ลำดับตอนที่ #32
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : แนวร่วม
ดุจปรายกัดกินผลเรคา ทันที และเมื่อกลืนลงท้อง เธอก็รู้สึกเจ็บ เธอรู้ว่าร่างกายตัวเองคง
บอบช้ำพอสมควร แต่ก็ได้พยายามกัดกินผลนั้น จนหมด เพื่อให้ ปิเยทาร์สบายใจ
" เป็นยังไงมั่ง ปราย "
อรัญถามหลังจากที่เห็นแฟนสาวเอามือลูบท้อง
" รู้สึกปวดท้อง คงเป็นเพราะบาดเจ็บมากกว่าที่จะเกิด จากกินผลเรคินเนี่ย "
คำตอบของดุจปรายทำให้ปิเยทาร์สรุป
" คงไม่ได้ผลอะไรจริงๆ ไปไปกันได้แล้ว ข้าขอโทษที่ทำพวกเจ้าเสียเวลา พวกเจ้าบาดเจ็บ
พากลับไปตะเนยา ตะเคียน่า คงมีทางรักษาพวกเจ้า "
พากลับไปตะเนยา ตะเคียน่า คงมีทางรักษาพวกเจ้า "
แล้วทั้งหมดก็ออกเดินทาง ปิเยหิริน ขอทำหน้าที่เคลื่อนย้ายอัครชัยเ เพราะมีร่างกาย ที่แกร่ง
กว่ามนุษย์ มาก แต่อรัญ ขอแบกแฟนสาวไปเองก่อนที่ยังมีแรงพออยู่ เขาเองก็บาดเจ็บและ
อ่อนล้าเช่นกัน อรัญแบกแฟนสาว ที่คราวนี้เธอดูแจ่มใสและเจ็บน้อยลง คงเป็นเพราะมีกำลังใจ
และคิดว่าคงรอดปลอดภัยแล้ว แต่การเอาแฟนสาวขึ้นพาดบ่าในครั้งนี้ อรัญเองกลับรู้สึกว่าแฟน
สาวของเขาน้ำหนักเบาผิดปรกติ
กว่ามนุษย์ มาก แต่อรัญ ขอแบกแฟนสาวไปเองก่อนที่ยังมีแรงพออยู่ เขาเองก็บาดเจ็บและ
อ่อนล้าเช่นกัน อรัญแบกแฟนสาว ที่คราวนี้เธอดูแจ่มใสและเจ็บน้อยลง คงเป็นเพราะมีกำลังใจ
และคิดว่าคงรอดปลอดภัยแล้ว แต่การเอาแฟนสาวขึ้นพาดบ่าในครั้งนี้ อรัญเองกลับรู้สึกว่าแฟน
สาวของเขาน้ำหนักเบาผิดปรกติ
" น้ำหนักลดไปเยอะเลยมั้งเนี่ย "
อรัญสัพยอก
" ลดอะไรเมื่อกี้กินผลเรคินไปอีกตั้ง หนี่งลูก แล้ว พี่อรัญล่ะไหวเหรอ ให้ปรายไปกับพวกนั้นก็ได้
นะ เมื่อกี้ตอนแบกมาเห็นจะทำหล่นเสียให้ได้ "
นะ เมื่อกี้ตอนแบกมาเห็นจะทำหล่นเสียให้ได้ "
ดุจปราย ตอบเสียงใส
" ไม่เอาไม่อยากให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวแฟนผม ยังไหวอยุ่ "
อรัญหยอกอีก คราวนี้เขาได้รับผลคือวงแขนของแฟนสาวมากระชับคอเขาแน่นขี้น และดุจปราย
ไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะกลัวอรัญจะเหนื่อยอีก
ทั้งหมดเดินลัดเลาะ มาระยะหนึ่งจน จามิกร และแสงดาวเริ่มล้า
ไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะกลัวอรัญจะเหนื่อยอีก
ทั้งหมดเดินลัดเลาะ มาระยะหนึ่งจน จามิกร และแสงดาวเริ่มล้า
" พักกันหน่อยไม๊ ผู้หญิงไม่ค่อยไหวแล้ว "
กานต์ ร้องบอกเพราะเห็นอาการอ่อนล้าของแฟนสาว
" ดีเหมือนกัน มากันเป็นกิโลแล้ว พวกเราบาดเจ็บคงล้ามากด้วย "
ปู่อินทร์ เสริม
" ดูคู่นั้นสิ หวานกันจัง แบกกันมา เป็นกิโลแล้วยังไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย ทำยังกับเป็นคน
ธรรมดาไม่ได้รับบาดเจ็บกันมาอย่างนั้นแหละ "
