ตอนที่ 307 : บทที่ 307 พระเจ้าพิโรธ ผู้หญิงหาใช่ของเล่น ตอน จบ
บทที่ 307 พระเจ้าพิโรธ ผู้หญิงหาใช่ของเล่น ตอน จบ
กระแสโซ่พลังนับหมื่น ๆ เส้นสาย ได้ปรากฏออกมาจากมิติอากาศโดยรอบ อย่างน่าสะพรึงกลัวและเต็มไปด้วยแรงกดดันอันไม่ธรรมดา
กลางท้องนภากว้างไกลอย่างรวดเร็วในชั่วพริบตา จนมิอาจจะมองได้ทัน พวกมันทั้งหมดได้หยุดเรือเหาะที่กำลังบิน ด้วยความเร็วสูงสุดยอดเอาไว้อย่างง่ายดาย โดยไม่เกิดความเสียหายใด ๆ แม้แต่น้อย
และโซ่พลังเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งธาตุธรรมชาติอันป่าเถื่อนแรกเริ่ม ในยุคแรกแห่งเทพบรรพกาลได้อุบัติขึ้น ไม่ว่าจะเพลิงสวรรค์แห่งบรรพกาล สายฟ้าพิโรธแห่งความโกรธแค้นจากนรก และธาตุพลังน้ำแข็งนิรันดร์อันร้ายกาจเองก็มี
เพียงแค่คนทั้งหมดบนเรือเหาะและแม้แต่เย่เทียนหลงเอง ได้ลองสัมผัสกับพลังที่ว่าเพียงเล็กน้อยที่หลุดลอยออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ต่างก็หวาดกลัวและไม่กล้าที่จะอยู่ใกล้ ๆ โซ่กระแสพลังเหล่านี้แม้แต่น้อย
ในขณะเดียวกัน
กระแสโซ่พลังทั้งหมดได้พันธการ และกลายเป็นโซ่ตรวนของเย่เทียนหลง ตามความต้องการของมากเมฆผ่านการนึกคิด
จนหมดอีกฝ่ายหมดอิสรภาพ ในการเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง ไร้โอกาสในการต่อต้านตอบโต้สักนิดก็ยังไม่มี
แสดงให้เห็นถึงความต่างของพลังที่เหนือชั้นกว่ากันมาก หลายหมื่นขุม
เย่เทียนหลงกลายเป็นแค่นักโทษประหาร ที่รอคอยคำตัดสินเท่านั้น ถูกทรยศ ถูกจับ ถูกทำให้อับอายอย่างที่สุด
แต่ด้วยนิสัยที่หยิ่งผยอง ยโสถือดีเป็นที่สุดตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน ในฐานะอ๋องน้อยผู้มากด้วยอำนาจ
อ๋องน้อยเย่เทียนหลงไหนเลยจะยอมรับความพ่ายแพ้ได้ ดังนั้น ตัวมันจึงได้กล่าวคำพูดออกมามิได้หยุด อย่างท้าทายไม่เห็นหัวใคร ไม่รู้จักความตายยังไงอย่างงั้น หมายตั้งใจจะใช้พลังอำนาจของตระกูลเย่โบราณ อันทรงพลังและแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบของทวีปพยัคฆ์ทมิฬ กดดันให้อีกฝ่ายลามือและปล่อยตนเองไป ด้วยวาจาปากเปล่าไร้ราคา
".. เจ้าสวะปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าไม่รู้หรือไงว่าพระบิดาข้าเป็นใคร และพวกเจ้าทั้งหมดที่ทรยศข้าในวันนี้ ข้าเย่เทียนหลงจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกสักครั้ง ปลดโซ่พลังเหล่านี้ให้กับข้า ไม่อย่างงั้นต่อให้ข้าตายไป พระบิดาของข้าจะต้องลงมือกับครอบครัว ญาติพี่น้อง คนรัก ของพวกเจ้าแน่ ๆ ปล่อยข้าไปบัดเดี๋ยวนี้หากไม่อยากตาย .."
