ตอนที่ 8 : Under red 8
Under red 8
การสอบผ่านพ้นไปด้วยดี คริสเก็บของออกจากห้องสอบต้องสะดุดกับเพื่อนร่วมคณะรออยู่ เพ็ญยิ้มร่าเริงดักรออยู่
"วันนี้ทุกคนว่าจะไปเลี้ยงฉลองกัน คริสไปด้วยกันไหม?" เธอ..นามเดียวกับเพื่อนสนิทแต่หาใช่เพื่อนสนิทยังวนเวียนมาชวนเขาไม่หยุด จะเรียกว่าตื้อก็ได้ คริสไม่เข้าใจเลยทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงตามใส่ใจเขานัก
"ผมนัดที่บ้านไว้"
"แฟนเหรอ?"
คริสตวัดตาแรงใส่ เพ็ญสะดุ้งโหยง
"..ไม่ใช่แฟน" ดวงหน้ากลมแป้นรีบปรับสีหน้าเป็นปกติ กระชับเป้เดินสวนผ่านสาวใต้หน้าคม เพ็ญเหลียวหลังมองตามเด็กโอนหน่วยกิตข้าม ม. มาเรียนที่เดียวกับเธอกลางปี ชอบทำตัวปลีกวิเวกอยู่คนเดียว
"เพ็ญอย่าไปยุ่งกับไอ้นี่เลย วันก่อนมีรถทหารมารับมันด้วยนะ" เพื่อนในกลุ่มสะกิดไหล่เตือนด้วยความเป็นห่วง เพ็ญทำเพียงยิ้มและเดินกลับไปสมทบกลุ่มเพื่อนรอที่โต๊ะไม้ใต้อาคารเรียน ใช้ชีวิตนักศึกษาอย่างที่ควรจะเป็น
.
.
.
ต่อให้ไม่ชอบหน้าก็ไม่คิดลืมสัญญาและคนที่รอคอยก็ตั้งใจจดใจจ่อที่จะรอสัญญาจากคริส กลับมาถึงบ้านไม่ทันได้นั่งพัก ทหารหนุ่มยศพันเอกก้าวไวๆไปยังเปียโนและนั่งลง เว้นที่ว่างให้เขาแม่กวาง แม่บ้านประจำบ้านพักข้าราชการก็แสนจะรู้ใจนายหั่นชมพู่มะเหมี่ยวจัดจานวางให้บนเปียโน
"กดตามนี้ ท่อนต่อไป" นิ้วป้อมขาวกดแป้นให้ดู ทำนองบรรเลงสานต่อจากท่อนที่ค้างคาไว้ตากลมเหลือบมองคนข้างตัว สิ่งที่เห็นทำเอาคริสชักสีหน้าไม่พอใจ
"มองมือ! ไม่ใช่มองหน้ากู!"
ตาคมหลุบมองมือขาวหลังโดนดุ
'???? ???? ....????...????..????????'
นิ้วมือของพันเอกสิงโตไม่ค่อยสัมพันธ์เสียเท่าไหร่ กดโน้ตได้จริงแต่ช้า แข็ง ไม่พลิ้วจังหวะไหลลื่น คริสหยิบชมพู่มะเหมี่ยวจิ้มเกลือกินพลางดูทหารฝืนตัวเองหัดเล่นดนตรีแล้วยังจะเลือกเปียโนที่ขึ้นชื่อว่าโคตรยากอันดับต้นๆในหมวดดนตรีสากล
ปัญญาอ่อนชะมัด สมองทหาร คิดว่าดูเจตนาไม่ออกหรือไง
"ยากล่ะสิ ไม่ไหวก็ตัดใจไปทำอย่าง-"
"ไม่ตัดเด็ดขาด" สิงโตสวนกลับมาเสียงแข็งกร้าว
"....." กินชมพู่มะเหมี่ยวต่อไม่พูดอะไรอีก ปล่อยให้อีกคนดื้อด้านเล่นเก้ๆกังๆ ต่อไป ผลไม้หร่อยหรอลงไปเรื่อยๆอยู่ในท้องคนสอน เสียงวิทยุบนโต๊ะวางแจกันดอกไม้ในห้องรับแขกเปิดทิ้งไว้รายงานข่าวสภาพเหตุการณ์บ้านเมืองประจำวัน
'สถานการณ์เหตุความรุนแรงหลังสลายกลุ่มนักศึกษาผู้ชุมนุมนับจาก 14 ตุลาลดระดับลง แต่ก็ยังมีการประท้วงต่อเนื่องเป็นระยะจากชนกลุ่มน้อยแม้ว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาแล้วก็ตาม'
จากการรายงานถึงความสงบที่ไม่ 100% แต่อยู่ในระดับควบคุมได้ของภาครัฐแล้ว ซึ่งคริสไม่จำเป็นต้องฟังข่าวก็รู้ได้ สังเกตจากการว่างงานของทหารข้างตัวก็ได้ตอบชัดเจน
ทหารว่างมี 2 อย่าง
ไร้สงคราม
หรือไม่..ก็ไร้เรื่องเหนือการควบคุม
"ปิดเทอมแล้วใช่ไหม?"
