ตอนที่ 172 : บทที่ 172 โดนรุมยังกับเป็นตัวร้าย !?
บทที่ 172 โดนรุมยังกับเป็นตัวร้าย
มากเมฆได้ฟังรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยจากเตียวเสี้ยน
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปยังห้องประชุมหลัก เนื่องจากเธอไม่ได้ออกไปร่วมปฏิบัติการภารกิจระยะยาว เกี่ยวกับการปลดผนึกทวีปหลักด้วยบ่อยมากนัก เพราะต้องมีใครสักคนคอยรับผิดชอบดูแล มิติทั้งสอง เมืองศูนย์ใหญ่ และโรงงานนรกในมิติพระเจ้าเมฆมายาอยู่ตลอดเวลา
เตียวเสี้ยนจึงไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่ทวีปจิตเทพอมตะมากนัก
แต่ทว่าหลังจากที่มากเมฆได้รู้ว่าเทพลิโป้ ได้เป็นคนออกโรงเข้าช่วยเหลือกองกำลังทั้งหมดของเขาด้วยตัวเองถึงแนวหน้า มากเมฆจึงได้เบาใจลงไปเยอะมากกว่า 50% และมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมหลักในทันทีแทน
เพราะเขาอดที่จะสงสัยและอยากรู้ไม่ได้ ถึงคำกล่าวก่อนหน้านี้ของเซเลเน่
ว่ามันได้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ !? กับสหพันธ์การค้าเมฆมายาของเขา ?
ในตอนแรกมากเมฆคิดว่าเขาคงจะมาถึงเป็นคนแรกๆ เพราะหลังจากที่ใช้คำสั่งพิเศษเฉพาะประธาน ผ่านทางกำไลเวทมิติสหพันธ์การค้าออกไป จนถึงตอนนี้ที่เขาได้มาถึงยังห้องประชุมหลักที่ศูนย์ใหญ่เมฆมายา
เวลามันเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่ถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำ
แต่ทว่าทุกๆ คนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเมฆมายาทั้ง 12 คนของสหพันธ์การค้าของเขา รวมไปถึงเหล่าผู้ติดตามคนสนิทที่เชื่อใจได้ของแต่ละกลุ่ม ต่างก็ได้มารอกันครบอยู่ก่อนแล้ว
แถมสีหน้าท่าทางของแต่ละคน เหมือนจะมีความในใจและอะไรต่อมิอะไร ที่อยากจะพูดอยากจะบอกอยู่เต็มไปหมด ผ่านทางสีหน้าเป็นกังวลที่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
ซึ่งมันเป็นสีหน้าที่แลดูป่วยๆ อย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
".. มากเมฆหายไปไหนมาคะ รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนที่มากเมฆไม่อยู่ !!! .." คนแรกที่กระโดดออกมาถามมากเมฆในทันที แบบไม่เกรงใจใครในห้องประชุมเลย เธอคือหนึ่งในอดีตสมาชิกกิลด์เทพจันทราระดับสูง และเป็นหนึ่งในคนที่เคยช่วยเหลือมากเมฆเอาไว้ เมื่อครั้งที่อยากจะลองเล่นเป็นพ่อค้าแบบธรรมดาเมื่อนานมากแล้ว “โรส แบล็กพิงก์” หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยมิตรภาพและความถูกต้องด้วยหัวใจ
//-- หากลืมสามารถกลับไปอ่านได้ในบทที่ 41 นะครับ --//
".. โรส อย่าเสียมารยาท กลับมานั่งได้แล้ว .." อิม ยุนอา หัวหน้าเมฆมายาที่ 5 พูดขึ้นเสียงดัง
เพราะกลัวว่าเพื่อนสนิทของเธอ จะใจร้อนทำอะไรแปลกๆ กับหัวหน้าใหญ่ที่หายไปนาน และหาตัวยากเสียเหลือเกิน
มากเมฆมองไปรอบๆ ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสมาชิกหน้าเดิมๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อยอยู่เหมือนกัน จากบรรยากาศรอบๆ ที่ไม่ได้สัมผัสมานานของที่ประชุม ก่อนที่จะนั่งในตำแหน่งประธานสหพันธ์ และพูดคุยทักทายทุกๆ คนอย่างเป็นกันเองเหมือนทุกที
