ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #145 : Summer war สงครามของครอบครัว

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 54


     

    ความจริงแล้วเรื่องนี้ผมไม่คิดจะดูหรอกครับ เนื่องจากอะไรหลายๆ อย่าง(เพราะมีคนแนะนำด้วยถึงไม่ดู และมีหลายคนเขียนถึงไปแล้ว แล้วผมจะเขียนหาแมวอะไรอีกละครับ) ผมโหลดภาคหนังโรงมาแล้วแต่ดองถึง 2 ปีกว่าๆ จนกระทั้งหนึ่งผมได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้จากฉบับมังงะ ปรากฏว่า เออ สนุกนี้เนอะ(แต่เมาตัวละครเรื่องนี้ เพราะเยอะจัด ) บวกกับช่วงนี้เน็ตผมไม่ดีต้องมาเล่นที่ร้าน(ต้องเอาข้อมูลไปเขียนที่บ้านอีกเวรกรรมชัดๆ) ดังนั้นก็ขอเล่าเรื่องถึงการ์ตูนเรื่องนี้ดีกว่า ว่าเรื่องนี้ให้อะไรกับเรา

     
    Summer Wars

    โรแมนติก(??), วิทยาศาสตร์ไซไฟ

     

    Summer Wars เป็นการ์ตูนเมชั่นผลงานกับ Mamoru Hosoda โดยสตูดิโอโรงพยาบาลบ้า(Madhouse แปลว่าโรงพยาบาลบ้าครับ) จัดจำหน่ายโดยวอร์เนอร์ ช่างน่าเสียดายอนิเมชั่นนี้บ้านเรายังไม่ซื้อลิขสิทธิ์แต่อย่างใด (นารูโตะ พวกดังๆ ที่เป็นหนังโรงนี้ซื้อมาเหลือเกิน แต่น่าจะมีในอนาคตเพราะเป็นผลงานของทีมงานสร้างสาวน้อยข้ามกาลเวลาที่ทัลิขสิทธิในไทยมาแล้ว) ส่วนมังงะนั้นพึ่งมีลิขสิทธิ์ในไทย โดยสำนักพิมพ์สยาม วาดโดย Igura Sugimto

    Summer Wars เป็นเรื่องราวของเด็ก ม.5 อายุ 17 ปี คนหนึ่งชื่อเคนจิ อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์(น่าจะเรียกว่าชอบมากๆ มากกว่า เพราะเก่งแต่คณิตศาสตร์อย่างเดียว)ที่มีนิสัยไม่ค่อยมั่นใจในตนเอง ที่วันหยุดหน้าร้อนเขากับเพื่อนได้ทำงานพิเศษดูแลระบบ OZ ระบบออนไลท์ในระบบอินเตอร์เน็ต ที่เป็นโลกเสมือนที่มีทุกอย่างเสมือนโลกแห่งความจริง ไม่ว่าจะเป็น เล่นเกม ซื้อของ ทำธุรกิจ จนกระทั้งธุรกรรมต่างๆ เรียกได้ว่าหากทำกิจการอะไรก็ส่งผลกระทบต่อกิจการต่างๆ ของโลกนี้ด้วย

      

    ระหว่างที่เคนจิรู้สึกว่าชีวิตน่าเบื่อนี้เอง จู่ๆ เขาก็ได้ถูกรุ่นพี่นัตสึกิที่ตนหลงใหล ได้วานให้ทำงานพิเศษที่เขาต้องเดินทางกับเธอไปบ้านของคุณยายทวด ซึ่งวันนี้เป็นวันรวมญาติที่กำลังจัดงานวันเกิดอายุครบ 90 ปี แต่กลายเป็นเคนจิพึ่งว่างานที่รุ่นพี่ไหว้วานก็คือรับบทเป็นคู่หมั้นปลอมๆ ของนัตสึกิ เพื่อให้คุณยายทวดของรุ่นพี่สบายใจ แถมมีการโม้อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงอีก ในตอนนั้นเคนจิก็ได้พบญาติของนัตซึมิซึ่งมีถึง 27 คน ซึ่งแต่ละคนมีอายุ นิสัย หน้าที่ การงานที่แตกต่างกันออกไป

    ระหว่างที่เคนจิพยายามปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่รุมล้อมไปด้วยญาติของนัตสึกิอย่างเหนื่อยยากอยู่นั้นเอง แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ได้ปรากฏวาบิสุเกะลูกที่เกิดจากเมียน้อยของคุณปู่ทวดได้เข้ามาในบ้านท่ามกลางบรรยากาศมาคุของเหล่าญาติของรุ่นพี่ เนื่องจากหลายคนไม่ชอบวาบิสุเกะ เพราะเขาขายที่ดินมรดกครอบครัวทิ้งแล้วไปใช้ชีวิตในอเมริกา 10 ปีโดยไม่บอกข่าวคราวให้ทุกคนในครอบครัวทราบ ก่อนที่จะกลับมาโดยไม่บอกกล่าวดังกล่าว

