คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #285 : โลกใบเล็กของน้องหุ่นยนต์ (รวมเรื่องสั้นของ Takahata Enaga)
เนื่องจากผมถูกคนแถวๆ นี้บ่นว่าช่วงนี้ไม่ค่อยแนะนำการ์ตูนเลย (แล้วที่ผ่านมาไม่ได้แนะนำการ์ตูนเหรอ?) อยากให้แนะนำการ์ตูนน่าสนใจให้หน่อย ผมก็มานั่งหาการ์ตูนที่ผมเคยอ่านว่ามีเรื่องไหนที่พอจะแนะนำและได้ข้อคิดอะไรหรือเปล่า
พิกเมเลี่ยนและกาลาเทีย
Pygmalion et Galatée, Normand, 1896
แต่ก่อนพูดถึงการ์ตูน ก็ขอพูดเรื่องตำนานกรีกหน่อย คือตำนานกรีกนั้นเคยมีตำนานหนึ่งที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายคนหนึ่งรักรูปปั้น รักในที่นี้มันไม่ใช่รักธรรมดา หากแต่เป็นความรักเหมือนชายหญิงเลยก็ว่าได้ โดยเป็นเรื่องของพิกเมเลี่ยน (Pygmalion ) เป็นช่างปั้นรูปที่มีฝีมือเยี่ยมยิ่งคนหนึ่ง อาศัยอยู่บนเกาะไซปรัส แต่เขามีนิสัยประหลาดคือเกลียดผู้หญิงและตั้งใจจะครองโสดไปตลอดชีวิต อยู่มาวันหนึ่งพิกเมเลี่ยนได้ปั้นรูปผู้หญิงที่งดงามในอุดมคติยิ่งขึ้นมารูปหนึ่ง โดยตั้งชื่อว่ากาลาเทีย (Galatea) ซึ่งรูปปั้นนั้นงามมาก งามยิ่งกว่าผู้หญิงคนใดๆ ในโลก และนั้นเองทำให้พิกเมเลี่ยนหลงคลั่งไคล้จนไม่ทำงานอะไร เขาปฏิบัติต่อรูปปั้นเหมือนเป็นคนรัก หาเสื้อผ้าเครื่องประกับให้รูปปั้นใส่ เวลาไปนอนเขาก็พารูปปั้นไปนอนด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม รูปปั้นก็คือรูปปั้น ต่อให้ทำดีอย่างไรก็เป็นเพียงรูปปั้น วันหนึ่งพิกเมเลี่ยนก็ได้ไปขอเทวีอโพรไดท์เทพแห่งความรักของชาวกรีกว่า เขาให้ตนมีคู่ครองที่งามเหมือนรูปปั้นของเขา และนั้นเองทำให้เทวีอโพรไดท์ดลบันดาลให้รูปปั้นมีชีวิตขึ้นมา และแล้วพิกเมเลี่ยนก็ได้แต่งงานกับกาลาเทีย ครองคู่กันอย่างมีความสุข
ข้อมูลจาก http://greeknovel-2012.myreadyweb.com/article/category-63539.html
ชื่อของพิกเมเลี่ยน เลยถูกนำไปใช้เป็นชื่อปรากฏการณ์ Pygmalion Effect ที่ Robert Rosenthal และ Lenore Jacobson (1979) ค้นพบ จากการทดลองของพวกเขา ซึ่งพวกเขาสุ่มเลือกเด็กขึ้นมากลุ่มหนึ่ง แล้วไปบอกครูของเด็กพวกนี้ว่า เด็กเหล่านี้มี IQ สูงกว่าคนอื่น ส่งผลให้คุณครูของพวกเขาปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเด็กเก่งโดยไม่รู้ตัว และเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง พอมาดูผลคะแนนสอบเปรียบเทียบ ก็พบว่าเด็กกลุ่มนี้มีผลคะแนนสอบดีขึ้นกว่าเดิมจริงๆ กลายเป็นเด็กเก่งไปจริงๆ นั่นเป็นเพราะเมื่อพวกครูเขาเชื่อว่าเด็กเหล่านี้เป็นคนเก่ง จึงปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างคนเก่ง และสุดท้ายเด็กเหล่านี้ก็กลายเป็นคนเก่งจริงๆ เหมือนกับที่พิกเมเลี่ยนเชื่อว่ารูปปั้นของเขาเหมือนคนจริงๆ และปฏิบัติต่อรูปปั้นเหมือนกับเป็นคนจริงๆ จนในที่สุดเทพีอโพไดรท์ก็บันดาลให้กลายเป็นคนไปจริงๆ นั่นเอง
ข้อมูลจาก phongzahrun.wordpress.com/2012/03/09/คาดหวังอย่างไร-ได้ผลอย่/
ตำนานพิกเมเลี่ยนและกาลาเทียนั้นเป็นตำนานไม่กี่ตำนานของกรีกที่จบลงอย่างมีความสุข โดยเฉพาะตำนานเกี่ยวกับความรัก อย่างที่หลายคนรู้กันว่าเรื่องความรักของกรีกมักจบด้วยโศกนาฏกรรมตลอด ไม่ว่าจะเป็น ชายที่หลงเงาตนเอง, แต่งงานกันระหว่างพี่น้อง ฯลฯ ดังนั้นจึงแปลกมากที่ความรักระหว่างมนุษย์และสิ่งไม่มีชีวิตจะสามารถสมหวังมีความสุข ทั้งๆ ที่หลายคนมองว่ามันเป็นความรักที่ไม่น่าสมหวังและไม่น่าจบลงอย่างมีความสุข
