ลำดับตอนที่ #33
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : ดาวร้างวายร้าย***แนะนำตัวละคร (ขอโทษที่ช้าช่วงค้นหาตัวละครให้เหมาะกับเนื้อเรื่อง)
นายแพทย์ อัครชัย ตันติเวชสกุลบดี
กานต์ เขมิกานนฒิ
พันโทหญิง แสงดาว พิทักษ์
ด๊อกเตอร์ จามิกร นาคาศิลป
นาวาอากาศโท อรัญ เกียรติสิงหะ
ดุจปราย คำพินันท์ธร
อินทร์ ทานตา
มัจเจ นึกถึงสิ่งที่ โอ๊คคาระนำมาขู่ว่าจะใช้พวกจาบิราทำงานแทนเขาเอา สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ที่มา
จากบนฟ้าพร้อมกับจาบีร่าลำกลมทรงแบนคล้ายจาน โอ๊คคาระบอกว่าพวกนี้มาหาโอ๊คคาระ
หลายครั้งทั้งก่อนที่มัจเจ จะถือกำเหนิดด้วยซ้ำ มัจเจไม่ไว้ใจพวกนี้เท่าไรนักหลังจากได้เห็น
พวกมัน เขารู้ว่าที่อยู่อันไกลโพ้นของสิ่งมีชีวิตที่มาจากฟ้าพวกนี้ มีสองมิติเช่นเดียวกัน แต่ทั้งสอง
มิติของดาวพวกมัน ตอนนี้มิได้อุดมสมบูรณ์ อย่างกับโลกและปิยากิออ เพราะพวกมันได้ทำลายที่อยู่ของ
มันจนป่นปี้ ทั้งสองมิติในโลกของมันเกิดความขัดแย้งและเข่นฆ่ากันจนแทบไม่เหลือสิ่งมีชีวิต จนดาว
ของพวกมันเกือบจะเป็นดาวร้างอยู่แล้ว มัจเจรู้ว่าพวกมันไม่ไปหา ตะเคียน่า เพราะรู้ว่าตะเคียน่าเป็นปิเย
ดี ไม่คิดที่จะทำลายโลกและติยากิออแน่ พวกมันจึงพยายามมายุยงให้โอ๊คคาระหลงเชื่อ และจะใช้
โอ๊คคาระเป็นเครื่องมือทำอะไรให้พวกมันสักอย่างหนึ่งแต่มัจเจยังไม่แจ้งว่าเป็นสิ่งใด แต่บางที่มัจเจ
ก็สงสัยคิดว่าไม่เป็นเพราะ พวกมันอยากจะย้ายมาอยู่ก็ เป็นเพราะพวกมันอยากจะมาทำลายโลกและติ
ยากิออให้ย่อยยับ เพราะความอิจฉาก็เป็นได้ แต่ติดที่พวกมันมีกำลังน้อย เจ็ดแปดร่างได้จึงไม่สามารถ
ทำอะไรได้มาก ต้องการจะมาอาศัยโอ๊คคาระทำการมากกว่า
" ต่อไปนี้ข้าจะเชื่อฟังท่านและจะพยายามทำให้ดีที่สุดแล้วกัน "
มัจเจ กล่าวสรุปเพื่อให้ทุกอย่างจบ
" ดีมาก จำไว้อะไรทีข้าสั่งเจ้าต้องทำอย่างดีที่สุด อย่าให้ข้าต้องผิดหวังอีก ไม่เช่นนั้น ข้าจะไม่
ใช้เจ้าอีกต่อไป "
ใช้เจ้าอีกต่อไป "
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทางด้านฝั่งตะเนยา ได้ต้อนรับสมาชิกที่เดินทางเข้ามาร่วมในศึกครั้งนี้
" ยินดีต้อนรับ ผองเผ่าแห่งข้าปิเยทรานส์ ท่านผู้นำกฏติสอาร์คอร์ ปิเยพิษทารี และพลพรรค ปิเยทาง
ไต้ไม่ได้ยลพวกท่านนับพันปีแล้ว ชาตินี้คิดว่าจะไม่ได้เจอพวกท่านแล้ว "