ธรรมดาไม่ได้รับบาดเจ็บกันมาอย่างนั้นแหละ "
แสงดาวแซว เมื่อเห็นว่าอรัญสามารถแบก ดุจปรายมาได้ไกลมาก โดยที่มองแล้วยังไม่
เหนื่อยเลย
เหนื่อยเลย
" นั่นสิเราเดินอย่างเดียวยังแย่เลย อรัญทำได้ไงเนี่ย "
กานต์ กล่าวเสริม อรัญยิ้ม และย่อให้ดุจปรายลงจากบ่า เขาเองพึ่งรู้สึกว่าเขาเองไม่รู้สึกว่าตัว
เองบาดเจ็บอะไรแล้ว มันหายไปตั้งแต่เมื่อไรกัน เขาหันไปมองดุจปราย และได้เจอกับสายตา
กลมโต ที่เหมือนรอสบตาเขาอยู่พอดี
เองบาดเจ็บอะไรแล้ว มันหายไปตั้งแต่เมื่อไรกัน เขาหันไปมองดุจปราย และได้เจอกับสายตา
กลมโต ที่เหมือนรอสบตาเขาอยู่พอดี
" พี่อรัญ ปรายรู้สึกว่าปรายจะหายจากบาดเจ็บนะ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร พอแสงดาวบอกพึ่งนึก
ได้ ก่อนหน้านี้ รู้สึกเจ็บแปลบในท้องแต่ตอนนี้มันหายไปหมดแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นไรแล้ว "
ได้ ก่อนหน้านี้ รู้สึกเจ็บแปลบในท้องแต่ตอนนี้มันหายไปหมดแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นไรแล้ว "
ยืนยันคำพูด ดุจปรายขยับเดินไปมา คำพูดและการกระทำของดุจปรายทำให้ทุกคนแปลกใจ
" ตอนนั้นปรายบาดเจ็บจริงนะ ไม่ได้แกล้งทุกคนนะ ไม่ได้แกล้งให้อรัญแบกมานี่นะแต่ตอนนี้
ทำไม่มันหายไปได้ไม่รู้ "
ทำไม่มันหายไปได้ไม่รู้ "
ดุจปรายออกตัว เพราะเกรงว่าทุกคนจะเข้าใจ ว่าแกล้งหลอกเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้
แต่ก่อนที่ทุกคนจะพูดอะไรกันต่อ เสียงปิเยทาร์ ก็แทรกขึ้น
แต่ก่อนที่ทุกคนจะพูดอะไรกันต่อ เสียงปิเยทาร์ ก็แทรกขึ้น
" มันได้ผลจริงๆ ด้วย "
" อะไรหรือท่านปิเยทาร์ อะไรได้ผล "
ดุจปรายถามขึ้นอย่างสงสัยคำพูดของปิเยทาร์
" เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้ากินอะไรเข้าไปก่อนออกเดินทางมาถึงนี่ "
ดุจปรายฉุกคิด และเธอก็คิดออก
" ผลเรคิน "
ดุจปรายและ อรัญอุทานขึ้นพร้อมกัน
" ใช่แล้ว อาการบาดเจ็บของเจ้าสองคนหายเพราะไม้รับผลเรคินเข้าไปบำบัด แม้จะไม่หายใน
ทันทีทันใด ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จนี่เป็นคุณสมบัติใหม่ของการชุบตัวที่ภาชีระ ของท่าน
ติอากอ ตามคำแนะนำ ของท่านตะเคียน่า เขามีร่างและอาวุธ เกือบเทียบเท่ามัจเจแล้ว โดย
เฉพาะการ ใช้ เรคินชุบร่างจากการบาดเจ็บของมนุษย์ เขาทำได้อย่างมัจเจแล้ว "
ทันทีทันใด ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จนี่เป็นคุณสมบัติใหม่ของการชุบตัวที่ภาชีระ ของท่าน
ติอากอ ตามคำแนะนำ ของท่านตะเคียน่า เขามีร่างและอาวุธ เกือบเทียบเท่ามัจเจแล้ว โดย
เฉพาะการ ใช้ เรคินชุบร่างจากการบาดเจ็บของมนุษย์ เขาทำได้อย่างมัจเจแล้ว "
" เหมือนกับเออ ตอนที่รุ่นพ่อพวกเราเป็นใช่ใหม ...."
