ตอนที่ 282 : บทที่ 282 ตำรามิรู้ความและที่มาของความเกลียดชังก่อเกิด
บทที่ 282 ตำรามิรู้ความและที่มาของความเกลียดชังก่อเกิด
หากเป็นผู้เล่นธรรมดาเหมือนคนอื่น ๆ ได้มาเจอกับ NPC ยอดฝีมือจำนวนมากหมายหัวเข้าให้ แต่ล่ะคนคงจะต้องร้อนรนอยู่ภายในใจอยู่ไม่น้อยเป็นแน่ แต่ทว่ากับมากเมฆแล้ว กลุ่ม NPC AI จำนวนมากเหล่านี้ ต่อให้มีมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า ก็แค่พวกที่มาหาเรื่องให้ตายเร็วขึ้น ก่อนกำหนดก็เท่านั้น
มากเมฆยิ้มเย็นเฉยชาสุด ๆ และไม่ได้รู้สึกอะไรกับกลุ่มผู้เล่นที่ตายไปเลยสักนิด
ไม่ว่าจะผิดจะถูก หรือการกระทำก่อนหน้าของกลุ่มคนทั้งสองฝ่ายจะเป็นยังไง
โลกแห่งเทพเซียน หากไร้ฝีมือก็ไร้ที่ยืนในสังคม
ระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดคนที่อ่อนแอออกไป
มันก็ป่าเถื่อนแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น รับได้ก็ออนไลน์ไป รับไม่ได้ก็ย้ายไปเริ่มใหม่ที่ดาวดวงอื่นได้
ทางเลือกก็มีให้เลือกอยู่แล้ว
ดังนั้นมากเมฆจึงไม่ได้ใส่ใจและไม่คิดเป็นห่วงเป็นใยผู้เล่นด้วยกันเลยสักนิด ในเมื่อเลือกแล้วก็รับผลที่ตามมาให้ได้ก็พอ
ยกเว้นก็แต่บางกรณีเท่านั้นที่เขาจะเข้าไปยุ่ง ... แน่นอนว่ามากเมฆยังมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่
".. ตายไปซะ เจ้านักเดินทางสารเลว .." ผู้นำกลุ่มประหารผู้เล่นตะโกนเสียงดัง
ก่อนที่จะใช้ดาบจีนในมือฟาดฟันลงมาอย่างรุนแรงรวดเร็ว หมายจะตัดศีรษะมากเมฆในดาบเดียว
ในขณะเดียวกัน กระบวนท่าพิสดารของวิชายุทธ์โบราณต่าง ๆ ทักษะพลังฝ่ามือโจมตีจากระยะไกล คมดาบและคมกระบี่จำนวนนับสิบ ๆ ต่างก็พุ่งทะยาน เข้ามาหามากเมฆราวกับห่าฝน รอบทางทุกทิศ ดุจเดียวกับกำแพงสวรรค์ที่ไร้ซึ่งหนทางให้หลบหนี
ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ รวมไปถึงเจ้าของร้านที่ค้าขายอยู่ใกล้ ๆ กับลานกว้างแห่งนี้ ต่างก็มองมายังชายหนุ่มรูปงามผู้หมดจดอย่างเห็นใจในโชคชะตา ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายบทจะฆ่าก็ฆ่าจริง ๆ กลุ่มตระกูลใหญ่ ๆ พวกนี้ช่างไร้เหตุผลเอามาก ๆ แม้ว่าจะเป็นนักเดินทางข้ามฟากฟ้า แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่คนหรือไง ผู้คนที่มาจากแดนไกล
ชาวบ้านและคนธรรมดาทั่วไปต่างก็รู้ดีว่าทำไม !?
