ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ANATHEMA - HIGHLIGHT

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER : THREE - สิ่งที่ไม่เคยได้รับรู้

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 171
      2
      16 ส.ค. 57

    CHAPTER : THREE  -  สิ่งที่ไม่เคยได้รับรู้

     

     






     

                ดูจุนกัดฟันกรอด มองภาพที่จุนฮยองกำลังใช้ปลายนิ้วคีบมวนบุหรี่ในข่าวที่ทางหนังสือปาปารัสซี่ส่งมาให้ดู เพื่อตัดสินใจว่าจะจ่ายเงินเพื่อให้ทำลายรูปหรือให้ตีพิมพ์ภาพแล้วไปนั่งแก้ข่าวภายหลัง เมเนเจอร์หนุ่มหันหลังกลับไปมองนักร้องดังที่นั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์อย่างเมามันโดยไม่สนใจรอบข้างสักนิด

     

     

                มือหนาของชายหนุ่มคว้าเครื่องมือสื่อสารที่ตอนนี้กลายเป็นเครื่องเก็บเลเวลของอีกคน หูฟังที่เพิ่มอรรถรสของมันถูกดึงออกไปพร้อมกัน จุนฮยองมองตามงงๆ แต่ก่อนจะได้พูดอะไร ดูจุนก็ตะคอกใส่เขาเสียงดัง

     

     

    “ไม่สร้างปัญหาสักวันมันจะตายไหม!”นอกจากน้ำเสียงและท่าทีที่เกรี้ยวกราด จุนฮยองยังเห็นแววตาที่เกลียดชังถูกส่งผ่านมาที่เขามากมายจนแทบรับไม่ทัน เจ้าของริมฝีปากอิ่มเหวอและงงงวยกับการกระทำเหล่านั้นของคนตรงหน้า

     

    “มันเรื่องบ้าอะไรอีก อยู่ๆก็มาแว๊ดๆ ใส่ ประสาทหรือไงวะ”ว่ากลับด้วยใบหน้าเหยเก ดูจุนที่ไม่ได้ใจเย็นลงเลยแม้แต่น้อย

     

    “เอาไปดู!”โยนใส่หน้าจนไอดอลหน้าหวานที่ปรี๊ดอยู่แล้วหน่อยๆ ปรี๊ดหนักกว่าเก่า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบภาพเหล่านั้นมาดู แล้วถอนหายใจเซ็งๆ

     

    “ไง พูดไม่ออกเลยสิ  ถ้าหยุดสร้างปัญหาไม่ได้ แนะนำนะจุนฮยอง...ไปตาย”

     

     

     

     

     

     

                แสงไฟในร้านเดิมสลัวลงเหมือนกับรู้ว่าคนที่มานั่งคนเดียววันนี้ช้ำในมากแค่ไหน เพลงที่เปิดคลอทั้งที่ทุกวันเป็นจังหวะที่สนุกสนานแต่ตั้งแต่ที่จุนฮยองย่างตัวมานั่งมันกลับเป็นเพลงเศร้าๆ ที่เปิดยาวเหมือนโดนแกล้ง เขาไม่รู้ว่าแก้วในมือมันเป็นแก้วที่เท่าไหร่ แต่ดูเหมือนบาร์เทนเนอร์ที่รู้จักกันดีกับเขามีสายตาที่ดูเป็นห่วงส่งมาให้ จุนฮยองยิ้มกว้างทั้งที่ตาแทบลืมไม่ขึ้น สติก็โงนเงนเต็มที

     

    “อีกแก้วสิ”กดเสียงที่แสนเมามายให้นิ่งที่สุด ชายหนุ่มในชุดเสริฟเครื่องดื่มอ้าปากจะปราม แต่ก็โดนอีกเสียงของหญิงสาวผู้มาใหม่เอ่ยขัด

     

    “เอาเป็นน้ำผึ้งมะนาวให้เขานะ”ปลายนิ้วยาวคีบแบงค์หมื่นวอนวางให้เป็นค่าเครื่องดื่ม บาร์เทนเนอร์ยิ้มเบาใจก่อนจะหันไปชงน้ำที่ว่า

     

     

                ฮยอนอาในเดรสยาวสีขาวสะอาดตา ตัดกับผมยาวสีดำสนิทที่ถูกปล่อยสยายถึงกลางหลัง ดวงตาสวยกรีดอายไลเนอร์คมกริบมองตรงไปที่เก้าเก้าด้านข้าง ที่ผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าหลงรัก ที่เธอเห็นว่ามีเพียงความเวทนาให้แก้เขาได้

