คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : (OS) NiorB : Cake For Breakfast
Cake for breakfast
#NiorB_semi #Dessert
Couple: Jinyoung x JB
Theme: Dessert
Rate: PG
Status: Finished
อย่าลืมส่งฟีดแบ็คเป็นกำลังใจกันนะคะ
เราเปิดแท็กแล้ว #ฟิคบตน มาเล่นกันเราเหงา555555
แจบอมเติบโตท่ามกลางความหอมหวานของร้านอบขนม
เพราะแม่ของอิมแจบอมนั้นรักการทำขนมยิ่งชีพ
รักเสียจนตอนนี้เป็นเจ้าของร้านขนมชื่อดังที่มีสาขาทั่วเกาหลี
ส่วนตัวเขาเองกลับไม่ได้ชอบกินของหวานมากนักจนกระทั่งสามเดือนที่ผ่านมา
ตอนที่หม่าม้าให้เชฟคนใหม่เข้ามาใช้ห้องอบขนมใหญ่เป็นครั้งแรก
ห้องอบขนมที่ใช้คิดสูตรใหม่ๆให้ที่ร้านซึ่งอยู่ถัดจากห้องนอนเขาไปนิดเดียว
แจบอมไม่รู้ตัวว่าเดินตามกลิ่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
รู้ตัวอีกทีก็ยืนหลับตาพริ้มอยู่หน้าถาดเค้กเนยสดแล้ว
“เอ่อ”
และถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอเชฟคนใหม่ที่แม่เคยแนะนำให้รู้จักเมื่อสามวันก่อน
ปาร์คจินยอง
เชฟที่มีผลงานทำขนมหวานเข้าตาหม่าม้าจนต้องดั้นด้นไปตามตัวมาเป็นเชฟขนมประจำร้านรับหน้าที่ดูแลร้านระหว่างที่ตัวเองไปเรียนทำขนมที่ญี่ปุ่น
ทั้งที่หม่าม้าก็ทำขนมอร่อยมากๆอยู่แล้ว
ตอนนั้นแจบอมไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นจินยอง
แต่จากกลิ่นและเค้กตรงหน้าตอนนี้ก็พออธิบายได้ดี
“ผมเสียงดังรบกวนคุณรึเปล่าครับ”
“ฮื่อ ไม่ใช่ๆ”
แต่จะให้ยอมรับตรงๆว่าอยากลองชิมเค้กตรงหน้าก็ดูจะตะกละไปหน่อย
“มาเช็คดูน่ะ ทำงานวันแรกใช่มั้ยล่ะ”
จะไม่ยอมบอกหรอกว่าเค้กของนายมันหอมจนต้องแหกขี้ตาตื่นมาขอชิมน่ะ
“อ๋อ ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
แจบอมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ท้องของเขากำลังเรียกร้องอาหารเช้าจนแทบจะแผดเสียงให้คนตรงหน้าได้ยินอยู่รอมร่อ
ก็กลิ่นเนยผสมแป้งหอมตลบอบอวลลอดผ่านประตูไปปลุกเขาแต่เช้าแบบนี้เป็นใครก็ต้องน้ำลายสอเหมือนกันนั่นแหละ
หิวจังเลยครับหม่าม้า
อยากกินเค้กเป็นมื้อเช้าจังเลยน้า แต่ถ้าม้ารู้จะต้องตามมาหยิกเนื้อเขียวแน่ๆ
เพราะกฎของบ้านคือห้ามทานของหวานเป็นมื้อเช้าเด็ดขาด
ถามว่ากฎนั้นตั้งมาเพื่อใคร
ก็เพื่อลูกชายคนเดียวของบ้านที่ชอบจิ๊กขนมไปกินจนไม่ยอมกินข้าวตอนเด็กๆนั่นแหละ
“เค้กอะไรอ่ะ กลิ่นหอมดี”
“เนยสดครับ”
จินยองตอบแค่นั้น
เจ้าตัวเอาแต่ยุ่งอยู่กับการเอาเนื้อเค้กออกจากพิมพ์เตรียมตัดแต่งจนไม่ได้สังเกตว่ามีคนตาตี่กำลังจดจ้องเค้กด้วยสายตาน่าสงสารขนาดไหน
“เนยสดเหรอ...”
