ตอนที่ 66 : บทที่ 66 หมื่นลมปราณดาราทมิฬ
บทที่ 66 หมื่นลมปราณดาราทมิฬ
ระหว่างที่มารเฒ่ากำลังคาดหวังกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น กับว่าที่ลูกศิษย์ผู้สืบทอดคนใหม่อยู่นั้น แต่ทว่าอาจารย์ไป่หลงกำลังคิดหาวิธีช่วยเหลือศิษย์รักของตนเองอย่างเต็มความสามารถ และยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง หากสามารถทำได้ในตอนนี้
ถึงขนาดเสนอตัวให้ทางระบบหลัก ZERO ทำการสแกนความคิด ความทรงจำของตนเองทั้งหมด เพื่อหาหนทางที่จะช่วยเหลือให้ได้เร็วที่สุด และยินดีทอดถ่ายองค์ความรู้แท้จริง ความเข้าใจของตนเองที่สะสมมายาวนานนับร้อยๆ ปี ให้ทางระบบหลักเช่นกัน แต่ก็ขอให้เก็บบางอย่างเป็นความลับเอาไว้ด้วย
เซเลเน่สัมผัสได้ถึงความจริงใจจากชายชราผู้นี้ ช่างเป็นคนที่เต็มไปด้วยน้ำจิตน้ำใจ ห่วงหาคนรักของเธออย่างแท้จริง ปฏิบัติกับลูกศิษย์ราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตนเองก็ไม่ปาน
ผิดกับชายชราอีกคนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ตรงข้ามอย่างสุดขั้ว
แถมดูเหมือนว่ากำลังแอบวางแผนอะไรบางอย่างที่เลวร้ายอยู่อีกต่างหาก แน่นอนว่า ไม่ว่าสองผู้เฒ่าตรงหน้านี้จะคิดอะไรอยู่ก็ตาม
เซเลเน่สามารถอ่านความนึกคิดของอีกฝ่ายได้ทั้งหมด 100% เพราะหนึ่งในความสามารถของพระเจ้าก็คือการอ่านใจ และอ่านความคิดของผู้คนได้ แต่เซเลเน่ไม่เคยอ่านความคิดของมากเมฆมาก่อน เพราะเป็นบุคคลเดียวที่เธอจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด เพราะแค่สบตาก็เข้าใจแล้ว
".. ทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ ได้แต่หวังพึ่งพาปาฏิหาริย์เท่านั้น .." อาจารย์ไป่หลงกล่าวออกมาด้วยความเหนื่อยล้าคล้ายกับแก่ชราลงมาอีกหลายสิบปี กับเรื่องราวที่ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิด จะกล่าวโทษสหายชราข้างๆ ก็เสียเวลาเปล่าๆ อีก
".. ในเมื่อไร้หนทางช่วยเหลือ ก็คงได้แต่พึ่งพาสวรรค์เท่านั้น .." มารเฒ่าแกล้งพูดและแสดงอารมณ์ที่คล้ายกับสหายรักไป่หลง แต่ในใจยังเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าชายหนุ่มคนนั้น จะต้องทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน แต่ก็ยังแอบห่วงและกังวลอยู่ลึกๆ เช่นกัน
".. ไม่มีอะไรแล้ว งั้นดิฉันขอตัวนะคะ .." เซเลเน่ได้แอบอ่านความทรงจำทั้งหมดของทั้งสองปรมาจารย์แล้ว และสร้างขึ้นมาในรูปแบบหนังสือสองเล่มที่บันทึกความทรงจำของทั้งสองคนเอาไว้ ปรากฏว่าไร้หนทางจริงๆ จึงไม่อยากจะเสียเวลาที่นี่อีกต่อไป และได้ส่งทั้งหมดกลับไปยังสถานที่ที่จากมา
พร้อมกับสลายร่างแยกความคิดของเธอเอง และให้ ZERO พารากไม้กลับมายังโลกเวทมนตร์ด้วย ส่วนเธอเองในเวลานี้ ได้ตัดสินใจเฝ้ามองชายหนุ่มคนรักจากทั้งภายในเกมและภายนอก พร้อมกับเข้าควบคุมเครื่อง DSX แบบเต็มที่ 100% ทุกอย่าง ควบคุมระบบทุกอย่างที่มีและประคองชีวิตชายหนุ่มคนรักของเธออย่างเต็มกำลัง ถึงต่อให้เครื่องต้นแบบระเบิดหรือถูกทำลายไปก็ตาม เธอก็ไม่สนใจ ขอแค่ให้มากเมฆรอดและปลอดภัยเท่านั้นก็พอแล้ว
กลับมายังมิติความคิดไร้สิ้นสุด