ทำไม !? ชาวยุทธ์และผู้ฝึกตนจำนวนมากของโลกใบนี้ ถึงได้รังเกียจและโกรธแค้นนักเดินทางข้ามฟากฟ้าเอามาก ๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะไร้ความผิด แถมยังเป็นนักเดินทางผู้อ่อนแอ ผู้มาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ ทั้งหมดล้วนมาจากความอิจฉาริษยาอย่างไร้เหตุผลเป็นที่ตั้ง ความไม่พอใจในโชคชะตาของพวกตน และความไม่เป็นธรรมจากสวรรค์ที่ต้องเผชิญอยู่เสมอ
เรื่องพวกนี้มากเมฆเองก็รู้ดี
เพราะเมื่อคืนก่อน หลังจากที่ช่วยเหลือสองแม่ลูกและพาทั้งคู่มานอนพักที่โรงเตี๊ยมแล้ว
มากเมฆได้เข้าไปในระบบของเว็บบอร์ดข่าวสาร ของทางระบบ อ่านทุก ๆ กระทู้ยอดฮิต ทุก ๆ บทความของเพจที่เกี่ยวข้อง กับข้อมูลสารพัดจำเป็นที่ควรรู้ก่อนจะออนไลน์ ณ โลกแห่งเทพเซียน ทั้งแบบฟรีและเสียเงินไปจำนวนมาก ตลอดทั้งคืนจนเกือบจะเช้า เขานั่งอ่านทั้งหมดอย่างตั้งใจจนตรัสรู้
เหล่า NPC เอไอประดิษฐ์ทั้งหลาย แม้ว่าจะได้รับการยกระดับให้มีสติปัญญาระดับสูง มีพัฒนาการที่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างไม่จำกัด ยกระดับความสามารถได้เร็วกว่าผู้เล่นเป็นสิบ ๆ เท่า หรือเป็นร้อยเท่าพันเท่าจากเดิม
แต่กระนั้นเหล่าตัวตนดั้งเดิมของโลกแห่งเทพเซียน กับมีเพียงชีวิตเดียวยกเว้นพวกที่พิเศษแตกต่าง แถมพิธีกรรมในการชุบชีวิต หรือคืนชีพยังทำได้ยากเอามาก ๆ หลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว ผิดกับอีกสองดวงดาวที่สามารถให้พรรคพวกคอยคืนชีพให้ง่ายกว่า
เพียงแค่เรื่องนี้ก็เห็นถึงความแตกต่างแล้ว บ่อเกิดความเกลียดชังได้ก่อตัว
แต่ว่า เรื่องมันไม่ได้จบอยู่แค่นั้น
โลกแห่งเทพเซียนนั้น ในทุก ๆ ครั้งที่เหล่า NPC หรือจะเรียกกันว่าผู้คนดั้งเดิมของดินแดน สามารถเอาชนะสัตว์ร้ายหรือสัตว์อสูรวิเศษระดับสูง ๆ ได้ ต่างก็มักจะได้รับรางวัลเช่นเดียวกับผู้เล่น แต่ทว่าของรางวัลเหล่านั้น มักจะมีของสิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนของขวัญจากสวรรค์ และเป็นเหมือนการลงทัณฑ์จากฟากฟ้าอยู่เช่นกัน
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น NPC จอมยุทธ์กลุ่มหนึ่ง
สามารถเอาชนะอสูรกิเลนโบราณได้ด้วยความยากลำบาก สมาชิกในกลุ่มพี่น้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ล้มตายไปเป็นจำนวนมากในภารกิจที่ทำ และดรอปรางวัลหนึ่งในนั้นได้เป็น “ศิลาฟ้าประทาน” หลังจากได้รับมาแล้ว ไม่ว่าผู้เล่นหรือ NPC ต่างก็จะได้รับการสุ่มของรางวัลพิเศษตามจำนวนของศิลาฟ้าประทานที่มี
// - - ศิลาฟ้าประทาน เป็นหินวิเศษจากสวรรค์ชั้นฟ้าที่สามารถสุ่มของรางวัลพิเศษได้ - - //
และของที่มักจะสุ่มได้ก็มักจะเป็น ตำรา เม็ดยา สมุนไพร อาวุธชุดเกราะ ของวิเศษทั้งหลายของโลกแห่งเทพเซียน .. แน่นอนว่ามักจะต้องเป็นของที่ดีมีระดับ แต่ก็บ่อยครั้งเอามาก ๆ ที่มักจะสุ่มได้ของที่ใช้ได้เฉพาะกับผู้เล่นเท่านั้น หรือของ “นักเดินทางข้ามฟากฟ้า” โดยเฉพาะอยู่บ่อย ๆ
อย่างพวกตำราทักษะวรยุทธ์ และตำราทักษะอาชีพลับต่าง ๆ เฉพาะเหล่าผู้เล่นเท่านั้นที่อ่านมันได้
หลังจากที่ได้ตำราที่อ่านเนื้อหาภายในไม่ได้ !!