ดูเจ้าเค้กฟูฟ่องตรงหน้าสิแจบอม
แค่มองยังรู้เลยว่านุ่ม
เอาไงดีๆ
ฮื่อ มันต้องอร่อยมากแน่ๆ
“นี่จินยอง”
“ครับ”
“ขอ..ขอชิมหน่อย”
จินยองเลิกคิ้ว
ส่วนแจบอมก็แกล้งตีหน้านิ่งเหมือนไม่ใช้เรื่องใหญ่อะไร
จินยองเพิ่งมาคงไม่รู้เรื่องกฎของบ้านหรอก
และวันนั้น
แจบอมก็ได้กินเค้กเนยสดราดน้ำผึ้งที่อร่อยที่สุดในชีวิต
“หอมจัง”
น้ำเสียงงัวเงียตามมาด้วยร่างสูงที่เดินโงนเงนมาเกาะประตูห้องอบขนมเรียกความสนใจของเชฟหนุ่มให้ละสายตาจากถาดเค้กที่ยกจากตู้อบตรงหน้าไปมองคนที่ซบหัวกับกรอบประตูได้ดี
คนตรงหน้าคงได้กลิ่นเนยหอมๆสินะถึงได้ยอมเดินมาโผล่ถึงนี่
อิมแจบอม
“อรุณสวัสดิ์ครับ” จินยองเอ่ยทักทายไปแค่นั้นแล้วหันไปจัดการนำเค้กออกจากพิมพ์สี่เหลี่ยมเพื่อแต่งหน้าเค้กต่อ
ปล่อยให้แจบอมทำจมูกฟุดฟิดไปมาตามกลิ่นก่อนจะค่อยๆเดินมาเกาะโต๊ะที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำเค้กที่เขายืนอยู่โดยไม่พูดอะไร
จินยองรู้ดีว่าแจบอมต้องการอะไร
“เรดเวลเวทเหรอ”
“ครับ”
“สีสวยจัง”
“ครับ”
“หวานมั้ยอ่ะ”
“ไม่หวานมากครับ”
“แต่สีมันน่าจะหวานนะ”
“ผมใส่ผงเรดเวลเวทเยอะมันเลยสีเข้มครับ ไม่หวานหรอก”
“เหรอ”
จินยองลอบมองใบหน้าของลูกชายคนเดียวของคุณนายอิม
เจ้าของร้านเบเกอรี่ที่เขาทำงานอยู่พร้อมรอยยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่มากคำถามกำลังแลบลิ้นเลียปากตัวเองโดยไม่ละสายตาจากเค้กตรงหน้า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แจบอมมายืนจ้องเค้กอบใหม่ของเขาในตอนเช้าด้วยท่าทางแบบนั้น
และจินยองก็พอเดาได้ว่าอีกคนกำลังพยายามทำอะไร
“นี่จินยอง”
“ว่าไงครับ”
“แบ่งให้ชิมสักชิ้นสิ”
นั่นไง
คิดไว้ไม่มีผิด
จินยองอยากจะหัวเราะออกมาถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายกำลังมองอยู่
ดวงตาเรียวพยายามส่งซิกพร้อมรอยยิ้มอ้อนๆนั่น
คุณนายอิมจะรู้มั้ยว่าเขาต้องรับมืออะไรบ้างเพราะกฎที่เธอตั้งขึ้น
“พี่แจบอมกินเค้กเป็นอาหารเช้าไม่ได้นี่ครับ คุณป้าสั่งไว้”
“แต่ว่า...มันน่ากินมากเลยนะ”
ถ้าอีกฝ่ายยอมแพ้ง่ายๆก็ดีสิ
“นายทำเค้กน่ากินเกินไป ใครจะไปทนได้ล่ะ”
แจบอมเป็นคนแปลก
ทั้งๆที่วันแรกที่เจอกัน
คนตรงหน้าก็ย้ำอยู่นั่นว่าแก่กว่าจินยองทั้งที่เอาจริงๆมันก็ห่างกันไม่ถึงปีแต่อีกฝ่ายจะเป็นพี่ให้ได้
แล้วดูตอนนี้สิ อย่างกับเด็กแน่ะ
“ถ้านายไม่บอก คุณแม่ก็ไม่ว่าหรอก”
ไม่ว่าเปล่ายังเดินไปหยิบจานกับส้อมทานเค้กของร้านมาวางตรงหน้าเขาอย่างหน้าตาเฉยอีก
จินยองอยากทำโทษคนขี้ดื้อตรงหน้าชะมัด
“ถ้าผมช่วยพี่แล้วผมจะได้อะไรล่ะครับ”
“...”