      ส่วนทางด้านเคนจิ คืนวันนั้นเอง เคนจิได้รับเมล์ปริศนาเป็นตัวเลขลึกลับ และด้วยความชอบตัวเลขของเขาทำให้เขาใช้เวลาทั้งคืนในการแก้ปัญหานั้นจนเขาไม่รู้ตัวเลยว่ามันจะทำให้เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแฮ็คเกอร์ของโลกเสมือนจริงโดย ปัญญาประดิษฐ์ลึกลับตัวหนึ่งชื่อ เลิฟแมชชีน ที่มีความนึกคิดเป็นของตัวเองได้ขโมยแอคเคานต์ของเคนจิไปเพื่อสร้างปัญหา เช่น ขโมยแอคเคานต์ของคนอื่น หรือแฮ็คเกอร์แก้ไขระบบสาธารณะสร้างความโกลาหลต่อโลกแห่งความจริงด้วย ส่งผลทำให้วันรุ่งขึ้นเคนจิได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอาชญากรแฮ็คเกอร์ทางอินเตอร์เน็ตไป เคนจิจึงร่วมมือกับคาสุมะซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของรุ่นพี่ต้องเข้าไปยังโลก OZ เพื่อหยุดปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าว ด้วยการต่อสู้  หากแต่ฝ่ายเคนจิก็พ่ายแพ้

      

    หลังจากนั้น เลิฟแมชชีนได้สร้างหายนะในโลก OZ จนเกิดความวุ่นวายในโลกแห่งความจริงจนเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น เปลี่ยนแปลงระบบจราจรทำให้รถติดขัด เปลี่ยนสัญญาณโรงพยาบาล เปลี่ยนการทำงานอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด จนหลายคนเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ลุกลามไปทั่วโลก

    ระหว่างนั้นเคนจิและพรรคพวกพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างยากลำบากอยู่นั้นเอง ยายทวดของรุ่นพี่พยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยการให้กำลังใจลูกหลานและญาติของเธอที่ทำงานบริการสาธารณะชนอย่างเข้มแข็ง จนสามารถลุล่วงไปได้ดี และในคืนวันนั้นเองเขาก็ได้รู้ว่าปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าวเป็นผลงานของวาบิสุเกะที่เป็นคนออกแบบแล้วขายโปรแกรมให้กองทัพสหรัฐ และกองทัพดังกล่าวได้นำไปทดลองในโลก OZ โดยไม่รู้เท่าถึงการณ์ ทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว และนั้นเป็นเหตุทำให้วาบิสุเกะทะเลาะกับยายทวดและเหล่าญาติ จนถูกไล่ออกจากบ้านไป และคืนวันเดียวกันคุณยายทวดของรุ่นพี่ก็เสียชีวิตเนื่องจากสัญญาเตือนโรคหัวใจไม่ทำงานอันเนื่องจากผลหายนะในโลก OZ จนเป็นเหตุทำให้เหล่าญาติของรุ่นพี่เกิดอการโศกเศร้าที่สูญเสียสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวไป

    ระหว่างที่เหล่าญาติพากับโศกเศร้าเหล่านั้น ญาติคนหนึ่งของรุ่นพี่ได้วางแผนที่จะเอาชนะ เลิฟแมชชีน ที่เป็นตัวต้นเหตุการณ์เสียชีวิตของคุณยายทวด ในขณะที่สมาชิกคนอื่นไม่ได้สนใจเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะเหล่าผู้หญิงที่ต้องไปเตรียมจัดงานศพ (ส่วนอีกคนนั่งดูทีวีดูลูกชายเล่นเบสบอลโคชิเอ็น)

    โดยเคนจิและพรรคพวกได้วางแผนกำจัดเลิฟแมชชีนหากสุดท้ายก็ล้มเหลวในขั้นตอนสุดท้าย เลิชแมนชีนได้กลายร่างกลายเป็นตัวมหึมา  และทำการเปลี่ยนเส้นทางดาวเทียมโคจรมาชนโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ในเวลาที่เคนจิและพรรคพวกกำลังแตกแยกวุ่นวายอยู่นั้น รุ่นพี่ได้พบจดหมายคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณยายทวดให้ครอบครัวกลับมาสามัคคีอีกครั้ง และแผนทุกเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างของเคนจิและพรรคพวกก็คือการให้รุ่นพี่เล่นเกมไพ่โค่ย-โค่ยแข่งกับเลิฟแมชชีนโดยเดิมพันแอคเคานต์ของพวกตน เพื่อพยายามหาแอคเคานต์ของดาวเทียมโคจร หากแต่เกมไพ่โค่ย-โค่ยเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะการเดิมพันแอคเคานต์ของฝ่ายรุ่นพี่นั้นมีน้อยเกินไปสู้ของแอคเคานต์ของเลิฟแมชชีนไม่ได้ และระหว่างที่รุ่นพี่กำลังเสียท่านั้นเองก็มีผู้ใช้แอคเคานต์จากทุกมุมโลกนับล้านล้านได้เข้ามาเดิมพันข้างรุ่นพี่แบบหมดตัว จนสามารถเอาชนะเลิฟแมชชีนได้ในที่สุด จนสามารถเปลี่ยนวงโคจรของดาวเทียมส่วนใหญ่ได้ดังกล่าว

     ระหว่างที่เคนจิและพรรคพวกดีใจอยู่นั้น เลิฟแมชชีนยังไม่ยอมง่ายๆ เมื่อมันได้เหลือระบบดาวเทียมโคจรระบบหนึ่ง และได้เปลี่ยนวงโจรนั้นเข้าพุ่งชนบ้านที่เคนจิและพรรคพวกอยู่ ในตอนนั้นเองเคนจิได้แสดงความกล้าหาญพยายามแก้รหัสเพื่อเปลี่ยนวงจรดาวเทียมจนสามารถเปลี่ยนเส้นทางดาวเทียมและสามารถเอาชนะเลิฟแมชชีสได้อย่างเด็ดขาดและด้วยเหตุนี้เองทำให้เคนจิเป็นที่ยอมรับของครอบครัวของรุ่นพี่และสามารถชนะใจรุ่นพี่ให้หันมาชอบตนได้ จนทำให้ทั้งคู่ได้เป็นแฟนจริงในที่สุด