ปิเยทาร์ทักทาย กลุ่มต้นไม้จำนวนมากที่เดินทางมาถึง
" เช่นกันท่าน ปิเยทาร์ ว่าแต่ท่านพ่อข้าไปใหนหรือ มิได้เห็นอยู่ที่นี่ด้วย ข้าร้อนใจอยากเห็นแย่
แล้ว "
แล้ว "
ติสอาร์คอร์ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของ ติอากอ กล่าวอยากแปลกใจ ที่ไม่ได้เห็นติอากอ
พ่อของเขาอยู่ ณ ที่ต้อนรับแห่งนี้
พ่อของเขาอยู่ ณ ที่ต้อนรับแห่งนี้
" ท่านชุ่มแช่น้ำอยู่ในลำภาชีระ ไม่สามารถขึ้นมาต้อนรับพวกท่านได้ เหตุผลอะไรไว้เดินทางไปคุยกันไป
ก็ได้ เราต้องนำพวกท่านไปหาท่าน ติอากออยู่ดี และอยากให้พวกท่านได้พบกับปิเยหนึ่ง ปิเยในตำนาน
ที่ปิเยเราเคยสงสัยกันว่ามีจริงหรือ ปิเยที่มีปิยจิต ยาวนานนับหลายพันปี พวกท่านเจอแล้วต้อง
แปลกใจ "
ปิเยทาร์ กล่าว
" ท่านพี่สบายดีหรือ เห็นว่าก่อนหน้านี้ โดนมัจเจโจมตีหนัก เลย"
ปิเยทรานส์ผู้มาใหม่กล่าวถามผู้พี่ ขณะเริ่มออกเดินอีกครั้ง ไปลำภาชีระ
" ณ ตอนนี้ก็สบายดี แต่ก่อนหน้านี้ อย่างที่เจ้ารู้ พวกเราที่นี่เกือบจะเสียทีเพลี้ยงพล้ำเสียหลาย
ครั้ง บางทีข้ายังแอบคิดว่าเจ้าขึ้นมาจะทันได้พบหน้าข้าก่อนหรือเปล่า แต่ก็โชคดีที่มีวันนี้ "
ครั้ง บางทีข้ายังแอบคิดว่าเจ้าขึ้นมาจะทันได้พบหน้าข้าก่อนหรือเปล่า แต่ก็โชคดีที่มีวันนี้ "
ปิเยทาร์กล่าวตอบผู้น้อง
" มัจเจมันร้ายกาจขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนที่เราหนีกันมา มันไม่ได้ร้ายกาจเท่าไร เพียงแต่
พวกเราเห็นว่ามีปิเยหลายส่วน เข้าข้างมัจเจในทางที่ผิด จึงได้ผละอพยพกันมา เพื่อความ
สบายใจ "
พวกเราเห็นว่ามีปิเยหลายส่วน เข้าข้างมัจเจในทางที่ผิด จึงได้ผละอพยพกันมา เพื่อความ
สบายใจ "
ปิเยทรานส์กล่าว เขาแสดงความเห็นด้วยจากประสบการณ์แต่ก่อนที่ได้สำผัสมัจเจ
" มัจเจ ตอนนี้มีปิเยโบราณอีกร่างหนึ่งคอยให้ท้าย และเสี้ยมสอนให้ร้ายกาจ พร้อมทั้งให้มัจเจ
สางความแค้นที่มีมาแต่อดีตกาลของปิเยโบราณตนนั้น ประกอบกับมัจเจเองก็มีความมักใหญ่
ไฝ่สูงอยู่แล้วด้วย พวกนั้นมันหวังไปยึดครองโลกด้วยนะ "
สางความแค้นที่มีมาแต่อดีตกาลของปิเยโบราณตนนั้น ประกอบกับมัจเจเองก็มีความมักใหญ่
ไฝ่สูงอยู่แล้วด้วย พวกนั้นมันหวังไปยึดครองโลกด้วยนะ "
ปิเยทาร์ตอบขณะเดินกันได้มาถึงเกือบครึ่งทางแล้ว
" โอ..มักใหญ่ไฝ่สูงกันจริง อย่างนี้ถ้ามันทำการสำเร็จ มนุษย์ย่อยยับแน่ มนุษย์ ช่างเป็นเผ่า
