คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #223 : ที่สุดของ Anime แห่งปี 2012 by Cammy
กระทู้
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2650670
(เนื้อหาของบทความจะแตกต่างจากกระทู้นิดหน่อย)
สวัสดีครับ สำหรับการรีวิวอนิเมะสุดท้ายของปีนี้ และเป็นการพูดโดยภาพรวมของอนิเมะการ์ตูนญี่ปุ่นในปีนี้ด้วยครับ
ตอนที่เขียนบทความผมก็ตั้งคำถามตัวเองเหมือนกันว่าทำไมผมชอบการ์ตูนไม่เหมือนคนอื่น (โดยเฉพาะคนไทย) เหมือนกัน อายุก็เป็นส่วนหนึ่ง รสนิยมก็เป็นส่วนหนึ่ง และผมก็เริ่มๆ รู้สึกตัวว่าจะเป็นโอตากุน่าเกลียดที่เห็นในการ์ตูนญี่ปุ่นทั่วๆ ไปหรือเปล่า เพราะการ์ตูนที่ผมชอบมันแนวฮาเร็ม โมเอะ เซอร์วิส และจะมีคนอายุ 30 สักกี่คนที่มาดูการ์ตูนพวกนี้บ้าง คิดแล้วน่ากลัวจริงๆ พับผ่า
ถึงจะพูดว่าผมชอบดูอนิเมะก็เถอะ แต่ผมก็ไม่พูดเต็มปากสักเท่าไหร่ เพราะอนิเมะปีนี้ผมดูอนิเมะประมาณ 30 เรื่องที่ดูตั้งแต่ต้นจนจบ (และดูแบบไม่จบ ดูครึ่งกลางๆ กว่า 50 เรื่อง) ในขณะที่อนิเมะที่ฉายปีนี้มีมากกว่า 100 เรื่อง!!
ข้างล่างต่อไปนี้เป็นรายชื่อของอนิเมะที่ฉายในปีนี้ครับรวมอนิเมะที่ฉายไม่จบ ฉายต่อเนื่อง อนิเมะไม่กี่นาทีจบ รวมทุกแนว (เด็กหรือผู้ใหญ่) แต่ไม่รวม OVA, ไม่ฉายทางทีวี, ภาพยนตร์ และอนิเมะที่ฉายต่อจากปี 2011 (เช่นมงกุฎบาปหรือเพอร์โซน่า 4)
สำหรับภาพรวมของอนิเมะปีนี้มีหลากหลายแนวครับ ไม่ว่าจะเป็น แนวโมเอะ แนวฮาเร็ม แนวแอ็คชั่น แนวการ์ตูนผู้หญิง การ์ตูนที่สร้างจากจีบสาว การ์ตูนจากไลน์โนเวลและมังงะ การ์ตูนขายของเล่น การ์ตูนสำหรับเด็ก หรือแนวแปลกๆ อย่างกุโระก็ยังมี สามารถเลือกเสพตามใจชอบของคนดู หรือฐานแฟนผลงาน และทุกแนวก็มีเรื่องดีๆ มีคุณค่าอย่างล่ะเรื่องสองเรื่อง
อนิเมะบางเรื่องก็ดีตามมาตราฐาน บางเรื่องผิดหวัง บางเรื่องม้ามืดสนุกเกินคาด บางเรื่องหลายคนรอคอย บางเรื่องก็เป็นที่ถกเถียงไม่รู้จบว่ามันสนุกหรือห่วย เรียกว่าปีนี้ภาพรวมของอนิเมะรวมทุกอารมณ์ของคนดูได้เลยครับ
ในขณะที่บางเรื่องผมเกลียด ยิ่งกว่าเกลียด เกลียดจนไม่อยากเผาผี เกลียดจนกลายเป็นเรื่องต้องห้าม ว่าห้ามมีใครพูดถึงการ์ตูนเรื่องนั้นต่อหน้าผมเด็ดขาด ไม่งั้นผมจะว๊ากให้ดูทีเดียว ส่วนสาเหตุที่เกลียดนั้นค่อนข้างเกรียน ซึ่งไม่อยากเล่าที่มา ณ ที่นี้
ถ้ามองจากมุมมองของคนดูทั่วๆ ไปอนิเมะที่ชอบในปีนี้ เด่นๆ คือ Hyouka, Sword Art Online, Chuunibyou Demo Koi ga ai!, Fate/Zero 2, Kuroko no Basuke, Tari Tari, Inu x Boku SS, Sakurasou no Pet na Kanojo, Danshi Koukousei no Nichijou และ Jormungand ซึ่งรายชื่ออนิเมะเหล่านี้จะติด 10 อันดับแรกๆ ของการจัดอนิเมะที่สุดแห่งปีมาโดยตลอด
แต่ขอโทษครับอนิเมะที่ยกมาข้างต้น เกินครึ่งผมไม่ได้ดูและไม่ได้ติดอันดับการ์ตูนที่ผมชอบแห่งปีด้วย!! (เวรกรรม.....)
อย่างที่บอกเอาไว้ว่าผมดูอนิเมะไม่เหมือนชาวบ้าน ผมชอบอนิเมะม้ามืด หรืออนิเมะดีๆ (โดยเฉพาะฮาเร็ม) ที่หลายคนไม่สนใจมากกว่า (ฮ่า) เอาเป็นว่าต่อไปนี้คือที่สุดอนิเมะแห่งปีตามความคิดของผมดีกว่าน่ะครับ ว่ามันมีอะไรที่สุดบ้าง
อนิเมะแห่งปี ปีนี้มีอนิเมะมากมายหลายเรื่องที่ผมชอบ แต่ที่แปลกคืออนิเมะที่ชอบเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นอนิเมะม้ามืดมากกว่า แต่เห็นสัจธรรมอยู่อย่างว่าอนิเมะแห่งปีนี้เป็นยุคแห่งการขายคาเร็คเตอร์ตัวละคร (ซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิง) หากตัวละครหญิงน่าอวยมากเท่าไหร่ ยิ่งได้รับความนิยมสูง ส่วนเนื้อเรื่องจะติดตามหรือไม่นั้นก็จะเป็นเรื่องรองลงมา สำหรับปีนี้ผมชอบอนิเมะ 4 เรื่องเป็นพิเศษ
Another อนิเมะแนวสยองขวัญลึกลับที่สร้างจากนิยายเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ร่างกายอ่อนแอ ได้ย้ายโรงเรียนบ้านนอกและเขาก็ได้พบเด็กหญิงเพื่อนร่วมห้องคนหนื่งชื่อ มิซากิ เมย์และอาถรรพ์ห้อง 3/3 ที่ภาพในอนิเมะงามหยดย้อย สื่อถึงบ้านนอก บรรยากาศไม่ไว้ใจ เหล่าตัวละครและตัวประกอบของห้อง 3/3 น่ารักสวยหล่อทุกคน (ฮ่า) และคู่พระเอกนางเอกที่แสนเอาใจช่วย ไปจนถึงทวินเทลสุดยอด!! และฉากตายแห่งปีสะพานโค้ง???
