ตอนที่ 26 : Under red 26
Under red 26
หลายชั่วโมงนับจากแสงแรกวันเริ่มส่องลอดผ่านกระจก เสียงกรีดร้อง ปืน ระเบิดดังไม่หยุด คริสนั่งมองศพรุ่นน้องส่งกลิ่นคาวเลือด เขาอ้วกทั้งน้ำตาไม่รู้จะกี่รอบ ทั้งที่พึ่งคุยกันไม่นาน พึ่งถกเถียงไม่เท่าไหร่ วินาทีความตายมาเยือนรวดเร็วน่าใจหาย
ตุลาโหด..เดือน 10 นองเลือด
บิดมือไปมา ในที่สุดเชือกหลวมหลุดออก ทิ้งรอยแดงปื้ดถลอกบนข้อมือ คริสคิดหนักทั้งตัวสั่นจะออกไปจากที่นี่ยังไง ออกไปก็อาจตาย อยู่ในนี้ก็เสี่ยงอยู่ดี นี่หรือ..คือสิ่งที่พ่อขังไม่ให้ออกไป ยอมคุกเข่าขอร้อง ถวายลูกชายให้เป็นเด็กรับใช้ทหารคนนั้น
หายใจเข้าฮึบเต็มปอด วิ่งข้ามศพเหล่ารุ่นน้องผู้หลงมัวเมาในคอมมิวนิสต์ออกจากตึกนิติศาสตร์ไปทางซ้ายพบกับนักศึกษาวิ่งหนีเตลิดขึ้นบันไดมา
ปังๆๆๆ
ทั้งชายและหญิงถูกยิงล้มตายต่อหน้าเลือดสาดกระเซ็นเปรอะกำแพง คริสยกแขนปิดปากกลั้นเสียงร้องตกใจ ถลาถอยหลังวิ่งไปทางอื่น
"อ๊าก!!!!!"
ปัง!!!!
ปัง!!!!
ทหารบางคนโดนยิงโต้โดยแก๊งคอมมิวนิสต์แฝงกายมาในคราบนักศึกษาเพื่อปลุกปั่น ไม่ใช่เพียงเด็กที่ตาย ตำรวจและทหารหลายนายก็ถูกสังเวยชีวิตที่นี่กลายเป็นศพนอนปนกับนักศึกษาเช่นกัน ต่างสอยต่างสู้กลับไปมาเพื่อคำหนึ่งที่ใช้ปลุกระดมคนขึ้นมาฟาดฟัน เป็นตัวหมากกระดานของผู้มีอำนาจเบื้องหลังทั้ง 2 ฝ่ายที่หมายเอาประโยชน์ อำนาจ ดึงลง รักษา แย่งชิง ป้องกัน
เลือดเจิ่งนอง ศพเกลื่อนทุกที่
..14 ตุลา สู่ 6 ตุลา..
แกนนำพาคนมาตายโดยที่ประเทศไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
"มี 1 ตัวตรงนั้น!"
ซวย!!! คริสหน้าซีดสิ่งหนีทหารไล่ล่า หันปากกระบอกปืนยิงกระสุนสาดไล่หลัง
ปังๆๆๆๆ
"อั่ก!!"เฉี่ยวไหล่เลือดอาบ คริสตื่นกลัว ขนลุกชัน กลัว...จนขาสั่นไปหมด กลัว...ฉี่จะราด หวนนึกถึงวันวานตวาดปากดีให้พันเอกสิงโตสังหารเขาตามเพื่อนไป นึกถึงพ่อแท้ๆอยู่ตัวคนเดียว สับไก่หาเช้ากินค่ำ
"ฮึก..."
