ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลัง Short fic #JJP #Jinson

    ลำดับตอนที่ #12 : (OS) NiorB : Deliverlove

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.52K
      71
      5 มี.ค. 61

    DeliverLove



              #NiorB_Semi 
              Pairing : Jinyoung x JB
              Theme : Romance
              Status  : Finished


    อย่าลืมส่งฟีดแบ็คเป็นกำลังใจกันนะคะ เราเปิดแท็กแล้ว #ฟิคบตน มาเล่นกันเราเหงา555555


    14 กุมภาพันธ์

    ถามเด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าวันนี้วันอะไร

    แจบอมไม่เคยเข้าใจหรอกว่าทำไมทุกคนถึงได้ให้ความสำคัญกับวันนี้นักหนา เริ่มตั้งแต่เช้าที่โดนแม่ค้าหมูย่างทักว่าพาสาวไปเดทแถวไหน แจบอมแทบจะโยนหมูปิ้งห้าไม้กับข้าวเหนียวของป้าทิ้งให้หมากินตรงนั้น ป้าครับ แจบอมยังโสด ยังโสดโว้ยยย

    โสดเฉยๆจะไม่โกรธไม่พาล แต่พอโสดแล้วโดนถามให้รำคาญ เลยยิ่งทำให้เบื่อวันนี้เข้าไปใหญ่

    หล่อๆแบบนี้ยังโสดได้ยังไง ป้าไม่เชื่อหรอก

    เชื่อเถอะป้า

    คนอย่างอิมแจบอมนี่แหละ โสดข้ามปีมาแล้ว ตอนนี้จะโสดข้ามวาเลนไทน์ ข้ามสงกรานต์ ข้ามวิสาขบูชา ข้ามลอยกระทง ข้ามมันให้หมด!

    ให้ป้าช่วยหามั้ยลูก เนี่ย หล่อๆเดินคนเดียวมันเหงา”

    ป้า! ถ้าไม่ติดว่าหิวจะเขวี้ยงหมูป้าทิ้งแล้วนะ!

    และนั่นก็เป็นการเริ่มต้นวันอันสดใสของอิมแจบอม

    สวัสดีวันวาเลนไทน์ เฮงซวยแต่เช้าเชียว

    แต่วันวาเลนไทน์ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่ซะทีเดียว เพราะภายใต้ความบ้าบอของกุหลาบดอกละร้อยยี่นั้น เพื่อนๆชาวนิเทศศาสตร์ปีสามได้ค้นพบช่องทางทำมาหาเงินเข้าคณะโดยการขายกุหลาบพร้อมบริการพิเศษคือมีคนส่งเป็นเหล่าหนุ่มฮอต

    ฉลาดนักกับเรื่องแบบนี้เนี่ย

    และใช่ครับ แจบอมเลยกลายเป็นหนุ่มส่งดอกไม้ในวันนี้

    ทั้งๆที่มันควรเป็นอีกวันหนึ่งในชีวิต แต่ทำไมมันยาวนานจังเลยวะ

               

     

                ปาร์คจินยอง แพทย์ปีสาม

                แจบอมก้มมองโพยอีกทีแล้วได้แต่ถอนหายใจ

                “แจบอม มึงสลับกับกูดิ”

                “ใช่เรื่อง กูได้ไปส่งให้สาวนิติ ตึกอย่างใกล้”

                “มึงเอารถมาอ่ะ ตึกแพทย์มันไกล มึงช่วยหน่อย”

                และนั่นคือเหตุผลที่แจบอมต้องยอมสลับออร์เดอร์อย่างเสียไม่ได้ อะไรวะ เปิดมาจ๊อบแรกก็ต้องถ่อไปคณะแพทย์ซึ่งอยู่อีกฟากนึงของมอ เจริญเถอะ