".. เอาล่ะๆ คำถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผมพักไว้ก่อน เอาเป็นว่าอีกไม่นานผมจะกลับมาออนไลน์ได้ตามปกติแล้วกันนะครับ ขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วงนะ พวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ผมได้รับจดหมายและข้อความพิเศษจำนวนมากจากพวกคุณ ผมขอสารภาพเลยว่ายังไม่ได้อ่านเลยแม้แต่ฉบับเดียว เพราะมันมีอยู่เยอะเกินไป ดังนั้นหากพวกคุณต้องการจะบอกอะไรผม ก็ให้ใช้โอกาสนี้บอกให้ผมรู้ หรือแจ้งให้ผมทราบแล้วกัน หรือมีอะไรจะรายงานและมันเป็นสาระสำคัญ ก็อย่าได้เกรงใจพูดออกมาตรงๆ เลยครับ .." มากเมฆกล่าวบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
".. คุณมากเมฆครับ ตอนนี้สหพันธ์การค้าเมฆมายาของเรา ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว .." ทักษิณหนึ่งในหัวหน้าเมฆมายาพูดขึ้นอย่างหมดกำลังใจ ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทมไม่น้อย คล้ายกับว่า 4 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวต้องไปเผชิญกับอะไรที่โหดร้ายมาตลอดยังไงอย่างงั้น
".. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !? ใครก็ได้พอจะสรุปแบบง่ายๆ และบอกให้ผมรู้ได้มั้ย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น .." มากเมฆแสดงสีหน้าเย็นชาแต่แววตากับดุดันด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย และน้ำเสียงที่พูดก็เริ่มเย็นลง
ก่อนที่จะกล่าวถามพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายอันน่าขนลุกออกมา
เพราะเขาเชื่อไม่ลงจริงๆ ว่าสหพันธ์การค้าของเขาที่มีรากฐานมั่นคงขนาดนี้แท้ๆ มีเมืองหลักขนาดใหญ่ มีมิติส่วนตัวที่กว้างพอๆ กับทวีปหลักเป็นของตัวเอง ทำไมถึงกล้าบอกว่าใกล้จะถึงจุดจบแล้วได้ มันจะเกินไปมั้ย !?
".. ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา หลังจากคุณมากเมฆไม่ได้ออนไลน์เลยนับตั้งแต่ 1 ปีแรกได้ค่ะ สมาชิกระดับสูง 6 เมฆมายาหลายแสนคน ตามเมืองและทวีปต่างๆ พวกที่ได้รับมอบชื่อฉายานาม “ขายมือทอง” หรือสูงกว่านั้นจากทางระบบของสหพันธ์ พวกที่อนุญาตให้เข้าถึงกล่องมิติผ่านตัวแทนของเมือง ประจำตึกการค้านั้นๆ ได้ พวกมันส่วนใหญ่มากกว่า 80% กับเป็นสายลับ เป็นพวกสารเลวนกสองหัวที่ต่างก็ได้แฝงตัวเข้ามา เพื่อผลประโยชน์ขององค์กร กลุ่มกิลด์สหพันธ์ของพวกมันค่ะ .."
".. พวกมันทั้งหมดได้ทำการทรยศพวกเราจากภายในก่อนเป็นอันดับแรก ในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาสสามารถทำได้ โดยการลอบสังหารสมาชิกตัวแทนที่ได้รับความไว้วางใจ ให้ดูแลและถือครองกล่องมิติสั่งซื้อสินค้า ที่ได้ประจำอยู่ในเมืองต่างๆ ของตึกการค้าจำนวนมากทั่วโลกเวทมนตร์ แถมยังขโมยเงินอันเป็นผลกำไรสะสมประจำเดือนของตึกการค้านั้นๆ ในเมืองต่างๆ ไปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ทวีปหลัก หรือที่ทวีปเริ่มต้นล้วนแล้วแต่โดนเหมือนกันหมด .."
