ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตะนาวศรี

    ลำดับตอนที่ #31 : สมดุล การต่อสู้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 201
      4
      8 ก.ค. 62

                 



      เมื่อมี การเคลื่อนย้ายร่างเขา อัครชัยกัดกรามแน่นด้วยความเจ็บปวด แสงดาวสังเกตุเห็น เธอ

    รู้สึกสงสารเขามาก

     
    " ทนหน่อยนะพี่หมอ เราต้องไปจากที่นี่ เราจะทิ้งใครไว้ที่นี้ไม่ได้ "


    คำแฟนสาว อัครชัยมีกำลังใจขี้นเยอะ ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนอ่อนแอ อะไรแต่บาดแผล

    ครานี้ ฉกรรจ์นัก ทั้งภายนอกและภายใน   เขาหายใจขัดไปแล้วหลายครั้ง ปิ่มจะขาดใจ 

    สองสาวเขาประคองข้างหลังเขา แต่ดูเหมือนลักษณะลากร่างเขาไปเสียมากกว่าขาสองข้างของ

    เขาไม่สามารถยันได้เพราะความบาดเจ็บอัครชัยมองไป เบื้องหน้าเขาที่เป็นทางตรงข้ามกับทุก

    คนมุ่งหน้าจะไป เขาเห็นเห็นแรพเตอร์ จำนวนมากเคลื่อนใกล้เข้ามา   และทันทีที่มันมาถึง    

    เต็นก์ที่พัก เต๊นก์จำนวนสามสี่หลังที่พวกเขาเก็บไม่ทันนั้น ก็ถูกพวกมันชนจนกระเด็นกระดอน

    ไป  แต่พวกเขากลับออกจากที่นั่นมาได้ระยะทางนิดเดียว


    " มันใกล้เข้ามาแล้วแสงดาว ปล่อยหมอไว้นี่แหละ รีบหนีไป  "


    เสียงแผ่วของอัครชัยบอกกับแสงดาว ถึงจะไม่ชัดนัก แต่แสงดาวก็ได้ยิน  สองสาวหยุดลากร่าง

    ของอัครชัย และหันกลับไปดูสิ่งที่ อัครชัยบอก สิ่งที่เห็นคือฝูงแรพเตอร์ที่อยู่ไม่ไกลไปนัก  แต่

    ยังไม่ทันทำอะไรต่อ เสียงปู่อินทร์ ก็ดังขึ้น


    "  อย่า...หยุดเดินต่อไป เราต้องรีบไปให้พ้นที่นี่ ข้างหลังนี้ให้ข้า และกานต์ จัดการเองยิ่งถ้าเรา

    มีโอกาสออกจากเขตนี้ได้ เรามีโอกาสรอด น่าจะมีพวก ติอากอ คงจะคอยช่วยเราอยู่ที่นั่น "


    สิ้นคำปู่อินทร์ สองสาวฉวยร่าง อัครชัย ลากอีกครั้ง แต่ร่างของอัครชัยตอนนี้ อาบไปด้วยเลือด

    ที่เริ่มใหลออกจากปากลงมาเปราะเปื้อน เสื้อผ้าจำนวนมาก แสงดาวน้ำตาซึม  ที่เห็นภาพเช่น

    นั้นแต่ก็กัดฟันลากต่อไป  

    อรัญ แบกร่างแฟนสาว วิ่งนำหน้ามาใด้ไกลกว่าคนอื่นเพราะเนื่องจากดุจปราย ร่างบางและตัว

    เล็ก เขาคิดว่าจะเห็นแก่ตัวมากเกินไปหรือเปล่า แต่ถ้าต้องช่วยพยุง อัครชัยอีกคน เขาก็คงไม่

    ใหวเหมือนกัน ตอนนี้เขาคิดว่า ได้ออกมาจากที่นั่นเกือบครี่งทางแล้ว เหลืออีกครึ่งเดียวก็จะพ้น

    แนวไม้นี้ ที่นั่นคงมี ต้นไม้ทั้งหลาย คอยช่วยเหลือพวกเขาอยู่ได้ และหลังจากที่ส่งร่างของดุจ

    ปรายไว้ที่นั่นแล้ว เขาจะรีบกลับมาช่วยทุกคน แต่ความคิดเขาก็ต้องสะดุดลง เมื่อเบื้องหน้าเขามี