คริสพยักหน้าตอบคำถามคนหัดเล่นเปียโน
"มีอะไร?"
"ฉันจะพานายไปเที่ยว"
"ไม่อยากไป"
ตาคมสีดำนิลจ้องเขม็งเด็กหนุ่มนักศึกษาปี 4 ปฏิเสธทันควัน หนำซ้ำเมินใส่และหยิบชมพู่มะเหมี่ยวหวานอมเปรี้ยวฉ่ำน้ำชิ้นสุดท้ายในจานกระเบื้องใส่ปากกิน
.
.
.
"สวัสดีครับผู้พัน" เจ้าของบ้านพักตากอากาศแถวหัวหินวิ่งมายิ้มรับนายทหารยศใหญ่ที่มาพร้อมกับเด็กหนุ่มมหาลัยผิวขาวหน้าหงิกเป็นตูดลงจากรถของหลวงที่ขับมาส่งถึงที่
"เอ่อ..น้องเขาเดินแปลกๆนะครับ" เจ้าของบ้านพักตากอากาศจับสังเกตคนลงรถหลังสุด
"เด็กมันดื้อ ไม่น่ารัก" พันเอกสิงโตตอบคำถามเจ้าของบ้านพักตากอากาศ ปล่อยให้ลูกน้องยกกระเป๋าเดินทางของสิงโตและคริสเข้าบ้าน ไม่แยแสคนที่เดินขาถ่างๆทั้งหน้าเหยเก หงิกงอตามเข้าไปในบ้านพักสองชั้นริมทะเลหลังใหญ่เป็นหน้าต่างบานใหญ่ร่วมประตูไถเปิดรับไอทะเลได้เต็มที่ คริสเลียปากรู้สึกถึงรสเค็มเกลือบางๆระหว่างเก็บของ ก้มๆเงยๆจัดเสื้อผ้าเข้าตู้เสื้อผ้าไม้ในห้องนอน
หมับ!!
ตะปบตูดเต็มแรง
"เหี้ย!!!#&฿&#&#!"
ร้องครวญไม่เป็นภาษา น้ำตาเล็ด คริสมองแค้นผู้พันหนุ่มกระตุกยิ้มร้ายกาจออกมา
"พูดจาให้มันน่ารักหน่อย"
"กูไม่น่ารักกับมึงหรอก!!!! ฿!!! &"
ดื้อปั๊บโดนบีบขยำตูดแรงปุ๊บ คริสขาสั่น ทรุดจะกองพื้น วงแขนแน่นกล้ามเข้ารวบกอดไว้ทัน เขาดิ้น ขัดขืน อีกฝ่ายยิ่งรัด
"บรรยากาศดี อีกสักรอบไหม?"