      

    Summer Wars เป็นการ์ตูนที่ค่อนข้างแปลกครับ เพราะว่ารวมสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องเอาไว้ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการสอดแทรกประเด็นของครอบครัว สงครามโลกออลไลน์ หายนะโลก การต่อสู้และความรักของหนุ่มสาว มาไว้ให้เป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน(ส่งผลให้เรื่องนี้มีข้อคิดหลายย่างที่ว่านั้นด้วย) ซึ่งตอนแรกๆผมก็นึกหวั่นว่ามันจะสนุกน่าติดตามไหมเนี้ย แต่เเอาจริงปรากฏซ่ามันสนุกเหลือเชื่อครับ เหลือเชื่อมากๆ ตลอด1:54 ชั่วโมงกว่า ๆ ที่อนิเมชั่นฉาย นี้ผมดูไม่ลุกไปไหนเลย ดูจนจบ

    ข้อดีของเรื่องก็คือเป็นเรื่องแปลกใหม่ดีครับ การดำเนินเรื่องไม่เหมือนอนิเมชั่นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องไหนเลย เพราะส่วนใหญ่จะเน้นแอ็คชั่นตลอด ที่มาแบบสอดแทรกข้อคิด คติสอนใจผสมแอ็คชั่นนิดหน่อยนี้หายากครับ อีกทั้งภาคสวยอลังการ การดำเนินเรื่องไม่มีสะดุด ตัวละครก็มีเด่นหลายตัว ตอนจบก็อิ่มอกอิ่มใจ

                    ข้อเสียการ์ตูนเรื่องนี้มาอย่างเดียวครับคือตัวละครเยอะมาก (นอกเหนือจากไพ่ โค่ย-โค่ย นี้มันเล่นยังไงว่ะ สากลผสม 9 ไม่ได้เรอะ) ขนาดเหล่าญาติของรุ่นพี่นี้เกินกว่า 20 คน  เชื่อเลยครับใครที่ดูการ์ตูนครั้งแรกนี้ต้องจำตัวละครทั้งหมดที่ปรากฏในเรื่องไม่ได้แน่ๆ โดยเฉพาะตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่ฝั่งผู้ชายนี้หน้าตาคล้ายๆ กันหมด แถมตอนที่ทุกคนไปอยู่โลก OZ นี้ใครเป็นใครนี้แทบจำไม่ได้เลย และเชื่อหรือไม่ครับตอนแรกญาติของรุ่นพี่นี้ผู้ผลิตกะจะเพิ่มเป็น 80 คนด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ปรับลดลงอย่างที่เห็น(น่าเสียดายน่าจะมีตัวละครผู้หญิงที่เป็นญาติรุ่นพี่และอายุเท่าพระเอกสักหน่อย จะได้กลายเป็นฮาเร็ม) แต่ถึงแม้ตัวละครจะมากแต่กระนั้นหากตั้งใจดูดีๆ จะพบว่าแต่ละครนั้นจะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ทำให้หลายคนสามารถจำตัวละครหลายตัวได้

                    อย่างไรก็ตามแม้ตัวละครในเรื่องจะมีมาก แต่กระนั้นตัวละครเด่นๆ ในเรื่องนี้มีทั้งหมด 5 คนครับ(เออ รวมจากปัญญาประดิษฐ์ด้วย เป็น 6) ที่สำคัญต่อการดำเนินเรื่อง(เดี๋ยวจะบอกข้อคิดที่สอดแทรกในตัวละครนั้นๆ ที่หลัง)

                     

                    โคอิโซะ เคนจิ เด็กมัธยมอายุ 17 ปี ที่มาแบบพระเอกพิมพ์นิยมสมัยนี้เลยครับ แบบอ่อนแอ และหน้าแสนธรรมดา ครอบครัวก็มาแบบญี่ปุ่นสมัยปัจจุบันจ๋าเลย คือมีพ่อกับแม่ และพ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน(มุกประจำการ์ตูนญี่ปุ่นสมัยนี้ด้วย) ดีที่มีความอัจฉริยะคณิตศาสตร์เป็นจุดเด่นบ้าง แต่กระนั้นด้วยนิสัยหรืออะไรก็ตามแต่ เขามักคิดแก้โจทย์คณิตศาสตร์พลาดตอนท้ายทุกที นิสัยค่อนข้างไม่ค่อยมั่นใจในตนเอง ทำตัวไม่ค่อยเด่น  ซึ่งในวันหยุดฤดูร้อนเป็นทำงานผู้ดูแลโลก OZ กับเพื่อน  แอบชอบรุ่นพี่นัตสึกิอยู่ห่างๆ แต่ไม่กล้าบอก จนกระทั้งเคนจิได้รับเชิญจากรุ่นพี่ให้ไปวันงานวันเกิดครบรอบ 90 ปีของคุณยายทวด หากแต่กลายเป็นว่าต้องรับบทเป็นแฟนปลอมของรุ่นพี่ และทำตัวไม่ถูกกับบรรดาญาติๆ รุ่นพี่เท่าไหร่(ก็เขาคนนอกนี้น่า) จนกระทั้งได้รับรหัสลับจากมือถือของเขาและเขาส่งคำตอบไปจนต้องเป็นผู้ต้องหาเป็นแฮ็คเกอร์โลก OZ ทำให้เขาต้องร่วมมือกับญาติของรุ่นพี่เพื่อแก้ไขดังกล่าว บทของเคนจินี้ช่วงกลางๆ เรื่องนี้ไม่เด่นนิดๆ หน่อยๆ ครับ เพราะตัวละครหลายตัวมีบทเด่นเข้ามา ก่อนที่ใกล้จบเรื่องเคนจิจะมาโชว์ความแมนชนะใจรุ่นพี่(และคนดู)ไปด้วย