                ทำบาปทำกรรมอะไรไว้กับวันนี้นักหนาเนี่ยแจบอม

                ทั้งๆที่อยู่มหาลัยมาสามปี แต่แจบอมกลับไม่เคยมาเหยียบตึกคณะแพทย์เลยสักครั้ง ความแปลกตาของมันทำเอาหลุดมาดชิคๆที่สร้างสมมาจนหมด ปกติเดินไปเดินมาในคณะมีแต่สาวกรี๊ดตามถ่ายรูป ถ้ามาเห็นเดินวนเป็นลูกหมาแบบนี้มีหวังโดนขำใส่แน่ๆ

                “ให้ช่วยมั้ยครับ”

    เสียงนิ่งนุ่มดึงความสนใจแจบอมให้หันไปยังต้นเสียงซึ่งเป็นผู้ชายในชุดนักศึกษาดูดีตามระเบียบ คนตาตี่รีบดึงหูฟังออกจากหูด้วยท่าทางเหลอหลา ไม่บ่อยนักที่จะมีคนเข้ามาถามแบบนี้ แต่คนที่สะกิดก็หน้าคุ้นๆแถมท่าทางเป็นการเป็นงาน เหมือนเป็นผู้บริหารน่าเกรงขามอะไรประมาณนั้น จะเรียกว่ายังไงดี น่าเคารพ แต่มองยังไงก็เป็นนักศึกษา ไม่น่าจะแก่พอจะเป็นอาจารย์ผู้ช่วยหรืออะไรทำนองนั้นแน่ๆ อันที่จริงน่าจะอายุเท่ากันกับแจบอมด้วยซ้ำ

                “เอ่อ ผมตามหาคนชื่อปาร์คจินยองอยู่น่ะครับ”

                “ปาร์คจินยองเหรอครับ”

                “อ่านี่ครับ” แจบอมยื่นกระดาษที่จดชื่อคนรับให้อีกฝ่าย คณะแพทย์ก็ไม่ได้คนเยอะมากมาย อาจจะรู้จักกันก็ได้นี่นา แจบอมจะได้ไม่เสียเวลาหาตัวให้วุ่นวายนัก

                “แมสเซนเจอร์ความรัก?

                “ครับ?

                “ก็ที่เขียนอยู่ตรงมุมกระดาษน่ะครับ”

                เอ่อ ชื่อโครงการแม่งโคตรแย่ นี่เรียนนิเทศทำไมพวกแม่งคิดได้แค่นี้วะเนี่ย แจบอมได้แต่ยิ้มแหะๆให้อีกฝ่ายที่ทำหน้าเหลอหลาใส่ เขินว่ะ ชื่อโครงการหน่อมแน้มจนแจบอมเขินไม่กล้ามองหน้าใครแล้วโว้ย

                “อ่า เป็นบริการส่งดอกไม้น่ะครับ วาเลนไทน์ไง ฮ่ะๆๆ”

                “อ๋อ แล้วนั่นคงเป็นดอกไม้ของปาร์คจินยอง”

                แจบอมก้มมองดอกกุหลาบดอกสวยในมือที่พันกระดาษและโบว์มุ้งมิ้งน่ารักตามสไตล์ แล้วหันไปพยักหน้าให้คนถามเป็นคำตอบ

                “ครับ ของปาร์คจินยอง”

                “งั้นส่งมาสิครับ”

                แจบอมก้มมองมือหนาที่ยื่นมารอรับดอกไม้ด้วยสีหน้างงๆ อะไรของเขาวะ ตกลงคือรู้จักปาร์คจินยองเหรอ หรือเป็นแฟนหมอนั่น คือตกลงแจบอมต้องส่งให้ใครวะเนี่ย

                ทำไมการส่งดอกไม้ถึงได้มันวุ่นวายนัก

                “เอ่อ ผมว่าผมไปส่งให้เขาเองดีกว่า”

                นักศึกษาหนุ่มเลิกคิ้วกับคำตอบรับนั้นก่อนจะพยักหน้าช้าๆเหมือนพยายามทำความเข้าใจ ถึงแจบอมจะไม่ใช่นักส่งดอกไม้มืออาชีพแต่ความรอบคอบเต็มร้อยไม่มีทางพลาดแน่นอน ถ้าดอกไม้ไม่ถึงผู้รับแจบอมก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น

