ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตะนาวศรี

    ลำดับตอนที่ #21 : ศัตรูผู้มาเยือน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 376
      10
      8 ก.ค. 62

           
    จากรายงาน    

    ปิเยอิสลาทิส ประมาณสามร้อยร่าง ได้ล่องตามลำน้ำลงมา พวกมันชำนาญการเดิน

    ทางทางน้ำมาก จึงทำให้ล่องลงตามน้ำมาได้อย่างรวดเร็ว อิสลาทิส เป็นปิเย(ต้นไม้) น้ำที่ อยู่ห่างน้ำ

    นานไม่ไิด้ ติอากอ รู้จุดอ่อนนี้ดี  เขาหมายมั่นว่าจะพิชิต ปิเย น้ำนี้ ได้ไม่ยากนัก   ติอากอ บอก

    ทุกคนว่าจะรอการเดินทางของ อิสลาทิส มาถึงก่อน ไว้เสร็จศึกกับ   อิสลาทิส ค่อยเคลื่อนย้าย

    ไปที่มั่น  ภู ตะเนยา   และระหว่างที่ปรึกษาหารือกัน เพื่อเตรียมการณ์     ติอากอ ไม้บอกกับ

    ทุกคนว่า    


    "  สิ่งที่ข้าต้องบอกให้ทุกคนรู้ไว้ เพื่อเป็นข้อมูล เพื่อจะให้รู้ ธรรมชาติของ ศัตรูของเราใน ครั้งนี้

      อิสราทิส เป็นปิเย ที่มีพลพรรคน้อยที่สุดใน เผ่าพันธ์ ที่ปิยากิออ ถ้าตามรายงานที่เดินทางมา มี

    ประมาณสามร้อยร่างจริง แสดงว่า อิสลาทิส ได้เดินทางมาทั้งหมด มัจเจ ไม่ค่อยไว้ใจ อิสราทิส

     เพราะ อิสราทิส เป็นปิเย ที่ไม่ค่อยจริงใจกับไคร ไครให้ประโยชน์มากกว่าก็มักจะเข้ากับพวก

    นั้นมัจเจ จึง ได้ควบคุมพลพรรคของ อิสราทิสให้มีปริมาณแค่นี้ ไม่ให้สืบขยายพันธ์ต่อไป  

    พิษสงของ อิสลาทิส สมัยที่ข้ายังปกครองอยู่นั้น  ไม่มีอะไรมากนัก วันๆเอาแต่ประจบสอพลอ  

    ไม่ค่อยได้ทำประโยชน์กับใครเป็นชิ้นเป็นอัน  มันเป็นปิเยน้ำ ใช้ชีวิตอยุ่ในน้ำเสียเป็นส่วนใหญ่

    ข้าคิดว่า เมื่อมันมาถึง  ปิเยทาร์ เจ้าต้องให้ ปิเยเรา ที่มีขนาดใหญ่กว่า อิสราทิส  จับร่างของมัน

    ขึ้นมาเหนือน้ำ และนำ ไป ภูตะเนยา  เมื่อมันไม่ได้อยู่ในน้ำนานๆ มันก็คงสิ้นฤทธิ์  "              



    " ข้าก็เห็นดีด้วยกับท่านพี่ และจะนำสิ่งที่ท่านพี่บอกไปปฏิบัติ ตอนนี้ ข้าให้ ปิเยเรา ทางเหนือ

    ขึ้นไป จับตา ขบวน อิสราทิส อยู่ ถ้าไงมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ท่านพี่ทราบ งั้นข้าขอไป

    ดำเนินการก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่ทัน   "                                                                      


    พูดจบ ปิเยทาร์ ก็ขอตัวเดินกลับออกไป  ติอากอ หันมาและเอ่ยขึ้น                                    
     

    " เป็นไงบ้างชาวโลก ท่านมีอะไรจะเสนอแนะ ปิเยเราบ้าง  ที่จริงพวกท่าน มีอาวุธ ที่ชาญ

