คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : markbam baby - 12 100%-
Adorable baby
markxbambam
chapter 12
พี่มาร์คน้องแบมแบม
ค่ำคืนแรกของเด็กชายกันต์พิมุกต์ ณ เมืองพูซานไม่ต่างจากคืนอื่น ๆ ในกรุงโซล...
ถามว่าเรื่องปกติที่แบมแบมมักจะทำเป็นกิจวัตรคือเรื่องอะไร คำตอบที่สามารถตอบได้ทันทีก็คือ... คุยโทรศัพท์กับแจ๊คสัน หวัง
ครั้งนี้คงจะแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ตรงที่ว่าไม่ใช่สายตรงจากฮ่องกง แต่เป็นคนนามสกุลหวังที่เวลานี้กลับมาฝังตัวกลบดาน(?)ที่เกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อย
“พี่แจ๊คสันก็มาหาแบมสิครับ” ครั้งที่สองของการรบเร้าจากกันต์พิมุกต์ มาร์คได้ยินน้องชายของแจ๊คสันพยายามพูดชักชวนเพื่อนสนิทเขาให้ตามมาหาที่นี่ “แบมไม่ได้ทิ้งน้า แต่ว่าพี่แจ๊คสันไม่บอกแบมกับพี่มาร์คก่อนนี่นาว่าจะกลับอาทิตย์นี่ ตามกำหนดแล้วพี่แจ๊คต้องกลับอีกตั้งสามอาทิตย์อ้ะ แบมไม่รู้นี่นา...”
แล้วแบมแบมก็ไม่คิดด้วยว่าพี่แจ๊คจะกลับเร็วกว่าเดิม...
‘เชอะ’ เป็นคำตอบที่สั้นที่สุดแล้วก็ชวนให้หมั่นไส้ที่สุดจากปลายสาย (ถ้าหากมาร์คเป็นคนคุยอยู่ตอนนี้ เชื่อได้เลยว่าสิบวินาทีต่อมาแจ๊คสันจะต้องถูกตัดสาย) แต่โชคดีที่แจ๊คสันแกล้งงอนใส่น้องชาย สิ่งที่ได้รับกลับไปจึงเป็นน้ำเสียงอ้อน ๆ ของเด็กชายกันต์พิมุกต์ว่าให้มาที่พูซาน
ง้อไอ้พี่ชายขี้งอนอยู่นานสองนานจนมาร์คที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง ๆ ต้องดึงโทรศัพท์ของแบมแบมมาคุยแทน... จนได้
“จะมาหากูกับแบมหรือจะรออยู่ที่โซลกันแน่ ตอบมาคำเดียว” มาร์คถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยมีแบมแบมนั่งกระพริบตาปริบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ด้วยความไม่เข้าใจ
อยู่ ๆ พี่มาร์คก็มาดึงโทรศัพท์ไปจากแบมซะงั้นง่ะ
‘มึงให้เงินค่าตั๋วเครื่องบินกูไหมล่ะไอ้เหี้ยมาร์คคคคคค ไม่ใช่แค่กูคนเดียวนะ ไอ้โอเซ ไอ้แจบอมด้วย สองคนนี้จะต้องตามไปด้วยกันกับกู จริงไหมไอ้เพื่อนยาก!’
ไม่ต้องเดาเลยว่ามาร์คได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกปลายสายมาว่าอะไร... แน่นอนว่าต้องเป็นการประสานเสียงที่พร้อมเพรียงที่สุดของอิมแจบอมและโอเซฮุนว่า ‘ใช่’ และตามมาด้วยสารพัดประโยคด่าทอ...
เช่นว่า... ‘มาร์ค มึงมันร้ายว่ะไอ้สัสสส กูว่ากูไวไฟละนะ นี่มึงเล่นพาน้องแบมไปหาป๊ากับแม่มึงถึงพูซาน มึงนี่มันร้ายจริง ๆ เลยว่ะไอ้หน้ามึน!’ ข้อความจากคนกลางคืนที่ชื่อว่าอิมแจบอมดังแทรกความวุ่นวายมาเป็นเสียงแรก ตามด้วยเสียงขึ้นจมูกของโอเซฮุนที่ยังคงชวนให้ปวดหัวทุกครั้งที่ได้ฟัง...
ครั้งนี้ก็เช่นกัน... ‘เชี้ยมาร์ค มึงไม่บอกกูเลยวะว่าไปพูซาน ไอ้เห้ กูจำได้ว่าเมื่อหลายเดือนก่อนกูก็บอกอยากไป ทำไมมึงไม่พากูไปบ้าง! กับน้องแบมยังพาไปเลยไอ้เหี้ย! มึงมันลำเอียงที่สุด! โอเซฮุนเสียใจมาก!’
ตัดพ้อกันพอใจแล้วใช่ไหม...
มาร์คคิดว่าเขายังไม่ได้คำตอบที่แท้จริงจากแจ๊คสัน หวังเลยนะ
“กูถามว่าจะมาหรือไม่มา ถ้ามึงไม่ตอบก็หมดธุระ บอกไอ้เซฮุนด้วยว่าอยากมาก็ตามมา กูกลับเช้าวันจันทร์ ถ้ามึงไม่มาก็เจอกันที่โซล”
‘ไม่ไปโว้ย! พวกกูติดลมอยู่ที่คอนโดน้องหวังสุดหล่อ พี่มาร์คคะ มึงจดจำเอาไว้ว่ามึงพลาดงานเลี้ยงต้อนรับน้องหวังนะคะ แล้วก็รู้เอาไว้เลยว่ากูจะสัมภาษณ์ไอ้เหี้ยโอเซกับไอ้เจบีให้หมดทุกเรื่องระหว่างที่กูไม่อยู่’
สัมภาษณ์?
