ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ANATHEMA - HIGHLIGHT

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER: TWO - คำถามที่รู้คำตอบดี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 203
      4
      29 ก.ค. 57

     

     

     CHAPTER: TWO  -  คำถามที่รู้คำตอบดี

     

               

     

     

     

     

                แสงจากหลอดไฟในห้องน้ำลอดผ่านขอบล่างของประตูห้องน้ำ ข้างในนั้นมีเจ้าของห้องซึ่งเป็นไอดอลคนดังกำลังชำระร่างกาย ล้างคราบเหงื่อไคลจากการซ้อมเต้น เพื่อคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะมาถึงในอีกไม่เกินหนึ่งเดือน ยงจุนฮยองมีเพลงดังมากมายจากห้าอัลบัม และเพลงประกอบซีรีย์ ภาพยนตร์ แม้กระทั่งโฆษณา ที่เขาอาจจะต้องนำมารวมในโชว์และมีท่าเต้นใหม่ๆ และนั่นทำให้เวลานอนของเขาลดหายไปอีกมาก

     

    “ไม่ไหวก็บอกให้ดูจุนมันไม่ต้องรับอีเวนท์ดิ”ฮยอนซึงเคยบอกเขาหลังจากการซ้อมท่าใหม่เมื่อหลายวันก่อน นักร้องดังหยุดคิดตามคำพูดนั้นไปนิดหน่อย ก่อนที่รอยยิ้มล้าๆ จะผุดขึ้นมาพร้อมกับคำตอบที่ไม่ว่าจางฮยอนซึงพยายามจะเข้าใจมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ

     

    “ก็ถ้าไม่รับอีเวนท์ผมก็ไม่ได้เจอเขานี่”เขาเห็นว่าพี่ชายทำหน้าแบบไหนตอนได้คำตอบ ฮยอนซึงหนะไม่มีวันเข้าใจหรอก คนที่ได้ความรัก ได้คนรักมาง่ายๆ ไม่ต้องพยายามอะไรไม่มีวันรู้ว่าเขารู้สึกแบบไหน

     

     

     

     

     

    คนที่มีพร้อมทุกอย่าง...แต่ไม่ได้มีครบทุกอย่าง

     

     

     

     

     

    “คิดถึงพี่จัง”หยิบกรอบรูปที่คว่ำไว้ตรงหัวเตียงมาดู ในนั้นคือภาพของชายหนุ่มที่เขาบ้าบอหาเรื่องให้ได้เจอมันทุกวัน ก็รู้นะว่าที่ทำมันไม่ได้ปกติ แต่จะให้ทำยังไง ..ในเมื่อเขาไม่เคยอยู่ในสายตาของอีกคนเลย

     

     

     

     

     

    ยงจุนฮยองที่ใครๆ ก็รัก ก็ชื่นชอบ ยกเว้นคนที่เขาอยากให้รักมากที่สุด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ดูจุนเดินตามจุนฮยองขึ้นรถที่จอดรออยู่หลังจากที่งานสุดท้ายของวันจบลงก่อนเวลาเกือบชั่วโมง ร่างสูงมองนาฬิกาข้อมืออย่างอารมณ์ดี ผิดกับอีกคนที่ดูหงุดหงิดที่ได้กลับไปพักเร็วกว่าทุกวัน เจ้าของใบหน้าคมคายเปิดสมุดคิวดู ก่อนจะเก็บมันใส่กระเป๋าอย่างสบายใจ

     

    “เดี๋ยวไปแวะกินอะไรก่อน ค่อยกลับดีไหมจุนฮยอง”เขาแค่อยากจะพูดดีด้วย ไม่ว่ายังไงก็ยังต้องทนทำงานอยู่อีกเป็นปี

     

    “.....”ฝ่ายนั้นหันมาเหมือนจะยิ้ม ก่อนจะทำเพียงพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาใครบางคน

     

    “พี่....วันนี้ผมไม่ไปนะ พี่กับพวกเจ๊ไปกันเลย”ก็ไม่ได้จะแอบฟัง แต่พอดีว่าจุนฮยองไม่ได้พูดเบาๆ 

     

    “.................”

    “เอ่อ... พี่ไม่ต้องรู้หรอกน่า  ฝากบอกพวกเจ๊เขาด้วยว่าผมขอโทษ วันหลังจะซื้อปราด้ามาฝาก”พูดติดตลกและเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า รอยยิ้มจริงๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเวลางาน รอยยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้มกวนประสาท ...ครั้งสุดท้ายมันนานมากแล้ว

     

    “................”