พันธุ์ ที่อ่อนแอด้วย "
พันธุ์ ที่อ่อนแอด้วย "
" เจ้าอย่าดูถูกมนุษย์นะ ทรานส์ ถ้าเจ้าได้สัมผัส กับมนุษย์โลกนานๆ อย่างข้า เจ้าจะไม่คิดเช่นนี้
เลย มนุษย์มีร่างกายที่อ่อนแออย่างเดียว แต่สมองของพวกเขาคิดอ่านทำอะไรได้แยบยลกว่า
ปิเยอย่างพวกเรามาก ไว้เจ้าจะได้เห็น "
เลย มนุษย์มีร่างกายที่อ่อนแออย่างเดียว แต่สมองของพวกเขาคิดอ่านทำอะไรได้แยบยลกว่า
ปิเยอย่างพวกเรามาก ไว้เจ้าจะได้เห็น "
ปิเยทาร์แย้งผู้เป็น น้องหลังจากที่เห็นว่าผู้น้องมีความคิดเหมือนเขาก่อนหน้านี้ และก็ได้เห็นว่า
มนุษย์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
มนุษย์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
" ท่านปิเยพิษทารีเป็นอย่างไรบ้าง อยู่กับพวกเจ้าที่นั่น "
ปิเยทาร์เปลี่ยนเรื่องหลังจากที่เห็นว่าเรื่องที่พูดเมื่อสักครู่ได้ข้อยุติแล้ว
" ก็เป็นอยู่อย่างนั้นแหละ วันๆก็เอาแต่ทดลองของเขาไป เรื่องพิษร้ายต่างๆ แต่ไม่เคยทำให้ใคร
เดือดร้อน หนำซ้ำพิษบางอย่างของเขา ยังช่วยทำลาย ชีร่าต้้งหลายอย่างได้ ท่านพี่ถามทำไม่
เหรอ "
เดือดร้อน หนำซ้ำพิษบางอย่างของเขา ยังช่วยทำลาย ชีร่าต้้งหลายอย่างได้ ท่านพี่ถามทำไม่
เหรอ "
ปิเยทรานส์ ถามอย่างสงสัย และแปลกใจ
" เมื่อไม่นานมีเผ่าพันธุ์ ของปิเยพิษทารีมาที่นี่ พวกเราเกือบแย่ เจ้าก็รู้ไม่ใช่เหรอ "
" อ๋อ ท่านพิษทารี มาปรึกษาเหมือนกันตอนปิเยเราเดินทางมาได้สักพัก ท่านพี่เกรงท่านพิษทารีจะ
มีนิสัยเยี่ยงเผ่าพงของเขาเหรอ คงไม่หรอก ถึงจะมีอุปนิสัย ชอบค้นคว้าเรื่องพิษเหมือนกัน แต่
ท่านพิษทารี โอบอ้อมอารี ต่างกับเผ่าพงปิเยเขาตนนั้นแน่นอน เขาชอบช่วยเหลือมากกว่าจัก
ทำลายล้าง พวกเราก็ไว้ใจเขาตั้งแต่แรกเเล้วไม่ใช่เหรอจึงให้เขาร่วมเดินทางมาด้วยเมื่อพัน
กว่าปีก่อน "
มีนิสัยเยี่ยงเผ่าพงของเขาเหรอ คงไม่หรอก ถึงจะมีอุปนิสัย ชอบค้นคว้าเรื่องพิษเหมือนกัน แต่
ท่านพิษทารี โอบอ้อมอารี ต่างกับเผ่าพงปิเยเขาตนนั้นแน่นอน เขาชอบช่วยเหลือมากกว่าจัก
ทำลายล้าง พวกเราก็ไว้ใจเขาตั้งแต่แรกเเล้วไม่ใช่เหรอจึงให้เขาร่วมเดินทางมาด้วยเมื่อพัน
กว่าปีก่อน "
ปิเยทรานส์ กล่าวพร้อมรับประกันแก่อุปนิสัยของ ปิเยพิษทารี
" ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ ผู้ใดมีพิษร้าย ถึงมีจิตใจดี แต่พิษก็คือพิษ มันประดุจดาบ
