

                   

                 เริ่มด้วยอนิเมะที่เป็นที่พูดถึงเวลานี้ แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นอนิเมะที่ห่วยที่สุดเท่าที่เคยดูมา โดยเป็นอนิเมะดัดแปลงจากมังงะแก๊ก 4 ช่อง POP TEAM EPIC  ผลงานของ Ookawa bkub (Okawa Bukubu) เขียนลงบนเว็บไซต์ใน Manga Life Win จัดจำหน่ายโดย Takeshobo เริ่มลงเว็บในเดือนสิงหาคม 2014 จบภาคแรก (เล่ม 1) ไปเมื่อพฤศจิกายน 2015 แล้วขึ้นภาคสอง (เล่ม 2) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ต่อภาคสามในเดือนตุลาคม 2017

    โดยเนื้อหาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักเรียนหญิงสองคน โปปุโกะ และ ปิปิมิ กับการเล่น มุกตลกหลายเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของทั้งสองนัก ทั้งแซวเรื่องรอบตัว ล้อเลียนเรื่องต่างๆ บ่อยครั้งก็หลุดกรอบความเป็นจริง (จนดูไม่รู้เรื่อง)

    สำหรับตอนแรกที่มีหลายคนดูจนเป็นที่โจษจันกัน โดยเนื้อหาตอนแรกเปิดตัวการ์ตูนเหมือนจะเป็นแนวฮาเร็มไอดอล สดใส (Hoshiiro Girldrop เคยเป็นมังงะที่เหมือนจะมีจริง มีการเขียนข้อมูลตัวละคร และพล็อตเรื่องเกี่ยวกับหนุ่มธรรมดาที่มาใช้ชีวิตกับสาวจากวงไอดอล มีการลงโฆษณาเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนมังงะเรื่องใหม่ แต่ไปๆ มาสุดท้ายก็กลายเป็นโปรโมท Pop Team Epic ภาค 2) แต่หลัง OP ก็กลับมาเรื่อง Pop Team Epic ตามปกติ โดยตัวเรื่องสลับไปมา มีการล้อเลียน อนิเมะ เกม หลายเรื่องและหลายแนว สาระไม่มีจบด้วยตัวอย่างตอนต่อไปของ Hoshiiro Girldrop อีกรอบ จากนั้นก็ฉาย Pop Team Epic ซ้ำอีกรอบ (   ตัวเรื่องฉายเกือบ 24 นาที แต่ฉายจริงเพียง 12 นาที และ ซ้ำเหมือนเดิมอีกรอบ 12 นาที (นอกจากเปลี่ยนเสียงพากย์ตัวละครแล้ว อย่างอื่นแทบไม่แตกต่างกันเลย ยกเว้นเสียงของปิปิมิ จากเสียงผู้ชายตอนแรก ครึ่งหลังเปลี่ยนเป็นเสียงผู้หญิง)

    มีหลายคนบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้โครตเกรียน แต่สำหรับผมแล้ว อยากแยกจากเกรียน   และดูไม่รู้เรื่องออกจากกันดีกว่า ถ้าเกรียนจริงๆ ก็คือการนำเสนอที่สร้างสรรค์ ให้คนดูบอกว่าคิดได้ไงฟ่ะ อินดี้โครตๆ แต่สามารถติดตามดูจนจบาวกับล้างสมองประมาณนั้น

              แต่อนิเมะเรื่องนี้มันดูไม่รู้เรื่องเลย ดูแล้วไม่สนุก รู้สึกเสียเวลาที่ดู มันเป็นการ์ตูนแก๊กที่แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมา  คือมันดูไม่รู้เรื่องเลย ไร้ที่มาที่ไป ตัดไปตัดมา มุกก็ไม่ได้ฮ่า ดูไม่เก๊ทอะไรเลย ล้อเลียนการ์ตูน, เกม ก็ใช่ว่าจะแปลกใหม่อะไร  แถมครึ่งหลัง (อีก 12 นาที) ผมยังปิดกลางคันด้วย

    เอาง่ายๆ ใครดูอนิเมะเรื่องนี้จบครบ 24 นาทีบ้าง ผมยอมรับเลยว่าผมดูแค่ 12 นาทีแรก (บวกกับห้าวินาที ในการดูว่าครึ่งหลังมีอะไรแตกต่างจากครึ่งแรกหรือเปล่า

    สรุปไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ และมันทำให้รู้สึกหงุดหงิดมากกว่า

    ลองไปอ่านข่าวเรื่องนี้ดู บอกว่า ผู้กำกับอนิเมะอย่าง Aoki Jun ที่ยังรับหน้าที่เป็น Series Composition เขายอมรับว่าเขาไม่ได้อ่านมังงะก่อนจะรับหน้าที่กำกับอนิเมะเรื่องนี้ เขายอมรับว่าเขาเสียใจที่รับงานอนิเมะเรื่องนี้ เขาเองก็สงสัยนะว่านี่มันอนิเมะแนวไหนกันแน่ ………………….

     

    Overlord II


    ซีซั่น 2 ของอนิเมะ Overlord  ดัดแปลงนิยายของ Maruyama Kugane (so-bin วาดภาพประกอบ) ซึ่งภาคแรกก็ฮิตระดับหนึ่ง คนชอบระดับหนึ่ง จนมีการทำซีซั่น 2 ในส่วนของทีมงานนั้นก็จะได้ Itou Naoyuki เป็นผู้กำกับ ด้านการอนิเมชั่นก็ได้ Madhosue กลับมาทำ

    ซีซั่น 2 ยังคงกล่าวถึงตัวเอกคนหนึ่งที่ใช่ชื่อออนไลน์ว่า “โมมอนกะ” ที่กลายเป็นลอร์ดจากเกมออนไลน์ที่ปิดตัวลง แล้วเขาพร้อมลูกน้องมากมายก็ไปอยู่ในโลกแฟนตาซีที่ไม่รู้จัก และเขามีความคิดมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อโลกแห่งเกมนี้ โดยอนิเมะคาดว่าจะอยู่ในช่วงรุกรานเผ่าลิชาร์ดแมน กับบุกเมืองหลวง (ไม่รู้จะว่าจะทันช่วงดันเจี้ยนนรกหรือเปล่า)

    ตอนซีซั่นแรก อนิเมะเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวอนิเมะได้นำเสนอแนวต่างโลกอย่างน่าสนใจ ที่ตัวเอกเป็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ มีดันเจี้ยน ลูกน้องขั้นเทพ และไปอยู่โลกแฟนตาซีธรรมดา แต่ภายใต้ธรรมดา กลับมีอะไรบางอย่างชั่วร้ายแอบแฝงอยู่ พระเอกและลูกน้องก็โชว์โหด เป็นอะไรที่สนุกมากๆ   บวกกับตัวละครน่าอวยหลายตัว และส่วนตัวชอบแวมไพร์นมแบนนะ มีสีสันดี

    อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นอนิเมะที่ผมติดตาม และชอบ แต่ผมก็ไม่ได้ให้เป็นอนิเมะที่สุดยอดแห่งปี เพราะเป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากต้นฉบับที่ตัดรายละเอียดเยอะพอสมควร และช่วงท้ายๆ เหมือนจะเร่งรีบไป ทำให้ผมไม่ได้ให้ราคาอนิเมะเรื่องนี้มากนัก

    สำหรับตอนแรก คือเป็นช่วงพระเอก (โมมอนกะ) วางแผงที่จะสังหารหมู่ริชาร์ดแมนเพื่อสร้างกองทัพซอมบี้ที่มีคุณภาพ แต่มุมมองส่วนใหญ่อยู่ที่มุมมองของเหล่าริชาร์ดแมนมากกว่า

    คุณภาพอนิเมะก็ยังคงเหมือนกับภาคแรก ก็จะใช้ทีมงานเดิมในการทำ ส่วนการเก็บรายละเอียดก็อย่าหวังอะไรมาก  ไม่ตัดฉากแน่นอน แต่ก็เก็บอารมณ์ได้เป็นอย่างดี มีการลำดับฉากแตกต่างจากต้นฉบับมาก แต่ก็ไม่รู้สึกขัดแต่อย่างใด แต่บางประโยคอาจ งง เล็กน้อย เห็นว่ามันเชื่อมาจากภาคเดอะ มูฟวี่ด้วย

    เนื่องด้วย ผมเองก็อ่านต้นฉบับมาแล้ว รู้เนื้อเรื่องมาหมดแล้ว ดังนั้นสิ่งที่หวัง คงจะเห็นฉากที่อ่านในมังงะแล้วนึกภาพไม่ออกว่าเป็นยังไงมากกว่า เช่น ฉากเหล่าแย้สู้กับริซ ,ฉากโคคิวทัสสู้กับเหล่าแย้, ฉากเซบัสเตียนถล่มรังโจร และ ฉากเมดคนน้องสู้กับเหล่าผู้กล้าในตำนาน,  พูดง่ายๆ หลักๆ คือฉากแอ็คชั่น ซึ่งในนิยายผมมักข้ามอ่านฉากเหล่านี้เสียมากกว่า ที่จะอ่านละเอียด (นอกจากนี้ยังอยากดูฉากเก้าอี้แวมไพร์ไร้นมด้วย)

    สิ่งหนึ่งที่ฉากชมเนื้อเรื่องของสงครามริชาร์ดแมน คือ เนื้อหาดำเนินเรื่องในมุมมองของริชาร์ดแมน ซึ่งเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่อาจไม่ดังเท่าก็อบลิน หรือออร์ค แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสามเผ่าพวกกระจอกงอกง่อยสำหรับเกม RPG  เราก็เหมือนพระเอกที่คิดจะสังหารหมู่ริชาร์ดแมนแบบไม่นึกสงสารพวกมันเลย มันก็เหมือนเกม เป็นอมนุษย์ที่ไม่น่าสงสาร หากแต่เนื้อเรื่องได้เข้าถึงมุมมองริชาร์ดแมน พบว่า พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าสาร ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด พวกเขาก็กลัวตาย และต้องสู้เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ตนเอง และการต่อสู้สุดชีวิตของเหล่าริชาร์ดแมนก็ทำให้พวกโมมอนกะได้เห็นความตั้งใจนั้น ทำให้เปลี่ยนใจหันมาปกครอง รวมเผ่าริชาร์ดแมนที่แตกกระจายทำสงครามกันและกัน กลายเป็นเผ่าพันธุ์พัฒนาสามัคคีกัน แทนที่จะสังหารหมู่เหมือนตั้งใจในตอนแรก


    Junji Ito's Collection

                   

                 จะว่าไป ถือว่าเป็นอนิเมะที่หลายคนอยากเห็นแล้ว ที่อยากจะเห็นอนิเมะจาก “คลังสยอง ลงหลุม” ซีรีย์ที่ชื่อเสียงของ อิโต้ จุนจินักวาดการ์ตูนแนวสยองขวัญที่มีชื่อของญี่ปุ่น (และเป็นตำนาน)

                    แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นมีผลงาน เรื่อง “ปลามรณะ” ทำเป็นอนิเมะเรื่องยาวไปแล้ว แต่โดนสับเละจากแฟนสาวกอิโต้ จุนจิไม่น้อย คือเปลี่ยนบทตัวละคร ทำไม่ได้อารมณ์สไตล์อิโต้ จุนจิ ทำให้เป็นอนิเมะที่หลายคนไม่ถูกพูด อยากจะลืม

                    ดังนั้นพวกเขาจึงคาดหวังว่าตัวอนิเมะปี 2018 นี้จะเก็บอารมณ์ของอิโต้ จุนจิไม่มากก็ไม่น้อย

                    Junji Ito's Collection ได้ประกาศเป็นอนิเมะ ด้วยจำนวน 12 ตอน (และอีก 2 OVA) โดยนำซีรีย์ที่มีชื่อจากคลังสยองลงหลุม ไม่ว่าจะเป็น เด็กเปรตอมตะปูโซอิจิ, โทมิโกะ, ชายหนุ่มสี่แยก และเจ้าเตี้ยกับบ้านสยอง และเรื่องสั้นๆ เรื่องอื่นๆ มาทำเป็นอนิเมะ (ไม่เรียงผลงานเก่าไปใหม่)  โดยมี Tagashira Shinobu (ผู้กำกับจาก Diabolik Lovers) จะเป็นผู้กำกับและออกแบบตัวละครสำหรับฉบับอนิเมะ ที่สร้างโดย Studio DEEN