    ฉลาดคือสมอง ปิเยเรา แอบอิจฉาพวกท่าน แต่บางที ปิเยเราก็แปลกใจ ชาวโลกก็ใช้อาวุธคือ

    ความคิด มาประหัตประหารทำร้ายกันเอง มัจเจ มันปรารถนาสมองเจ้านวนมากของพวกท่านยิ่ง

    นัก มันรู้ว่า ที่ปิเยเรา กล้าต่อต้าน มัน ก็เพราะ รู้ว่าร่างของพวกเราได้มีส่วนสมองของชาวโลก

    อยู่ในร่างทุกร่าง มันหวังยิ่งนัก  ชาวโลกก็มักจะมี ศึกสงครามไม่ว่างเว้น ใหนลองใช้ความคิดที่

    จะร่วมกับปิเยเรา ต่อต้านศึกครั้งนี้ทีซิ "                          



    ปู่อินทร์ได้ยิน ติอากอ ถามเช่นนี้ เขาจึงได้ตอบขึ้น                        


    " ท่าน ติอากอ  บางทีเราไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย จะคิดอ่านวางแผนการณ์ ช่วยท่านคงไม่ใช่เรื่อง

    ง่าย ชาวโลกมีสมองอันชาญฉลาดก็จริง แต่ก็เปราะบาง เมื่อมีอะไรกระทบต่อร่างกายนิดหน่อย

    ร่างกายก็สิ้นได้ง่าย แต่กับต้นไม้อย่างพวกท่าน ท่านแข็งแกร่ง  ไว้โอกาสหน้ามีสถานการณ์ซึ่ง

    หน้า ที่พวกเราพอจะช่วยได้ ไว้พวกเราค่อยแสดงการใช้สมองให้ท่านเห็นละกัน หรือ ว่าท่าน

    เห็นว่าเราเป็นตัวถ่วงของพวกท่าน "                                                                      



    เมื่อได้ยินปู่อินทร์ตอบเช่นนั้น ติอากอก็หัวเราะขึ้น


    " ไม่ใช่เลย ท่าน ที่จริงข้าก็รู้ว่าต้องเป็นเช่นนั้น แต่ข้าอยากจะลองสมองของชาวโลกดู ว่าจะ

    ตอบข้าว่าอย่างไร ข้าเคยได้สัมผัสแต่สมองของคนที่ตายแล้ว  เรื่องที่ว่าชาวโลกอย่างพวกท่าน

    เป็นตัวถ่วงนั้น ที่ผ่านมาพวกท่านก็ได้พิสูจน์แล้ว ข้าจะคิดอย่างนั้นได้อย่างไร เอาเป็นว่าเราไม่

    ติดใจทุกเรื่องกับพวกท่าน และจะร่วมมือกันเผชิญปัญหาที่จะเกิดขี้นต่อไป "                      


    และ ตอนนั้นเอง ปิเยทาร์ ก็เข้ามาแจ้งข่าว                                                                


    "  ท่านพี่  ข้าไปดำเนินการทุกอย่างแล้ว แต่ ปิเยเรา ทางเหนือแจ้งว่า ตอนนี้ อิสราทิส ท้้งหมด

    ได้หาย จากสายน้ำ ตรงโค้งน้ำ ทริบิออล หรือว่ามันไม่มาแล้วทั้งหมดคงกลัวและหนีไปแล้ว "   


    ติอากอ นิ่งเหมือนใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงได้ตอบขึ้น                                              


    " ก็อาจเป็นไปได้นะ ปิเยทาร์ ที่จริง พวกอิสลาทิสก็ไม่ได้เป็น ปิเย ที่กล้าหาญอะไรมากนักยิ่งมันต้อง

    มาต่อกร กับปิเยเรา ที่เป็นปิเย ที่ผ่านศึกสงครามแล้วด้วย  โค้งน้ำทริบิออส ตรงนั้นเป็นสายน้ำวน

    และลึกมากมันคงจะถอดใจ  แต่เราก็อย่าพึ่งนิ่งนอนใจ ให้ ปิเยเรา จับตาริมน้ำไว้ตลอด "        



    "ข้าขอเสนอ ความคิดหน่อยนะท่าน ติอากอ  ถ้าเป็นมนุษย์ อุปสรรคแค่นี้ ไม่ถือว่าลำบากหรอก  