สองคม เข้าอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว แต่อย่างที่เจ้าบอก ปิเยพิษทารี คงรอบคอบ
และโอบอ้อมอารีจริง ปิเยรอบข้างเขาถึงไม่เดือดร้อนกันเลย เอาละจะถึงแระ ไต่ลงไปอีกหน่อย
ตรงริมแม่น้ำนั่น "
สองคม เข้าอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว แต่อย่างที่เจ้าบอก ปิเยพิษทารี คงรอบคอบ
และโอบอ้อมอารีจริง ปิเยรอบข้างเขาถึงไม่เดือดร้อนกันเลย เอาละจะถึงแระ ไต่ลงไปอีกหน่อย
ตรงริมแม่น้ำนั่น "
ปิเยทาร์ตัดบท เพราะเห็นว่ามาถึงจุดหมายแล้ว
" ท่านพ่อติอากอ "
ติสอาร์คอร์ อุทานเบาๆ เขาเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งชุ่มแช่อยู่ในน้ำ และริมฝั่งมีต้นไม้แปลกอีกต้นหนึ่ง
อยู่อีกต้น ติอากอรอการมาของทั้งหมดอยู่แล้ว เขาจำเชื้อไขของเขาไม่ได้ เพราะเมื่อเขาได้
กำเหนิด ติสอาร์คอร์ เมื่อพันปีก่อน เขาก็ให้ติสอาร์คอร์เดินทางลงไต้เพื่อไปปกครอง ปิเย
ทางนั้นเลย แต่เขาก็รู้ได้เพราะเขารู้จักต้นไม้ต้นอื่นทุกต้น เขาหันมาถูกทาง
อยู่อีกต้น ติอากอรอการมาของทั้งหมดอยู่แล้ว เขาจำเชื้อไขของเขาไม่ได้ เพราะเมื่อเขาได้
กำเหนิด ติสอาร์คอร์ เมื่อพันปีก่อน เขาก็ให้ติสอาร์คอร์เดินทางลงไต้เพื่อไปปกครอง ปิเย
ทางนั้นเลย แต่เขาก็รู้ได้เพราะเขารู้จักต้นไม้ต้นอื่นทุกต้น เขาหันมาถูกทาง
" เจ้า ติสอาร์คอร์ สินะ เจ้าใหญ่ขึ้นมาก ลำต้นกำยำกว่าผู้ให้กำเหนิดเจ้าเสียอีก "
ติอากอทัก ต้นไม้ที่เขาหันหน้ามาหา
" คงเป็นเพราะสารอาหารที่ ตะเกปยา คงมีมากกว่าที่ตะเนยานี่กระมังท่านพ่อ ดูท่าน ทรานส์ ยัง
ดูกำยำกว่าท่านปิเยทาร์เลย "
ดูกำยำกว่าท่านปิเยทาร์เลย "
ติสอาร์คอร์ ตอบ
" พวกเจ้าทุกคนล่ะสบายดีกันใหม ลูกของข้าดูแลพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง พิษทารี ไม่ได้เจอ
กันนานเลยนะ "
กันนานเลยนะ "
และ ติอากอ ก็เอ่ยทัก ปิเยพิษทารี
" สบายดีท่าน ท่านติสอาร์คอร์ดูแลพวกเราดีที่สุด เขาคงได้แบบอย่างของท่านไปเต็มเปี่ยม
สมแล้วที่ท่านส่งเขาไปให้พวกปิเยเรา ข้าขอโทษท่านด้วย ที่มีเผ่าพงษ์แห่งข้ามาทำความ
เดือดร้อนให้กับพวกท่านก่อนหน้านี้ ปิเยพิษเซลล่า เป็นรุ่นหลานข้าแล้ว ถ้าพ่อของมันยังอยู่คง
อบรมมันได้ไม่เป็นเช่นนี้ "