                     น่าแปลกที่ตอนแรกของอนิเมะกลับเลือกตอนโซอิจิมาเป็นตัวชูโรง (แทนที่จะเลือกโทมิโกะ) ซึ่งเป็นตอนที่ผมชอบน้อยที่สุดอีกต่างหาก โดยกล่าวถคงโซอิจิที่มีพฤติกรรมประหลาด หนักไปทางตลกร้าย มากกว่าสยองขวัญ ทำให้รู้สึกแปลกใจที่เขาเลือกตอนเบาๆ มากกว่า ที่จะนำเสนอความน่ากลัว ความแปลกประหลาด และขยะแขยงของอิโต้ จุนจิ แต่เข้าใจว่าต้องการนำเสนอจุดเด่นของผลงานที่สร้างชื่อ โดยเฉพาะโซอิจิ (เพียงแต่ผมไม่พอใจที่เอาโซอิจิโผล่มาตอนแรก แต่เดาว่าตอนสุดท้ายอาจเป็นตอนบ้าผีสิงของโซอิจิตอนโตก็ได้)

                    และนอกจากนี้ยังมีตอนสั้นแถมท้ายตอน (เรียกว่าเป็นแบบนี้ทุกตอน โดยตอนหนึ่งยาว 23.45 นาทีกว่าๆ ประกอบด้วย เรื่องยาวประมาณ 20 ส่วนที่เหลือเรื่องสั้นอีกหนึ่งตอน) เป็นเรื่อง “โรคตุ๊กตา” ที่เป็นเรื่องเด็กผู้หญิงที่กลายเป็นตุ๊กตา ซึ่งจะว่าไปเรื่องสั้นนี้ได้ให้อารมณ์ของจุนจิ อิโต้มาก (โดยเฉพาะที่ชอบคือ สาวทาก นี้ให้อารมณ์ความขยะแขยงมาก)

                    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าผลงานของอิโต้ จุนจิไม่ได้สยองขวัญเลือดสาดเหมือนแนวสมัยนี้ทำกัน แต่สอองขวัญของอิโต้ จุนจิ จะเล่นกับจิตใจมนุษย์ เน้นบรรยากาศ ความประหลาด ความไร้เหตุผล  ดึงความโดดเด่นมาใส่ นี้แหละคืออินโต้ จุนจิ

                    ทางด้านงานออกมาพยายามเคารพต้นฉบับมาก ที่พยายามลอกลายเส้นของอิโต้จุจิในช่วงนั้นมาได้ดี เพียงแต่ลายเส้นไม่ละเอียด (ไม่แลเงาเยอะ) ส่วน เนื้อหาก็แทบไม่มีดัดแปลงอะไรเลย ทำให้รับได้สำหรับสากอิโต้ จุนจิ ส่วนเพลงเปิดและเพลงปิดไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ อยากได้อารมณ์แบบหลอนๆ สยองขวัญ หรืออารมณ์แบบสยองขวัญโบราณหน่อย เสียดายมากตรงจุดนี้

                    โดบส่วนตัวผมดูอนิเมะเน้นไปที่เรื่องสั้นที่ชอบมากกว่า อยากดูตอนโทมิโอะ เจ้าเตี้ยบ้านพิศวง อะไรแบบเนี้ย ส่วนตอนที่ไม่สนใจก็ไม่ดู

     

    Hakyuu Houshin


    Hakyuu Houshin เป็นอนิเมะทีวีซีรีส์ที่สร้างมาจากต้นฉบับมังงะที่แต่งโดยอ.Ryu Fujisaki ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Weekly Shounen Jumpในเครือของ Shueisha เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปี 1996 จนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน  ปี 2000รวมไปถึงมีฉบับรวมเล่มออกมาแล้วถึง 23 เล่มจบถือลิขสิทธิ์ในบ้านเราโดยสำนักพิมพ์ SIC ในชื่อภาษาไทยว่า ตำนานเทพประยุทธ์

    นอกจากนี้ยังเคยมีอนิเมะ ในปี 1999 สร้างโดยสตูดิโอ Deen และมีการนำมารีเมคใหม่โดยทางสตูดิโอ C-Station มีกำหนดฉายในญี่ปุ่นวันที่ 12 มกราคม ปี 2018 ในชื่อ  Hakyuu Houshin Engi

    เป็นเรื่องราวที่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ของประเทศจีนที่ตรงกับสมัยราชวงศ์ซาง  เมื่อ ต้ากงอ้วง  (เจียง จื่อหยาง) เซียนสวรรค์ฝึกหัดที่ได้รับคำสั่งให้ออกเดินทางเพื่อปราบเหล่าเซียนนอกรีตนำโดยต๋าจี้ ที่คอยสร้างความปั่นป่วนในโลกมนุษย์  ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าเซียนนอกรีตที่เขาต้องไปปราบนั้นมีฝีมือที่ร้ายกาจเกินกว่าที่เซียนฝึกหัดจะเอาชนะได้อย่างโดยง่าย

    เอ่อ......จะเริ่มจากไหนดี ก่อนอื่นขอบอกไว้ว่า แม้ผมจะอายุเกิน 30 ปี ผ่านการ์ตูนเก่าๆ มาหลายเรื่อง แต่ผมไม่เคยร้อง “ว้าว” ที่ได้ยินข่าวเอาอนิเมะเก่าเอามาใหม่ (หรือทำภาคใหม่) สักเรื่อง ไม่รู้สิ คือมันไม่ใช่เรื่องที่ผมติดตามนี่น่าหรือชอบ มาเค้นสมองดู อนิเมะที่ผมอยากเห็นกลับมาทำใหม่มีเรื่องเดียวคือ Ozanari Dungeon 

    ตัวการ์ตูนนั้นมีที่มีจากตำนานเจียงจือหยาง หากใครที่แก่ๆ หน่อย อาจเคยเห็นซีรีย์จีนช่อง 3 “ตำนานนาจา” ที่เจียง จื่อหยาง กับพรรคพวกสู้กับสมุนต๋าจี้อย่างสนุกเลยแหละ และถ้าจำไม่ผิดบูรพัฒน์ก็เคยจำหน่ายด้วย แต่จำชื่อไม่ได้ ถ้าอยากดูเวอร์ชั่นหนังจีนที่พอหาดูได้ (เนื้อหาอาจแต่งเดิมเสริมแต่งไปบ้าง) ก็มี เทพประยุทธ์พิชิตฟ้า (The Investiture of the Gods 2014)  ส่วนตัวเวอร์ชั่นหนังจีนสนุกกว่ามากนะ  (ส่วนตัวผมชอบเจียง จือหยางเวอร์ชั่นแก่มากกว่า เดี๋ยวไปหาก่อนว่ามีไหม)

    คือต้องยอมรับนะว่าการ์ตูน “ตำนานเทพประยุทธ์” สนุก แต่ในขณะเดียวกันเนื้อเรื่องเละมากในช่วงหลัง (เละจนไม่สนุก อ่านไม่รู้เรื่อง เปลี่ยนบทตัวละครอีกต่างหาก)  และหลังจบเรื่องนี้ไป คนวาดก็ไม่ได้สร้างผลงานดีๆ ยาวๆ เลย บางเรื่องเนื้อหาดี แต่ตัดจบ ทำเอาเซ็งเหมือนกัน ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ได้สร้างความประทับใจผมมากนัก เหมือนคนอื่นๆ

                    ส่วนอนิมะ ก็เคยมีอนิเมะ เมื่อปี 1999 นานมาแล้ว มี 26 ตอนจบ แต่ขอบอกว่า เนิฟชุดต๋าจี๋จนหมดอารมณ์ดูเลยแหละ (เข้าใจว่าชุดต๋าจี้มันเกิดอารมณ์ แต่เนิฟซะรับไม่ได้เลย)  และกราฟฟิกเผาเยอะพอควร

                    สำหรับอนิเมะใหม่นี้ตัวอนิเมะมีจำนวน 23 ตอน แต่ดูเหมือนว่าตอนที่ 1 เหมือนพยายามเร่งๆ ไงไม่รู้    พยายามปรับปรุงให้ภาพออกมาทันสมัย สวยมากขึ้น เล่นมุมกล้องมากขึ้น แต่สัดส่วนตัวละครยังเหมือนต้นฉบับอยู่ดี คือมือเท้าโต เหมือนเป็นโรคเท้าช้าง โบลิโอ อย่างบอกไม่ถูก ขนาดเรื่องหลังๆ คนวาดเองจะวาดตัวละครให้สัดส่วนเหมือนคนปกติแล้วแท้ๆ แต่อนิเมะเคารพต้นฉบับผิดวิธีซะงั้น (แต่ทำไมต๋าจี้สัดส่วนดีขึ้นหว่า) นอกจากนั้นก็ดัดแปลงหลายฉากไม่ให้ตรงต้นฉบับมากไป แถมตัวต้ากงอ้วงไม่ค่อยปล่อยมุกฮ่าเลย

    อนึ่ง ดูคาแร็คเตอร์นี้ มันล้าสมัยมาก นาจา สมัยนี้มันต้องเป็นสาวดุ้นสิ ไม่ใช่เด็กชายจ๋าขนาดนี้ ขนาดเทพสามตายังโมเอะเลย

    สิ่งดีเรื่องนี้มีอย่างเดียว ต๋าจี้โมเอะ ไม่เนิฟชุด แต่ถึงอย่างนั้นตัวละครหญิงคนอืนๆ มีบทบาทน้อยมาก (พวกน้องสาวต๋าจี้จะมีบทหรือเปล่าก็ไม่รู้ มังงะบทอย่างน้อยเลย ทั้งๆ ที่พี่รองของกลุ่ม จะต้องจับคู่กับพระเอกแท้ๆ)

    ปล.ไม่ชอบชื่อเรียกในเรื่องสักเท่าไหร่ ที่ใช้ชื่ออกเสียงญี่ปุ่นมากกว่า จะใช้ชื่อจีน ทำให้ งง ตัวละครบางตัว ว่าชื่ออะไรบ้าง เพราะชื่อจีนมันคุ้นหูมากกว่า

    ปล. ตามตำนาน สื่อบันเทิงแล้วเสิ่นกงเป้าเป็นพี่น้องร่วสาบานของเจียง จื่อหยาง แถมเป็นน้องด้วย

    ปล.จักพรรดิอินออกแบบบ้านๆ มาก

      

    Kaijuu Girls: Ultra Kaijuu Gijinka Keikaku 2nd Season

    ก็แปลกดีที่เรื่องนี้มาถึงซีซั่น 2 Kaijuu Girls เป็นโปรเจ็คที่เอาสัตว์ประหลาดดังๆ จากในซีรี่ส์อุลตร้าแมนมาออกแบบใหม่เป็นสาวน้อยโมเอะ โดยตัวละครเด่นคือสามกากเซเว่น ส่วนเรดคิงกับกาโมร่าเป็นตัวประกอบ อนิเมะสั้นๆ สามนาทีกว่าๆ (รวมเพลงเปิดและเพลงปิด) เนื้อหาก็ไม่ได้ซับซ้อน

    ส่วนตัวผมอยากเห็นมังงะ Seven Seas Announces Ultra Kaiju มาเป็นอนิเมะมากกว่า (โปรเจคเดียวกับไคจูโมเอะ) พอดีตัวเอกเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ผมอวยด้วย (มังงะวาดโดย Shun Kazakami ผมค่อนข้างชอบลายเส้นด้วย)

     

    Dagashi Kashi 2


    Dagashi Kashi (ชื่อไทย โคตรเกรียนเซียนขนม) มังงะของอาจารย์ Kotoyama ได้ประกาศทำอนิเมะภาค 2 ทีมงานเดิมสตูดิโอ ฟีล (Feel) คนพากย์เดิม โดยโคโคนตสึ โดนพ่อขอร้อง (แกมบังคับ) ให้สืบทอดร้านขนม ณ เมืองบ้านนอกสุดขอบทะเล จู่ๆ วันหนึ่ง ชิดาเระ โฮทารุ  สาวสวยปริศนาบุกเข้ามา พร้อมปาฐกถาเรื่องขนม  เรื่องราวระหว่างเธอ เขา และเหล่าขนม แห่งความหลังจึงเริ่มขึ้น

    สำหรับภาคนี้นมโฮทารุจะมีบทหายไปพักหนึ่ง และปล่อยให้เพื่อนสมัยเด็ก เอ็นโด ซายะ กับเจ๊แว่นทำคะแนนอย่างเมามัน

    ยังคงเป็นอนิเมะความยาว 12 นาทีกว่าๆ เหมือนเดิม เนื้อหาตลกนิดๆ เน้นไปทางการรำลึกขนมและของเล่นยุคเก่า คนไทยเราอาจไม่ค่อยฟิน เพราะไม่ได้อยู่ในยุคดังกล่าว ส่วนผมก็พอรู้สึกขนมบางชนิดอยู่บ้าง (นี้ถ้าการ์ตูนทำแนวแบบนี้ คงได้เห็น สติ๊กแกอร์หลอกเด็ก, ตัวตุ๊กตุ่นโดดร่ม เป็นแน่แท้)

    อย่างไรก็ตาม แม้ไม่เก็ทเรื่องขนม ก็ยังมีรูททำคะแนนของสาวๆ ในเรื่อง ซึ่งภาคนี้เพื่อนสมัยเด็กกับเจ๊แว่นทำคะแนนโหดมาก ตนเอ็ดโดกลายเป็นสุดยอดเพื่อนสมัยเด็กของผมเป็นที่เรียบร้อย


    Hataraku Onii-san!

