คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Vampire'Secert (1/2) [hoya x myungsoo] [gyujong]
I dream about vampires
‘อะ อื้อ’ร่างบางนอนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
ความรู้หนาวเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความอุ่นร้อนที่ทาบทับร่างกายเขาอยู่
‘คะ คุณ อ้ะ’หอบครางสะท้านเมื่อร่างกายแกร่งขยับร่างกายเข้าใส่
‘นายเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว’เสียงแหบพร่ากับลมหายใจอุ่นร้อนเปาลดที่ข้างใบหูนิ่ม
‘ฮะ โฮ อ๊า’ยิ่งร่างกายแกร่งทาบทับร่างกายลงมาแรงเท่าไหร่
ร่างบางยิ่งรู้สึกทรมานเหมือนถูกไฟเผาทั้งเป็น
‘พูดสิ นายเป็นของฉัน’ริมฝีปากร้ายกาจ
กดจูบไปทั่วกายบางเพื่อให้ร่างบางใจสั่นมากกว่าเดิม
‘ผะ ผม เป็นของคุณ อ้ะ’ไม่ว่าเวลาจะเนินนานแค่ไหนก็ไม่มีทีท่าว่าร่างหนาจะตักต่วงความหอมหวานจากร่างบางคนนี้หมด
ก่อนที่เขาจะหมดเวลาลงขอแค่เขาได้อยู่กับผู้ชายคนนี้
“เฮือก ฝันอีกแล้วหรอ”ร่างบอบบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อเขาฝันถึงเหตุการณ์ที่ไม่หน้าฝันถึง
“บ้าไปแล้วมยองซู นั้นมันศัตรูพี่ชายนายนะ”ยกมือเสยผมม้าที่ปรกหน้าผากตัวเองแล้วหนวดกระหมับเบาๆ
“นอนไม่หลับเลย เฮ้อ”ร่างบางที่เพิ่งผ่านการฝันร้ายถึงแม้จะล้มตัวนอนเท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลับ
เอาเป็นว่านี้อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาฝันอะไรแบบนี้ มันก็ปกติของผู้ชายที่จะฝันอะไรอุบาทๆบ้างแต่ทำไมเวลาที่เขาฝันเขาถึงได้ฝันถึงแต่ผู้ชายคนนี้
และเขาก็ฝันแบบนี้มาเกือบ 2 ปีแล้ว
ก๊อก ก๊อก
“มีอะไร”น้ำเสียงหงุดหงิดของพี่ชายเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างบางของผู้เป็นน้องยืนกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาเคาะประตูห้องเขา
“ขอนอนด้วยสิฮะ”มยองซูว่า ผู้เป็นพี่จะขยับตัวออกห่างจากประตูเพื่อให้ร่างบสงแทรกตัวเข้ามาได้
พอร่าบางเข้ามาในห้องแล้วซองกยูจึงปิดประตูแล้วมองหน้าน้องชายอย่างมีคำถาม
“เราเป็นอะไร
ตอนเด็กยังน้องที่ห้องคนเดียวได้แต่ทำไมตอนนี้ถึงนอนไม่ได้”ซองกยูยืนเท้าเอวถามน้องชายที่นั่งกอดตุ๊กตาหมีทำหน้าหงอยๆอยู่บนเตียงของเขา
“ก็มันฝันร้ายหนิ”บ่นพร้อมทำหน้าเบะจะร้องไห้
“ไม่ต้องเบะ ฝันเรื่องอะไร”ซองกยูล้มตัวนอนอีกฝั่งของเตียวก่อนจะดึงร่างน้องชายลงมานอนข้างๆ
“ก็..ฝันร้ายธรรมดาทั่วไปอะ”มยองซูว่าแล้วนอนหงายมองเพดานห้องพี่ชาย
“ถ้าธรรมดาทำไมถึงไม่นอนคนเดียว”ซองกยูยังไม่หมดคำถามทั้งๆที่เวลานี้มันก็ควรจะหลับได้แล้ว
“นี่ พี่จะถามอะไรนักหนา บอกว่านอนไม่หลับอะ
ถ้าไม่ให้นอนก็บอกกันมาตรงๆจะมาถามอะไรเยอะแยะ”เมื่อเจอคำถามที่ตอบไม่ได้มยองซูจึงต้องกลบเกลือนด้วยการโวยวายก่อนจะลุกออกจากเตียงแต่ก็ถูกมือหนาของพี่ชายคว้ามานอนที่เดิม