สมแล้วที่ท่านส่งเขาไปให้พวกปิเยเรา ข้าขอโทษท่านด้วย ที่มีเผ่าพงษ์แห่งข้ามาทำความ
เดือดร้อนให้กับพวกท่านก่อนหน้านี้ ปิเยพิษเซลล่า เป็นรุ่นหลานข้าแล้ว ถ้าพ่อของมันยังอยู่คง
อบรมมันได้ไม่เป็นเช่นนี้ "
ปิเย พิษทารี ตอบ
" จะโทษเผ่าพงเจ้าคงไม่ได้ อย่างที่รู้ มัจเจมันวางแผนมาแยบยลมาก พร้อมทั้งสังหารพวกของ
เจ้า ซ้ำยังหลอกหลานของเจ้าให้มาที่นี่ด้วยความเครียดแค้น พวกเราอีกด้วย เจ้าไม่ต้องคิดว่า
ข้าจะโกรธเจ้าหรอก เจ้าทำดีที่สุดแล้ว ซ้ำยังช่วยแก้ปัญหาด้วย ดังที่บอกเรื่องยาถอนพิษนั่นไง
พวกเราที่นี่ต่างหาก เป็นหนี้บุญคุณเจ้า "
เจ้า ซ้ำยังหลอกหลานของเจ้าให้มาที่นี่ด้วยความเครียดแค้น พวกเราอีกด้วย เจ้าไม่ต้องคิดว่า
ข้าจะโกรธเจ้าหรอก เจ้าทำดีที่สุดแล้ว ซ้ำยังช่วยแก้ปัญหาด้วย ดังที่บอกเรื่องยาถอนพิษนั่นไง
พวกเราที่นี่ต่างหาก เป็นหนี้บุญคุณเจ้า "
ติอากออธิบาย พรอ้มแนะนำ
" ข้าจะแนะนำให้พวกเจ้าทุกคนรู้จักกับไครคนหนึ่ง ปิเยท่านนี้ นาม ตะเคียร่า ท่านมีอายุอยู่มาที่
นี่หลายพันปีแล้ว เหมือนอย่างที่มีบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆเคยเล่าสืบกันมานานเนิ่นและเราเคย
ได้ยินกันมานั่นแหระ แต่พวกเราไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริง ท่านผู้นี้แหระเป็นผู้หยั่งรู้ทุกอย่าง เพราะท่านอยู่
นี่หลายพันปีแล้ว เหมือนอย่างที่มีบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆเคยเล่าสืบกันมานานเนิ่นและเราเคย
ได้ยินกันมานั่นแหระ แต่พวกเราไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริง ท่านผู้นี้แหระเป็นผู้หยั่งรู้ทุกอย่าง เพราะท่านอยู่
มายาวนานและ ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาแทบทุกอย่างและท่านก็ช่วยพวกเราแก้ปัญหาต่างๆที่ผ่านมาได้ "
" โอ ไม่อยากจะเชื่อเลยท่านติอากอ ว่าเรื่องที่เล่าลือกันจะเป็นจริง อย่างนี้ชีวิตท่านก็เป็นอมตะ
สินะ ไม่สิ้นชีตะ มีชีวิตอยุ่ไปตลอด ข้าดีใจจริงที่ได้รับรู้เรื่องเช่นนี้ ข้าขอสวัสดีและขอคารวะท่าน
ด้วยใจจริง "
สินะ ไม่สิ้นชีตะ มีชีวิตอยุ่ไปตลอด ข้าดีใจจริงที่ได้รับรู้เรื่องเช่นนี้ ข้าขอสวัสดีและขอคารวะท่าน
ด้วยใจจริง "
ปิเยพิษทารี กล่าวทักทาย เขาเป็นปิเยที่มีอายุมากกว่าปิเยที่มาจากทางไต้ทั้งหมด เลยได้รับรู้เรื่อง