    สิ่งหนึ่งกระโดดจากข้างทางออกมาขวางไว้    แรพเตอร์ ตัวหนึ่งนั่นเอง



    """ทำไงดีล่ะมีดก็ให้กานต์และปู่อินทร์ไปแล้วด้วย """


    เขาคิดในใจ เขามองทางหนีที่ไล่เจ้าแร๊พเตอร์เองก็คง ไม่กล้าซะทีเดียวมันยังคงเกร่ไปเกร่มา

    จ้องอรัญอยู่อย่างนั้น อรัญหันกลับไปมองด้านหลัง ก็ใจชื้นขึ้น ทุกคนเคลื่อนไหวตามเขามาไม่

    ไกลนัก และสุดท้ายก็ตามตามมาทัน  กานต์เห็นเหตุการณ์ เขาพุ่งพรวดเขาประจันหน้า กับแรพ

    เตอร์ตัวนั้นและอย่างคาด ปลายมีดตวัดไป ร่างนั้นก็ล้มตึง แต่ทว่า กลับมีอีกหลายตัวตีขนาบเข้า

    มาด้านข้าง  



    " มันตามมาทันแล้ว มันล้อมเราแล้ว "


    จามิกร บอก จริงอย่างนั้น ขบวนแร๊พเตอร์จำนวนมากที่ตามมาทันพวกเขา บัดนี้ มันได้รายล้อม

    พวกเขาไว้ แต่ยังดีอยู่มันไม่กล้าที่จะเข้า บุกพวกเขาในทันที คงหวาดเกรงพิษสงดาบในมือของ

    พวกเขา แต่จำนวนมากของมัน ก็ทำให้พวกเขาหวั่นไหวอยู่มากอยู่เหมือนกัน  อรัญวางร่างที่ไม่

    ใหวติงของแฟนสาวลง กานต์ ส่งดาบให้ และแสงดาว และจามิกรก็ทำอย่างนั้นเช่นกัน  


    "  ระวังนะ  อย่าให้ดาบหลุดมือเป็นอันขาด "


    เสียงปู่อินทร์กำชับ เขาเองก็รู้สึกหวั่นมากกับสถานการณ์ เช่นนี้ เขาอยู่ใกลเขตที่หวังว่าจะมี

    ต้นไม้ของ ติอากอ มาช่วยได้ถึงครึ่งกิโลเลยทีเดียว  แรพเตอร์เดินวนรอบพวกเขาไปทั่วมา มัน

    พยายามอ้าปากเพื่อข่มขวัญ  และทำท่าจะพุ่งเข้ามา  แต่ก็ต้องหดกลับเพราะมีมีดที่ตวัดอยุ่

    ตลอดของทุกคน  แต่จำนวนของมันมีมากมาย ทันทีที่มันคิดตรงนี้ได้ พวกเขาไม่รอดแน่ ถ้า

    พวกมันจะยอมเสียบางส่วนไปบ้าง  เพราะพวกมันมีจำนวนมืดฟ้ามัวดินขนาดนี้  

    อรัญ มองพวกมันพลาง และมองร่างของดุจปรายไปพลาง สถานการณ์ เช่นนี้ เขาไม่มั่นใจว่าจะ

    มีโอกาสรอดหรือช่วยแฟนสาวให้รอดได้หรือไม่  


    " ฉึก "


    ความคิดเขาสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงหนึ่ง  เขารู้สึกว่าข้างนอกมีอะไรเกิดขึ้นอย่างหนึ่ง เขารู้สึก

    ได้ว่าแรพเตอร์ มีการเคลื่อนใหวที่แตกตื่นพอสมควรข้างนอกนั้น  


    " มีพวกมันบางตัวล้มลงนะ เหมือนมีอะไรโจมตีพวกมันข้างนอก "


    กานต์ร้องบอกทุกคน เขาสังเกตุได้จากช่องเล็กๆ ช่องหนึ่งตอนที่พวกมันเดินสวนกัน  


    " ฉึก "

    เสียง นั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนได้เห็นต้นตอของเสียง เพราะปลายแหลมของมันพรุ่งพรวด