แน่นอนว่าเหล่าผู้ติดตามเซียนสวรรค์ของเย่เทียนหลง มีความลังเลปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง
หลังจากได้ยินคำขู่ของอีกฝ่ายเต็มสองหู ทว่าก็เท่านั้น คนทั้งหมดล้วนแล้วแต่รู้ดีอะไรคือสวรรค์และอะไรคือนรก เอาแค่ระดับพลังที่สัมผัสได้จากชายที่ชื่อมากเมฆ และประตูมหานรกที่เปิดคอยท่าอยู่ใกล้ ๆ ต่อให้โง่แค่ไหน ก็น่าจะคิดได้และฉลาดเป็นสักครั้งในชีวิตกับสิ่งที่ต้องเลือก
".. เจ้ารู้ความผิดของตัวเองหรือไม่ .." มากเมฆกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้ง
".. ข้าเย่เทียนหลงตั้งแต่เกิด ไม่เคยทำผิดต่อใคร มีแต่พวกเจ้าที่ผิดต่อข้า .." เย่เทียนหลงยังไม่ลดความอหังการ
".. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง หากเจ้ามีเรื่องกับเรามากเมฆเฉย ๆ ก็คงไม่เป็นไร แต่เจ้าผิดที่ทำร้ายอิสตรีไปมากมาย พวกนางหาใช่ของเล่น การกระทำของเจ้า ทำให้เราพิโรธอย่างแท้จริง และยังคิดไม่ซื่อกับคนของเราอีก ดังนั้น สวะยิ่งกว่าขยะที่นำกลับมาใช้ใหม่ อะไรไม่ได้อย่างเจ้าเย่เทียนหลง ก็สมควรรับผลกรรมไปตามที่ก่อแล้ว .."
มากเมฆยกไม้ยกมือตวัดไปมาในอากาศ ก่อนที่เจ้าสารเลวเย่เทียนหลงจะถูกยกให้ลอยขึ้นจากชั้นดาดฟ้าเรือ ด้วยโซ่กระแสพลังอย่างรวดเร็ว แขนขาของมันได้ถูกดึงอย่างแรง ถูกตรึงยังกับมนุษย์ปลาดาว จำต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวดไม่ขาดสาย
สองขาแยกออกจนมิอาจจะปกปิด หรือป้องกันจุดยุทธศาสตร์ของมนุษย์เพศชายเอาไว้ได้
ก่อนที่จะถูกโซ่กระแสพลังเพลิงนับสิบ ๆ เส้นโดยรอบ ฟาดไปยังของสงวนของลับอย่างไม่ปราณี
จนอวัยวัยวะสืบพันธุ์อันใหญ่โตของเย่เทียนหลง ถึงกับลุกไหม้ มีเปลวเพลิงสีแดงอยู่รอบ ๆ บริเวณใต้ท้องน้อย
เสียงกรีดร้องปานจะขาดใจ ปานจะเสียสาวของเย่เทียนหลง ดังออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับคำด่าว่าอีกสารพัดให้ได้ยิน
จากชายหนุ่มรูปงามนายนึง อ๋องน้อยผู้หล่อเหลาดูดีในวันวานที่เคยมี
ทว่าในเวลานี้ ได้กลายเป็นตัวประหลาดและตัวตลก ของใครต่อใครบนเรือเหาะไปแล้วโดยสมบูรณ์
".. สารเลว แน่จริงเจ้ากับข้ามาสู้กัน มาสู้กัน เจ้าใช้วิธีการสกปรกแบบนี้กับข้าไม่ได้ ไอ้พวกสารเลว พวกเจ้าขำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้ แน่จึงมาสู้กันสิวะ .." เย่เทียนหลงยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