                “อ่า นั่นสินะครับ”

                “พอจะรู้มั้ยว่าผมจะหาเขาเจอได้ที่ไหน”

                “คุณชื่ออะไรครับ”

                หือ อะไรวะ เปลี่ยนเรื่องง่ายขนาดนี้เลย

                “แจ...แจบอม”

                “คุณแจบอมเห็นนู่นมั้ยครับ เดินตามทางนั้นไปเรื่อยๆจนสุดทางเดินนะครับ เจอแน่นอน”

                “อ่า ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวนะ”

                แจบอมพูดเอ่ยลาสั้นๆแล้วรีบจ้ำอ้าวไปหาเจ้าของดอกไม้อย่างไม่รอช้า

                จ้ำไปได้สองรอบตึกคณะ ไม่เห็นแม้แต่หมาสักตัว

    ทำไมการเป็นคนส่งของมันถึงได้มากเรื่องขนาดนี้ก็ไม่รู้ เขาเดินตามทางไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าแทบจะวนรอบตึก นอกจากจะไม่เจอปาร์คจินยองแล้ว หมาสักตัวก็ไม่เห็น เดินจนจะปากุหลาบในมือทิ้งแล้วเนี่ย เหนื่อยโว้ย

                “อ้าวคุณ”

                แจบอมยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผากออกแล้วเอ่ยทักคนบอกทางที่ตอนนี้ยืนพิงเสามองเขาอยู่ด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ ไอ้เด็กแพทย์นี่มันหลอกเขาเดินเป็นวงกลมกี่รอบแล้วเนี่ย!

                “ไหนคุณบอกสุดทางจะเจอไง ผมเดินวนสองรอบแล้วยังไม่เจอเลยเนี่ย”

                “ครับผมเห็นแล้ว คุณเดินผ่านผมไปสองรอบแล้วเหมือนกัน”

                โอ้โห ไปไม่ถูกเลย แจบอมควรทำยังไงกับการกวนตีนหน้านิ่งของคนตรงหน้าดี

                “เด็กแพทย์นี่กวนประสาทดีแฮะ”

                “เอาดอกไม้มาสิครับ”

                น่ะ สรุปคือจะเอาไปให้ได้ใช่มั้ย ตอนนี้ชักหน้าสงสัย คิดจะมาทำเป็นหวังดีเอาดอกไม้ไปให้เองแต่จริงๆแอบเอาไปทิ้งรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่งั้นคงไม่ตื้อจะเอาให้ได้หรอก แล้วนี่ก็คงหลอกให้เดินจนเหนื่อย คิดว่าแจบอมจะยอมง่ายๆล่ะสิ

                หึ รู้จักอิมแจบอมน้อยไปแล้วไอ้น้อง

                “ไม่ ผมอยากส่งให้ถึงมือคนรับ”

                นักศึกษาแพทย์หนุ่มไม่ได้ตอบกลับ แค่เลิกคิ้วประหลาดใจก่อนจะยกยิ้มมุมปากไม่น่าไว้ใจใส่แจบอมจนเผลอเอากุหลาบที่ถือไปแอบข้างหลังเหมือนกลัวโดนแย่ง เจ้าตัวอาจไม่รู้ว่าการกระทำเด็กๆพวกนั้นมันน่าเอ็นดูขนาดไหน

                คนอะไรน่าแกล้งชะมัด

                “จะหาให้เจอให้ได้เลยใช่มั้ยครับ ปาร์คจินยองเนี่ย”

                “อื้อ ก็จนกว่ากุหลาบจะถึงมือคนรับนั่นแหละ”

                แจบอมประเมินท่าทางของคนตรงหน้าที่ยิ้มแปลกๆ แต่มันดันไม่มีใครแถวนี้ที่จะช่วยได้เลยน่ะสิ เพราะงั้นก็ต้องหวังพึ่งคนกวนประสาทตรงหน้าไปก่อน

                “งั้นตามผมมาสิครับ ผมพอจะรู้ว่าปาร์คจินยองจะไปอ่านหนังสือที่ไหน”