                     

                    ชิโนฮาระ นัตซึมิ นักเรียนรุ่นพี่ของเคนจิ อายุ 18 ปี ตัวสูงและมีชีวิตชีวา ที่ชวนเคนจิไปวันงานวันเกิดครบรอบ 90 ปีของคุณยาย ทวดโดยหลอกยายทวดว่าเคนจิเป็นแฟน เพื่อให้ยายทวดดีใจ ซึ่งบทของรุ่นพี่นี้ก็จะเรียกว่านางเอกคงได้ล่ะมั้ง หากแต่ช่วงแรกบทเธอไม่ค่อยเท่าไหร่ เนื่องจากตัวละครหลายตัวขโมยซีนไป ก่อนที่บทคุณเธอจะมาเด่นในช่วงเล่นไพ่ก้อย-ก้อยนี้แหละ

                     

    อิเคะซาวา คาสุมะเด็กชายอายุ 13 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนัตซึมิ ที่ค่อนข้างเป็นเด็กเก็บตัวไม่ค่อยคุยกับคนอื่นสักเท่าไหร่(เป็นฮิคิโคโมริ) ขนาดตอนวันรวมญาติมายังแอบไปเล่นคอมอยู่ห้องเก็บของซะงั้น (เออ.. ผมก็เป็นครับ) เป็นญาติของรุ่นพี่คนแรกที่เคนจิร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเมื่อแอคเคานต์ถูกขโมยเป็นคนแรก และตัวตนของเขาในโลก OZ ก็คือคิงคาซุมะซึ่งเป็นแชมป์นักสู้โลกออนไลน์นั้นเอง นิสัยชอบเอาชนะและคิดว่าเกมในโลก OZ นั้นเป็นอะไรมากกว่าเกม หากเมื่อออกนอกห้องเขาก็จะออกกำลังกายด้วยการเล่นเส้นหลินกังฟูกับคุณปู่ และสุดท้ายเขาเป็นตัวละครขโมยซีนของเรื่องอย่างแท้จริง(น่ารักอ่ะ) เชื่อเปล่าครับตอนแรกผมนึกว่าตัวละครตัวนี้เป็นผู้หญิงเพราะเสียงมันผู้หญิงชัดๆ กว่าที่ผมจะปรับความเข้าใจได้นี้ก็มาถึงกลางๆ เรื่องแล้ว

      

    จินโนะอุจิ ซาคาเอะ ยายทวดของรุ่นพี่นัตสึกิ อายุ 89 ปีและอีกไม่กี่วันก็จะอายุ 90 ปี เป็นเสาหลักและเป็นตัวเชื่อมสมาชิกตระกูลจินโนะอุจิ นิสัยเป็นคุณยายที่ดี ไม่ย้อท้อ และมีอิทธิพลต่อวงการเมืองและการเงิน

      

    จินโนะอุจิ วาบิสุเกะ อาของรุ่นพี่นัตสึกิ และเป็นคนที่รุ่นพี่นัตสึกิหลงรัก อายุ 41 ปี เก่งเรื่องด้านคอมพิวเตอร์ เป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน(มหาลัยในเพนซิลเวเนีย ชั้นนำแห่งหนึ่งในโลกในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์) เป็นลูกนอกสมรสขของคุณปู่ทวด แต่กระนั้นเขารักคุณยายทวดมาก หากแต่สำหรับสมาชิกครอบครัวแล้วมองเขาเป็นคนนอกที่น่ารังเกียจ เพราะเอาที่ดินมรดกไปขายเพื่อเอาเงินไปอเมริกา และเขาเป็นประดิษฐ์เลิฟแมชชีสนเพื่อนำไปขายให้กองทัพอเมริกา จนเป็นเหตุทำให้โลก QZ วุ่นวาย

      

    เลิฟแมชชีน ปัญญาประดิษฐ์ที่มีความนึกคิดเป็นของตัวเองถูกสร้างขึ้นโดยวาบิสุเกะ ที่ถูกนำไปใช้เพื่อทดลองในโลก OZ แต่กลายเป็นว่ามันได้สร้างความวุ่นวายไปทั่วโลกจนยากเกิดแก้ไข นิสัยชอบเอาชนะและชอบเรียนรู้

    หลังจากประสบผลสำเร็จจากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องสาวน้อยข้ามกาลเวลา(The Girl Who Leapt Through Time) สตูดิโอเล็กๆ แต่รสโตอย่าง Madhouse และผู้กำกับมาโมรุ โฮโซเตะ(Mamoru Hosoda) ที่มีผลงานดังอดีตอย่างอนิเมชั่นทีวีดิจิมอนผจญภัยและแม่มดน้อยโดเรมี ก็เริ่มผลิตภาพยนตร์เรื่องใหม่ถัดไป โดยหัวข้อตอนแรกที่พวกเขาคิดก็คือต้องเป็นเรื่องราวของคนสองคน โดยคนหนึ่งมีครอบครัวกับคนหนึ่งไม่มีครอบครัว ซึ่งหัวข้อดังกล่าวนำไปสู่อนิเมชั่นภาพยนตร์เรื่อง Summer Wars (2006) นั้นเอง