มากเมฆไม่ได้รับรู้เลยว่าได้สร้างปัญหาให้กับคนรอบข้างมากน้อยแค่ไหน และยังคงทำการสลายพลังลมปราณพลังชีวิตทั้งหมดของตนเองอย่างต่อเนื่องและเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดพลังลมปราณทั้งหมดก็หายไปจากร่างอย่างสมบูรณ์
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการและไร้อุปสรรคใดๆ จุดชีพจรทั้งหมดบนร่างกาย ได้รับการกระตุ้นพร้อมกับตอบรับและสามารถเปิดจุดชีพจรได้ทั้งหมด 100% ไม่เว้นแม้แต่ จุดชีพจรเป็นตาย หรือจุดพลังลับต่างๆ ที่มีมากมายมหาศาลและยากที่จะค้นพบ
ในเมื่อร่างกายได้รับการวางรากฐานใหม่ทั้งหมดแล้ว มากเมฆก็เริ่มที่จะฝึกฝนและควบคุมร่างกายของตนเองอีกครั้ง ให้ทำการโคจรกำลังภายใน และพัฒนาพลังลมปราณของตนเองต่อไป .. ตามลำดับที่ได้วางไว้ ...
โลกภายนอกภายในคฤหาสน์บนเกาะลอยฟ้า เขตปกครองพิเศษ ประเทศญี่ปุ่น
แน่นอนว่าในเวลานี้ที่โลกภายนอก เซเลเน่ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย แม้ว่าเธอจะมีองค์ความรู้ของแพทย์มากมายแค่ไหน ไม่ว่าเธอจะใช้พลังพิเศษใดๆ ที่เธอมีเข้าช่วยเหลือ หรือใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่สุดยอดเหนือล้ำเทคโนโลยีมากแค่ไหนก็ตาม ในตอนนี้มันเหมือนกับว่า เธอกำลังเฝ้ามองชายหนุ่มคนรัก เสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาอย่างช้าๆ เท่านั้น และในที่สุดชีพจรชีวิตและลมหายใจของชายหนุ่มก็หยุดนิ่งไป และไม่ตอบสนองใดๆ กับทุกสิ่งทุกอย่าง .. แม้แต่เครื่อง DSX ก็ไม่อาจจะ ..
ในระหว่างที่เซเลเน่เสียใจร้องไห้ออกมา กับความไร้พลังของเธอเอง แต่แล้วแค่เวลาไม่ถึง 3 วินาที หลังจากที่ลมหายใจสุดท้ายและชีพจรหัวใจของมากเมฆได้หยุดเต้นลงไป
อยู่ๆ พลังชีวิตและพลังลมปราณบริสุทธิ์ก็ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่อย่างฉับพลัน และรุนแรงอย่างมากจนแม้แต่ตัวเครื่อง DSX เริ่มได้รับความเสียหายอย่างมากจากภายใน
พร้อมกับตัวเครื่อง DSX ยังได้กระตุ้นให้ร่างกายของชายหนุ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล และยกระดับความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ อวัยวะทุกส่วนของร่างกายทุกอย่าง จนเหนือกว่ามนุษย์ปกติทั่วไปเป็นอย่างมาก จากสารเหลวระดับ S ต่างๆ ที่ถูกเพิ่มเติมลงไป และบางส่วนที่พัฒนาอย่างก้าวล้ำก็เพราะพลังพิเศษของเซเลเน่ก็มีผลด้วยเช่นกัน และดูเหมือนมากเมฆจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
และเมื่อได้รับการกระตุ้นและพัฒนากล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบช่วยเหลือต่างๆ ของเครื่อง DSX อีกแรงแบบยกกำลังแบบ 100% ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายของมากเมฆ เหนือมนุษย์มากขึ้นไปอีกหลายระดับ จนในตอนนี้มันได้ถึงระดับที่น่ากลัวเป็นอย่างมากไปแล้ว เพราะในตอนนี้จะเรียกว่ายอดมนุษย์ก็คงไม่ได้อีกแล้ว
เพราะคำอธิบายเพียงอย่างเดียวสำหรับคนคนนี้ จากปากของเซเลเน่เอง ผู้เฝ้ามองชายหนุ่มอย่างละเอียดและเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความดีใจ
".. ไอบ้าเอ๊ย .." เซเลเน่พูดออกมาเสียงดัง ไม่ได้ห่วงสวยอะไรเลยที่โลกภายนอก แถมยังกอดเจ้าเครื่อง DSX แทนการกอดชายหนุ่มที่กำลังหลับใหลอยู่ภายในอย่างเต็มรัก