     

     

                น้ำปั่นแก้วโตหมดไปแล้ว ก็ไม่ยักเห็นจะมีใครโผล่หัวเข้ามาอ่านหนังสือในร้านกาแฟนี้เลยนอกจากอาจารย์รุ่นแม่ที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียดอ่านเอกสารตรงหน้ามาร่วมชั่วโมง

                อ้อ มีไอ้เด็กแพทย์หน้าตายอีกคนที่ เปิดหนังสือไปมาอยู่ที่โต๊ะถัดจากเขา

                “นี่”

                “ครับ?

                “ไหนล่ะจินยองของนาย”

                “แจบอมยังหาไม่เจอเหรอครับ”

                น่ะ มันจะไปเจอมั้ยล่ะ ก็นั่งกันอยู่สามคนทั้งร้านเนี่ย

                “ถ้าเจอจะเดินมาถามนายเหรอ”

                คนตรงหน้ายกยิ้ม ก่อนจะปิดหนังสือที่อ่านค้างไว้ลง จะว่าไปก็อ่านวนบรรทัดเดิมเป็นสิบเที่ยวแล้วล่ะ อ่านไปก็ไม่ได้ประโยชน์ถ้าสุดท้ายตาจะเอาแต่มองคนที่ดูดมิลค์เชคด้วยท่าทางตะกละแบบนั้นอยู่เรื่อย แต่ที่ยังอ่านต่อก็เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายสงสัยก็เท่านั้น

                ให้ตาย นึกว่าวันนี้จะน่าเบื่อซะอีก

                “แจบอมมานั่งนี่สิครับ”

                แจบอมมองมือหนาที่ตบลงบนที่ว่างข้างตัวอย่างไม่เข้าใจ ทำไมอ่ะ อะไรของมันอีกเนี่ย เหนื่อยแล้วนะโว้ย หิวด้วย ง่วงด้วย เมื่อไหร่จะได้กลับหอไปนอนซะที

                วันนี้จะเจอไหม ปาร์คจินยองเนี่ย

                “มานั่งคุยกับผม จะได้ไม่เบื่อ”

                “ไม่เอา ฉันไม่อยากรอแล้ว ถ้านายไม่พาฉันไปหาจินยองอะไรนั่นฉันกลับละ”

                “เจอสิครับ ถ้าแจบอมนั่งคุยกับผมอีกแค่แปปเดียว รับรองว่าได้เจอแน่นอน”

                “...”

                “นะครับ ขืนกลับไปที่คณะตอนนี้ก็คงโดนใช้ต่ออยู่ดี สู้ตากแอร์รอแถวนี้ก็ไม่ได้”

    แจบอมชั่งใจ จะว่าไปร้านนี้ก็ไม่ได้แย่ นั่งต่ออีกหน่อยคงไม่เป็นไร

    “เดี๋ยวผมเลี้ยงขนมเลย โทษฐานที่ทำให้เสียเวลา”

                “โอเคๆ อย่างที่ว่านั่นแหละ กลับไปก็ไม่ได้พักอยู่ดีอ่ะ”

                ใช่ๆ ไม่ใช่เพราะอยากกินขนมฟรี แจบอมไม่ใช่คนเห็นแก่กิน

     

     

     

                โอ้โห เห็นตัวบางๆ สันกรามอย่างเท่ แต่กินเก่งชะมัด

                แล้วดูท่าที่กิน อยากเอาผ้ากันเปื้อนหมีน้อยไปผูกคอให้เหลือเกิน

                “ค่อยๆสิครับ มัฟฟินไม่หนีไปไหนหรอก”

                “หลอกด่าว่าตะกละเหรอ”

                “แจบอมอย่าคิดไปเองสิครับ”