    เมื่อได้หัวข้อ ก็เริ่มมีการออกแบบ โดยฉากชนบทของเรื่องนั้นใช้เมืองที่มีอยู่จริงคือเมืองอุเอดะ จังหวัดนากาโนะ เพราะเป็นเมืองของตระกูลซานาดะซึ่งเป็นต้นแบบของตระกูลของรุ่นพี่นั้นเอง ซึ่งใครไม่รู้จักซานาดะนี้ขออธิบายสั้นๆ ว่าเป็นสุดยอดนักรบของญี่ปุ่นที่เก่งเรื่องสู้รบแม้ว่ากองทัพของซานะไม่ใหญ่โตแต่สามารถชนะกองทัพใหญ่หลายครั้ง และตำนานของซานาดะก็ถูกนำมาเล่าโดยอาของรุ่นพี่ที่เป็นชาวประมงในเรื่องนั้นเอง ส่วนครอบครัวรุ่นพี่หรือบ้านก็เอามาจากประสบการณ์ของผู้กำกับเอง ส่วนการการลงสีและการออกแบบโลก OZ ก็ใช้เกมนินเทนโดเกมหนี่งมาเป็นตัวต้นแบบผสมกับภาพเคลื่อนไหวของคอมพิวเตอร์โดยไม่มีสะดุด การออกแบบตัวเอกก็ใช้คนวาดสาวน้อยข้ามกาลเวลาอีกครั้ง

    และหลังจากที่ Summer Wars ฉายไปก็ปรากฏว่าได้รับประสบผลสำเร็จพอสมควรทั้งรายได้และคำวิจารณ์ อีกทั้งยังถูกนำไปฉายทั่วโลกจนได้รับรางวัลมากมาย อย่าง อนิเมชั่นแห่งปี 2010 

                     

                    ก่อนที่จะพูดถึงข้อคิดประเด็นที่สอดแทรกของการ์ตูนเรื่องนี้ผมก็มีเรื่องน่าสังเกตอะไรสนุกๆ มาบอก หลายคนคงรู้แล้วว่าผู้กำกับการ์ตูนเรื่องนี้มีผลงานดิจิมอนผลงานที่คุ้นหูของคนไทย และภาพยนตร์ดิจิมอนเรื่อง Digimon Adventure: Our War Game หรือชื่อไทย ดิจิมอนผจญภัย: สงครามของเรา(2000)ซึ่งขอบอกว่าภาพยนตร์ดิจิมอนภาคนี้มีบรรยากาศเหมือนการ์ตูนเรื่องนี้ไม่มีผิด อีกทั้งบรรยากาศและพล็อตในเรื่องก็ยังคล้ายๆ คือเรื่องเกิดในช่วงวันหยุดฤดูน้อย  โลกดิจิดอตของเหล่าดิจิมอนเหมือนโลก OZ (และชื่อยังเหมือนกันด้วยคือโลก OZ) โดยโลกดังกล่าวคนสามารถใช้ดิจิมอนเป็นสัญลักษณ์ในการกระทำเช่น ให้ความบันเทิง ธุรกิจ เกม ช้อปปิ้ง หรือแม้กระทั้งการดำเนินชีวิตประจำวันเหมือนโลกแห่งความจริง และในขณะเดียวกันก็เกิดภัยร้ายอินเตอร์เน็ตก็คือไวรัส(ชื่อ Infermon) ที่ทำลายพวกดิจิมอนและแทรกแซงระบบไฟฟ้าในโลกแห่งความจริง(ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ให้ยุ่งเหยิง) ทำให้โลกดิจิมินเชื่อมกับโลกแห่งความจริง ทำให้พระเอกไดอิจิ(พระเอกจากดิจิมอนภาคทีวีภาคแรก)และเพื่อนมายังโลกดิจิมอนดังกล่าว

    ความเหมือนยังไม่หมด เพราะไวรัสตัวร้ายดังกล่าวยังก่อกวนเหมือนเลิฟแมชชีนซะด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปล่อยไวรัสให้ดาวเทียมลงพิกัดบ้านที่ตัวเอกอยู่ และมีการนับถอยหลังผลกระทบ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็เหมือนกันคือเหมือนเหล่าพระเอกกำลังหมดหวังในชัยชนะอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีกำลังใจจากอีเมล์(ผู้ดู)เข้ามาให้กำลังใจและร่วมแรงร่วมใจจนเป็นพลังให้พระเอกเอาชนะเหล่าร้ายในที่สุด

                    อย่างไรก็ตาม Digimon Adventure: Our War Game และ Summer war จะมีความเหมือนกัน แต่กระนั้นการนำเสนอนั้นเป็นคนละทิศละทาง เพราะดิจิมอนนั้นนำเสนอเรื่องมิตรภาพระหว่างเพื่อนพ้องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ส่วน Summer war เน้นความสามัคคีของครอบครัวเสียมากกว่า และหลังจากที่ผุ้กำกับสร้างภาพยนตร์ดิจิมอนภาคดังกล่าวไปแล้ว อีก 6 ปีต่อ ผู้กำกับได้นำองค์ประกอบดิจิมอนภาคดังกล่าวไปใช้จนกลายเป็นโลก OZ ของ Summer war ในที่สุด

                     