    เข้ามาเกือบถึงพวกเขา  ถ้าไม่ประทะเข้ากับ ร่างของแรพเตอร์เคราห์ะร้ายเสียก่อน


    " ลูกธนู "


    ทุกคน อุทานขึ้นเกือบพร้อมกัน  


    "  พวก ติอากอ คงยิงเข้ามาช่วยพวกเราแน่ เฉียบแหลมมาก เข้ามาไม่ได้ ก็ส่งลูกธนูเข้ามา

    สงสัยจะอาบ เรคิน ด้วย  ดูสิโดนตัวใหนร่วงตัวนั้นเลย พวกเราหมอบต่ำไว้ จะได้ไม่เป็นเป้าเสีย

    เอง "


    เหมือนนัดไว้ ทันทีที่ทุกคนก้มลงราบกับพื้น ตามคำบอกของปู่อินทร์


    " ฉึกๆ  ๆๆ ๆ ๆๆๆ"


    ลูกธนูจำนวนมากพุ่งเข้ามาเป็นสาย หลายร่างแรพเตอร์ คราวนี้สังเวยคมของมัน และด้วยความ

    แรง ทำให้ลูกธนูบางลูกสามารถ ร้อยร่างของ แรพเตอร์ เข้าด้วยกันอีกด้วย แรพเตอร์ ทั้งฝูง

    ระส่ำ มันเองพะวักพะวง บ้างก็ด้นกันจนร่างเลยเข้ามาใน รัศมีดาบ ของทั้งห้าคน และสักพักร่าง

    ที่พวกมันที่ล้มทับถมก็เป็นวง ป้องกันตัวข้างนอกที่จะเข้ามาใกล้พวกเขาได้


     "ฉึกๆ ๆๆ    ๆ   ๆๆๆๆ "


    แต่ลูกธนูยังคงถูกยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  และสุดท้าย แม้แต่บางตัวจะเริ่มวิ่งหนี ก็ไม่สามารถ

    หลบคมของมันได้   และเมื่อไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว ลูกธนูก็หยุดยิงเข้ามาเช่นกัน  


    " โอ.... สงสัยพวกเขาจะอยู่ที่สูงนะ ถึงได้มองเห็นพวกเราได้ คงเป็นพวกปิเยหิริน แน่เลย ถึงได้

    ใช้ธนู ที่ยิงได้ไกลและแม่นยำ เช่นนี้ "


    ปู่อินทร์แสดงความเห็น


    " ครับ ยังถือว่าเป็นความโชคดีมากของพวกเรา ที่มัจเจ ได้ฝึกฝนให้ต้นไม้พวกนี้ชำนาญแบบนี้

    แต่คราวนี้ มัจเจเองมันคงจะแค้น  ที่มันเป็นส่วนช่วยอย่างหนึ่งในการรอดชีวิตของพวกเราใน

    ครั้งนี้ ไปเถอะ หาทางไปกันได้แล้ว เรายังมี คนบาดเจ็บมา เดี๋ยวมันส่งอะไรมาอีกเราจะ

    ลำบาก "  


    สิ้นคำอัครชัย ไม่มีใครจะแสดงความเห็นต่อเพราะรู้ว่า จะรอเวลาอะไรไม่ได้อีกแล้ว แต่อรัญกลับ

    ยิ้มได้ เมื่อเห็นว่า ดุจปรายรู้สึกตัว

     
    " ปรายเป็นอะไรไปเหรอ "


    เสียงเธอถามอรัญขึ้น หลังจากที่เขาได้ยกตัวเธอขึ้นบ่าอีกครั้ง อรัญรู้สึกว่าเธอจะจำอะไรไม่

    ค่อยได้ เขาเลยไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้า และสิ่งที่ลำบากที่จะพาตัวเธอนั้นคราวนี้คือซากร่างนับ

    หลายร้อยที่ล้มขวางทางอยู่  พวกเขาช่วยกันทั้งผลักทั้งดัน จนสามารถข้ามผ่านร่างที่ล้ม

    ทั้งหมดของแรพเตอร์ออกมาได้ ตอนนี้ เขาได้สติของดุจปรายกลับคืนมา แต่อัครชัยกลับสิ้น

    สติ ไป



    " หมออาการน่าเป็นห่วงนะแสงดาว บาดแผลสาหัสมากด้วย ดูสินิ่งไม่ได้สติเลย "  