อ่านเรื่องพิกเมเลี่ยนและกาลาเทีย แล้วมามองชีวิตจริง ก็พบว่าทุกวันนี้ตำนานพิกเมเลี่ยนนั้นไม่ได้หายไปเลย เมื่อมนุษย์หลายคนมีความรักกับสิ่งที่ไม่มีชีวิต ปฏิบัติแบบคู่รัก มอบความรักแก่วัตถุโดยไม่สนต่อคนรอบข้างเลยว่าจะมองในลักษณะใด เรามักได้ยินข่าว ผู้หญิงแต่งงานกับหอไอเฟล, ชายที่แต่งงานกับต้นไม้, หญิงสาวที่แต่งงานกับสะพาน ซึ่งเป็นความรักที่หลายคนไม่เข้าใจว่ารักกันได้อย่างไร
เอาที่ใกล้ตัวก็ได้ เรามักได้ยินบ่อยครั้งเกี่ยวกับโอตาคุหลงรักสาว 2D สาวน้อยน่ารักที่เป็นเพียงแค่ภาพการ์ตูน ซึ่งบางคนปฏิบัติกับพวกเธอราวกับเป็นคนรักกัน เป็นต้นว่า สะสมของที่เกี่ยวกับตัวเธอ จัดงานวันเกิดให้เธอ กินข้าวร่วมกับเธอ เอาเธอไปเที่ยวข้างนอก (แบกหมอนข้างออกไปข้างนอก) บางคนถึงขั้นแต่งงานกับสาว 2D เลยก็มี (ยกตัวอย่าง ชาวเกาหลีแต่งงานกับหมอนข้างลายการ์ตูนสาวน้อยน่ารัก) จนคนภายนอกที่มาเห็นเกิดความรู้สึกคิโม่ย (รังเกียจ) ชายที่ปฏิบัติวัตถุไม่มีชีวิตเหมือนคนรักกันปานจะกลืนกิน
บางคนสงสัยว่าทำไมโอตาคุถึงรักสาว 2D ทำไมต้องหลงใหลสาวที่เป็นเพียงแค่ภาพการ์ตูนด้วย จึงเอาคำถามนี้มาตั้งบอร์ดการ์ตูนดัง แต่คำตอบที่กลับมานั้นเป็นเพียงดราม่า โดยที่ไม่ค่อยได้รับคำตอบที่น่าพอใจมากนัก
ทำไมโอตาคุหลายคนสนใจสาว 2D มากกว่าชีวิตจริง ส่วนหนึ่งนั้นมาจากมนุษย์เรานั้นมีแนวโน้มที่ชอบดูความสัมพันธ์โรแมนติกของคนรักที่รักกันโดยบริสุทธิใจมากกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการผู้หญิงที่บริสุทธิ์ทุกอย่าง และมั่นคงต่อความรัก) แม้เธอจะรักพระเอก ไม่ได้รักคนดู แต่คนดูก็ได้สมมุติตนเองว่าเป็นพระเอก อย่างเช่น เกมจีบสาว ที่เป็นเกมที่ทำให้เราเป็นตัวละครในสมมุติของเรื่อง เหมือนเราได้ปฏิสัมพันธ์กับสาว 2D ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย จนกระทั่งทั้งคู่ก็สมหวังในความรัก และนั้นเองจึงไม่แปลกแต่อย่างใดว่าทำไมห้องของโอตาคุต้องเกมโป๊มากมายนั้นเอง
ที่เล่าเรื่องข้างต้น เพื่อให้เราเห็นภาพว่ามนุษย์เรานั้นมีความรักที่มีต่อวัตถุ และสัตว์แบบแปลกๆ ซึ่งความรักของพวกเขานั้นบางทีอาจมากยิ่งกว่าความรักชายหญิงธรรมดาทั่วไปด้วยซ้ำ ซึ่งการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องก็มีตำนานคู่รักระหว่างมนุษย์กับวัตถุไม่ใช่มนุษย์มากมาย (รวมไปถึง พวกสาวหูแมว, สาวหูหมา, เทพเจ้า ฯลฯ) หรือแม้แต่มนุษย์รักหุ่นยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นพล็อตที่พบเห็นบ่อยครั้งในการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องราวของมนุษย์ที่เป็นผู้ชาย หลงรักสาวหุ่นยนต์ ทั้งที่ไม่ใช่ผู้หญิงจริงนั้นได้กลายเป็นความรักที่ประทับใจใครหลายคน เอามาเล่นเอามาใช้แบบไม่มีเบื่อ ซึ่งผมได้พบการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ (แต่เป็นแนวสว่างน่ะ) มันเป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับมนุษย์รักหุ่นยนต์ แม้เป็นตอนสั้นๆ แต่กินใจใครหลายคน
Latin
Latin เป็นการ์ตูนชุดเรื่องสั้นกินใจทั้งหมด 4 เรื่อง ผลงานของ Takahata Enaga ในปี 2012 ซึ่งประกอบไปด้วย Latin, Yuki no Nestore, Nekomatasou no Shokutaku และ Reversi แน่นอนว่าเรื่อง Latin เป็นเรื่องชูโรง ซึ่งผมก็ขอขอบคุณคนแปลเรื่องนี้เป็นภาษาไทย ที่ทำให้ผมรู้จักการ์ตูนดีๆ เรื่องนี้มาไว้ ณ ที่นี้น่ะครับ
Latin เป็นการ์ตูนสั้น ที่กล่าวถึงอนาคตข้างหน้า ที่หุ่นยนต์รับใช้รูปร่างมนุษย์ (โดยเฉพาะรูปร่างผู้หญิง) กลายเป็นเรื่องปกติ พบเห็นโดยทั่วไป นอกจากพวกเธอจะรูปร่างหน้าตาเป็นผู้หญิงน่ารักมากๆ แล้วยังสามารถทำงานบ้านทุกอย่าง พวกเธอยังมีความสามารถปฏิสัมพันธ์สามารถตอบสนองกับมนุษย์ แสดงอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างสมจริงราวกับเป็นมนุษย์จริงๆ