และรอยยิ้มของเธอในเวลานี้ก็งดงามอย่างมาก แม้แต่คุณพ่อเทเวศร์ที่เป็นห่วงเฝ้ามองดูลูกสาวร้องไห้จากระยะไกลอย่างเจ็บปวด ยังรู้สึกมีความสุขไปด้วยเลยในตอนนี้ และคาดโทษมากเมฆเอาไว้อย่างหนักอีกด้วย หากรอดมาได้จากเหตุการณ์ที่ทำให้บุตรสาวของตาเฒ่าผู้นี้ต้องร้องไห้เสียใจ
ดูเหมือนว่ารูปร่างหน้าตา และร่างกายส่วนต่างๆ ของมากเมฆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง
ถึงขนาดที่กระดูกและโครงสร้างต่างๆ ยังได้รับผลกระทบไปด้วย ความมหัศจรรย์ของพลังลมปราณบริสุทธิ์ที่ได้รับมาใหม่นี้ มีคุณสมบัติเหนือกว่าความเข้าใจในปัจจุบันอย่างมาก
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เซเลเน่ต้องหยุดนิ่งและแข็งค้างหลังจากที่ดีใจได้ไม่นาน และเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ ในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เซเลเน่สัมผัสได้ถึงพลังงานลึกลับบางอย่าง ที่หลากหลายและแปลกประหลาดกันออกไป จากรูปแบบพลังงานต่างๆ ในจักรวาลแห่งนี้ที่เธอรู้จักเกือบทั้งหมด
มันเป็นรูปแบบพลังงานพิเศษที่แม้แต่เธอ ก็ยังไม่เคยสัมผัสหรือค้นพบมาก่อน และในตอนนี้บนหน้าจอแสดงผลของเครื่อง DSX กำลังแจ้งเตือนว่า ทุกรูปแบบพลังงานในแบบต่างๆ ที่หาค่าไม่ได้เหล่านี้ ทั้งหมดของมากเมฆในปัจจุบัน
เจ้าเครื่อง DSX มันกำลังพยายามจะส่งรูปแบบคลื่นพลังงานที่ตรวจสอบได้เล็กน้อย ของค่าพลังงานพิเศษเหล่านี้ออกไปยังภายนอก โดยไม่ขออนุญาตเธอเลยแม้แต่น้อย
แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกเซเลเน่ยับยั้งเอาไว้ทั้งหมด เพราะหากพลังงานแปลกประหลาดเหล่านี้ ที่แม้แต่เธอยังหาค่าไม่ได้ และไม่เป็นที่รู้จักมากมาย ถูกส่งไปตรวจสอบและวิจัยโดยทีมผู้สร้าง GOD และหน่วยงานต่างๆ ของทางสามมหาอำนาจแล้วละก็ อาจจะส่งผลเสียร้ายแรงกับชายหนุ่มคนรักของเธอก็เป็นไปได้
เรื่องแบบนี้เซเลเน่จะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด และทำการตัดไฟแต่ต้นลมในทันที
กลับมายังมิติความคิดไร้สิ้นสุดอีกครั้ง
มากเมฆรับรู้ได้ถึงพลังงานประหลาดและรูปแบบคลื่นพลังต่างๆ ที่ตนเองได้รับ ก็อดประหลาดใจไม่ได้ และไม่รู้ว่าพลังพิเศษเหล่านี้มาจากไหน แต่แล้วอยู่ๆ กับได้ยินเสียงของชายชราที่ชอบบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ พูดขึ้นมาอย่างเหนื่อยๆ
".. จะบอกว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะ ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก แต่หากจะบอกว่าเจ้าเป็นไอบ้า อันนี้มั่นใจเลยละ ฮ่าฮ่า .." บรรพบุรุษเมฆาเทพพูดบอกพร้อมกับหัวเราะ ชอบใจ แต่น้ำเสียงก็ดูเหมือนจะเหนื่อยๆ ยังไงก็ไม่รู้
พร้อมกับตรวจสอบพลังและคุณสมบัติต่างๆ ที่มากเมฆได้รับจากอีกมิติ ชายชราก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ และไม่คาดหวังว่าบุตรหลานทายาทของตนเอง จะได้รับมันมา พลังที่ไม่ควรจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ควรเลยจริงๆ
เพราะพลังพิเศษต่างๆ ที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นหลังจากที่ตายไป 1 ครั้งของมากเมฆ มันเป็นหนึ่งในสามของมหาพลังพิเศษพื้นฐานที่สุดแสนจะคดโกงของท่านบรรพบุรุษเมฆาเทพนั่นเอง
พลังพิเศษที่ตรวจพบประกอบไปด้วย
กายาลี้ลับบรรพกาล