การ์ตูนเรื่องนี้ได้ข้อคิดมากมาย ดูแล้วสนุก ดูได้หลายรอบ หลายมุมมอง ในขณะเดียวกันก็น่าค้นหา ตามล่าหาความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น การ์ตูนจะเล่นกับจิตวิทยาของมนุษย์ สร้างด้านมืดภายในจิตใจของผู้ดู และกลวิธีดำเนินเรื่องทำได้ฉลาดด้วย หากเราเป็นนักเรียนห้อง 3/3 หากมีความเชื่อที่ดูเหมือนบ้าบอให้พวกตนรอด ตนก็พร้อมที่จะทำ แม้ว่าตอนท้าย 11-12 จะบ้าเลือดสาดไปบ้าง แต่ผมกลับชอบน่ะ เพราะนานแล้วไม่ได้ตื่นเต้น ได้ลุ้นกับการ์ตูนสยองขวัญมานานแล้ว ลุ้นทั้งเรื่องว่าพระเอกและนางเอกจะตายไหม ยังจำได้ดีว่าผมตื่นมาตี 4 เพราะนอนไม่หลับเพื่อมาดูตอนจบของอนิเมะ (ซับอังกฤษ) โดยเฉพาะ
Haiyore! Nyaruko-san การ์ตูนสร้างจากไลท์โนเวล (เนื้อหาอาจดัดแปลงเพื่อกระชับในแบบอนิเมะ) เรื่องราวของเด็กหนุ่มมาฮิโระที่ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของมนุษย์ต่างดาวจากนิยายเลิฟคราฟท์ เนื้อหาการ์ตูนแม้จะเป็นพล็อตตลาดที่พบเห็นกันโดยทั่วไป แต่เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวละครที่น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นเนียวรุโกะไฮเปอร์จัด คูโกะคูลเดเระ,ยันเดเระ,วายเสื่อม และฮัตต้าดุ้นน่ารัก บวกกลวิธีการนำเสนอ ทำให้ผมติดตามได้ไม่ยาก สมแล้วที่เป็นความอัศจรรย์ความวุ่นวายที่คืบคลาน
การ์ตูนเรื่องนี้แปลกอยู่อย่าง เพราะหลายคนที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป บางคนบอกว่าเรื่องนี้สุดยอด (สุดยอดสิก็ยอดขายดีวีดีทะลุเป้าจนทำซีซั่นสองแล้ว), อีกคนบอกว่าการ์ตูนนี้ไม่เห็นสนุกเลย ส่วนบางคนบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ งง ชิบหายสำหรับผมแล้ว Haiyore! Nyaruko-san เป็นการ์ตูนที่ผมรอคอยในปีนี้ และไม่ผิดหวัง ตอนแรกๆ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นการ์ตูนอะไร แต่พอดำเนินเรื่องก็ได้รู้ว่าเป็นการ์ตูนล้อเลียนคาเมนไรเดอร์, อุลตร้าแมน, การ์ตูนมากมายหลายเรื่อง (เก่ารุ่นพ่อ) ซึ่งหลายคนไม่เก็ทหมดและเลิกติดตามกลางคันก็มี แต่สำหรับผมมุกแต่ละมุกนี้จะสนุกฮ่าเมื่อเข้าใจมุกอธิบายมุกชนิดที่ต้องอุทานว่า “มันกล้าเล่น” และที่สำคัญคือฮาเร็มซาบซ่าบวกกับเสื่อมดี (ใจหนึ่งก็นึกอิจฉาพระเอก อีกใจก็สงสาร)
Girls und Panzer เป็นหมัดเด็ดสำหรับเถียงพวกที่ชอบดูถูกการ์ตูนแนวโมเอะว่าเป็นการ์ตูนไร้สาระได้เป็นอย่างดี เรื่องราวของมิโฮะกับพรรคพวกในชมรมรถถังที่ต้องเอาชนะเลิศการแข่งขันรถถังจากทั่วประเทศเพื่อไม่ให้โรงเรียนของเธอถูกปิด จากการ์ตูนนอกสายตา สตูดิโอไม่ดังที่หลายคนไม่สนใจ กลับกลายเป็นการ์ตูนดังอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ใช้รถถัง พล็อตแนวการ์ตูนกีฬา มาประยุกต์ให้เข้ากับการ์ตูนแนวโมเอะได้เป็นอย่างดี สร้างโลกที่ทำให้พวกผู้หญิงสามารถขับรถถังได้โดยไม่ขัดสายตา ถือว่าเป็นม้ามืดส่งท้ายปี 2012
ตอนแรกๆ ผมก็รับไม่ได้กับการใช้ภาพการ์ตูนเฉดมาใช้เหมือนกัน แต่หากผ่านไปหลายตอนผมก็ลืมเรื่องนี้ไปหมดสิ้น เพราะจุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้คือการต่อสู้ด้วยรถถังที่ตื่นเต้นน่าลุ้นเพราะทีมตัวเอกแทบไม่มีอะไรเลย แต่ต้องสู้กับทีมฝ่ายตรงข้ามที่มีทั้งทรัพยากรและบุคคลชนิดเป็นรองสุดขั้น แต่ผลสุดท้ายก็พลิกล็อกถล่มทลาย ดูแล้วเกิดอารมณ์ลุ้นเอาใจช่วย อีกทั้งคาแร็คเตอร์ตัวเอกก็ออกแบบมาได้โดดเด่น ตัวละครแต่ละคนมีบทบาทชัดเจน จนผมให้เหล่าตัวละครตัวประกอบแห่งปีนี้อย่างไม่ยากเย็น
To Love-Ru Darkness ชีวิตนี้ผมขาดฮาเร็มไม่ได้ ถ้าไม่ได้ดูฮาเร็มจะลงแดงตาย อนิเมะปีนี้ผมยังคงชอบ To Love-Ru Darkness เหมือนเดิม ซึ่งภาคนี้ทำได้ตรงกับอนิเมะ ซึ่งทำได้ดีเสียด้วย ยิ่งภาค OVA ทำได้เซอร์วิสสุดๆ โดยเนื้อหาก็ยังคงเป็นเรื่องของ “ยูกิ ริโตะ” ที่หลายคนเรียกมหาเทพริโตะไปแล้ว ที่ชีวิตของเขาได้กำลังวุ่นวายกับความรักระหว่างลาล่าและผู้หญิงอีกมากมาย ที่แปลกคือมางวดนี้อนิเมะโทนบรรยากาศของเรื่องดูเงียบสงบ เพลงประกอบเบาๆ ซึ่งแตกต่างจากภาคก่อนที่เพลงเปิดหรือเพลงประกอบมักออกมาแนวสนุกสนาน ทำให้ภาคนี้ดูเป็นโลกสีชมพู ซึ่้งผมว่าไม่มีเรื่องไหนที่จะสีชมพูแบบนี้อีกแล้วเพราะมีตัวเอกจากการ์ตูนเรื่องไหนบ้างล่ะที่กลายเป็นคนรักของเจ้าหญิงลูกสาวเจ้าจักรวาลถึง 3 คน ทั้งๆ ที่ตัวเอกแสนกระจอกและอ่อนแอ (อีกทั้งหญิงในกรุฮาเร็มไม่มีทะเลาะกันดราม่าใส่กันเลยแม้แต่น้อย) นอกจากนี้ฉากเซอร์วิสทำได้สุดยอดมาก สมแล้วที่เป็นการ์ตูนในตำนานที่หลายคนรอคอยทีเดียว มาแน่ครับซีซั่น 2 !!