วาตานาเบะ ชินยะ เป็นเด็กหนุ่มธรรมดา วันหนึ่งเขาได้พบหุ่นยนต์ผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าห้องเช่าของเขา หุ่นยนต์ตัวนั้นพูดตอบโต้เขาได้ราวกับเป็นมนุษย์จริงๆ เธอบอกว่าชื่อ “ลาติน” เธอบอกว่าเธอเป็นหุ่นยนต์รับใช้ที่หนีออกจากบ้านเดิมของตน และขอมาอยู่อาศัยกับเขา
ชินยะให้ลาตินอาศัยอยู่กับเขา อย่างไรก็ตาม ลาติน เป็นหุ่นยนต์ที่ชำรุด ไม่สามารถช่วยงานบ้านอะไรได้เลย ได้แต่นอน กินเงินค่าไฟ เป็นภาระ แถมยังดุด่าชินยะอีก จนดูเหมือนว่าชินยะจะเป็นคนรับใช้มากกว่า
แม้ว่าชินยะจะทะเลาะกับลาตินบ่อยๆ แต่ชินยะก็ไม่คิดที่จะทิ้งลาติน จนวันหนึ่งชินยะได้ไปรู้ความลับลาตินว่าเธอไม่ได้หนีออกจากบ้าน หากแต่เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกทิ้ง อดีตเธอเป็นหุ่นยนต์เลี้ยงเด็กที่หมดประโยชน์ (เพราะหมดสภาพ)
นอกจากนี้ลาตินถูกลบความทรงจำไม่ให้จดจำครอบครัวเดิมของตนได้ แต่อย่างไรก็ตามความรู้สึกส่วนลึกของลาตินไม่ได้ถูกลบ ภายในตัวของเธอมีรูปภาพมากมาย ที่ถ่ายภาพเธอกับคนในครอบครัวของเธอเต็มไปหมด ลาตินสับสนทั้งที่เธอรักพวกเขาแท้ๆ แต่ทำไมพวกเขาถึงทิ้งเธอด้วย
และลาตินซึ่งเป็นหุ่นยนต์ก็หลั่นน้ำตาออกมา และร้องไห้ไม่หยุด
โคตะเห็นลาตินร้องไห้ เขาจึงยื่นรูปถาพหนึ่งในลาติน ภาพเป็นรูปของเขาที่ยังเป็นเด็กยิ้มแย้ม โดยมีที่ถูกผู้หญิงสาวที่ยิ้มคนหนึ่งอุ้มอยู่
“ผู้หญิงคนนี้เป็นหุ่นยนต์เหมือนกับเธอ เธอเคยดูแลฉันตั้งแต่เด็ก”
“และวันหนึ่งเธอก็ถูกเอาไปทิ้ง และนั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกเจ็บปวดจากการพรากจาก ลาตินถึงเจ็บปวดมากสินะ ที่ตนเองพรากจากคนรัก”
โคตะยังปลอบลาตินอีกว่าเด็กที่เป็นเจ้าของเดิมนั้นก็คงรู้สึกเหมือนกับเธอ และพยายามที่จะหาตัวเธอเช่นเดียวกัน เธอไม่ใช่สิ่งของอีกต่อไปแล้ว เธอมีชีวิตและจิตใจ เธอคือมนุษย์คนหนึ่งที่มีบ้านให้กลับ
พระเอกตกลงที่จะหาครอบครัวเดิมของลาติน และเมื่อเขาท่องอินเทอร์เน็ตก็ได้รู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่คิด มีคนมากมายที่พยายามค้นหาหุ่นยนต์ที่พวกเขาเคยทิ้งมันไป
จากนั้นชินยะก็เริ่มซ่อมแซมร่างกายให้ลาติน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้มีสายสัมพันธ์อะไรต่อกัน แต่หลังจากพวกเขาใช้เวลาอยู่ร่วมกันแบบค่อยเป็นค่อยไป ชินยะก็เริ่มมีความรู้สึกแอบชอบลาตินในแบบผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง และเมื่อเวลาผ่านไปนานวัน ชินยะก็ไม่สามารถแยกได้แล้วว่าลาตินเป็นหุ่นยนต์หรือเป็นมนุษย์ผู้หญิงกันแน่
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดลาตินก็ได้พบอดีตเจ้าของคนเก่าของเธอ ซึ่งพวกเขาขอโทษลาตินที่ทิ้งเธอไปราวกับเศษขยะ พวกเขาได้รู้ซึ้งแล้วว่าลูกของพวกเขาติดลาตินมาก แม้ว่าพวกเขาจะโตแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้ลืมลาติน สำหรับลาตินแล้วเธอไม่ใช่สิ่งของอีกต่อไป พวกเขาเจ็บปวดที่ลาตินหายไป เธอคือคนสำคัญของครอบครัวของเขา และอยากให้ลาตินกลับมาหาครอบครัวของเขาเหมือนเดิม
แม้ว่าลาตินจะดีใจที่ครอบครัวเก่ายังคงคิดถึงเธอ และต้องการเธอ แต่อีกใจหนึ่งเธอก็ไม่รับไม่ได้ที่ต้องจากลาชินยะ และเมื่อชินยะรู้เรื่องราวจึงรับไม่ได้ที่ต้องจากลาตินแบบนี้ เขาเลยขัดขวางลาติน พร้อมพูดความใจออกมาต่อหน้าเธอ
“ฉันรักเธอลาติน กลับมาอยู่กับฉันเถอะ!!”