“นั่นก็เรื่องของมึง” มาร์คว่า พร้อม ๆ กับที่หันไปหากันต์พิมุกต์ที่ดูเหมือนจะสนใจรายการวาไรตี้ในจอทีวีมากกว่าโทรศัพท์ไปเสียแล้ว แถมยังไม่สนใจแม้กระทั่งเส้นผมที่ยังเปียกชื้นเพราะเพิ่งจะอาบน้ำสระผมเสร็จอีกต่างหาก เด็กอะไรไม่เคยเช็ดผมให้แห้งก่อนจะนั่งเล่นหรือนั่งคุยกับใคร...
เพลินดี ถึงจะมีเสียงของแจ๊คสัน หวังดังผ่านหูตลอดเวลา แต่การได้นั่งมองหน้าแบมแบมที่กำลังตั้งใจดูรายการตรงหน้า... ปฏิเสธเลยว่าทำให้เขาอารมณ์ดี
เพิ่งจะรู้ว่ามีโทรทัศน์อยู่ในห้อง... ก็เข้าท่าอยู่เหมือนกัน
แล้วก็เพิ่งจะรู้... ว่าป๊ากับแม่เกิดอยากจะปรับปรุงห้องรับแขกในบ้านใหม่ เลยกลายเป็นว่าที่พักค้างคืนของแบมแบมในทริปครั้งนี้... คือห้องของเขาเอง
มัน... เป็นเรื่องที่มาร์คก็หลีกเลี่ยงไม่ได้... แต่สิ่งที่ทำได้คือเขาจะไม่บอกแจ๊คสัน หวังให้เรื่องมันวุ่นวายไปกว่าเดิม
‘เรื่องของกูที่ไหน เรื่องของมึงทั้งนั้น! (มาร์คไม่ได้หูฝาด เขาได้ยินเสียงของเซฮุนดังเป็นลูกคู่ขึ้นมาตลอดเวลาว่าทั้งหมดคือเรื่องของมาร์ค ต้วนล้วน ๆ ไม่มีเจือปน) ไอ้เหี้ย มึงนะมึงไอ้มาร์ค เดี๋ยวรู้เลย สุดท้ายคนที่ไว้ใจทำร้ายหวังที่สุด!’
“อะไรของมึง พูดไม่รู้เรื่อง จะคุยกับแบมอีกไหม”
‘คุย! ให้น้องมาคุยกับกู กูไม่คุยกับมึงแล้วพี่มาร์ค มึงมันชอบทำให้กูเสียใจ ไอ้เหี้ย กูแม่งพลาด เอาน้องชายที่น่ารักไปไว้ในกำมือของคนซึนอย่างมึง!’
วันนี้... แจ๊คสัน หวังดูจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ค่อยได้เลยนะ ... (ถ้าเขาเดาไม่ผิด คิดว่าในคอนโดของแจ๊คสันตอนนี้คงเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์สารพัดชนิด... อภินันทนาการจากอิมแจบอม และบุคคลที่มีส่วนร่วมเสมอ... โอเซฮุน)
“แบม คุยกับไอ้แจ๊คต่อที แต่ไม่ต้องไปฟังอะไรมันมากนะ สงสัยมันกำลังดื่มกันอยู่ คุยไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก” มาร์คพูดพร้อม ๆ กับส่งโทรศัพท์เครื่องบางให้กับเด็กชายกันต์พิมุกต์...
แบมแบมได้แต่นั่งหัวเราะจนตาหยีกับคำบอกเล่า คิดอยู่แล้วเชียวว่าจะต้องอยู่ในสภาพมึนเมามากกว่าทุกวัน (ขนาดทุกวันนี้ไม่เมาแล้วนะ...)
“โอเคครับผม พี่มาร์คนั่งอ่านหนังสือมีสมาธิไหม ให้แบมไปนั่งคุยข้างนอกก็ได้นะครับ ถ้าหากว่าเสียงดัง...”
“ฮะ ๆ ... ไม่เป็นไร นั่งอยู่ตรงนี้มาตั้งนาน ทำไมเพิ่งจะมากลัวว่าจะกวนสมาธิพี่...” มาร์คแกล้งพูดล้อเลียน ซ้ำยกมือข้างหนึ่งขึ้นดีดจมูกกลม ๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเด็กน้อยต้องยู่หน้าออกมา
พี่มาร์คชอบแกล้งแบมแบมตลอดเลยนะ แบมจะฟ้องพี่คุณ!
พักใหญ่ที่มาร์คนั่งฟังแบมแบมหัวเราะและพูดคุยกับพี่ชายต่างสายเลือด จนกระทั่งได้ยินเสียงจามของเด็กชายช่างจ้อดังขึ้นติด ๆ กันสองสามครั้ง มาร์คส่ายหน้าขำ ๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกไปด้านนอกห้อง ไม่นานนักชายหนุ่มก็กลับเข้ามาพร้อมกับผ้าขาวสะอาดและไดร์เป่าผม...
รู้สึกเหมือนกำลังจะต้องดูแลลูกหมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ... ตอนเด็ก ๆ มาร์คเคยเลี้ยงลูกหมาใช่ไหมนะ เขาจำได้ว่าต้องใช้ผ้าเช็ดแล้วก็เป่าขนให้จนแห้ง...
“แบม มานั่งตรงนี้ วางสายได้แล้ว คุยนานแล้ว ผมก็ยังไม่แห้ง เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี”
“ขออีกสามนาทีน้าพี่มาร์ค” เด็กชายต่อรอง “พี่แจ๊คว่ายังไงนะครับ อ่าฮะ อยากไป ๆ ก็เดี๋ยวกลับโซลพี่แจ๊คก็พาแบมไปเที่ยวงาย ส่วนเรื่อง...”