    แต่ธรรมชาติของพวกท่านบางทีพวกชาวโลกอย่างพวกเราก็คงไม่ค่อยจะเข้าใจเหมือนกัน แต่

    ถ้าเอาบรรทัดฐานจากพวกเรา  อิสลาทิส อาจจะไม่ถอดใจ หรือกำลังคิดทำอะไรสักอย่างหนึ่ง

    ว่าแต่ โค้งน้ำ ทริบิออลนี่อยู่ห่างจากที่นี้ไกลใหม  "                                                    
     


    กานต์ เสนอ ความเห็นและถามขึ้น เพราะรู้สึกว่ามีความไม่ชอบมาพากล                            


    " ถ้าเดินทาง อย่างที่ผ่านมาของ อิสลาทิส ก็คงอีกซักหนึ่งวันได้ แต่ท่านไม่ต้องห่วง

    หรอก ถ้ามีการล่องน้ำเมื่อไหร่ ปิเยเราต้องเห็นมันแน่ แต่ข้าสงสัยว่ามันคงถอดใจมากกว่า

    เพราะข้ารู้จัก อิสลาทิส ดี และนี่ก็เย็นมาแล้ว พวกท่านพักผ่อนเหอะ ส่วนข้ากับปิเยทาร์ จะไป

    ตรวจแนวกลุ่ม ปิเยเรา ก่อนที่จะพัก "                                                                              


    ติอากอ พูดจบ ก็ขอตัว ออกไป                                                                            

    กานต์ คืนนี้เขา อาสา จะเป็นยามร่วมกับต้นไม้อีกหลายต้น ที่ได้ถูก ปิเยทาร์ จัดเตรียมไว้ เขา

    เดินไปที่ริมน้ำ สายน้ำใหญ่ใหลปรกติราบเลียบ เขาอยากจะลงไปว่ายเล่นยิ่งนัก เมื่อเห็นน้ำ แต่

    ต้นไม้ ได้บอกว่าในสายน้ำมีสัตว์  น้ำขนาดใหญ่ ไม่อยากให้ลงเกรงว่าจะเป็นอันตราย และที่ริม

    น้ำนั่นอากาศเย็นสบายมาก เนื่องจากอ่อนเพลีย เขาเลยเผลอหลับไป   และกานต์ก็ได้รู้สึกตัว

    ขึ้นอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าตัวเขาเปียกไปทั้งร่าง เขาตกใจที่ตัวเองเผลอหลับไป รู้สึกเกรงใจคนอื่นที่

    ทำหน้าที่ได้ไม่ดี ทั้งๆที่เป็นหน้าที่สำคัญ  เขามองไปรอบๆ เริ่มมีแสงจับที่ขอบฟ้าแล้ว แสดงว่า

    ใกล้สว่างเต็มที  เขาแปลกใจที่ตัวเองเปียกเมื่อมองไปที่น้ำ สายน้ำเหมือนกระเพื่อมมากกว่า

    เมื่อวานตอนเย็น คงเป็นเพราะมี สัตว์ใหญ่อยู่ในน้ำ และเเรงกระเพื่อมของน้ำคงทำให้เขาเปียก

    ไปด้วยนะเอง " ดีนะมันไม่ขึ้นมาคาบเราไปกิน" กานต์นึกในใจ เขามองไปรอบๆอีก เขาไม่เห็น

    ต้นไม้ ที่ถูกจัดให้เข้า เวรยามคู่กับเขา อยู่ยึ่สิบกว่าต้น เมื่อคืนนี้ หรือว่าพวกนั้นกลับขึ้นไปแล้ว  

    เขาขยับทำท่าจะลุกกลับขึ้นไปบ้าง ทันได้นั้นเอง                                                                


    "  ช่วยข้าด้วย..   "                                                                                              


    กานต์ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น  เขาหันหลังกลับไปมอง และทันใดนั้นแว๊บหนึ่งในสายตาเขาที่ในน้ำ 

    ในเงามืดกลางสายน้ำ เขาเหมือนหินสิ่งใดสิ่งหนึ่งโผล่พ้นน้ำขึ้นมาและจมหายไป คลับคล้ายคลับคลาว่า