แสงดาวถาม
" ใช่แล้ว แม่หนูคนนี้หัวไว การเข้าควบคุมร่างและประสานร่างให้กลับมาดังเดิม อย่างที่เช่นมัจ
เจ ทำ ตอนนี้ติอากอก็ทำได้บ้างแล้วถึงจะไม่ได้ปุบปับแบบของ มัจเจก็เถอะ แต่ก็ถือว่าค่อนข้าง
สมบูรณ์แล้ว ดังตัวอย่างที่เห็นเจ้าสองคนหายจากอาการบาดเจ็บเมื่อกี้นี้ไง แล้ว พวกเจ้าที่
บาดเจ็บกันอยู่นี่หละว่าไง จะทดลองเหมือนสองคนนี้ใหม เจ้าเห็นผลกันแบบนี้แล้ว "
เจ ทำ ตอนนี้ติอากอก็ทำได้บ้างแล้วถึงจะไม่ได้ปุบปับแบบของ มัจเจก็เถอะ แต่ก็ถือว่าค่อนข้าง
สมบูรณ์แล้ว ดังตัวอย่างที่เห็นเจ้าสองคนหายจากอาการบาดเจ็บเมื่อกี้นี้ไง แล้ว พวกเจ้าที่
บาดเจ็บกันอยู่นี่หละว่าไง จะทดลองเหมือนสองคนนี้ใหม เจ้าเห็นผลกันแบบนี้แล้ว "
ปิเยทาร์กล่าว
" ที่จริงถ้าพวกเรารู้ตั้งแต่ตอนแรกว่าท่านจะทดลองแบบนี้ ก็ไม่ปฏิเสธหรอก ท่านติอากอมีบุญ
คุณกับเรามาตลอดแบบนี้ เรื่องทดลองแค่นี้ พวกเราช่วยได้อยู่แล้ว ยิ่งมันทำให้พวกเราอาการดี
ขึ้นแบบนี้ด้วย เราจะปฏิเสธได้อย่างไร "
คุณกับเรามาตลอดแบบนี้ เรื่องทดลองแค่นี้ พวกเราช่วยได้อยู่แล้ว ยิ่งมันทำให้พวกเราอาการดี
ขึ้นแบบนี้ด้วย เราจะปฏิเสธได้อย่างไร "
ปู่อินทร์ ตอบ พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อ
" ว่าแต่ คุณหมอนะสิ ขยับปากขยับคอไม่ได้อยู่อย่างนั้นจะให้เขากินยังไง "
" เดี๋ยวหนูเคี้ยวแล้วเอาใส่ปากให้เขาก็ได้นะคะ เขาคงกลืนเองได้ คงไม่ถึงขนาดว่ากลืนอะไร
ไม่ลงหรอก "
ไม่ลงหรอก "
แสงดาวขันอาสา
" กินผลนี้ด้วยกินความรักเข้าไปด้วย หมออัค คงฟื้นได้ไวกว่าคนอื่นนะอรัญ ฮิฮิ"
ดุจปรายกล่าวหยอก และหันมาพยักพเยิดกับแฟนหนุ่ม
" แหม.ๆ..พอหายเจ็บก็มีฤทธิกันเลยนะ เอาคืนเลย แต่ดีใจที่ปรายมีอาการเช่นนี้ รู้ใหมตอนที่
ปรายเจ็บมาก มีบางคนหน้านี้เป็นตูดเลย ไม่เอาละไม่อยากจะเเซว รีบช่วยหมอกันดีกว่า "
ปรายเจ็บมาก มีบางคนหน้านี้เป็นตูดเลย ไม่เอาละไม่อยากจะเเซว รีบช่วยหมอกันดีกว่า "
แสงดาวตัดบท เพราะเห็นว่ายังมีอย่างหนึ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่า แล้วทั้งหมดก็ได้รับการจ่าย
แจก ผลไม้ที่เหลือ พวกเขารับมากัดกิน และแสงดาวก็กัดและเคี้ยวเป็นพอคำ เข้าใส่ในปาก