(ปล. มีข่าวลือเกี่ยวกับ To Love-Ru Darkness ที่ไม่รู้มันโยงกันได้ไง กล่าวคือคนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ได้ไปพบคนเขียนจากการ์ตูนสายมืดคนหนึ่ง พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน จนหลายคนเชื่อว่า To Love-Ru Darkness ตอนต่อไปจะมีฉาก H เอากัน มันก็โยงกันได้น่ะ เอาเทาๆ แหละดีแล้ว)
อนิเมะยอดแย่และผิดหวังแห่งปี มันอาจรุนแรงต่อจิตใจของใครหลายคนสำหรับใครมาที่นี้ ผมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ บางทีมุมมองท่านอาจตรงกันข้ามกับผมก็ได้ แต่ผมมองเป็นแบบนี้จริงๆ
จะว่าไปปีนี้มีอนิเมะที่หลายคนคาดหวังว่าจะดี แต่ก็ล้มเหลว น่าผิดหวังเยอะเหมือนกัน จนเป็นที่โจษจันไม่รู้ลืม ซึ่งหลายคนคงเห็นหลายเรื่องไปแล้ว เพียงแต่อนิเมะที่ว่าผมไม่ได้ดูสักเท่าไหร่ (เพราะผมชอบดูอนิเมะฮาเร็ม) ทำให้ไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันล้มเหลวอย่างไร อีกทั้งปกติแล้วหากผมดูอนิเมะแล้วรู้ว่ามันห่วย ไม่สนุก ก็จะเลิกดูกลางคันเฉยๆ ไม่มีอาลัยมากมาย ยกเว้นอนิเมะบางเรื่องที่ผมดันดูตั้งแต่ต้นจนจบ และหลังดูตอนจบ ความรู้สึกที่ผมดูอนิเมะเรื่องนี้ก็คือ “รู้สึกแย่เป็นบ้า” สอบตกหมด ในด้านเนื้อหา การดำเนินเรื่อง ไปจนถึงไม่สามารถตอบความคาดหวังของผมได้ บางเรื่องสาร้างประสบการณ์หลอกหลอนผมทั้งๆ ที่ไม่อยากจดจำแท้ๆ (ที่จริงผมหลอนตอนจบนักรบ Shakugan no Shana มาก แต่ซานะผมไม่ได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบจึงไม่ขอพูดถึง)
เข็นไม่ขึ้นแห่งปี Dakara Boku wa, H ga Dekinai อนิเมะที่สร้างจากไลท์โนเวลเรื่องราวของคางะ เรียวสึกะผู้ทำสัญญากับลิซ่าเพื่อตามหาผู้มีพรสวรรค์พิเศษ เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ทำให้ผมหน้าแตกยับเยินแห่งปีก็ว่าได้ ทั้งๆ ที่ตอนแรกอุตส่าห์เป็นแฟนเดนตายอวยเรื่องนี้ว่าสนุกสุดๆ แต่กลายเป็นว่าช่วงหลังทำได้แย่และน่าเบื่อมาก
พูดตามตรงว่านี้คืออนิเมะที่ผมรอคอยมากที่สุดในซีซั่นนี้ เพราะประทับจากอ่านมังงะ (ที่เนื้อหาตรงไลท์โนเวล) หากแต่เมื่อดูอนิเมะ อยากทำมือกุมหน้าผาก เพราะการดำเนินเรื่องแย่มากๆ คือมันทำไม่ตรงต้นฉบับเลยสักนิด แค่ชื่อตัวละครเหมือนแต่การดำเนินเรื่องไม่เหมือนเลยสักนิด (แถมดำเนินเรื่องไม่สนุกด้วย) ไม่รู้ผู้กำกับมันเมายาบ้าหรือมีอาการทางจิตอะไรหรือเปล่า เสียดายมีวัตถุดิบดีๆ ในมือแต่ไม่รู้จักวิธีปรุง นอกจากนี้ฉากเซอร์วิสก็เรต เห็นจุกนมเต็มๆ ตา มุกตลกก็เรต ที่สำคัญอยากกระทืบพระเอก ที่พระเอกบอกว่าไม่อยากทำให้ผู้หญิงร้องไห้ แต่กลายเป็นว่าเจ้าตัวทำผู้หญิงหลายคนร้องไห้ซะงั้น!!(เสียดายเอ็งเป็นเจ้าเจ้าแห่งความหื่นแท้ๆ แต่ทำรูทฮาเร็มไม่เป็น ห่วยแตกมาก)
จบแย่แห่งปี Zero no Tsukaima F อสูรรับใช้กับยัย 0 สนิท เนื้อหาของไซโตะที่หลงเข้ามาโลกแฟนตาซีที่ได้กลายเป็นอสูรรับใช้ของจอมเวทย์หลุยส์ผู้สูงศักดิ์ ซึ่งเป็นภาคที่ 4 ผมก็อวยทุกภาค ไม่ว่าแต่ละภาคจะทำได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ในสายตาของผม แต่ก็ติดตามมาโดยตลอด แต่ดันมาจอดภาคนี้
ซึ่งตอนที่ดูภาคนี้ ผมก็มีการ์ตูนฮาเร็มหลายเรื่องเข้ามาดวงใจแล้ว ทำให้การดูการ์ตูนเรื่องนี้มีอะไรติดขัดไปหมด พูดเต็มปากคือภาคนี้ไม่สมกับการรอคอยแม้แต่น้อย ภาพไม่มีการพัฒนาเลย ตัวละครก็ทำบทไม่คุ้มค่าตัว ความสมเหตุสมผลก็ไม่มี โดยเฉพาะไซโตะทุเรศมากๆ จูบผู้หญิงไปทั่ว แต่สุดท้ายจบกับหลุยล์คนเดียว (แถมแต่งงานกับยหลุยสด้วย ที่ตลกคือเจ้าไซโตะอายุเท่าไหร่ และไม่เห็นมีมีญาติไซโตะเลย ไซโตะไม่มีพ่อแม่เหรอถึงไม่เอามาในงานแต่งงานด้วย งานแต่งงานนี้โมฆะชัดๆ)
แปลกดีในเมื่อที่แล้วมาเอ็งทำอนิเมะไม่ตรงกับไลท์โนเวลอยู่แล้ว ก็ปรับเปลี่ยนหน่อยก็ได้ ผมพูดเต็มปากโดยไม่สนขี้ปากหรือใครหน้าไหนทั้งสิ้น ว่าเป็นอนิเมะจบห่วยแตกแห่งปี ผมอยากรู้มากว่าคนทำอนิเมะไปถามคนเขียนนิยายหรือเปล่าว่าจะจบยังไง หากคนเขียนนิยายบอกว่าจบแบบฮาเร็ม พวกเอ็งไปเปลี่ยนตอนจบเดี๋ยวนี้ (ไม่รู้ว่าคนแต่งนิยายไปดูอนิเมะหรือเปล่าอาการถึงทรุดหนักกว่าเก่า) และผมขอบอกว่าอนิเมะเรื่องนี้ควรจบแบบ "ฮาเร็ม” เท่านั้น ถามที่เถอะหากไม่จบฮาเร็มนี้มันจะตายหรือไง?