ไม่ควรมาที่นี่เลย
ไม่ควรเปิดเรื่องให้คนต้องมาตายด้วยกันขนาดนี้ เราขัดแย้งจริง เราต้องการสิ่งดีเพื่อชาติ ทว่า..บทสรุปของมันก็เป็นแค่ขัดแย้งผลประโยชน์ของคนมีอำนาจไม่กี่คนและดึงคนนอกเข้ามาเป็นกองกำลังฝั่งตน คริสพึ่งมาตระหนักความจริงอันน่าเจ็บปวดก็วันนี้ วันที่ต้องมาวิ่งกุมแผลไปถึงกองกลางในมหาลัย คอยหลบกระสุนกราดยิงเป็นระยะทั้งที่ควรใช้ชีวิตเรียน กินข้าว ทำงานหาเงินและมีความรักกับใครสักคน
ทำไมพวกต้องการอำนาจไม่ลงสนามต่อยกันเอง ทำไมต้องปลุกปั่นคนอื่นมาเล่นแทนแล้วทำไมเราทุกคนถึงขาดสติหลงเชื่อกันได้ขนาดนี้
ฟิ้วววววว
เครื่องบินผ่านหัวคริสไหวตัวทันรีบมุดหลบใต้หลังคา เด็กนักศึกษาช่วยกันวิ่งแบกร่างบาดเจ็บของเพื่อนจะหลบ ช้าไป..พวกเขาโดนกระสุนยิงตายเป็นสิบกว่าศพ บางคนก็เกิดเห็นแก่ตัวเทเพื่อนกลางทางและชิงหนีเอาตัวรอดเหมือนแกนนำบางคนได้ตัดสินใจโดดลงแม่น้ำว่ายข้ามไปศิริราชต่อหน้าต่อตาคนที่ชูมือนั่งร้องชุมนุมล่างเวที
พวกปั่นในเงามืด..ก็คงเช่นกัน..
สติเอาตัวรอดแล่นริ้วทั่วกาย การอยู่ที่แจ้งไม่ปลอดภัย คริสหนีเข้าหลบเข้าไปในตึกอาคารรัฐศาสตร์ คณะที่สอบเข้ามาและได้เจอเพื่อน พวกพ้องร่วมอุดมการณ์ อาจารย์ร่วมขบวนให้คำปรึกษาและนำพาผู้มีใจอยากเห็นประเทศพัฒนาสู่อธิปไตย ถิ่นเดิมของนกกระจอกผู้ถูกจับแยกออกจากรังมอซอ แดนเดิมอันเป็นจุดเริ่มต้นของนิยามขบถรัฐธรรมนูญ
ตึก ตึก ตึก
ปัง!!!!ปัง!!!!!
กระสุนยิงเข้าโดนเสาปูน 2 นัดไล่หลังมา คริสสอดสายตาซ้ายขวาหาที่หลบ วิ่งข้ามศพเด็กนักศึกษามากมายเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่โดยที่จำฝังหัวว่าเราได้เสียสละเรียกร้องเพื่อชาติ ไปหลบในห้องบรรยาย slope ซุกซ่อนตัวใต้โต๊ะ ยกมือปิดปากแน่น กลั้นลมหายใจ เท้าสวมคอมแบทกระแทกลงพื้นใกล้มาเรื่อยๆ
แอ๊ด...
ประตูเปิดออก ตำรวจกวักมือเรียกเพื่อนมาดูรอยหยดเลือดเป็นทางไปถึงห้องบรรยายปิดไฟมืด
"เมี๊ยวๆ" ส่งเสียงชวนหลอน เรียกหาแมว
"เจ้าแมวแดงอยู่ไหนน้า"
ฝั่งถืออาวุธเล่นไล่ล่า หาเหยื่อ คริสกดปากแน่นกว่าเดิม คุมตัวเองให้สั่นน้อยสุด หลับตาปี๋
ตึก..
ตึก...
ตึก...
"อยู่หลังโต๊ะ"เสียงเหี้ยมเกรียมดังขึ้นจนไม่อยากเชื่อว่าดังจากปากผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ชักปืนเล็งจ่อตามหยดเลือดใบ้บอกทาง
ปัง!!!!!!!!!!
ปัง!!!!!!!!!!
ปัง!!!ปัง!!!
ตุบ..
ตำรวจ 2 นายดับสิ้นชีพลงต่อหน้า คริสร้องสติแตกเมื่อมีคนวิ่งมาจับตัวดึงออกจากที่ซ่อน
"ใจเย็นน้องๆ พี่เป็นสายให้ผู้พันสิงโต"
ตั้งสติกลับมาได้..เพียงเพราะรู้ว่าเป็นคนของใคร คนตรงหน้าเป็นทหารในชุดนักศึกษาปลอมตัวมา
ทหารในคำสั่งของ....
คริสเบะปากหลุดร้องไห้โฮราวกับทารก
"ท..ท...ทหาร?"