     

    “ครับๆ บาย”มือขาวกดวางสายก่อนจะหันมามองเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง ริมฝีปากอิ่มเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เงียบไป

     

    “มีนัดอยู่แล้วหรอ”อดไม่ได้ที่จะถาม และอดไม่ได้ที่จะดีใจที่จุนฮยองเลือกจะไปกับเขา

     

    “ยิ้มทำไม ที่ฉันไปกับนายก็เพราะเห็นว่านายไม่มีแฟนไม่มีเพื่อนให้ไปไหนด้วยแล้วเฉยๆ หรอก ไม่ได้สำคัญอะไร”ดูจุนมองควับ บอกได้เลยว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีก่อนนี้เหือดแห้งหายไปหมดในทันทีที่ฟังจบ ยงจุนฮยองจะไม่พูดทุกอย่างที่คิดไม่ได้หรือไงวะ!

     

     

     

     

     

     

     

              ดูจุนเงียบแล้วก็หันหนีไปไม่พูดด้วยต่อ จุนฮยองอยากตบปากตัวเองที่มันไวกว่าความคิดเสมอ เขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสักนิด อยากจะกระโดดกอด อยากจะบอกฮยอนซึง อยากบอกโยซอบ อยากบอกกีกวังว่าดูจุนชวนเขาไปกินข้าวเย็นด้วยกัน

     

     

     

    แล้วยังไง แล้วก็ปากดี....

     

     

     

    “ขอโทษนะ เมื่อกี๊ไม่...”

     

    “ช่างเถอะ เดี๋ยวกินอะไรง่ายๆ ตรงร้านทางเข้าคอนโดแล้วกัน คุณลุงปาร์คจะได้กลับไปเลย เราสองคนก็เดินกลับหลังกินเสร็จ”ไม่ได้ให้เขาได้พูดจนจบ ดุจุนตัดบทอาจจะเพราะไม่อยากฟังให้รำคาญหูก็เป็นได้  ...สมน้ำหน้าตัวเองจริงๆ

     

     

     

     

     

     

                ราเมนหอมกรุ่นเข้ากันได้ดีกับอากาศของกลางคืนในวันอากาศที่เริ่มหนาวเย็นแบบนี้ จุนฮยองใช้ตะเกียบเขี่ยเส้นสีเหลืองอ่อนที่อยู่ในซุป ควันลอยฉุยไอดอลหน้าใสมองด้วยรอยยิ้มจาง ก่อนที่หางตาจะเหลือบไปมองเมเนเจอร์คนหล่อที่สไลด์หน้าจอไอแพดเพื่อเรียงตารางงานในแอปพลิเคชั่นอันใหม่ที่ทางค่ายส่งมาให้

     

    “กินก่อนดีไหม เดี๋ยวจะเย็นหมด”ดูจุนเงยหน้ามองงงๆ ไม่คิดว่าจุนฮยองจะมีน้ำเสียงที่ห่วงใยแบบนี้ เจ้าของใบหน้าคมคายยิ้มน้อยๆ วางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลง

     

    “ฉันเพิ่งรู้ว่าแถวคอนโดเราจะมีร้านอาหารญี่ปุ่น”ดูจุนชวนคุย อีกฝ่ายเงยหน้าจากชามอาหารมาสบตานิดหน่อยก่อนจะเบือนหนี

     

    “พวกโชรงเคยแวะเอาของมาให้แล้วก็แนะนำว่านี่อร่อย”ดูจุนนิ่งไปนิด ดวงตาหรี่มองหน้าคนพูดอย่างไม่ชอบใจ

     

    “ฉันเคย...”