สอบตกแห่งปีอนิเมะที่สร้างจากเกมจีบสาวเกือบทั้งหมด แต่ปีนี้ผมให้อนิเมะที่สร้างจากเกมจีบสาวสอบตกหมดทุกเรื่อง (ยกเว้น Little Busters! ที่ตอนนี้ผมให้ผ่านอยู่) ไล่ตั้งแต่ต้นปีอย่าง Amagami ที่ทำบทของแต่ละตัวละครไม่เป็นสับประรด (โดยเฉพาะบทไอจัง) ยิ่งทำให้เกลียดพระเอก จุนอิจิเข้าไปใหญ่
นอกจากนั้นก็มี Koi to Senkyo to Chocolate (อีกเรื่องสร้างจากเกมแฟตาซีแต่ขอใส่เข้าไปด้วยอย่าง Shining Hearts) ผมให้สอบตกหมด เข้าใจว่าการเอาเกมมาทำเป็นการ์ตูนมันยาก แต่ในเมื่อทำแล้วก็น่าจะเข้าใจว่าสิ่งไหนควรตัด ไม่ควรตัด ตัดแล้วก็คงอารมณ์สิ่งที่เกมต้องการนำเสนอเอาไว้ด้วย แต่จนบัดนี้ผมไม่เห็นเรื่องไหนไม่สามารถตอบโจทย์ของคนดูสักเรื่อง บทตัวละครอวยไม่เต็มร้อยไม่สามารถเรียงร้อยให้ผู้ดูรู้สึกกินใจกับเนื้อเรื่อง เอาความเป็นเกมมาบ่นกับอนิเมะมั่วไปหมด อีกทั้งฉากจบเข้าวิน กองอวยตัวละครที่ไม่เข้าวินตายเป็นแถบๆ ผลคือล้มเหลวไม่เป็นท่า หากซีซั่นหน้าทำแบบเดิมอีกก็ก้มคำด่าของเหล่าแฟนผลงานต้นฉบับ (และไม่ต้นฉบับ) เรื่อยไป
แต่โชคยังดี Little Busters! กำลังเป็นอนิเมะที่ผมรู้สึกชอบสามารถตีโจทย์ในสิ่งที่ผมคิดไว้หมด หลายๆ คนอาจไม่ชอบ แต่ผมชอบครับ มันอวยผู้หญิงแบบนี้เลย ตอนไหนจะจัดอะไรก็จัดมา สิ่งสำคัญในแต่ละบทต้องการสื่ออะไรอนิเมะก็ทำได้ตรงประเด็น ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่ามันจะดีตลอดรอดฝั่งหรือไม่
คราวนี้มาพูดถึงตัวละครชายและหญิงแห่งปีกันบ้าง ปีนี้เป็นเป็นแห่งการขายคาเร็คเตอร์ตัวละครมากๆ ครับ ตัวละครชายอาจไม่เท่าไหร่ แต่ตัวละครหญิงที่ชอบนี้เพียบ (ที่จริงผมชอบตัวละครจาก To Love Ru น่ะครับ แต่เดี๋ยวหาว่าลำเอียง ผมเลยเลือกแค่คนเดียวล่ะกัน) ผมเคยบอกแล้วใช่เปล่าครับว่าสมัยนี้เป็นยุคขายคาเร็คเตอร์ หากคาเร็คเตอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง และนี่คือตัวละครชาย-หญิงที่ชอบแห่งปีของผมครับ (หลายคนคงสงสัยว่าทำไมไม่มีตัวละครจาก Chuunibyou demo koi ga shitai ติด เนื่องจากผมเลิกดูกลางคันด้วยสาเหตุโง่ๆ เลยไม่อยากจะพูดถึงสักเท่าไหร่ ขออภัยคนที่ชอบการ์ตูนเรื่องนี้ครับ)
พระเอกยอดเยี่ยมแห่งปี ซากากิบาระ โคอิจิ พระเอกผู้แสนอ่อนแอจากเรื่อง Another ที่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าเขาอยู่สถานการณ์ฮาเร็ม (เด่นๆ เมย์, คุณน้า และทวินเทล ความจริงหากแฝดเมย์ไม่ตายเสียก่อนเธอคงเป็นหนึ่งในฮาเร็มพระเอกแน่นอน เพราะว่าเขาตรงสเป็กแฝดเมย์ว่าไว้ทุกประการ) แม้เป็นคนอ่อนแอ แต่ก็มีความเข้มแข็ง นิสัยก็ดี ผมได้เห็นการกระทำที่สมกับเป็นพระเอกของเขาตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การยอมเสียสละตนเป็นคนไม่มีตัวตนเพื่อรักษากฎบ้าๆ ของห้อง 3/3 การช่วยเหลือคนอ่อนแอ การปกป้องเมย์โดยไม่สนคนรอบข้างที่กำลังบ้าคลั่ง ยึดมั่นความเชื่อของตนจนถึงที่สุด หรือแม้แต่ฉากบีบหัวใจอย่างการฆ่าคูณน้า แม้ว่าชีวิตของเขาจะมีแต่เรื่องเครียดๆ แต่กระนั้นเขาก็ยังมีความคิดที่อยากเป็นวัยรุ่นที่สดใสเหมือนกันอย่างเช่นฉากจิ้นตนเองเต้นกับเมย์กลางห้อง ทำได้น่ารักและอมยิ้มจริงๆ จึงไม่แปลกใจแต่อย่างใดที่ผมให้พระเอกจาก Another เป็นพระเอกยอดเยี่ยมแห่งปีพอๆ กับริโตะจาก To Love Ru เลยทีเดียว
พระรองยอดเยี่ยมแห่งปี ฮัสเทอร์ หรือฮัสต้า หนุ่มน้อยมนุษย์ต่างดาวจาก Haiyore! Nyaruko-san ผมยาวสีเหลืองหน้าตาน่ารักทั้งเสียงและหน้าตาราวกับเป็นผู้หญิง (สาวดุ้น)ที่โครตน่ารัก ยังจำไดดีฉากปรากฏตัวครั้งแรกฮัสต้าน่ารักมากๆ ไม่แปลกแต่อย่างใดที่ฮัสต้าทำให้พระเอกมาฮิโระใจอ่อนทุกที และสองมาตรฐานทุกที (ทีเนียวรูโกะเอาจิ้มสิ้น ทีฮัสต้าเอามือลูกหัว) แถมทำให้พระเอกรับรักอีกต่างหาก (พลังสาวดุ้นสยบหนุ่มซึน) ผมชอบมากฉากฮัสต้ากอดมาฮิโระแล้วยิ้มอย่างมีความสุข โอ้พระเจ้าสาวดุ้นสุดยอด!!! น่ารักแบบนี้ไม่อวยให้มันรู้ไป
นางเอกยอดเยี่ยมแห่งปี มาซากิ เมย์ จากเรื่อง Another หรือ “เมย์นิ่งทุกงาน” ก็เนื่องมาจากไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ เมย์จะทำตัวนิ่ง สงบเยือกเย็นทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฉากเลือดสาดครูประจำชั้นฆ่าตัวตาย เห็นเพื่อนตายตาหน้าตาต่อ หรือฉากนักเรียนในค่ายไล่ฆ่าเมย์ยังใจเย็นเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา เธอนั้นเกิดมาเพื่อเป็นนางเอก และเป็นนางเอกสมบูรณ์แบบมาก ผมยังจำได้ดีกับการปรากฏตัวครั้งแรกที่พระเอกมองเธอราวกับวิญญาณที่น่าขนหัวลุก บุคลิกเงียบเยือกเย็นและโดดเดี่ยว จุดเด่นคือผ้าปิดตาซ้ายที่ดูลึกลับ น่าขนหา ไม่แปลกใจแต่อย่างใดที่ทำให้พระเอกสนใจในตัวเธอ แต่ลึกๆ แล้วเมย์ก็แค่ผู้หญิงธรรมดา ที่แอบน่ารัก อ่อนต่อโลก ยิ่งคบกับเธอยิ่งน่าเอ็นดู น่าปกป้อง เพียงแค่เมย์ยิ้มโลกก็สดใสแล้ว ไม่แปลกแต่อย่างใดที่หลายคนเอาใจช่วยเธอให้รอดพ้นจากความตาย หรือทำไมพระเอกถึงอยากปกป้องเมย์นัก