                น่ะ มีการมองค้อน น่ากลัวมากมั้ง

                ทั้งๆที่วันนี้ตื่นมาพร้อมความคิดที่ว่ามันจะต้องเป็นวันที่เหนื่อยใจมากแน่ๆ ใครจะไปคิดว่าจู่ๆมันจะมีลูกหมาหลงทางเดินมาให้เลี้ยงถึงที่ ลูกหมาที่ทั้งซนทั้งซื่อบื้อ หลอกแกล้งให้หลงทางอยู่นานสองนานก็ยังไม่รู้ตัว โดนหลอกจนหิวกินเอาๆไม่ยอมเคี้ยวแล้วเนี่ย

                จินยองควรคิดได้แล้วว่าจะบอกความจริงคนตรงหน้ายังไงไม่ให้โดนวีน

                ใช่ ปาร์คจินยอง เขานี่แหละ เจ้าของดอกไม้ช้ำๆที่ตั้งอยู่ข้างจานขนมนั่น

                แต่คนที่เอาแต่ยัดขนมเข้าปากไม่ได้เอะใจเลยสักนิด

                และนั่นยิ่งทำให้น่าแกล้งเข้าไปอีก นึกออกไหม เพราะเวลาเราเห็นอะไรน่ารักมันก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอยู่แค่ไม่กี่แบบ สำหรับจินยองน่ะมีแค่สองแบบ คือน่ารักมากๆจนอยากปกป้อง ไม่อยากให้ใครมาแกล้ง

                กับน่ารักแบบแจบอม

                น่ารักแบบที่อยากรังแกให้ร้องไห้ ให้โกรธ ให้โมโห พอโวยวายแล้วก็ค่อยเข้าไปปลอบทีหลัง

                ควรเช็คสุขภาพจิตได้แล้วจินยอง นายมองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายโคตรชิคของมหาลัยว่าน่ารักได้ไง

                แต่ฟิลเตอร์นี้ไม่ได้มาจากจินยองเลยเถอะ ก็ดูทำตัวเข้า

                เย็นไว้จินยอง

                “มองอะไรนักหนาเนี่ย”

                “มองคนกินมูมมามน่ะครับ”

                แจบอมอยากกัดหัวเด็กแพทย์ตรงหน้า

                ดูปากมันสิ โดนหลอกด่าอีกแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าหันหน้าไปแล้วเจอรอยยิ้มพิฆาตของมัน พ่อจะด่าให้ คนอะไรวะมองแล้วรู้สึกอยากกราบไหว้ พอยิ้มก็ดูใจดีจนไม่กล้าดื้อเพราะกลัวจะโดนดุ

                “เหอะ เดี๋ยวจะกินให้เยอะๆจนนายจ่ายไม่ไหวเลย”

                “ไม่ต้องมาอ้างผมหรอก เห็นแก่กินก็บอก”

                โห ขนาดนี้แล้วด่าว่าตะกละเลยเถอะ แจบอมมองค้อนคนที่ยิ้มกวนอยู่ข้างๆไปหนึ่งทีก่อนจะหันไปสนใจขอกินต่อ จะกินให้เหี้ยนเลย คอยดูนะ

                “หวังว่าปาร์คจินยองอะไรนั่นจะไม่ปากเสียแบบนายนะ ไม่งั้นฉันจะแปลกใจมากที่มีคนซื้อกุหลาบให้”

                คำพูดตรงไปตรงมาของแจบอมเรียกเสียงหัวเราะจากคนข้าๆได้ดี นานแล้วที่มีคนพูดตรงแบบนี้ ปกติคนรอบตัวเขาเอาแต่พูดอ้อมโลกใช้จิตวิทยาร้อยแปดเพื่อจะบอกว่าจินยองน่ะ ปากจัดแค่ไหน แต่คนตรงหน้ากลับดูซื่อจนน่าแปลกใจ ทำเอาไปไม่ถูกเลยแฮะ

                แต่ก็ท้าทายไปอีกแบบ

                “แจบอมไม่อยากลองคบเด็กแพทย์ดูบ้างเหรอครับ เด็กแพทย์จีบง่ายนะ”

                คนมูมมามคว้าทิชชู่ไปเช็ดปากทันทีเมื่อได้ยินคำถาม จินยองลอบมองปฏิกิริยานั้นอย่างประเมิน ท่าทางล่กๆนั่นยิ่งทำให้คนตรงหน้าน่าเอ็นดูเข้าไปอีก แก้มตุ่ยๆเพราะขนมก็ยังเคี้ยวไม่หมดแต่ก็รีบจะเถียงให้ได้เลยสินะ

                “จีบง่ายอะไร หาตัวยังยากเลยเนี่ย อีกอย่าง...”