    จะเป็นยอดของปลายกิ่งไม้อยู่ในน้ำนั่น ทำให้ เขานึกถึงต้นไม้ ที่เข้าเวรยาม อยู่กับเขาเมื่อคืนนี้  

    แล้วต้นไม้นั้น มันลงไปอยู่ในน้ำนั้นได้อย่างไร หรือว่า  ไวเท่าความคิด กานต์ออกวิ่งขึ้นไปด้านบนทันที 

    เขารู้ว่าอันตรายเกินไปที่จะลงไปช่วยต้นไม้ที่อยู่ในน้ำนั้น  เพราะรู้ว่าต้องมีอะไรดึงต้นไม้ต้นนั้นและ

    พยายามทำให้มันจมอยู่แน่  เขาตะโกนเสียงหลงทั้งต้นไม้และคนถูกปลุกขึ้นทันที                                                                                    

     "  ต้นไม้ที่อยู่ด้วยกัน จมน้ำไปแล้ว ไม่รู้มีอะไรดึงต้นไม้อยู่ในน้ำ ไปช่วยเขาที "                                                                

    นั่นคือคำพูดที่กานต์บอก                                                                                    

    ทั้งหมดผุดลุกขึ้นท้นที ทั้งต้นไม้และคนวิ่งลงไปที่ริมน้ำทันที  เมื่อไปถึง พวกเขาก็ได้เห็นสายน้ำ

    กระเพื่อมเป็นระรอก   มองก็ออกว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น                                                                                  


    " ปิเยเรา ลงไปถ้าพบปิเยเราช่วยเขาขึ้นมาที "                                                                            


    ทันที่ที่สิ้นเสียงสั่งการของ ปิเยทาร์   ต้นไม้สี่ห้าต้นได้โดดลงน้ำเป้าหมายของมันคือควานหาต้นไม้

    ทีกำลังจะจมอยู่ในน้ำนั้น  เมื่อเห็นว่ามันคว้าได้และเริ่มออกแรงดึงขึ้นมาได้แต่พวกที่ลงไปไม่สามารถมี

    แรงพอดึงขึ้นมาได้                                                                                              

    "
     ปิเยทาร์ท่าน เราดึง ปิเยเรา ขึ้นไม่ได้มีอะไรไม่รู้ดึงอยู่ในน้ำ เเรงเราไม่พอ "                      

     
    เสียงจากต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่ในน้ำ                                                                        


     " เพิ่ม ปิเยเรา ลงไปอีกจนกว่า จะดึง ปิเยเรา ขึ้นมาได้  "                                              


    สิ้นเสียง ปิเยทาร์  ต้นไม้อีกสิบกว่าต้นก็กระโดดลงน้ำไปอีก  จนน้ำบริเวรนั้นขุ่นข้น และ

    กระเพื่อมอย่างหนัก ต้นไม้ที่อยู่ในน้ำที่จมมิดก่อนหน้านี้ บัดนี้กิ่งใบของมันได้หลุดลุ่ย ตาม

    แรงกระชากลากดึง และเมื่อมีอีกกลุ่มใหญ่เขาไปช่วยคราวนี้                                          


    " ดึงขึ้น แล้ว ฮึบ..."                                                                                        

     
    ด้วยแรงที่เพิ่มขึ้น อีกมาก ต้นไม้ที่จมน้ำ ก็ถูกดึงขึ้น และเมื่อดึงใกล้เขามาที่ริมฝั่งทุกคน

    ก็สังเกตุเห็นที่โคนต้นของต้นไม้ต้นนั้น มีสิ่งหนึ่งติดอยู่  
                                                   


    "  อิสลาทิส.. "                                                                                                


    ติอากอ และ ปิเยทาร์ อุทานขึ้นเกือบพร้อมกัน     ต้นไม้ต่างสายพันธ์หน้าตาแปลกต้นหนี่ง มัน

    พันเข้ากับโคนต้นไม้ที่ ถูกรากขึ้นมา การเคลื่อนใหวของมัน พยายามแกะกิ่งและรากที่เกี่ยวพัน

    กัน  และเมื่อมันแกะต้นของมันแยกออกมาได้ มันถูกจับไว้ ก่อนที่จะหนีลงน้ำ  ติอากอ   เห็น