นางรองยอดเยี่ยมแห่งปี อาคาซาวะ อิซูมิ สาวทวินเทลผมแดงจาก Another เธอคือทวินเทลสมบูรณ์แบบในใจผมเลย สุดยอดนางรองที่ผมชอบ แม้นิสัยภายนอกเหมือนเป็นเยือกเย็นและออกนางมารร้าย (ชอบว่าเมย์) นิดๆ แต่ความจริงแล้วเธอทำเพื่อปกป้องคนห้อง 3/3 อีกทั้งเธอก็อยากเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่อยากบอกรักพระเอกเหมือนกัน แต่อนิจจาโชคชะตาเล่นตลก เพราะสถานการณ์ห้อง 3/3 ทำให้เธอไม่ได้สนิทสนมกับพระเอกมากนัก จนกระทั่งถึงฉากที่เธอตายที่น่าจดจำ เธอเป็นเจ้าของประโยคที่กินใจของใครหลายคนอย่าง “ใจร้ายจัง นายควรโกหกว่าจำได้สิ” ก่อนที่จะสิ้นลม แน่นอนผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้สึกเสียใจการตายทวินเทลไม่แพ้คนอื่นๆ อย่างไรก็ตามการตายของทวินเทลนั้นสวยงาม ไม่โหดร้าย ฉากที่ทวินเทลมองพระเอกและนางเอกดุจนางพญานั้นยังคงติดตามติดใจผมไม่รู้ลืม บทบาทของทวินเทลทำออกมาดีและคุ้มค่าตัวแล้วครับ (ในนิยายและมังงะบทยังน้อยเลย)
เหล่าตัวประกอบยอดเยี่ยมแห่งปี ยังมีตัวละครรองอีกมากมายที่โดดเด่นแห่งปี ซึ่งบางตัวละครก็โดดเด่นจนเป็นที่จดจำต่อใครหลายคนยิ่งกว่าพระเอกและนางเอกเสียอีก บางทีเพราะตัวละครประกอบเหล่านี้แหละที่ผมติดตามดูอนิเมะเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ตัวประกอบตายอนาถแห่งปี แน่นอนว่าการ์ตูนหลายๆ แนวมักมีฉากการตายของตัวละครเป็นเรื่องปกติธรรมดา การตายตัวละครบางตัวหลายคนกินใจและจดจำโสดสมองแบบไม่รู้ลืม อย่างไรก็ตามตัวประกอบส่วนใหญ่มักตายไม่ค่อยจดจำนัก แต่ไม่ใช่เธอโอกูระ ยูมิ ตัวประกอบโครตโดดเด่นจาก Another หลายคนเรียกเธอว่า “ยัยสะพานโค้ง” หรือ “บิริบิริดุ้น” ความจริงแล้วเธอเป็นแค่เด็กสาวธรรมดาไร้จุดเด่น ออกมาไม่กี่ฉาก แต่ละฉากก็น่าสงสารจับใจ ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายตาย เพื่อนสนิทตาย จนกลายเป็นยัยโรคจิตฆ่าเมย์แหลก หากแต่ในระหว่างที่เธอยืดตัวออกหน้าต่างพยายามใช้มีดทำร้ายเมย์นั้น เธอเกิดลื่นน้ำฝน จนตกลงไปเบื้องล่าง คอกระแทกกับซีเมนต์ตาย แต่ที่ตลกที่สุดคือลักษณะศพของเธอตอนตายนั้นดันอยู่ในท่าสะพานโค้ง จนอดไม่ได้ว่ามันน่าจะหัวเราะหรือน่าสงสารดี จนมีคนเอาสภาพศพของเธอมาล้อเลียนเสียยกใหญ่ สรุปคือเป็นการตายที่แสนอนาถเลยก็ว่าได้
กลุ่มตัวประกอบแห่งปี ผมยกให้สาวๆ จากทีมตูดฮิปโป จาก Girl und Panzer ซึ่งเป็นเรื่องของมิโฮะกับพรรคพวกที่นำทีมรถถังเพื่อเป็นแชมป์ แม้ทีมตูดฮิปโปในเรื่องแม้เป็นตัวประกอบ แต่ก็สำคัญไม่แพ้กลุ่มนางเอกเหมือนกัน ดีไม่ดีคาเร็คเตอร์ของพวกเธอโดดเด่นกว่าตัวเอกด้วยซ้ำ โดยกลุ่มที่ว่ามี 4 คน ประกอบด้วยซีซาร์ (บ้าประวัติศาสตร์โรมัน เลยแต่งกลายเป็นซีซาร์??), เออร์วิน (บ้าประวัติศาสตร์เยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยแต่งกลายเป็นจอมพลเออร์วิน รอมเมล), ซาเอมอนซ่า (บ้าเซนโกกุของญี่ปุ่น) และโอเรียว (บ้าช่วงโอโดะตอนปลาย) ซึ่งทั้ง 4 คนเรียกรวมๆ ว่าชมรมประวัติศาสตร์ ชอบจับกุมพูดคุยเรื่องของตนเองชนิดชอบจนคนธรรมดามาฟังไม่รู้เรื่อง แม้จะบ้าบอและมือใหม่หัดขับรถถัง แต่ด้วยความสามารถพิเศษ ที่มีความเยือกเย็นไม่ว่าจะอยู่สถานการณ์ล่อแหลมหรือเสียเปรียบเทียบยังไงก็ตาม ก็ไม่แสดงอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ทำให้เป็นทีมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับทีมตัวเอก
ขโมยซีนแห่งปี ยกให้กินเบจากค้ำคอร์ Onii-chan Dakedo Ai Sae Areba Kankeinai yo ne! เป็นเรื่องราวของสองพี่น้องอากิโตะและอากิโตะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แม้ว่าเรื่องนี้จะนางเอกคืออากิโกะผู้เป็นน้องสาวที่รักพี่ชายมากๆ จนอยากจะค้ำคอร์ แต่อนิจารอบตัวพระเอกมีสาวที่แอบชอบพระเอกถึง 4 คน และที่โดดเด่นคือทวินเทลเสื่อม และเพื่อนสมัยเด็กสุดแรง “กินเบ” แม้ว่าเนื้อหาอนิเมะจะไม่มีอะไรเลย เน้นเซอร์วิสอย่างเดียว ซึ่งดูไว้เพื่อศึกษาการอวยตัวละครก็ได้ เพราะส่วนใหญ่นักแต่งนิยายออนไลน์ มักมีจุดอ่อนตรงบทอวยตัวละครหญิงที่ทำไม่ซาบซ่าสักเท่าไหร่
กินเบนั้นเป็นดีกรีเป็นเพื่อนสมัยเด็กของพระเอกตั้งแต่สมัยประถม ขโมยซีนตัวละครสายน้องสาวเรียบวุธแบบน้องสาวสู้ไม่ได้เลย ด้วยลักษณะเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆ พูดจาเหมือนผู้ชาย และมักชอบพูดจาด่าว่าพระเอก แต่ความจริงแล้วกินเบรักพระเอกมากๆ รักขนาดย้ายบ้านมาเรียนและมาอาศัยที่เดียวกับพระเอกเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีสกิลเพื่อนสมัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นรู้ใจพระเอก ตัวเล็กๆ แต่เก่ง ไม่ว่าจะเป็นการงานบ้าน งานเรือน การเรียน ความน่ารัก ความซึน กินเบชนะขาดหมด (ชกต่อยพระเอกคว่ำก็เคยทำมาแล้ว) แถมฉากอวย ฉากเซอร์วิสกินขาด น่าจดจำกว่าน้องสาวนางเอกของเรื่องเสียอีก