".. และที่แย่ที่สุดก็คือพวกมันได้เอาเงินที่ขโมยไปเกือบทั้งหมดในแต่ละครั้ง ทำการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางกล่องมิติตัวแทนแทบจะทุกครั้งที่สามารถทำได้ ให้อยู่ในรูปแบบของการ์ดเก็บของ ก่อนจะนำออกไปขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดของพวกเราเล็กน้อย ก่อนที่จะทำลายกล่องมิติมูลค่า 50 ล้านทิ้งเพื่อเป็นการกลั่นแกล้ง พร้อมๆ กับการทำลายตึกการค้านั้นๆ ที่พวกมันได้เคยใช้ทำมาหากินมาระยะเวลาหนึ่งจนได้รับความไว้วางใจ ด้วยการวางระเบิดเวทมนตร์อย่างรุนแรง จนไม่สามารถซ่อนแซมได้อีก จำเป็นจะต้องทำลายทิ้งและสร้างขึ้นมาใหม่เกือบจะทุกครั้ง ทำให้กลุ่มการค้าเมฆมายาทั้ง 12 กลุ่มขาดทุนอย่างหนักติดต่อกันตลอด 3 ปีที่ผ่านมาค่ะ .." มิยูกิ หัวหน้ากลุ่มเมฆมายาที่ 12 กล่าวตอบแทนทุกๆ คน เพราะเธอเองก็เสียหายและขาดทุนจนเกือบจะหมดกำลังใจเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะว่าเธอสามารถเก็บออมเงินไว้ได้เยอะในช่วงแรกๆ ตอนนี้เธอคงล้มละลายไปแล้ว
หลังจากที่ฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจากมิยูกิแล้ว มากเมฆสรุปผลด้วยความเร็วและง่ายๆ ว่า กลุ่มการค้าทั้งหมดถูกหักหลังโดยคนของตัวเองที่คัดสรรมาได้ไม่ดีพอ จนสร้างความเสียหายอย่างหนัก และต่อเนื่องมาตลอดจากความไม่รอบคอบ มันเป็นข้อผิดพลาดจากการบริหารงานของกลุ่มเมฆมายาทั้ง 12 เอง
แต่สำหรับมากเมฆ เขาไม่ได้รับผลเสียใดๆ นักมากนัก นอกจากเงินลงทุนที่ให้ไปสำหรับการซื้อตึกการค้าต่างๆ 50% ของทุกๆ ตึกในครั้งแรกของทวีปเริ่มต้น เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือไปแล้วก็ยังได้
เพราะยังไงสินค้าของเขาก็ยังขายได้อยู่เรื่อยๆ ถึงแม้เงินที่ใช้ซื้อจำนวนมากในภายหลัง มันจะเป็นเงินสกปรกที่ขโมยมาก็ตาม แถมต่อให้กล่องมิติสั่งซื้อสินค้าพังเสียหายไป หรือมันถูกทำลายจากผู้ไม่หวังดี
กลุ่มการค้าเมฆมายาทั้ง 12 ก็ยังจำเป็นจะต้องกลับมาซื้อกล่องมิติไปใหม่ทุกครั้ง
ในมูลค่า 50 ล้านไม่มีลดกับเทพลิโป้ เท่ากับว่ามากเมฆอยู่ในจุดกึ่งกลางของผลประโยชน์และความรับผิดชอบไปเต็มๆ ในฐานะของประธานสหพันธ์ หากเขาติดสินใจผิดพลาดไป มีหวังได้ดูเลวระยำแน่ๆ จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่เป็นอยู่ ... ต้องนิ่งเข้าไว้และฟังในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป รอสรุปผลในทีเดียวแล้วกัน
".. และไม่ใช่แค่นั้นนะคะมากเมฆ หลักจากที่แผนธุรกิจที่สองของมากเมฆประสบผลสำเร็จไปแล้วในช่วงแรกๆ เกือบหนึ่งปีเต็ม ที่ได้ลงทุนออกไปอย่างมหาศาล ที่ว่าให้ทุกๆ หนึ่งเมืองใหญ่หรือหมู่บ้านต่างๆ ในทวีปเริ่มต้น ก่อนที่จะขยายออกไปยังทวีปหลักในภายหลัง ว่าจะต้องมี 5 ตึกการค้าของพวกเราตั้งอยู่ ในทุกๆ เมืองหรือหมู่บ้านของทวีปเริ่มต้นเสียก่อน .." ลูน่า ฟอเรส หัวหน้ากลุ่มเมฆมายาที่ 9 ได้กล่าวขึ้นต่อจากมิยูกิในทันที
หลังจากที่เห็นเพื่อนของเธอมิยูกิได้เงียบลง ในขณะที่ดูเหมือนอีกฝ่ายกำลังรวบรวมความคิด
ในระหว่างนั้นเอง ลูน่าจอมเวทหญิงสาวสวย เธอได้เดินออกไปยังกลางห้องประชุมหลักอันเป็นพื้นที่กว้าง
เพื่อฉายภาพถ่ายและคลิปวีดีโอที่บันทึกได้ จากสถานที่และสถานการณ์ต่างๆ ของตึกการค้าจำนวนมาก
ออกมาให้มากเมฆและทุกๆ คนได้เห็น ก่อนที่จะกล่าวพูดต่อในสิ่งที่เธอได้เริ่มไว้
".. และให้ใช้ทวีปเริ่มต้นจิตมายาเป็นต้นแบบของแผนธุรกิจ แต่ภายหลังพวกเราเริ่มขาดเงิน ขาดกำลังคน ขาดทุนจากผลกระทบที่มิยูกิได้บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ และยิ่งแย่ไปกว่าก็คือพวกเราเริ่มถูกบุกปล้นตึกการค้าบ่อยครั้งมากขึ้น .."