ทีนี้หยุดดิ้นพล่านเชียวนะ พันเอกสิงโต ปราชญา เดาะลิ้นจำต้องปล่อยคนในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ คริสรีบเดินขาถ่างๆหนีไปนั่งโซฟาตรงปลายเตียงไซซ์คิง
"เวลาแบบนี้ยังมีอารมณ์มาเที่ยวรึไง" คริสพึมพำ ส่วนพันเอกสิงโตเปิดเหล้าดื่ม ถือแก้วมานั่งลงโซฟา พาดแขนโอบไหล่คนดื้อเบือนหน้าหนี
ประเทศแย่ ทหารมัวทำอะไรอยู่
ประเทศแย่ ให้นักศึกษาออกมาร้องสิทธิ์
ละอายใจกันบ้างไหม
อาชีพปกป้องประเทศ เอาเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนใช้จ่ายเรื่องส่วนตัวสนองความสุข ไม่พอยังวางอำนาจบาตรใหญ่ ยิ่งคลุกคลี ยิ่งเห็นระบบฟอนแฟะไร้หัวใจ น่าแขยงจริงที่แกนนำเช่นเขาต้องมาตกภาระจำยอมกินอยู่กับทหารแบบนี้
"เรื่องบางอย่างก็ทำอะไรไม่ได้ นายก็ด้วย เป็นแกนนำใช่ว่าจะทำอะไรทุกอย่างบนโลกได้"
ริมฝีปากของนายทหารจู่โจมแก้มนิ่ม คริสปัดป้องแต่ไม่ทัน
ฟอด!!
"ใช่ว่าจะเปลี่ยนประเทศนี้ได้" หอมเสร็จตามด้วยกระซิบเสียงแหบพร่าข้างแก้มขาวนุ่ม
"ไม่จริง" คริสเถียงเสียงเขียว ไม่ยอมจำนน
"โลกสวย" เมื่อดื้อไม่ฟัง ฝั่งทหารเริ่มกดเสียงต่ำ ใช้แรงกายมหาศาลเข้ารัดกอด ตะโบมหอมแก้ม ฉกฉวย กลั่นแกล้งคนริอาจต่อต้าน กลิ่นสุราระยะประชิด "สวยแบบนี้ถึงได้ไปเป็นแนวหน้า คนฉลาดเขาไม่ขึ้นหลังเสือกัน"
ทหารนายหนึ่งได้กล่าวหาเป็นนัยยะว่านักศึกษาคนหนึ่งผู้ลุกหือต่อต้านความไม่เป็นธรรมต่อประชาธิปไตยว่า 'โง่' ในหลายเรื่องราวที่การเสียสละตีความเป็นขาดสติ ขาดปัญญา บ้าระห่ำ ในสายตาคนบางจำพวก หนึ่งในนั้นคือพันเอกสิงโต มีสิทธิ์อะไรมาริสั่งสอน ทั้งที่หากไม่มีทหารแล้วไซร้..ก็ไม่ต้องมีแกนนำทั้ง 14 ในวันนี้แท้ๆ
ต้นเหตุของความขัดแย้งคือรสหวานแห่งอำนาจ
คริสมองตาขวาง พลัน! อีกฝ่ายดื่มเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดแก้วแล้ว..จับจูบ
"อื้อ!!!" ขมโคตร!!!!! รสสุราไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ทั้งขม ทั้งร้อน แย่ที่สุดคือวิธีกินที่โคตร...คริสไม่รู้ว่าจะสรรหาคำอะไรมาด่าทหารสารเลวคนนี้แล้ว
"แค่กๆ" สำลักน้ำแสบขึ้นหัว ทหารยศพันเอกถอนจูบออก ใช้นิ้วโป้งดึงปากล่างบวมเบ่งพลางเกลี่ยเบาๆทั้งตามันเลื่อม คริสอยู่จนรู้ว่านี่คือ..สายตากระเหี้ยนกระหือรืออย่างไม่ต้องสงสัย
"ฉันอยากพัก นายด้วย"
"คิดเอง!"
พันเอกสิงโตไม่สนใจฟังเสียงก้าวร้าวแล้วดึงคริสมากอดแน่น นอนเอกเขนกบนโซฟา
"ตื่นมาไม่เจอ จะเล่นให้หนัก"
ไม่เสี่ยงกับคำขู่ คริสเกลียดทหาร ยังไงก็เกลียด ฝ่ายตรงข้ามคนละอุดมการณ์แต่ก็แสนเศร้าที่สถานะในวันนี้ต้องรู้รักษาตัวเป็นยอดดีเอาไว้ ลมหายใจผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอจนที่สุดทหารจอมบังคับก็หลับสนิท
..ใต้ตาคล้ำ..
"อดนอน?" คริสมักชิงหลับก่อนเสมอ ไม่คิดสนใจมองหน้าคมตรงๆสักครากระทั่งวันนี้มีโอกาสได้เห็นสีหน้าบุรุษในเครื่องแบบฝ่ายกุมอำนาจยามหลับใหลเหมือน..คนไทยคนหนึ่ง
.