เสื่อมที่สุด พวกผู้ชายเสื่อมถือว่าน่าเกลียด แต่ตัวละครหญิงเสื่อมกลับน่ารักซะงั้น ปีนี้ผมยกให้ สุดยอดตัวละครที่มาที่หลังแต่ดังกว่า นาม โมเมะ เบเรีย เดวิลูค จาก To Love-Ru (การ์ตูนฮาเร็มเรื่องเดียวในขณะนี้ที่ไม่มีใครเม้นเลยว่าใครเข้าวิน!!) น้องสาวฝาแฝดของลาล่าซึ่งเป็นนางเอกภาคแรก แม้ปรากฏตัวที่หลัง แต่เธอกลับโดดเด่นจนกลายเป็นนางเอก (??) ภาค To Love-Ru Darkness ที่หวังให้พระเอกมหาเทพริโตะมีฮาเร็ม
โมโมะโดดเด่นไม่ว่าจะเป้นด้านบุ๋นและบู๊ ผมยังชอบดวงตาโหดๆ เฉือนคู่ต่อสู้ (ขนาดยามิที่ว่าเก่งยอมสยบแก่เธอ) แต่อนิจจาหลายคนจดจำว่าเธอเป็นยัยหื่น ชอบจิ้นหื่นโหดมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเธอชอบแอบนอนบนเตียงริโตะตอนกลางคืน รวมไปถึงชอบจับกดริโตะ และขยันหาฮาเร็มมาให้ริโตะ แต่ความจริงแล้วในจิตใจลึกๆ ของโมโมะยังไม่ประสีประสาในเรื่องความรักเลยแม้แต่น้อย และนี่คือหนึ่งในตัวละครไม่กี่ตัวที่สนับสนุนให้พระเอกมีฮาเร็ม จงบูชาซะ
ชอบเป็นการส่วนตัว (1) โคจิโร่ ฟราว จาก Robotics;Notes เรื่องราวของชมรมโรบอตที่ต้องกอบกู้โลก ซึ่งก็แปลกดีปกติผมชอบอวยเพื่อนสมัยเด็ก แต่สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ผมดันอวยทวินเทลซะงั้น กับฟราวทวินเทลผมเหลือง เสียงแหบ เก็บตัว พูดจาไม่รู้เรื่อง ชวนปวดหัว จนบางคนไม่ชอบเธอสักเท่าไหร่ แต่สำหรับผมแล้วผมอวยเป็นบ้า (ที่ติดตามการ์ตูนเรื่องนี้อยู่ก็เพราะเธอนี้แหละ) และผมอยากให้เธอสมหวังกับพระเอกเป็นบ้า เพราะเท่าที่ดูๆ แล้วเธอเหมือนกับนางเอกผมแดงจากสตาร์เกตหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ย้ายบ้านเพราะปัญหาครอบครัว, เป็นอัจฉริยะเหมือนกัน, ช่วยเหลือพระเอกไขความลับและเป็นคนที่พระเอกไว้ใจเหมือนกัน, มีช่วงเวลาอยู่กับพระเอกสองต่อสองเหมือนกัน, บทของเธอเยอะกว่าเพื่อนสมัยเด็กอีกเหมือนกัน ผมว่าฟราวดูเหมือนสมกับพระเอกมากกว่าน่ะ ตอนฟราวปล่อยผมนี้น่ารักมากๆ และยังตอนแสยะยิ้มอีก ขอร้องเถอะขอเธอเป็นนางเอกเถอะน่ะๆๆ
ชอบเป็นการส่วนตัว (2) คูโกะหรือคธุกกา จาก Haiyore! Nyaruko-san มนุษย์ต่างดาวที่อยู่ในร่างของสาวทวินเทลผมสีแดง ท่าทางนิ่งเฉย หน้าตาย แต่รั่ว ประกาศว่าเป็นคนรักของเนียวรุโกะ ทั้งๆ ที่เป็นหญิงทั้งคู่ จนกลายเป็นวายเสื่อม ผมยังชอบฉากคูโกะเอาหมอนของเนียวรูโกะมากอดแล้วส่งเสียงอย่างเสื่อมๆ ไม่หาย อีกทั้งยันเดเระเลือดสาดอีกต่างหาก แถมดูเหมือนความหื่นของคูโกะจะลุกลามมายังโดจินมืดด้วยซ้ำ
แต่งกายยอดเยี่ยม รัน (ชื่อจริง fin e ld si laffinty จาก rinne no lagrange ซึ่งเรื่องราวของมาโดกะที่ถูกรับเลือกให้ขับหุ่นยนต์ปกป้องจากมนุษย์ต่างดาวที่มาบุกโลก แม้การ์ตูนเรื่องนี้ผมจะไม่ค่อยได้ดูสักเท่าไหร่ (แต่หากว่างผมดูแน่) แต่แค่ตอนแรกผมก็ถูกรันสะกดหัวใจแล้ว โดยรันจะว่าไปก็เป็นนางรอง ซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ส่งมาเพื่อปกป้องมาโดกะ ตอนแรกเธอก็ดูเยือกเย็นและแอบอิจฉามาโดกะที่ได้รับเลือกขับหุ่นยนต์อยู่หรอก แต่หลังๆ เธอก็เริ่มมีใจกับมาโดกะจนกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
แม้การ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นแนวหุ่นยนต์กับชีวิตประจำวันของผู้หญิง แต่ผมว่ารันนี้โดดเด่นสุดๆ ด้วยคาแร็คเตอร์นิ่งๆ แอบน่ารัก ที่สำคัญการแต่งตัวของเธอสุดโมเอะมากๆ ด้วยชุดลีโอ (ชุดรัดรูปที่เป็นชิ้นเดียวยาวตั้งแต่คอ คลุมลำตัว แต่ไม่มีส่วนปกคลุมขา) สีขาว น้ำเงิน ซึ่งเข้ากันอย่างน่าประหลาด และโมเอะมากๆ และผมก็เก็บภาพของรันในชุดนี้ไว้ในคอมเลยทีเดียว (แต่ชุดขับหุ่นยนต์ ชุดที่สองของรันไม่ค่อยโมเอะเท่าไหร่น่ะตามความคิดผม)
ตัวละครยอดแย่แห่งปี ผมไม่รู้ว่ามีหลายคนคิดเหมือนผมเปล่า แต่ผมให้ตัวละครหลายตัวอนิเมะ Guilty Crown สอบตกเกือบยกชุด เพราะดำเนินเรื่องที่แสนมีจุดโหว่และตอนจบสุดเฟล (ผิดหวัง) จนแถบจะเป็นการ์ตูนที่ผิดหวังแห่งปีจริงๆ ผมเคยเขียนสาเหตุที่การ์ตูนเรื่องนี้ผิดหวังเป็นฉากๆ แต่สิ่งที่ได้ส่วนใหญ่เจอเกรียนมาต่อว่าซะงี้น (และพวกเขาก็ไม่ได้อ่านบทความผมด้วย) เอาเถอะแม้ว่าจะมีการถกเถียงว่าการ์ตูนเรื่องดีหรือไม่ดี แต่ถ้าดูยอดขายของดีวีดีก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้สอบผ่านหรือไม่สอบถาม