     

    “ใครกันทำให้ยงจุนฮยองมาเมาหัวราน้ำได้แบบนี้”จุนฮยองไม่ต้องมองก็รู้ว่าอดีตคู่ควงสาวที่ตอนนี้เป็นเพียงเพื่อนคนนึงของเขากำลังสะใจแค่ไหนที่ได้เห็นแบบนี้ ไอดอลหนุ่มยิ้มกว้าง รับแก้วน้ำมะนาวมาดื่มอึกนึง สติที่เหมือนจะขาดก็กลับมา

     

     

     

     

    ฮยอนอารู้ดีว่ามันช่วยจุนฮยองได้

     

     

     

    “เธอคงชอบใจที่เห็นฉันสภาพนี้ ฉันทำเธอไว้มากจริงๆ”ดันมาสำนึกเอาตอนที่สายไปแล้ว แต่ก็ทำเอาคนที่นั่งอยู่ด้วยถึงกับอึ้งไปไม่น้อย ฮยอนอาหนะใจร้อนมากพอๆ กับที่ใจอ่อน พอเห็นแบบนี้ ได้ยินทำพูดแบบนี้ แล้วน้ำเสียงที่อ่อนล้านั่นอีก..บอกเลยว่าสงสาร

     

    “แล้วนี่ไปโดนใครหักอกมาล่ะ หรือว่าทะเลาะกับพี่เมเนเจอร์นั่น”ฟังคำถามนั่นแล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างสมเพชในสิ่งที่ตัวเองเป็น และก็คิดว่าคิมฮยอนอาช่างถามได้ตรงใจ

     

    “ฉันจะเอาอะไรไปสู้เขาได้ ฉันแพ้เขาอยู่แล้วฮยอนอา แพ้มานานแล้ว หึ! แพ้ราบคาบเลย”หญิงสาวไม่รู้ว่าที่จุนฮยองพูดออกมาแบบนี้เพราะว่าเมาเลยเพ้อเจ้อหรือมันเป็นเรื่องจริงๆ ในใจ เธอรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงความเจ็บปวดจากคำพูดเหล่านั้น

     

    “นายชอบแฟนใหม่พี่เขาหรอ”เขาหันมามองเธอด้วยแววที่แสนเศร้า มุมปากหยักยกยิ้มเหยียดๆ ฮยอนอาไม่เข้าใจความหมายนั้น ได้แค่รอคำตอบ

     

    “รู้ไหมว่าทำไมทั้งที่ฉันเองก็ชอบเธอมากกว่าทุกคนที่ผ่านมา แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ความรัก รู้ไหมว่าทำไม”ออกจะวกวนและน้ำเสียงลอยๆ นั่นบอกให้รู้ว่าจุนฮยองกำลังคิด หญิงสาวขมวดคิ้วรอฟังสิ่งที่คนตรงหน้าจะพูด

     “ฉันรักเขามานานมากแล้ว ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันเป็นเด็กดีเขาคงจะรักฉันบ้าง แต่เขาก็รักคนอื่น ฉันตัดใจด้วยการคบผู้หญิงไปเรื่อยๆ ฉันคิดว่าใครสักคนคงทำให้ฉันรักได้บ้าง..ฉันรักยุนดูจุน รักมากที่สุด”ฮยอนอามองเห็นน้ำตาที่เอ่อบนขอบตานั้น เธอไม่เคยคิดว่าจุนฮยองจะบอบช้ำหรือมีมุมที่แสนอ่อนแอนี้

     

     

     

    ..สงสารคนตรงหน้าจับใจ

     

     

     

    “จุนฮยองฉันว่า...”มือใหญ่ยกขึ้นมา ริมฝีปากอิ่มเล่าต่ออย่างเศร้าสร้อย

     

    “ฉันหนะทำทุกอย่างให้เขาสนใจ พยายามเรียกร้องความสนใจทุกอย่าง ยอมให้เขาเกลียดเพื่อจะได้ไม่มีเวลาไปรักคนอื่น งี่เง่าเนอะ เธอว่าไหม”จุนฮยองบอกเสียงเรียบ ยกแก้วน้ำผึ้งมะนาวมาดื่มอีกอึก รสเปรี้ยวทำเอาคนที่มึนจากพิษแอกอฮอลตาสว่างขึ้นมาหน่อย

     

    “นายเคยบอกพี่เมเนเจอร์คนนั้นตรงๆ ไหมว่านายรักเขา”ทั้งที่ดูก็รู้คำตอบดี แต่เธอเพียงอยากจะให้สติแก่จุนฮยองว่าเขาควรพูดในสิ่งที่รู้สึกก่อนทุกอย่างจะสาย ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมา

     

    “ฉันขี้ขลาดเกินจะทำแบบนั้น ฉันกลัวจะเสียเขาไปแต่รู้ไหม ฉันจะปล่อยเขาไปแล้วล่ะ ฉันจะไม่รั้งเขาไว้อีกแล้ว”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                นางแบบสาวทิ้งตัวลงนอนนิ่งบนเก้าอี้โยกที่ตั้งอยู่ปลายเตียงหลังจากที่แยกกับจุนฮยองแล้วพักใหญ่ เธอกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่ชายหนุ่มเล่าให้ฟัง ความเจ็บปวดที่เขาบ่งปันให้คนอื่นๆ หรือที่จริงแล้วมันไม่เท่ากับที่เขาต้องเจอ

     

     

    เธอทำอะไรลงไป....

     

     

              ยังจำได้ดีว่าจุนฮยองมองเธอแบบไหน แววตาที่รู้สึกผิดนั้นเหมือนกำลังบอกว่าขอโทษอย่างมากมายและต้องการให้เธออภัย เจ้าของร่างบอบบางหยิบคัมภีร์กฎของการร่ายคาถาเล่มเดิมที่เคยใช้ไว้ในมือ เรียวขายาวงามตรงไปที่โต๊ะบูชาที่มุมห้อง

     

     

    “ฉันจะต้องแก้คำสาปก่อนที่จะสายเกินไป”พึมพำกับตัวเอง ก่อนจะนึกถึงผลของเวทย์มนต์นั้น..

     

     

     

    ยงจุนฮยองเจ็บปวดเพื่อชดใช้มากพอแล้ว

     

     

     

     

     

    >ANATHEMA

             

     

     

             

    จุนฮยองถูกลากแขนเข้าไปถึงในห้องนอนหลังจากที่เขาไปรับตัวมาจากร้านประจำก่อนหน้านี้ ร่างสูงมองเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกกดโทรเข้ามาหาถึงสี่สิบครั้งของแฟนสาว ก่อนจะตัดสินใจวางเครื่องมือสื่อสารนั่นลง แล้วหันกลับไปจัดการกับไอดอลขี้เมาตรงหน้าแทน

     

     

                ผ้าเย็นถูกใช้ซับลงเบาๆ ที่ใบหน้าขาวของคนเด็กกว่า ดูจุนที่ออกจะเอือมระอาก็รู้สึกผิดอยู่นิดๆ ที่พดจารุนแรงไปแบบนั้น จุนฮยองที่มักจะตอบโต้ก้าวร้าวกลับมีทีท่าอ่อนลง ไม่พูด และบอกแค่ว่าขอโทษ มันทำให้ดูจุนรู้ว่าตัวเองทำผิด แค่คำพูดมันเอาคืนมาไม่ได้แล้ว...

     

    “ดูจุนหรอ...”คนตรงหน้าปรือตาขึ้นมามองเขาน้อยๆ เจ้าของฝ่ามืออุ่นพยักหน้าเบาๆ

     

    “ขอโทษนะ ขอโทษ”เสียงห้าวบอกแผ่วเบาจนเขาออกจะใจเสีย จุนฮยองที่แสนเย็นชาพยายามมองเขา ดวงตากลมใสรั้นด้วยหยดน้ำตาช่างน่าสงสาร

     

    “ฉันไม่...”ปลายนิ้วยาวยกขึ้นมาเตะปากหยัก คนที่นอนอยู่บนหมอนฟูนุ่มยิ้มจางผิดกับที่เขาเคยเห็น

    “ฉันรู้ว่านายอยากจะไปจากฉันเต็มทน..ฉันจะไม่ห้ามแล้ว ไม่แล้วดูจุนไปเถอะ ไปมีความสุขแบบที่นายต้องการ”ไอดอลที่สติแทบไม่มีมองใบหน้าคมอย่างเลือนราง ปลายนิ้วลากสัมผัสจากริมฝีปากไปที่สันกรามมน จุนฮยองกำลังยิ้ม ดูจุนมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ

    “ดูจุน ฉัน...ฉันรักดูจุน แต่ฉันจะไม่รั้งไว้แล้ว นายอยากไปใช่ไหม”ถามเสียงเครือแต่ยังคงยิ้มเหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไร ชายหนุ่มจุกไปทั้งอกเมื่อได้ฟังความรู้สึก เขาไม่เข้าใจที่จุนฮยองพูดสักนิด

     

    รัก?

     

    ไป?