    เช่นนั้น เขาตะโกนด้วยเสียงอันดัง                                                    
                                 


    "  ปิเยเราทั้งหลาย  บัดนี้ ข้าคาดว่า จะมีอิสราทิส อยู่ในน้ำที่นี่จำนวนมาก  พวกท่าน จงลงไปนำมัน

    ขึ้นมาให้หมด ท่านจงลงไปนำ อิสราทิส ผู้ลอบกัดเรา  แล้วนำกลับขึ้นไปข้างบน  พาไปลานพิพากษา"                                                                         
                         

    สิ้นเสียง  ติอากอ เหล่าต้นไม้ นอ้ยใหญ่นับร้อยต้น ได้โดดลงน้ำความหาสิ่งนั้นในทันที และ

    ทันทีที่ความหาเจอ ต้นไม้นาม  อิสลาทิส ก็ถูกกระชากขึ้นจากน้ำทันที และหลายต้น ต้นแล้ว

    ต้นเล่า  พวกมันถูกลากขึ้นและไปกองรวมกัน ไว้ทีลานกว้างข้างบนรวมได้ สองร้อยกว่าต้น และ

    พวกเขากับพบ ร่างของต้นไม้ที่เป็นเวรยามในคืนนั้น สิ้นชีตะอยู่ในน้ำแห่งนั้น อีกกว่าหลายสิบร่าง

    ด้วยเมื่อควานหาจนคิดว่าไม่น่าจะมีอยู่ในน้ำแล้ว  ต้นไม้ทั้งหมดจึงได้ขึ้นจากน้ำมาสมทบที่ลาน

    กว้าง                                                                                                          

     อัครชัย เห็น ติอากอ เคลื่อนไปหยุดอยูหน้ากองต้นไมันั้น  เขารู้ว่า ติอากอ คงสื่อสาร อะไรกัน

    สักอย่าง แต่สักพัก                                                            
                                   


    " ท่าน ติอากอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เราปิเยอิสลาทิส อยากให้ท่านส่งภาษาที่จะทำให้มนุษย์

    โลกเข้าใจได้มากกว่า ที่จะสื่อแต่ภาษาของเรา "                                                                                    


    เสียงจากต้นไม้ต้นหนึ่งในกองน้้นได้พูดขึ้น


    " เอ๊ะ ปิเยอิสลาทิส ท่านเข้าใจภาษาโลกมนุษย์ ได้อย่างไรกัน เมื่อก่อนพวกเจ้าไม่เคยรู้ "     


    ติอากอ ถาม ขึ้นด้วยความสงสัย และก็ได้รับคำตอบ                                                      


    " อย่าคิดว่า ปิเยท่าน จะได้รับโอกาสให้รู้ภาษาชาวโลกอยู่ ผู้เดียวสิ ติอากอ  ท่าน มัจเจ รู้ว่ามี

    วิธีอย่างไร ที่จะต้องทำให้รู้ภาษาชาวโลก เหมือนกับพวกท่านแล้ว ตอนนี้ ปิเย ทั้งหมด ที่จะ

    เดินทางมาที่นี่ และอาจจะข้ามไปยังโลก ส่วนใหญ่มักจะรู้ภาษาชาวโลกอย่างพวกท่านแล้ว แม่

    แต่ท่าน มัจเจเอง พวกเราเตรียมพร้อมที่จะไปอยู่ที่นั่น และเเหล่งน้ำที่นั่น จะเป็นที่ของข้าที่ท่าน

    มัจเจ ได้รับปากไว้  "                                                                                        


    ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งถูกจับมาเคลื่อนออกมาข้างหน้า และพูดโต้ตอบกับ ติอากอ                                    
     

    " เจ้าไว้ใจ มัจเจ เหรอ ปิเยอิสลาทิส  เจ้าก็รู้ว่ามันเป็นยังไง  มัจเจ มันหลอกให้เจ้าทำงานให้มัน

    มาเยอะแล้ว แล้วเจ้าได้อะไร มีแต่ถูกกดหัวอยู่ตลอด สายพันธ์ของเจ้าถูกจำกัดไม่ให้แพร่พันธ์