.
.
ซ่า..
ออกจากห้องพักได้ในเช้ารุ่งขึ้น สิงโตหลับเป็นตายและตื่นมาก็บีบบังคับลากคริสให้ตื่นเช้าตาม อาบน้ำแต่งตัวในชุดสบายมานั่งร้านอาหารทะเลใต้ร่ม ทางร้านปูเสื่อให้ลูกค้าได้ตากลมทะเล ดื่มด่ำอาหารคลอเสียงคลื่นซัดฝั่งใต้แสงแดด คริสเคยไปทะเลตอนรับน้องที่ระยองช่วงปี 1 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่างเพียงเป็นที่หัวหินซึ่งให้บรรยากาศต่างออกไป
ซ่า ...ซ่า....
คลื่นทะเลซัดฝั่งเสียงดังต่อเนื่อง ใต้สายตาคนหนุ่มต่างวัยสวมเสื้อกล้ามสีขาวเหมือนกัน หนำซ้ำยังต่าง..ที่กล้าม
คริสไม่ชอบจนอยากไปซื้อลายดอกร้านค้าแถวนี้มาใส่ มานั่งข้างกันเหมือนโดนเทียบความกำยำชอบกลนักและไม่เข้าใจอีกฝ่ายหนักกว่าเดิมคนอะไรมาทะเลดันสั่งปลา
"สั่งอาหารทะเลเพิ่มได้นะ" สิงโตพยักพเยิดให้บริกรหันไปสนใจนักศึกษาหนุ่มเชื้อสายจีน
"กูแพ้อาหารทะเล" ไม่ได้โกหกแต่แพ้จริงๆ "มึงอยากสั่งก็สั่งสิวะ"
"ฉันไม่ชอบอาหารทะเล"
ประหลาดจิต
"ไม่ชอบ แต่มาทะเล?"
"เรื่องกินกับเที่ยวมันคนละเรื่อง" สิงโตเถียงหลังบริกรเก็บเมนูกลับไป ใช้ช้อนตักปลากระพงนึ่งมะนาวใส่จานให้ หน้าเคร่งขรึมจู่ๆก็ยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นมาได้น่าประหลาดจิตต่อใจคริสไม่มีหยุด
"อะไรวะ?" คริสขมวดคิ้ว จ้องมองรอยยิ้มทหารหนุ่มอายุมากกว่าอันหาได้ยากยิ่ง
"ในที่สุดก็มีเรื่องที่เราเหมือนกันซะที"
"...." คริสหันหนี ลมทะเลมันร้อนได้ใจเสียจริง กระแทกจนร้อนหน้าไปหมด ก่อนมองด้วยหางตาไปยังเนื้อปลาในจานที่พันเอกสิงโตตักให้
ตักกิน..เนื้อปลาสดใหม่รสหวานเข้ากับน้ำมะนาวเปรี้ยวเผ็ด เมนูบนขันโตกตรงหน้าเป็นอาหารวัตถุดิบอย่างดี ได้นั่งจุดชมวิวริมชายหาดหที่บรรยากาศดีสุดไม่แพ้กัน
หากไม่ใช่เงินจากทหาร คริสจะมีความสุขกว่านี้ พอคิดแล้วของอร่อยก็พาลคลื่นเหี้ยน
"ไม่เห็นดีเลยที่มีอะไรเหมือนกัน แล้วที่เหมือนเพราะกูแพ้ต่างหาก ไม่แพ้อาจจะชอบกินก็ได้" ต่างรู้แก่ใจ คริสและพันเอกสิงโตใช้ชีวิตคนละฝ่าย แตกแยกด้วยอุดมการณ์ ความเป็นคนไทยก็แค่เรื่องบังเอิญที่ดันเกิดบนแผ่นดินนี้ก็เท่านั้น ทุกความเจ็บ ความทรมาน ฝังอยู่ ระลึกถึงทีไรก็มีแต่ทุกข์ทรมานใจจนอยากอาเจียน
ข่มขืนประชาชน
ข่มขืนทางการเมือง
ทหารหนุ่มผิวสีเข้มไร้เครื่องแบบเงียบไป รินน้ำในแก้วและยกดื่ม ไม่โต้ตอบสิ่งใด ใช้ความเงียบเสียงเข้าใส่ คริสรู้สึกหัวร้อนที่อีกฝ่ายทำตัวให้เขารู้สึกเหมือนเถียงกับกำแพงสูงเสียดฟ้า
"เห็นว่าไม่คุยกับพ่อเลย" เปลี่ยนเรื่องกะทันหันแสดงความสอดรู้เก่งออกมา คริสตวัดตามองแรงใส่สิงโต
"เรื่องครัวกู"
"ครัวนายก็คือครัวฉัน"
"มึงไม่ใช่แสงโพธิรัตน์! ไม่มีวันด้วย!! กูกับมึงไม่ญาติดี-!!!!!!"