และนั้นเองทำให้ลาตินรู้สึกชอบชินยะ แล้วปฏิเสธที่จะกลับไปหาครอบครัวเก่าของเธอ
สุดท้ายลาตินก็อยู่กับชินยะเหมือนที่ผ่านมา เพียงแต่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความรู้สึกทั้งคู่จากเดิม ลาตินมีความรู้สึกชอบชินยะแต่ไม่ใช่ในฐานะเจ้านายหรือบ่าว ส่วนชินยะเองก็คิดว่าการได้พบกับลาตินเป็นเรื่องวิเศษสุดในชีวิตเขา
หุ่นยนต์เรื่องนี้มีน้ำตา
Latin เป็นการ์ตูนชุดเรื่องสั้น ของ Takahata Enaga ที่ผมยอมรับว่าหลังจากอ่านชอบ ผมก็แอบร้องไห้ไปหลายหยด และหลายนาทีต่อมาผมก็เริ่มคิดอะไรมากมาย และสิ่งแล้วที่คิดคือ “หุ่นยนต์เรื่องนี้ฟังก์ชั่นเยอะเกินความจำเป็นหรือเปล่านะ!”
ปกติสาวหุ่นยนต์ (และต้องสวยน่ารัก) ในสไตล์การ์ตูนญี่ปุ่นนั้น จะมีคาแร็คเตอร์ที่แบ่งแยกระหว่างความเป็นหุ่นยนต์และความเป็นมนุษย์อยู่ นั้นคืออารมณ์ความรู้สึก ซึ่งสาวหุ่นยนต์มักไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้า คือมีคาแร็คเตอร์แบบสาวคูลเดเระ ไม่ค่อยพูดค่อยจา หน้าตานิ่งเฉย แม้ว่าจะมีความรัก แต่เธอก็ไม่แสดงออกแบบตรง แต่บางครั้งก็มีสีหน้าที่ยิ้มเล็กน้อย (ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้สาวหุ่นยนตร์มีหลายคนชอบมาก จากปฏิกิริยาความรักแบบนี้)
แต่ว่า ลาตินในเรื่องสั้นเรื่องนี้ แสดงสีหน้าชัดเจน โดยเฉพาะการแสดงออกทางอารมณ์ เรียกว่ามีสุข เศร้า ทุกข์ สามตอบโต้จนเหมือนมนุษย์จริงๆ ยกเว้นเพียงแต่การแสดงข้อต่อ ไปจนถึงการแสดงระบบภายในที่แสดงให้เห็นว่าเป็นหุ่นยนต์เท่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำให้มนุษย์หลายคนในเรื่องมองว่าพวกเธอไม่ใช่หุ่นยนต์ แต่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทั้งๆ ทั้งหุ่นยนต์ไม่ได้มีชีวิตจริงใจ และก็ไม่ใช่มนุษย์ เป็นเพียงแค่โปรแกรรมที่มนุษย์ดัดแปลงเพื่อทำงานรับใช้มนุษย์ และมีการเพิ่มโปรแกรมในการตอบโต้มนุษย์เข้าไปด้วย
ความรักระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์จึงเกิดขึ้น “เพราะเรามักมองหุ่นเป็นเสมือนคนหนึ่ง”
ความรักมนุษย์กับหุ่นยนต์ไม่มีทางเกิดขึ้น!??