“แบมแบม”
เสียงเข้ม ๆ แบบนี้... ฟันธงได้เลยว่าไม่มีช่วงเวลาให้แบมต่อรองแล้วครับ
‘ไอ้มาร์คดุน้องกูเหรอวะ แบม อย่าไปยอมมัน! ยกมือขวาขึ้นแล้วสะบัดไปที่กลางศีรษะ! ใส่ไปให้สุดแรงแล้วตะโกนใส่หน้ามันว่าพี่หวังสั่งมา! ปฏิบัติครับน้องแบม!’
เอ่อ... แบมว่าแบบนั้นมันก็ไม่น่าจะเข้าท่าแล้วนะครับพี่แจ๊คสัน...
“พี่แจ๊คสันนี่แบมเป็นน้องพี่มาร์คนะ ฮ่า ๆ แค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวไว้เจอกันที่โซล คิดถึงพี่แจ๊คน้า”
แล้วเด็กชายกันต์พิมุกต์ก็ทิ้งโทรศัพท์เอาไว้บนโซฟา ห้องของพี่มาร์คเรียกได้ว่ากว้างขวางครบวงจรถูกใจแบมแบมมากกว่าที่คอนโดเป็นไหน ๆ (มีครบทุกอย่างในห้อง! ตู้เย็น แอร์ ทีวี โต๊ะหนังสือ เดินถัดไปข้าง ๆ ห้องก็เป็นทั้งห้องน้ำห้องแต่งตัว แบมอยากจะขอเป็นลูกป๊าอีกคนแล้วนะ! บ้านกว้างดีจัง สวยด้วย) แบมแบมนั่งลงที่ปลายเตียงหลังใหญ่ ปล่อยให้พี่ชายหน้านิ่งเช็ดผมไปเรื่อย ๆ ด้วยความเคยชิน...
ทำไมถึงชินเหรอครับ... ก็บางที... เวลาแบมนั่งทำการบ้าน... พี่มาร์คก็ชอบโยนผ้ามาแปะไว้ที่หัวแบม พอหลัง ๆ มาเห็นว่าแบมเอาวางไว้ที่เดิม เลยกลายเป็นว่าเดินเข้ามาเช็คให้เองซะ
หลาย ๆ ครั้งเข้ามันก็เลยกลายเป็นว่าชินไปแล้ว
“ถ้าป่วยขึ้นมา ไม่พาไปเที่ยวไหนแล้วนะ”
“แบมไม่ป่วยง่าย ๆ หรอกน่า ปกติแบมสระผมเสร็จก็ไม่เคยเช็ดผมเลยนะครับ จริง ๆ นะพี่มาร์ค แบมแข็งแรงมาก ๆ”
“แข็งแรงที่ไหน อ้วนแบบนี้ แถมยังซุ่มซ่ามอีกต่างหาก” มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงขำ ๆ แกล้งขยี้กลุ่มผมของกันต์พิมุกต์ไปแรง ๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนที่เสียงทุกอย่างจะถูกกลบด้วยเสียงของไดร์เป่าผมที่ดังขึ้นเพียงหนึ่งเดียวท่าทางความเงียบงัน...
แบมแบมหลับตาลงพร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มจาง...
มาร์คที่กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กและกำลังยืนเป่าผมให้กับเด็กน้อยอย่างเอ็นดู...
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มาร์ครู้สึกว่าเอ็นดูแล้วก็... ชอบ เด็กคนนี้มากขนาดนี้
ยอมรับ... ว่าชอบแบมแบมอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร... มานานมากแล้ว
เคยคิด... ว่าชีวิตของเขาคงจะไม่ตอบรับความรู้สึกที่เรียกว่าชอบหรือพิเศษกับใครอีกต่อไป...
จนกระทั่งมีน้องชายที่ต้องดูแลอย่างไม่ได้ตั้งใจ...
“เสร็จแล้ว”
“แบมหล่อใช่ม้า...”
“อืม” มาร์คตอบสั้น ๆ พร้อมกับสางเส้นผมนุ่มมือของแบมแบมให้เข้าทรงเรียบร้อย ใบหน้าของเด็กม.ปลายที่กำลังอมยิ้มด้วยท่าทางภูมิใจในความหล่อของตัวเอง...
เด็กน้อยจริง ๆ
“อืม... ก็หล่อนะ...”
“ใช่ม้ะ แบมก็ว่างั้นอ้ะพี่มาร์ค...”
“แต่พี่หล่อกว่า”
ก็อย่าเอามาเทียบกันได้ไหมล่ะครับพี่มาร์ค!
แบมแบมขอจบประเด็นเพียงเท่านี้!
“อะไร... แค่นี้ต้องทำหน้ามุ่ยด้วยเหรอแบม”
“เปล่าซะหน่อย แบมแค่ง่วงนอนต่างหาก ไม่คุยละเรื่องความหล่อ ไม่อยากสู้ รู้หรอกน่าว่าพี่มาร์คหล่อสุดแล้วววววววว” แบมแบมไม่ได้ประชดนะครับ ไม่อยากจะเถียงสู้หรอก พักหลังมานี่พี่มาร์คชักจะมั่นใจแล้วก็พูดตรงไปตรงมาเกินไปแล้วนะ
สู้ม่ายด้าย แบมยอมแพ้
“เดี๋ยวดิอ้วน แค่บอกว่าพี่หล่อกว่าแค่นี้ทำงอน...”