ตูม!!!!!!!
อีกฝ่ายอุ้มพาดคริสขึ้นบ่าและเหวี่ยงลงทะเลผุดหัวจากน้ำได้ไม่ทันไร ร่างขาวผ่องโดนจับกดโขดหิน ข้อมือขาวกำรวบในมือหยาบกร้านสีเข้มขึงพรืดไว้ ขัดขืน ขัดขืนและขัดขืนแค่ไหน มิอาจสลัดหลุด
"มึงจะทำอะไร!"
"เดือดเก่ง หัดฟังคนอื่นพูดให้จบบ้าง!!พ่อนายมาขอฉัน รู้ไหมว่าตอนมาขอเขาทำยังไง เขาคุกเข่ากราบพื้น พูดว่าไม่อยากให้ลูกชายตาย สัญญากับเมียจะปกป้องลูกให้ดี!!"
คริสเบิกตาโพลง ละอาย จุกจนพูดไม่ออก ไม่คิดเลยว่าพ่อลดศักดิ์ศรีแนบตีนทหารพร้อมประเคนลูกชาย..
"กูต้องซาบซึ้งเหรอ.." คริสจ้องตอบตาคมวาวโรจน์ทั้งน้ำตา
"พ่อขังให้มึง..." จุกในคอพูดไม่ออก คำนั้น เรื่องโหดร้ายเกินไป ขยี้ความเป็นคน
"2 อาทิตย์..กับมึงที่กูไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ.."
คริสถามปากสั่นมองคนที่ยังทำซ้ำๆเรื่องนั้น
"ฮึก...เป็นมึง มึงจะรู้สึกขอบคุณพ่อมึงเหรอ!!ให้กูตายกับเพื่อนยังดีกว่า!!!!!!"
"...."
"ฮึก..."
"...."
"ฮ..ฮือ...ฮือ..."
หนึ่งบุรุษได้แต่มองและปล่อยให้อีกบุรุษร้องไห้กับโขดหิน
ครวญสะอื้นกลบทะเลสาดซัด
เหยื่อ เจ็บช้ำ ถูกกระทำ
"ถ้าวันนั้นฉันคุมตัวเอง ไม่ใช้กำลังล่วงเกินคริส คริสจะรู้สึกอยากมีชีวิตต่อไปไหม?" นัยน์ตาคมกริบสีดำนิลมองและรอคำตอบ คริสเงยหน้าขึ้นมองตอบทหารที่ไม่คุกคาม เข้ามาทำร้ายอย่างเคย
"กูไม่รู้ ฮึก.."
ไม่มีใครรู้
"แต่ที่กูรู้ มึงทำไปแล้ว"
เกลียดชัง
.
.
.
กริ๊ง!!!
กริ๊ง!!!
รัตติกาลในกรุงเทพห่างไกลไปหลายกิโลเมตรจากหัวหิน หมอเด่นตื่นยามได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านดังก้องมาถึงห้องนอน จำต้องเดินลงมาทั้งร่างเปลือยปล่อยให้เด็กมหาลัยตัวสูงได้หลับต่อสบายอารมณ์บนเตียงกว้าง
"ฮัลโหล"
'กูเอง'
"อ๋อ" จำเสียงปลายสายได้ คนโทรมาคือพันเอกปราชญา เรืองโรจน์ ติดต่อมาไกลจากหัวหินด้วยตู้โทรศัพท์สาธารณะใต้ต้นมะพร้าว ณ ริมถนนดินแดงเล็กๆกลางชนบท
"น้องคริสสินะ ทะเลาะอีกล่ะสิ"
'อืม..ตอนนี้ร้องไห้จนหลับไปแล้ว..'