ของอัครชัยโดยมีอรัญและกานต์ช่วยกันจับอ้าค้างไว้ สักพักเดียวหลังจากที่รอกันอย่างใจจดจ่อ
สิ่งที่เกิดขึ้นคราวนี้
แจก ผลไม้ที่เหลือ พวกเขารับมากัดกิน และแสงดาวก็กัดและเคี้ยวเป็นพอคำ เข้าใส่ในปาก
ของอัครชัยโดยมีอรัญและกานต์ช่วยกันจับอ้าค้างไว้ สักพักเดียวหลังจากที่รอกันอย่างใจจดจ่อ
สิ่งที่เกิดขึ้นคราวนี้
" หมอ..หมอ..ฟื้นแล้ว "
แสงดาว เสียงดังด้วยความดีใจ
" ผมเป็นอะไรไปเหรอ "
คำถามแรก ที่อัครชัยพูด หลังจากที่ได้สติ
" หมอ สลบไปค่ะตอนที่โดนพวกแร็พเตอร์มันทำร้าย ไม่ต้องรีบคิดไม่ต้องรีบขยับ นะคะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น
เอง "
แสงดาวกล่าวตอบด้วยความดีใจ ตอนนี้น้ำตาซึมมาโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเธอเหมือนตายแล้ว
เกิดใหม่ เธอยิ้มอย่างดีใจเข้าไปบีบแขนบีบขาแฟนหนุ่มอย่างทนุถนอม
เกิดใหม่ เธอยิ้มอย่างดีใจเข้าไปบีบแขนบีบขาแฟนหนุ่มอย่างทนุถนอม
" โอ.ผมนึกออกแล้วตอนที่พวกเราเจอกับไอ้พวกนั้น ผมโดนมันทำร้ายหนักตอนนั้นคงหมดสติ
ไป แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกชาเล็กๆอยู่ล่ะ ปรกติ อาการชาแบบนี้ มันน่าจะเกิดตอนที่เกิดแผลใหม่ๆ
ร่างกายยังไม่รับรู้อาการเจ็บ "
ไป แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกชาเล็กๆอยู่ล่ะ ปรกติ อาการชาแบบนี้ มันน่าจะเกิดตอนที่เกิดแผลใหม่ๆ
ร่างกายยังไม่รับรู้อาการเจ็บ "
อัครชัยตอบ เขาเองรับรู้อาการชาได้ แต่ไม่รู้ที่จริงแล้วมันเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่ทุกคนพอจะรู้ดี
เพราะตอนนี้ทุกคนที่อาการชาแบบเขาได้หายกันไปหมดทุกคนแล้วและอัครชัยกลับสงสัยยิ่งขึ้น
อีก เมื่อจามิกร แทรกเข้ามาอย่างและมีคำถามแปลกๆ
เพราะตอนนี้ทุกคนที่อาการชาแบบเขาได้หายกันไปหมดทุกคนแล้วและอัครชัยกลับสงสัยยิ่งขึ้น
อีก เมื่อจามิกร แทรกเข้ามาอย่างและมีคำถามแปลกๆ
" ใหน ขอดูใกล้ๆหน่อยสิ หมออย่าขยับแขนข้างนี้นะ "
อัครชัยแปลกใจ ทำไมจามิกร จะพยายามมาจ้องที่บาดแผลของเขาด้วย และดูทุกคนตอนนี้ก็
มีทีท่าว่าจะสนใจ เช่นเดียวกับจามิกร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาก็มีบาดแผลนี้มานานแล้วทำไมทุกคน
กลับมาสนใจกันตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
มีทีท่าว่าจะสนใจ เช่นเดียวกับจามิกร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาก็มีบาดแผลนี้มานานแล้วทำไมทุกคน
กลับมาสนใจกันตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
" สังเกตุได้เลย หมอดูสิคะ เนื้อเริ่มเลื่อนมาเติมช้าๆ โอ...มหัศจรรย์ มากนี่ถ้าผลไม้นี้อยู่โลกเรา
นะ ใครเป็นเจ้าของคงรวยเละแน่ สมานแผลได้เร็วขนาดนี้ "
นะ ใครเป็นเจ้าของคงรวยเละแน่ สมานแผลได้เร็วขนาดนี้ "
คำพูดของจามิกรยิ่งทำให้ อัครชัยกับงงขึ้นไปอีก แต่แสงดาวสังเกตุอาการเขารู้แล้วตอนนี้ เธอ
จึงอธิบายให้แฟนหนุ่มฟัง
จึงอธิบายให้แฟนหนุ่มฟัง
" หมอจำได้ใหม สมัยพ่อพวกเราที่บาดเจ็บจากเครื่องบินตก เเละพวกเขาได้เล่าให้พวกเราฟัง
ว่าได้กินผลไม้และทำให้พวกเขาฟื้นจากการบาดเจ็บหนักอย่างรวดเร็ว ร่างกายพวกเราได้รับ
ผลไม้ประสานบาดแผลเหมือนตอนที่รุ่นพ่อพวกเราเหมือนตอนนั้น "
ว่าได้กินผลไม้และทำให้พวกเขาฟื้นจากการบาดเจ็บหนักอย่างรวดเร็ว ร่างกายพวกเราได้รับ
ผลไม้ประสานบาดแผลเหมือนตอนที่รุ่นพ่อพวกเราเหมือนตอนนั้น "
คำบอกเล่าของแฟนสาว ทำให้อัครชัยคิดออกทันที
"
"
""จริงหรือนี่""""
เขาคิดในใจ
" แล้วพวกเราไปเอามาจากที่ใหนล่ะแสงดาว "
เขาถามขึ้น พร้อมก็เริ่มสังเกตุที่แผลไปด้วยคราวนี้ จริงอย่างจามิกรบอกเลยทีเดียว ผิดหนังของ
เขาถ้าสังเกตุดีๆ จะมีการเคลื่อนเข้ามาสมานแผลที่ใหญ่เมื่อก่อนหน้านี้ ให้มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ
เขาถามขึ้น พร้อมก็เริ่มสังเกตุที่แผลไปด้วยคราวนี้ จริงอย่างจามิกรบอกเลยทีเดียว ผิดหนังของ
เขาถ้าสังเกตุดีๆ จะมีการเคลื่อนเข้ามาสมานแผลที่ใหญ่เมื่อก่อนหน้านี้ ให้มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ
" ท่านติอากอ นะหมอ ท่านได้กำเหนิดผลไม้ที่สามารถทำให้ร่างกายเราประสานร่างจากอาการ
บาดเจ็บได้ โดยคำแนะนำของท่าน ตะเคียน่า เขาทำสำเร็จแล้ว ต่อไปพวกเราไม่ต้องกลัวอะไร
แล้ว "
บาดเจ็บได้ โดยคำแนะนำของท่าน ตะเคียน่า เขาทำสำเร็จแล้ว ต่อไปพวกเราไม่ต้องกลัวอะไร