ครั้งหนึ่งพระเอกโทมะแห่ง Q.E.D.ได้ให้ความเห็นกับหุ่นยนตร์มนุษย์ ในเล่ม 30 ตอนฆาตกรรมหุ่น อย่างน่าสนใจว่า เอาไว้ว่า แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะพัฒนาหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์มากขึ้น แต่อนาคตที่มนุษย์อยู่ร่วมกับหุ่นยนต์ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เพราะไม่มีความจำเป็นมากขนาดนั้น ต่อให้มนุษย์หุ่นยนต์จะสามารถทำงานใกล้ชิดกับคน เช่น ดูแลคน หรืองานอันตรายได้ แต่สิ่งเหล่านี้เครื่องจักรต่างๆ ก็ปฏิบัติทดแทนได้เช่นกัน (และดีกว่าได้) ดังนั้นการทำหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์จึงไม่จำเป็น
นอกจากนี้การทำหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ทำให้เกิดผลเสีย เพราะมนุษย์ส่วนหนึ่งมองหุ่นยนต์รูปร่าง เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรา ยิ่งมีการเพิ่มฟังก์ชั่นกับหุ่นยนต์ เช่น การตอบโต้หรือแสดงอาการความรู้สึกก็ยิ่งทำให้มนุษย์เกิดความรู้สึกกับหุ่นยนต์มากขึ้น และแล้วการทำลายกำแพงกั้นระหว่างหุ่นกับคนก็จะเกิดขึ้น ทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา หุ่นยนต์จะมีสิทธิเหนือมนุษย์ มีกฎหมายปกป้องสิทธิหุ่นยนต์
แม้แต่การ์ตูนอมตะผลงานของ “โอซามุ เท็ตซึกะ” อย่าง “เจ้าหนูปรมาณู” หรือเจ้าหนูอะตอม ก็สอดแทรกเรื่องที่หุ่นยนต์มีสิทธิมนุษย์นั้นวุ่นวายขนาดไหน มนุษย์ถูกหุ่นยนต์แย่งงาน เกิดลัทธิเกลียดหุ่นยนต์ขึ้นมา โลกที่มนุษย์ปรองดองกับหุ่นยนต์ไม่มีวันถึงแน่นอน
แม้แต่ดร.เท็นมะหนึ่งในตัวละครเอกในเรื่องที่สูญเสียลูกชายไปจากอุบัติเหตุ เขาจึงได้สร้างหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนลูกชายของทุกอย่าง รวมไปถึงใส่ความทรงจำ ใส่นิสัย ใส่วงจรความรู้สึก การตอบโต้ทางอารมณ์ สามารถแยกแยะผิดชั่วดีได้ ซึ่งเท็นมะพยายามให้อะตอมมาเป็นตัวแทนลูกชายของเขา หากแต่นานวันดร.เท็มมะก็คิดได้ว่าอะตอมไม่สามารถทดแทนลูกของเขาได้ ต่อให้เหมือนลูกชายของมากขนาดไหนก็ตาม
ในโลกแห่งความจริงหุ่นก็คือหุ่น ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตหรือมนุษย์ แต่คนกลับถูกรูปร่างนั่นหลอก จนบางครั้งก็ถึงกลับหลงผิด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมาก โดยเฉพาะการพัฒนาหุ่นยนต์ แม้ว่าหุ่นยนตร์ที่เริ่มมีรูปร่างหลากหลายเพื่อเหมาะกับการใช้งาน แน่นอนว่าความใฝ่ฝันของมนุษย์ในการสร้างหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนมนุษย์นั้นยังคงมี และเกิดขึ้นมานานแล้ว และไม่เพียงรูปร่างเหมือนเท่านั้น การเคลื่อนไหว การตอบโต้ การแสดงอารมณ์จะต้องเหมือนมนุษย์ จนเรียกว่าหุ่นยนต์นั้นกลายเป็นมนุษย์ขึ้นมาจริงๆ
แต่อนาคตที่จะเห็นหุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ยังคงห่างไกลสำหรับเราอยู่ดี
ดังนั้น จะมีแต่สื่อบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ และการ์ตูนเท่านั้นที่สามารถสานฝันอนาคตที่ไม่เกิดขึ้น เป็นจริงได้ ด้วยการสร้างหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนมนุษย์เกิดขึ้นจริง แน่นอนว่าประเด็นเกี่ยวกับกำแพงกั้นระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ก็เพิ่มเข้ามาด้วย เช่นกัน
โรบิต้า(Robita) เป็นตัวละครสมมุติที่มีรูปร่างเป็นหุ่นยนต์กระบอกหัวสีเทา เหมือนหุ่นยนต์รุ่นเก่า เป็นผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์บ้าคนหนึ่งในการศึกษาชีวิตอมตะ โดยอดีตของโรบิต้านั้นเขาเคยเป็นชายธรรมดาคนหนึ่งชื่อลีออน ซึ่งเขาต้องตายในอุบัติเหตุรถยนต์ แต่ด้วยวิทยาการแพทย์ที่ก้าวหน้าเขาสามารถคืนชีพได้ด้วยการผ่าตัดโดยใช้สมองเทียม แต่ผลข้างเคียงของอวัยวะใหม่เขาได้เห็นและได้ยินโลกปกติของเขากลายเป็นโลกที่น่าเกลียด คนและสิ่งมีชีวิตกลายเป็นขยะหรือหินอะไรบางอย่างที่น่าเกลียดน่ากลัว กลับกันหากเขาไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษเขาจะเห็นเป็นโลกที่สวยงามปานสวรรค์ไม่ปาน ส่วนหุ่นยนต์เขากลับเห็นเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเขา จากนั้นเขาก็ได้พบชิฮิโรหุ่นยนต์โรงงานที่รูปร่างเหมือนแมลงและรูปร่างเชยๆ แต่เขากลับเห็นหุ่นยนต์ตัวนั้นเป็นสาวสวยมีหนวดแทน เขาตกหลุมรัก และพยายามที่จะได้เธอมาครอบครองแต่ก็โดนบริษัทที่เป็นเจ้าของหุ่นยนต์นี้กีดกัน