    เจ้ายังจะเห็นความดีและรับใช้มันอยู่อีกเหรอ "                                    
                           


    ติอากอ กล่าวกับต้นไม้ผู้เดินออกมานั้น   แต่มันกลับหัวเราะ                                          


    "ฮ่า ๆ ....... จริงอยู่ ติอากอ แต่ก่อนข้าอาจจะไม่ไว้ใจ มัจเจ แต่ตอนนี้ มัจเจ มีแผนที่จะเดิน

    ทางไปข้างหน้า โลกกว้างใหญ่ไพศาลกว่า ติยาอิกอ มาก ที่นั่นมีอาหารที่ถูกใจ เพียงพอสำหรับพวก

    ข้าและมัจเจมาก หรือเจ้าจะปฎิเสธ ว่าเลือดเนื้อของชาวโลกพวกนั้น มันไม่ถูกใจเจ้า และความกว้าง

    ใหญ่นั้น มัจเจ เองก็คงดูแลได้ไม่หมด ยังไงก็ต้องให้ข้าช่วยอยู่แล้ว แต่สำหรับเจ้า  มัจเจ บอกว่า ถ้า

    เจ้ายอม จักให้เจ้าได้ขึ้นดูแล ติอาติกอ แห่งนี้ต่อไป เพื่อพวกเราจะได้ไม่เสียเลือดเนื้อ ปิเย ทั้ง

    สองฝ่าย ถ้าต้องเข้าประหัต ประหารกัน "                                                      
             


    คำพูดของ ปิเยอิสลาทิส ทำให้พวกของอัครชัย ประหวั่นยิ่งนัก ถ้า ติอากอ   รับข้อเสนอของ มัจเจ

    ตามคำ ของ ปิเยอิสลาทิส จริง พวกเขาเป็นอันตรายแน่ แต่ทว่าก็ใจชื้นขึ้น เมื่อได้ยินคำที่ ติอากอ

    ตอบ                                                                                                        
     


    " เจ้าไม่ต้องมาหว่านล้อมหรอก ยังไงข้าก็ไม่หลงกล ของ มัจเจ มันหลอก  อีกอย่างข้าเคย

    บอกไว้แล้ว ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยว กับการเป็นใหญ่ใดใดอีก  ส่วนเจ้า ปิเยอิสลาทิส เจ้าคงไม่รู้ว่า ฝันของ

    เจ้าอาจไปไม่ถึง มัจเจ มันคงไม่ปล่อยให้ใครได้ดิบดีง่ายๆ     และอีกอย่างที่นี่เจ้าต้องสังเวยชี

    ตะ ให้กับปิเยที่นี่ เพื่อชดใช้ ที่เจ้าทำกับหลายชีตะ ของปิเยแห่งทาร์  "                              

     
    แต่ ปิเยอิสลาทิส กลับหัวเราะขึ้นอีก    อย่างไม่สทกสะท้าน                                                                     


    " ฮ่า...   นั่นถือว่า ข้าให้โอกาสเจ้าแล้วนะ ติอากอ แต่เจ้าอย่าลืมนะ   ความเป็นใหญ่ไครก็

    อยากได้  มันมีอำนาจ ตอนนี้ มีการส่งข่าวในหมู่ปิเยท่าน คอยส่งข่าวบอก มัจเจ อยู่ตลอด

    รวมทั้งแผนการณ์  ต่างๆที่เจ้าวางแผนกัน มัจเจ จะรู้ตลอด เหมือนตอนที่ ปิเยข้า ล่องมาตาม

    ลำน้ำ  มัจเจ ส่งข่าวให้ข้ารู้ว่าจะมี การจับจ้องอยู่ตามเส้นทางที่ ปิเยข้า ผ่านมา ข้าเลยวางแผน

    ลอดมาไต้น้ำ ตั้งแต่ โค้งน้ำ ทริบิออส  และก็ได้ผล ปิเยข้า ลอบขึ้นไป ลากปิเยของท่าน มาสังหาร

    ไต้น้ำได้หลายสิบชีตะ เจ้าคงจะคิดซีนะ ว่าปิเยข้าจะลอดไต้น้ำได้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว 

    ติอากอ ไพร่พลของ มัจเจ ตอนนี้ได้รับการฝึกฝนทุกอย่าง ยากที่มีผู้ใดจะต่อกรได้แล้ว ยอมเสียเถอะ 

    และอีกอย่างผู้ที่ส่งข่าวไปให้มัจเจ อาจเป็น ปิเยทาร์น้องของท่านก็เป็นได้ บอกแล้วไง ว่าอำนาจใครก็

    อยากได้ ฮ่า.."  