แล้ว "
คำตอบของแฟนสาวทำให้อัครชัยถึงกับตะลึง สิ่งมหัศจรรย์ เกิดขึ้นจริง เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่
อดดีใจ ไม่ได้เมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นแล้ว
อดดีใจ ไม่ได้เมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นแล้ว
" ผมหายแล้วมหัศจรรย์จริงๆ "
อัครชัยลุกขึ้นยืน เขายืดเส้นยืดสายได้บิดร่างกายไปมา หน้าตาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มดีใจ ทุกคนก็
เช่นกัน
เช่นกัน
" งั้นเราก็เดินทางต่อเหอะ วันนี้มีข่าวดีหลายเรื่อง ไว้ข้าจะเล่าไปเดินไปจะได้ไม่เสียเวลา "
ปิเยทาร์กล่าว พร้อมลุกขึ้นนำทาง แต่คราวนี้ กลุ่มทั้งหมดเดินทางกันเร็วขึ้นมาก
" ท่านปิเยทาร์ มีข่าวดีอะไรอีกหรือ เห็นท่านเกริ่นเมื่อสักครู่ "
ปู่อินทร์ถามขึ้นด้วยความสงสัย หลังจากที่ได้เดินทางกันออกมาพอสมควร เขาอยากจะถามแต่
คิดว่า ปิเยทาร์จะเล่าเอง เมื่อปิเยทาร์ไม่พูด เขาจึงถามขึ้นด้วยความอยากรู้
คิดว่า ปิเยทาร์จะเล่าเอง เมื่อปิเยทาร์ไม่พูด เขาจึงถามขึ้นด้วยความอยากรู้
" ที่จริงจะว่าข่าวดีสำหรับพวกเจ้าก็ไม่เชิงหรอก แต่ก็ถือว่าทำให้พวกเราเเข็งเเกร่งขึ้น แต่ว่า
สำหรับเหล่าปิเยเรา ถือว่าเป็นข่าวดีมาก ปิเย ทางไต้เดินทางมาสมทบถึง ตะเนยาในวันพรุ่งแล้ว
พวกเราจักได้พบเผ่าพันธุ์เรา หลังจากที่ไม่ได้พบกันมาเป็นพันปี ข้าจักได้พบน้องของข้า
ท่าน ติอากอ จักได้พบลูกของเขา หลังจากที่ได้แยกย้ายกันไปเมื่อพันกว่าปีก่อน ไม่ต้องบอก
ว่าพวกเราดีใจกันขนาดใหน "
สำหรับเหล่าปิเยเรา ถือว่าเป็นข่าวดีมาก ปิเย ทางไต้เดินทางมาสมทบถึง ตะเนยาในวันพรุ่งแล้ว
พวกเราจักได้พบเผ่าพันธุ์เรา หลังจากที่ไม่ได้พบกันมาเป็นพันปี ข้าจักได้พบน้องของข้า
ท่าน ติอากอ จักได้พบลูกของเขา หลังจากที่ได้แยกย้ายกันไปเมื่อพันกว่าปีก่อน ไม่ต้องบอก
ว่าพวกเราดีใจกันขนาดใหน "
คำพูดของปิเยทาร์ ทำให้ ปู่อินทร์คิด เขารู้ดีถึงการพลัดพรากและการมาเจอกัน หลังจากที่ไม่
ได้เจอกันนาน เขาไปอยู่ป่านานรับรู้ถึงสิ่งนี้ดี ว่าปิเยทาร์ และต้นไม้ที่ตะเนยา นี้จะมีอาการดีใจ