ต่อมาลีออน ก็รู้ว่าการตายเพราะอุบัติเหตุของเขานั้นเกิดจากญาติของเขาเพราะเขากำลังตามล่าวิหคเพลงที่มีพลังเป็นอมตะ เขาได้จัดการฆ่านักฆ่าที่มาฆ่าเขา จากนั้นก็พา ชิฮิโร หนีออกมา แต่เกิดอุบัติเหตุ จนต้องเขาไปอยู่ในการควบคุมของบริษัทนักลักลอบค้าอวัยวะ ผู้นำซึ่งเป็นผู้หญิงเกิดตกหลุมรักลีออนตั้งแต่แรกเห็น แต่ลีออนปฏิเสธ ทำให้เธอมีความคิดใส่จิตใจของเธอมาร่างของเขา ส่วนจิตใจของเขามาใส่ในตัวหุ่นชิฮิโรแทน ดูเหมือนจะเป็นโศกนาฏกรรม แต่สำหรับลีออนถือว่าเป็นจุดจบที่ดีสำหรับเขา เพราะจิตวิญญาณของเขาได้หลอมรวมกับหุ่นยนต์จนเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งถือว่าเขาสมหวังในรักแล้ว
และนอกจากกำแพงระหว่างกั้นมนุษย์กับหุ่นยนต์แล้ว การตั้งคำถามความรักที่มนุษย์ที่มีต่อหุ่นยนต์นั้นมันเป็นภาพลวงตาหรือของจริง
มีศัพท์หนึ่งที่อธิบายได้ดีกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ นั่นคือ Tamagotchi effect (ทามาก็อตจิ เอฟเฟค) เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาของเจ้าของที่มีความรู้สึกกับหุ่นยนต์ หรือวัตถุดิจิตอลอื่นๆ (ยังรวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ วีดีโอเกมพวกเกมจีบสาวโต้ตอบผู้เล่น เป็นต้น)
ปกติแล้วมนุษย์จะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับสิ่งของ เช่น กุญแจรถยนต์ ตู้ซักผ้า หรือทีวี (อาจยกเว้นรถยนต์ ซึ่งมันเคลื่อนไหวได้) ตรงกันข้ามกับปัญญาประดิษฐ์หรือวีดีโอเกม ที่สามารถตอบสนอง หรือตอบโต้กับเราได้ และเคลื่อนไหว จะทำให้เรามีความรู้สึกกับสิ่งของมากขึ้น
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อของเล่นญี่ปุ่นทามาก็อตจิ วางจำหน่ายในปี 1996 จะโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อถึงปี 2010 ก็ขายได้ถึง 76 ล้านเครื่อง ซึ่งของเล่นนั้นเป็นเกมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงดิจิตอล เจาะกลุ่มทุกเพศทุกวัย ซึ่งสาเหตุที่มันดังก็คือระบบสมจริงที่ ระบบเกมทำให้คนเล่นเหมือนได้เลี้ยงสัตว์จริงๆ (ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหาร, การเข้านอน, การขับถ่าย เป็นต้น) นอกจากนี้ยังมีระบบที่ทำให้ผู้เล่นเอาใจใส่มันยิ่งขึ้น หากปล่อยปะละลาย มันอาจตายเพียงไม่กี่วัน หรือเมื่อมันโตเต็มวัยจะมีรูปร่างไม่น่ารักอาจไม่ทางน่าเกลียด หากเลี้ยงดูเอาใจใส่เมื่อมันโตเต็มวัยมันจะมีรูปร่างน่ารัก และนั้นเองทำให้คนเล่นเอาใจใส่มันยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยงในชีวิตจริงเสียด้วยซ้ำ
อีกตัวอย่างหนึ่งวีดีโอเกมนินเทนด็อก ที่เลี้ยงสุนัขเสมือน ที่ผู้เล่นสามารถเลี้ยงสัตว์ ปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ได้อย่างสมจริง ทำให้ผู้เล่นอินกับสัตว์เลี้ยงดิจิตอลในที่สุด นอกจากนี้ก็มีเฟอร์บี้ที่สามารถโต้ตอบผู้เล่นได้
ผลกระทบ Tamagotchi effect นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย และเป็นสุขภาพทางจิตมีทั้งด้านบวกและลบ ส่วนมากมักเกิดขึ้นกับเด็กและผู้สูงอายุ ผู้พิการทางจิตใจ ยิ่ง A.I. ฉลาดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นรู้สึกอินมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งความรู้สึกของผู้เล่นต่อโปรแกรมประดิษฐ์ก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่สร้าง เช่น สัตว์เลี้ยงดิจิตอล ผู้เล่นจะรู้สึกกับสัตว์เลี้ยงแบบมิตรภาพ เสมือนเพื่อน
และแน่นอนว่ายังรวมไปถึงเกมจีบสาวด้วย ที่ผู้เล่นหลงรักตัวละครในเกมจีบสาว แม้เป็นเพียงแค่ภาพก็ตาม แต่ด้วยระบบเกม ทำให้สาวในเกมที่รูปร่างหน้าตาน่ารักเคลื่อนไหว (ได้บางส่วน) แม้การตอบสนอง ตอบโต้กับเรา (จากการเลือกคำตอบ) การเข้ารูทเพื่อปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เราชอบ ทุกอย่างเป็นไปตามบทที่เขียนบทเอาไว้ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกอิน ไม่มากไม่น้อย และเริ่มหลงรักตัวละครในเกมที่สุด
ไม่แปลกแต่อย่างใดที่เรามักเห็นอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับคนรักปัญญาประดิษฐ์แบบนี้อยู่สเมอ ไม่นานมานี้ก็มีข่าวหนุ่มชาวญี่ปุ่น Sal 9000 แต่งงานกับ “เนเน่ อาเนกาซากิ” จากเกม “เลิฟ พลัส” เกมจีบสาวในเกมนินเทนโด จนโด่งดังไปทั่วโลก คนรอบข้างอาจมองว่านายคนนี้มีอาการผิดปกติขั้นรุนแรง (เพราะผลด้านลบของ Tamagotchi effect ทำให้ผู้เล่นบางคนไม่สามารถแยกโลกเสมือนกับโลกจริงได้) เขายังคงเป็นปกติ พูดคุยตามปกติ นายคนนี้มีอาการผิดปกติจริงหรือ?