    จามิกรบอกเพื่อนสาว ทั้งสองมองดูร่างอัครชัย ที่คราวนี้ กานต์ และปู่อินทร์ ผลัดช่วยกันแบก

    ร่างเขานิ่งมาก แต่กานต์บอกว่ายังรับรู้ถึงลมหายใจเขาอยู่


    " นั่นสิ จา น่าสงสารเขา เราเองก็ใจไม่ดีนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เราจะอยู่ได้ยังไงล่ะจา นี่ขนาดว่า

    เราทำใจไว้แล้วนะ ฮึกๆๆ "


    ท้ายคำตอบนั้น แสงดาวกับสะอื้น


    " ไม่หรอกแสงดาว เราเชื่อว่าต้องมีปาฏิหารอีก ขอโทษแสงดาวด้วยนะ ที่เอาเรื่องนี้มาพูด ยิ่ง

    ทำให้แสงดาวไม่สบายใจเพิ่มขึ้นอีก  "  


    จามิกรกล่าว เธอรู้สึกผิด เมื่อคำพูดเธอทำให้เพื่อนสาวต้องสะเทือนใจ 


    " ไม่หรอก จา เราเป็นเพื่อนกันมานาน เรารู้ว่า จาพูด ก็เพราะเป็นห่วงหมอ  เราคิดอย่างนั้นอยู่

    แล้วเรื่องหมอ ใครๆก็คงเป็นห่วงเขา "  


    จามิกรหยุดพูด และเดินทางต่อไป เกรงคำพูดจะกระทบกระเทือนความรู้สึกของเพื่อนสาวอีก  

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ณ ขบวนของมัจเจ หลังที่ทราบสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้


    " หมดกัน มัจเจบอกข้าที ซิ ทำไมเราทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย หรือพวกเจ้าด้อย การ

    แสดงฝีมือกันหมดแล้ว"


    โอ๊คคาระ พูดขึ้นด้วยความโมโห หลังจากที่ทราบข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ใน ทุ่งสะมันพรี และ

    ทราบว่า ไดโนเสาร์ ที่ส่งไป แพ้อย่างราบคาบ


    " ไม่ทีเดียวหรอกท่าน โอ๊คคาระ อย่างน้อย พวกมนุษย์โลกก็คงได้รับบาดเจ็บกันไปพอสมควร

    หละ  เรคารียะ บอกว่า อาจมีมนุษย์ โลกจะสิ้นชีตะภายหลังเพราะทนพิษจากร่างกายทรุดโทรม

    จากการต่อสู้บ้าง  "  



    มัจเจตอบ แต่ในใจรู้สึกไม่พอใจอยู่เหมือนกัน ที่ทำตามคำสั่งทุกอย่างเเล้วพอผลไม่ได้เป็น

    อย่างที่ตั้งใจ โอ๊คคาระ กลับหันมาโกรธเคือง มัน  


    " เจ้าอย่าหวังเลย ว่ามนุษย์พวกนั้นจะกลับไปตายถิ่น ติอากอ เจ้าไม่รู้ว่า ตะเคียน่า รอบรู้ทุก

    อย่างเช่นข้า มีหรือมันจะปล่อยให้พวกนั้นตาย มีหลายวิธีที่จะรักษาให้มนุษย์โลกพวกนั้นหายได้

    เจ้าลืมไปแล้วหรือ ว่า เรคาของเจ้า ก็รักษาอาการบาดเจ็บหนักได้ เหมือนที่เจ้าเคยใช้รักษา

    พวกเชื้อสายของมนุษย์โลกกลุ่มนี้ จนมันมีทายาทกลับเข้ามาขัดขวางการทำการของพวกเรา

    นี่ไง"  



    "  ท่านพูดเช่นนี้ ท่านก็ว่าข้าผิดเหรอ ตอนนั้นเรื่องการรักษาอาการบาดเจ็บข้าฟังคำสั่งท่านนะ

    ท่านต้องการให้มนุษย์ พวกนั้น พาเรคาข้าเพื่อไปสืบบนโลก จึงให้ข้าชุบพวกเขาจากอาการบาด

    เจ็บ พอพวกเขามีลูกเเละลูกเขากลับมาที่นี่ ท่านจะมาโทษข้าได้อย่างไร  ส่วนเรื่องเรคาของข้า