งอนอะไร ม่ายด้ายงอน แบมตอบโต้ (ในใจ)
มาร์คที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เด็กชายบนปลายเตียงยิ้มขำ รู้อยู่ว่ากันต์พิมุกต์คนเก่งคงไม่ได้งอนเขาอย่างที่ว่า แต่ปากกลม ๆ ที่ยู่ลงตอนเขาบอกว่าหล่อกว่า มองแล้วมันชวนให้หมั่นเขี้ยวอย่างบอกไม่ถูก...
แกล้งเล่นสักหน่อย ก็คงสนุกดี
“ไม่งอนก็หันมานี่ดิ แบม”
แน่นอน... กันต์พิมุกต์หันตามที่พี่ชายท้าทาย เขาไม่ได้งอนสักหน่อย แล้วทำไมจะต้องกลัวด้วยเล่า... แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าการหันไป จะทำให้เขาได้เจอกับใบหน้าของพี่มาร์คอยู่ห่างไปเพียงไม่ไกล...
ถ้าถามว่าตอนนี้แบมแบมอยากเปลี่ยนใจและตอบอีกครั้งว่ากลัวการหันไปสบตากับพี่มาร์คหรือว่าไม่...
แบมแบมตอบได้เต็มปากเลยว่ากลัว... แบมไม่อยากจ้องตาพี่มาร์คนานกว่านี้...
กลัวว่าหัวใจจะเต้นแรงจนหลุดออกมาข้างนอกแน่ ๆ ถ้าหากว่ายังถูกจ้อง... อย่างที่พี่มาร์คกำลังทำอยู่ตอนนี้...
“หลบตาก่อนแพ้ ใครแพ้พรุ่งนี้เลี้ยงข้าวเย็น”
มาร์คก็ไม่รู้ว่าเขาคิดเกมบ้า ๆ นั่นขึ้นมาทำไม...
รู้แต่ว่าเขาอยากจะมองดวงตากลม ๆ ใส ๆ ของเด็กคนนี้ให้นานเท่าที่จะทำได้...
น่ารัก...
“พ... พี่มาร์ค แบม...”
ยอมแพ้... ได้ไหม
แต่ทว่า... ยังไม่ทันที่ประโยคของแบมแบมจะจบลงสมบูรณ์...
ใบหน้าที่อยู่ใกล้เพียงน้อยนิดกลับขยับเข้มาแนบชิดจนดวงตาของเด็กชายกันต์พิมุกต์เบิกกว้างด้วยความตกใจ...
นั่นไม่เท่ากับสัมผัสอุ่นวาบที่ประทับลงบนริมฝีปาก...
จูบ
พ... พี่มาร์คกำลังจูบ... แบม?
ก่อนที่ดวงตาที่เบิกกว้างค่อย ๆ ปิดลงรับความอบอุ่นด้วยความเต็มใจ...
สัมผัสแผ่วเบาชวนให้หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะดำเนินไปอย่างเชื่องช้า มาร์คเพียงแค่แตะริมฝีปากเบา ๆ ลงไปเพราะเขาห้ามใจเอาไว้ไม่ได้...
เพียงแผ่วเบา... ตรงข้ามกับหัวใจของเขาที่กำลังเต้นแรง...
เพียงแผ่วเบา... แล้วค่อย ๆ แตะลงมอบความอบอุ่นและรับความหอมหวานไร้เดียงสา...
และถ้าหากว่าเขาไม่หยุดตัวเองเอาไว้... เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะหยุดความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเด็กคนนี้ได้หรือไม่...
ตอบไม่ได้เลย
“ฝันดีนะ... แบม”
มาร์คทำได้เพียงหยุดทุกอย่างเอาไว้... และพูดประโยคบอกเล่าง่าย ๆ ให้กับเด็กที่กำลังนั่งหน้าแดงอยู่ตรงหน้าเท่านั้น...
“ฝ... ฝันดีครับพี่มาร์ค”
หรือว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในฝันที่ดีที่สุดแล้ว... กันแน่นะ
*
65.55 +
*
ปวดหัวชิบเป๋งเลยครับ... นั่นคือความรู้สึกแรกหลังจากฟื้นจากนิทราอันแสนลึกล้ำของแจ๊คสัน หวัง ชายหนุ่มผู้หล่อล้ำ(?)และเพิ่งจะเดินทางตรงมาจากเกาะฮ่องกง บัดนี้เขากำลังนอนแผ่หลา เชื่อว่าเมื่อคืนเขาคงมีความสามารถพิเศษระดับที่ว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ยังต้องอายที่ลากเลื้อยมานอนบนเตียงได้แบบนี้
จำได้ลาง ๆ ว่าเขา เซฮุน แจบอม... สภาพนี่จัดได้ได้ว่า... *เซ็นเซอร์* (ขอให้เติมเอาตามความเหมาะสม แล้วแต่ทุกท่านจะพิจารณา)
“ไอ้เซฮุน นอนท่าบ้าบออะไรของมึงวะ เอาขาออกไป หนัก!” ก็ว่าทำไมรู้สึกชา ๆ บนหน้าขา นอกจากปวดขมับจนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว ยังมีขาของไอ้มนุษย์น่ารำคาญนามว่าโอเซฮุนพาดอยู่อีกต่างหาก
ถามว่ามันตามมานอนบนเตียงแจ๊คสันได้ยังไง... ก็ผมจำได้ว่าย้ำนักย้ำหนาให้มันนอนกับไอ้เจบีข้างนอก!
ไอ้คนฉวยโอกาส เพื่อนนิสัยเสีย!