".. แถมพวกสารเลวจากกลุ่มกิลด์ของโลกเวทมนตร์และกลุ่มมหาอำนาจอื่นๆ ที่มาจากดาวเคออส ต่างก็เริ่มบุกโจมตีพวกเราอย่างเปิดเผยมากขึ้น ขยันหาเหตุหาผลมาเล่นงานพวกเราได้ไม่เว้นแต่ล่ะวัน จนพวกมันจะไม่เห็นพวกเราเป็นเพื่อนมนุษย์อีกต่อไปแล้ว เห็นเป็นเพียงแหล่งทำเงินไร้ต้นทุนของพวกมันเท่านั้น .."
".. ทำให้ในตอนนี้ เหลือเพียงแค่เมืองเริ่มต้นต้นไม้สีทองเท่านั้น ที่ยังหลงเหลือตึกการค้าของพวกเราอยู่ครบทั้ง 5 ตึก นอกนั้นทั่วทั้งทวีปเริ่มต้นจิตมายาในปัจจุบัน ไม่มีเมืองไหนเลยที่มีตึกการค้าของพวกเราตั้งอยู่ เท่ากับว่าเงินลงทุนของมากเมฆจำนวนมหาศาลก่อนหน้านี้ มันได้ลอยหายไปในอากาศแล้วอย่างสมบูรณ์ .."
".. การที่สหพันธ์การค้าของเราถูกกดดัน จากกลุ่มอำนาจต่างๆ และใช้กำลังอย่างป่าเถื่อน ทำให้สมาชิกหน้าใหม่หน้าเก่า ของพวกเราทนไม่ได้ เพราะถูกลอบฆ่า ถูกรุมทำร้าย หรือใครก็ตามที่มีตราสัญลักษณ์รูปเมฆต่างก็ตกเป็นเป้าให้ถูกเล่นงานอยู่ตลอดเวลา จนในภายหลังจากที่สหพันธ์ของพวกเรามีสมาชิกหลักสิบล้านคน ในตอนนี้เหลือเพียง 9 พันกว่าคนเท่านั้น ซึ่งมันน้อยมากๆ หากนำไปเทียบแม้แต่กับกิลด์ขนาดเล็ก .."
".. และที่แย่ไปกว่านั้นอีกก็คือ ในระยะหลังมานี้พวกเราได้ถูกบีบบังคับให้ขายสินค้าในราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ จนจะทนไม่ไหวอีกแล้ว ลดลงมาจนเกือบจะเท่าทุนอยู่แล้วในหลายๆ ครั้ง จากกลุ่มอำนาจต่างๆ ที่มีอยู่หลายสิบกิลด์ที่ร่วมมือกันกดดันพวกเราอย่างหนัก หากไม่ยอมรับในข้อเสนอของพวกมันที่ต้องการในปัจจุบัน .."