“ของฟรีไม่มีในโลกครับ”
คราวนี้คนแก่กว่าเริ่มลังเล
ดวงตาเรียวเล็กมองหน้าเขาสลับกับก้อนเค้กสีแดงอุ่นๆส่งกลิ่นหอมยั่วยวนจนเผลอกลืนน้ำลาย
เอาวะแจบอม เพื่อเรดเวลเวท!
“นายอยากได้อะไรล่ะ”
“พี่มาเป็นลูกมือให้ผมหน่อยสิครับ”
ลูกมือเหรอ? แจบอมก็มีงานมีการทำนะโว้ย
“ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะ”
เรดเวลเวทก็เรดเวลเวทเถอะ
ซื้อเวลานอนของอิมแจบอมไม่ได้หรอกนะ
จะให้เขาตื่นเช้ากว่าเดิมสองชั่วโมงเพื่อมาเป็นลูกมือทำเค้กแลกกับเรดเวลเวทชิ้นเดียวมันคุ้มที่ไหน
“แต่พรุ่งนี้ผมจะทำสตรอแบรี่ชอตเค้ก พี่แจบอมอยากทานมั้ยล่ะครับ”
หือ
แค่ได้ยินชื่อเมนู
คนเป็นพี่ก็ถึงกับตาวาวทำไมน่ารักอีกแล้ว ทั้งๆที่หน้าดุขนาดนั้นแต่จินยองกลับเห็นอีกคนนุ่มนิ่มไปหมด
“สตรอแบรี่เหรอ”
“ครับ ผมกำลังจะลองสูตรใหม่”
“อยากสิ แค่คิดก็หิวแล้ว”
อีกคนรีบตอบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นจนจินยองเผลอยิ้ม
เข้าทาง ลูกหมาติดกับแล้ว
“แต่มีข้อแม้นะครับ”
“...”
“พี่ต้องช่วยผมทำขนมสูตรใหม่ทุกวัน”
“ใจร้าย เค้กชิ้นเดียวนายใช้ฉันเป็นทาสเลย”
“บ่นมากๆพรุ่งนี้ผมไม่ให้กินแล้วนะ”
“ฮื่อ พูดให้ฟังเฉยๆน่า”
จินยองลอบยิ้มมองคนที่ก้มหน้าก้มตาตีแป้งด้วยท่าทางคล่องแคล่วสมกับเป็นลูกชายร้านเบเกอรี่
แต่กลับบ่นไม่ยอมหยุด ก็แปลกที่จินยองไม่เคยรู้สึกรำคาญ ออกจะชอบเสียงของแจบอมมากๆด้วยซ้ำ
อาจเพราะจินยองชอบแจบอม
แจบอมที่น่ารักมากๆแต่ไม่ชอบถูกเรียกว่าคนน่ารัก
ทำไมโลกนี้ไม่แฟร์เลย
ปล่อยให้เขาอยู่ใกล้คนนุ่มนิ่มแบบนั้นแต่ต้องเก็บไว้แสดงออกมากก็ไม่ได้
ทำได้แค่อบเค้กไปล่อทุกเช้า
หลอกให้ทำนู่นทำนี่แลกกับเค้กเป็นอาหารเช้าโดยที่แจบอมไม่รู้เลยว่าจินยองชอบช่วงเวลาพวกนี้แค่ไหน
การอบเค้กหนึ่งครั้งใช้เวลาสามชั่วโมง
สำหรับจินยอง สามชั่วโมงล่วงเลยไปเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น
ยิ่งมีลูกมือมาช่วยแบบนี้ แต่สำหรับลูกมือแล้ว
แจบอมคิดว่ามันช่างยาวนานเหลือเกินและมันก็ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงไม่ให้แอบปาดครีมที่เซตไว้มากินจนหมดกว่าเจ้าเค้กแสนน่ารักตรงหน้าจะเสร็จ
“ชิมๆๆ”
เสียงรบเร้าพร้อมใบหน้าที่แทรกเข้ามาจนแทบเกยไหล่ของจินยอง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แจบอมมาเป็นลูกมือจินยองดังนั้นเขาย่อมรู้ดีว่าจะโดนดุแน่ๆถ้าเผลอใจร้อนเอาส้อมจ้มเค้กตรงหน้าสุ่มสี่สุ่มห้า
ถ้าไม่ติดว่ากลัวโดนทำโทษอดชิมเค้กล่ะก็
คงไม่รอให้เชฟหน้านิ่งตัดใส่จานด้วยท่าทีชักช้าแบบนี้หรอก
ประณีตอะไรนักหนาเนี่ย ไม่เห็นใจคนหิวเลย!