พระเอกชีวิตรันทดแห่งปี โอวมะ ซู จาก Guilty Crown ผู้ที่ได้รับพลังราชาเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้าย แต่เนื้อหาของอนิเมะพลิกไปพลิกมา ก่อนที่จะจบแบบน่าผิดหวัง จะว่าไปหากเขียนกราฟการพัฒนาจิตใจของซูนั้นมีขึ้นมีลงตามประสาของมนุษย์ แต่สิ่งที่ผมให้ยอดแย่ก็เนื่องจากบทบาทของซูนั้นถ้าจะลึกรายละเอียดตั้งแต่แรกจนจบเลย ผมก็พบว่าซูเป็นตัวละครที่อนาถมาก (พร้อมกับเดี๋ยวความนิยมเพิ่ม เดี๋ยวความนิยมลบของคนดูไปด้วย) กล่าวคือเป็นคนธรรมดาซึ่งผมพูดเต็มปากหากซูไม่เจอฮิโนริหรือไก เรื่องมันก็คงไม่เกิด ตนเองคงสุขสบายอยู่กับแม่เลี้ยงกับฮาเระไปแล้ว แต่อนิจจาเมื่อเจอฮิโนริกับไก ชีวิตของซูก็ตกต่ำ เพราะถูกบงการทุกเรื่อง ซึ่งหากผมเป็นพระเอกผมก็จะหนีให้มันพ้นๆ แหละ มีกี่ชีวิตก็ไม่พอ แต่อนิจาซูกัดฟันสู้เพื่อผู้หญิงที่ตนแอบชอบ เมื่อถึงกลางเรื่องก็ถูกเลือกเป็นผู้นำทั้งๆ ที่ไม่อยากเป็น พอโดนปลดคนอื่นก็ทิ้ง และพอกลับตัวเป็นคนใหม่ เหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายตนก็ไม่ได้อะไร ได้ตาบอด แขนเทียม แฟนก็ไม่มี สรุปคือชีวิตอนาถจริงๆ พับผ่า
สาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้ซูกลายเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งเพราะซูเป็นคนพูดอะไรไม่ค่อยเก่ง หากซูมีเพื่อนเก่งและรักซูแบบบริสุทธิ์ใจคอยช่วยเหลือให้ บางทีซูอาจเป็นพระเอกที่ยอดเยี่ยมแห่งปีก็ได้
เหม็นขี้หน้าแห่งปี ยกให้ไกจาก จาก Guilty Crown ที่บทออกมาทำให้ผมเกลียดตัวละครตัวนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ไกเป็นหัวหน้าของกลุ่มต่อต้านผู้จัดการศพ อายุ 17 ปี เป็นคนหล่อ กล้าหาญและมีเสน่ห์ แต่พฤติกรรมนั้นเลวร้ายมาก นั้นคือการยุ่งชีวิตของซู แม้ไกอ้างว่านับถือซู แต่การกระทำมันตรงข้าม เช่น ใช้ซูไปเสี่ยงอันตราย, แย่งฮิโนริ, ตอนแรกๆ ไม่เท่าไหร่ยังพอรับได้บ้าง แต่ช่วงหลังคืนชีพมา กลายเป็นตัวผู้ร้ายสมบูรณ์แบบ เหมือนจะเท่ แต่ผมว่าแย่มาด ไม่ว่าจะเป็นโชว์เทพตัดแขนซู, ตอนจบก็ตายสบาย (หากผมเป็นซูผมจะทำให้มีนทรมานให้มันเกิดความคิดเลยว่าไม่น่าเกิดมาเลย) แถมก่อนตายยังมีหน้าบอกว่าที่แล้วมาแกล้งทำต่างหาก (เชื่อตายล่ะ)
สรุปคือนิสัยไกคือพูดเพื่อให้ตนเองดูดี แม้การกระทำจะตรงกันข้ามก็ตาม (ซึ่งผมแนะนำว่าเอ็งเป็น ส.ส. จะดีกว่า)
ตายแย่แห่งปี ผมยกให้เมนโจว ฮาเระหนึ่งความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของ Guilty Crown ซึ่งผมเคยบอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้ครึ่งแรก ปี 2011 ถือว่าสอบผ่านพอใช้ แต่พอมาถึงปี 2012 เนื้อหาการ์ตูนกับดิ่งลงอย่างไม่น่าอภัย โดยจุดเริ่มต้นความดิ่งก็คือการทำให้เพื่อนสมัยเด็กที่เป็นตัวละครสำคัญพระเอกตาย โดยผู้กำกับคงเห็นว่าการทำให้ตัวละครสำคัญอันเป็นที่รักของพระเอกชูตายจะช่วยดึงเรื่องให้น่าติดตามขึ้น ทำให้ใจจิตของชูตกอยู่ด้านมืดอีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าการตายของเธอกลับสร้างหายนะกับความนิยมการ์ตูนเรื่องนี้อย่างใหญ่หลวง ไม่มีทางแก้ไขได้ในที่สุด
การตายของฮาเระนั้นถือว่าเป็นความหลอนผมมาก สาเหตุคือผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวละครเรื่องนี้ตาย เพราะหากฮาเระตายก็เท่ากับย้อนรอยกับการ์ตูนหลายเรื่อง อีกทั้งบทฮาเระยังไม่มีมากมาย หากตายก็จะไม่กินใจเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้กำกับไม่น่าจะทำ หากทำการ์ตูนเรื่องนี้ดิ่งเหวแน่นอน ซึ่งปรากฏว่าผู้กำกับดันทำซะงั้น เล่นเอาผมเซ็งไปพักใหญ่เลยทีเดียว
แช่งให้ตายแต่ไม่ตาย การตายของฮาเระถือว่าแย่แล้ว แต่นี้แย่กว่าเมื่อตัวละครที่ผมเหม็นขี้หน้า ถึงขั้นแช่งให้ตาย แต่ไม่ตายซะงั้น!! ผมยกให้ อดีตประธานอาริสะ หนึ่งความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของ Guilty Crown พูดตามตรง ผมค่อนข้างรู้สึกขยะแขยงตัวละครนี้มาก เนื่องจากบทบาทของเธอสร้างความเกลียดชังแก่คนดู และเป็นอีกตัวละครที่ผู้กำกับทำบทให้เสียของ ทำลายตัวละครประเภทประธานนักเรียน (จนโอตากุเกลียดขี้หน้า) ตายทั้งเป็น และ งง สุดขีดคือสุดท้ายเธอรอดได้ไง เมื่อความผิดของเธอสมควรที่ถูกพิพากษาให้ตาย ผมยังงงไม่หายในฉากที่เธอถูกทหารยิงจนพรุน แทนที่จะตายไปซะให้พ้นๆ ตอนสุดท้ายรอดซะงั้น เล่นเอาคนดูเซ็งเป็นแถบๆ