ก่อนจะมองไปยังอวัยวะเพศของตัวเองที่เคยใหญ่โต และเต็มไปด้วยความมั่นใจมาตลอดหลายสิบปีในเรื่องบนเตียง ทว่าในเวลานี้อะไรที่เคยยาวเคยใหญ่นั้นกำลังติดไฟลุกไหม้ จนแม้แต่อัณฑะเองก็ยังติดไฟไปด้วย สร้างความเจ็บปวดและทรมานให้กับตัวมันเองอย่างสุดแสน
น้ำตาอาบแก้มไม่เหลือสภาพของคนปกติเลยสักนิด
แถมมือทั้งสองที่เคยใช้บีบบังคับ ใช้จับของสงวนของผู้อื่นตามใจมาตลอด มากเมฆยังลงทัณฑ์ด้วยการใช้โซ่น้ำแข็งแซ่มือทั้งสอง จนเนื้อตายถูกความเย็นกัดกินกลายเป็นสีดำ ก่อนที่จะขาดและหลุดออกมาในที่สุด สร้างความเจ็บปวดให้กับเย่เทียนหลง จนระยะหลัง ๆ เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ร้องไห้เรียกหาพ่อหาแม่ยังกับเด็ก ๆ แต่ทว่ามากเมฆกับไม่มีความสงสารใด ๆ ให้กับอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
".. เจ้าเจ็บปวด ร้องไห้ แต่ไม่รู้สึกผิด แค่นี้ยังไม่พอหรอกนะ สารเลวอย่างเจ้าเย่เทียนหลง สมควรได้รับมากกว่านี้ .." มากเมฆยิ้มเย็นบาง ๆ จนเห็นฟันขาว ก่อนที่จะใช้โซ่กระแสพลังธาตุน้ำแข็งและธาตุวารีที่ผสมกับเกลือจำนวนมาก ฟาดไปยังของสงวนของลับของเย่เทียนหลงอีกนับสิบ ๆ ครั้งแบบไม่มียั้ง
จากที่ของลับกำลังถูกเผาไหม้ อยู่ ๆ ก็ถูกแช่แข็งอย่างสมบูรณ์
สร้างประสบการณ์ความเจ็บปวดร้อนและเย็น แบบสุดขั้วให้กับเย่เทียนหลงจนเกือบจะเป็นบ้า ถูกเผาจนไหม้ยังไม่พอ ยังจะมาถูกแช่แข็งอีกให้ทรมานเล่น พร้อมกับบาดแผลต้องมาสัมผัสกับน้ำเกลือเข้าให้อีก จนบริเวณนั้นของเย่เทียนหลงถึงกับเจ็บปวดแสบร้อน และหนาวเย็นจนชา ปวดร้าวไปถึงกระดูกภายใน
แต่ทว่ามันยังไม่จบ
โซ่กระแสพลังนับสิบ ๆ ธาตุพลัง ต่างก็ฟาดไปยังของลับของเย่เทียนหลงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุดนานหลายชั่วโมง
เผชิญกับสารพัดความเจ็บปวดแบบคอมโบต่อเนื่อง และการผสานผลลัพธ์ของความเจ็บที่เรียกได้ว่า ขอตายยังจะดีกว่าหากทำได้
จนสุดท้ายด้วยการโจมตีไปเรื่อย ๆ ที่เน้นสร้างความเจ็บปวดทรมานเป็นหลัก ไม่กะเอาถึงตายอะไร
แต่ด้วยอวัยวัยวะสืบพันธุ์ของเย่เทียนหลงก็มิอาจ จะทนได้นานกว่านี้ จนในที่สุด มันก็ขาดและหลุดออกมาทั้งพวงสวรรค์ลงสู่พื้น พร้อมกับเลือดที่สาดกระจายและกลิ่นเหม็นเน่าที่เกินกว่าจะรับไหว แม้แต่อัณฑะเองที่ดำจนไหม้เกรียม ก็ขาดและหลุดออกมาพร้อม ๆ กัน ไม่มีเหลือทั้งต้นและตอให้ได้เห็น ประกอบกับเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายในชีวิต ของเย่เทียนหลง ที่เจ็บปวดอย่างกับคนบ้าที่จิตใจแตกสลายก่อนจะเงียบหายไป
แต่ไหนเลยความตายจะเป็นจุดจบของผลกรรมที่มันได้ก่อ ..