“วางช้อนก่อนครับ”
แจบอมเงยหน้ามองคนที่ถือจานเค้กที่ตัดแบ่งแล้วแต่ไม่ยอมให้เขาชิมสักทีด้วยสายตาหงุดหงิดเต็มทน
เจ้าเด็กนี่ชักจะเหิมเกริมไปแล้วนะ
หลอกให้เขาตื่นมาทำเค้กตั้งแต่ไกโห่แล้วยังมาลีลาท่ามากแบบนี้อีก
“ไม่ นายบอกจะให้ชิมนี่ จะผิดสัญญาเหรอ”
“เปล่าครับ แต่เค้กสูตรนี้มันมีวิธีกินของมัน”
แค่ตักแล้วจิ้มเข้าปากเฉยๆไม่ใช่รึไงเล่า!!
แต่จะว่าไปเค้กของคนตรงหน้าก็มีวิธีการทำแปลกๆตั้งหลายอย่าง
แป้งก็ต้องกวนให้ได้องศามือ
วันแรกที่ทำจินยองต้องยืนประคองแขนไว้ตั้งหลายนาทีกว่าแจบอมจะทำตามได้
ครีมวานิลาของวันก่อนก็ต้องใช้คนตีตั้งสองคนจนต้องมายืนเบียดๆช่วยกันตีครีมแบบนั้นเกือบชั่วโมงแน่ะ
คอยดูนะ ถ้าไม่อร่อยสมความลำบากพ่อจะล้มโต๊ะให้
“แล้วเค้กนายมันต้องกินยังไงล่ะ”
“เค้กของเราครับ เราช่วยกันทำนะ”
“เออนั่นแหละ”
คนทำเค้กมันจุกจิกแบบนี้ทุกคนรึเปล่าวะเนี่ย
“มายืนตรงนี้ครับ”
แจบอมเดินไปยืนตรงหน้าจินยองอย่างว่าง่าย
ดวงตากวาดมองจานเค้กราดแยมสีสวยตรงหน้าก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มด้วยแววตาสงสัย
ใกล้จนเบียดแบบนี้จะกินยังไงวะ
“หันหลังครับ”
เพื่อเค้กหรอกนะเลยยอมทำตามโดยไม่ถามน่ะ
พรึบ
“เห้ย”
แบ็ค...แบ็คฮัก?!
“อย่าดิ้นสิครับ เดี๋ยวเค้กตกแล้วอดกินนะ”
ก็ใครใช้ให้ยื่นหน้ามาเกยไหล่แบบนั้นล่ะวะ!!
แต่ไม่ทันจะได้ด่า
เชฟเจ้าของวิธีชิมแสนประหลาดก็ลากจานเค้กผ่านหน้ามายั่ว
แจบอมเลยปล่อยให้อีกคนใช้ช้อนตักเค้กนั่นต่อโดยไม่โวยวายแม้ตอนนี้จะอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนก็เถอะ
เค้กโลกไหนมันต้องแบ็คฮักป้อนกันแบบนี้เนี่ย
“เค้กของผมจะกินอร่อยที่สุดเมื่อกินในกอดของคนที่รักนะครับ”
บ้า...บ้าไปหมดแล้ว
“แต่เราไม่ใช่คู่รักนะโว้ย”
“อ่ะๆ ชิมเค้กครับ อ้ามมม”
จินยองยื่นช้อนที่เต็มไปด้วยชิ้นเค้กมาตรงหน้าให้คนขี้สงสัยเลิกตั้งคำถาม
และมันก็ได้ผลเสียด้วยเพราะตอนนี้คนตาตี่เอาแต่จ้องเค้กด้วยสีหน้าตื่นเต้นจนลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังเถียงเรื่องอะไรอยู่
หลอกเด็กตะกละน่ะง่ายนิดเดียวจริงๆ
“ฮื่อ นุ่มอ่ะ เอาอีกๆ”
“ครับๆ”
แค่ต้องป้อนให้ทันเท่านั้นแหละ
“ทิรามิสุ?”
