ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฤทธิ์รักคนเถื่อน ผ่านพิจารนาสำนักพิมพ์ แสนรัก (ไลต์ออฟเลิฟ)

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 23 RENEW

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 59






    SQWEEZ

     

     



    อีกด้านหนึ่ง แสงไฟสปอตไลท์สาดส่องภายในผับพอให้บรรยากาศแลดูสลัว เลียมเคาะนิ้วลงไปบนโต๊ะตามจังหวะเพลงที่บรรเลงอย่างเมามัน เนื่องจากเจมส์หายเข้าห้องน้ำไปนานแล้วพอๆ กับเอมมาลินที่ยังไม่กลับมาเช่นกัน ปรายตามองคนอื่นๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจใคร จนกระทั่งเมื่อเคิร์กเดินเข้ามาบอกถึงได้รู้ว่าเจมส์กลับไปแล้วเรียบร้อยแล้ว

    อ้าวไหงงั้น ให้มันได้อย่างนี้สิ ทิ้งน้องเฉยเลย เลียมบ่นพึมพำอย่างคนไม่สบอารมณ์ เมื่อนึกพี่ชายตัวดีปล่อยให้เขานั่งหง่าวอยู่คนเดียวจนได้

    คุณเลียมจะกลับเลยไหมครับ” เคิร์กเอ่ยถามต่ออย่างสุภาพ

    ยังก่อน” ชายหนุ่มบอกปัด ด้วยว่ายังไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะกลับ อยากจะนั่งผ่อนคลายต่ออีกสักหน่อย เคิร์กจึงกลับไปรอที่รถ ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ มาธาวีเองก็หายไปเหมือนกัน แรกๆ เธอก็น่าสนใจดีอยู่หรอก แต่เธอออกตัวแรงไปหน่อย ประสบการณ์ในการมองหญิงที่ผ่านมาแล้วอย่างโชกโชน ทำให้เขารู้ว่าหล่อนที่ไม่ใช่คนที่เขาควรจะยุ่งด้วย เขาพอดูออกว่าหากปล่อยให้หล่อนเกาะคงจะแกะออกยาก และคนอย่างเขาที่รักชีวิตอิสระเสรีเป็นชีวิตจิตใจ จึงเลือกที่จะไม่ผูกมัดกับใครเพราะไม่อยากมีห่วงคลองคอ

    ด้านญารินดาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเลียมเธอคอยเอาแต่ชะเง้อคอมองไปยังบันได ซึ่งมันมีคนขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาสอดส่ายสายตามองหาเอมมาลินอยู่เป็นานนั่นเพราะเธอยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกลับไปแล้ว จนกระทั่งเมื่อสันต์เอ่ยแทรกเสียงเพลงที่ดังกระฮึ่มขึ้นมา

    น้องดามองหาใครเหรอครับ”

    ก็มองหาพี่เอมนะสิค่ะ” ตอบเสียงเนือย

    ผมเห็นคุณเอมมาลินกลับไปแล้วนะครับ”

    กลับไปแล้ว” หญิงสาวทวนคำอย่างงงุนงงเป็นที่สุด ด้วยนิสัยของเอมมาลินไม่น่าจะทิ้งเธอไว้แบบนี้แล้วหนีกลับคนเดียวได้

    ครับ..กลับไปกับบอสเมื่อครู่นี้เอง ดูเหมือนสีหน้าไม่ค่อยดี ไม่รู้มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”

    งั้นเหรอ” ญารินดาขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย กลับไปแบบไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้มีเรื่องอะไรอีกนะ พลางเหลือบไปมองนายสันต์ที่ทำตัวเหมือนตุ๊กแกติดหนึบนั่งประกบเธอไม่ห่างกาย หญิงสาวได้แต่ถอนใจอย่างปลงๆ ไม่รู้จะจัดการกับหมอนี่อย่างไรดี ไอ้ครั้นจะหนีกลับก่อนก็กลัวจะเสียมารยาท เพราะเธอเป็นแม่งาน จำต้องทนให้นายนี่นั่งป้อเธออยู่ไม่หยุด

    ดาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เธอเอ่ยบอกก่อนจะปลีกตัวออกไปเพราะเบื่อที่จะฟังเขาพล่ามถามซอกแซกตั้งแต่เรื่องงานไปยันถึงเรื่องส่วนตัว ซึ่งบางเรื่องเธอก็รู้สึกว่ามันล้ำเส้นเกินไป หากแต่เพราะเขาอายุมากว่าจำเป็นต้องรักษามารยาทไม่กล้าเอ่ยบอกตรงๆว่ารำคาญเขาอย่างสุดแสน