     

    “ฉันว่านายเมามากไปละ..”เขาไม่ได้พูดจนจบ ริมฝีปากอิ่มนุ่มก็ตรงเขามาหยุดทุกคำของเขา ร่างสูงเบิกตาโพลง งุนงงกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

     

    ปลายลิ้นร้อนของไอดอลขี้เมาที่ในโพรงปากยังคงอบอวลด้วยกลิ่นแอลกอฮอลรุกล้ำอาณาเขตของอีกฝ่ายช่างช่ำชอง อดนึกในใจไม่ได้เลยว่าริมฝีปากนี้ก่อนมาถึงเขาได้ฝึกปรือมากับใครกี่คน  วงแขนอวบโอบรั้งรอบคอยาว ชายหนุ่มที่โตกว่าเผลอรับการเชื้อเชิญนั้นอย่างเสียไม่ได้ จูบที่แสนจืดชืดกลับเพิ่มองศาในร่างกายทั้งคู่ ดูจุนสอดลิ้นรังหาความหวานตามแบบที่เคยทำกับทุกคนที่ผ่านเข้ามา ที่จริงเขาก็แค่คนเลวคนนึงที่เมื่อถูกเชื้อเชิญก็พร้อมจะชั่วร้ายและนอกกายแม่กับคนที่ไม่ได้รัก ....เพื่อทุกสิ่งทุกอย่างจะดำเนินไปตามธรรมชาติของมัน 

     

     

    ดูจุนไม่สนใจหรอกว่าใต้ร่างของเขาจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ...ความสัมพันธ์จะเกิดจากความรักของสองคนหรือเปล่า

     

     

    ก็แค่เซ็กส์ที่คิดว่านะจะปลอดภัย...

     

     

     

     

     

     

     

                จุนฮยองขยับตัวตื่นหลังจากที่เมื่อคืนพอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าทำอะไรลงไป ไอดอลหนุ่มมองแผ่นหลังกว้างที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างห้องทั้งที่ไม่ได้สวมอะไรติดกายสักชื้น ปากอยากจะเอ่ยทักหรือบอกให้คนที่ว่าเอาอะไรมาปิดกันอุจาดตาเสียหน่อย

     

    “จำที่ตัวเองพูดได้ไหมยงจุนฮยองเรื่องที่จะให้ฉันไป”คนจะอ้าพูดหุบลงแทบไม่ทัน ในหัวประมวลความคิดก่อนจะจำได้ว่าดจุนพูดถึงคำไหน ความอึมครึมปกคลุมหัวใจอีกครั้ง...

     

    “ได้สิ”เขาตอบสั้นๆ ดวงตากลมมองดูเสื้อผ้าของตัวเองและอีกฝ่ายที่ถูกถอดแล้วขว้างกระจัดกระจายไปทั่วห้อง เขาจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้แทบทั้งหมด แต่ดูเหมือนดูจุนจะไม่แคร์

     

    “หวังว่าจะรักษาคำพูด ฉันจะเข้าไปฉีกสัญญาเที่ยงนี้ หวังว่านายจะไม่ขวางนะ”เดินมาฉวยกางเกงชั้นในที่อยู่ปลายเตียงมาสวม ดวงตาคมกริบมองมาที่เขาเหมือนบอกให้รู้ว่านั่นคือสิ่งที่ต้องการมากที่สุด

     

     

     

    แววตาเย็นชา ไม่แคร์ ไม่สนใจ ไม่แยแสอะไรทั้งนั้น...

     

     

     

    “ถ้าฉันเป็นผู้หญิงนายจะรักฉันไหม”จุนฮยองร้องถามเสียงแผ่ว อีกคนหันมามองนิ่ง เขาเงยหน้าสบตาฝ่ายนั้น

     

    “จะผู้หญิงหรือผู้ชายถ้าฉันรักก็คือรัก แต่ถ้าไม่รักก็คือไม่”ฝ่ายนั้นยิ้มมุมปากเหมือนกับเยาะเย้ย มือหนาหยิบเงินสดในกระเป๋าสตางค์ไปสวยออกมามากพอควร ก่อนจะวางมันลงบนตักของเขา

     

    “ถือว่าฉันซื้อความสุขเมื่อคืนแล้วกันนะจุนฮยอง...หวังว่าเราจะไม่ต้องเจอกันอีก”

               

     

     

     

     

    >ANATHEMA

     

     

     

     