แจบอมเดินลอยตามกลิ่นเค้กมาอีกแล้ว
แต่วันนี้มาด้วยชุดสุภาพเตรียมไปพรีเซนต์งานให้ลูกค้า
“สายแล้วนะครับ”
ใช่
แจบอมกำลังไปสาย ทั้งๆที่วันนี้ไม่ต้องตื่นมาช่วยเชฟเรื่องมากทำเค้กเหมือนทุกวัน
แต่เมื่อคืนเขาแก้งานจนดึกเลยตื่นสายจนได้
แต่สายยังไงก็ยังมีเวลาเดินตามกลิ่นเค้กมาได้อยู่ดี
“นายไม่อบเค้กเหรอ”
เพราะวันนี้ไม่มีกลิ่นอบอวนเหมือนเดิม
มีเพียงกลิ่นอุ่นเตาด้วยเนยสดเท่านั้น
“ผมไม่อยากให้กลิ่นลอยไปปลุกพี่ เลยจะทำเครปเค้กแทนน่ะครับ” จินยองชี้ไปที่ชามแป้งที่ตีไว้แล้วพร้อมรอยยิ้ม แจบอมพยักหน้ารับเบาๆ
“แต่ผมตีครีมเสร็จแล้ว ช่วยชิมหน่อยสิครับ”
“อื้อ เอามาสิ”
แจบอมพับแขนเสื้อขึ้นพลางเดินไปหยุดตรงหน้ารุ่นน้องด้วยท่าทางเตรียมพร้อมที่จะเอานิ้วปาดครีมรสกาแฟจากชามสีใส
เพราะการชิมครีมของจินยองห้ามใช้ช้อน
ใช้ช้อนแล้วอุณภูมิจากช้อนจะทำให้ครีมมันเปลี่ยนรสบ้าบออะไรของมันนั่นแหละ
“อ้าว”
แต่ชามครีมถูกจินยองเลื่อนหนีไปก่อนแจบอมจะได้ทันได้เอื้อมถึงด้วยซ้ำ
แจบอมมองตามชามใบโตแล้วเงยหน้าไปมองคนเรื่องมากเป็นเชิงถาม
แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งจนแจบอมก้มลงมองมือตัวเองให้แน่ใจว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
“ฉันล้างมือแล้วนะ”
หรือมันมีวิธีประหลาดๆอะไรอีก
จินยองไม่เอ่ยอะไร
แค่ใช้นิ้วชี้ของตัวเองปาดลงบนขอบชามจนเนื้อครีมสีขาวปนน้ำตาลติดปลายนิ้วมาอย่างพอดีคำแล้วยื่นมันมาจ่อปากของแจบอม
“สายแล้วครับ”
ใช่
สายมากแล้ว
“ชิมจากมือผมจะได้ไม่เสียเวลาล้างมือไง”
“ง...งั้นเหรอ?”
แจบอมมองหน้าจินยองให้แน่ใจว่าอีกคนไม่ได้ล้อเล่น
หมอนี่นอกจากจะไม่ล้อเล่นแล้วยังจริงจังด้วยสิ
ยิ่งพอเห็นสีหน้าคนเป็นพี่ลังเลไม่ยอมชิมสักทีแบบนั้นก็พาลจะดึงนิ้วกลับไม่ให้ชิมเอาซะอย่างนั้น
“รังเกียจผมเหรอ?”
“ป..เปล่า”
ขี้น้อยใจเป้นบ้าเลย
เอาวะ!