ประกอบไปด้วยพลังและคุณสมบัติหลากหลายมากมาย และมันคือกายากายเนื้อของพระเจ้าลี้ลับบรรพกาล
- สามารถดูดซับพลังงานทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว มาเป็นแหล่งพลังงานสะสมภายในร่างกาย ราวกับเป็นมิติหนึ่งจักรวาล ได้โดยไม่จำกัดปริมาณและเงื่อนไขพร้อมกับควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
- สามารถพื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วราวกับมีกายาเทพอมตะ ทนทานกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นภัย และพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายอยู่ตลอดเวลาที่ได้รับความเสียหาย แบบจิตๆ
- จุดชีพจรต่างๆ บนร่างกายทั้งหมดถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์ ได้รับพลังพิเศษที่ยากจะเข้าใจเฉพาะบุคคล เช่น พลังในการควบคุมทุกสรรพสิ่ง หรือ พลังในการย้อนคืนเวลาของสรรพสิ่ง เป็นพลังแบบสุ่ม
- กายาลี้ลับสามารถใช้ออกและควบคุมทุกรูปแบบพลังงานที่มีทั้งภายในภายนอกได้ โดยแค่ใช้จิตสำนึกในการสัมผัสและความนึกคิดเท่านั้น ทุกรูปแบบ พลังงานสสารไร้รูปได้โดยไร้เงื่อนไข และไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับร่างกายราวกับคดโกง
สัมผัสลี้ลับบรรพกาล : สามารถใช้จิตสัมผัสรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายได้ทั้งหมดทั้งมวลทั้งในที่แจ้งและที่ลับ และยังสามารถใช้สัมผัสพลังพิเศษในการควบคุมพลังและวัตถุต่างๆ ได้ทุกอย่าง 100% มีรูปแบบพลังลี้ลับในตัวเองที่ยากจะเข้าใจเฉพาะบุคคล เช่น ควบคุมความคิดของผู้คน อ่านใจ อ่านความทรงจำ สามารถพัฒนาได้ไม่จำกัด เป็นพลังจากยุคอดีตกาลอันห่างไกล
บรรพบุรุษเมฆาเทพตรวจสอบสิ่งต่างๆ ที่มากเมฆได้รับจนแน่ใจ แต่ก็มิได้บอกหรือแนะนำอธิบายอะไรให้ชายหนุ่มได้รับรู้แม้แต่น้อย เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเองเท่านั้น
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้บรรพบุรุษเมฆาเทพไม่สบายใจอย่างมาก ก็คือการที่มีพลังมากมายที่มากเกินไป อาจจะนำหายนะมาสู่ตัวเองก็เป็นได้ เช่นเดียวกับตอนที่มากเมฆยังเป็นเด็ก และถูกคนในตระกูลเมฆาเทพ
ที่เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน สายเลือดเดียวกันแท้ๆ ทำการแย่งชิงเอาพลังพิเศษบางอย่างออกไป และถูกกระทำราวกับเป็นขยะที่ใช้แล้วทิ้ง หลังจากที่หมดคุณค่าและสูญเสียพลังพิเศษทุกอย่างไปในครั้งนั้น
มากเมฆได้ยินเสียงหัวเราะและคำพูดของท่านปู่บรรพบุรุษเมฆาเทพ ก็ได้แต่อมยิ้มตอบกลับเท่านั้น และยอมรับว่าเขาเองอาจจะบ้าจริงๆ นั่นละ ถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้ได้
แต่ในความคิดของมากเมฆนั้น รู้ดีว่ายังไงเขาเองก็ไม่มีวันที่จะตายด้วยเรื่องแค่นี้เด็ดขาด
เพราะเขาได้คำนวณทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว และด้วยความเข้าใจอันลึกซึ้งเหนือใครเกี่ยวกับพลังลมปราณโบราณทั้งสอง และจุดชีพจรต่างๆ บนร่างกายของตนเอง ทำให้มากเมฆกล้าเลือกและตัดสินใจทำในสิ่งที่ต้องการอย่างไม่ลังเลใดๆ และยอมรับในผลที่เกิดขึ้นหากมันได้เกิดผิดพลาดขึ้นมา
คนเรานั้นเหมือนกันก็จริง แต่จะมีบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นก็คือ ความกล้า..