                “...”

                “นายก็ดูไม่ใช่คนที่จะจีบง่ายสักหน่อย”

                หึ ดูพูดเข้า

                จับกินซะเลยดีมั้ยวะ

                หายใจเข้า...เย็นไว้ปาร์คจินยอง ดูท่าทางพูดออกมาแบบไม่ทุกข์ร้อนแบบนั้น เจ้าตัวคงไม่ทันคิดแน่ๆว่าคำพูดตัวเองทำเอาคนฟังรู้สึกยังไง

                “รู้ได้ไงว่าผมจีบยาก อย่าคิดเองสิครับ”

                เหอะ จีบยากไม่ยากแต่ถ้ากวนประสาทเก่งขนาดนี้ ใครจะสู้ไหวเล่า แจบอมคิดในใจ นี่เห็นว่าปากท้องขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์คนตรงหน้าเลยนะเลยเลือกที่จะเงียบไว้

                “จะว่าไป คนที่ชื่อจินยองเขาก็จีบง่ายนะครับ”

                แจบอมตาโตขึ้นด้วยความสนใจเมื่อได้ยินชื่อเจ้าของดอกไม้ตัวปัญหาในบทสนทนา ลืมไปเลยแฮะว่ารอหมอนั่นอยู่ นี่ก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นใครจะมาเลย มีแต่ลูกค้าคนนู้นคนนี้ แต่คนข้างๆบอกว่าไม่ใช่เจ้าของดอกไม้สักคน

                “รู้ดีไปหมดเลยนะ”

                “รู้สิครับ ผมเนี่ย รู้จักจินยองดีที่สุดแล้ว รู้ด้วยว่าถ้าจินยองจีบแจบอม ยังไงก็ติด”

    “เว่อว่ะ”

    แจบอมยกยิ้มกับการอวดอ้างสรรพคุณของคนตรงหน้า ไม่รู้ว่าบทสนทนาของพวกเขามาจบตรงนี้ได้ยังไง แต่มันก็ลื่นไหลอย่างไม่น่าเชื่อ ลื่นไหลจนลืมไปเลยว่าแจบอมเพิ่งเจอคนตรงหน้าเมื่อไม่กี่ชั่วโมง

    และที่น่าแปลกใจที่สุดคือมันมาจบตรงที่อีกฝ่ายยุให้โดนจีบนี่แหละ

    ชักอยากเห็นหน้าปาร์คจินยองแล้วสิ

                “แล้วจีบเด็กแพทย์นี่ต้องทำยังไง ต้องบ้ารักสุขภาพห้ามกินนู่นกินนี่ หรือว่าต้องขนเอ็มร้อยมาเซ่นเช้าเย็นรึเปล่า” แจบอมแกล้งถามคนตรงหน้าหวังจะกวนประสาทแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มขำใส่เหมือนไม่ใส่ใจ อะไรอ่ะ มันต้องมีหงุดหงิดบ้างสิ

                “หมอก็คนนะครับ เขาก็แค่อยากได้คนซื่อๆหลอกง่ายๆ มาให้เขาเลี้ยงขนมทุกวันก็พอ”

                “ซื่อๆนี่คือ?

