โลกของเรานั้นมีเรื่องลึกลับ เหนือธรรมชาติ มากมาย แม้หลายคนมองเรื่องเหล่านี้ไร้สาระ หรือรู้ไปเพื่อความสนุก แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่ามีเรื่องลึกลับบางเรื่องสามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกของเราอย่างไม่น่าเชื่อ มันเปลี่ยนความคิดของเรา เปลี่ยนความคิดของมนุษย์
10. พระอาทิตย์มิราเคิล ( Miracle Of The Sun)
พระอาทิตย์เริงระบำถือว่าเป็นเหตุการณ์เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของศรัทธาศาสนาคริสต์อย่างแท้จริง โดยเหตุการณ์อันแสนมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณเที่ยง ในวันอาทิตย์ ของวันที่ 13 ตุลาคม 1930 ที่เมืองฟาติมา ประเทศโปรตุเกส มีประชาชนมากมายมารวมกัน เพราะ เด็กน้อย 3 คน(ลูเซีย ฟรางซิสโกและยาชินตา) ได้อ้างว่าได้พบกับพระแม่มารีอาหรือพระแม่พระประจักษ์ที่ทรง เสด็จมามอบข่าวสารจากสวรรค์ให้กับมนุษย์เป็นความลับ 3 อย่าง และเพื่อให้คนอื่นเชื่อ พระนางเลยบอกให้พาผู้คนมายังต้นไม้บริเวณโบสถ์ในวันนั้น
และเมื่อถึงเวลา ประจักษ์ผู้คนในที่ห่างนั้นก็ตกตะลึง จู่ๆ ก็เกิดฝนตก และเมื่อฝนหยุดตก เมฆครื้มแต่เช้าจางหายไป ดวงอาทิตย์ปรากฏตรงศีรษะเหมือนรูปจานบิน มองด้วยตาเปล่าไม่เคื่องตา แล้วฉับพลันนั้นเองดวงอาทิตย์ก็เริ่มหมุนรอบตนเองประดุจล้อไฟ แสงพวยพุ่งไปรอบทิศ เปลี่ยนเป็นสีต่างๆ บนท้องฟ้า ต้นไม้ แผ่นดิน หิน และฝูงชน เหมือนถูกต้องด้วยสีเขียว เหลือ แดง ม่วง ดวงอาทิตย์หยุดชั่วครู่ แล้วหมุนแผ่รังสีจ้ากว่าเก่าอีก แล้วเริ่มใหม่เป็นครั้งที่สาม ฝูงชนต่างอกสั่นขวัญแขวงต่างสวดวิงวอนกันยกใหญ่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 10 นาที ท่ามกลาวฝูงชน 30, 000-100 , 000 คน ที่มีทั้งเด็ก ผู้หญิง ทุกวัย ต่างยืนยันว่าเป็นปาฏิหาริย์ของชาวคริสต์อย่างแท้จริง แม้ว่าบางทฤษฏีเกี่ยวกับฝุ่นในพื้นที่คนชุมนุมและการเล่นแสงของดวงอาทิตย์ แต่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ชัดเจนเลยแม้แต่น้อย
9.21 กรัม (21 g)
เรื่องของวิญญาณยังคงเป็นเรื่องลึกลับของมนุษย์ ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้ แต่อย่างไรก็ตามวิทยาศาสตร์เองก็พยายามอธิบายปรากฏการณ์ของวิญญาณอย่างเอาเป็นเอาตายว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
มีการทดลองสมมุติฐานเรื่องวิญญาณหลายอย่าง ที่ดังๆ คือ “น้ำหนักของความตาย” กล่าวคือมีการตั้งสมมุติฐานว่า “เมื่อคนเราตาย วิญญาณจะออกจากร่างหรือไม่ มันเป็นสสาร หรือพลังงาน มันมีมวลหรือไม่ เมื่อคนเราตายแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่” ดังนั้นจึงมีการอดทองโดยการนำร่างมนุษย์ที่ใกล้ตาเข้ามาในแคปซูลพิเศษ จากนั้นก็จับตาการเปลี่ยนแปลงเครื่องวัดว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงยังไง ในขณะคนนั้นใกล้ตาย และตาย ปรากฏว่าผลการทดลองเมื่อเทียบเอาน้ำหนักก่อนตายและหลังตายมาดูก็พบว่า มันหายไป 21 กรัม แสดงว่าวิญญาณมีน้ำหนัก 21 กรัมนั้นเอง