แจบอมจรดริมฝีปากลงสัมผัสกับเนื้อครีมที่ปลายนิ้วของรุ่นน้องอย่างระมัดระวังที่สุด
แต่เมื่อลิ้นสัมผัสครีมเนื้อนุ่มก็เล่นเอาแจบอมสติหลุดจนต้องหลับตาพริ้มปล่อยให้รสหวานปนขมของครีมผสมเอสเปรสโซ่แผ่ซ่านไปทั่วลิ้น
กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟชั้นดีและความละมุนของเนื้อครีมที่ให้รสหวานกลางๆตีปนกันจนฟูนุ่มละลายไปในปากจนเหลือเพียงสัมผัสอุ่นๆจากปลายนิ้วของคนป้อนเท่านั้น
เดี๋ยวๆ
“อร่อยไหมครับ”
แจบอมลืมตาขึ้นสบกับดวงตาคมและรอยยิ้มมุมปากของจินยอง
สัมผัสอุ่นๆจากปายนิ้วยังคงแตะอยู่ที่ลิ้นของแจบอมจนเจ้าตัวสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ละริมฝีปากจากนิ้วอีกฝ่าย
ร้อน...หน้าร้อน
หูก็ร้อน
“กาแฟเยอะไป”
“ครับ?”
“นายใส่กาแฟเยอะไป”
ต้องใช่แน่ๆ
เพราะกาแฟเยอะไป ใจแจบอมถึงได้เต้นรัวแบบนี้
วันนี้ไม่มีกลิ่นเค้กลอยมาปลุก
แต่แจบอมก็ยังคงเดินมาหยุดที่ห้องอบเค้กอีกจนได้
“หม่าม้า?”
“ไงเจ้าอ้วน”
“ไม่อ้วนนะม้า!”
แจบอมพ่นลมหายใจหงุดหงิดก้มลงมองตัวเอง
ยอมรับแหละว่าช่วงนี้เสื้อผ้ามันก็จะฟิตๆหน่อย สันกรามเท่ๆก็หายไปเยอะ
เล่นชิมเค้กทุกวันมันก็ต้องมีอวบๆบ้างแหละ
แต่จินยองบอกว่าแจบอมยังเท่เหมือนเดิมนี่นา
น่ารักกว่าเดิมด้วย
วันก่อนยังหยิกแก้มผมชมว่าน่ารักๆจนผมต้องเอาถาดไล่ทุบหัวมันอยู่เลย
“ไม่อ้วนอะไร
หม่าม้าไปเรียนทำเค้กที่ญี่ปุ่นสามเดือนกลับมาลูกชายก็กลายเป็นหมูไปแล้วเนี่ย
นี่แอบกินเค้กทุกเช้าเลยใช่มั้ย”
“หม่าม้าบูลลี่ผมอ่ะ”
แจบอมรีบเอาหัวซบหลังคนเป็นแม่เพื่อหลบสายตา
แม่จะรู้ไม่ได้ว่าแจบอมกินเค้กเป็นมื้อเช้าทุกวันเลย แต่กินแค่วันละชิ้นเอง
อุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นมาทำเองทุกเช้าเลยนะ มันก็ต้องชิมๆบ้างสิ
“แล้วจินยองล่ะ”
แจบอมพึมพำกับไหล่ของหม่าม้าคนสวยที่กำลังเช็คส่วนผสมที่กองเตรียมไว้บนโต๊ะโดยไม่สนใจลุกชายคนเดียวที่พยายามอ้อนเลย
สนใจเค้กกว่าแจบอมอีกเนี่ย
ฮื่อ
“จินยองก็อยู่บ้านเขาไง จะมาทำอะไรที่นี่ล่ะ”
“หือ?”
“แล้วเราไปสนิทกับเขาได้ไง หรือตามไปแกล้งเขาถึงที่ร้านมา”
“เปล่านะม้า เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย”
“เอ้า ก็แกถามถึงจินยองเอง นี่คงไปกินเค้กที่ร้านทุกวันล่ะสิ มิน่า
เหนียงออกเลยลูกชายฉัน”
โอ้ย
หม่าม้าหยุดซ้ำเติมเรื่องเหนียงได้มั้ย
แค่จินยองมันเขี่ยเล่นทุกวันก็เบื่อจะแย่แล้ว!
ว่าแต่...
“หม่าม้าไม่ได้ให้จินยองมาใช้ห้องนี้คิดสูตรหรอกเหรอ”
คราวนี้คุณนายอิมถึงกับละมือจากการจัดของมาสนใจลูกชาย
“จริงๆก็เคยขอให้มาเคลียร์วัตถุดิบค้างๆตอนม้าไปญี่ปุ่นช่วงแรกๆน่ะ
นอกนั้นก็ให้ดูแลแค่ที่ร้านเฉยๆ แค่นั้นก็เหนื่อยจะแย่แล้วเถอะ”
“...”