    เรื่องราวเกี่ยวกับแมวหน้าขาวเหลืองชื่อ ซาโตะระซาวา ทาบีโอะ   นิสัยร่าเริงสดใสและแมวดำชื่อ โรชิฮาระ คุเอฮิโกะ ที่มองโลกในแง่ร้าย การศึกษาทั้งสองในวิทยาลัยเดียวกันและยังทำงานงานแปลก ๆ ร่วมกัน

    เป็นการ์ตูนสี่นาที (นับเพลงเปิดและเพลงปิด) เน้นไปทางมุกสบายๆ น่ารัก จบข่าว!!

     

    Hakata Tonkotsu Ramens


    อนิเมะดัดแปลงจากไลท์โนเวลงานการแต่งเรื่องจาก  Kisaki Chiaki และวาดภาพประกอบโดย Ichiiro Hako

    เรื่องราวเกิดขึ้นภายในเมืองฟุคุโอกะเมืองที่ดูเหมือนสงบสุขแต่แท้จริงภายใต้หน้ากากของเมืองแสนสงบกลับเต็มไปด้วยอาชญากรรมที่เกิดขึ้นทุกวัน เรื่องราวจะโฟกัสที่กลุ่มพวกนักสืบ,นักฆ่าต่อเนื่องนักฆ่ามืออาชีพ   นักแก้แค้นผู้ไม่มีพลาดเป้าหมาย และยังมีตำนานของเมืองกับบุคคลที่เรียกว่านักฆ่าฆาตกรมืออาชีพอีกด้วย

    สำหรับเนื้อหาพยายามเล่าเรื่องของตัวละครก่อน เริ่มจากหลิน เซียนหมิงที่ตอนแรกผมคิดว่าเป็นนางเอก พอเสียงชายจ๋าเท่านั้นแหละ ทำเอาผมหมดอารมณ์  (แต่ไม่ได้เป็นกระเทย) ได้ว่าจ้างให้สังหารนักสืบบันนะ เซ็นจิที่กำลังสืบคดีนักสืบที่ถูกฆ่าว่าเกี่ยวกับนายกเทศมนตรี และรู้ว่าเป็นนักฆ่าหญิง เรย์โกะ ที่เป็นเลขาของผู้ว่า  มีหน้าที่คอยเก็บกวาดปัญหาจากลูกชายผู้ว่าที่ชอบก่อเรื่อง โดยลูกนายกฯ นอกจากฆ่าหญิงในเมือง แล้วยังมีกลุ่มเพื่อนที่ทำร้ายคนข้างทาง ทำให้ต้องรีบปิดเรื่องนี้ (อยากโปกลูกนายกอิบหาย)

    อีกด้านที่ร้านรับแก้แค้น มีคนแจ้งเรื่องทำร้ายคน และให้เบาะแสเป็นชายชื่อ มุราเสะ ทำให้คนรับงานไปเล่นงานที่ห้องพัก โดยไม่ทราบว่าคนที่ซ่อนในที่พักเป็น ไซโต้ นักฆ่ามือใหม่ที่ถูกส่งมาลอบสังหาร มุราเสะ เหมือนกัน

    หลินไปที่สำนักงานของบันบะ แต่ไม่ได้ไปฆ่าเขา แต่มาเสนอว่าจะเป็นผู้คุ้มครองให้...จบตอนที่ 1

                    ถ้าจะให้ออกความเห็น ก็เป็นแนวนักฆ่า  เหมือนดูภาพยนตร์มากกว่าการ์ตูน คือการดำเนินเรื่องไม่ได้มุมมองตัวเอก (ซึ่งน่าจะเป็นนักสืบ) คนเดียว แต่มันมีหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นนักฆ่าชอบแต่งหญิง, นักแก้แค้น, ตำรวจ ไปถึงตัวร้าย ตอนแรกๆ เหมือนไม่ได้ดำเนินเรื่องคนละทิศละทาง  หากแต่เมื่อดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ตัวละครก็ทำใจได้เลยว่าสเกลเรื่องแบบนี้ตัวละครจะโผล่มาเยอะแน่นอน อาจจะเจ็ดหรือแปดก็เป็นได้  แต่ตัวละครที่เด่นกว่าเพื่อนก็หลินนั้นแหละ เป็นตัวละครที่สนุกที่ปรากฏตัวทุกครั้งที่มีบท

                    ในด้านงานภาพ ก็ไม่ได้อลังการ แต่ก็ถือว่าดี เพราะเนื้อหาเป็นสายเรียล ก็ไม่เท่าไหร่ สิ่งไม่ชอบ คือมีฉากศพผู้หญิงโชกเลือดมั้ง เห็นสภาพศพแล้ว ฉากโปกฆาตกรต่อเนื่องฟ่ะ

    ใครไม่ชอบความฉับไว ก็ขอให้ผ่านไปได้เลย เพราะเนื้อหาเน้นการเล่าเรื่องราว  ทำให้บทสนทนาบางครั้งน่าเบื่อ จับต้นชนปลายไม่ถูก

    ปล. ตอนแรกนึกว่าแนวสืบสวน คิลเลอร์ น่าเสียดายจัง ผมว่าแนวนี้หายไปจากแนวอนิเมะมานานแล้วนะ อยากได้ซีรีย์แนวนี้ที่ไม่ใช่คินดะอิจิ ไม่ใช่โคนันบ้างจัง


    Kokkoku  

    Kokkoku  เป็นอนิเมะแนวลึกลับ ดัดแปลงมาจากมังงะ Kokkoku: Moment by Moment ผลงานของ อ.Seita Horio กำกับโดย: Yoshimitsu Ohashi (จากผลงาน Witchblade, Sacred Seven และ Galaxy Angel)  

    เนื้อหาอนิเมะเปิดตัวด้วยฉากหยุดเวลาและสัตว์ประหลาดที่เราไม่รู้มันคืออะไร ก่อนที่จะตัดมาที่ตัวเอกที่ชื่อ ยูคาวะ จูริ  เธออยู่วัยกำลังทำงานที่วุ่นกับการหางานในเมือง โดยหวังจะไม่เป็นภาระครอบครัว บวกกับอยากหนีออกจากบ้าน โดยบ้านประกอบไปด้วยคุณปู่ที่น่านับถือ, พี่สาว (ไม่มีบท) ที่หางานหนักเพื่อหาเงินเลี้ยงลูก (หลานของนางเอก) และปลิงประจำบ้านที่มีทั้งพ่อที่ไม่เอาไหน กับพี่ชายนีทขี้แพ้ แม้จะเป็นครอบครัวที่ดูประหลาดไปหน่อย แต่มันก็เป็นครอบครัวที่เชื่อว่ามีอยู่จริงในสังคมญี่ปุ่น

    จนกระทั่งวันหนึ่ง ในตอนเย็นขณะที่พี่ชายนีทได้ไปรับหลานจากโรงเรียน ระหว่างทางกลับบ้านทั้งสองก็ถูกลักพาตัวโดยกลุ่มคนลึกลับ พร้อมโทรมาหาครอบครัวนางเอกแล้วเรียกร้องเงิน 5 ล้านเยน และให้มาในเวลาที่กำหนด แน่นอนว่าครอบครัวจนปัญญาที่จะเอาเงินจำนวนมากนี้ได้ แถมไม่สามารถเดินทางไปตรงเวลานัดได้

    ระหว่างที่ครอบครัวกำลังสับสนไม่รู้จะทำยังไงดีอยู่นั้น จู่ๆ คุณปู่ก็ได้เปิดเผยความลับของตระกูล ว่าตระกูลของปู่นั้นมีหินวิเศษที่หากได้ร่ายมนตร์แล้วคนที่แตะต้องหินจะสู่โลกคู่ขนานที่ไร้กาลเวลาที่เรียกกันว่า Stasis  ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง ทำให้พวกเขาสามารถไปช่วยเหลือสองคนที่จับตัวไปโดยง่าย อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้ไปช่วย ปรากฏว่าพวกเขาได้พบกันกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเอง่า “ลัทธิ” ปรากฏตัว และพวกเขาวสามารถเคลื่อนไหวในโลกได้อย่างอิสระ พวกเขามีจุดหมายสังหารทุกคนในครอบครัวนางเอก เหลือเพียงปู่ และหินวิเศษเท่านั้น แน่นอนว่าครอบครัวของนางเอกจำเป็นต้องมีชีวิต สู้ หลบหนี ในโลกคู่ขนาน พวกเขาจะสามารถกลับคืนสู่ชีวิตอันแสนปกติของเขาได้หรือไม่

    ตอนแรกที่ผมอ่านเนื้อหา ก็ดูถูกหน่อยๆ ว่าแนวต่อสู้พลังวิเศษหรือเปล่า แนวตลาดหรือเปล่า แต่เมื่อดู โอ้ นี้มันแนวลึกลับนี้น่า การดำเนินเรื่องสนุกมาก แบบว่า มันจะมีมุกอะไรเข้ามาอีก มันแปลก ไม่เห็นบ่อยนัก มันคาดเดาไม่ได้ ไม่รู้จะมีอะไรโผล่มาให้เซอร์ไพร์อีก (เชื่อเถอะว่าต้องมีเยอะแน่นอน)

    แถมยังสอดแทรกเรื่องของครอบครัวที่ไม่ได้ดีเลิศเหมือนครอบครัวการ์ตูนญี่ปุ่นที่เราเห็นกัน ครอบครัวที่สมาชิกมีปลิงสองคน พ่อที่ไม่เอาไหน พี่ชายนีทขี้แพ้ เชื่อเถอะครับว่าตัวการ์ตูนน่าจะมีบททั้งคู่ทำอะไรสักอย่างหล่อๆ เพื่อครอบครัวแน่นอน ในเมื่อภาพยนตร์เกาหลีอสูรนรกกลายพันธุ์ และ Coco ยังทำได้ เรื่องนี้ก็น่าจะมีบ้างน่า ซึ่งผมเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นแนวครอบครัวอะไรมากกว่า

    อนิเมะเป็นผลงานสตูดิโอหน้าใหม่อย่าง Geno Studio ที่มีผลงานไม่กี่เรื่องเท่านั้น (รู้สึกว่าอนิเมะนี้เป็นอนิเมะยาวเรื่องที่สองเท่านั้นเอง) แต่ขอโทษครับ งานภาพเข้าขั้นดี การดำเนินเรื่องกดดัน มีอะไรเซอร์ไพร์ตลอด โลกที่เวลาหยุดเด่น มุมกล้อง การใช้สโลโมชั่น แม้แต่ตัวสัตว์ประหลาดที่ทำออกมาน่ากลัวจริงๆ ไม่ใช้ CG แข็ง             ๆ กากๆ ให้ตายเถอะ ต้องชมครับ

    มังงะโครตเซอร์ไพร์ในซีซั่นนะครับ ยอมรับเลยไม่มีความคิดที่จะดู พอดีมีนอนเบอร์คนหนึ่งชื่อ “กวิน” บอกว่าสนุก ผมก็ไม่เชื่อนะ พอดีมาเขียนรีวิวเลยดูสักหน่อย  พอดูแล้วยังไม่รู้ว่าแนสอะไร ครอบครัวนางเอกเห็นแล้วปวดหัวแทน พี่ชายนีทได้ใจ เจอลักพาตัว โลกหยุดเวลา ไปช่วยไปเจอกลุ่มบ้าลัทธฺ แล้วสัตว์ประหลาดโผล่มา เซอร์ไพร์ จบ.....