    “เอาน่า ยัยพวกนั้นหนะมากับพี่ฮยอนซึง ไม่มีไรเสียหายหรอก ที่สำคัญนะมาหาตรงล็อบบี้เอง อย่าบ่นน่า”จุนฮยองไม่อยากให้มันเสียบรรยากาศ นานๆ พวกเขาจะได้คุยกันดีๆ สักครั้ง ไม่อยากจะต้องมาขุ่นในใจอาหารจะพาลไม่อร่อยด้วย

     

     

     

                ดูจุนถอนใจและพยายามใจเย็นลงให้มากๆ  อดยอมรับไม่ได้ว่าพอได้ยินเรื่องที่มันอาจจะทำให้จุนฮยองต้องเป็นข่าวฉาวมันอารมณ์เสียแค่ไหน จุนฮยองจัดการมันไม่ได้ และไม่เคยคิดจะจัดการ ดีหน่อยที่พักหลัง หลังจากเลิกรากับคิมฮยอนอาก็แทบไม่มีเรื่องผู้หญิงขึ้นหน้าหนึ่ง ...งานเบาลงไปเยอะ

     

    “ยังไงก็ระวังแล้วกัน”พูดสั้นๆ จุนฮยองพยักหน้าแล้วก็ส่งยิ้มให้ไม่เถียงแบบทุกครั้ง

     

     

     

     

    แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย

     

     

     

     

     

    >ANATHEMA

     

     

     

     

     

     

                จุนฮยองว่าตอนนี้มันดี ดูจุนที่คอยเดินตามหลังเขาพักนี้มาเดินอยู่ข้างๆ หน้าหล่อๆ ที่มักจะซีเรียสตลอดเวลากลับยิ้มแย้มแล้วก็พูดจาดีๆ กับเขา จนล่าสุดที่เจอจียุนคุณพี่รหัสคนสวยของเขาถึงกับออกปากแซวเรื่องที่ไม่มีข่าวให้เขียนถึงเลยในระยะนี้ 

     

     

     

     

    ก็คนที่อยากจะอยู่ด้วยนานๆ ตัวติดเขาตลอดนี่นา

     

     

     

     

    “เดี๋ยวเข้าบริษัทแล้วตรงไปห้องซ้อมได้เลยนะ”ดูจุนบอกเสียงเรียบ จุนฮยองพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะคว้าไหล่กว้างของชายหนุ่มที่เดินแยกไป ไม่ขึ้นรถไปกับเขา

     

    “แล้วนี่จะไปไหน ไม่เข้าบริษัทกับฉันหรอ”อดไม่ได้ที่จะถาม ดวงตากลมมองอย่างอยากรู้ คนตรงหน้ามองเขาเขินๆ ก่อนจะตอบ

     

    “พอดีฉันมีนัดหนะ นายเข้าไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวตามไป”รายนั้นเดินแยกไปทางรถยนต์คันน้อยที่จอดถัดไปจากรถของบริษัท หญิงสาวหน้าตาสะสวยออกมาจากที่นั่งด้านคนขับ ดูจุนมองเจ้าหล่อนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข แบบเดียวกับที่ใช้มองโนลีนา

     

     

     

     

     

    มันเจ็บอีกแล้ว....

     

     

     

     

    “แล้วมึงก็มานั่งเฮิร์ทแบบนี้เพราะเขาไปมีเมียใหม่ที่ไม่ใช่มึง”ยังโยซอบที่นานๆ จะเจอกันทีก็มักจะปลอบใจเขาด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนี้เสมอ จุนฮยองหน้าเศร้าน้ำตาตกใน ไอ้เจ็บปวดมันก็แน่อยู่แล้วล่ะ เพียงแต่เขาจะจัดการกับมันยังไงดี

     

    “โอ๋ๆ เถิกเอ๊ย อย่าร้องไห้นะ”โยซอบยีหัวเขาเบาๆ ก่อนจะหยิบขวดวอดก้าที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์บาร์ในครัวมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเพื่อนสนิท

     

    “กูแค่ไม่รู้ว่าจะทำใจยังไง ตอนยัยลีน่าหนะเขายังคบกันมาก่อนที่กูจะรู้ตัวว่าชอบ แต่นี่กู...”พูดต่อไม่ทันจบเสียงก็เหือดไป น้ำตาก็ทำท่าจะไหลจนต้องกรอกตาขึ้นข้างบน....ไอ้บ้าจุนฮยองจะร้องไห้ทำไม!