“อีกอย่าง ถ้าจะคิดสูตรใหม่ก็ไม่ต้องถ่อมาถึงนี่หรอกมั้ง
ห้องอบขนมที่บ้านจินยองใหญ่กว่านี้อีก ม้ายังขอไปใช้อยู่เลย
เตาที่นู่นน่าใช้มากเลยนะ ทั้ง...”
แจบอมไม่ได้ฟังเสียงโฆษณาเตาอบขนมสุดเจ๋งของจินยองอีกแล้ว
เพราะตอนนี้ในหัวมีแต่คำถามแปลกๆ
และในบรรดาคำถามทั้งหมด
มันก็ทิ้งข้อสงสัยไว้เพียงอย่างเดียว
ทำไม…?
เพราะแจบอมเหรอ?
“แจบอมทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะลูก”
แจบอมไม่ค่อยโผล่หน้ามาที่ร้านขนมของหม่าม้าบ่อยนัก
เพราะมันดูขัดกับบุคลิกของเขามากเกินไป
แจบอมไม่สันทัดกับการนั่งในร้านที่เต็มไปด้วยกลุ่มผู้หญิงหรือคู่รักแบบนี้
ยิ่งร้านนี้เป็นสาขาแรกและเป็นสาขาหลักคนยิ่งวุ่นวายเป็นพิเศษ
ดังนั้นมันเลยแปลกๆหน่อยเมื่อแจบอมมาปรากฏตัวที่ร้านในวันนี้
“ลูกค้ามากี่ท่านคะ”
ขนาดพนักงานที่ร้านยังไม่รู้จักเขาเลย
คิดดูสิ
“มาหาคุณจินยองน่ะครับ”
“ขอโทษด้วยนะคะคุณลูกค้า แต่เชฟปาร์คไม่ออกมาพบลูกค้าช่วงเวลางานน่ะค่ะ”
อ่า...
รู้จักกันมาสามเดือน
แถมเจอหน้ากันทุกวัน ไม่นึกว่าจะเป็นคนเข้าถึงยากขนาดนี้เลยแฮะ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน
แจบอมคงส่งข้อความไปบอกให้อีกคนมาเจอกัน แต่พอตอนนี้เขากลับเกร็งแปลกๆ
เลยดั้นด้นมาคุยกันซึ่งๆหน้าด้วยตัวเองมากกว่า
ใครจะนึกว่าการเข้าพบอีกคนมันช่างวุ่นวายเหลือเกิน
ทำไมมันรู้สึกเหมือนเป็นแฟนคลับของหมอนั่นเลย
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอ I Loaf U ที่นึงครับ”
“เอ่อ ไม่มีเมนูนี้นะคะ”
ไหนจินยองบอกมันเป็นเมนูใหม่ของร้านไง
วันก่อนมันยังป้อนเขาอยู่เลย
“Olive youล่ะครับ”
“ไม่เคยได้ยินนะคะ”
อ่าว
แล้วไอ้ที่มันพ่นชื่อเมนูใส่แจบอมทุกเช้าคือเมนูอะไรเล่า!
“My butter halfล่ะครับ
ที่มันเป็นเค้กเนยสดราดไซรัปน่ะ”
“อ๋อ มีค่ะ แต่ทางร้านไม่ได้มีชื่อเมนูเฉพาะ ขอโทษคุณลูกค้าด้วยนะคะ”
ไม่มีชื่อเมนูแล้วจินยองจะสรรหาชื่อมาบอกเขาทำไมทุกวันล่ะ
หรือเพราะแจบอมเคยบ่นว่ามันเลี่ยนไปเลยไม่เอามาตั้ง ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
I
loaf U, I love U.
Olive
U, I love U.
My
butter half, My better half.
ทำไมยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหมือนโดนจีบเลยวะ
ยิ่งคิดถึงทุกอย่างที่เกี่ยวกับจินยองก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้เลย
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจผิดเอง งั้นผมขอเค้กเนยสดราดเมเปิ้ลไซรัปครับ”
“ได้ค่ะคุณลูกค้า”
แจบอมยิ้มให้พนักงานก่อนจะหาที่นั่งตรงมุมร้านที่ไม่มีลูกค้ามานั่งมากนัก
อาจเพราะตรงนี้เป็นมุมอับสายตาและใกล้กับประตูครัวที่มีสตาฟของร้านเข้าออกตลอดเวลา
ถ้าเป็นคนที่ตั้งใจมาเสพความหอมหวานของร้านขนมคงจะเสียบรรยากาศน่าดู
แต่ถ้านั่งตรงนี้
จินยองอาจเดินออกมาเมื่อไหร่ก็ได้
ก็ไม่ได้อยากเจอขนาดนั้นหรอก
แค่เผื่อๆไว้น่ะ
อื้อ
นั่นแหละ ไม่ได้อยากเห็นหน้ามึนๆของมันเลย
“เค้กของผมทานคนเดียวไม่อร่อยหรอกนะครับ”
“จินยอง..”
แจบอมมองคนที่ยิ้มตาหยีใส่
ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดและผ้ากันเปื้อนสีเรียบผูกเอวกำลังส่งยิ้มมาให้เขาอย่างน่าหมั่นไส้
ในมือมีจานเฟรนช์โทสฉ่ำแยมที่มีส่วนผสมMiso
Caramelที่ยื่นมาวางตรงหน้าเขาด้วยท่าทางคุ้นชิน
“ I Miso U a loaf นะครับ”
แต่ไอ้ชื่อเมนูเนี่ย
โคตรลุงเลย
“อย่าเล่นมุกนี้อีกนะ ขอเลย”
จินยองนั่งลงตรงข้ามแจบอมแล้วเท้าคางมองเขาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“บอกตรงๆได้รึยังล่ะครับ ผมก็หมดมุกจะจีบแล้วเหมือนกัน”
ฮื่อ
หม่าม้าครับ
เฟรนช์โทสทำให้คนเราใจเต้นได้รึเปล่า
หรือผมใจเต้นให้เมเปิลไซรัป ใช่ ต้องใช่แน่ๆ
หม่าม้าครับ
แจบอมรู้สึกเหมือนตอนอนุบาลสามที่เยริชมว่าแจบอมหล่อเลย ตอนที่ขามันแข็งๆ
ตัวมันร้อนๆ ใจมันเต้นๆแล้วแจบอมก็ร้องไห้เพราะอยากกลับบ้าน
แจบอมอยากเอาหน้ามุดโทสต์ตรงหน้าแล้วครับหม่าม้า
“มาทานเค้กเหรอครับ”
“อื้อ”
“...”
“คิดถึง”
“คิดถึงเค้กของผมเหรอครับ”
ถ้าจะซื่อสัตย์กับตัวเองหน่อย
ก็ยอมรับว่าไม่ได้คิดถึงเค้กของนายหรอกนะ
“อื้อ”
แต่บอกไปว่าคิดถึงอะไรก็เสียฟอร์มดิ
วิถีคนชิคอย่างอิมแจบอมน่ะ
มันต้องไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ ต่อให้ดีใจมากๆที่ได้เห็นหน้าก็ต้องเก๊กๆไว้ก่อน
“ผมก็คิดถึงเหมือนกัน”
ตึกตัก...ตึกตัก
“คิดถึงห้องอบขนมเหรอ?”
“เปล่าครับ”
“...”
“คิดถึงแจบอม”
เอสเปรสโซ่สิบแก้วยังทำไม่ได้เท่านายเลยปาร์คจินยอง
“คิดถึงก็อย่าหายไปสิ...”
แจบอมพึมพำด้วยท่าทางนิ่งๆก่อนจะก้มหน้าก้มตาจ้วงเค้กตรงหน้าโดยไม่สนคนที่นั่งยิ้มค้างอยู่ตรงกันข้าม
จินยองอยากบอกคนน่ารักตรงหน้าเหลือเกินว่า
เค้กที่ทำมาทั้งชีวิตก็ยังไม่นุ่มนิ่มเท่าอิมแจบอมเลยเหมือนกัน
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ขอตัดจบ
ไม่แต่งต่อแล้วค่ะ
ไรท์เหม็นความรัก5555555555555เขียนแบบรีบๆอาจไม่ฟินแต่เต็มที่แล้วนะคะ
ใครอยากให้ปรับตรงไหนเม้นไว้ได้เลยน้า โปรเจคหน้าจะตั้งใจกว่านี้ค้าบบบบ
ความคิดเห็น