    ไม่ได้ดูการ์ตูนแนวลึกลับมานานแล้ว เนื้อหามีการผสมอะไรหลายอย่าง อย่างโลกพิศวง พวกลัทธิ เนื้อหาอาจดูรุนแรงบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นดาร์ก แต่ก็ไม่ใช่อนิเมะที่ดูแล้วาสบายใจเช่นกัน ดูแล้วลุ้นตลอด ส่วนตัวผมลุ้นให้สมาชิกครอบครัวนางเอกรอดปลอดภัยหมดนะ ถึงแม้พ่อไม่เอาไหน กับพี่ชายนีทจะแย่ แต่พวกเขาก็คือครอบครัว

    จะว่าไป ญี่ปุ่น ก็ไม่ค่อยนำเสนอการ์ตูนครอบครัวประเภทไม่สมบูรณ์แบบสักเท่าไหร่ (ไม่เอาครอบครัวใช้ความรุนแรงและมีเพศสัมพันธ์ในครอบครัวนะครับ) มันสื่อถึงโลกเราไม่ได้มีอะไรสมบูรณ์แบบ เพียบพร้อมไปเสียหมด บางครั้งคนที่ต้องทำงานเลี้ยงครอบครัวกลับเป็นผู้หญิงซะงั้น

    อีกหนึ่งที่ต้องชม ก็คือกลุ่มคนลัทธิของเรื่อง ที่ทำได้อย่างมีความเป็นมนุษย์ พวกสมาชิกก็มีหลายช่วงอายุ ทั้งหนุ่ม ทั้งแก่ พวกเขาจิตใจอ่อนแอ และคลั่งศาสนา ความรู้สึกผิด หรือรู้สึกถูกนั้นไม่สามารถแยกแยะได้ สิ่งที่พวกเขาทำคือความเชื่อผิดๆ ที่เจ้าลัทธิล้างสมอง ซึ่งทำออกมาได้สมจริง และน่าโบกหัวจริงๆ (ตอนฉากพวกตัวร้ายตายนี้ สะใจ สดชื่นมากๆ)

    ต้นฉบับเป็นมังงะมี 8 เล่มจบ ความจริงตัวมังงะนี้ลายเส้นไม่เท่าไหร่หรอก นางเอกและตัวละครหลักหน้าบ้านๆ มาก ต้องชมอนิเมะที่ใช้ภาพให้ดูน่ารักขึ้น ตัวร้ายออกแบบให้ดูรัศมีร้ายๆ มากขึ้น ที่สำคัญเพลงจบ EP เซอร์วิสอย่างงาม

    สรุปแล้ว เป็นอนิเมะที่ดำเนินเรื่องสุดยอด น่าติดตาม เนื้อเรื่องเกินคาดหมาย  ที่มาที่ไปของตัวละครหลักมีมิติ โดยเฉพาะบรรดาสมาชิกครอบครัวนางเอกน่าจะมีการพัฒนาการแน่นอน เรื่องเหนือธรรมชาติทั้งหลายแหลเป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น มันสนุกตรงจิตวิทยา จิตใจของมนุษย์ในเรื่องมากกว่า

    ปล.หลานนางเอกน่ารัก (มังงะออกแบบบ้านๆ มาก)


    Karakai Jouzu no Takagi-san


    Karakai Jouzu no Takagi-san เขียนโดย อ.Yamamoto Souichirou นั้น ก็สมใจแฟน ๆ ครับ เมื่อนิตยสาร Gessan ของ Shogakukan เป็นเรื่องราวของทาคากิจัง เด็กสาวผู้ชอบหยอกล้อแกล้งนิชิคาตะคุง เด็กหนุ่มเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งอยู่ถัดจากเธออยู่เป็นประจำ ทว่า เมื่อถึงเวลาที่นิชิคาตะคิดจะหาทางแกล้งเธอกลับทีไร เป็นอันเหลวเป๋วทุกที และนั่นเองก็ทำให้เรื่องราวกุ๊กกิ๊กระหว่างหนุ่มสาวทั้งสองเป็นอะไรที่สุดฟินชวนใจเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว !

    ก่อนอื่น ผมขอบอกว่าผมไม่ได้มีรสนิยมในการดูอนิเมะแนวคู่รัก (หรือกำลังรักกัน) มาจู๋จี้กันแม้แต่น้อย กลับกัน ดูแล้วอย่างแช่งให้โซดิแอค เดอะ คิลเลอร์โผล่มาฆ่า เฉือดคออย่างเมามัน เพราะมันเป็นการ์ตูนที่ทำร้ายจิตใจชายโสดอย่างผมมาก

    พอดีการ์ตูนเรื่องนี้ มีใครบางคนอวย ผมเลยแว่บมาดู แล้วมาเขียน  ตัวอนิเมะตอนหนึ่งประกอบด้วยสามตอนย่อย ที่ดำเนินเรื่องตรงต้นฉบับ เนิ่บๆ ช้า โครตธรรมดา ใครที่ดูอนิเมะแล้วก็รู้มุกหมดแล้ว ทำให้ลดความน่าสนใจพอสมควร แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนชอบก็คือตัวของทาเคกิ เสียพากย์ นิสัย น่ารักดี เห็นเริ่มมีแฟนฮาร์ตขึ้นมาแล้ว

    ในด้านการดำเนินเนื้อเรื่อง ภาพไม่ค่อยเคลื่อนไหวสักเท่าไหร่ เน้นการดำเนินเรื่อง จบลงด้วยการเล่นมุกหยอกกันอย่างน่าอิจฉา  (แต่ไม่ได้ฮ่าหรอก) แต่เอาเข้าจริง ผมชอบแบบหยอกแบบ Ijiranai de Nagatoro-san มากกว่า ผมฟินแทบแตก

    ดูไปดูมาผมก็นึกว่าทาเคกิกับนิชิคาตะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันเสียอีก เพราะโครตสนิทกันมาก ทั้งมาโรงเรียนด้วยกัน คุยด้วยกัน มันสนิทจนน่าสงสัย แต่ดูจากวิธีการพูดจา มันกลับเป็นเพื่อนร่วมห้องซะงั้น

    นอกนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษ

    เอ่อ....ลืมไป การ์ตูนยังมีเวอร์ชั่นแต่งงาน และมีลูกกันอีก (ถือว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่แปลกมาก เพราะตัวการ์ตูนตอนมัธยมยังไม่จบเลย นี้เอารูทแต่งงานที่น่าจะเป็นตอนอวสาน แถมเป็นเรื่องยาวอีก มาทำแล้ว) ประเด็นคือชีวิตคู่นี้จืดชื่นนะเนี้ย หากมองตามเนื้อหา จากเด็กบ้านนอก สงบสุข แต่มาใช้ชีวิตในเมือง เช่าอพาร์เมนต์  พระเอกก็เป็นมนุษย์เงินเดือน สาวขี้แกล้งก็เป็นแม่บ้าน มีลูกสาวคนหนึ่ง ชีวิตธรรมดามากๆ แต่ทั้งคู่ก็พยายามสร้างสีสันให้กับชีวิต พยายามสนุกกับชีวิต (ไม่มีรูทสามีเจ้าชู้ บ้านแตกเรอะ)

     

    Toji no Miko


    สตูดิโอ Gokumi เจ้าของผลงานสาวน้อยเวทมนตร์ปวดตับ (ที่ไม่ใช่มาโดกะ) อย่าง Yuuki Yuuna wa Yuusha de Aru หรืออนิเมซีรี่ส์โรแมนติกอย่าง Seiren กับโปรเจคอนิเมทีวีซีรี่ส์ออริจินอลชื่อ Toji no Mikoหรือแปลได้ว่า มิโกะนักดาบ  

    เนื้อหาเกี่ยวกับยุคสมัยที่บ้านเมืองถูกปีศาจที่ถูกเรียกว่า อาราทามะ รุกราน ก็ได้มีกลุ่มมิโกะ หรือสาวคนทรงที่ถูกฝึกปรือฝีมือการต่อสู้เป็นพิเศษด้วยการใช้อาวุธดาบซึ่งเรียกว่าโทจิ” (แปลว่าผู้ใช้ดาบ) มาตั้งแต่โบราณกาล และสืบทอดมาจนเป็นหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของทางการในยุคปัจจุบัน โดยที่สาว ๆ นักดาบเหล่านี้ จะได้ร่ำเรียนวิชาและฝึกฝนฝีมือจากโรงเรียนมัธยมเฉพาะทาง 5 แห่ง และเรื่องราวการต่อสู้เพื่อปกป้องผู้คน รวมถึงการวัดฝีมือของเหล่านักดาบระหว่าง 5 โรงเรียน ก็ได้เริ่มขึ้น

    เห็นว่าเป็นอนิเมะที่พยายามทำให้ดังเหมือนกัน เพราะจะมีเกมมือถือของค่าย Square Enix ในชื่อ Toji no Miko: Kizamishi Issen no Tomoshibi อีกต่างหาก หรือง่ายๆ เป็นอนิเมะโปรโมทเกม

    จะว่าไปหลังจากอนิเมะ Vividred Operation  กับสาวน้อยกับรถถังจบไปนี้ แนวมิโอะต่อสู้ แทบไม่มีเรื่องไหนที่ผมสนใจอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยเวทมนต์ปวดตับ ปวดใจทั้งหลายแหล่ (เพราะผมไม่ชอบดราม่ามาก) แถมส่วนใหญ่อนิเมะแนวนี้จะเป็นอนิโมะโปรโมเกมอะไรมากกว่า แถมล่าสุดตำนานกางเกงในเหินเวหาผลตอบรับก็ไม่ดีนัก ไม่ได้เป็นตำนาน เอาง่ายๆ แนวนี้ชอบทำออกมาน่าเบื่อ ซ้ำซาก จืดชืดด้วย

    อนิเมะอุตส่าห์เปิดตัวด้วยการอาละวาดของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ถล่มเมือง แล้วเหล่ามิโกะถือดาบออกมาต่อสู้ ผมก็นึกว่าเป็นแนวโมเอะสู้กับสัตว์ประหลาด แต่ปรากฏว่าเนื้อหากล่าวถึงกลุ่มตัวเอกที่อยู่มัธยมปลาย ที่ใช้วิชาดาบต่อสู้กับโรงเรียนอื่นๆ (ซะงั้น)

    หลังจากนั้นเนื้อหาก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจสักเท่าไหร่  คือมันไม่มีพลังพอที่จะทำให้ติดตามด้วยซำ เพราะวนเวียนกับการต่อสู้ปะดาบกัน แข่งขัน แต่ไม่ค่อยปูเรื่องของตัวละครมากนัก ซ้ำการออกแบบตัวละครก็ยังซ้ำซาก ตัวเอกร่าเริง ชอบท้าทายสิ่งใหม่ๆ มองโลกแง่ดี ให้ตายเถอะสรุปแนวโมเอะคาแร็คเตอร์ตัวเอกต้องเป็นแบบนี้หมดเลยเหรอ