“นอนไปเถอะ”พอพูดจบก็หันหลังให้คนเป็นนอน
มยองซูได้แต่หันไปมองแผ่นหลังกว้างของพี่ชายอย่างงงๆไม่นานความง่วงก็ครอบงำจนเผลอหลับไป
พอรุ่งเช้าเขาก็ถูกซองกยูปลุกให้ไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน
“นานจัง”พอวิ่งมาถึงรถ
น้ำเสียงหงุดหงิดของซองกยูที่ยื่นสูบบุหรี่พิงรถด้วยท่าทางแบดๆก็เอ่ยขึ้น
“ก็หิวหนิ”มยองซูว่าซองกยูเลยร้องอ่อในใจเมื่อเห็นขนมปังที่ถูกคาบด้วยปากเรียวสวย
ก็คงจะหิวจนไปปิ้งขนมปังกินอยู่น่ะสิเลยช้า เขาพยักหน้ารับแล้วเดินไปนั่งประจำที
มยองซูจึงต้องวิ่งตามไปนั่งที่ของตน
“เลิกแล้วโทรบอก อย่านั่งรถกลับมาเองมันอันตราย”พูดน้ำเสียงนิ่งขณะเลี้ยวรถไปจอดหน้าโรงเรียนของน้องชาย
“ก็ผมกลัวพี่ทำงานอยู่หนิ”มยองซูก้มหน้างุดทำท่าจะร้องไห้จนถูกเขกหัวไปที
“ไม่ต้องเบะ
ต่อให้พี่อยู่ไกลแค่ไหนพี่ก็จะรีบมารับเรา อย่านั่งรถกลับเอง เข้าใจไหม”กำชับน้องชายเสียงเข้ม
“ครับ”มยองซูพยักหน้ารับ
“ลงไปได้แล้ว”จัดปกเสื้อให้ร่างบางเรียบร้อยก็เอ่ยไลทันที
“ทำมาเป็นไล่ ผมไปเรียนแล้วนะ จุ๊บ”มยองซูที่เห็นพี่ชายใจดีช่วยจัดปกเสื้อให้ก็รู้สึกว่าพี่คงไม่โกรธอะไรเลยทำพูดดีแล้วหอมแก้มของพี่ชายอย่างออดอ้อน
“ไปเลยนะ”ซองกยูเอ่ยไล่ขำ
มยองซูจึงกระชับสายกระเป๋าสะพายไปเก่งแล้วก้าวลงจากรถ
ยืนรอจนรถของซองกยูขับห่างออกไปก็เดินเข้าไปในประตูโรงเรียน
“หมิงซู”เสียงตะโกนแปดหลอนของเพื่อนสนิทที่วิ่งตามมาด้านหลังทำให้มยองซูต้องหันไปมองแล้วยิ้มขำ
“ไง ซองจง”ทักเพื่อนเสียงหวาน
ซองจงที่วิ่งมาถึงก็หอบหนัก จนมยองซูต้องเข้าไปคล้องแขนพาเดินเข้าไปในโรงเรียน
“นี่
หมิงวันนี้ที่บ้านฉันมีงานฉลองวันเกิดคุณปู่นายไปไหม”ซองจงที่พอว่างกระเป๋าลงบนโต๊ะของตนก็หันมาถามมยองซูที่นั่งด้านหลัง
“ที่บ้านนายหรอ”มยองซูหยิบหนังสือขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วเลิกคิ้วถามเพื่อน
“อะห้ะ”ซองจงพยักหน้ารับแล้วทำตาแป๋วเหมือนแมวกำลังอ้อน
“ฉันคงไปไม่ได้หรอก”มยองซูว่า ซองจงจึงทำหน้าหงอยก่อนจะถามออกไป
“ทำไมล่ะ”ถามทั้งๆที่ก็รู้คำตอบดี
“พี่ชายฉัน..”ยังไม่ทันได้พูดจบเพื่อนร่างเล็กก็ขัดขึ้น
“พี่ชายนายอีกแล้วสิ
ฉันรู้นะว่านายอยู่กับพี่สองคนแต่หมอนั้นจะมากไปไหมไม่ให้นายออกไปไหนเลยหรอ
ตั้งแต่ที่พ่อแม่นายไปอเมริกานายก็เอาแต่อยู่บ้าน”ซองจงบ่นยาวแล้วกอดอกเชิดหน้าอย่างไม่พอใจ
“ก็พี่ซองกยูไม่ให้ไปหนิ
ฉันไม่อยากมีปัญหากับพี่นะ”มยองซูก็ก้มหน้างุดมันก็จริงอย่างี่ซองจงพูดแต่จะให้เขาทำยังไงล่ะก็พี่ชายไม่ให้ไปหนิ
“แต่วันนี้นายต้องไป เอามือถือมาสิ”ซองจงว่าแล้วแบมือตรงหน้ามยองซู
ร่างบางเลยเลิกคิ้วมองอย่างงงๆ
“เอามา”ซองจงเริ่มเสียงแข็ง
มยองซูถอนหายใจแล้วล้วงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตนส่งไปให้ร่างเล็ก