    จะชุบการบาดเจ็บให้พวกเขานั้น ท่านไม่ต้องกังวลหรอก ถิ่นนั้น ข้าถอดเรคา มาหมดแล้ว พวก

    มนุษย์ คงไม่ฟื้นร่างได้ง่ายๆ เหมือนรุ่นพ่อมันอีกแล้ว "


    มัจเจกล่าวอย่างหัวเสีย ในใจเขาคิดว่าคงเป็นเพราะอย่างนี้ นี่เอง โอ๊คคาระจึงไม่ถูกเลือกไป

    ฟื้นฟูโลก คงเป็นเพราะอุปนิสัยอย่างนี้นี่เอง  


    " เออใช่ จริงอยู่ทุกอย่างข้าสั่ง แต่เจ้าทำตามที่สั่งได้สมบูรณ์แบบทุกอย่างใหม อย่างไรเสีย เจ้า

    ก็ต้องฟังข้า ข้าจะพูดหรือทำอะไรเจ้าต้องยอม ถ้าเจ้าต้องการจะยิ่งใหญ่เช่นข้า "


    โอ๊คคาระประกาศกร้าว  มัจเจขัดเคืองในใจ


    """"ข้าจะยอมเจ้าไปก่อนโอ๊คคาระ นิสัยเช่นเจ้าไม่มีใครจงรักภักดีหรอก ไว้ถึงเวลาก่อน """"

    มัจเจ คิดในใจ มันไม่สนใจที่จะพูดอีก

    โอ๊คคาระรู้อาการมัจเจดี มันก็ไม่ถูกใจอาการที่โอหังของมัจเจที่แสดงออกมาอย่างนี้เช่นกัน

    และก็คิดที่จะผลักมัน หลังจากหมดความจำเป็นเช่นกัน  

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ..ย้อนกลับมา

     
    "เป็นอย่างไรท่าน มนุษย์โลก โอ... พวกเจ้าบาดเจ็บหนักหรือนี่ "


    สียงปิเยทาร์ ทักลั่น ข้างกายเขามีปิเยหิริน หลายร่าง ยืนถือคันธนูขนาดใหญ่อยุ่  


    " อย่างที่เห็นล่ะท่าน ปิเยทาร์ ยังโชคดีที่ท่านมาช่วยไว้ทัน ไม่นั้นพวกเราต้องสิ้นอยู่ที่นั่นกัน

    หมดแน่  "


    ปู่อินทร์ ตอบ    

    " ท่านตะเคียน่า ได้รับสัมผัสเกี่ยว กับไดโนสิคขนาดเล็กจำนวนมากได้นะสิได้น่ะสิ จึงส่งให้ข้ามาดูพวก

    เจ้า ไม่นึกเลย ว่าพวกนี้มันจะร้ายกาจขนาดนี้ เล่นเอาพวกเจ้าสะบักสะบอมกันหมด แต่ก็ยังโชคดีที่พวก

    เจ้าไม่ถึงกับสิ้นชีตะ "  


    ปิเยทาร์ กล่าวต่อ  


    " เอ้านี่ "


    ปิเยทาร์ส่งผลไม้ลูกหนึ่งให้ พวกเขาจำมันได้ดี โดยเฉพาะปู่อินทร์  

      
    " ผลเรคิน เอามาให้พวกข้าทำไมท่านปิเยทาร์ ร่างกายพวกเราไม่ได้รับ เรคาของมัจเจแล้ว

    หรือท่านสงสัย  ขนาดพวกเราบาดเจ็บกันเจียนตายอย่างนี้ ท่านและ ท่าน ติอากอ       ยัง            

    หวาดระเเวงพวกเรา อยู่อีกเหรอ "


    ปู่อินทร์ กล่าวเขารู้สีกโกรธขึ้นมาทันที่ที่ได้เห็นผลไม้ที่ ปิเยทาร์ส่งให้  


    " ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านตะเคียน่า ไม่ได้หวาดระแวงพวกเจ้าหรอก เพียงแต่เขาให้เอาผล เรคิน

    ของติอากอมาให้พวกเจ้า กิน เพราะต้องการพิสูจน์ อะไรอย่างหนึ่ง "