มากเมฆสร้างวังวนแห่งความทุกข์ยากขึ้นมา คืนชีพให้กับเย่เทียนหลงและสร้างลำดับเวทมนตร์ให้ทำงานแบบโปรแกรมอัตโนวัติ ควบคุมโซ่กระแสพลังฟาดไปยังของลับ และทรมานเจ้าสารเลวนี่อย่างต่อเนื่องเป็นการเฉพาะ
และวังวนแห่งความทุกข์ยากที่ว่า จะคงอยู่ไปตลอดนับพันล้านปีและไม่มีวันถูกทำลายได้ ไอ้พวกที่ชอบขมขืนทำร้ายความบริสุทธิ์ของผู้หญิง เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นเป็นเครื่องมือ จะต้องเจอแบบนี้ถึงจะสาสมกับสิ่งที่พวกมันได้ทำ
ก่อนที่มากเมฆจะจับเย่เทียนหลงโยนเข้าไปในประตูมหานรก ให้ได้รับทุกข์และการลงทัณฑ์ไปเรื่อย ๆ หนักยิ่งกว่าที่ ZERO โดนเสียอีกยาวนานนับเป็นนิรันดร์ จนกว่าดวงวิญญาณจะแตกสลายไปเองโดยสมบูรณ์อย่างแท้จริง แต่หากเหลือเพียงเศษเสี้ยว 0.0001% พลังแห่งกฎเกณฑ์มหานรก จะคืนชีพและนำเย่เทียนหลง กลับมาทรมานต่อไปอย่างไม่มีวันจบ
".. ข้ายอมแล้ว ให้ข้าเป็นทาสเป็นหมูเป็นหมาก็ได้ ข้ายอมแล้วนายท่าน ข้ายอมแล้ว ปล่อยข้าไปเถอะ .." เย่เทียนหลงที่กำลังจะถูกจับโยนเข้าไปด้านในประตูมหานรก เพื่อรับผลกรรมที่ได้ก่อแบบเต็มรูปแบบ
".. ดวงจิตวิญญาณที่ดำมืดอย่างเจ้า หาได้มีวันที่จะสำนึกได้ ไปเสียเถอะ รับผลกรรมที่เจ้าได้ก่อ .." มากเมฆโยนอีกฝ่ายเข้าไปในประตูมหานรกโดยไม่ลังเลด้วยการขยับนิ้วเบา ๆ
ก่อนที่ประตูมหานรกจะรู้งาน ดูดกลืนเจ้าสารเลวเย่เทียนหลงเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ทันได้ผ่านประตูเลยด้วยซ้ำ เย่เทียนหลงก็ถูกคมดาบของมหานรก ฟันเข้าจนร่างกายขาดเป็นชิ้น ๆ และถูกลากเข้าไปประกอบใหม่ด้านใน จนกลายเป็นตัวประหลาด คนก็ไม่ใช่อสูรก็ไม่เหมือน และรับโทษทัณฑ์เป็นเวลานิรันดร์ไปอย่างถาวร
มากเมฆหันไปมองคนอื่น ๆ บนเรือเหาะ คนพวกนี้เองก็ทำเรื่องชั่วมาเยอะอยู่มากเช่นกัน
แต่ด้วยความเมตตาของพระเจ้าผู้ใจกว้างและอารี เขาจึงได้เสนอทางรอดให้กับทุก ๆ คนว่า ".. หากเดินเข้าไปในประตูมหานรกด้วยตนเอง อย่างมากก็ถูกทรมาน 1 พันปี แล้วกลับมาเกิดใหม่ได้ แต่หากไม่!! และถูกเรามากเมฆจับโยนเข้าไป พวกเจ้าจะมีชะตากรรมเช่นเดียวกับเย่เทียนหลง รับโทษทัณฑ์ไปชั่วนิรันดร์ เลือกเอามีเวลาให้ตัดสินใจ 10 ลมหายใจเท่านั้น .."