อ่านได้แต่หน้าปกว่ามันชื่ออะไร อยู่ในระดับไหน !!! ให้เป็นการตอกย้ำให้เจ็บใจเล่น
แถมเอาไปต่อยอดอะไรก็ไม่ได้อีก
มันยิ่งเหมือนกับเป็นการตบหน้าให้ชาเบา ๆ จากสวรรค์หลายสิบที จนน้ำตาตกใน พูดไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
ทั้งที่ผู้เล่นและ NPC เหล่านี้โดยธรรมชาติแล้ว ล้วนแต่กำลังแข่งขันกันอยู่ในทุก ๆ วินาทีเพื่อความอยู่รอด
แต่ทว่าเวลาที่สุ่มของรางวัลที่ได้มาอย่างยากลำบาก
เอาชีวิตไปเดิมพันทั้ง ๆ ที่มีแค่ 1 ชีวิต สิ่งที่ได้กับเป็นสิ่งของหรือตำราทักษะที่ใช้ได้เฉพาะ “นักเดินทางข้ามฟากฟ้า” สารเลวชาติชั่วเท่านั้น
มันเหมือนกับถูกทวยเทพทรยศ ถูกสวรรค์รังแก ทำราวกับเหล่า NPC AI เป็นลูกเมียน้อยพ่อแม่ไม่รักเพื่อนไม่คบ
แถมข้อแตกต่างอย่างหนึ่งที่ปรากฏให้เห็นเด่นชัดเลยก็คือ
ผู้เล่นสามารถเรียนรู้ทักษะใด ๆ ใช้ไอเท็มอุปกรณ์ใด ๆ ก็ได้ แทบจะไร้ข้อจำกัด
แต่กับเหล่าผู้คนดั้งเดิมอย่าง NPC กับมีข้อจำกัดอยู่มาก ไม่สามารถใช้ไอเท็มเฉพาะของผู้เล่นได้เลย
ยาคืนชีพที่หลอมปรุงได้ง่าย ใช้สมุนไพรที่ไม่ได้มีระดับสูงนัก มีผลเฉพาะกับผู้เล่นเท่านั้น
แต่กับใช้ไม่ได้ผลกับเหล่า NPC เพียงเหตุนี้ก็สมควรแล้วที่จะถูกเกลียดชัง เห็นเป็นตบเห็นเป็นฆ่าให้ตาย
ดังนั้นการได้รับ “ศิลาฟ้าประทาน” แล้วสุ่มของรางวัลได้เป็นของของ “นักเดินทางข้ามฟากฟ้า”
มันจึงเหมือนถูกทำร้าย ถูกทั้งโลกทรยศ ถูกรังแกโดยสวรรค์ที่ไม่เป็นธรรมอย่างแท้จริง
จนนานวันเข้าเหล่า NPC AI ปัญญาประดิษฐ์ระดับสูงชนชั้นผู้นำของตระกูล ผู้คนดั้งเดิมของดินแดนที่ฉลาดขึ้นตามลำดับที่พัฒนา ต่างก็เริ่มโกรธแค้นและสะสมมายาวนานนับร้อย ๆ ปีพันปี และเอาความเกลียดชังที่มีมาลงที่ผู้เล่นเป็นการเฉพาะ
เปิดศึกสงครามได้เสมอเมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว เจอหน้าที่ไหน หากอีกฝ่ายอ่อนแอกว่ามากก็จะฆ่าทิ้งในทุก ๆ ที่ที่เจอไม่มีการละเว้นใด ๆ และหากสืบทราบว่ามีความสัมผัสกับ NPC ธรรมดาที่ไหน ก็มักจะตามไปฆ่าล้างโคตรอีกฝ่ายจนไม่เหลือ พวกที่มีสัมผัสพิเศษมีลูกมีเมียกับ NPC ล้วนแล้วแต่ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ หรือไม่นักเดินทางนั้น ๆ ก็ต้องแข็งแกร่ง แข็งแกร่งระดับที่ตระกูลใหญ่ ๆ ไม่กล้าจะมีเรื่องด้วยเท่านั้นถึงจะอยู่รอดต่อไปได้