    หากแต่พอคล้อยหลังญารินดา สันต์กลับดึงเอาขวดแก้วสีขุ่นเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เพราะคนอื่นที่เริ่มมึนเมาไปกับฤทธิ์แอลกอฮอล์กันหมดจึงไม่มีใครสนใจว่าเขาจะทำอะไร ชายหนุ่มเอามือครอบปากแก้วแอบเทของเหลวลงไป ก่อนจะรีบยัดมันลงไปที่เดิม ทำเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่ไม่รู้ว่าการกระทำของเขามันอยู่ในสายตาของเลียมตลอด แม้เขาจะนั่งหันหน้าไปทางอื่น แต่ปลายหางตาเขาก็ยังรับรู้ว่าสันต์หยอดอะไรบางอย่างลงไป แต่ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเขาจะดื่มมันเอง จนเมื่อญารินดากลับมาที่โต๊ะ สันต์ดันแก้วนั้นไปให้เธอโดยที่เจ้าตัวไม่ระแคะระคายอะไรเลย และก็ยกมันจรดริมฝีปาก เลียมอ้าปากจะห้ามแต่ไม่ทัน เธอกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว จากนั้นชายหนุ่มจึงเมินหนีพร้อมกับส่ายหน้าอย่างนึกขำในใจ ยัยโง่เอ๊ย!

    ผ่านไปราวสิบนาทีเหมือนยาจะเริ่มออกฤทธิ์ เพราะเจ้าตัวนั่งโงนเงนน่าหวาดเสียว เลียมลอบมองอยู่เป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร จนเมื่อนายสันต์พยุงร่างที่อ่อนปวกเปียกของญารินดาออกไป ชายหนุ่มหยุดคิดอยู่ชั่วครู่ ช่วยดีรึเปล่าวะ ธรรมดาเขาไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านแต่แบบนี้มันไม่ถูกต้อง เพราะชายคนนั้นมอมยาเธอ แถมยัยนั่นก็เซ่อซ่าซะเหลือเกิน แต่จิตสำนึกของความมีมนุษยธรรมมันผลักดันเขาให้ยื่นมือเข้าไปแส่เรื่องของคนอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายจึงลุกตามทั้งคู่ไป เพียงแต่ว่าหลังจากเลียมไปไม่นาน มาธาวีก็พาร่างอันกลมกลึงกลับมา หล่อนเพิ่งหลบไปคุยกับยชญ์ที่หลังร้านพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็หัวเราะออกมาเสียยกใหญ่ สะใจเหลือเกินที่เจมส์ดันมาเห็นฉากเด็ดเข้าพอดี เสียดายที่หล่อนไม่ได้อยู่เห็นด้วยตา พลันคิดว่าป่านนี้คงทะเลาะกันบ้านแตกแล้วกระมัง เพราะเป็นหล่อนเองที่เป็นคนโทรชวนยชญ์มา และเมื่อกลับมาที่โต๊ะรอยยิ้มสะใจที่เพิ่งได้มาเมื่อครู่เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นที่นั่งของเลียมว่างเปล่าเผลอสบถออกมาอย่างหัวเสีย อุตส่าห์หมายมั่นปั้นมือว่าไม่ได้พี่ ได้น้องก็ยังดี นี่กลับชวดทั้งคู่ ทิ้งตัวลงนั่งอย่างไม่สบอารมณ์

    ครั้นสันต์ที่กึ่งพยุงกึ่งอุ้มญารินดาที่เริ่มเมามายออกมานอกผับ ยิ้มกริ่มด้วยความย่ามใจ เพราะเขาเฝ้าตามตื้อญารินดามาตั้งแต่บริษัทยังไม่เปลี่ยนชื่อ แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ยังเมินเฉยใส่ มาวันนี้สบโอกาสจะรวบหัวรวบหางเธอเสียเลย ยาที่เขาใส่ไปมันก็พอแค่จะทำให้มึนเมาจนสติเลือนรางก็เท่านั้น ตั้งใจพาร่างสาวตรงไปยังรถคันเก่งที่จอดห่างออกไป แต่ทว่ายังไปไม่ทันถึงก็มีเสียงหนึ่งเรียกไว้เสียก่อน

    เฮ้! คุณ” สันต์เอี้ยวหน้ากลับมา เจอเลียมยืนเอามือล้วงกระเป๋าด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย จะกลับแล้วเหรอครับ”

    ครับ” สันต์ตอบโดยที่มือยังโอบอุ้มหญิงสาวไว้แน่น คือน้องดาเมามากแล้วผมก็เลยว่าจะไปส่ง”

    แต่ผมว่าคุณก็น่าจะเมาแล้วเหมือนกัน ให้ผมไปส่งเธอดีกว่าไหมครับ” เลียมเสนอตัวคล้ายจะหวังดี ทั้งที่สันต์ไม่ได้มีอาการว่าเมามายอะไรนักหนา ชายหนุ่มเดินอ้อยสร้อยเข้าไปหา ตวัดสายตาอันคมกริบจ้องมองอีกฝ่ายคล้ายคนรู้ทันจนสันต์หวั่นใจ