น้ำเสียงที่เมตตา แต่กับแฝงไปด้วยความเย็นชาของอสูรร้ายจากมหาขุมนรกอย่างแท้จริงกล่าวบอก
เหล่าข้ารับใช้ที่เหลือต่างสะพรึงกลัว สุดหัวใจจนไปถึงจิตวิญญาณแท้จริง และรู้วาจุดจบได้มาถึงแล้ว
เพราะต่อให้รอดกลับไปได้ในวันนี้กลับไปอย่างปลอดภัย สุดท้ายก็คงถูกตระกูลเย่โบราณอันป่าเถื่อน สังหารให้ตกตายไปพร้อม ๆ กับท่านอ๋องน้อยอยู่ดี รวมไปถึงครอบครัวและมิตรสหายเองก็คงไม่รอด
มิสู้เลือกได้รับการลงทัณฑ์เพียง 1 พันปีในนรก และยังมีหน้าว่าทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่กับไม่รอดพร้อม ๆ กับท่านอ๋องน้อยในหน้าที่ของตน บางทีครอบครัวและญาติมิตรอาจจะรอดก็เป็นได้ แม้ว่าจะโง่แค่ไหน ยังไงก็ต้องคิดได้และเลือกทางที่ต้องเลือก
สุดท้ายเหล่าผู้ติดตามของเย่เทียนหลงทั้งหมด ไม่ว่าจะมีพลังในระดับใด ๆ ก็ตามที่อยู่บนเรือเหาะ ต่างก็กระโดดเข้าไปในประตูมหานรก ด้วยตัวเองอย่างยินยอมพร้อมใจ
จนเหลือเพียงหญิงสาวที่น่าสงสาร ที่ถูกนำออกมาในภายหลัง พวกนางนั้นงดงามมาก เป็นเทพธิดาที่สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ แต่ทว่าจิตใจและดวงวิญญาณได้เสียหายไปหมดแล้ว กลายเป็นเพียงตุ๊กตาตามสั่งเท่านั้น พวกเธอถูกวางยาหลอมประสาทรับรู้ ถูกกระทําชําเราจนจิตใจแตกสลาย แน่นอนว่าหญิงสาวเหล่านี้ทั้งหมดในอนาคต ก็คงจะเป็นเหมือน ๆ กับเทพธิดาดอกไม้สีขาว ..
มากเมฆอดเห็นใจพวกนางไม่ได้ ก่อนที่จะใช้พลังของตนเองถามจิตใต้สำนึกของพวกนางทีล่ะคน
ก่อนจะได้คำตอบว่าทั้งหมดอยากจะตายไปเสียให้พ้น ๆ อยากจะหายไปจากโลกหล้าใบนี้ .. และเกิดใหม่อีกครั้ง ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุขหากเป็นไปได้ และขอให้ใครสักคนปกป้องพวกเธอด้วยใจจริง อย่าได้ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้อีกเลยและตลอดไป
ด้วยเหตุนี้มากเมฆจึงได้ใช้เปลวเพลิงแห่งการแปรเปลี่ยน พลังอำนาจของพระเจ้าที่ตนเองมี ลบความทรงจำเก่าก่อนให้หมดไป นับจากนี้ดวงวิญญาณแท้จริงของพวกนาง จะนับหนึ่งใหม่อีกครั้งโดยสมบูรณ์ ไม่มีอดีตชาติที่ผ่านมาและเริ่มต้นมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ภายในโลกสุริยาโบราณพงพนาเช่นเดียวกับหญิงสาวคนอื่น ๆ ที่โชคร้าย ในฐานะหญิงสาวคนนึงที่สามารถเลือกโชคชะตาได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง
หลังจากจบเรื่องบนเรือเหาะแล้ว
มากเมฆทำการกระทืบเท้าหนึ่งครั้งที่ชั้นดาดฟ้าเรือ ก่อนที่อยู่ ๆ เรือเหาะขนาดใหญ่ยักษ์จะสลายหายไปอย่างช้า ๆ ถูกทำลายจนแม้แต่เศษซากก็หาไม่เจอ