แต่งกายยอดแย่ Senki Zesshou Symphogear เป็นอนิเมะที่ผม งง แห่งปีนี้ก็ว่าได้ครับเพราะไม่ว่าจะไปอ่านรีวิวที่ไหน ก็มีแต่เสียงติด้านลบพร้อมเพียง โดยเนื้อหาเป็นเรื่องของโลกอนาคตที่มีมนุษย์ต่างดาวรูปร่างปัญญาอ่อนรุกรานฆ่าคนและมีฮีโร่ที่เป็นผู้หญิงที่ใช้เสียงเพลงเป็นพลังงานในการต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว พูดง่ายๆ พล็อตนั้นตลาดมาก จุดเด่นที่คาดเป็นเพลงก็ใช่ว่าจะเพราะมากมาย แต่ที่เลวร้ายก็คือชุดเกราะ (หรือซิมโฟเกียร์) ของสาวๆ ในเรื่องไม่มีความโมเอะแม้แต่น้อย โดยเฉพาะของฮิบิกิ ออกแนวสาวนักกังฟู แต่ชุดไม่มีความโมโอะเลย น่าเสียดาย อีกทั้งเนื้อหายูริอีกต่างหาก (ผมคิดว่าหากเป็นพระเอกคนธรรมดาและเป็นผู้ชาย กับสาวฮีโร่จะเรียกคนดูได้มากกว่า) ทำให้การ์ตูนโดนติทั่วบ้านทั่วเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าที่ญี่ปุ่นจะมีหลายคนดูการ์ตูนเรื่องนี้จบด้วย ยอดขายก็ดี จนมีการทำภาค 2 อย่างหักปากแป้นคอม (ปากกา) ผมเลยทีเดียวสาเหตุที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ดัง เพราะการ์ตูนหลอกล่อด้วยความความตาย ตั้งแต่ต้นเรื่อง และตลอดทั้งเรื่องก็มีฉากสถานการณ์บีบให้ตายของตัวละครอีกมากมายหลายฉาก สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นการลุ้นคนดูว่าต่อไปนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น พวกเธอจะตายจริงหรือไม่ (แต่กลายเป็นว่าสุดท้ายตัวละครหลักไม่ตายสักคนซะงั้น) เรียกว่าหลอกล่อคนดูให้ติดตามการ์ตูนเรื่องนี้อย่างสนิทเลยทีเดียว
ส่วนเพลงที่ชอบในอนิเมะปีนี้ก็มีหลายเพลงเหมือนกันถึงขั้นโหลดมาฟังเวลาเขียนบทความ (ในขณะที่เขียนบทความนี้ผมก็ยังฟังเพลงอยู่เลย) ผมชอบฟังเพลงซ้ำไปซ้ำมาครับ ยิ่งเป็นเพลงที่ชอบนี้ยิ่งฟังซ้ำ
เพลงเปิดที่ชอบ Rakuen PROJECT เป็นเพลงเปิด To Love-Ru Trouble Darkness (อีกแล้ว) เนื้อเพลงเป็นการอธิบายถึงเนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ว่าได้คือ “คุณมีปัญหาความรักเหรอ เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง!! มาสร้างสวรรค์ (ฮาเร็มกันเถอะ) ” ชอบจังหวะของเพลงดีฟังดูก็รู้เลยว่าภาคนี้ต้องการเน้นเรื่องอะไร จังหวะของเรื่องต้องการแบบไหน ฟังทุกครั้งในขณะเปิดคอมเลยในตอนนี้
เพลงเปิดที่ชอบ Taiyou Iwaku Moeyo Chaos เป็นเพลงเปิดจาก Haiyore! Nyaruko-san ที่หลายคนบอกว่าเป็นเพลงทำลายโสตประสาท ล้างสมอง อู๊ย่าห์ – อู๊ย่าห์ (ผมฟังเป็นแบบนี้) เนื้อหาก็บอกแล้วว่าเกี่ยวกับความบ้าและความวุ่นวาย ผมชอบน่ะ เพลงฟังแล้วจิตใจแจ่มใส กระซุ่มกระซวย ฟังแล้วมีกระจิกกระใจเขียนบทความ การ์ตูนฉากหลังก็ทำได้เข้ากับเพลง ยังชอบฉากมุมมองของคูโกะทีมองเนียวรูโกะอยู่เลย
เพลงเปิดที่ชอบ Kyoumu Densen เพลงเปิดจาก Another เพลงเข้ากับเนื้อหาการ์ตูนมาก เนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับความมืด ความหวาดกลัว คนตายลุกขึ้นจากโรงศพ ที่ทำได้อารมณ์มากไม่ว่าจะเป็นจังหวะเร่ง น้ำเสียงท้อถึงความหลอน ลึกลับ น่ากลัวของบ้านนอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งฉากหลังของเพลงก็ทำได้เข้ากันมาก มืดๆ ทึมๆ โดยเฉพาะฉากเมย์เดินสวนกับพระเอกที่ระเบียบเป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก
เพลงปิดที่ชอบ Life ru is LOVE ru!! เพลงปิดของน้องสาวค้ำคอร์ ทำได้ถูกใจผมสิ้นดี เห็นภาพสาวๆ ในเรื่อง (ส่วน SD) มาเต้นน่ารักก็ชอบแล้ว
เพลงปิดที่ชอบ Kill Me Baby หลายคนอาจไม่ชอบการ์ตูนโมเอะเรื่องนี้ แต่ผมชอบน่ะ เพราะสื่อถึงความเป็นเพื่อนของสองสาวที่ถูกเลี้ยงดูแตกต่างกัน คนหนึ่งเป็นคนธรรมดา อีกคนเป็นนักฆ่า เพลงปิดนั้นออกแนวทำลายโสตประสาท และมีฉากตัวละครหลักทั้งสองมาเต้นแปลกๆ เหนือมนุษย์ ผมชอบตรงท่าเต้นน่ะ เต้นได้ไงเนี้ยเทพชะมัด
ก็จบลงเพียงแค่นี้ครับสำหรับที่สุดอนิเมะแห่งปี 2012 ซึ่งหลายคนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับผมหรือเปล่านั้นก็แล้วแต่ครับ
ถ้าถามว่าภาพรวมๆ ของอนิเมะปีนี้เป็นอย่างไร หากพูดในแง่ฮาเร็มนั้นถือไม่เป็นพอใจนัก เพราะมีหลายเรื่องที่ทำไม่ถูกใจ บางเรื่องก็เป็นฮาเร็มหลอกๆ (มีสาวเยอะ แต่ไม่ได้รักพระเอก) โชคดีที่ซีซั่นช่วงท้ายปียังมีอนิเมะฮาเร็มได้ซาบซ่าหลายเรื่อง ซึ่งต้องดูว่าปีหน้าจะมีอนิเมะฮาเร็มใหม่เรื่องไหนทำได้น่าสนใจอีก
ในขณะที่อุตส่าห์กรรมเกมคอลโซนมีการปรับเปลี่ยนให้เอาใจตลาดต่างประเทศจนขาดความเป็นเอเซียญี่ปุ่นลง หากแต่อุตส่าห์กรรมอนิเมะญั่ปุ่นนั้นหาได้มีการปรับเข้ากับตะวันตกไม่ พวกเขายังคงมีวัฒนธรรมเฉพาะ มีฐานแฟนผลงานที่เหนียวแน่น ได้กำไรชนิดไม่ต้องพึ่งสากลแต่อย่างใด กลับกันทั่วโลกนั้นแหละที่ต้องการเสพอนิเมะการ์ตูนญี่ปุ่น
วงการอนิเมะญี่ปุ่นก็ยังคงมีต่อไป มีการพัฒนาขึ้น ภาพสวยขึ้น เนื้อหาก็เริ่มมีหลากหลายมากขึ้น (ในขณะบางเรื่อง บางแนว บางค่าย ยังย้ำอยู่กับที่) และในปี 2013 ก็มีการ์ตูนอนิเมะมากมายหลายเรื่องที่มีการประกาศแล้วว่าจะฉายภายในปีดังกล่าว ซึ่งก็ติดตามต่อไปว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะมีอนิเมะเรื่องใดที่อยู่ในใจของเราอีกหรือเปล่า
พบกันใหม่กับอนิเมะซีซั่นหน้าครับ!!
ความคิดเห็น