แค่ใหน
ได้เจอกันนาน เขาไปอยู่ป่านานรับรู้ถึงสิ่งนี้ดี ว่าปิเยทาร์ และต้นไม้ที่ตะเนยา นี้จะมีอาการดีใจ
แค่ใหน
" โหไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ ถ้าเป็นคนแถวนี้ห่างกับแฟนนานขนาดนี้จะเป็นยังไง น้า. "
แสงดาว พูดพลางชำเลืองตามาทางอรัญ
"น่านแวะมาจนได้ ยังดีกว่าคนบางคน แฟนอยู่ใกล้แต่เจ็บนิดหน่อย จะตายแทนแฟนเสียให้ได้
จริงไม่ หมออัคร "
จริงไม่ หมออัคร "
อรัญแซวกลับ ทั้งหมดก็หัวเราะกันอย่างครื้นเครง พวกเขาดูมีความสุขขึ้น และทั้งหมดก็เดิน
ทางมาเกือบถึงตะเนยา จึงเเวะพักหา ติอากอ ที่แช่อยู่ที่ลำน้ำภาชีระ
ทางมาเกือบถึงตะเนยา จึงเเวะพักหา ติอากอ ที่แช่อยู่ที่ลำน้ำภาชีระ
" ดีใจจริงๆที่พวกเจ้ารอดกลับมาทุกคน ข้าอยู่มานาน รอบรู้เสียเปล่า กลับไม่ได้เฉลี่ยว เกือบทำให้
พวกเจ้าไปตายเสียที่นั่นแล้ว "
พวกเจ้าไปตายเสียที่นั่นแล้ว "
ตะเคียน่ากล่าวหลังจากที่ได้เห็นหน้าพวกเขา
" ไม่ใช่ความผิดของท่านหรอก อย่างไรเสียพวกเราก็ต้องไปที่นั่นอยู่ดี พวกเราไม่โกรธท่าน ตะ
เคียน่าหรอก อย่างไรเสียพวกเราก็รอดมาแล้ว โดยการช่วยของพวกท่านอยู่ดี แต่พวกเราแปลกใจอยู่
เคียน่าหรอก อย่างไรเสียพวกเราก็รอดมาแล้ว โดยการช่วยของพวกท่านอยู่ดี แต่พวกเราแปลกใจอยู่
อย่างหนึ่ง ทำไมที่นั่น มีดอาบเรคิน ของท่านติอากอ ทำไมสามารถ ฆ่าเรคารียะ ของมัจเจ ได้ทั้งที่ตอน
อยู่ที่นี่ มันไม่เคยฆ่ามันได้เลย"
ปู่อินทร์ กล่าวพร้อมถามเรื่องที่เขาสงสัย
ตะเคียร์น่ากล่าวตอบ
" คงเป็นเพราะ พวกมันคงต้องออกจากร่างดิโนสิคน้อย นั่นด้วย และคงโดนพิษ ของสะมันพรีเข้าให้
ด้วย ตอนที่มันอยู่ในร่าง ร่างกายดิโนสิคน้อยคงช่วยกำบังพิษเองไว้ พอโดนมีดที่ติดเลือดของพวกเจ้าที่
มีเรคินอยู่จึงจำเป็นให้พวกเรคารียะตัองออกมาเลยตายได้ แต่พวกเจ้าก็แกร่งมากเลยนะ ข้านึกไม่ถึง
ว่าสิ่งมีชีวิตเล็กบอบบางอย่างพวกเจ้าจะเอาตัวรอดได้ถึงเพียงนี้ มัจเจ กับโอ๊คคาระ มันคงแทบครั่ง ที่ไม่
สามารถทำอะไรพวกเจ้าได้ "
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
และ ก็เป็นอย่างนั้นจริง
" ทำไมวะ มัจเจ ทำไมเจ้าปล่อยมนุษย์ตัวเล็กๆพวกนั้นมันรอดไปได้ ฮะ "