                “ก็แบบที่พูดอะไรก็เชื่อ บอกให้ไปไหนก็ไป บอกให้มานั่งกินขนมเป็นเพื่อนก็มา ทั้งๆที่ไม่รู้จักชื่อกัน”

                “ใครมันจะซื่อขนาดนั้นล่ะ”

                นี่มันอยากได้แฟนหรือลูกหมามาเลี้ยงกันแน่ แต่อย่างที่พวกเด็กในคณะมันล้อกันนั่นแหละ พวกเด็กแพทย์แต่ละคนที่จีบเด็กคณะนิเทศติดนี่โคตรแผนสูง คิดนู่นคิดนี่เยอะแยะจนน่าปวดหัว แต่สุดท้ายก็ได้คนเด็ดๆไปตลอดเลยไม่เห็นแฟร์

                “มีสิครับ แต่หายากหน่อย พอเจอแล้วก็ไม่ค่อยอยากปล่อยไปหรอก”

                “คนๆนั้นคงน่าสงสารแย่”

                จินยองลอบยิ้ม ก็ไม่เห็นน่าสงสารตรงไหน ก็ยังนั่งก้มหน้าก้มตากินสบายใจเฉิบ

                “แล้วเด็กนิเทศล่ะครับ ต้องจีบแบบไหน”

                แจบอมเอนหลังพิงเพื่อให้หายใจสะดวก แนบแก้มลงกับเบาะเพื่อหาท่าสบายที่จะมองอีกฝ่ายถนัด เล่นยัดขนมไปขนาดนั้น เริ่มจะจุกจนนั่งไม่อยู่ แต่ต้องเก๊กๆหน่อยเดี๋ยวจะเสียชื่ออิมแจบอมคนชิค

                “ก็หลายแบบ จะเอาไปจีบใครล่ะ”

                “เอาของแจบอมเป็นบรรทัดฐานก็ได้ ก็แค่อยากรู้น่ะ บางทีผมอาจสนใจเด็กนิเทศขึ้นมาก็ได้”

                “ไม่รู้ เพราะปกติเป็นฝ่ายจีบก่อนตลอด แต่มันก็นานมาแล้ว ตอนนี้ก็โสดไปเรื่อยๆ เป็นคนหล่อๆให้ผู้หญิงหวีดเล่น”

                จะหัวเราะอะไรขนาดนั้นล่ะ ที่พูดไปนี่ไม่ได้ให้ฮาเลย แจบอมคิดจริงนะโว้ย แจ็คสันมันเป่าหูเช้าเย็นว่าแจบอมเป็นสมบัติคณะนิเทศ ชายโสดหนึ่งเดียวที่รอดพ้นวาเลนไทน์ ยิ่งใหญ่จะตาย

                “งั้นลองให้เด็กแพทย์จีบมั้ยครับ”

                หืม...?

                “ให้ปาร์คจินยองลองจีบมั้ย อาจจะติดก็ได้”

                ส...สายตานั่นคืออะไรวะ!

                หยุด..หยุดมองแบบนั้นนะโว้ยยย

                “อ้าว มุดหนีไปไหนล่ะ”

                “อย่าดึง!” แจบอมรีบยื้อเสื้อกันหนาวที่ตัวเองเอามาปิดหน้าเพราะไม่รู้ว่าต้องรับมือกับคนตรงหน้าด้วยสีหน้าแบบไหนไม่ให้อีกฝ่ายดึงออก ตอนนี้งง งงไปหมดแล้วเนี่ย!

                “ฮึ่ย ตกลงปาร์คจินยองอะไรนั่นคงไม่มาแล้วใช่มั้ย งั้นฝากนายเอาไปให้หน่อยละกัน ฉันไปล่ะ”

                แจบอมรีบลุก ปัดเสื้อผ้าแก้เก้อแล้วก็พยายามไม่สบตาของคนที่นั่งอมยิ้มน่าตีให้ตายตรงหน้า อยากชนะไอ้หมอนี่ให้ได้บ้างแต่แค่มองหน้ามันก็แพ้แล้วอ่ะ ไม่กล้าหือด้วยซ้ำ เพราะอำนาจบางอย่างที่บอกให้แจบอมเกรงใจ

                เพราะงั้น หนีอาจเป็นทางที่ดีที่สุด

                “งั้นเอาเบอร์มาสิครับ ถ้าถึงมือคนรับแล้วจะบอก”

                “เบอร์ฉัน?