จนภายหลังกลุ่มอำนาจตระกูลไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต่างก็ไม่คิดจะนำเอาตำราทักษะเฉพาะของผู้เล่น ออกมาขายในตลาดแม้แต่เล่มเดียวอีกเลย ทำให้ผู้เล่นได้รับความยากลำบากหนักกว่าเดิม กว่าจะพัฒนา กว่าจะเอาตัวให้รอดได้ จำต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ ในท้องตลาดจึงมีแต่ตำราทักษะวิชาที่ใช้ร่วมกันได้ของผู้เล่นและ NPC เท่านั้น
ดังนั้น หลังจากที่มีการอัพเดท AI ให้ฉลาดและเหมือนมนุษย์ทุกประการอย่างในวันนี้ จากคลื่นสมองของมากเมฆเป็นตัวกระตุ้นในวันวาน จึงทำให้ยอดผู้เล่นของโลกแห่งเทพเซียนไม่เพิ่มขึ้นเลย เสมอตัวแบบสุด ๆ มีแต่หน้าเดิม ๆ
แต่กระนั้นก็ยังมากกว่า 2 หมื่นล้านคนเป็นอย่างน้อยอยู่ดีในแต่ล่ะวัน และส่วนใหญ่ก็ออกไปจากทวีปเริ่มต้นไปหมดแล้ว ยกเว้นก็แต่พวกหน้าใหม่ที่พยายามกันเอาเองอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะพวกที่เรียนทักษะวิชาที่เหมือน ๆ กับพวก NPC มักจะไม่ได้ค่าโบนัสพิเศษการเรียนรู้ใด ๆ เลย ทำให้พัฒนาได้ช้ามาก ไม่เหมือนกับการได้เรียนรู้ทักษะวิชาจากตำราเฉพาะของผู้เล่น ที่จะทำให้ผู้เล่นเรียนรู้และพัฒนาได้เร็วขึ้นเป็น 5 เท่า 10 เท่าจากเดิม
ในภายหลัง ตำราทักษะ วิชายุทธ์ ตำราอาชีพลับต่าง ๆ ของผู้เล่นที่มี
มักจะถูกผู้คนดั้งเดิมของดินแดนนี้เรียกกันว่า “ตำรามิรู้ความ” หากเล่มไหนทำลายได้ ต่างก็ทำลายทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่หากทำลายไม่ได้ นั่นก็หมายความว่ามันเป็นของดี เป็นระดับสุดยอด ดังนั้นเหล่า NPC จึงมักจะเก็บซ่อนไว้เป็นอย่างดี ให้ห่างไกลจากมือของผู้เล่นให้มากที่สุด
สุดท้ายหลังจากผู้เล่นเก่ง ๆ รู้เรื่องเข้าไม่ว่าจะทางใดก็ตามจากแหล่งข่าว ก็มักจะเกิดเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้าน บุกปล้นในยามวิกาล หรือไม่ก็เหตุให้ฆ่าล้างตระกูล NPC กันบ่อย ๆ อยู่เช่นกัน เหมือนเป็นกรงกรรมกรงเกวียน วงจรอุบาทว์ที่ยากจะแก้ไขได้ในปัจจุบันของโลกแห่งเทพเซียน
จะว่าไปก็น่าเห็นใจเหล่าผู้คนดั้งเดิมอยู่เหมือนกัน ..