โอ๊คคาระ กล่าวอย่างเกรี้ยวกราด โมโหหลังจากได้รับทราบข่าวว่า มนุษย์ทั้งหมดรอดกลับไป
ได้ทุกคน มัจเจเองก็โกรธเหมือนกัน แต่เขาเองโกรธโอ๊คคาระมากกว่า ที่เวลาทำอะไรไม่
สำเร็จและก็มาเกรี้ยวกราดกับเขา ทั้งที่ทุกอย่างก็เกิดจากคำสั่งโอ๊คคาระทั้งนั้น คราวนี้มัจเจ
เลือกที่จะนิ่งไม่พูดอะไร ยิ่งทำให้โอ๊คคาระโกรธยิ่งนัก
ได้ทุกคน มัจเจเองก็โกรธเหมือนกัน แต่เขาเองโกรธโอ๊คคาระมากกว่า ที่เวลาทำอะไรไม่
สำเร็จและก็มาเกรี้ยวกราดกับเขา ทั้งที่ทุกอย่างก็เกิดจากคำสั่งโอ๊คคาระทั้งนั้น คราวนี้มัจเจ
เลือกที่จะนิ่งไม่พูดอะไร ยิ่งทำให้โอ๊คคาระโกรธยิ่งนัก
" ปิเยข้าไม่โกรธแกก็ได้มัจเจ เป็นความผิดข้าเองที่มีสมุนอ่อนด้อยกว่า ตะเคียน่ามัน "
ครานี้ มัจเจ สุดระงับอารมณ์
" ท่านไม่เคยคิดจะโทษตัวท่านเองบ้างเหรอ ว่าท่านก็มีสติปัญญาด้อยไปกว่า ท่านตะเคียน่า จึง
สั่งการให้ทำลายมนุษย์พวกนั้นไม่ได้ "
สั่งการให้ทำลายมนุษย์พวกนั้นไม่ได้ "
" นี่เจ้าว่าข้าโง่กว่าพวกมันเหรอ จริงอยู่เป็นความคิดข้า แต่เครื่องมือที่ใช้มันส่วนของเจ้านะ ถ้า
ของมันดีจริง ไม่ต้องมีคำสั่งเจ้าก็ทำสำเร็จได้ มัจเจ "
ของมันดีจริง ไม่ต้องมีคำสั่งเจ้าก็ทำสำเร็จได้ มัจเจ "
โอ๊คคาระ กล่าวอย่างเอาตัวรอด และปัด ความผิดให้มัจเจ
" เอาว่าข้าผิดก็ได้ท่านโอ๊คคาระ ต่อไปข้าขอทำด้วยตัวเองได้ใหม ไม่ขอฟังคำสั่งท่าน ข้าคง
ทำงานสบายใจขี้น"
ทำงานสบายใจขี้น"
มัจเจกล่าว
" ไม่ได้ข้าอยู่มานานข้ารอบรู้กว่าเจ้า เจ้าต้องฟังคำสั่งข้าอย่างเดียว หรือเจ้าจะให้ข้าเลิกใช้เจ้า
ไปใช้ เผ่าพันธุ์ จาบีร่าทำงานแทนเจ้า "
ไปใช้ เผ่าพันธุ์ จาบีร่าทำงานแทนเจ้า "
คำพูดของโอ๊คคาระ ครานี้ทำให้ มัจเจ อ่อนลงทันที
" ไม่ได้นะท่านโอ๊คคาระอย่าใช้ พวกจาบีร่าทำงานแทนข้า ท่านก็รู้ว่าพวกจาบีร่า คิดอย่างไรกับ
ติยากิออและโลกมนุษย์ ท่านอย่าได้ใช้ความโกรธเป็นเงื่อนไขให้พวกจาบิร่ามาทำลายพวกปิเย เรา
และโลกมนุษย์เลย "
ติยากิออและโลกมนุษย์ ท่านอย่าได้ใช้ความโกรธเป็นเงื่อนไขให้พวกจาบิร่ามาทำลายพวกปิเย เรา
และโลกมนุษย์เลย "
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น