8.ซอมบี้ ( Z ombie)
ทุกวันนี้เรื่องของซอมบี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของมนุษย์ไปแล้ว โดยซอมบี้มนุษย์ที่ตายไปแล้วแต่ยังสามารถเดินเหินได้อย่างกับมีชีวิต ยังคงเป็นเรื่องลึกลับน่าค้นหา นักวิทยาศาสตร์หลายคนพยายามศึกษาเรื่องนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้วงการแพทย์ก้าวหน้าโดยพวกเขาเชื่อว่ายาสูตรลับสร้างซอมบี้ของลัทธิวูดู ในเฮตินั้นมีส่วนผสมของพิษปลาปักเป้าที่ทำให้คนที่กินตายช่วงระยะหนึ่งแล้วเมื่อฟื้นขึ้นมาก็จะสูญเสียความจำบางส่วนและสามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบันนั้น หลายคนมองเรื่องซอมบี้ในลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว กล่าวคือครึ่งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์หากแต่ถูกเชื้อโรคลึกลับเปลี่ยนเป็นซอมบี้ โหยหาเนื้อสดๆ โดยเฉพาะมนุษย์ หากมนุษย์คนใดถูกซอมบี้กัดก็จะกลายเป็นซอมบี้ไปด้วย
แม้ว่าซอมบี้ยุคปัจจุบันจะกลายเป็นเรื่องบันเทิง แต่ในโลกของอินเทอร์เน็ตยังคงมีข่าวลือเกี่ยวกับซอมบี้ และโรคกลายพันธุ์ที่จะเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นซอมบี้ได้ เมื่อไม่นานอเมริกาเคยแจกคู่มือรับมือซอมบี้ระบาด ทำให้ประชาชนตื่นตัวมาก แสดงให้เห็นว่าความหวาดกลัวเรื่องซอมบี้นั้นฝังเข้าไปในความคิดของมนุษย์ไม่ใช่น้อย
7. เหตุการณ์ที่รอสเวลล์ ( The Roswell Incident)
เหตุการณ์ยูเอฟโอตกที่รอสเวลล์ เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาใน ค.ศ. 1947 เมื่อวัตถุบินตกใส่ไร่แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโก เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 พยานที่พบเห็นเหตุการณ์พบได้มีเศษโลหะกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด ดูราวกับมีบางสิ่งบางอย่างขนาดใหญ่มาก ตกลงมาจากท้องฟ้า โดยชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายนั้น มีทั้งเป็นลวด เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเป็นแผ่นโลหะเบาและบาง แต่เหนียว ทนทานมาก สามารถพับไปมาได้รายแผ่นกระดาษนอกจากนั้น ยังเศษโลหะคล้ายกระดาษฟอยล์สีตะกั่ว ทำให้หลายคนเชื่อว่าวัตถุเหล่านี้ไม่มีในโลกของเรา และเชื่อว่ามันคือจานบินตก
อย่างไรก็ตาม ตอนหลังกองทัพสหรัฐออกมายืนยันว่า สิ่งที่ไปเก็บกู้ใกล้กับเมืองรอสเวลล์นั้นเป็นเศษซากการตกของบอลลูนเฝ้าตรวจที่สูงซึ่งยังทดลองอยู่ โดยเป็นของโครงการลับสุดยอดชื่อ โมกุล ทว่า ผู้เสนอแนวคิดยูเอฟโอจำนวนมากเชื่อว่ามีการพบยานของเอเลียน และเจ้าของยานถูกจับ และกองทัพปกปิดขนานใหญ่
แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อคำของกองทัพสหรัฐมากนัก และนั้นทำให้เหตุการณ์ที่รอสเวลล์ยังคงเป็นหัวข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง และเกิดทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ จนถึงปัจจุบันรอสเวลล์กลายเป็นเหตุการณ์ยูเอฟโออันเป็นที่รู้จักดีที่สุด
6.คำสาปฟาโรห์ ( Curse of the pharaohs )
ต้องยอมรับว่าเรื่องของ “คำสาป” สามารถเปลี่ยนโลกได้ เมื่อบุคคลสำคัญของโลกต้องตายไป และมักเชื่อมโยงกับเรื่องของคำสาปแช่งอะไรที่ร้ายๆ และคำสาปที่มีชื่อเสียงที่สดในประวัติศาสตร์ก็คือคำสาปฟาโรห์
พฤศจิกายน 1922 โฮวาร์ด คาร์เตอร์ นักโบราณคดีชาวอังกฤษได้ค้นพบสุสานสมัยยุค 1400 ปีก่อนคริสตกาลของฟาโรห์ตุตันคาเมน ขุมสมบัติของกษัตริย์อียิปต์ที่ไม่เคยมีใครย่างกรายเข้าไปกว่าพันๆปี แต่ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน กลุ่มคนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบสุสานดังกล่าวก็ค่อยๆเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา ไม่ว่าจะด้วยอาการไข้ , โลหิตเป็นพิษ , ฆาตกรรม และฆ่าตัวตาย
หลายคนเชื่อว่านี่คือคำสาปของฟาโรห์ตุตันคามุน ที่นักบวชไอยคุปต์ได้บรรจุไว้ในสุสานลี้ลับของฟาโรห์ตุตันคาเมน และมันจะทำอันตรายต่อผุ้เข้าไป รบกวนสุสาน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับสุสานฟาโรห์ แต่คาร์เตอร์ ผู้นำการค้นพบก็มีชีวิตอยู่เป็นสุขดี และไม่มีเหตุการณ์อะไรแปลกๆ เกิดขึ้นกับตัวเขาเลย (เขาเสียชีวิตเมื่อผ่านไปถึง 17 ปี
5.โครงการสตาร์เกท" ( Stargate Project)
กองทัพสหรัฐพยายามค้นหาวิธีประหลาดในการจัดการกับข้าศึกของพวกเขา ซึ่งที่ผ่านมาเรามักได้ยินโครงการทางทหารแปลกๆ มากมาย เป็นต้นว่า “ระเบิดเกย์” ทำให้กองทัพศัตรูเป็นเกย์, การใช้ยาเพื่อล้างสมอง หรือแม้แต่โครงการที่เรียกว่า “โครงการสตาร์เกท”
โครงการสตาร์เกท จะเรียกว่าโครงการสายรับพลังจิตคงไม่ผิดนัก โดยเป็นชื่อรหัสของโครงการย่อยที่จัดตั้งโดยรัฐบาลสหรัฐเพื่อการศึกษาการมองระยะไกลโดยอาศัยพลังจิต ( Remote Viewing) เมื่อปี 1978 โดยนำผู้ที่คาดว่ามีพลังจิตมาฝึกฝน เพื่อนำมาใช้จริงโดยประยุกต์ทางการทหารและงานสืบราชการลับ เช่นสามารถใช้พลังจิตในการมองเห็นระยะไกลเพื่อบอกตำแหน่งสิ่งก่อสร้าง หรือสิ่งที่ซุกซ่อนในตัวอาคารได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการศึกษาเรื่องเหนือธรรมชาติ(ประมาณว่าถอดจิต)และญาณทิพย์
สำหรับอาวุธพลังจิตนั้นมีมานานแล้ว สมัยสงครามเย็น ที่โซเวียตพยายามศึกษาผู้มีพลังจิตเหล่านั้นเพื่อทำงานเป็นสายลับ
แม้ว่าโครงการนี้ยกเลิกในปี 1995 แล้วก็ตาม (ซีไอเอยกเลิกเอง) อย่างไรก็ตามยังมีหลายคนเชื่อว่ายังคงมีการดำเนินโครงการนี้อยู่แบบลับๆ
4.โอพาร์ทส ( Ooparts)