“#@%#$ %@#$” เป็นประโยคยาว ๆ (กล้าพูดว่าประโยค... ถามว่านั่นคือภาษาอะไรจะดีกว่า) ในเช้าวันใหม่จากโอเซฮุนที่ยังสนุกกับการหลับใหล เจ้าของใบหน้าหล่อ(เสียเปล่า)นอนยิ้มหวาน แจ๊คสัน หวังที่ตั้งสติและลุกขึ้นมามองสภาพของเพื่อนสนิทได้แต่ส่ายหน้า ผมว่าผมเมาค้างขั้นเลวแล้วนะ ไอ้เซฮุนแม่งดูจะเมาไม่เลิกแม้กระทั่งในฝัน
แล้วตกลงมันพูดอะไรของมัน ฟังไม่รู้เรื่อง
“มึงจะลุกป้ะเนี้ย ปวดหัวกูก็ปวด ผมไม่ดูแลคุณมึงหรอกนะครับ อยากนอนนอนไป วู้ว ตื่นขึ้นมากูจะด่าให้ลืมทางกลับบ้าน ดูดิ๊เตียงแสนรักนี่เละหมด” คนนามสกุลหวังยังคงไม่หยุดพ่นภาษาดอกไม้ (ทั้งที่ก่อนหน้านี้บ่นว่าปวดหัวนักหนา) “แม่งแอบทำมิดีมิร้ายกับร่างกายแจ๊คสันป้ะวะ คนยิ่งหล่อ ๆ อยู่ ไว้ใจได้ที่ไหน เพื่อนก็เพื่อนเหอะ เดี๋ยวเกิดหักห้ามใจไม่ได้ เสียเชิงชายหมด”
ดูความคิดคนเรา... อย่าเอาแจ๊คสันเป็นเยี่ยงอย่างนะเด็ก ๆ ทุกคน
ที่สุดแล้วแจ๊คสัน หวังก็ลากสังขารอันแสนจะรวดร้าวเพราะฤทธิ์เหล้าสารพัดชนิดออกมาจากห้องได้ ทันทีที่ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาอย่างหาตัวจับได้ยาก (?) เห็นสภาพห้องที่ผ่านการใช้งานอย่างคุ้มค่า...
บอกได้คำเดียวว่าแจ๊คสันอยากจะกรีดร้องออกมาเป็นภาษาปารากวัย!
“โอ๊ยยยยย ไอ้เจบีไอ้เซฮุน มึงตื่นขึ้นมาทำความสะอาดห้องกูเดี๋ยวนี้เลย!!!!!!!” เกือบสร่างเมากันไปเลยครับ ไม่อยากจะพูดว่าที่จริงหัวก็ปวดอย่างกับจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วนะ แต่เจอสภาพห้องสุดน่ารักเข้าไป แจ๊คสันอยากเอาหัวโหม่งพื้นโลกเป็นการหนีปัญหากันไปเลย
ดื่มเหล้าหรือทำสงครามกันวะครับ ทำไมห้องผมเละเป็นสมรภูมิรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แบบนี้
อนิจจา...
ขอให้แจ๊คสัน หวังจัดการกับห้องสุดที่รักได้อย่างราบรื่นและไร้อุปสรรคใด ๆ
“ขอห้านาที เดี๋ยวลุกขึ้นไปช่วยเลยครับพี่แจ๊คสัน” ชายหนุ่มผู้ถูกทิ้งให้เดียวดายอยู่บนโซฟากลางห้องแสนยุ่งเหยิงพูดแทรกเสียงกรีดร้องโหยหวน(?)จากแจ๊คสัน อาการของอิมแจบอมดูท่าจะเบาที่สุดเมื่อเทียบกับเพื่อนรักทั้งสอง เพียงแต่กำลังนอนพักสายตาและขี้เกียจจะลุกขึ้นยืนในตอนนี้ก็เท่านั้น
ถ้าแจบอมพูดออกมา... ขอให้ไว้ใจว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
"มึงไม่ต้องมาพูดเลย! ไม่ต้องรีบลุก อยากนอนนอนต่อไป ยังไม่มีอารมณ์จะเก็บ แบบว่าน้องหวังไม่ไหว บ่นไปงั้นแค่ตกใจ ให้กูทำอะไรตอนนี้ไม่ไหวหรอก ปวดหัว...”
สรุปคือแค่อยากบ่นใช่ไหม...
แจ๊คสัน หวังอาจจะต้องไปตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจเร็ว ๆ นี้
“แล้วแต่มึงละกัน ยังไงก็ได้ครับ...”
“เออ ไปซดยาแก้แฮ้งละ มึงไปสรรหาเหล้ามาจากไหนวะ แรงขนาดนี้ ร่างกายพี่หวังจะพัง”
แล้วคำบ่นก็สิ้นสุดลงด้วยการที่แจ๊คสัน หวังหายเข้าไปในห้องครัวอย่างลึกลับ(?) อิมแจบอมก็หลบตาลงซึมซับยามเช้า(?)อย่างสบายใจ...
ส่วนโอเซฮุนคนน่ารัก... ก็ยังคุยกับมนุษย์อวกาศอยู่ในฝัน... ไม่หยุดเสียที
คอนโดแห่งนี้มีใครปกติดีอยู่บ้าง... ไหมนะ?
-
“ไอ้หวังงงงงงง มีอะไรให้น้องเซฮุนรับประทานบ้าง หิ๊วหิวว่ะ เฮ้ยมีเรื่องอยากเล่า รู้ไหมตอนที่กูหลับอ่ะ กูฝันว่าได้ไปเที่ยวกับมนุษย์ดาวนาเม็กด้วยนะเว้ย”
ดาวนาเม็ก...?