"ครับ ผมจ่าช้าง ผมจะคุ้มกันพาออกไปจากที่นี่ ไม่ร้องนะครับ ไหวนะ"
"ว..ไหว..ฮึก" พยักหน้ารัวๆ เลิกขัดขืน วางใจปล่อยให้ทหารสอดแนมพาคุ้มครองหนีออกไปจาก ม.เก่า ผันเปลี่ยนเป็นสนามรบกลางเมือง
"สิงโตล่ะ?"คริสถามหาหัวหน้าของนายทหารยศจ่า
"ไว้ค่อยคุยกันนะครับ" คำตอบของทหารสอดแนมถือปืนสั้นวิ่งพานำทางเด็กรับใช้ของนายหนีออกไปจากสถานศึกษาที่กลายเป็นสุสานแดงเดือดนองเลือดคนไทย รัฐกระทำการโหดเหี้ยมเกินกว่าจะเป็นคน ขณะเดียวกันนักศึกษาบางคนก็หลงคำมัวเมา
ใครกันแน่คือก้อนเนื้อร้ายของชาติ
หรือทั้ง 2 สิ่ง
พวกเขาเลาะหนีผ่านตามซอกตรอกระหว่างอาคารเรียน หลบเลี่ยงเส้นทางไปสนามบอลที่มีสัญญาณโทรโข่งดังลั่นว่าเริ่มจับนักศึกษาลากไปรวมตัวที่นั่นจนในที่สุดก็มาถึงเส้นทางหลบหนีออกจากรั้วที่จ่าช้างทำไว้ก่อนหน้า หนทางรอดเบื้องหน้า อีกนิดเดียวเพียงปีนข้ามรั้วตรงนี้ไป
"ได้ไหมครับ"
"ม..ไม่ได้" เจ็บแขนเกินกว่าจะเกาะปีนกำแพง
"ถ้างั้นเหยียบผมขึ้นไป" ทหารสอดแนมค่อมหลังลง คริสก้าวเหยียบหลังอาศัยแรงส่งปีนขึ้นไปเกาะขอบรั้ว
หมับ
ปัง!!!!!
กระสุนทะลุหัวทหารสอดแนมนัดเดียวจอด ร่างจ่าช้างล้มลง อดีตแกนนำร่วงหล่นจากขอบรั้ว มือหลุดจากขอบรั้ว ดวงตากลมเบิกโพล่งมองท้องฟ้าสีครามสดใสดั่งเช้าวันหนึ่งที่คนทั่วไปคงจะแค่ตื่นเช้ามาหุงหาอาหาร แต่งตัวไปทำงาน ไม่ก็ยืนส่งคนรักไปทำงาน
ท้องฟ้า...ห่างไกลออกไป
โครม!!!
หลังกระแทกทับร่างไร้วิญญาณของคนช่วยชีวิต เลือดจ่าช้าง..เลือดทหารสีแดงฉานเลอะเปรอะเนื้อตัวอดีตแกนนำไปหมด ปนเปเป็นสีเดียวกันกับแผลกระสุนเฉี่ยวบนไหล่ ทั้งที่รู้จักชื่อไม่นาน คุยกันไม่กี่ประโยค ต้องลาจากโดยไม่ทันกล่าวลา
เพราะชุดสีขาวทำให้เข้าใจผิด
"หน้าคุ้นๆนะ" แต่คริสไม่ยักคุ้นหน้ากับทหารวัยหนุ่มในชุดลายพรางปักชื่อ 'พันเอกนรินทร เครือนุกูล' หรี่ตาเพ่งมองครู่หนึ่งก่อนชักสีหน้าโกรธแค้นออกมา
"จำได้แล้ว เด็กเหี้ย 14 ตุลา โสของไอ้สิงโต"
ปืนยาวชักออกมาเล็งเด็กนักศึกษาตัวอันตราย ไร้อาวุธ ได้แต่คลานถอยหลังไปกับกองเลือดเจิ่งนองพื้น
"พวกมึงกับเพื่อนทำให้ท่านจอมพลต้องเร่ร่อน เพราะพวกมึง!!!!"
ตึก!!!!!
อีกฝีเท้าย่างก้าววิ่งมาอีกทาง คริสเหลียวมองไปตามต้นเสียง
"สิงโต"
ทหารในชุดลายพราง 2 คนติดตั้งยศพันเอกทั้งคู่ถือปืนแบบเดียวกัน รับคำสั่งหันปากกระบอกตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ยิ่งเสรีใน 6 ตุลาคมเหมือนกัน ทหาร..ต่างสบตากัน..