นี้จากบรรพบุรุษของเขามาบ้าง เขาสนใจเรื่องนี้อยุ่มาก เพราะเป็นปิเยที่มีอุปนิสัยชอบค้นคว้า
" ข้ายินดีที่ได้รู้จักเจ้าเช่นกัน พิษทารี ข้าเฝ้ามองเจ้ามานานเช่นกัน เพราะเจ้าเป็นอะไรที่เมื่อเจ้า
ตัดสินใจแล้วไม่ว่าถูกหรือผิด พิษของเจ้าอาจจะทำลายหลายสิ่งให้ย่อยยับ เป็นวงกว้าง
มหาศาล แต่เจ้ากลับไม่ทำให้ข้าต้องกังวล อย่างที่ควรจะเป็น เจ้าเป็นปิเยดี ต่างจากพิษเซลล่า
พวกเจ้าทางไต้ทั้งหมด ด้วยพวกเจ้าดีกันทุกปิเย ถ้าติยากิออ ปิเยเป็นอย่างพวกเจ้าทั้งหมด
พวกเราคงไม่ต้องมาวุ่นวายกันขนาดนี้ แต่มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าเข้าใจไม่ถูกเสียที่เดียว เรื่องการเป็น
อมตะที่จริงแล้วเราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถสิ้นชีตะได้ แม้เราจะอยู่กันมานาน ข้าหมายถึงข้า กับ
โอ๊คคาระนะ เราสอง ก็สามารถสิ้นชีตะได้ โดยมนุษย์โลกตัวเล็กๆนี่แหละ มนุษย์บางคนเป็นผู้
หยั่งรู้ทุกอย่าง ไม่มีความชั่วในตัว เป็นผู้บรรลุความจริงเเห่งชีวิต เเละเมื่อเขาได้สิ้นชีตะลงใน
ขณะที่หลุดพ้น เศษเนื้อน้ำย่อยสลายไป คงเหลือไว้แต่แก่นสารีลักษณ์ที่บริสุทธ์ดุจอัญมณี สิ่ง
เหล่านั้นและ สังหารข้ากับ โอ๊คคาระได้ ซึ่งเมื่อข้าและโอ๊คคาระไม่ได้เข้าไปยังโลก หรือไม่มีผู้
ใดนำแก่นสารีลักษ์ เข้ามาที่ ติยากิออ นี้ ก็คงไม่มีอะไร สังหารเราสองร่างได้ "
ตัดสินใจแล้วไม่ว่าถูกหรือผิด พิษของเจ้าอาจจะทำลายหลายสิ่งให้ย่อยยับ เป็นวงกว้าง
มหาศาล แต่เจ้ากลับไม่ทำให้ข้าต้องกังวล อย่างที่ควรจะเป็น เจ้าเป็นปิเยดี ต่างจากพิษเซลล่า
พวกเจ้าทางไต้ทั้งหมด ด้วยพวกเจ้าดีกันทุกปิเย ถ้าติยากิออ ปิเยเป็นอย่างพวกเจ้าทั้งหมด
พวกเราคงไม่ต้องมาวุ่นวายกันขนาดนี้ แต่มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าเข้าใจไม่ถูกเสียที่เดียว เรื่องการเป็น
อมตะที่จริงแล้วเราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถสิ้นชีตะได้ แม้เราจะอยู่กันมานาน ข้าหมายถึงข้า กับ
โอ๊คคาระนะ เราสอง ก็สามารถสิ้นชีตะได้ โดยมนุษย์โลกตัวเล็กๆนี่แหละ มนุษย์บางคนเป็นผู้
หยั่งรู้ทุกอย่าง ไม่มีความชั่วในตัว เป็นผู้บรรลุความจริงเเห่งชีวิต เเละเมื่อเขาได้สิ้นชีตะลงใน
ขณะที่หลุดพ้น เศษเนื้อน้ำย่อยสลายไป คงเหลือไว้แต่แก่นสารีลักษณ์ที่บริสุทธ์ดุจอัญมณี สิ่ง