ดูการ์ตูนมากไปป้ะเนี่ยไอ้เซฮุน
“อะไรของคุณครับเซฮุน โตขนาดนี้แล้วยังจะฝันปัญญาอ่อน ตื่นก็จะเย็นอยู่ละ แล้วจะยังมาเรียกร้องหาของกิน นอกจากนอนกับขอพี่หวังรับประทานนี่นะ ไม่คิดจะช่วยกูทำอะไรเลยไง๊ไอ้คิตตี้!”
อย่าครับ... อย่าให้แจ๊คสัน หวังได้รู้สึกขัดใจ
“เย็นที่ไหน! นี่เพิ่งจะบ่ายสาม เย็น ๆ บ้านกูต้องหกโมงเว้ย โอเคนะ ส่วนเรื่องฝันกูไม่ซีเรียส แม่กูบอกเด็ก ๆ ต้องมีจินตนาการกว้างไกลเข้าไว้ เซฮุนเป็นคนฉลาด” ถามว่าที่พูดมาเกี่ยวกันยังไง แม้แต่อิมแจบอมที่คิดว่าเขาฟังภาษาเซฮุน(?)เข้าใจพอควรก็ยังตีความไม่ได้ “แล้วไหนอ่ะของกิน จอบอ มึงทำอะไรให้กูทานหน่อยสิครับ”
“เรื่องของกูไหมเนี่ย อยากกินอะไรก็หากินเองดิวะ”
“เชอะ!”
“น่ารักมากเลยมั้ง จะไปหาอะไรใส่ท้องก็รีบไป อย่าให้กูบ่นนะไอ้โอเซ พวกกูทำความสะอาดห้องกันแทบตาย มึงตื่นมาก็ร้องหาของกิน มันยุติธรรมกันดีอยู่หรือ!”
แจ๊คสัน หวังอยากจะบ้าตาย
“แล้วทำไม... มึงไม่ให้แม่บ้านขึ้นมาทำให้วะ...”
มีเพียงเครื่องหมายจุดจุดจุดและความว่างเปล่าวนเวียนไปมาอยู่ในหัวสมองของสองยอดชาย...
เออ... ทำไมไม่คิดวะ...
“กูลืม”
เป็นอันว่าจบประเด็น
เสียงโช้งเช้ง(?)ดังจากครัวของคอนโดแจ๊คสันไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มเคร่งเครียดเท่ากับเรื่องที่กำลังปรึกษาอิมแจบอมอย่างจริงจัง เนื่องจากเมื่อคืนพวกเขาทั้งสามเห็นแอลกอฮอล์และการสังสรรค์ต้อนรับคนหล่อมาเป็นอันดับแรก เรื่องของน้องแบมและไอ้เพื่อนรักประหยัดคำพูดจึงถูกระงับเอาไว้ กลายเป็นปาร์ตี้จัดหนักรำลึกความหลังทดแทน...
จึงทำให้เวลานี้... เป็นช่วงเวลาอันดีงามที่ชาวฮ่องกงหนึ่งเดียวในห้อง จะเริ่มพิจารณาประเด็นร้อนที่เขาต้องแก้ไขปัญหาในเร็ววันอย่างถ้วนถี่
ไอ้มาร์ค ต้วนแม่งจะเคลมน้องแบมแบมของพี่แจ๊คสันแน่ ๆ ครับ!
ขอพูดตรงนี้เลย!
“แล้วทำไมมึงต้องเครียดขนาดนี้...ด้วยวะ” อิมแจบอมถาม เขาค่อนข้างจะสงสัยว่าทำไมแจ๊คสัน หวังถึงจะต้องซีเรียสกับความสัมพันธ์ระหว่างมาร์คและน้องแบมมากขนาดนั้น
มันก็ดีไม่ใช่เหรอครับ... ถ้าหากน้องแบมคบกับไอ้มาร์ค ไม่ไกลหูไกลตา รักกันชอบกันแบบเข้าตามตรอกออกตามประตู อยู่ที่ไหนทำอะไรไอ้แจ๊คจะได้สอดส่องดูแลได้
(ถึงแจบอมจะแอบคิดอยู่กับตัวเองว่ามีวิธิอีกล้านแปดในการแอบเคลมเด็ก... แบบไม่ต้องกลัวพี่ชาย อย่าด่าผมเลยครับ เด็กมันน่ารัก ใครจะทนไหว... หรือไม่จริง?)
“ก็กูหวงน้อง!”
“แล้วมึงเอาไปฝากไอ้มาร์คเลี้ยงไว้ตั้งแต่แรกทำพริกไทดำอะไรวะ” แจบอมว่า ถ้าไม่ติดว่านั่งอยู่ห่างกัน เขาคงจะเอื้อมมือไปฟาดลงบ่นหัวทุย ๆ ของไอ้หวังให้หายโง่สักที “ไม่ฝากกูดูน้องมึงล่ะ รับรองว่ายุงไม่ให้ไตไรไม่ให้ตอม พี่แจบอมจะไม่ยอมให้มีอะไรมารบกวนน้องแบมแบมทั้งร่างกายและจิตใจ”
ในเมื่อตบหัวแจ๊คสันให้หายโง่ไม่ได้ แจบอมเลยทำเพียงแค่ชี้แนะทางสว่างที่ดีกว่า...
“อยู่กับมึงเนี่ยนะ! พาน้องกูใจแตกกันพอดีไอ้เจบี มึงมันใช้ไม่ได้! ไม่อยากด่าให้เสียหายเดี๋ยวมึงเศร้า เอางี้พี่หวังจะอธิบายง่าย ๆ” แจ๊คสันว่า ยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าเพื่อนรักอย่างจริงจัง พร้อมกับสีหน้าเคร่งขรึม ขมวดคิ้วมองเพื่อนรักผู้เป็นนักเที่ยวตัวยง “มึงมันเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดีมีกิ๊กเป็นล้าน มีบ้านไว้ซ่อนผู้หญิง ไวเป็นลิงเวลาวิ่งหนีสตรีที่มึงแอบคบซ้อน!”