    อนิเมะแนวโมเอะต่อสู้ มันจะต้องสร้างมิติตัวละครให้น่าสนใจ ตัวเอกมีปม หรือสร้างอะไรให้ตื่นตาตื่นใจหน่อย อย่าง Vividred Operation   แม้เนื้อหาสูตรสำเร็จ แต่ผมให้เครดิตภาพเซอร์วิสตูดเด็กงามๆ ฉากแปลงร่าง ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดอย่างเมามัน ส่วนสาวน้อยรถถังมีการเล่นปมละครนิดๆ หน่อย ตัวละครมีจุดเด่น มีเอกลํกษณ์ ฉากต่อสู้รถถังแม้ว่าจะเป็น CG แต่มันทำออกมาได้มีอารมณ์ ลุ้น สนุกตื่นเต้น

    แต่อนิเมะ Toji no Miko จุดไม่มีดเด่นให้น่าติดตามเลยในตอนแรก ทั้งสองเรื่องที่กล่าวถึงมีจุดเด่นที่ทำให้คนดูรู้สึกสนุกในตอนแรก และมีความคิดที่อยากติดตามต่อ) ไม่มีเซอร์วิส การปะดาบก็ใช่ว่าจะดีเลิศ ตัวละครก็ไม่ได้โดดเด่นขนาดต้องอวย (และยังคงสูตรสำเร็จของแนวต่อสู้โมเอะที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก


    Beatless


    Beatless เป็นอนิเมะดัดแปลงจากนิยายที่แต่งเรื่องโดย Hase Satoshi และวาดภาพประกอบโดย redjuice (คนออกแบบตัวละครมงกุฎบาป)

    เนื้อหาของเรื่อง เป็นแนวไซไฟ กล่าวถึงญี่ปุ่น ปีคริสต์ศักราช 2015 hIE แอนดรอยด์รูปร่างมนุษย์ที่มีความสำคัญอย่างมากกับการใช้ชีวิตของ  สามารถทำเรื่องที่มนุษย์ทำได้และทำไม่ได้ เอ็นโด อาราโตะ เด็กหนุ่มที่เห็นคุณค่าของ hIE ต่างจากเพื่อนสนิทของเขา เรียวและเคงโกะ ที่มองเห็น hIE เป็นเพียงแค่สิ่งของเท่านั้น

    จนกระทั่ง ในเย็นวันหนึ่ง มี hIE ลึกลับ 5 ตัว (ไม่แน่ใจ ว่าจะมีเพิ่มหรือเปล่า) ได้ทำลายสถาบันวิจัย ออกมาสู่โลกภายนอก ในช่วงเวลานั้นอาราโตะกำลังอยี่ระหว่างซื้อของกลับบ้าน และพบสิ่งที่เหมือนกลีบดอกไม้ ความจริงแล้วกลีบดอกไม้นี้คือแมลงขนาดเล็กที่ควบคุมพวกเคลื่อนจักร และพวกมันพยายามทำร้ายอาราโตะ หากแต่เขาจนได้รับการช่วยเหลือจาก hIE ลึกลับ ชื่อ เลเซีย เธอให้เขาตอบรับ เป็นเจ้าของเธอ (มาสเตอร์)  เพื่อหยุดการควบคุมของพวกกลีบดอกไม้ในบริเวณนั้น

    ต่อมา อาราโตะได้พา เลเซีย มาพักที่บ้านเขาและสนิทกับ ยูกะ น้องสาวของอาราโตะอย่างรวดเร็ว เธอได้คุยกับอาราโตะภายหลัง และย้ำเขาที่มองว่าเธอคล้ายมนุษย์ เพราะเธอเป็น hIE และไม่มีวิญญาณแบบมนุษย์ ท่ามกลางปริศนามากมาย ภัยร้ายของมวลมนุษย์ชาติเริ่มถือกำเนิดอย่างช้าๆ

    ตัวอนิเมะสร้างโดยสตูดิโอ Diomedéa ถ้าถามคุณภาพงาน ก็ถือว่าดีพอสมควร มันอาจไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เวอร์วังยังไง แต่มันก็ทำออกมาดูดี การเคลื่อนไหวดี

    สำหรับพล็อตและการเล่าเรื่อง ก็ยอมรับว่ามันโครตสูตรสำเร็จ  แนวพระเอกอ่อนแอที่ปกครองโดยผู้หญิงที่แข็งแกร่งกว่า พระเอกเป็นคนธรรมดา โดนอะไรบางอย่างทำร้าย นางเอกเข้ามาปกป้อง ขากนั้นก็เข้าเรื่องราว มีภัยอันตรายคุกคามในชีวิต พร้อมปริศนาความทรงจำในอดีต ซึ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบของการ์ตูนประเภทนี้ ซึ่งจะดีหรือเลว ขึ้นอยู่กับการปรุงรส รวมไปถึงความสมพันธ์ตัวละคร รวมไปถึงตอนจบดีหรือไม่ดี ซึ่งต้องมาลุ้นกับ Beatless

    ส่วนตัวผมชอบพล็อตแบบนี้นะ มันสูตรสำเร็จก็จริง แต่มันย่อยง่าย เข้าใจง่าย ผมชอบพระเอกอ่อนแอ ที่มีความเป็นมนุษย์ (แต่หลายคนหาว่าโลกสวย อะไรนี้แหละ) และผู้หญิงแกร่งผมก็ชอบ ยิ่งตัวเลเซียนี้น่ารักมาก (ไม่นับชุดต่อสู้นะเอ่อ) เสียดายเรื่องนี้ไม่มีมุมมองเซอร์วิส เพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดไปทางนั้น

    เนื่องด้วยว่า ไม่ได้อ่านนิยาย แต่ได้อ่านมังงะ ก็มีอะไรบางอย่างที่ผมโครตคาใจ คือดีตของพระเอก ที่พระเอกผมเด็กสาวผอมๆ คนหนึ่ง มันเกี่ยวช้องอะไรกับ hIE หรือเปล่า ซึ่งมังงะไม่ได้เฉลยปริศนานี้ ทำให้ผมหวังกับอนิเมะมากว่าจะเฉลยไปทิศทางใด และอารมณ์ของเรื่องจะเป็นไปในทิศทางไหน  มันอาจไม่เข้มข้นบ้าพลังแบบมงกุฎบาป แต่สิ่งที่ผมให้ความสำคัญคือเนื้อเรื่อง และบทที่จะไม่หักหลังคนดู และไม่ดราม่ามากเกินไป มากกว่า 

    ดังนั้นผมจะไม่อ่านสปอยๆ เรื่องนี้ใดๆ ทั้งสิ้น

    อีกคำถามที่คาใจคือเพลง EP แทนที่จะเป็นการเล่าเรื่องของพระเอกหรือเลเซีย แต่กลับเป็นภาพชีวิตประจำวันของน้องสาวพระเอก ราวกับว่าน้องสาวจะขโมยยังไงอย่างนั้น ซึ่งบางทีอาจมีบทน้องสาวที่สำคัญก็เป็นไปได้ (ขนาดภาพเปิดตัว ยังมีน้องสาวพระเอกติดอยู่ในภาพเลย) แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นรูปแบบไหน ส่วนตัวอยากให้เป็นลาสต์บอสนะ

    แต่สิ่งที่ผมพอเดานะจะเกี่ยวข้องกับตัวอนิเมะน่าจะเกี่ยวกับเรื่อง ภัยก่อการร้ายทางไซเบอร์ สังเกตได้ว่าหุ่นทั้ง 5 ตัว มีกลไกซับซ้อน มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตนเอง และมีพลังทำลายสูง และพลังหลายอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับการทำลายเทคโนโลยีทั้งนี้ บ้างเรื่องนี้จะพยายามสื่อการทำลายเทคโนโลยี การล่มสลายเทคโนโลยี ก็เป็นไปได้

    ตัวอนิเมะมีถึง 24 ตอน เน้นชีวิตประจำวัน ตบท้ายด้วยการต่อสู้ หลายคนที่ไม่ชอบอะไรเนิ่บๆ  อาจเบื่อบ้าง จนผมก็แอบคิดนะว่าเนื้อหามันจะเล่นอะไรบ้าง และปลายทางเรื่องจะเป็นเช่นไร


    Nanatsu no Bitoku


    หลังจาก Nanatsu no Taizai สาวแห่งบาปทั้ง 7 ได้เป็นอนิเมะไปแล้ว คราวนี้เป็นคิวของสาวแห่งศีลธรรมทั้ง 7 บ้างแล้วครับ Hobby Japan ประกาศ Nanatsu no Bitoku (ศีลธรรมทั้ง 7)

    มหาบาปทั้งเจ็ดเหล่าปีศาจจากขุมนรกเริ่มแผ่ปกคลุมโลกมนุษย์ สวรรค์จึงส่งเหล่านางฟ้า ศีลธรรมทั้ง 7” ประกอบด้วย Michael (Faith – ศรัทธา)Uriel (Patience – ขันติ) Sariel (Kindness – เมตตา) Sandalphon (Diligence – พากเพียร)Metatron (Charity – กรุณา) Raphael (Temperance – ความยับยั้ง) Gabriel (Chastity – การถือพรหมจรรย์) มายังโลกเพื่อตามหาว่ามนุษย์ผู้ใดจะเป็นผู้ไถ่บาปที่แท้จริง

    เป็นอนิเมะที่ต้องยอมรับว่าขายเซอร์วิส และนม แต่เอาเข้าจริงอนิเมะซีซั่นนี้แทบไม่มีเรื่องขายเซอร์วิสเลย จะมีเรื่องนี้แหละที่ออกมาบอกเต็มภาคภูมิว่าอนิเมะนี้ขายนมนะเฟ้ย อย่างน่าภูมิใจ

    คือ....เป็นอนิเมะคาดหวังจะเห็นอะไรเสื่อมๆ เต็มอิ่มเทียบเท่าเจ็ดบาปนะ แต่พอออกมาอยากร้องว่าทำไมกลายเป็นอนิเมะ สามนาทีฟ่ะ (หรือสามนาทีกว่าๆ นับเพลงเปิดและปิด) เนื้อเรื่องเซอร์วิสอย่างโหด ทั้งนมเห็นจุก กางเกงในลายทาง เสียดายแค่สามนาทียังไม่จุใจเลย เพิ่มเป็น 23 นาทีเหมือนพวกเจ็ดบาปไม่ได้เหรอ

    ปล เห็นชุดนางฟ้าแล้วอยากผิดศีลธรรมมากกว่า


    Yuru Camp

    มังงะแนวสาวตั้งแคมป์ Yuru Camp ผลงานของ Afro (Shirokuma to Fumeikyoku) ตีพิมพ์ในนิตยสาร Manga Time Kirara Forward ลิขสิทธิ์ของบริษัท Honbunsha ตีพิมพ์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 ถึงปัจจุบัน มีฉบับรวมเล่ม 3 เล่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ยังไม่จบ โดย ทีวีอนิเมะ Yuru Camp ผลิตโดยบริษัท C-Station

    เนื้อเรื่องกล่าวถึงรินชอบเดินทางตั้งแคมป์ค้างแรมในทะเลสาปใกล้ภูเขาไฟฟูจิเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาไฟ เธอออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ ทำให้เธอได้พบกับ คากามิฮาระ นาเดชิโกะ  าวซื่อ ร่าเริง เพิ่งย้ายจากชิซึโอกะ มาดู ภูเขาไฟฟูจิ แต่กลับงีบจนมืด  ทำให้ได้พบกับ ริน ที่มาแถวนั้นพอดี  และได้รู้จักกันเริ่มสนิทกันภายหลัง เดินทางไปตั้งแคมป์เพื่อชมธรรมชาติที่สวยงามในญี่ปุ่นด้วยกัน

                    ตัวเอกเป็นสาวเปิ่นร่าเริง กับสาวคูลหน่อยๆ ตามสูตรสำเร็จ ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน และเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน มุ้งมิง ทำกิจกรรมร่วมกัน ยูรินหน่อยๆ ไม่ถึงขั้นแรงมาก  เอาตรงๆ ก็ไม่แตกต่างอะไรจากแนวโมเอะทั่วไปสักเท่าไหร่

                    ดังนั้นจุดเด่นเรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องการตั้งแคมป์ ซึ่งคงจะเน้นเรื่องงานภาพเหมือนกัน  เพราะต้องสื่อเรื่องความงามของธรรมชาติ ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งตัวอนิเมะเองแม้ภาพจะไม่ได้สวยงามมาก แต่ก็สวยระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพป่าที่หลากสีสัน  ภูเขาไฟฟูจิต้องแสงจันทร์ แต่สิ่งที่ชมก็คือบรรยากาศ ที่สื่อถึงหนาวเย็น ความอบอุ่นของการก่อกองไฟ การบรรยายต่างๆ ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนตั้งแคมป์จริงๆ