ยังมีหลายเรื่องที่มนุษย์ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องของ Ooparts (Out-of-place artifact) ซึ่งหมายถึงวัตถุซึ่งไม่น่าจะมีปรากฏอยู่ในยุคนั้นๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้น ที่มีชื่อเสียงได้แก่เครื่องบินเจ็ตทองคำ (โคลัมเบีย) กะโหลกคริสตัล (แอสเทคและที่อื่นๆ) รูปวาดนักบิน (มายา)รูปเฮลิคอปเตอร์+รถถัง+เครื่องบินรบ(อียิปต์) ฯลฯ การค้นพบสิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานว่า ในสมัยโบราณ มนุษย์มีวัฒนธรรมซึ่งล้ำหน้ากว่าที่เราคาดคิดไว้มากนักถือเป็นการค้นพบที่พลิกประวัติศาสตร์โลกเลยทีเดียว
แม้ว่า โอพาร์ทสจะเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ตระหนักถึงความอ่อนด้อยของตนเองที่ไม่สามารถสู้คนโบราณไม่ดี และก่อเกิดทฤษฏีพระเจ้าจากอวกาศ ที่มนุษย์ต่างดาวมายังโลกโบราณเพื่อมอบเทคโนยีแก่คนโบราณเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามมีโอพาร์ทสมากมายระบุว่ามันเป็นปลอม เป็นของทำขึ้นเพื่อหลอกลวง และเป็นการตีความที่ผิดจากความเป็นจริง (เข้าใจผิด) แต่ก็ยังมีโอพาร์ทสที่จำนวนหนึ่งที่เป็นของจริง เป็นต้นว่า แบตเตอรี่โบราณที่พบในอีรักยืนยันว่ามันเป็นแบตเตอรี่อายุ 2000 ปีจริง และคอมพิวเตอร์โบราณของกรีกก็ยืนยันว่าเป็นของจริงเช่นกัน
3.สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ( Bermuda Triangle)
ทุกวันนี้เรื่องของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา พื้นที่สมมุติอันกว้างใหญ่ของทางตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ (คาดว่าประมาณ 500,000 และ 1,510,000 ตารางไมล์ ระหว่างไมอามี่, เปอร์โตริโก และเบอ์มิวดา) ยังคงเป็นเรื่องลึกลับที่น่าสนใจจนถึงปัจจุบัน เมื่อเป็นสถานที่ที่เรือ เครื่องบินหายไปแบบไม่มีวันกลับ
มีหลายทฤษฏีเกี่ยวกับสามเหลี่ยมเบอร์บิวดา บ้างก็ว่าเป็นเรื่องของปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ถูกมนุษย์ต่างดาวลักพา หรือมีเทคโนโลยีจากเมืองแอตแลนติสจับคนลงในทะเล ทฤษฏีเหล่านั้นถูกนำมาเขียนออกเป็นหนังสือ หรือไม่ก็ภาพยนตร์อย่างสนุกสนาน
อย่างไรก็ตาม มี หลักฐานซึ่งบันทึกไว้ได้ระบุว่า เหตุการณ์การหายสาบสูญของอากาศยานและเรือผิวน้ำส่วนใหญ่ได้รับรายงานอย่างไม่ถูกต้องหรือถูกเสริมแต่งโดยนักประพันธ์ในช่วงหลัง และหน่วยงานของรัฐหลายแห่งได้กล่าวว่า จำนวนและธรรมชาติของการหายสาบสูญไปในพื้นที่ดังกล่าวก็มีลักษณะเช่นเดียวกับการหายสาบสูญไปในมหาสมุทรส่วนอื่น ๆ ของโลก
2.บลุป ( Bloop)
มนุษย์เรามักค้นหาสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก ทั้งๆ ที่บนโลกของเรายังมีสิ่งมีชีวิตมากมายที่ยังลึกลับที่รอการค้นพบ โดยเฉพาะในทะเลที่มีมากถึง 95 % ของโลกที่เชื่อว่ามีอะไรซุกซ่อนอยู่ โดยเฉพาะบลุป
บลุป เป็นชื่อเรียกของเสียงความถี่ต่ำมากใต้มหาสมุทรซึ่ง องค์การสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ ( National Oceanic and Atmospheric Administration) ของสหรัฐอเมริกาสามารถตรวจจับได้ในช่วงฤดูร้อนของ 1997 บริเวณ ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ในมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณเส้นศูนย์สูตร ซึ่งใช้ระบบฟังเสียงใต้น้ำของนาวิกโยธินอเมริกาที่เดิมใช้ตรวจหาเรือดำน้ำของสหภาพโซเวียต สามารถจับเสียงของบลุปได้หลายครั้ง