ปลายสายเงียบไปพักนึง ไม่ทันจะถามหมอทหารแทรกมา
"มึงบอกเรื่องนั้นน้องสิ"
คำตอบกลับแทนที่..เงียบใส่ คนเป็นหมอดันแว่นทรงกลม ถอนหายใจเฮือกใหญ่
"จะไม่บอกเหรอ?"
คนโทรหายามวิกาลเอาแต่ยืนเท้าแขนตู้กระจกโทรศัพท์สาธารณะพลางนวดขมับไปมา
'กูควรทำไง?'
"อ่อนโยน ใจเย็น ทำ 2 อย่างตามนี้"
พันเอกผิวเข้มร่างกำยำถอนหายใจพรืด กำหูโทรศัพท์แน่น ครุ่นคิดตามคำแนะนำเพื่อนเทียบกับนิสัยเด็กรับใช้ ไม่ใช่ไม่อยากทำแต่ฝ่ายอดีตแกนนำทางการเมืองนอกจากจะน่ารุนแรง ยังดื้อด้านชวนหัวร้อนไปเสียทุกครั้ง
'กูไม่กวนมึงแล้ว อยู่กับเด็กมึงใช่ไหม'
"อืม"
'โทษที กูจะวางสายแล้ว มึงไปอยู่กับเด็กมึงเถอะ'
สุดท้ายก็วางหู หมอเด่นไม่อาจรู้ได้ว่าช่วงวันหยุดอันแสนยาวนานหลังปฏิบัติภารกิจลับของพันเอกสิงโตจะสามารถใช้เวลาพักผ่อน ได้กระชับความสัมพันธ์กับเด็กรับใช้หัวรุนแรงไหม เขาทำหน้าที่ของเขาที่คิดว่าดีสุดแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่เพื่อนจะตัดสินใจ ตาหลังแว่นมองรูปหมู่ขาวดำสมัยเป็นนักเรียนทหารรุ่นเขาขนาบซ้ายขวาครูฝึก ณ วันนั้นวัยของเด่นและสิงโตอายุเพียงวัยรุ่น
คลื่นมรสุมในรูปถ่ายทั่วๆไป
"คุณเด่นครับ" แว่วเสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู สวมกอดจากข้างหลัง เด่นขยับยิ้มรับจูบบนขมับ มือเด็กหนุ่มมหาลัยเคลื่อนลงต่ำ ร่างทั้งร่างพาลกระตุก สั่นไหวโต๊ะเล็กจนหูโทรศัพท์บ้านสะเทือนหลุดห้อยโตงเตง
.
.
.
ทิ้งห่างจากตู้สาธารณะกลับมายังบ้านพักตากอากาศ ที่นี่ต่างจากกรุงเทพมีดาวเต็มฟ้าสะท้อนดวงตาสีดำเฉดเดียวกัน ขายาวพาร่างกำยำแน่นกล้ามมัดประดับประดาแผลเป็น เครื่องของความภูมิใจในสังคมชาย ยิ่งมี ยิ่งเป็นเครื่องแสดงความเป็นชายและกล้าหาญ
กล้าหาญเช่นนั้นหรือ?
ความคิดในหัวเพลินจนมาถึงประตูบ้าน
ตุบ!
ทิ้งตัวนอนคว้ากอดเด็กมหาลัยปี 4 ไว้ คนหลับใหลไปทั้งคราบน้ำตาติดพวงแก้มใส สิงโตใช้นิ้วโป้งปาดเช็ดเบาๆ ใช้มือเกลี่ยผมม้าทัดหู สัมผัสอ่อนโยนที่..คนทั่วไปไม่เห็นจากอาชีพพวกเราเหล่าทหาร
กล้าหาญ..
ปากหนาได้รูปขยับและเม้มปิดแน่น กลืนน้ำลายลงคอยากลำบาก สุดท้ายจบลงที่กดจูบบนปากอิ่มชมพูระเรื่อ
ยังคง..ขโมยจูบยามหลับเหมือนทุกวัน
TBC
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าได้คุยกันไม่แน่น้องอาจจะเปลี่ยนความคิดใหม่ก็ได้นะช่วยอ่อนโยนกับน้องหน่อย