เหล่านั้นและ สังหารข้ากับ โอ๊คคาระได้ ซึ่งเมื่อข้าและโอ๊คคาระไม่ได้เข้าไปยังโลก หรือไม่มีผู้
ใดนำแก่นสารีลักษ์ เข้ามาที่ ติยากิออ นี้ ก็คงไม่มีอะไร สังหารเราสองร่างได้ "
ตะเคียร์น่า รับคำทักทาย พิษทารี และแสดงความเห็น อธิบายสิ่งที่เขายังรู้ไม่จริงทั้งหมด
" โอ.. แล้วท่านไม่กลัวหรือ ท่านนำเรื่องนี้มาเผย ท่านไม่กลัวไครจะนำมันมาสังหารท่าน "
ปิเยทรานส์กล่าวขึ้น
" ที่จริงการมีชีวิตอยู่นานมากก็ทำให้เกิดการเบื่อหน่ายได้เช่นกัน ข้าคงไม่ได้มีจุดหมายอยู่ที่การ
ต้องล้างแค้นให้ได้เช่น โอ๊คคาระ มั้ง เลยเกิดอาการเช่นนี้ ข้าเคยได้ยินข่าวว่ามนุษย์ หลุดพ้น
จากจิตได้ ข้าอยากเป็นเช่นนั้น เคยหวังไว้ว่าถ้าทำให้ โอ๊คคาระสิ้นความแค้นได้เมื่อไร ข้าก็
อยากเดินทางไปยัง โลกมนุษย์เพื่อตามหามนุษย์โลกผู้หลุดพ้นเช่นกัน ข้าอยากให้เขาสอนให้
ข้าหลุดพ้นได้เช่นกัน ดีกว่าสิ้นชีตะไปอย่างมีข้อผูกมัดและต้องกลับมาเกิดเป็นอะไรที่ข้าไม่รู้อีก
เจ้ามีหนทางใหมล่ะมนุษย์โลกกลุ่มนี้ ว่าจะทำให้ข้าหลุดพ้นได้เช่นไร "
ต้องล้างแค้นให้ได้เช่น โอ๊คคาระ มั้ง เลยเกิดอาการเช่นนี้ ข้าเคยได้ยินข่าวว่ามนุษย์ หลุดพ้น
จากจิตได้ ข้าอยากเป็นเช่นนั้น เคยหวังไว้ว่าถ้าทำให้ โอ๊คคาระสิ้นความแค้นได้เมื่อไร ข้าก็
อยากเดินทางไปยัง โลกมนุษย์เพื่อตามหามนุษย์โลกผู้หลุดพ้นเช่นกัน ข้าอยากให้เขาสอนให้
ข้าหลุดพ้นได้เช่นกัน ดีกว่าสิ้นชีตะไปอย่างมีข้อผูกมัดและต้องกลับมาเกิดเป็นอะไรที่ข้าไม่รู้อีก
เจ้ามีหนทางใหมล่ะมนุษย์โลกกลุ่มนี้ ว่าจะทำให้ข้าหลุดพ้นได้เช่นไร "
ตะเคียน่า ตอบพลางและหันมาถามกลุ่มของอัครชัย ปู่อินทร์จึงได้ตอบขึ้น
" ที่จริงแล้วมนุษย์ผู้หลุดพ้น ก็มีไม่มากหรอก ที่ผ่านมา นับหลายพันปีจะมีสักครั้ง พอนานเข้าก็
มีผู้ถ่ายทอดก็จดจำลางเลือนผู้หลุดพ้นก็จะค่อยหายไป พวกข้าเองบัดนี้มีผู้บรรลุไปก่อนหน้านี้
นับเกินสองพันปีแล้วจึงไม่สามารถรับรู้ได้จนบรรลุสอนท่านได้เช่นที่ท่านต้องการ แต่แก่นสารี
ลักษณ์ที่ท่านบอก คงเป็น สิ่งที่มนุษย์เรียกว่า สารีริกธาตุ มีผู้เก็บรักษาไว้มากพอสมควร ยังพอ
หาได้ "
มีผู้ถ่ายทอดก็จดจำลางเลือนผู้หลุดพ้นก็จะค่อยหายไป พวกข้าเองบัดนี้มีผู้บรรลุไปก่อนหน้านี้
นับเกินสองพันปีแล้วจึงไม่สามารถรับรู้ได้จนบรรลุสอนท่านได้เช่นที่ท่านต้องการ แต่แก่นสารี