                ฮยอนอาเดินตรงเข้าไปหาหลังจากได้รับสายจากชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนอีกคนของเธอนั่งรออยู่ก่อนแล้วกับเมเนเจอร์ยังโยซอบ ซึ่งทั้งคู่กำลังนั่งเฝ้าไอดอลอีกคนในค่ายที่กำลังนั่งหน้าซึมอยู่

     

    “มีอะไรหรอดงอุน”เธอถามเพื่อนซี้ของตัวเองเรียบๆ ดวงตาสวยเหลือบมองไปที่นักร้องดังที่ดูเหมือนว่ายังไม่เห็นเธอ

     

    “รู้เรื่องพี่ดูจุนใช่ไหม...พี่เขาลาออกแล้ว แต่อย่างอื่นจุนฮยองไม่ยอมบอกฉันกับโยซอบบอกแค่ว่าอยากคุยกับแก”ดูเหมือนสองคนที่มาก่อนจะกังวลไม่น้อยกับอาการนี้ ฮยอนอาถอนหายใจบางๆ ทั้งที่กำลังรู้สึกว่าในใจมันหนักอึ้ง มันเป็นลางสังหรณ์อะไรสักอย่างว่าสิ่งที่เธอกลัวมันจะเกิดขึ้นแล้ว

     

     

                เรียวขาสวยก้าวไปนั่งลงข้างไอดอลหนุ่มที่เธอทำใจเป็นเพื่อนจริงๆ กับเขาได้แล้ว จุนฮยองที่ในมือของเขาถือแก้วบรั่นดีไว้แน่นหันมองเธอแล้วยิ้มอ่อนล้า ศีรษะหนักๆ ลงบนไหล่ขอนางแบบสาวเหมือนกับว่าจวนสิ้นแรง

     

    “นายปล่อยเขาไปตามที่นายพูด นายทำดีแล้วจุนฮยอง..เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ”วางมือบนเรือนผมสีอ่อนของเพื่อน ฮยอนอาเพียงแต่อยากบรรเทาความเจ็บปวดนั้นลงให้เพื่อนบ้าง โยซอบเองก็ไม่ต่างกัน แต่เขาทำเพียงส่งสายตาให้รู้ว่าอยู่ข้างๆ เสมอเช่นกัน

     

    “ทำดีแล้ว...ฉันควรดีใจสินะ อย่างน้อยฉันก็ได้มีเวลาคืนนั้นที่ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้เกลียดฉันมากเกินไป”จุนฮยองน้ำตาไหล แต่ฮยอนอาชะงักงันกับคำพูดนั้น เธอควรแปลความหมายว่าอย่างไร

     

     

     

    หากได้คิดมากกว่านั้นสักนิด ถ้าไม่เอาความแค้นเคืองมาตัดสินทุกอย่าง และทำแบบนั้น

     

     

    จุนฮยองหลับตาลงหวนคิดถึงเหตุผลที่เขาทำแบบนั้นเพื่อมาหักล้างความเจ็บปวด แต่หญิงสาวนิ่งคิดอย่างอื่นอยู่ คิมฮยอนอาควรจะบอกเพื่อนดีไหมว่าทำอะไรลงไป ควรจะบอกไหมว่าเธอล้างคำสาปนั่นไม่ได้ ก่อนจะตัดสินใจที่จะโพล่งความจริงออกมา

     

    “ฉันมีความจริงจะต้องบอกนาย”คนฟังอยู่ขมวดคิ้วน้อยๆ เขาพยักหน้าเพื่อรอฟัง

     

    “ฉันขอโทษนะจุนฮยอง แต่ฉันทำพิธีสาปแช่งนาย ผลของมันคือ....”เธอกระซิบบอกเขาเบาๆ ที่ข้างหู จุนฮยองยกศีรษะจากไหล่เล็กขึ้นมามองหน้าเพื่อนสาวอย่างฉงน ถึงจะพอได้ยินเรื่องที่ฮยอนอาเป็นสาวสวยที่สืบเชื้อสายแม่มดไสยดำมาบ้าง แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะบอกเขาอย่างตรงไปตรงมา และบอกว่าเธอทำอะไรกับเขา..

    .

    “เธอล้อเล่นใช่ไหมฮยอนอา...”นัยน์ตานั้นขอร้องให้ว่าว่ามันคือเรื่องล้อกันเล่น หญิงสาวเม้มริมฝีปากเน้นก่อนจะกลั้นใจพูดออกไปอย่างลำบาก

     

    “ขอโทษนะจุนฮยอง ฉันสัญญาว่าจะเป็นแม่ให้เองตอนที่นายคลอดแล้ว”

     













    TO BE CON'
     

     

     

     

     

     

                   

     

     

     

     

     

    MINOR
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×