"....."
"ไอ้เหี้ย!" พันเอกนรินทรสบถด่า หันกระบอกปืนไปยังสิงโตทันที
ปัง!!!!!!!!!
นัดเดียวกระสุนแสกหัวแม่นยำ พันเอกนรินทรล้มลงคาพื้นทั้งตาค้าง คริสตัวสั่นงกๆ หันไปมองทหารที่เขานอนอยู่ด้วยกันมา 3 ปี อยู่กินใช้ชีวิตมาด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เห็น..ฆ่าคน
ชุดลายพรางอาสารับใช้ชาติ
ชุดลายพรางรับฆ่าเด็กบริสุทธิ์
วันนี้ไม่ใช่ในฐานะสิงโต ไม่ใช่ในฐานะคนรักหรือผู้มีบุญคุณเลี้ยงดู
ทหารที่รับคำสั่ง
ทหารมิอาจขัดผู้บังคับบัญชาได้ ทหารจำต้องทำภารกิจให้เสร็จไม่ว่าจะต้องแลกอะไรก็ตาม แต่แล้วช่วงที่ฟ้าสีทองผ่องอำไพ โทรโข่งสัญญาณจากวิทยุดังก้องประกาศสนั่นท่ามกลางความสูญเสียที่ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบรรยาย ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
ไม่รู้จะ..จัดการกับเรื่องที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์แสนเจ็บช้ำใจคนไทยอย่างไร..
'ประกาศคณะปฏิวัติ พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ยุติคำสั่งยิงเสรี ขอย้ำ ยุติคำสั่งยิงเสรี'
พันเอกสิงโต..ลดปืนลง ปากกระบอกปืนทิ่มลงพื้นแทนที่จะเป็นเด็กรับใช้ คริสสะอื้นร้องไห้โฮออกมาเป็นเด็กทารกแรกเกิด
ไร้คำพูดจาใด ไม่สิ..ทหาร ตำรวจ นักศึกษา ประชาชน ไม่รู้จะพูดบรรยายความรู้สึกนี้อย่างไรมากกว่า ท้ายสุดพวกเขาไม่ว่าฝ่ายไหนก็ได้แต่ยืนอยู่กลางซากศพมากมาย ตอกย้ำวันวิปลาสเกินกว่าจะเชื่อว่าคนชาติเดียวกันทำกันเอง
"ฮึก...ฮือๆ"
"....."
จบแล้วสินะ...จบสิ้นเสียที...
"สิงโต.."
"....." ไม่มีเสียงตอบ ทหารหนุ่มผิวเข้มกลับชักปืนสั้นข้างเอวขึ้น คริสตาโตน้ำตาไหลอาบแก้มเลอะเลือด เสียงสะอื้นกลืนลงคอตีบตัน
"ส..สิงโต.."
เล็งเป้ามาที่...อดีตแกนนำ 14 ตุลา
ปัง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ปืนดังขึ้นอีกนัด นกกระจอกคุดคู้ทำรังมอซอในซอกตึกรัฐศาสตร์กระพือปีกโพบิน ทหารหน่วยใหม่บุกเข้ามายิงปืนทะลุร่างทหาร ปืนสั้นทิ้งลงพื้น พันเอกปราชญา เรืองโรจน์ ในชุดลายพรางล้มลงกระแทกพื้น เลือดไหลเจิ่งนองจากร่างกระจายเป็นวงกว้าง
เสียงปืนนัดสุดท้าย ดังกว่านัดไหน
"นักศึกษาลุกไหวไหม?"
"เด็กมีบาดเจ็บนิดหน่อยที่ไหล่ครับผู้กอง"
"มาครับ พวกเราจะพาออกไปจากที่นี่ ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ" ทหารชุดใหม่เข้ามาประคองคริสให้ลุกขึ้น พาออกไปจากโศกนาฏกรรมน่าอดสู
มัจจุราชถูกกำราบ
TBC
+++++++++++++
#ฟิคผู้พัน
ไปก่อนนะ บายจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เป็นไงหล่ะรสชาติของ...อิสระ
สิงโตตายเหรอ ไม่นะ ถ้าตายฟ้าไม่ยุติธรรมเลย