                “ไม่งั้นแจบอมจะเช็คยังไงล่ะ”

                เออ ก็จริงอีก

                ทำไมเถียงไม่เคยได้ล่ะ

                แจบอมบอกเบอร์ให้อีกฝ่ายไป ก่อนจะรีบเผ่นออกมา แทบจะสะดุดหัวทิ่มกว่าจะถึงรถ ไม่รู้ว่าจะลนอะไรนักหนา ขนาดที่มาถึงรถแล้วก็ยังไปไหนไม่ได้ ต้องนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ตั้งนาน

                มันเป็นอีกวันที่บ้ามากๆ

                แถมพอมานั่งนึกย้อน มันก็เขินไปหมด

                พอแล้ว ไม่เอาแล้วเด็กแพทย์ ขนาดเจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงยังมาวุ่นวายกับความคิดของเขาได้ขนาดนี้ ถ้ามากกว่านี้ต้องแย่แน่ๆ

                อ๊ะ สายเข้า เบอร์แปลกด้วย  ซึ่งแจบอมก็พอเดาออกว่าเป็นใคร

                หายใจเข้าลึกๆ แล้วกดรับสายซะอิมแจบอม

                นิ้วสั่นๆของแจบอมแตะลงบนจอเพื่อรับสายก่อนด้วยความรู้สึกประหลาด มันตื่นเต้นไปหมด ทั้งๆที่มันไม่ควรมีอะไรด้วยซ้ำ

                “ฮัลโหล แจบอมใช่มั้ยครับ”

    “ใช่ นายมีอะไร”

    “ผมแค่จะโทรมาบอกว่าดอกไม้ถึงมือแล้วนะครับ”

    อะไรกัน เพิ่งออกมาได้แค่สิบนาทีเอง ทำไมดันคลาดกันง่ายๆแบบนี้ล่ะ

    “อื้อ ดีแล้ว ขอบใจนะ”

    “ไว้ขอบคุณผมด้วยข้าวสักมื้อแทนละกัน”

    “ขอเยอะไปมั้ง”

    “แล้วไม่ได้เหรอครับ”

    “...”

    “...”

    “อื้อ ก็ได้แหละ!

    แจบอมหลับตาอดกลั้นไม่ให้ลงจากรถไปต่อยเจ้าของเสียงหัวเราะเกินหน้าเกินตาของปลายสาย อะไรมันจะสาแก่ใจขนาดนั้นเล่า

    “นี่แจบอม”

    “อะไรอีก?

    “เรื่องปาร์คจินยองขอจีบน่ะ”

    เชี่ยเอ้ยยยยยย

    แจบอมได้แต่มุดหน้าลงกับพวงมาลัยรถ พยายามใจเย็นกับคำถามที่จะตามมาเท่าที่ทำได้ ก็ไม่รู้หรอกว่าตื่นเต้นอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้เลือดวิ่งจากปลายเท้าขึ้นไปกองบนหน้าเร็วจนรู้สึกวูบวาบแปลกๆ แอร์ก็เร่งจนจะสุดทำไมมันยังร้อนไปหมดอย่างนี้วะ

    “ตกลงว่าไงครับ?

    “จะทำอะไรก็ทำเถอะ! แค่นี้นะ!

    “ฮ่าๆๆ ครับๆ”

    “...”

    “อ้อ อย่าลืมเมมชื่อผมนะ”

    “...”

    “ผมชื่อปาร์คจินยอง”

    โว้ย แจบอมเกลียดวันวาเลนไทน์ที่สุดเลย!!

               

     

     

     

     ๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒

     

            

       ฟิคลวกเว่อ  แต่อยากลงเพราะเมื่อวานพี่แจบอมน่ารักจนอยากร้องไห้ คนอะไรไม่รู้น่าจับมาฟัดๆๆ พอ!

       ช่วยเม้นต์หรือฟีดแบ็คนิดนึงน้า   บรรยายติดขัดไปนิดนะคะ  ช่วงปรับตัวจากการอ่านแต่หนังสือเรียน5555555555555 

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×