มากเมฆขยับหลบทุก ๆ ทักษะวิชาที่ใกล้เข้ามาได้ทั้งหมด
ราวกับมองเห็นอนาคตและความเป็นไปของทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้น เขาแสดงให้เห็นถึงความต่างของฝีมือชนิดที่ห่างไกลราวกับสวรรค์และโลก แต่ด้วยความบ้าดีเดือดของคนจำนวนมากที่มารวมกัน ไหนเลยพวกมันจะมีสมองมาคิดถึงเรื่องความแตกต่างนี้ได้ ต่างก็ลงมือต่อเนื่องไม่มีทีท่าจะหยุด มากเมฆเองก็กระโดดหลบ สนุกไปกับการออกกำลังหลังทานข้าวเที่ยงแบบชิลล์ๆ
ด้วยนิสัยที่ชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา มากเมฆได้ศึกษาและขโมยทักษะวิชาของคนอื่น อย่างกับเป็นเรื่องธรรมดาปกติ อย่างหายใจเข้าและออก กินและถ่ายไปแล้วโดยสัญชาตญาณที่มี แม้ว่าจะเป็นทักษะระดับกลาง ๆ ไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่ก็ถือว่าใช้ได้ ไม่เลวเลยสำหรับเหล่าชาวยุทธ์ผู้ฝึกตนที่มีขอบเขตพลังในระดับเหนือมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ลงมือกับมากเมฆล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีพลังใน “อาณาจักรที่สองโลกบำเพ็ญ” ด้วยกันทั้งนั้น
ทันใดนั้นเองก่อนที่มากเมฆจะส่งพวกมันไปเกิด ..
".. หยุดมือเดี๋ยวนี้ พวกเจ้ากำลังหาเรื่องตายหรือไง !!! .."
เสียงตะโกนให้หยุดจากชายชราคนหนึ่งได้ดังขึ้น เสียงตะโกนเต็มไปด้วยพลังลมปราณและพลังวิญญาณที่สมดุลอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากมากเมฆได้มองดูอีกฝ่ายด้วยเนตรพลังอยู่นาน ก็อดไม่ได้ที่จะมองอีกฝ่ายถึง 2 ครั้งด้วยความสนใจ เนื่องจากชายชราที่เพิ่งจะมาถึง กับเป็นยอดฝีมือที่มีระดับสูงที่สุดแล้วในเมืองนี้ที่เขาได้เห็น มีพลังยุทธ์เหนือกว่าเจ้าเมืองกิเลนทองเสียอีก
ชายชรากับมีพลังอยู่ในขอบเขต “ราชานภา” ขั้นย่อยที่ 9 “เหนือราชันย์”
หากนำไปเปรียบกับระดับเลเวลของโลกเวทมนตร์ กับเทียบได้กับเลเวล 5-6 หมื่นเลยทีเดียว
ชายชราที่มาใหม่แข็งแกร่งมาก !!
ชายชราใช้วิชาตัวเบากระโดดเข้ามายืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่าชาวยุทธ์ผู้ฝึกตน ก่อนที่จะคำนับคารวะมากเมฆอย่างนอบน้อมจริงใจ พร้อมกับส่งเสียงลมปราณในทางลับไปบอกกล่าวกับทุก ๆ ว่า
".. พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือไง หากก้าวเข้าสู่ “อาณาจักรที่สามเทวะนิรันดร์” เรียกกันว่า “เทพนิรันดร์” ได้จะถูกยกเลิกข้อจำกัดในการรับรู้เรียนรู้ และสามารถอ่านและใช้ตำรามิรู้ความได้ สายข่าวของเราได้รายงานมาว่าคนผู้นี้เป็นชนชั้นระดับนั้น พวกเจ้าอยากจะตายข้าผู้เฒ่าไม่ว่า แต่หากทำให้อีกฝ่ายโกรธจนไปเล่นงานตระกูลของเราผู้เฒ่า ข้าจะไม่ละเว้นลูกเมียพวกเจ้าเลยสักคน .."