    อนิเมะนี้เหมาะสำหรับคนชอบตั้งแคมป์ ส่วนตัวผมมีประสบการณ์ตั้งแคมป์ที่ไม่ค่อยดีนัก อุปกรณ์ตั้งแคมป์ไม่ได้มีเยอะแบบในอนิเมะแบบนี้ (ตะเกียวน้ำมัน, เต็นท์ไม่มีหรอก) เกือบหนาวตายด้วยซ้ำ ทำให้ความคิดว่าอยู่บ้านเราที่แสนอบอุ่นดีกว่า นอกจากนี้ก็มีข้อมูลการตั้งแคมป์ของญี่ปุ่นอีก ย้ำว่าของญี่ปุ่นนะ เพราะบางอย่างใช้กับเมืองไทยไม่ได้ (ยกเว้นว่า คุณจะไปตั้งแคมป์ที่ญี่ปุ่น)

    ปล. คนดูอย่าเอาเป็นแบบริน ที่ไปตั้งแคมป์คนเดียวเน้อ บ้านเราต้องระมัดระวังตัวดีๆ เพราะบ้านเรามีอันตรายรอบด้าน ทั้ง คนหื่นกาม, สัตว์ป่า, สภาพอากาศ, มนุษย์ต่างดาว ฯลฯ


    Death March kara Hajimaru Isekai Kyousoukyoku


    Death March kara Hajimaru Isekai Kyousoukyoku  หรือชื่อไทย โศกนาฏกรรมต่างโลกเริ่มต้นจากเดธมาร์ช  เป็นอนิเมะดัดแปลงมาจาก Light Novel ชื่อเดียวกัน โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2017 เขียนเรื่อง Ainana Hiro

    โศกนาฏกรรมต่างโลกเริ่มต้นจากเดธมาร์ช" ซุซุกิ อิจิโร่ (ซาตู) โปรแกรมเมอร์เกมออนไลน์วัย 29 ปี ตื่นขึ้นมาในโลกแฟนตาซีสไตล์ RPG เขากลายเป็นตัวละครชายในชื่อ ซาตู วัย 15 ปี ด้วยความสามารถที่สูง ทำให้เขาสามารถล้มมอนสเตอร์ขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย กลายเป็นนักผจญภัยชั้นแนวหน้าในเวลาอันสั้น

    หลังจากที่สมาร์ทโฟนล้มเหลวไม่เป็นท่า  มันบ่บอกชัดเจนว่าอนิเมะแนวต่างโลกเรื่อยเปื่อยพระเอกไร้จุดมุ่งหมายเป็นความไม่เข้าท่านัก แม้ว่ายอดขายนิยายจะดีกว่าตาม และผมคาดว่าเดธมาร์ชก็จะเป็นอนิเมะอีกเรื่องจะตามรอยสมาร์ทโฟนแน่นอน ว่าเนื้อหาดำเนินมันคล้ายกัน....

    อนิเมะเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวของพระเอกที่ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ ที่อยู่ในช่วงเดธมาร์ช ยาวนานกว่า  15 นาที ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็น่าเบื่อเลยแหละ จะให้มาดูความลำบากโปรแกรมเมอร์แก้บัคเกม เสริมด้วยพระเอกช่วยเด็กหลง (รู้สึกฉากนี้ไม่มีในนิยาย) ซึ่งก็ไม่รู้เพื่ออะไร  มันไม่ได้สื่อเรื่องปมพระเอกอะไรเลย แค่บ่บอกว่าพระเอกเป็นคนดีเท่านั้น (แต่ปัญหาคือ เนื้อหายังบอกด้วยว่า พระเอกไม่มีเมีย แต่เที่ยวผู้หญิง...)

    ส่วนวิธีไปต่างโลกคือความฝัน (หรือไม่ทราบสาเหตุ) จากนั้นพระเอกก็หลงไปอยู่ในโลกแฟนตาซีแบบ งง พร้อมสกลิโงคือใช้เวทย์ชั้นสูงสุดโหดกวาดล้างกองทัพแย้ ทำให้เลเวลขึ้นพรวด จากนั้นก็ไปช่วยผู้หญิงที่เป็นหนึ่งในฮาเร็ม จบตอน

    สำหรับตอนที่ 1 ไม่เท่าไหร่ คือพยายามเน้นเรื่องราวของพระเอกก่อนที่จะมาอยู่ต่างโลก คงเห็นสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้เล่าเรื่องราวพระเอกสักเท่าไหร่ เลยจัดมา โดยส่วนตัวผมว่าถือว่าดีในการเริ่มต้นของตัวเอกที่แสดงให้เห็นว่าชีวิตในโลกแห่งความจริงมันเครียดขนาดไหน ใช้งานอย่างกับทาส เงินเดือนไม่พอกิน นอนไม่พอ ฯลฯ ดังนั้นพี่แก่เลยไปปลดปล่อยความสบายที่ต่างโลกเสียเลย

    ครับ.....พระเอกไม่มีปมอะไรเลย ต่อให้เล่าเรื่องราวพระเอกยังไง ก็ไม่เห็นปมด้านมืดของพระเอก ซึ่งผมว่าปมเหล่านี้จะทำให้ดูสนุกขึ้น น่าติดตามขึ้น มากกว่าพระเอกที่ปกติธรรมดา และเป็นคนดีเสียอีก และวิธีการไปต่างโลกพระเอกก็คล้ายๆ โอเวอร์ลอร์ด แต่ส่วนตัวผมว่ามันหนักไปทางฝันมากกว่า ของโอเวอร์ลอร์ดนี้มีการเล่าเรื่องให้เก็บไปคิดมากกว่าว่าตกลงแล้วพระเอกโอเวอร์ลอร์ดมาต่างโลกเพื่ออะไรกันแน่

    ด้านกราฟฟิกดีกว่าสมาร์ทโฟนเล็กน้อย อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นความยุ่งใหญ่ของเวทย์พระเอกบ้าง ไม่รู้ว่าตอนต่อๆ ไปก็มีการเผาหรือเปล่า

    สำหรับตอนแรกก็ไม่มีอะไรมาก แต่ผมเชื่อว่าตอนต่อๆ มาก็ไม่มีอะไรเหมือนกัน คงวนๆ อยู่กับตัวละครหญิงในฮาเร็มมากมาย พระเอกก็สกิลโหดไปเรื่อย ซึ่งผมก็อ่านมังงะมาแล้ว ผมว่าการเดินทางพระเอกไร้จุดหมายมากๆ ตัวละครในฮาเร็มเยอะเกินไป และมิติตัวละครค่อนข้างแบน (ของพระเอกสมาร์ทโฟน อย่างน้อยพระเอกมันอัฟสถานะ เหล่าฮาเร็มยังมีจุดเด่นมีบทอยู่บ้าง) สิ่งเหล่านี้ทำให้อนิเมะเรื่องนี้มีมีแรงจูลบใจให้เติมตาม

     

    Ryuuou no Oshigoto


    ไลท์โนเวล Ryuuou no Oshigoto!ไลท์โนเวลแนวคอเมอดี้ผสมเล่นหมากรุกญี่ปุ่น ผลงานของ Shiratori Shirow ผู้เขียนเรื่อง Nourin (ไอดอลสาวชาวไร่) วาดภาพประกอบโดย Shirabi อนิเมะผลิตโดยสตูดิโอ Project No.9 (Ro-Kyu-Bu!, Tenshi no 3P!)

    คุซุริว ยาอิจิ เด็กหนุ่มผู้เป็นเซียนเกม โชกิหรือหมากรุกญี่ปุ่น” ได้รับการขนานนามว่าเป็น ริวโอ (มีเงินรางวัล และเงินเดือน) ที่อายุน้อยและเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์  แต่ปัจจุบันฝีมือเขาตก แถมโดนคอมเมนต์โลกออนไลน์เยาะเย้ยว่ากากอีกต่างหาก จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาก็ได้เจอ เด็กประถม ชื่อ  ฮินัทสึรุ ไอบุกมาถึงห้อง ขอร้องให้สอนหมากรุกญี่ปุ่นให้.. เมื่อเขาได้พบกับ ฮินัทสึรุ ไอ เด็กสาวอายุเพียง 9 ขวบ ที่อยู่ๆก็โผล่มาที่บ้านของยาอิจิ เธอประทับใจในตัวพระเอก และมีพรสวรรค์มากๆ  และเธอได้หนีออกจากบ้านมาขอให้พระเอกรับเป็นลูกศิษย์

    บางครั้งผมก็สงสัยนะ ว่าทำไมการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ทำอะไรให้สากล อย่าง เกมกระดาน, การเล่นหมากรุกสากล บ้าง ทำไมต้องเน้นเกมที่เฉพาะกลุ่ม (ไม่รู้ว่ามันฮิตกว้างขวางไหมในประเทศญี่ปุ่น แต่ที่แน่ๆ ในไทยน้อยมากที่จะหาคนเล่นเกมเหล่านี้) อย่าง โกะ, หมากรุกญี่ปุ่น (โซกิ), เกมไพ่นกกระจอก

    คาดเดาว่าเกมเหล่านี้มีความซับซ้อนหมากรุกสากลหลายเท่า มีการพลิกพลันได้ทุกวินาที รวมไปถึงที่ญี่ปุ่นมีการจัดยศของผู้เล่น หากใครมียศสูงๆ ก็จะถูกเรียกว่าอาจารย์ ได้เงินสูง  เป็นอาชัพหลักได้สบาย ทำให้พวกเขาเล่นกันจริงๆ จังๆ 

    เท่าที่ทราบว่าปัจจุบันวัยรุ่นญี่ปุ่นหันมาเล่นเกมเหล่านี้เยอะ อาจจะได้อิทธิพลของการ์ตูนเช่น ซากิ, ฮาคารุเซียนโกะ รวมไปถึงปัจจุบันก็มีดาราในวงการเกมเหล่านี้ ที่หน้าตาน่ารักมาช่วนโปรโมทให้คนมาสนใจด้วย

    ก็แปลกดีที่คนดูการ์ตูนที่ว่า หลายคนไม่เข้าใจกติกาเกมเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่ามันชนะยังไง เวลาตัวละครอธิบายกลยุทธ์ ศัพท์แสงต่างๆ นาๆ แต่หลายคนก็สนุกกับการ์ตูนเหล่านี้ได้ เพราะมีการดำเนินเรื่องสนุก ได้เห็นพฤติกรรมตัวละคร ที่โอเวอร์, ชั่วร้าย, ดูเท่ ตัวละครหญิงน่ารักจัง ออกแบบน่ารัก เอาง่ายๆ การอวย มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เราดูการ์ตูนเหล่านี้ได้ตลอดรอดฝั่ง แม้จะไม่เข้าใจกติกาการเล่นเกมที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญในเรื่องสักนิดก็ตาม

    การเล่นเกมมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ ไม่มีใครสนหรอกว่ามันจะมีแผนลึกซึ้ง สนเกมกระดานว่าจะดำเนินยังไง ขอแค่ว่าให้รู้ว่าตัวเอกชนะหรือแพ้ก็พอ (สาเหตุแพ้ชนะช่างหัวมัน) รวมไปถึงการสร้างเรื่องยังไงให้สนุก และตัวละครที่มีเสน่ห์ น่าอวย ถ้าตัวละครดี ก็มีชัยกว่าครึ่ง