    กลับมาที่เรื่อง Summer war ต่อนอกเหนือจากเนื้อเรื่องที่น่าติดตามแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ยังสอดแทรกข้อคิดอะไรหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน โดยประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือประเด็นเกี่ยวกับครอบครัว  แม้ว่าเนื้อหาจะเป็นแนวกู้โกก็ตาม แต่กระนั้นครอบครัวกลับเป็นข้อคิดที่เด่นที่สุด ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ถ่ายทอดความรู้สึกของครอบครัวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การรวมญาติ การแตกแยก ความรัก ความอบอุ่น ที่ทำได้อย่างมีความรู้สึกร่วมตาม เริ่มจากประเด็นที่สมาชิกครอบครัวของรุ่นพี่มีจำนวนมากนั้น สำหรับชาวญี่ปุ่นถือว่าแปลก เพราะโครงสร้างครอบครัวญี่ปุ่นปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่ประกอบด้วยพ่อแม่และลูกเพียงเท่านั้น ซึ่งเป็นครอบครัวเดี่ยว อีกทั้งพ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง เหมือนกับครอบครัวพระเอกในเรื่อง  ส่วนครอบครัวที่มีญาติเยอะนั้นปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็นส่วนมากมักเป็นครอบครัวเก่าแก่หรือจำพวกออกจากบ้านเกิดเพื่อไปสร้างครอบครัวใหม่และนานครั้งจึงกลับบ้านนอก แต่จำพวกออกจากบ้านแล้วยังคงสามัคคีกันเหมือนการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ค่อยมี ดังนั้นพระเอกในเรื่องจึงค่อนข้างแปลกใจที่ได้พบครอบครัวที่มีญาติเยอะดังกล่าว

    สิ่งที่ค่อนข้างชอบคือบรรยากาศรวมญาติเรื่องนี้ค่อนข้างสมจริง สำหรับคนไทยแล้วหลายคนยังเป็นครอบครัวใหญ่และมีงานร่วมญาติเหมือนเรื่องแล้วต้องเกิดความรู้สึกอบอิ่มอิ่มใจกับฉากนี้ไม่มากก็ไม่น้อย(แต่สำหรับผมไม่)

    แต่ท่ามกลางเสียงหัวเราะและการพูดคุยอย่างเป็นมิตรของเหล่าญาติๆ รุ่นพี่อยู่นั้น ยังมีตัวละครสองตัวที่อยู่นอกวง นั้นคือเคนจิและวาบิสุเกะที่เปรียญเสมือนคนแปลกหน้าของครอบครัวรุ่นพี่ แม้ทั้งสองคนจะมีสถานะ วาระสาเหตุแตกต่างกัน โดยคนแรกคือเคนจิซึ่งมาตอนแรกไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า เพราะเขาเป็นคนนอกที่ไม่รู้จักรุ่นพี่แบบรู้ใจ เขาแค่แอบชอบห่าง ๆ แม้จะอยู่หลังคาเดียวกับรุ่นพี่ แต่ต้องอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักมักจี่มาก่อนก็อึดอัดใจ ยิ่งเป็นครอบครัวใหญ่หลายเพศหลายอายุและไม่มีคนรุ่นเดียวกันก็ยากจะเชื่อมสัมพันธ์ด้วย แถมมีบางช่วงที่รุ่นพี่เลิกสนใจตัวเขาแล้วหันมาชอบวาบิสุเกะแทนยิ่งทำให้เคนจิแอบรู้สึกน้อยใจและกลายคนเป็นแปลกแยกจากกลุ่มโดยสมบูรณ์(ยิ่งรุ่นพี่บอกว่าแฟนปลอมยิ่งน้อยใจไปใหญ่) จนใจเขานึกหวั่นๆ ว่า “เขามาถูกที่หรือเปล่าเนี้ย?

    ส่วนอีกคนคือวาบิสุเกะที่เป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกันกับรุ่นพี่ แต่สถานะของเขานั้นค่อนข้างแปลกแยกเพราะว่าเป็นลูกเมียน้อยของคุณปู่ทวด ซ้ำยังหายจากครอบครัวไปหลายสิบปี พอกลับมาทุกคนต่างพูดไม่ออก มองเขาเหมือนคนแปลกหน้า อีกทั้งเรื่องยังโปรยๆ อีกว่าเขาจะทำให้ครอบครัวแตกแยกและก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อเขาเปิดเผยว่าคนสร้างเลิฟแมชชีน จนเป็นเหตุทะเลาะกับญาติ หากแต่เขาเถียงกลับว่ามันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา เขาแค่สร้างมันแล้วเอาไปขายกับคนอื่นโดยไม่สนว่าเขาจะใช้ทำอะไร  ประโยคดังกล่าวเป็นใครก็โกรธ เพราะว่ามันเหมือนปัดสวะ ไร้ความรับผิดชอบ  เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ซึ่งถือว่าผิดหลักจริยธรรม ในที่สุดวาบิสุเกะก็ถูกยายทวดไล่ออกจากบ้านไป