ลักษณ์ที่ท่านบอก คงเป็น สิ่งที่มนุษย์เรียกว่า สารีริกธาตุ มีผู้เก็บรักษาไว้มากพอสมควร ยังพอ
หาได้ "
" โอ..นั้นข้าคงยังไม่ไปโลกของเจ้าหรอก มีแต่สิ่งที่ฆ่าข้า ยังไม่มีสิ่งที่สอนให้ข้าหลุดพ้นได้แบบ
นี้ "
นี้ "
ตะเคียน่ากล่าว
" เป็นอันว่าพวกเราก็มารวมตัวกันแล้วและทำความรู้จักกันพอสมควร ที่นี้พวกเราจะร่วมมือกัน
ทั้งหมดเพื่อรับมือกับ กับมัจเจกับ โอ๊คคาระ อย่างอื่นหลังจากเสร็จสิ้นศึกในครั้งนี้ผลเป็น
อย่างไรเราค่อยมาว่ากัน "
ทั้งหมดเพื่อรับมือกับ กับมัจเจกับ โอ๊คคาระ อย่างอื่นหลังจากเสร็จสิ้นศึกในครั้งนี้ผลเป็น
อย่างไรเราค่อยมาว่ากัน "
ติอากอสรุป
" ท่านติอากอ ได้ข่าวว่าพิษเซลล่าได้ฝากอะไรไว้ให้ข้าหรือ และมันได้สั่งอะไรถึงข้าหรือเปล่า "
ปิเยพิษทารีถาม ขึ้น
" อ๋อมีสิ มีกระดานปิเยแผ่นหนึ่งและบอกให้ท่านไปนำยาแก้ พิษ ของมัจเจที่ถ้ำ เหนือ
มัจติส เพื่อมาล้างพิษ เรคารียะ ที่พิษเซลล่าได้สร้างไว้ให้กับมัจเจทำลายพวกเรา แต่ท่านคงไม่ต้อง
มัจติส เพื่อมาล้างพิษ เรคารียะ ที่พิษเซลล่าได้สร้างไว้ให้กับมัจเจทำลายพวกเรา แต่ท่านคงไม่ต้อง
ไปมัจติสก็ได้ เพราะเรคินแห่งข้าคงพอยับยั้ง เรคา และเรคารียะ ของมัจเจมันได้ และยิ่งท่านมาร่วม
กันคิดค้นอีกหน่อย คงต้านทานมันได้ไม่ยากแล้ว "
ติอากอตอบ
" ข้าขอดูข้อความบนกระดานปิเยก่อน "
ติอากอสั่งให้ปู่อินทร์หยิบในย่ามที่เขาฝากไว้ส่งให้ ปิเยพิษทารี และเมื่อพิษทารีได้อ่านข้อความ
ในนั้น ซึ่งเป็นลายขีดที่ พิษเซลล่าเขียนด้วยพิษไว้ ผู้ที่มีพิษด้วยกันจึงจะมองเห็นและอ่านออก
และเมื่อพิษทารีอ่านจบ เขาถึงกับอุทาน
ในนั้น ซึ่งเป็นลายขีดที่ พิษเซลล่าเขียนด้วยพิษไว้ ผู้ที่มีพิษด้วยกันจึงจะมองเห็นและอ่านออก
และเมื่อพิษทารีอ่านจบ เขาถึงกับอุทาน
" โอ.. รางพิษล้างตา "
คำอุทานทำให้ติอากอแปลกใจ เขาถึงได้ถามขึ้น
" อะไรหรือ พิษทารี พิษเซลล่าบอกอะไรไว้ในกระดานปิเยหรือ เจ้าอุทานแบบนั้น หมายความ
ว่าไง "
ว่าไง "
" เห็นที่ข้าจักต้องเดินทางไปเอารางพิษที่มัจเตติสแล้วท่านติอากอ พิษเซลล่าได้สลักรางพิษไว้ ไม่ได้
ไว้เพื่อแก้พิษ เรคารียะ ของมัจเจ รางพิษที่ พิษเซลล่าแอบซ่อนไว้ มันใช้ไว้ล้างตาเพื่อให้มีการมองเห็น
เรคารียะ ของมัจเจ มัจเจมีเรคารียะ ที่สามารถล่องหนได้ "
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น