     

    “มึงรักพี่เขา แต่พี่เขาไม่รักมึง คำตอบเดิมแบบที่เคยบอก เลิกเพ้อ หันหลังแล้วก็ทำใจ พี่ดูจุนชอบผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย”ตรงไปตรงมาเหมือนว่าอยากให้ยอมรับ จุนฮยองพยักหน้าเข้าใจที่เพื่อนพูด คำตอบเดิมกับเมื่อสองปีก่อน ...การทำใจก็คงต้องใช่วิธีการเดิม

     

     

     

     

     

               

     

     

                ดูจุนกุมขมับอีกครั้งเมื่อพาดหัวข่าวแบบเดิมที่เคยหายไปตั้งหลายเดือนกลับมาอีกครั้งอย่างกับฉายภาพซ้ำ จุนฮยองนั่งกระดิกเท้าอารมณ์ดีอ่านมันราวกับว่าตั้งใจจะทำแบบนี้

     

    “ฉันไม่เข้าใจเลยจุนฮยอง เรื่องแบบนี้มันหายไปตั้งนาน ทำไมนายถึงพลาดอีก”เขาคิดจะพูดอย่างใจเย็น แต่พอเห็นว่าจุนฮยองทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับมันก็เลยอารมณ์เสียแล้วก็แข็งกร้าวขึ้นมาอีก จุนฮยองอ้าปากจะตอบ แต่ก็ทำเพียงไหวไหล่กวนๆ

     

    “นายนี่มัน..”ดูจุนไม่พูดต่อเพราะเอือมระอาเต็มทน จุนฮยองเม้มริมฝีปากนิดหนึ่ง

     

    “ฉันก็แค่ไปดื่มสนุกๆ ที่สำคัญมันเป็นหน้าที่นายที่จะต้องจัดการข่าวนี่ ฉันไปซ้อมดีกว่า ...เออ แล้วคืนนี้ฉันจะไปดื่มกับสาวๆ พวกนั้นอีก คอยแก้ข่าวให้ด้วยล่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

                เสียงดนตรีในร้านดังอึกทึก มือขาวของฮยอนซึงยกขึ้นบอกให้รู้ว่านั่งกันอยู่ตรงไหน จุนฮยองเดินควงแขนมากับนางแบบลูกครึ่งสาวสวยที่อยู่ในข่าวเมื่อเช้านี้ หญิงสาวผงกศีรษะทักทาย

     

    “เดี๋ยวฉันไปนั่งตรงนู้นกับเพื่อนนะ”สาวเจ้าบอกพลางแยกตัวออกไป ฮยอนซึงมองตาแผ่นหลังขาวเนียนไปจนเธอถึงโต๊ะ จุนฮยองนั่งลงข้างพี่ชายคนสนิท กวาดสายตามองหาอีกคนที่นัดมาด้วย ก่อนจะเห็นว่ามีปาปารัสซี่นั่งอยู่ที่มุมไม่ไกลจากโต๊ะพวกเขา

     

    “นี่นักข่าวนี่”เอ่ยขึ้นพลางใช้สายตาบอกฮยอนซึง หนุ่มหน้าหวานเลิกคิ้วนิดหน่อย

     

    “ใช่ ว่าแต่แคร์หรือไง”ถามทั้งที่ก็เดาได้ว่าคำตอบคืออะไร ไอดอลหนุ่มไหวไหล่แบบที่ชอบทำ ก่อนที่เพื่อนซี้อีกคนจะตามาสมทบ

     

    “ไง รอนานไหม”โยซอบเอ่ยปากทักทาย ฮยอนซึงบอกปัดเรื่องเวลาที่ถูกถาม ทั้งสามนั่งคุยกันพักใหญ่ ก่อนที่เมเนเจอร์ของสองสาวจีฮยอนและโซยอน จะเหลือบไปเห็นคนในข่าวของจุนฮยอง

     

    “ลูน่ามาด้วยหรอ”ถามเสียงเรียบพลางยกจินโทนิกตรงหน้ามาจิบบางๆ คนตัวขาวพยักหน้าก่อนจะเอ่ยปากตอบเพื่อขยายความ

     

    “ก็ไม่อยากมาคนเดียว เธอก็น่ารักดีนะ แต่...”

     

    “ฉันรักพี่ดูจุน”ทั้งฮยอนซึงและโยซอบพูดขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ปล่อยให้จุนฮยองได้พูดจนจบ นักร้องหนุ่มยิ้มขำ

     

    “ไม่ใช่สักหน่อย ผมจะพูดว่าแต่ฮยอนอาน่าคบกว่า”คนอื่นพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ ก่อนจะหันกลับมามองคนพูดเป็นตาเดียว

     

    “อย่าบอกว่าเปลี่ยนใจจากพี่ดูจุนแล้ว”โยซอบว่าอย่างตกใจ  ตาที่กลมโตน่ารักมากอยู่แล้วเลยกว้างจนเกือบจะถลน จุนฮยองหัวเราะเบาๆ เจ้าของใบหน้าอารมณ์ดีส่ายหัวปฏิเสธ