    พูดจบ ปิเยอิสลาทิส ก็หัวเราะต่อ ติอากอรู้สึกว่าทำไม พวกปิเย อิสลาทิสจึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ทั้งคำพูด

    และท่าทางที่ดูแข็งกร้าวและเขาก็ คิดหนักกับคำพูดนั้น จริงอยู่ ปิเยทาร์ เป็น น้องรัก ที่ร่วมเป็นร่วม

    ตายกันมานับหมื่นปี ยากที่จะหักหลังเขาได้ แต่สิ่งที่ ปิยาอิสลาทิส พูดก็มีเหตุผล มัจเจรู้เรื่องทุก

    อย่างได้อย่างไร ปิเย ทุกร่างที่นี่ได้อาบ เรคิน แห่ง ติอากอแล้วและไร้ ซึ่ง เรคา ของมัจเจ ที่จะ

    ฝังร่างอยู่ควบคุม ปิเยใดปิเยหนึ่งได้  คงมีเพียง ปิเยทาร์ เท่านั้น ที่ ติอากอไม่เคยเห็นว่าได้อาบ

    เรคิน ของเขา    ปิเยทาร์ รู้ดี คำพูดของ ปิเยอิสลาทิส ตั้งใจจะหมายให้ ติอากอ เข้าใจเขาผิด

     เขาจึงได้พูดขึ้น                                                                                            


     " พี่ท่านไม่ต้องสงสัยข้าเลย    อันเรานั้นร่วมเป็นร่วมตายกันมานานนัก พี่ท่านอาจคิดว่าข้า

    อยากเป็นใหญ่ใน ติยากิออ    แต่พี่ท่านก็คงรู้นิสัยข้าดี ถ้าข้าอยากเป็นใหญ่ จะมาเฉยนิ่งอยู่

    ทำไม    ไพร่พล ปิเยเรา ส่วนใหญ่ก็รับฟังข้าเกือบทั้งหมดแล้ว มิเห็นจักต้องลดเกียรติส่งข่าว

    ไปให้ศัตรู เข้ามาประหัตประหาร ปิเยเดียวกัน แต่เพื่อความแน่ใจข้าขอ อาบ เรคิน แห่งท่านให้

    เห็นสักครั้ง เพื่อจะได้รู้วา ไม่มีเรคา ของมัจเจในตัวข้า  "                                              


    ปิเยทาร์  พูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงค่อนข้างน้อยเนื้อต่ำใจ                                                    


    "ไม่ใช่เลย ปิเยทาร์ ข้าไม่เคยคิดอย่างนั้น   แต่ เรคาของมัจเจ มันมีทั้ง เรารับเข้ามา และแอบ

    ลอบเข้ามา เจ้าเป็น ปิเยเดียว ที่ยังไม่เคยอาบ เรคิน แห่งข้า อาจไม่รู้ตัวก็ได้ว่ามันลอบเข้ามาให้

    ร่างเจ้าตอนใหน  เพื่อความสบายใจ เราให้ชาวโลกช่วยนำน้ำผสม เรคิน แห่งเรา มาให้เจ้าได้

    อาบดีกว่าเพื่อความสบายใจ  "   



    แล้วกานต์ก็เตรียมภาชนะน้ำ ผสมผล เรคิน ของ ติอากอ เข้ามา    กานต์บรรจงอาบเข้าที่ลำต้น

    ของปิเยทาร์    และเมื่อไม่มีผลใด เขาบรรจง วางภาชนะแห่งน้ำนั้งลง แต่ที่ทุกคนไม่ทันคาดคิด

    ปู่อินทร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนั้น เขาเดินมา ฉวย ภาชนะน้ำนั้นสาดโครม เข้าที่ร่างของ ปิเยอาทิส และ