ถ้าจะหาคำพูดยาว ๆ มันสาธยายกูขนาดนี้ ที่จริงมึงด่ากูว่าเหี้ยคำเดียวมาก็จบแล้วนะ ยอม
แต่เดี๋ยวก่อน ผมขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องนิดนะครับ... คือผู้หญิงผมซ่อนไว้ในคอนโด (แล้วจะอวดทำไม...)
“เฮ้ย พอ หยุด พอละ เข้าใจแล้ว ก็พูดไปอย่างนั้น งั้นทำไมมึงไม่ให้ไอ้เซฮุนดูน้องวะ”
“ดูแลตัวเองมันยังทำไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรจะดูแลน้องกูดี ๆ ได้วะ”
เออเนาะ... ลืมไป
“แหม แจ๊คสันผู้มีสกิลในการดูแลผู้อื่นเป็นเลิศ ไอ้กวางเรนเดียร์! ทำไมกูจะดูแลเด็กไม่ได้!”
“มึงลืมหลานชายเอาไว้ที่โรงเรียนประถมจนเกือบสี่ทุ่มถึงจะนึกขึ้นได้แล้วไปรับ ไอ้หมีแพนด้า! ถ้ากูเป็นหลานมึงกูสาปแช่งมึงไปเลยไอ้เซฮุน”
โชคดีแค่ไหนครับที่คุณครูประจำชั้นของหลานไอ้เซฮุนประเสริฐเสียยิ่งกว่าอะไร ถ้าไม่มีครูคนนั้นนั่งเป็นเพื่อนหลานมัน รับประกันได้ว่าต้องมีข่าวเด็กหาย มีอย่างที่ไหนลืมหลานชายเอาไว้ที่โรงเรียน
“ถ้ากูฝากน้องแบมไว้ที่มึง มึงไม่ลืมน้องกูวันเว้นวันเหรอวะ”
“ไม่หรอก น้องมึงน่ารัก หลานกูน่าต่อย”
“เลือกปฏิบัติ!” ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเสียงประสานอย่างพร้อมเพรียงระหว่างแจบอมและแจ๊คสัน
ส่วนคนถูกด่าได้แต่เบะปาก ใช่ซี๊ เซฮุนมันก็เป็นแค่คนหล่อมากคนนึงที่นอกจากหล่อก็ไม่มีความสามารถอะไรทั้งนั้น เอาเหอะ แค่หล่อก็มัดใจร้านขนมหวานได้แล้วครับ
โอเซฮุนพอใจ
“นี่ไง เหตุผลที่กูเลือกไอ้มาร์ค เพราะถึงมันจะไม่ค่อยสนใจใคร แต่เทียบกับพวกมึงแล้วมันมีความรับผิดชอบในระดับสูงส่ง...” แจ๊คสันสรุป แล้วก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
แต่จากหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา... หวังสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป
ไหนจะคำยืนยันจากไอ้เซฮุนที่เคยบอกเอาไว้... มาร์ค ต้วนดูแลน้องแบมดีอย่างกับไข่ในหิน
แล้วก็คำพูดของอิมแจบอมที่ตอกย้ำลงมาอีกที... มาร์คไม่ได้มีแค่หน้าเดียวอีกต่อไป...
“ไอ้มาร์คชอบน้องจริง ๆ ไหมวะ...”
“จากสายตาของกู ยืนยันว่าใช่” หนึ่งเสียงแรกจากชายหนุ่มหล่อเสียเปล่า โอเซฮุนตบเข่าฉาด ชี้นิ้วไปที่แจ๊คสัน หวังพร้อมกับยักคิ้วให้อย่างมั่นใจอีกหนึ่งที “พี่แจบอมว่าไงครับ เห็นด้วยกับผมหรือไม่ประการใด”
“เออ ตามตรงจากประสบการณ์ กูก็ว่ามันชอบน้องแบม...”
แล้วแจ๊คสัน หวังควรจะต้องรู้สึกยังไงวะครับ
ไอ้ที่ที่คิดว่าน้องผมจะอยู่แล้วปลอดภัยหายห่วงได้ กลับกลายเป็นว่าเพื่อนรักจะพรากน้องชายไปจากอ้อมอก(?)ของแจ๊คสันซะอย่างนั้น!
มันเป็นเรื่องที่หวังไม่เคยคาดคิด!
ไม่สิ... เพิ่งจะมาคิดเมื่อไม่นานมานี้... ที่จริงต้องย้อนไปถึงคำพูดของพี่คุณตอนคุยกับหวังด้วยสินะครับ...
‘เพื่อนนาย... อาจจะไม่ได้ทำหน้าที่แค่ดูแลน้องชายของพี่แล้วมั้งแจ๊คสัน กลับมาก็คุยซะให้รู้เรื่องนะ’
แล้ว... พี่คุณต้องการให้แจ๊คสันคุยแบบไหนครับ
นี่กูมึนไปหมดละ รู้สึกว่าหัวใจปวดหน่วงหนักเหลือเกิน...
“ไม่ต้องคิดมากหรอกหวัง ถ้ามาร์คมันรักมันชอบน้อง ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น มึงห้ามไม่ได้ ไม่ต้องคิดจะห้าม” แจบอมว่า โดยมีเสียงของเซฮุนที่นั่งซดมาม่าดังขึ้นว่า ‘เห็นด้วยจริง ๆ ครับ’ แล้วก็ตามด้วย ‘พี่แจบอมแม่งพูดได้กินใจผมมาก’ อะไรทำนองนั้น...