ความรักมนุษย์กับสาวหุ่นยนต์ นั้นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกใช่หรือไม่? พวกเธอรูปร่างเหมือนมนุษย์ พูดตั้งโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์เหมือนมนุษย์ เพียงเท่านั้นก็ทำให้มนุษย์คนหนึ่งมองพวกเธอว่า เธอคือมนุษย์ และเกิดความรัก มนุษย์คนที่รักพวกเธอ รักเธอเพียงแค่แปลกนอก หลงภาพมายาหรือไม่ ส่วนหุ่นยนต์สาวก็รักผู้ชายคนนั้น เพียงแค่โปรแกรมประดิษฐ์ตอบโต้ว่าให้รักชายคนนั้นใช่หรือไม่?
ความรักที่ว่าเป็นของจริงหรือ?
“Angela”
ยังมีการ์ตูนมังงะสั้นของคนเขียนอีกเรื่องหนึ่ง ที่แสดงถึงความรักของคนกับหุ่นยนตร์ว่าความรักของพวกเขาเป็นของจริงหรือไม่ เรื่องสั้นที่ว่าคือ “Angela” ซึ่งเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ประสบกับเรือแตก ต้องมาติดบนเกาะร้างไร้ผู้คนเพียงคนเดียว
ชายหนุ่มพยายามเอาชีวิตรอดบนเกาะร้าง แต่เขาก็พบว่าเป็นเรื่องยากลำบากมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่เขาไม่มีความรู้อะไรเลย กินเห็ดเข้าไปก็กลายเป็นเห็ดพิษทำให้ท้องไส้อาเจียน อีกทั้งยังต้องต่อสู้กับความโดดเดี่ยว ความรู้สึกเหงาเดียวดายอีกด้วย
จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังเดินโทรม ร่างกายผอมโซ จนแทบลากสังขารไปตามหาดทรายอยู่นั้น เขาก็ได้พบกล่องของขวัญกล่องใหญ่ที่มาจากเรือแตกลอยตามทะเลเกยบนชายหาด ทันทีที่เขาเปิดดูก็พบหุ่นยนต์ผู้หญิงสาวเมดสวยคนหนึ่ง (ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และน่าจะเป็นรุ่นเดียวกับลาติน) สำหรับชายหนุ่มแล้วเขาแทบไม่เคยจะมีหุ่นรับใช้เลย เพราะหุ่นรับใช้นั้นเป็นของสำหรับคนรวย แต่เขานั้นยากจนได้แค่มอง
หุ่นสาวเมดตื่นจากการหลับใหล และรับใช้ชายหนุ่มที่เป็นเจ้านายของเธอ ซึ่งเธอออกหาอาหารที่สามารถกินได้ในป่า สร้างที่อยู่อาศัยให้ ทำอาหาร ดูแลสิ่งทุกอย่าง และเขาเองก็พยายามฝึกทักษะการเอาชีวิตรอดด้วยตัวคนเดียวด้วย อีกทั้งเธอยังสร้างสีสัน บรรยากาศ เล่นมุกตลก ทำให้ชายหนุ่มมีชีวิตอย่างมีความสุขแม้จะอยู่คนเดียวในเกาะร้างก็ตาม
เวลาผ่านไปนานหลายปี แม้ชายหนุ่มจะไม่รู้วันเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ร่างกายของเขาก็เริ่มแก่ชรา จนกลายเป็นผู้เฒ่า ขณะที่สาวหุ่นเมดเองสภาพร่างกายเริ่มชำรุดทรุดโทรม จนเริ่มหมดสภาพ
และแล้ว วันหนึ่งชายหนุ่มที่เป็นชายชราไปแล้วก็ได้ถูกช่วยเหลือจากเรือที่ผ่านมาบนเกาะแห่งนั้น เขาจะได้กลับบ้านเสียที หากแต่หุ่นสาวเมดที่อยู่กับเขานั้น เธอไม่ได้กลับไปกลับเขา เพราะตอนนี้ เธอไม่สามารถเคลื่อนไหว หรือมีชีวิตได้อีกแล้ว เธอหมดสภาพ (หรือตายแล้วนั้นเอง) เธอจากเขาพร้อมรอยยิ้ม ราวกับว่าเธอบรรลุเป้าหมายในชีวิตของเธอในการรับใช้เจ้านายของเธอแล้ว
ชายชราได้กลับมาถึงบ้าน เขามีชื่อเสียง และสามารถได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ สิ่งแรกที่เขาต้องการคือเมดสาวหุ่นยนต์ และเขาก็ได้สาวหุ่นยนต์มาหลายคน พวกเธอเป็นรุ่นใหม่ ทำงานได้ดีกว่าสาวเมดบนเกาะร้างเสียอีก แต่อย่างไรก็ตามชายชราก็ไม่สามารถลืมหุ่นสาวเมดที่เขาอยู่ร่วมกับเธอบนเกาะร้างนานหลายปีได้เลย ไม่มีใครดีเท่าเธออีกแล้ว
เรื่อง “Angela” เป็นอีกเรื่องของคนเขียน ที่เป็นเรื่องราวความรักของมนุษย์กับหุ่นยนต์ ความรักที่ว่าอาจมากกว่าความรักชายหญิงแบบคนปกติธรรมดาด้วยซ้ำ แม้ว่าหุ่นยนต์ผู้หญิงอาจเป็นเพียงหุ่นที่โปรแกรมสร้างขึ้นมา แต่ความรู้สึกของชายหนุ่มนั้นเป็นของจริงแน่นอน