มากเมฆเลิกสนใจสิ่งรอบข้าง และหันกลับมาฝึกฝนพลังลมปราณของตนเองใหม่อีกครั้ง โดยนำเอาหลักข้อสำคัญของวิชาและเคล็ดลับพื้นฐานที่ตนเองค้นพบ ของวิชาลมปราณต่างๆ ที่เคยเรียนรู้นำมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน และสร้างขึ้นมาใหม่ให้เป็นพลังลมปราณเฉพาะของเขาเอง
1,320 ปีต่อมาในมิติความคิดไร้สิ้นสุด มากเมฆหลอมรวมพลังต่างๆ ที่จิตสัมผัสได้จนสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นพลังลมปราณ พลังเวทมนตร์ พลังธรรมชาติ พลังจิต พลังวิญญาณ และพลังงานในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกค้นพบและสัมผัสได้จากสัมผัสลี้ลับบรรพกาลของเขา
โดยการหลอมรวมและทำลาย ทำลายและหลอมรวม สร้างใหม่ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ จนสำเร็จเป็นหนึ่งเดียว และก่อให้เกิดพลังพิเศษรูปแบบใหม่ที่มาจากรากฐานของพลังลมปราณเคลื่อนพิภพและพลังลมปราณจักรวาลลึกล้ำ ผสมผสานกับพลังงานรูปแบบต่างๆ ที่เข้าถึงได้
มากเมฆตั้งชื่อให้กับพลังใหม่นี้ว่า : หมื่นลมปราณดาราทมิฬ
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการสร้างวิชาลมปราณและหลอมรวมขึ้นมาใหม่ได้ จนมีอานุภาพที่น่าหวาดหวั่นจนแม้แต่บรรพบุรุษเมฆาเทพ ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความพยายาม ความคิดสร้างสรรค์อันแปลกประหลาด หลุดกรอบเหนือมนุษย์ของมากเมฆเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ท่านบรรพบุรุษเมฆาเทพ จะไม่ได้เฝ้ามองการฝึกฝนเรียนรู้ ทั้งหมดของลูกหลานตนเองอยู่ตลอดเวลา
และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสร้างรูปแบบพลังลมปราณที่น่าหวาดหวั่นนี้ขึ้นมาได้อย่างไรก็ตาม แต่มันก็ชวนให้ท่านบรรพบุรุษเมฆาเทพ คิดถึงวันเวลาที่ผ่านมา เมื่อครั้งยังอ่อนแอและไร้ความสามารถ ราวกับกำลังมองกระจกเงาสะท้อนของตัวเองในตัวของมากเมฆยังไงอย่างงั้น
กลางทะเลสาบสวยงาม ของเกาะสวรรค์รังสรรค์ที่ห้า ภายในมิติพระเจ้าเมฆมายา
ชายหนุ่มมากเมฆเริ่มโคจรพลัง หมื่นลมปราณดาราทมิฬกับร่างกายของตนเอง ทั้งภายในเกมและภายนอกพร้อมๆ กันอย่างรวดเร็ว กับส่งผลให้กระบี่เหล็กทั้งสองที่อยู่ในมือของร่างจิตเมฆลอยล่อง ถึงกับแตกสลายไม่เหลือชิ้นดีระเบิดหายกลายเป็นฝุ่นผงในพริบตา
แต่ร่างจิตเมฆลอยล่อง ก็ยังคงร่ายรำกระบวนท่ากระบี่ต่อไปอย่างงดงามดุจเทพเซียน มิได้หยุดพักหรือสะดุดแต่อย่างใด ราวกับไม่ได้รับรู้เลยว่ากระบี่ในมือไม่มีอีกแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังได้เปลี่ยนนิ้วมือของตนเอง ให้กลายเป็นกระบี่แทนอย่างเป็นธรรมชาติอย่างกลมกลืน
แม้แต่ชุดและเสื้อผ้าที่สวมใส่ยังได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้ ยังดีที่มันเป็นไอเทมชุดเชคที่ไม่สามารถทำลายได้ เพราะเป็นชุดเวทอมตะจิตมายาไอเทมระดับสูงในตำนาน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น มันก็ยังเสียหายอย่างหนักและขาดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนกัน
พร้อมๆ กับร่างกายภายในเกมของมากเมฆ ได้เกิดแสงสว่างสีทองที่กำลังเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของเขา ให้เหมือนกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองที่โลกภายนอกทุกอย่าง แต่ยังคงสีของดวงตาและสีผมเอาไว้เช่นเดิม สีเงิน และยังดีที่เสื้อผ้าไม่ได้ถูกทำลายไปด้วยทั้งหมด ไม่อย่างงั้นเซเลเน่และผู้ติดตามกว่า สองหมื่นกว่าคนที่กำลังเฝ้าดูอยู่ อาจจะได้เห็นเนื้อหนัง 18+ ของชายหนุ่มก็เป็นได้
และการที่กระบี่เหล็กคุณภาพสูงระดับ A ยังแตกสลายออกเป็นชิ้นๆ กลายเป็นฝุ่นผงในพริบตาได้ ทำให้ผู้สร้างอาวุธอย่างลุงคนแคระ โลเวอร์ คาอิน ช่างตีเหล็กในตำนานและเป็นผู้สร้างอาวุธระดับตำนานมากมาย ถึงกับพูดไม่ออกและตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็นพอสมควร ของพลังประหลาดของนายท่านมากเมฆอย่างมาก
ในขณะเดียวกันสำหรับที่โลกภายนอกในเวลานี้ เจ้าเครื่องต้นแบบ DSX มันได้เสียหายอย่างหนัก และอาจจะออนไลน์ต่อไปได้อีกไม่นานนักจากนี้แล้ว เพราะความเสียหายจากระลอกคลื่นพลังลมปราณและพลังพิเศษต่างๆ ที่ปลดปล่อยออกมามันรุนแรงต่อเนื่องมากเกินไป
ทั้งๆ ที่เจ้าเครื่อง DSX เครื่องรุ่นต้นแบบเครื่องนี้ มันสามารถทนทานได้แม้แต่จรวดมิสไซล์ข้ามทวีปด้วยซ้ำ
แต่ในเวลานี้มันได้เสียหายเกินกว่าที่จะใช้งานได้อย่างปกติแล้ว และทำให้ระบบต่างๆ เสียหายจนไม่อาจจะซ่อมแซมตัวเองได้ ทำให้มากเมฆเหลือเวลาออนไลน์ แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็คงมากพอให้มากเมฆสะสานภารกิจที่เหลือทั้งหมดได้ก่อนที่จะออกมา
ภายในมิติความคิดไร้สิ้นสุดมากเมฆยังคงฝึกฝนต่อไป และเริ่มที่จะนำเอาวรยุทธ์ต่างๆ ที่เคยร่ำเรียนมาและฝึกฝนทั้งหมดมาก่อนหน้านี้ อย่างวิชาไม้เท้าเงาลม เพลงกระบี่พื้นฐานทั้งสาม และเพลงมวยต่างๆ รวมไปถึงวิชาตัวเบา ออกมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน และคิดที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยใช้สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน ให้เหมาะสมกับตัวเขาเองมากที่สุด ไหนๆ ก็ไหนๆ จะไปก็ต้องไปให้สุดทาง !!!
โดยทั้งที่ในตอนแรกความตั้งใจดั้งเดิมของเขา ก็แค่อยากจะลองฝึกฝนเพลงวิชากระบี่เท่านั้นแท้ๆ ....
ก็อย่างว่าเวลาคนเราทำอะไรแล้วติดลม จะลงมันก็ยากเหลือเกินเช่นกัน !!??
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มาก
55555 ติดลมตลอดดดดด
รอดูว่ามากเมฆจะได้เป็นผู้นำโลกมืดไหม
คิดอกุศลซะแล้ว ชอบมากกกมาไวๆน่าาาค่าาา
เอ้ยยยย!! จักรวาลแด่เพียงผู้เดียว!!!
ที่รวมทุกอย่างในด้านมืดไว้ในโลกอย่างแท้จริง ก่อตั้งโดยมากเมฆโดยเอากลุ่มที่ได้มาจากตาเฒ่ามาเข้าร่วมและมีบอสใหญ่เพียงคนเดียว