ก็ไม่ได้จะห้าม แจ๊คสันแค่คิดว่ามันไม่น่าเชื่อ... ก็เท่านั้น
ไอ้มาร์คไม่เคยรักหรือรู้สึกดีกับใคร... นานมาแล้วที่เขาไม่เห็นว่ามาร์ค ต้วนจะรักใคร...
“กูห่วงแบม ยอมรับว่าหวงด้วย อีกอย่าง... น้องกูไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้หรอก แล้วยิ่งกับไอ้มาร์ค...”
“มึงอย่าคิดนำดิวะ” แจบอมย้ำ
“นั่นดิ แล้วก็นะ... ถ้าเป็นเรื่องเก่า ๆ ที่ติดค้างอยู่ในความรู้สึกไอ้มาร์ค...” เซฮุนพูด และนั่นเป็นประโยคที่ทำให้แจ๊คสันว่าต่อไปได้ทันที...
“นั่นแหละที่ทำให้กูคิดมาก มาร์คมันจะชอบน้องแบมจริง ๆ เหรอวะ...”
เพื่อนของเขาอาจจะแค่หวั่นไหว...
“โอเซฮุนคนนี้กล้าวางพนันสามแสนวอนเลยว่าไอ้มาร์คชอบน้องมึงจริงแบบไม่มีกั๊ก รักนะคะคนดีของฉัน ร่วมยืนยันโดยไอ้แจบอมอีกหนึ่งเสียง ใช่ไหมวะเพื่อนรัก”
ถึงจะไม่อยากเข้าข้างโอเซฮุนมากนัก... แต่เขาก็อยากจะยืนยันอย่างที่ว่า...
“ถ้าน้องกูเสียใจนะ กูจะไม่ให้มึงได้กินติ่มซำตลอดชาติ” แจ๊คสันพึมพำ “แล้วก็ตามไปบอกพี่ชายร้านขนมหวานว่ามึงมันเป็นคนไม่เต็ม ไอ้ฉลามขาวโอเซฮุน”
แถวบ้านเรียกคนพาลแล้วนะครับแบบนี้... โอเซวิงเวียน
“มันจะไม่เกิดเหตุการณ์พวกนั้นแน่ ๆ ขอแค่คุณร่วมมือกับเรา!”
อะไรของไอ้มนุษย์คนนี้มันอีก...
“มึงอยากรู้ใช่ป้ะว่ามาร์คมันชอบน้องหรือว่าไม่”
“ไม่อยากแล้วกูจะมานั่งคุยกับพวกมึงทำหนอนดักแด้อะไรตั้งนานวะ คิดบ้างครับ!” นั่นปะไร... เจอแจ๊คสันเหวี่ยงเข้าไปอีกหนึ่งดอก
แล้วโอเซฮุนแคร์ไหมล่ะ อย่างไรก็อย่างนั้น อิมแจบอมก็ดูเหมือนจะไม่แคร์ไม่สนใจอะไรเช่นกัน
ติ่มซำก็ติ่มซำ ตอนนี้อยากรู้วิธีชำแหละความรู้สึกเพื่อนรักที่ชื่อมาร์ค ต้วนมากกว่านะครับ
“มึงก็เดินเข้าไปถามมันดิวะ...”
นี่ยืนยันว่าเป็นแผนการใช่ไหม?
“ไอ้กูปรี! กูก็คิดว่าจะมีแผนอะไรที่มันดีกว่านี้!”
ไม่ไหวจะด่าโอเซฮุนอีกต่อไป... แจ๊คสัน หวังทิ้งแผ่นหลังนอนแผ่หลาบนโซฟา โดยมีเซฮุนนั่งทำหน้างง ๆ ด้วยไม่รู้ว่าทำผิดอะไร และอิมแจบอมที่ได้แต่ยักไหล่
ถามว่าสุดท้ายแล้วการเปิดประชุมด้วยวาระสำคัญเรื่องมาร์คและน้องแบมมีอะไรคืบหน้าบ้าง...
คำตอบคือ... ไม่มี
ชีวิตของสามคนนี้... ควรจะแยกกันอยู่ดีกว่าไหมนะ
“กูห่วงแบมจริง ๆ นะ... ถึงกูจะแอบอยากได้ไอ้มาร์คเป็นน้องเขยก็เหอะ” จะได้โขกสับมันได้ทางอ้อม
นั่นคือประโยคสุดท้ายจากชายหนุ่มผู้หล่อเหลา...
แจ๊คสัน หวังจริงจังนะครับ...
ไว้ค่อยคิดพรุ่งนี้แล้วกัน แจ๊คสันเหนื่อยละ
*
TBC chapter 13
TALK!:
สถานการณ์ฝั่งนี้ดูไม่มีอะไรคืบหน้าเลยนะคะ orz นี่คือความจริงจังของพวกพี่แล้วใช่ไหม หวังอิมโอ 55555555555 เราคิดว่าเรื่องนี้อีกไม่กี่ตอน(??)ก็น่าจะจบแล้วนะคะ ใสใสไม่ต้องกลัวดราม่าหนัก ฟิคเด็กพี่มาร์คไม่เน้นดราม่า เราเน้นความเขิน(?)และขายชายหวังพี่โอพี่จอบอเป็นตัวตั้ง ฮา~
เจอกันตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้นะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ของทุกคนเหมือนเช่นเคย ทุกโหวต แล้วก็ทุก ๆ แท๊กในทวิตด้วยน้า ><
ความคิดเห็น