ซองจงรับไปกดหาอะไรสักอย่างแล้วเองแนบหู
“ซองจง”มยองซูเรียกเสียงแผ่ว
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าซองจงเอาโทรศัพท์เขาไปทำไม
“ฮัลโหล ซองกยูวันนี้น้องนายจะไปนอนบ้านฉัน ใช่
เราจะทำรายงานเป็นงานคู่ต้องทำด้วยกัน ไม่ต้องมามยองซูจะกลับพร้อมฉัน
พุ่งนี้ตอนบ่าย ไม่ต้องห่วงถ้าเกิดน้องนายเป็นอะไรไปฉันจะยอมเป็นทาสนายหนึ่งเดือน
เออ”ซองจงกรอกเสียงลงไปในเครื่องมือสื่อสารไม่หยุดจนพอใจแล้วกดวางสายทันที
“อะพี่ชายนายอนุญาตแล้ว”ซองจงยื่นมือถือกลับมาให้มยองซู
“ทำไมพี่ซองกยูถึงยอม”มยองซูถาม
ซองจงจึงทำแค่หยักไหล่แล้วหันหน้ากลับไปนั่งดีๆเมื่ออาจาร์ยเข้ามาแล้ว
มยองซูจึงเลิกสนใจแล้วหันไปสนใจสิ่งที่อยู่บนกระดานแล้วเสียงของอาจาร์ย
“มาแล้วคร้าบบบบ”เรียนได้เกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงแสบแก้วหูดังขึ้น
ร่างสูงของซองยอลที่มาเรียนช้าทำเป็นไม่สนใจสายตาอาจาร์ยเดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงข้างมยองซู
“ไง”เอ่ยทักมยองซูที่กำลังตั้งใจเรียน
ส่วนร่างบางก็แค่เหลือบตามองก่อนจะหันไปเรียนต่อ
“เหอะ”ร่างสูงแค่นหัวเราะในลำคอแล้วฟุบหน้าลงบนโต๊ะ
หันหน้าไปมองร่างบางข้างๆที่กำลังตั้งใจเรียน
“น่ารักชะมัด”บ่นพึมพำกับตัวเองแล้วยิ้มออกมา
“นายว่าไรนะ”มยองซูที่ได้ยินไม่ชัดแต่ได้ยินเหมือนคนข้างๆพูดอะไรจึวหันมาถาม
“คุณครูซนน่ะ น่ารักเนอะ”ซองยอลว่าพยักเพยิดหน้าไปทางหน้าห้อง
มยองซุจึงพยักหน้ารับ
“ครูมีการบ้านให้ทำ
ให้นักเรียนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเองมาหนึ่งข้อ
ทั้งเรื่องที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ งานนี้ส่งวันที่14 เป็นวันจันทร์นะ เลิกเรียนค่ะ”พอถึงเวลาเลิกเรียนเหล่าเพื่อนในห้องก็ต่างพากันลุกขึ้นยื่นบิดขี้เกียจแล้วทยอยออกจากห้อง
มยองซูที่กำลังก้มเก็บของต้องชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีใครมาสะกิด
“นี่ๆนายว่างปะ”พอหันไปด้านหลังก็เห็นว่าเป็นซองยอลที่เข้ามาสะกิดตน
“หืม นายมีไรงั้นหรอ”มยองซูถามแล้วยกกระเป๋าสะพายพาดบ่าไว้
“อืม ฉันจะชวนนายไปทำงานที่ครูสั่งเมื่อกี้น่ะ”ซองยอลว่าแล้วชี้ไปที่กนะดานที่ครูจดงานไว้ให้
“อ่อ วันนี้ฉันไม่ว่างหรอก นายรีบไหม”มยองซูว่า
“ก็รีบอะแต่ฉันรอได้ ฉันแค่อยากหาคนช่วยทำน่ะ”ซองยอลว่าแล้วเดินออกจากห้อง
“หึ อยากหาคนช่วยทำหรืออยากหาคนช่วยใจ”เป็นซองจงที่ทำเป็นไม่สนใจมานานพูดขึ้นมา
“นายว่าไรนะ”มยองซูหันไปถามเพื่อน
“ป่าวๆเราไปกันเถอะ”ซองจงว่าแล้วเดินมาลากเพื่อนไปหน้าโรงเรียนทันที
“พี่ชายฉันมาล่ะ ปะ”ทั้งสองยืนรอที่หน้าโรงเรียนสักพักก็มีรถคันหรูเคลื่อนตัวมาใกล้ที่ๆมยองซูกับซองจงยื่นอยู่พอรถจอดเรียบข้างทางซองจงก็จูงมยองซูไปที่รถแล้วจับยัดให้นั่งตรงเบาะหลังแล้วตนก็เข้าไปนั่งข้างคนขับ