หลังจากกล่าวจบในทางลับ
ชายชราจึงสั่งให้คนทั้งหมดของตระกูลตนเอง คุกเข่าขอขมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ส่วนเฒ่าชราได้ก้าวเดินออกไปด้านหน้า เข้าทักทายมากเมฆอย่างเป็นมิตรอีกครั้ง โค้งตัวต่ำอยู่ตลอดเวลา แสดงความเคารพแบบโบราณเกรงอกเกรงใจอยู่แบบนั้น
อารมณ์คนกำลังจะขึ้น อยากจะเห็นเลือดสด ๆ สาดกระจายตามนิสัย .. กับถูกทำให้ดรอปลงเสียได้
".. ขออภัยขอโทษคุณชายจริง ๆ คนของเรามักเป็นพวกเลือดร้อน กล้ามใหญ่ไร้สมอง หวังว่าคุณชายจะไม่ถือสา .."
".. ข้าผู้ชราขอแนะนำตัวสักเล็กน้อย ข้าผู้น้อยมีนามว่า “ใบชาหอม” มาจากตระกูลโบราณ “ยอดใบชาสามสี” ตระกูลระดับ 6 เมฆาของทวีปบัลลังก์เมฆ เป็นหนึ่งในตระกูลใต้สังกัดของตระกูลโบราณ “บัลลังก์เมฆ” จักรพรรดิผู้ครองทวีปแห่งนี้ พวกเราได้รับข่าวสารและรับรู้แล้วว่าท่านเป็นชนชั้นระดับใด ดังนั้นหวังว่าผู้อาวุโสอย่างคุณชาย คงจะไม่ถือสาพวกเด็ก ๆ เหล่านี้ .."
ที่แท้เฒ่าชราก็ได้รับข่าวสารมาจากองค์จักรพรรดิหรือไม่ก็ท่านเจ้าเมืองนี่เอง
แต่กระนั้นมากเมฆกับมิได้แปลกใจ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เข้ามองดูอีกฝ่ายถึง 2 ครั้งก็เพราะทักษะพลังทางสายเลือด ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของอีกฝ่ายมากกว่าที่สุดยอดและถือว่าดีเอามาก ๆ ที่ทำให้เขาต้องมองอีกฝ่ายด้วยความสนใจถึง 2 ครั้งด้วยพลังเนตรจนมั่นใจ และก็แอบเสียด้านนิด ๆ ในเส้นทางที่เลือกของอีกฝ่าย
".. ช่างเถอะ ๆ ช่วงนี้ก็ละเว้นการฆ่าฟัน “นักเดินทางข้ามฟากฟ้า” ภายในเมืองหน่อยแล้วกัน แต่ว่า พลังทางสายเลือดของท่านผู้เฒ่าใบชาหอมเองก็น่าสนใจอยู่นะ เป็นพลังที่ได้มาจากทางมารดา สายเลือดแห่งผู้รู้ชะตาฟ้า สายเลือดแห่งการระวังภัยและการมองเห็นโชคร้ายในอนาคต แต่น่าเสียดายที่ได้มาในระดับต่ำไปสักหน่อย .."
เฒ่าชรามองกลับมายังมากเมฆด้วยความตกใจเป็นที่สุด
เพียงมองดูด้วยตาเปล่าเฉย ๆ ไม่กี่ที
แต่กับสามารถบอกได้ละเอียดถึงพลังทางสายเลือดทั้งสอง และที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาได้โดยง่าย
คนผู้นี้ไม่น่าจะใช่นักเดินทางข้ามฟากฟ้า สมควรเป็นตัวตนที่ลงมาจากสวรรค์เสียมากกว่า
มากเมฆยิ้มก่อนที่จะพูดต่อไปอีกว่า
".. เอาจริง ๆ เรื่องพวกนี้มันก็ไม่ได้หนักหนาถึงตาย แต่แค่คำขอโทษขออภัยเฉย ๆ มันคงไม่พอ... .."
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คำขอโทษไม่พอ ท่านต้องมาสู้กับข้า 555555