     

    “เปล่าๆ กูแค่กลับมาคุยกันแบบเพื่อน แบบเพื่อนกันจริงๆ ..มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบผู้หญิง”ไอ้ประโยคสุดท้ายจุนฮยองใช้เป็นการกระซิบกระซาบ พร้อมทั้งยิ้มเขินจนน่าตบให้หัวทิ่ม ฮยอนซึงส่ายหัวระอา

     

     

     

     

     

     

    ไม่ชอบผู้หญิงแต่ก็ขยันควงไม่ซ้ำหน้า...ยงจุนฮยองไอ้คนบาป

     

     

     

     

     

     

     

    >ANATHEMA

     

     

     

     

     

     

     

              หลังคอนเสิร์ตจบลงอย่างเรียบร้อย ศิลปินหนุ่มที่สวมเพียงเสื้อกล้ามสีดำซึ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อและกางเกงยีนส์สกินนี่สีเข้ม ผ้าเช็ดหน้าถูกโยนใส่ตะกร้าที่วางอยู่ตรงประตูห้องแต่งตัว ดูจุนรออยู่ในนั้น พร้อมด้วยสาวๆ ที่อยู่ในข่าวตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

     

    “จัดการให้เรียบร้อย”พูดสั้นๆ ก่อนจะปลีกตัวออกไป จุนฮยองมองสาวสวยทั้งสาม เขาไม่ได้มีแววตาที่หนักใจ ไม่มีท่าทีที่จะเกรงกลัวอะไร เขารู้ดีว่าพวกเธอยอมควงกับเขาด้วยเหตุผลไหน

     

     

     

     

     

    ...เขาดัง...

     

     

     

     

     

    “จุนฮยองคะ ทำไมไม่ติดต่อไปเลย”เนทไอดอลหน้าตาน่ารักเข้ามาเกาะแขนเขาอย่างสนิทสนม จุนฮยองยืนนิ่งใช้เพียงหางตามองเจ้าหล่อน

     

    “ลูน่าเองก็รอจุนฮยองนะคะ”นางแบบลูกครึ่งเดินเข้าไปเกาะแขนอีกข้าง เขาเม้มริมฝีปากเหมือนกำลังครุ่นคิด

     

    “นี่พวกเธอ เลิกเกาะพี่เขาได้แล้ว พี่จุนฮยองเขารำคาญหนะเห็นไหม”เป็นสาวสวยอีกคนที่แว๊ดขึ้นมา เสียงแหลมแปร๊บเสียจนแสบแก้วหู จุนฮยองเบ้หน้า ก่อนจะแกะมือของสาวๆ ทั้งหมดออก

     

    “ผมคงไม่ติดต่อไปหาใครหรอกครับ แล้วก็กรุณาอย่าทำรุ่มร่าม เราเป็นแค่เพื่อนกันนะครับ”ย้ำสถานะให้รู้ ทั้งหมดตรงนั้นอึ้งกับคำพูดของชายหนุ่ม และก่อนจะมีใครพูดอะไรหรือเอะอะโวยวายให้เหนื่อยหน่ายกว่านี้ เขาก็ออกปากไล่ในทันที

     

    “เชิญกลับครับ ผมเหนื่อย  เอ่อ แล้วถ้าออกไปฝากตามเมเนเจอร์ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณ”

     

     

     

     

     

     

                เสียงเท้าปึงปังก่อนที่ประตูจะปิดลงดังปัง จุนฮยองทิ้งตัวลงนั่งหน้ากระจกแต่งหน้า ดวงตาเล็กหรี่ปิดเปลือกตาลงอย่างอ้อนล้า ก่อนที่ทุกอย่างจะวูบลงไปขณะหนึ่ง...