แต่กระนั้นหากเป็นของมีค่าไม่ว่าจะศิลาเซียนสวรรค์ อาวุธชุดเกราะ ของวิเศษ ตำราทักษะวิชาต่าง ๆ เม็ดยาโอสถจำนวนมากที่ถูกเก็บรักษาไว้ มากเมฆยึดมาทั้งหมดไม่มีเหลือ ก่อนที่จะโยนพวกมันกระจายออกไปรอบ ๆ ทวีปบัลลังก์เมฆแบบสุ่ม เพื่อแจกจ่ายให้ผู้มีวาสนาได้ค้นพบ และใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคตจากนี้
ภายหลังที่มากเมฆกลับเข้าไปในโลกสุริยาโบราณพงพนา .. การพูดคุยระหว่างมากเมฆกับเทพธิดาดอกไม้สีขาว ก็ได้ผลสรุปแบบเดียวกับหญิงสาวคนอื่น ๆ ผู้โชคร้าย พวกนางร้องขอความตายและการเกิดใหม่หากเป็นไปได้ และชีวิตที่มีความสุข
มากเมฆจัดให้ตามคำขอ .. แต่ทว่า ก่อนที่เทพธิดาดอกไม้สีขาวจะจากไป ด้วยสติที่ได้กลับมาโดยสมบูรณ์
นางขอร่ายรำให้มากเมฆชมดูเป็นการตอบแทน ครั้งสุดท้ายในชีวิต ก่อนที่จะหายไปจากชาติภพสุดท้ายนี้ .. และเริ่มใหม่อีกครั้งในสถานที่ที่เหมือนกับความฝัน โดยการร่ายรำของนางนั้น เป็นการร่ายรำสำหรับคำขอบคุณ ที่นางได้เรียนรู้มาจากท่านแม่ของนางเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิต
".. ครั้งนึง ข้าเคยคิดว่าจะได้ร่ายรำเช่นนี้ ต่อหน้าคนที่ข้ารักสุดดวงใจ แต่ว่า ชายคนนั้นกับหลอกลวงและใช้ข้าเป็นเช่นสิ่งของ แต่ท่านกับไม่ ท่านถึงแม้จะมิใช่คนรักของข้า แต่ท่านเป็นผู้มีคุณของข้าชั่วนิรันดร์ ได้โปรดรับคำขอบคุณจากข้าเป็นการร่ายรำก่อนจะหายไป .."
เทพธิดาดอกไม้สีขาวเริ่มร่ายรำอยู่กลางทะเลสาบอันงดงาม ในชุดอาภรณ์นางฟ้าสีขาว ในขณะที่เปลวเพลิงแห่งการแปรเปลี่ยนอันอบอุ่นสีทอง กำลังค่อย ๆ ลบสิ่งต่าง ๆ อันเลวร้ายไปจากความทรงจำของนาง แปรเปลี่ยนให้เป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์อีกครั้งอย่างช้า ๆ เพื่อกลับมาเกิดใหม่ในโลกใบนี้
มากเมฆและหยางซินหลินต่างก็ยืนชมดูอยู่ใกล้ ๆ ภายในโลกสุริยาโบราณพงพนา
ก่อนที่มากเมฆจะนึกขึ้นได้ถึงบทเพลงในความทรงจำแห่งคำขอบคุณในอดีต และนำเอากู่เจิงออกมาเล่น และส่งต่อบทเพลงที่ว่าให้กับซินหลินด้วยเช่นกัน และนางเองก็นำขลุ่ยคู่กายออกมาเปา ทั้งสองบรรเลงบทเพลงให้เทพธิดาดอกไม้สีขาวได้ร่ายรำ และมองดูนางหายไปอย่างช้า ๆ กลางทะเลสาบงดงามพร้อมรอยยิ้ม และคำขอบคุณจากใจจริงของนางที่มีแก่ทั้งสองคน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รบกวนอธิบายหน่อย พอดีเรื่องที่บอกมาไรท์เคยอ่านอยู่นะครับ
หายป่วยเร็วๆนะทั้งสองคนเลย
ปล.มากเมฆกล่าวไว้ว่าตระกูลเย่จะกลายเป็นเพียงแค่สถานที่ทดสอบพลังเล็กๆน้อยๆ