    อย่าดีกว่าครับ อย่าหาว่าอย่างงู้นอย่างงี้เลยนะครับ คุณเองก็เพิ่งรู้จักน้องดา มันคงไม่เหมาะ และอย่าหาว่าผมเสียมารยาทเลยนะครับ แต่บอกตรงๆ ว่าผมไม่ไว้ใจคุณ” สันต์บอกเจตจำนงอย่างแจ่มแจ้ง เรื่องอะไรเขาจะยอมให้นายคนนี้มาขัดคอ ถึงจะเป็นน้องชายเจ้าของบริษัทก็เถอะ แต่อีกฝ่ายกลับส่งเสียงหัวเราะต่ำๆ อยู่ในลำคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่ดูแล้วกวนอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง สาวเท้าเข้ามาใกล้อีกนิด

     มันก็จริงครับ ที่ผมเพิ่งรู้จักเธอ เป็นธรรมดาที่คุณจะระแวง ไม่แปลก แต่ขอยืนยันเลยว่าผมไว้ใจได้ อย่างน้อย...ผมก็ไม่มอมยาผู้หญิงอย่างแน่นอน” น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่สะกดสายตาคนฟังได้อยู่หมัด โดยเฉพาะใบหน้าที่ดูเหี้ยมเกรียม

    คุณพูดอะไร” สันต์แกล้งขึ้นเสียงใส่ ทำไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่ใจหวั่นเกรง เริ่มคิดแล้วว่าสงสัยเลียมจะเห็น แล้วเขาก็ไขข้อกระจ่างเมื่อเลียมพูดต่อไปว่า

    คุณคงคิดว่าไอ้สิ่งที่คุณทำไม่มีใครเห็น แต่ผมเห็น...ใช่! ผมเห็นคุณใส่ยาลงไปในเครื่องดื่มของเธอ...เพราะงั้นถ้าไม่อยากมีปัญหา ส่งผู้หญิงมา” เลียมกระดิกนิ้วสั่งเสียงเข้มแกมขู่บังคับ แต่อีกฝ่ายยังยืนนิ่ง หรือจะให้ผมโทรบอกเจมส์ หรือตำรวจดี”

    แม้จะเคืองใจที่โดนเลียมยื่นมือเข้ามาสอด แต่หากว่าถ้าเขาโทรแจ้งความ หรือบอกเจมส์มันต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เลียมดูออกว่าเขาภายใต้สีหน้าเรียบนิ่งมันมีความหวาดหวั่นอยู่ในแววตา ชายหนุ่มถือวิสาสะดึงเอาร่างหญิงสาวออกมาจากอ้อมแขน กระตุกยิ้มที่มุมปากเป็นเชิงเยาะเย้ย ดูออกว่าคนอย่างสันต์คงไม่กล้ามีเรื่องกับเขาหรอก จากนั้นจึงพาเธอออกมาหน้าตาเฉย โดยสันต์ได้แต่มองตามอย่างคับแค้นใจที่ชวดของดีแบบหวุดหวิด

    ฝ่ายเลียม พาร่างที่แทบจะไม่ได้สติของเธอกลับมาที่รถ เคิร์กรีบเปิดประตูลงมาและมองชายหนุ่มที่มีญารินดาซบอยู่ที่ไหล่ด้วยความประหลาดใจแบบสุดๆ

    เอ๊ะนี่ เลขาคุณเอมมาลินนี่ครับ เกิดอะไรขึ้นครับ”

    ก็เมายานะสิ” เลียมบอกห้วนๆ ทำเอาชายร่างใหญ่ย่นหัวคิ้วด้วยความงุนงงสงสัย นี่คุณ” เลียมพยายามเขย่าตัวเพื่อเรียกสติเธอ ไหวไหมเนี่ย บ้านคุณอยู่ไหน”

    บะ..บ้านเหรอ? ยะ อยู่..โน่น” เธอชี้มั่วแบบไม่รู้ทิศ คอพับคออ่อนจนยืนแทบไม่อยู่ สภาพแบบนี้ต่อให้เขาถามให้ตายก็ไม่รู้เรื่อง เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอนชายหนุ่มจึงหันไปหาเคิร์กแทน

    นายรู้จักบ้านเธอไหม”

    ไม่ทราบครับ ผมไม่เคยไป” บอดี้การ์ดหนุ่มส่ายหน้าอย่างจนใจ

    “เวรกรรม...เปิดประตูรถที” เคิร์กรีบทำตามคำสั่งอย่างด่วนจี๋ โดยที่เลียมพาหญิงสาวเข้าไปนั่งในรถก่อนแทรกร่างสูงตาม จากนั้นเคิร์กจึงเปิดประตูด้านคนขับแทรกกายใหญ่เข้าไปอีกคน

    ไปไหนดีครับ”

    ก็กลับบ้านน่ะสิถามได้” เลียมบอกอย่างสุดเซ็งก่อนพ่นลมหายใจแรงๆ จำเป็นต้องพาเธอกลับไปด้วย แทนที่เขาจะได้หิ้วสาวกลับไปนอนฟัดอย่างที่ตั้งใจ กลับได้ยัยขี้เมานี่ไปแทน






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×