    นั่นเอง   ร่างลำต้นนั้นสะบัดเร่า และสงบลง และเบื้องหน้าของร่างนั้น รากไม้แห้งกรังชิ้นหนึ่งได้

    ตกลงจากร่างนั้น    ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก    



    " ขอบคุณชาวโลกคนนี้มากเลย   ที่ช่วยให้ข้าหลุดพ้นจาก เรคา แห่ง มัจเจ มัน บังคับข้าให้พูด

    ทุกอย่าง ทีจริงข้าไม่มีเจตนาทีจะพูดอย่างนั้นกับ ท่าน ติอากอ เลย แต่ควบคุมตัวเองไม่ได้  ทุก

    อย่างที่ข้าทำ ถูกบังคับทุกอย่าง  มันฝังเรคาให้ควบคุมร่างข้าและให้เป็นผู้นำการนี้จริงๆนะท่าน 

    ติอากอ   "                                            


    แล้วร่างต้นไม้นั้นก็ทรุดลง เหมือนคนนั่งคุกเข่า  คำพูดของ ปิเยอิสลาทิส ตอนนี้ ติอากอ รู้ดีว่า ตัว

    ตนของมันได้กลับมาแล้ว เขาเชื่อสนิทว่า เมื่อกี้นี้ ปิเยอิสลาทิส ถูกครอบงำจริง เพราะคำพูดเมื่อกี้

    มันอาจหาญเกินกว่าที่ ปิเยอาทิส จะทำได้                                                              



    " ไว้ชีตะปิเย แห่ง อิสลาทิส ทั้งหลาย เหอะ ท่าน ติยากิออ ไพล่พลข้า ฟังคำสั่งแห่งข้า ผู้ถูก

    ครอบงำจากเรคา ของมัจเจ พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรมาก จริงอยู่มีการฝึกฝนต่างๆ แต่ปิเยแห่ง

    อิสลาทิส ทั้งหลายก็ไม่ได้เต็มใจมากนัก  ยังมีปิเยเราอีกนับรอ้ยชีวิตที่หนีไป เมื่อครู่นี้ ปิเยแห่ง

    ข้าน่าสงสาร มีผู้นำอย่างข้าที่พาเผ่าพันธ์ให้เจริญไปไม่ได้ "                                          
         
     

    คำพูดของ ปิเยอิสลาทิส ทำให้ทุกคนสลดใจ จริงอยู่เมื่อครู่เผ่าพันธ์นี้ได้คร่า ชีวิต ปิเยแห่งทาร์

    จริง แต่เมื่อถูกบังคับ ก็ต้องมีการเอาตัวรอด ติอากอ รู้ดี แต่ก็ต้องถามความเห็นของปิเยทาร์    


    " เจ้าจักเอาอย่างไร ปิเยทาร์  ปิเยของเจ้า เสียชีตะไปหลาย เจ้าจะเอาอย่างไร "                  


    ปิเยทาร์ คิดอยู่ครู่หนึ่ง     


    " ก็ได้ท่านพี่ครั้นจะฆ่าแกงกันไปก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว อย่างน้อย ปิเยอิสลาทิส ก็ไม่ได้กระทำการ

    กับเราอย่างตั้งใจนัก   เราก็เห็นอยุ่ว่าพวกมันถูกเรคา ควบคุมมาจริง สู้ไว้ชีวิตเเละเอาไว้เป็นพวกเราดี

    กว่า อย่างน้อยเราก็อาจจะได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับมัจเจมันบ้าง เราห่างจากมันมานานคงมีอะไร

    เปลี่ยนแปลงไปบ้างคงถามจากพวก อิสลาทิสได้                                                                             


    และไพร่พล ปิเย แห่งทาร์ก็ลงความเห็นว่า จะปล่อย อิสลาทิส พวกเขามีความสงสาร อิส

    ลาทิสเช่น เดียวกัน  ปิเยอิสลาทิส ขอปักหลักอยู่ร่วมกับ ปิเยแห่งทาร์ นี้ เพื่อช่วยในการศึกครั้งนี้ และ

    สัญญาจะไปนำพาไพร่พลที่หนีไปทั้งหมดกลับมาร่วมด้วย





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×