    ปิเยทาร์กล่าวต่อ  


    " พิสูจน์ อะไรกันท่านปิเยทาร์ เวลานี้พวกข้าคิดว่าไม่ใช่จะเป็นเวลาทีจะมาพิสูจน์ อะไรกัน นะ

    พวกเราบาดเจ็บสาหัสกันอยู่นะ"


    กานต์เสียงเเข็ง เขาเองสงสาร อัครชัยที่สิ้นสติอยู่ รู้สึกว่าจะเสียเวลาคุยกันมากเกินไปแล้ว      


    " เอ้าพวกเจ้าก็รีบรับไปกินซะสิจะได้ไม่ต้องเสียเวลา เอ้านังหนูคนเนี้ย ทดลองก่อน บาดเจ็บ

    มากแต่ยังมีสติอยู่ "


    และปิเยทาร์ก็ยื่นผลไม้นั้นให้ดุจปราย  แต่อรัญกลับฉวยคว้าไป   


    " ไว้ใจพวกท่านนะ  แต่ไม่รู้ว่าพวกท่านมีเหตุผลอะไร ทำไม ท่านทาร์บอกเรื่องนี้ไม่ได้ มีลับลม

    คมในอะไร  "


    " ท่านตะเคียน่า บอกว่าจะได้ผลหรือเปล่าไม่รู้ จึงยังไม่ให้บอกพวกท่าน ไว้ผลเป็นยังไง พวก

    ท่านจะรู้เอง  กินไปเถอะ อย่างน้อยมันก็ไม่เป็นอันตรายกับพวกเจ้าอยู่แล้ว หรือพวกเจ้าไม่เชื่อ

    ใจพวกเรา "


    อรัญ นิ่ง เขาไม่สู้สบายใจนัก ที่จะให้แฟนสาวที่บาดเจ็บหนักอยู่ ทดลองอะไรที่ไม่รู้ที่มาที่ไปแบบนี้


    " ข้าต้องกินด้วยใหม  ข้าจะกินแทนดุจปรายเอง "


    อรัญเสียงเเข็ง เขายอมที่จะทดลองก่อน เพื่อจะได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับดุจปรายใหม ถ้ากินมัน

    เข้าไป



    " เอ้า ตามใจ ที่จริงข้าก็เตรียมมาพอ สำหรับทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถ้ามันได้ผลคนที่เจ็บจะ

    ได้ทุเลาลงก่อนก็แค่นั้น "


    คำพูดของปิเยทาร์ทำให้ทุกคน กลับแปลกใจสงสัยลงไปอีก  แต่อรัญคิดว่าถามไปก็เท่านั้น เขา

    บรรจงกัดกินผลเรคินนั้น ทุกคนมองดูเขาอย่างใจจดจ่อ ทันที่ที่กัดกินไปได้แล้วสองสามคำ


    " ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น เลยท่านปิเยทาร์ "  


    อรัญ กล่าวบอกปิเยทาร์


    " เอ หรือว่าจะไม่ได้ผล ลองกินเข้าไปอีกซิ กินไปให้หมดลูกเลย "


    ปิเยทาร์กล่าว และอรัญก็ทำตาม เขากัดกินมันจนหมดเกลี้ยง


    " ไม่เห็นมีอะไรเลยท่าน ปิเยทาร์นอกจากรู้สึกอิ่ม อะไรหรือที่ท่านสงสัยว่าพวกเราจะเป็นเมื่อ

    กินผล ราคินไป "



    อรัญถามความเห็น  


    " ท่านตะเคียน่าไม่ได้บอกข้าเช่นกัน ตอนนั้นไม่มีเวลา เพราะข้าต้องเร่งรีบมาช่วยพวกเจ้า ให้

    พวกเจ้าลองกินอีกซักคนซิ แม่หนูคนนี้ละกันที่บาดเจ็บ ถ้าไม่ได้ผลยังไง ค่อยเดินทางกลับไปหาทาง

    รักษากันอีกที "


    ปิเยทาร์ ยื่นผลเรคินให้ดุจปรายอีกครั้ง แต่คราวนี้อรัญรับมา และส่งให้ดุจปราย


    " กินๆไปเหอะปราย จะได้จบๆไป และ กลับกันซะทีเสียเวลามากแล้ว "


    อรัญกล่าว

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×