    ใช่แล้วครับ การ์ตูนเรื่องนี้ก็มีลักษณะดังนี้ เนื้อในเรื่องไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเล่นหมากรุกแบบผู้เชี่ยวชาญ (ไม่แน่ นิยายอาจบรรยายเมากว่านี้ก็เป็นไปได้)  การเล่น ศัพท์แสงต่างๆ มากมาย มันเป็นเรื่องรอง แต่ใครจะสนละ สนแต่ว่าพระเอกที่ครั้งหนึ่งเคยเก่ง แต่ตอนนี้ตกต่ำ มือตก จนกระทั่งมาเจอโลลิ ทำให้เขารู้ว่าการที่เขาตกอันดับหมากรุกไม่ใช่อยู่ที่ฝีมือ แต่อยู่ที่ความรู้สึกสนุกไปกับมัน การไม่ยอมแพ้ในเกมที่เสียเปรียบและกดดันต่างหากที่สำคัญ และตัวละครสาวๆ โลลิในเรื่อง แจ่มทั้งนั้น เพื่อนสมัยเด็ก (อายุน้อยกว่า) ซาดิสต์ (ซึน) กับ โลลิประถมหงอนไก่ แค่สองคนก็เรียกแขกเหล่าหมีรักเด็กกันแล้ว แถมเป็นอนิเมะที่คนแถวๆ นี้โครตอวยด้วย

     

    Cardcaptor Sakura : Clear Card-hen

    Cardcaptor Sakura : Clear Card-hen เป็นอนิเมะทีวีซีรีส์ภาคใหม่ของ Cardcaptor Sakura จากต้นฉบับมังงะที่แต่งโดยกลุ่มนักเขียนการ์ตูน Clamp ที่เขียนขึ้นในปี 2016

    ถือว่าเป็นหนึ่งในการ์ตูนในตำนาน และในดวงใจของใครหลายคน Cardcaptor Sakura หรือ ซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์  เป็นการ์ตูนที่โด่งดังในช่วงปี 1996-2000 และได้ถูกนำไปสร้างเป็นทีวีอนิเมะโดย Madhouse ในปี 1998-2000 สำหรับในประเทศไทยนั้น ฉบับมังงะมีลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ และฉบับอนิเมะได้เคยถูกนำมาฉายโดย Cartoon Club Channel, โมเดิร์นไนน์ ทีวี และ ทรูวิชั่นส์ (สมัยนั้นผมอยู่มัธยม) ส่วนภาคล่าสุดนั้น  ได้ผู้กำกับอย่าง อาซากะ โมริโอะ ผู้กำกับจากอนิเมะทีวีภาคแรกและภาพยนตร์อนิเมะทั้งสองภาคจะกลับมากำกับในภาคนี้อีกครั้ง ดูแลบทโดย Nanase Ohkawa อำนวยการสร้างโดยสตูดิโอ Madhouse        

    สำหรับภาค Clear Card นี้เป็นภาคฉลองครบรอบ 20 ปีของซีรีส์นี้ โดยภาคนี้จะเป็นเนื้อเรื่องหลังจากที่ซากุระได้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนประถมโทโมเอดะ และเข้าสู่วัยมัธยมต้น ทุกอย่างปกติ จนกระทั่งเกิดเรื่องแปลกๆ ขึ้น ทำให้ซากุระกลับมารวบรวมการ์ดอีกครั้ง

    ขอพูดตามตรงว่าไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูนซากุระนะครับ สมัยผมเรียนมัธยม ผมดูอนิเมะซากุระช่อง 9 แบบข้ามตอน-ขาดช่วงมาก ไม่ใช่อะไรหรอก ดูไม่ทัน (ไม่มีเวลาบ้าง, )

    ส่วนตัวดูซากุระนี้มันรู้สึกแปลกๆ เพราะตัวการ์ตูนเน้นไปกลุ่มผู้หญิง แถมมังงะโครตหวานมาก ในขณะเดียวกัน ผมอึ้งฉากที่คุณครูคนหนึ่งในเรื่องตอบรักลูกศิษย์โลลิคนหนึ่งนี้แหละ (ยังดีที่ครูบอกว่ารอให้โลลิโตก่อนค่อยเป็นแฟนก็ได้) ทำเอาผมติดหัวจนถึงทุกวันนี้ (แม้ทุกวันนี้ข่าวครูกับเด็กจะออกข่าวบ่อยก็เถอะ ล่าสุดผมสถบว่า “แรด”)  นี้ยังไม่รวมสิ่งที่ช็อกอะไรหลายอย่างในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น จิ้นวายพี่ชายซากุระXพี่แว่น พระเอกเชาหลางผู้ปรากฏมากลางเรื่องและปักธงซากุระได้ (เพราะตอนแรกซากรุชอบพี่แว่น) มันเป็นอะไรที่แปลกสำหรับผมมากในเวลานั้น

    กลับมาที่ภาคใหม่ ซากุระภาคนี้ เป็นภาคต่อ  ไม่ใช่การรีรัน แต่อย่างใด ส่วนตัวแล้วใครที่ไม่ได้ดูภาคแรก มาดูอาจ งง เล็กน้อย (คือผมไม่ได้ดูภาคแรก และมันก็นานมาแล้ว ก็ งง เรื่อง การ์ด และเชาหลางปักธงซากุระตอนไหน) แต่ถ้าไม่ได้ดูภาคแรกจริงๆ ก็พอดูได้บ้าง (หากไม่สนเรื่องละเอียดยิบย้อย หรือสิ่งเชื่อมโยงภาคแรก) ส่วนอื่นๆ ถือว่าปิดตัวประทับใจนะ ภาพกราฟฟิกดีกว่าภาคแรกมาก (เสียงพากย์ผมไม่สนนะ เลยไม่รู้ใช้ทีมงานเดิมไหม อย่าลืมว่า สมัยก่อนผมฟังแต่พากย์ไทยทีมช่องเก้า)

    ก็เป็นอนิเมะรู้สึกแปลกๆ นะ เพราะเนื้อหามุ่งไปที่กลุ่มผู้หญิงเยาวชนหน่อย แต่เชื่อเถอะ คนที่ดูอนิเมะส่วนใหญ่เป็นพวกวัยกลางคนทั้งนั้นแหละ รวมไปถึงผู้ชายด้วย สมัยก่อนดูซากุระไม่เท่าไหร่นะ แต่พอแก่ตัวมา ซากุระโลลิมาก คอสตูมเด็ดมาก (ไม่รวมฉากต่อสู้ ผมว่าก็สนุกดีนะ)  และได้เห็นเชาหลางสมหวังกับซากุระสักที หลังจากที่ชีวิตรันทดในโลกคู่ขนาน (สึบาสะ)

    เอาเป็นว่าใครที่ไม่สนเรื่องกระชากอายุ และเป็นแฟนการ์ตูนซากุระ ก็มีความสุขดูอนิเมะเรื่องนี้แน่นอน เพราะอารมณ์อยู่ครบ


     

    Mitsuboshi Colors

    เป็นอนิเมะดัดแปลงจากมังงะตลก ผลงานของอาจารย์ Katsuwo จะถูกสร้างเป็นเวอร์ชั่นอนิเมะแล้วจ้า! เรื่องราวของ Mitsuboshi Colors นั้นเป็นเรื่องของเด็กนักเรียนชั้นประถมสามคนเด็กสาวสามคน ยุย ซัคจัง และ โคโตฮะ ตั้งกลุ่มของพวกเธอเองในชื่อ Colors มีเป้าหมายที่จะช่วยกันแก้ไขปริศนาและปัญหาเดือดร้อนจากประชาชนในเมือง (ยกเว้นคุณตำรวจประจำป้อม เพราะสร้างความเดือดร้อนเหลือเกิน)

    ตอนแรกผมนึกว่าเป็นผลงานเดียวกับคนวาดอิจิโกะ มาชิมาโระ (หรือ Strawberry Marshmallow) เพราะเนื้อหา และตัวละครแทบคล้ายกันเลย แต่ปรากฏว่าคนวาดคนละคนกัน

    เนื้อหาก็ไม่มีอะไรมาก ก็เน้นชมสามสาวโลลิ เด็กซน, เด็กหน้าตาย (แต่ฉลาดโหด) และเด็กสาวธรรมดา (แต่ขี้แย) ทำกิจกรรมน่ารัก โดยตอนหนึ่งประกอบด้วยสามตอนย่อย ตอนที่ 1 มีตามหาแมวแพนด้า, แกล้งคุณตำรวจ และแก้ปริศนาจดหมาย เนื้อหาเบาๆ มุกตลกน่ารัก

    จบ

     

    Marchen Madchen

    เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากนิยาย ที่อีกหนึ่งผลงานที่ฝากไว้ของ  Tomohiro Matsu เจ้าของผลงานอย่าง PapaKiKi และ Mayoi Neko Overrun! ซึ่งล่วงลับไปแล้ว  ซึ่งก่อนเสียชีวิตนั้นก็มีการวางคอนเซปต์เอา ไว้สามปีและเสร็จก่อนจะเสียชีวิต แล้วได้ถูกนำมาพิมพ์เป็น Light Novel วาดภาพประกอบโดยอาจารย์ Kantoku

    เนื้อหาเป็นเรื่องราวของ คากิมุ ฮาซึกิ เด็กสาวแสนธรรมดาที่ไม่มีเพื่อนเลย เพราะพูดคุยสื่อสารไม่เก่ง  จึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือ แต่แล้ววันหนึ่งหลังเลิกเรียนเธอได้ถูกหนังสือส่งไปอีกโลกในโรงเรียนเวทย์มนต์ ที่นั่นเธอได้พบกับเด็กสาวนาม สึจิมิคาโดะ ชิซึกะ ได้ทราบเรื่องของเหล่า mädchen (เด็กผู้หญิง ในภาษาเยอรมัน) ที่เข้าเรียนในโรงเรียนนี้จะถูกเลือกมาโดยหนังสือเทพนิยายเก่า ๆ หรือนิทานพื้นบ้านและนั่นทำให้พวกเธอเรียนรู้การใช้เวทย์มนต์ และ ฮาซึกิ ถูกเลือกโดยหนังสือเวทมนตร์แห่งซินเดอเรลล่า (เพราะชีวิตของเธอเหมือนซินเดอเรลล่า แม้จะไม่ได้มีชีวิตที่โหดร้ายก็เถอะ) ทำให้กลายเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ ชีวิตประจำวันของเธอได้เปลี่ยนไป

    สำหรับตอนที่ 1 ช่วงตอนต้นเน้นไปการเล่าเรื่องนางเอกมีชีวิตยังไง เป็นคนขี้อาย เข้ากับครอบคตรัวใหม่ไม่ค่อยได้ ชอบหนังสือ ไล่ตามเด็กสาวลึกลับ ไปเจอโรงเรียนเวทมนต์ โดนสาวบู๊ไล่ล่า ไปเจอบ่อน้ำร้อน โดนขโมญซื้อผ้า เหลือแต่หนังสือ เดินโป๊มาโรงเรียน จบตอน.....

    เอาง่ายๆ ตอนแรกไม่หวือหว่า   หรือมีจุดเด่นแตกต่างจากอนิเมะแนวเดียวกันนี้สักเท่าไหร่ แม้มีฉากระเบิดภูเขา เผากระท่อม เซอร์วิส แต่มันก็ไม่มีอะไรที่โอ้โหให้ติดตามเรื่องนี้ได้ ภาพก็ธรรมดา จุดเด่นก็คือตัวละครผู้หญิงออกแบบดูดี และมีหลายตัวละครด้วย แต่ลูกบ้า ยังห่างชั้นกับ อังโกะจัง รายนั้นตอนแรกมาก็ ตูมตาม เต็มไปด้วยฉากบ้าพลัง อย่างเมามัน แต่เรื่องนี้ผมยังไม่เห็นจุดเด่นว่ามันจะออกไปทางทิศทางไหน ระหว่างจะมีแอ็คชั่น หรือจะเน้นตลกสบายๆ หรือจะเน้นวายป่วนกันแน่

    เอาเถอะก็ตามไตล์แมวหลงนั่นแหละ


    Fate/Extra Last Encore

    Fate/Extra Last Encore เป็นอนิเมะดัดแปลงจากเกมแนวแฟนตาซี Fate/Extra ประเภท JRPG ผจญภัยในดันเจี้ยนบนเครื่อง PSP ผลิตโดย Image Epoch และจัดจำหน่ายโดย Marvelous Entertainment เนื้อหาจะเป็นโลกคู่ขนานของซีรีส์ Fate/Stay Night มีการใช้ตัวละครที่หน้าเหมือนกันในบทบาทที่ต่างกันไป เกมวางจำหน่ายเมื่อกรกฎาคม 2010 ในประเทศญี่ปุ่น มีภาคต่อในชื่อ Fate/Extra CCC วางจำหน่ายในเดิอนมีนาคม 2013

    เนื้อเรื่องได้กล่าวถึง ฮิชินามิ ฮาคุโนะ ได้ตื่นมาในโลกเสมือนจริงที่ไม่รู้จัก เขาถูกบังคับให้ต้องสู้กับศัตรูโดยไม่ทราบเหตุผลและได้มีข้ารับใช้ปริศนาที่อยู่ข้างเขา ทำให้เขาได้พบทั้งสหายและศัตรู การต่อสู้ที่ชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตดำเนินต่อไป โดยที่เขายังคาใจกับตัวตนของเขาที่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นใครกันแน่ ?