".. แถมพวกมันได้เข้าไปรวมกลุ่มพันธมิตรพิเศษ คอยกดดันพวกเราถึงเมืองศูนย์ใหญ่เฟยอวี่แล้วด้วย เวลาอยู่ในเมืองพวกมันไม่กล้าทำอะไร เพราะมีกฎห้ามต่อสู้ห้ามทำร้ายกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราออกจากเมือง พากันออกไปเก็บเลเวล หรือออกไปขายสินค้าในหมู่บ้าน และแหล่งเก็บเลเวลต่างๆ คนของเราจะถูกเล่นงานในที่ลับอยู่บ่อยๆ และบ่อยครั้งที่ถูกดักปล้นจนหมดตัวด้วยวิธีการสารพัดของพวกผู้เล่นสายทักษะอาชีพโจร .."
".. ส่วนข้อเสนอของพวกมันแต่ละอย่างที่นำมาเสนอให้พวกเรา ก็มีแต่อันที่พวกเราเสียเปรียบทั้งนั้น ไม่ว่าจะข้อเรียกร้องให้ออกเงินซื้อสินค้าพิเศษต่างๆ ให้พวกมันก่อน 3-5 งวด ขอผ่อนชำระสินค้าไม่มีดอกเบี้ย ขอมาเป็นหุ้นส่วนแบบหุ้นลมแต่ขอผลกำไรและส่วนแบ่งทุกๆ เดือน ขอเข้ามาควบคุมกิจการของเมืองนั้นๆ โดยแลกกับความปลอดภัยและอนุญาตให้ค้าขายได้ แต่จะต้องมอบเงินและผลประโยชน์ให้กับพวกมันเป็นจำนวนมากด้วย และที่แย่ที่สุดก็คือพวกมันหลายสิบกิลด์ต้องการจะเข้าถึงแหล่งผลิต และขอเรียกรู้สูตรการผลิตต่างๆ ให้ได้ ไม่อย่างงั้นพวกมันจะลบสหพันธ์การค้าเมฆมายาออกไปจากโลกเวทมนตร์ตลอดกาล .."
".. แม้แต่ธุรกิจรับซื้อไอเทมขยะที่พังแล้ว เสียหายแล้ว ซ่อมแซมไม่ได้แล้ว หรือไอเทมที่ยังไม่ได้ปลดผนึกจำนวนมาก ไอเทมที่ไม่สมบูรณ์ อันเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจของมากเมฆที่ว่าน่าจะได้กำไรมากที่สุด ในตอนนี้มันได้ล่มสลายไปแล้วนะคะรู้มั้ย มันได้หายไปพร้อมๆ กับการที่ตึกการค้าทั้งหมดของเราถูกทำลาย .."
".. เพราะได้มีกลุ่มอำนาจจำนวนมาก ได้เข้ามากวาดซื้อไอเทมเหล่านั้นไปหมดก่อนตั้งแต่หน้าประตูเมืองแล้ว ในราคาที่ถูกเอามากๆ แต่ก็แลกกับความปลอดภัยในพื้นที่ว่าจะไม่ถูกหมายหัวของผู้ขาย หรือถูกลอบสังหารจากคนของพวกมันอย่างลับๆ คล้ายกับจ่ายค่าคุ้มครอง .."
".. แถมคนที่ขายไอเทมขยะเหล่านั้น ให้กลุ่มกิลด์อำนาจต่างๆ ยังจะได้คะแนนพิเศษสะสมสำหรับไว้ลงดันเจี้ยนต่างๆ ที่กลุ่มอำนาจของเหล่ากิลด์นั้นๆ ได้ครอบครองเอาไว้อีกด้วย .."
".. และที่พวกลุ่มกิลด์อำนาจต่างๆ ได้ซื้อไอเทมขยะเหล่านั้นเอาไว้จำนวนมาก ก็เพื่อที่ว่าสักวันหนึ่ง หากพวกมันสามารถกดดันเราได้สำเร็จ สหพันธ์ของเราได้กลายไปเป็นเครื่องมือทำเงินของพวกมัน พวกมันกลุ่มอำนาจต่างๆ จะได้นำเอาไอเทมเหล่านั้นออกมา เพื่อหาผลประโยชน์กับพวกเราแบบเต็มๆ .."
".. โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย เพราะพวกมันรับซื้อขยะเหล่านั้นมาในราคาแค่ 1 เหรียญทองแดงเท่านั้น ซึ่งมันถูกมาก ถูกชนิดที่ว่าเหมือนได้มาฟรีๆ แต่ผู้เล่นจำนวนมากก็ยังยินดีจะขายแม้ว่าจะได้เศษเงิน หรือไม่ก็มอบให้กับพวกมันแต่โดยดีฟรีๆ เพื่อแลกกับความปลอดภัยกับโอกาสในการลงดันเจี้ยนของพวกมัน ถึงแม้เวลาจบดันเจี้ยนนั้นๆ จะถูกพวกกิลด์เหล่านั้นแบ่งผลประโยชน์ที่ได้รับไปก็ตาม .." ลูน่ากล่าวบอกมากเมฆ ด้วยท่าทางและสีหน้าที่แลดูเหนื่อยล้าเป็นที่สุด ความงดงามของลูน่าที่เคยมี ดูเหมือนจะมืดมนจากความเครียดสะสมมาตลอดหลายปี
".. แค่รับมือกับกลุ่มอำนาจต่างๆ ในโลกเวทมนตร์ก็เหนื่อยพอแล้วนะครับ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าพวกเราจะตกเป็นเป้าของกลุ่มมหาอำนาจจากดาวเคออสด้วย ยิ่งในปัจจุบันที่กลุ่มกิลด์ต่างๆ ที่กล้าเล่นงานพวกเราอย่างเปิดเผย .."
".. ส่วนใหญ่กว่า 80% ก็มาจากเงินทุนสนับสนุนของกลุ่มมหาอำนาจดาวเคออสทั้งนั้น เพราะแบบนี้ล่ะครับ ทุกๆ คนในสหพันธ์สมาชิกหน้าใหม่หน้าเก่า จึงได้หมดหวังและลาออกจากกลุ่มไปเป็นจำนวนมากในแต่วัน แม้แต่สถานที่ที่ว่าปลอดภัยและมีอภิสิทธิ์พิเศษภายในมิติเฟยอวี่ เดี๋ยวนี้ก็เต็มไปด้วยผู้เล่นที่ประสงค์ร้ายกันทั้งนั้น .." วันชัย หัวหน้ากลุ่มการค้าเมฆมายาที่ 1 พูดขึ้น และนี่ก็ยังไม่รวมกับความยากลำบากอีกหนึ่งอย่าง ที่เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์วิกฤตแบบสุดๆ ของทุกๆ คนบนโลกเวทมนตร์ในปัจจุบันเลยก็ว่าได้
อันเป็นเหตุแห่งผลที่เกิดจากการปลดผนึกทวีปหลักต่างๆ เร็วเกินไป …. แถมยังเป็นการปลดผนึกได้โดย NPC อีกด้วย
มากเมฆได้ฟังและคิดตามอย่างไม่ใช้อารมณ์ หรือมีอคติใดๆ และมองภาพรวมแบบกว้างๆ อย่างใจเย็น
โดนรุมแบบจัดหนักเลยนะเนี่ย ...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ความซวยกำลังมาเยือนนนนนนน
เอาให้มันเงีบว่าเราไม่ง้อแล้วก็ไม่ได้กลัวพวกมันด้วย
แล้วก็เปีดใหม่อีกทีเอาเป็นเมืองไปเลย
แบบที่ว่ามีแค่เมืองนี้เมืองเดียวด้วยไม่ง้อพวกมันด้วยห้ามเข้าโดยเด็ดขาดใครฝ่าฝืนโดนหมื่นนรกไปเลย
ไม่ก็ยึดทวีปจิดมายาไปเลยเจ๋งกว่า5555555
อ้อออมีอีกค้างงงงงงงจุงเบย
ปล.คนเดียวกับที่ตามมาจากfictionนั้นล่ะ
ถึงจะไอดีใหม่แต่ก็ยังตามหาเฮียเจอ555555555
สั่งงานแล้วไม่ติดตามผลละนะ
มากเมฆไม่ทำอะไรเลยเหรอก็มันจะเป็นคนที่เลว-มาก ใช่แบบว่ามันต้องล้างตาสัก 2 3 รอบไม่สิเอาแบบล้างหมดเลยแล้วกัน มีสิ่งหนึ่งที่อุปกรณ์กันเวทย์นั้นกันไม่ได้นั่นก็คือมหาเวทย์ที่ใช้พลังเวทย์พลังงานสูงเพราะพลังเวทย์มันสูงเกินไปจนไม่สามารถที่จะลบหรือสลายมันออกได้เอาซุปเปอร์โนวาสักรอบนึงเถอะ