ความรัก อาจความหมาย แต่ถ้าถามว่ารักอย่างไงคือรักแท้ รักที่แท้จริง ก็ตอบง่ายๆ ว่าคือการที่คนรักอยู่ร่วมกันมีความสุขด้วยกัน เป็นภาพลวงตา โดนรูปลักษณ์หลอกเหรอ? นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญคือมันทำให้คุณรู้สึกดี การอยู่ร่วมกับคนรักของเรา ยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่สนสายตาของคนภายนอก นี่แหละคือรักแท้ และเชื่อว่าอีกไม่นานความรักก็จะกลายเป็นความรักแท้จริงแบบ พิกเมเลี่ยนและกาลาเทีย ที่พิกเมเลี่ยนเชื่อว่าหุ่นเป็นมนุษย์ และวันหนึ่งมันก็เป็นมนุษย์ขึ้นมาจริงๆ
ความรัก อาจความหมาย แต่ถ้าถามว่ารักอย่างไงคือรักแท้ รักที่แท้จริง ก็ตอบง่ายๆ ว่าคือการที่คนรักอยู่ร่วมกันมีความสุขด้วยกัน เป็นภาพลวงตา โดนรูปลักษณ์หลอกเหรอ? นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญคือมันทำให้คุณรู้สึกดี การอยู่ร่วมกับคนรักของเรา ยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่สนสายตาของคนภายนอก นี่แหละคือรักแท้ และเชื่อว่าอีกไม่นานความรักก็จะกลายเป็นความรักแท้จริงแบบ พิกเมเลี่ยนและกาลาเทีย ที่พิกเมเลี่ยนเชื่อว่าหุ่นเป็นมนุษย์ และวันหนึ่งมันก็เป็นมนุษย์ขึ้นมาจริงๆ
ความผูกพันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความรัก ความรักไม่ใช่เกิดจากเพียงแค่คบกันผิวเผิน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างที่หลายคนเข้าใจ ความผูกพันนั้นเกิดขึ้นได้จากเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน ที่ทั้งสองมีช่วงเวลาอยู่ด้วยกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน การมีกันและกันในยามยาก มีเรื่องราวประทับใจระหว่างกัน ทำให้เกิดสานสายใยผูกพัน และจะมีกำแพงความรักมาขวางกั้น แต่สุดท้ายก็สามารถก้าวข้ามไปในที่สุด
ทางด้านหุ่นยนต์ แม้จะไม่ได้มีชีวิตจิตใจเหมือนกับคน เป็นเพียงโปรแกรมที่มนุษย์ตั้งขึ้นมา แต่เธอก็ทำหน้าที่ที่ได้รับแบบไม่มีขาดตกบกพร่อง นั้นคือการทำให้เจ้านาย (มาสเตอร์) ของเธอมีความสุขนั้นเอง
นอกจากนี้เสน่ห์สาวหุ่นยนต์ก็คือมีความซื่อสัตย์ ติดตามเจ้านายไปทุกที แม้เจ้านายจะสูงต่ำ ดำขาว จนหรือรวย ขอให้เขาเป็นเจ้านายของเธอ เธอก็จะรับใช้จนถึงที่สุด อีกทั้งยังใส บริสุทธิ์ ไม่มีมารยา นอกจากนี้ยังมีความเซ็กซี่ มีเสน่ห์อีกด้วย . เรียกได้ว่าเธอเป็นสาวอุดมคติของโลกการ์ตูนญี่ปุ่นก็ว่าได้
Takahata Enaga อาจเป็นนักเขียนการ์ตูนใหม่ในวงการมังงะ พึ่งเปิดตัวในปี 2012 ยังไม่มีผลงานเรื่องยาวอะไรเป็นพิเศษ (มีแต่เรื่องสั้นเป็นส่วนใหญ่) แต่กระนั้นผมก็เห็นอะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นที่มีเอกลักษณ์ ตัวละครน่ารักโดยเฉพาะตัวละครผู้หญิง ที่ชอบคือการสร้างโลกแฟนตาซีไซไฟ
สังเกตว่าหลายผลงานของคนเขียนมักเป็นความรัก มนุษย์กับสิ่งไม่ใช่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ หรืออมมนุษย์ (พวกหูแมว) และบรรยากาศในเรื่องเหมือนสู่ว่าสังคมส่วนมากปฏิเสธที่อยู่ร่วมกับอมมนุษย์ มีเพียงแค่ตัวเอก (พระเอก) เท่านั้นที่ไม่ได้ปฏิเสธพวกเธอ และพวกเขาก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ก็ต้องติดตามต่อไปว่า Takahata Enaga จะมีผลงานเรื่องยาวหรือไม่ และทำได้ดีกว่าเรื่องสั้นหรือเปล่า ผมคนหนึ่งที่ติดตามครับ
ความคิดเห็น