    นอกเหนือตัวละครทั้งสองแล้ว อีกตัวละครที่หลายคนมักลืมว่าเขาก็ทำตัวแปลกแยกครอบครัวด้วย ก็คือคาซุมะที่ตอนแรกเขาเลือกที่จะเล่นเกมออนไลน์อยู่ในห้องเก็บของมืดๆ คนเดียว มากกว่าจะอยู่วงสนทนาของญาติ อันนี้ไม่ใช้ฮิคิโคโมริหากแต่เป็นอาการของคนไม่ถนัดเรื่องงานรวมญาติ ไม่ชอบตกเป็นหัวข้อวงสนทนาของวงเหล่าญาติ ไม่ชอบการพูดคุยกับญาติบางคนที่เราแทบไม่รู้จักหน้า หรือนึกหัวข้อพูดคุยไม่ค่อยออก ต่างอายุ ต่างวัย จึงเลือกเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวแล้วเล่นเกมคนเดียวสบายกว่ากันเยอะ ซึ่งเชื่อว่าก็มีหลายคนไม่น้อยที่เป็นเหมือนคาซุมะ(รวมทั้งผม)

     
                  อย่างไรก็ตาม กรณีของวาบิสุเกะและคาซุมะแม้ทำตัวแปลกแยกขนาดไหน ยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าเราจะดีจะชั่วขนาดไหน ก็เป็นครอบครัวเดียวกัน มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน ถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันเพราะความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน หรือจะสูญเสียเสาหลักของครอบครัวที่ยึดเหนียวครอบครัวไปจนเกือบจะแตกแยกคนละทิศละทาง หากกระนั้นขอให้สมาชิกทุกคนสมัครสมานสามัคคี ช่วยเหลือดูแลเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ให้อภัยซึ้งกันและกัน มีน้ำใจซึ่งกันและกันก็สามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เหมือนคำสั่งเสียในพินัยกรรมของคุณยายทวดประโยคหนึ่งว่า

    “ครอบครัวเดียวกันน่ะ ไม่ควรปล่อยมือออกจากกันนะ”

    ดูเหมือนว่าการ์ตูนดังกล่าวจะเน้นประเด็นครอบครัว ซึ่งนอกเหนือจากนามธรรมแล้ว ประเด็นของครอบยังสอดแทรกอยู่คำพูดของตัวละคร ที่พูดออกมาในลักษณะที่เราคิดไม่ถึงไว้ด้วย อย่างเช่น ตอนที่คาซุมะแพ้เลิฟแมนชีนเขาได้เอ่ยประโยคทั้งน้ำตาว่า คุณยายทวด ขอโทษครับ ทั้งคุณแม่และน้องสาว ผมไม่สามารถปกป้องไว้ได้เลยอันนี้แปลกดีไหมครับ แทนที่ประโยคดังกล่าวถ้าเป็นการ์ตูนแนวกอบกู้โลกนี้จะเอ่ยถึง ขอโทษ ที่ปกป้องโลกไม่ได้ หรือจะปกป้องประชาชน ปกป้องเพื่อนก็ว่ากันไป แต่คาซุมะเลือกที่จะเอ่ยแค่คนใกล้ตัวที่รักที่สุดแทน แต่นี้ไม่เท่าไหร่ ยังมีอีกฉากหนึ่งเมื่อมีแอคเคานต์คนนอกที่ได้เข้ามาช่วยเหลือพวกนางเอกในขณะจนมุมเลิฟแมนชีนมากมายจากทั่วโ,ก พร้อมข้อความหนึ่งบอกว่า โปรดช่วยปกป้องครอบครัวอันสำคัญของเราด้วย อันนี้แปลกใหญ่เลย เพราะแทนที่จะเขียนว่า โปรดช่วยปกป้องโลกด้วย เหมือนการ์ตูนเรื่องแนวกอบกู้โลกเรื่องอื่นๆ มากกว่า แสดงให้เห็นว่าครอบครัวนั้นสำคัญขนาดไหนต่อโลก จะมีประโยชน์อะไรหากโลกเรานั้นไม่มีครอบครัว แม้ครอบครัวจะเป็นหน่วยเล็กที่สุดในสังคม แต่กระนั้นครอบครัวคือสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาสังคม คุณภาพชีวิตประชากร ยิ่งพื้นฐานครอบครัวดีเท่าไหร่ สังคมยิ่งมีคุณภาพและประเทศพัฒนาได้รวดเร็วเท่านั้น

    ส่วนในกรณีของเคนจินั้น แม้ว่าจะเป็นคนนอก แต่กระนั้นเขากลับต้องเข้ามาอยู่กับสถานการณ์ของครอบครัวนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในระหว่างนั้นเคนจิก็ได้พัฒนาจิตใจจากตอนแรกที่เป็นคนที่นิสัยไม่มั่นใจตนเองกลายเป็นคนแน่วแน่และกล้าหาญ ปรับตัวเข้ากับสถานและลื่นไหลไปกับเหตุการณ์ จนสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวรุ่นพี่ สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และสามารถถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่ได้ โดยเฉพาะฉากที่ผมชอบก็คือฉากที่เคนจิจับมือรุ่นพี่หลังจากเสียชีวิตยายทวด ซึ่งผมชอบเป็นพิเศษ สื่อให้เห็นว่าเคนจิกลายเป็นคนที่เป็นที่พึ่งได้แล้ว ซึ่งในอนิเมชั่นนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเคนจิและรุ่นพี่นั้นไม่ค่อยได้กล่าวถึงมากนัก หากแต่ในมังงะนั้นได้เสริมจุดนี้เพิ่มเติมไว้ด้วย

      

    ข้อคิดต่อมาของ Summer War ที่ได้นำเสนอไม่แพ้ความสำคัญของครอบครัว นั้นคือภัยร้ายของโลกอินเตอร์เน็ตที่การ์ตูนทำได้ดีทำได้เด่นชัด สื่อให้เห็นถึงความสับสน อลหม่าน สื่อภัยร้ายความน่ากลัวของโลกอินเตอร์เน็ตสมัยใหม่ หลังจากที่ผมเคยประทับใจมาแล้วในเรื่อง Die Hard 4 ไม่นึกเลยว่าจะเห็นแบบนี้อีกครั้งในการ์ตูนเรื่องนี้

    โลกของเราทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าอินเตอร์เน็ตและระบบเน็ตเวิร์กได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ของเราและโลกไปแล้ว เพราะทุกวันนี้เราใช้คอมพิวเตอร์ มาใช้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์เน็ตใช้ติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว การติดต่องาน ทำงาน ช็อปปิ้ง เล่นเกม ทำธุรกรรมต่างๆ นอกจากนั้นคอมพิวเตอร์ยังเป็นตัวควบคุมสาธารณะที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการจราจร สัญญาเตือนภัย  โรงงานไฟฟ้า ซึ่งรวดเร็วและสะดวกสบาย และที่น่ากลัวที่สุดคือระบบป้องกันประเทศ ไม่ว่าระเบิดนิวเคลียร์ หรือการปล่อยจรวดมิสไซด์ ทั้งหมดควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ในขณะที่เราพึ่งเทคโนโลยีระบบเครือข่ายดิจิตอลเหล่านี้มากเกินไปโดยหลฃะหลวมการป้องกัน หากวันใดวันหนึ่งเกิดมีเหตุการณ์เหมือนการ์ตูนจะเป็นอย่างไร บางทีรุนแรงกว่าการ์ตูนด้วยซ้ำคือระบบสาธารณะถูกทำลาย การบิดเบือนข้อมูล ไปจนถึงขั้นการก่อการร้าย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการ์ตูนนั้น มีโอกาสเป็นไปได้ในโลกแห่งความจริง และได้กลายเป็นเรื่องถกเถียงและความตึงเครียดจนถึงทุกวันนี้ คิดแล้วเสียวแทนเหมือนกัน

    ในการ์ตูน Summer War ได้สอดแทรกประเด็นนี้ไว้อย่างแยบยลในเรื่องความคิดของของชาวโลกที่ตระหนักภัยก่อการร้ายอินเตอร์เน็ตเอาไว้ด้วย เช่นฉากหนึ่ง ที่เคนจิและเหล่าญาติ(ที่เป็นพวกผู้ชาย)ได้ประกาศสงครามต่อสู้กับเลิฟแมนชีนโดยระดมทรัพยากรทั้งหมดแบบทุ่มทุนในการวางแผนเพื่อกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ดังกล่าว หากแต่กลุ่มหญิงกับคิดว่ามันไร้สาระ เสียเวลา มันเป็นแค่วีดีโอเกม สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนกับการแบ่งเป็นสองฝ่ายของชาวโลกที่มีความคิดเห็นต่อภัยร้ายการก่อการร้ายอินเตอร์เน็ต กลุ่มหนึ่งบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระเพราะคิดว่าเป็นแค่วีดีโอเกม โดยหารู้ไม่ว่าอินเตอร์เน็ตสำคัญต่อชีวิตประจำวันเรายังไง ไวรัสคอมพิวเตอร์มันน่ากลัวขนาดไหน ซึ่งกว่าจะรู้ก็ยากจะแก้ไขเสียแล้ว กับอีกกลุ่มหนึ่งตระหนักถึงภัยร้ายและพยายามแก้ไข โดยไม่สนฝ่ายตรงข้ามจะมีความคิดเห็นอย่างไร ขอให้แก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าที่จะเสียใจทีหลัง

                    อีกข้อคิดหนึ่งแม้ว่าจะเป็นประเด็นเล็กๆ ที่ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าน่าจะพูดถึงสักนิด ก็คือคาซุมะกับเกมออนไลน์ ที่เคนจิเจอเขาครั้งแรกเหมือนเด็กเก็บตัว ที่เลือกหลีกหนีการพูดคุยกับเหล่าญาติๆ มาเล่นคอมพิวเตอร์ในห้องเก็บของ แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีส่งผลทำให้เด็กสมัยใหม่เริ่มห่างไกลครอบครัวจากครอบครัวมากยิ่งขึ้น และเริ่มให้ความสำคัญกับเกมออนไลน์มากกว่าชีวิตจริงเสียอีก อย่างประโยคหนึ่งที่คาซุมะเคยพูดว่า มันไม่ใช่เกม แสดงให้เห็นว่าคุซูมะมองโลกอินเตอร์เน็ตออนไลน์เสมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่มีความสำคัญเท่ากับโลกแห่งความจริง อย่างไรก็ตามภาพลักษณ์ของคาซุมะที่ออกมานั้นไม่ได้เป็นพวกเก็บตัวหรือบ้าเกมเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะคาซุมะยังมีครอบครัวที่ยังเป็นห่วงเป็นใยและเอาใจใส่อยู่ ไม่เหมือนครอบครัวปัจจุบันที่ห่างเหิน ขาดความอบอุ่น จนเด็กหันไปสนใจโลกเสมือนจริงจนเกิดเป็นปัญหาทางสังคมในที่สุด

                     

                    สรุป Summer War เป็นการ์ตูนที่ประทับใจหลายๆ คน เพราะมันมีสิ่งที่หลายคนชอบ ไม่ว่าจะเป็น ความอบอ่น ความสามัคคีของครอบครัว การกอบกู้โลก ฉากแอ็คชั่น ความรักของหนุ่มสาว และจบลงอย่างประทับใจ+ +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×