                    เอาตรงๆ นะ เป็นอนิเมะที่ไม่เป็นมิตรสำหรับคนที่เคยเล่นเกม Fate/Extra ใครที่ไม่เข้าใจเนื้อเรื่องเกมอะไรเลย มาดูอนิเมะนี้ งง แด๊กแน่นอนครับ

                    เนื้อหาตัวอนิเมะแทบไม่เล่าเรื่องอะไรเลย ไม่เล่าว่าโลกที่พระเอกอยู่เป็นโลกอะไร มาถึง ก็เปิดฉากตัวเอกหญิงกำลังจะตาย เซเบอร์เนโรสู้กับพระพุทธเจ้า เซเบอร์เนโรแพ้ และตัวเอกหญิงก็สิ้นใจ....

                    จากนั้นพระเอกก็ตื่นขึ้นมา (เชื่อว่าตัวเอกหญิงก็คือการกลับชาติมาเกิดของพระเอกนะ ตามความเข้าใจผม) พบว่าอยู่ห้องเรียน อยู่ในโลกที่ดูทันสมัย พระเอกไม่รู้อะไรสักนิด พอๆ กับคนดู อาจารย์สอนว่าการอัญชิญเซอร์เวนท์เป็นเรื่องปกติ

                    มหกรรม งง ก็เริ่มกระหน่ำขึ้น เพื่อนพระเอกหัวหยิกเหมือนตัวละครไหนสักแห่งจากภาค Fate/Stay Night บอกว่าเราเป็นเพื่อนกันนั้น  พาพระเอกไปเดินทั่วโรงเรียน เห็นคนเล่นหมากรุกแพ้แล้วนอนหมดสติ (!?) แต่คนรอบข้างไม่สนใจ พระเอกต้องพาคนสลบไปห้องพยาบาล และเจอรุ่นน้องหน้าตาคุ้นๆ ขอพระเอกเอาศพคนเสียชีวิตไปทิ้งที่หลุมลึกโรงเรียน (?) งง สิครับ

                    พระเอกไม่รู้อะไรสักอย่าง รู้แต่เกลียด แต่เกลียดอะไรไม่รู้ มันแน่นหน้าอก จากนั้นพี่แว่นก็โผล่มา อธิบายเรื่องอะไรที่คนดูไม่เข้าใจ จากนั้นก็หายไป แล้วก็ประกาศโรงเรียนทำนองว่าฆ่าคนในโรงเรียนให้เหลือแต่ผู้ถูกเลือกไม่กี่ร้อยเท่านั้น

                    จากนั้นมหกรรมสังหารหมู่เกิดขึ้น สัตว์ประหลาดโผล่มาฆ่านักเรียนในโรงเรียน ทุกคนนี้ตาย ส่วนพระเอกก็โดนนายผมหยิกเอามีดแทง (เพื่อ?) แค่สลบแต่ไม่ตาย แล้วลากสังขารหนีสัตว์ประหลาด (เขาเรียกอะไรหว่า)  ตกหลุมทิ้งศพ ไปเจอดาบของเซเบอร์เนโร และอัญเชิญเซเบอร์เนโรสู้ จบ.......

                    งง แด๊กครับ

                    คือ เข้าใจนะ ว่าจะเริ่มเล่ารายละเอียด อธิบายโลกที่พระเอกอยู่ในตอนหลัง (หรือไม่อธิบายเลยก็ได้ กะให้คนดู งง แด๊ก ต่อ)  แต่กลวิธีการเล่าเรื่อง มันไม่โอเคครับ อย่างน้อยก็เล่ามุมมองของตัวเอกหน่อย ให้อารมณ์ว่าฉันไม่เป็น อยู่ที่นี้อะไร  ทำไมคนตาย ทำไมฉันถึงเป็แบบนี้ ก็ยังดี ไม่ใช่ว่าให้ตัวอนิเมะเล่าๆ ให้มันพ้นๆ ถามจริงเถอะ สตูดิโอไหนทำ

    ด้านงานภาพ ออกไปทางโล่งๆ และออกแนวๆ มากกว่า ใครที่ดูแนว Monogatari Series  ก็แบบนั้นแหละ การจัดองต์ประกอบเป็นแบบนั้นเลย ทำให้เป็นภาคที่ไม่เหมือนซีรีย์เฟทที่เรารู้จักเลยแม้แต่น้อย แต่ผมเชื่อว่าฉากต่อสู้ก็ยังคงมีอยู่ และน่าจะแอ็คชั่นสนุก พอดู แม้ตอนแรกจะเห็นฉากต่อสู้น้อยก็เถอะ

                    และก็มาอีกแล้วครับ พระเอกหน้าแบกโลกทั้งใบ เหมือนซิก (ซึ่งเป็นพระเอกที่ผมไม่ชอบขี้หน้าที่สุด)  แต่ต่างตรงที่พระเอกเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตธรรมดา ที่ไม่มีจุดเด่นอะไร  จนน่าจับต้องได้กว่าพระเอกทุกคนในซีรีย์เฟทที่ผ่านมา

                    ส่วนเรื่องดราม่า ซีเรียส เรื่องตายๆ ที่เป็นของประจำของซีรีย์เฟทภาคนี้มีแน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีหลายคนชอบหรือเปล่า

                    สรุป ดูแล้ว งง ขนาดช่วงท้ายก็ งง ดูด้วยแรงอวยเซเบอร์เนโรล้วนๆ

    และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด  งานภาพมันลายเซ็น การดำเนิน งง  แบบนี้ก็ไม่ใช่ที่ไหนกำกับหรอก  Fate/ Extra Last Encore ได้ผู้กำกับสุดอาร์ตอย่าง Shinbou Akiyuki ที่มีผลงานดังมาจากเรื่อง Mahou Shoujo Madoka Magica, Bakemonogatari ออกแบบตัวละครโดย Wada Aruko และ Takiyama Masaaki ดูแลบทโดย Kinoko Nasu ผู้เขียนบทต้นฉบับดั่งเดิมของ Fate Series

    Darling in the FranXX

    ก็มาถึงเรื่องสุดท้าย อันนี้มาแปลกหน่อย คือเรื่องนี้ผมไม่จบตอน    เนื่องด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยเนื้อเรื่องเกิดขึ้นในอนาคตที่ห่างไกล กลุ่มเด็กที่รับภารกิจต่อสู้กับพวกเคียวริว (Kyouryuu) โดยใช้โรบอตเรียกว่า Franxx เพื่อปราบพวกนั้นและแสดงการมีตัวตนของตน เรื่องโฟกัสที่ Code:016 (ฮิโระ) อดีตผู้มีฝีมือแต่หลังผิดพลาดเขากลับถูกเมินจนเหมือนไร้ตัวตน จนกระทั่งได้พบกับ Code:002 (ซีทู) สาวปริศนาปรากฏต่อหน้าเขา

    Darling in the FranXX เป็นอนิเมะผลงานออริจินอลอนิเมะ ความร่วมมือกันระหว่าง 2 สตูดิโอดัง Trigger (Kill la Kill ,Little Witch Academia) และ A1 Pictures (Sword Art Online , Anohana , THE IDOLM@STER) แน่นอนว่าเป็นอนิเมะหลักของซีซั่นนี้

    ตอนแรกผมก็คิดว่าตัวการ์ตูนจะออกไปโทนกุเรนลากันเสียอีก แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น (ถ้าเป็นผมก็ไม่ดูทันที)  ลายเส้นก็ธรรมดา ไม่ได้มีจุดเด่นอะไร ตัวละครก็เน้นไปทางนางเอกผมสีชมพูละมั้ง

    ถ้าว่าตามพล็อต แล้ว ก็โครตเชย คือกลุ่มตัวเอกขับหุ่นสู้ศัตรูปริศนามารุกราน พระเอกไปเจอสาวปริศนาทำพันธสัญญา ให้ตายเถอะ  พล็อตแบบนี้เกลื่อนสุดๆ ปัจจุบัน (แถมยังดาร์กง่ายๆอีก)  แถมยังเป็นเรื่องพวกผู้ใหญ่ฝากพวกหนุ่มสาวมาขับหุ่นสู้ผู้รุกรานอีก........... 

    เนื้อหาตอนแรก ก็ไม่เท่าไหร่ ตามสไตล์แนวขับหุ่น พระเอกเคะๆ หน่อย ตามสูตร ไปเจอสาว และใช้พลังปราบมอน จบตอนแรกไปตามระเบียบ

    ส่วนตัวผมชอบแนวขับหุ่นที่เน้นไปทางตลก ลูกบ้า จุกกัดมากกว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่า ตั้งแต่วาตารุ (เรื่องนี้จุกกัดสังคมนะเอ่อ) กับโอเวอร์คิงกันเนอร์เป็นต้นมา ก็ไม่มีแนวขับหุ่นไหนที่ผมประทับใจ บ้าไปกับมันได้เลย

    ส่วน Darling in the FranXX ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกประทับใจมากนัก มันไม่โดนใจ ไม่มีฉากกระแทกใจ สักเท่าไหร่  แต่ก็ถือว่าเป็นอนิเมะที่หลายคนดูสนุกนะ ส่วนฉากขับหุ่นยนต์มันแหยียดเพศหญิงยังไงไม่รู้ แต่ก็ใช่ว่าจะแปลกใหม่ยังไง เพราะมีการ์ตูนแนวผู้ชายกับผู้หญิงขับหุ่นด้วยกัน (ไม่รู้มันแบ่งหน้าที่ขับหุ่นยังไงหว่า) แล้วกตำแหน่งผู้หญิงขับมันก็อีโรติกแบบนี้ทุกที

    และก็ดูไม่ออกนะว่าเนื้อหาจะออกมาดาร์กหรือเปล่า ดูจำนวนตอน 24 ตอน เชื่อเถอะ มีดาร์กอะไรแน่นอน  ไม่เข้าใจว่าแนวขับหุ่นสมัยนี้ชอบทำแนวดาร์กๆ ตัวละครตายเพื่อให้เนื้อเรื่องเข้มข้น ตกลงมันพล็อตนิยมจริงหรือ เพราะผมเห็นแนวที่ทำแบบนี้ ไม่ค่อยมีผลตอบรับที่ดีเลย (หรือ อย่างน้อยก็มีคนดู แม้จะโดนติก็เถอะ)  (ผมไปอ่านสปอยมาละ เรื่องนี้มีสิทธิจบไปทางนั้น สูงมากครับ ไม่ขอบอกละกัน เพราะอาจไม่จริงได้ แต่ผมว่าจริงชัวร์ เพราะที่ผ่านมามันออกไปทางนั้นหมดเลย)

    นอกจากนี้ก็ยังมีมังงะ วาดโดยยาบุกิ คนวาด To Love–ru ออกมาเป็นรายสัปดาห์ คนละอารมณ์กับอนิเมะ ราวกับเป็นคนละเรื่องกัน (เซอร์วิสโครตโหด)

    (เนื่องด้วยช่วงนี้ผมเกลียดมังงะแนวขับหุ่นเรื่องหนึ่งมาก ไม่เกี่ยวกับ Darling in the FranXX หรอก แต่เห็นหุ่นยนต์ ฉากเซอร์วิส แล้ว มันทำให้คิดถึงเรื่องนั้นทุกที   จึงขอไม่ติดตามละกัน)

    (ปล. จะว่าสมัยนี้หุ่นเขามีทรวดทรงองค์เอวกันแล้วเหรอ)

     

    ก็จบเพียงเท่านี้ครับ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×