     

     

     

              ดูจุนมองนักร้องในความดูแล แววตาหนักใจเบาลงเมื่อเห็นใบหน้านิ่งสงบที่กำลังดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา จุนฮยองเวลาไม่สร้างปัญหา ไม่ทำเรื่องวุ่นวายก็ดีแล้วแท้ๆ

     

     

     

     

     

     

     

    ทำไมต้องทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะไปให้พ้นๆ อีกก็ไม่รู้

     

     

     

     

     

     

    “พรุ่งนี้มารับไปกินข้าวเช้าหน่อยสิ”จู่ๆ จุนฮยองก็พูดขึ้นมาหลังจากถูกเขาปลุกให้มาขึ้นรถเพื่อกลับคอนโดมิเนียม ร่างสูงที่ในมือกำลังเคลียคิวงานของจุนฮยองเงยหน้าขึ้นมามอง ริมฝีปากหยักทำท่าจะพูดอะไรอะไรสักอย่าง แต่ก็ถูกอีกคนตัดหน้า

     

    “ห้ามปฏิเสธ เข้าใจนะ”ยิ้มกวนแล้วก็สะพายเป้ของตัวเองเดินผ่านหน้าเขาไปโดยไม่สนใจเขาสักนิด ดูจุนจิ๊ปากไม่ชอบใจแต่ไม่กล้าปฏิเสธเพราะอย่างไรก็เป็นหน้าที่  ชายหนุ่มยืนอยู่อีกครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจไม่ตามใจอีกคน

     

    “พอดีพรุ่งนี้ฉันมีนัดกับจูยอน ยังไงคืนนี้ซื้ออาหารแช่แข็งไปไว้ที่ห้องได้ไหม”เขาวิ่งตามหลังจุนฮยองจนไปทันตรงรถตู้ที่อีกคนกำลังจะก้าวขึ้น จุนฮยองเอียงหน้ากลับไปมองนิ่ง มือสวยเหวี่ยงกระเป๋าไปบนเบาะรถ

     

    “แล้วแต่นายแล้วกัน แต่ถ้าฉันออกไปกินกับใครแล้วเป็นข่าวขึ้นมาก็อย่ามาโทษกันนะ”จุนฮยองไม่ได้ขู่ดูจุนรู้ดี บางทีนะ บางทีเขาก็อยากจะปล่อยให้จุนฮยองจะทำอะไรก็ทำ มีข่าวก็ตามแก้กันไปเองไม่ต้องมาเกี่ยวกับเขา จะได้รู้ว่ามันปวดหัวมากแค่ไหนกับปัญหาบ้าบอพวกนี้.. แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้

     

    “แล้วกินข้าวคนเดียวไม่เป็นหรือไง”ยอมรับเลยว่าอารมณ์เสียขึ้นมาจริงๆ จุนฮยองนิ่งไปนิด ริมฝีปากอิ่มสั่นริก แววตาใสบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าไม่พอใจมาก

     

    “ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ไม่ต้องมาถามฉัน อยากไปไหนก็ไปเลยไปยุนดูจุน  ไปไกลๆ เลย”ไอดอลหนุ่มโกรธจัดแล้วก็กระโดดขึ้นรถก่อนจะปิดประตูใส่หน้าเขาดังปัง ดูจุนยืนงงที่อยู่ๆ จากที่เขาเป็นคนโกรธกลับกลายเป็นว่าถูกอีกคนเกรี้ยวกราดใส่  รถยนต์ขับออกไปแล้ว และเมเนเจอร์รูปหล่อก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น  ก่อนจะมานึกได้ว่าตัวเองถูกทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

              จุนฮยองล้มตัวลงบนที่นอนนุ่มของตัวเองอย่างอ่อนล้าในหัวมันคิดแต่เรื่องที่ดูจุนพูดเมื่อครู่นี้ ทำไมหรอ ทำไมเขาจะกินข้าวคนเดียวไม่ได้ เมื่อก่อนเขาหนะทำได้ แต่เพราะดูจุนนั่นแหละที่เทียวมาหา มาชวนให้ออกไปด้วยกันจนเขาชินกับการต้องมีใครสักคนอยู่ด้วยข้างๆ

     

     

     

    แม่งโคตรงี่เง่าเลยว่ะยงจุนฮยอง ...ตุ๊ดฉิบหาย!





    TO BE CON'

     
    TALK ::  เนื้อเรื่องมันยืดจังเลยว่าไหมมมมม ที่จริงตั้งใจจะให้อะไรๆ มันเข้าเมนหลักตั้งแต่ตอนนี้แล้ว แต่ไปๆ มาๆ มันไม่ได้อ่ะค่ะ 
    รู้สึกว่าอะไรหลายๆ อย่างมันไม่สุด อย่าเพิ่งด่านะะะ รอหน่อยยยยยย 


    ขอบคุณที่รักทูจุน <3

                   

     

     

     

     

     

    MINOR
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×