NOAA ได้บรรยายว่าบลุปนั้นมีความถี่สูงขึ้นเรื่อยๆเป็นเวลากว่าหนึ่งนาที และเป็นเสียงดังในบริเวณกว้างพอที่เซนเซอร์จำนวนมากในระยะกว่า 5,000 กิโลเมตรสามารถตรวจจับได้ นักวิทยาศาสตร์ซึ่งได้ศึกษาบลุป ระบุว่าบลุปมีลักษณะเหมือนเสียงของสัตว์ แต่ไม่มีสัตว์น้ำชนิดใดที่เรารู้จักซึ่งสามารถสร้างเสียงเช่นนี้ได้ ถ้าเสียงนี้มาจากสัตว์ มันต้องเป็นมีขนาดใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินหลายเท่าตัว ซึ่งนั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์เริ่มตระหนักว่าในทะเลยังมีเรื่องลี้ลับอีกมากที่ไม่สามารถอธิบายได้
1. ศึกลอสแอนเจลิส( The Battle of Los Angeles)
ภาพยนตร์ The Battle of Los Angeles (2001) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับมนุษย์ส้กับเอเลี่ยน อาจเป็นแค่เรื่องบันเทิง หากแต่ความจริงแล้วในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งเคยมีเรื่องของมนุษย์สู้กับเอเลี่ยน และเหตุการณ์ดังกล่าวเรียกขานว่า The Battle of Los Angeles เหมือนกับภาพยนตร์
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณคืนของวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 1942 (ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ฐานทัพเรือเพิร์ล ฮาเบอร์ ( Pearl Harbor) และ แอลวูด( Ellwood) ถูกฝ่ายอักษะญี่ปุ่นโจมตีจนย่อยยับ) ที่ลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย จู่ๆ ก็มีฝูงยูเอฟโอรูปทรงกลมเรืองแสงปรากฏตัวเหนือน่านฟ้าของเมือง สัญญาณเตือนไซเรนดังไปทั่ว ทำให้พยานหลายคนในตอนนั้นตื่นมาเพื่อออกมาดูการปรากฏตัวของฝูงยูเอฟโอลึกลับดังกล่าว
ตอนแรกทางกองทัพเชื่อว่าเป็นเครื่องบินรบของฝ่ายอักษะญี่ปุ่น ทำให้มีการใช้ปืนต่อสู้อากาศยานระดมยิงตอบโต้ทันที กว่า 1400 นัด หลังสิ้นเสียงปืน ผลปรากฏว่าอาวุธของพวกเขาไม่สามารถทำอันตรายกับฝูงยูเอฟโอได้เลย อีกทั้งสะเก็ดของกระสุนปืนได้ตกลงบนพื้นดินทำลายบ้านเรือนและมีผู้เสียชีวิตจากลูกหลงจากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายราย ก่อนที่ยูเอฟโอจะหายอย่างลึกลับ
เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ เป็นเหตุการณ์สงครามยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์สู้กับมนุษย์ต่างดาว และเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของยูเอฟโอ
เป็นการจัดอันดับตามใจคนเขียน
อ้างอิงบางส่วนจาก
http://whatculture.com/history/10- unexplained-paranormal-events-that-changed-history.php
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
PS. หน้าไทย ใจญี่ปุ่น ปลื้มโอโนะ ไดซุเกะซัง หัวเทาพระเอก only