“พี่ฮะ โฮวอนหวัดดีครับ”มยองซูโค้งให้พี่ชายซองจง
โฮวอนพยักหน้าก่อนจะมองร่างบางผ่านกระจกหลังรถยิ้มๆมยองซูที่เห็นแบบนั้นก็รีบหลบตาหันหน้ามองวิวข้างทางทันที
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”โฮวอนว่า ซองจงจึงหันมาหาเพื่อนแล้วยิ้มให้
“พี่ชายเขาห่วงนะสิ”ซองจงเป็นคนตอบแทน
“อ่อ ไอ้ซองกยูอะนะ
ก็คงเป็นธรรมดาที่มันจะห่วงน้อง”โฮวอนว่าแล้วหันไปสนใจขับรถต่อแต่เป็นมยองซูที่หันมามองอย่างไม่เข้าใจ
“แล้วทำไมพี่ไม่เห็นห่วงผมเลยล่ะ”ซองจงว่าแล้วทำหน้ามู่ทู่ใส่
“ก็เราดูแลตัวเองได้หนิ”โฮวอนว่าแล้วลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู
“หมิงซูก็ดูแลตัวเองได้นะ”ซองจงเถียง
“มันไม่เหมือนกัน
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของมยองซูแล้วหนิเด็กอายุใกล้ 18 นี้ต้องระวังตัวนะ”โฮวแอนอธิบายแล้วหักเลี้ยวรถเข้าไปในซอยบ้านตน
“ทำไมหรอฮะ”เป็นมยองซูที่นั่งเงียบแต่ก็แอบฟังมานานถามขึ้น
“เคยได้ยินคำว่าเมื่อเราอายุครบ 18 จะถูกพรากความบริสุทธ์ไหม”โฮวอนว่ายิ้มๆแล้วมองมยองซูผ่านกระจกหลังรถ
“พรากความบริสุทธ์?”มยองซูทวนคำแล้วมองโฮวอนผ่านกระจกเช่นกัน แวบนึงเขาก็รู้สึกว่า
‘ทำไมดวงตาพี่โฮวอนถึงเป็นสีแดง’มยองซูถามคนเดียวในใจโดยไม่ได้พูดออกไป
“ใช่ แต่เราอย่ากลัวไปเลย
วันเกิดเราเราต้องมีความสุขที่สุดสิ ถูกไหม”โฮวอนว่าจบก็ดับเครื่องรถลง
“ปะ หมิงซู”ซองจงหันมาหาเพื่อนแล้วเปิดประตูลงรถไปก่อน
มยองซูพยักหน้ารับแล้วยื่นมือจะไปเปิดประตูแต่ก็ถูกคว้าไว้ก่อน
“พะ พี่โฮวอน”เขามองร่างหนาตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจแค่แวบเดียวทำไมโฮวอนถึงมานั่งซ้อนข้างหลังเขาได้
“หืม ว่าไง”โฮวอนเอาคางมาวางไว้ที่ไหล่บางแล้วถาม
มยองซูนั่งตัวแข็งท่อไม่กล้าขยับ
“มะ มีอะไรครับ”ถามเสียงสั่นแต่ก็ไม่กล้าหันไปมองได้แต่นั่งนิ่งๆแล้วกำมือตัวเองแน่นอย่างรู้สึกประหม่า
“ป่าว ก็แค่..อยู่แบบนี้สักพักได้ไหม”เสียงกระซิบข้างหูพร้อมกับลมหายใจที่เขารู้สึกคุ้นเคยทั้งๆที่ไม่เคยใกล้กันขนาดนี้
แต่ทำไมพอร่างข้างหลังมาทำแบบนี้แถมยังเป็นครั้งแรกเขากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ครั้งแรก
ลมหายใจนี้ ร่างกายนี้เขาคุ้นเคยดี
“เราเป็นอะไร เกร็งขนาดนั้นน่ะกลัวเหรอ”จับร่างบางให้หันมาเผชิญหน้าแล้วถามออกไป
“กะก็ นิดหน่อย”เสียงที่คิดว่าจะไม่สั่นแล้วก็ยังคงสั่นเมื่อได้สบเข้ากับดวงตาคมที่มีเสน่ห์
“ทำไม พี่ชายเรามันบอกอะไรงั้นหรอ”มือที่จับไหล่บางไว้เริ่มบีบเข้ากันแน่นจนมยองซูนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“ปะ ป่าว ผมเจ็บฮะ”มยองซูบอกแล้วพยายามดึงมือแกร่งออกแต่ก็ไม่เป็นผล
“อยู่ใกล้พี่แล้วเป็นอะไร อยู่ใกล้ไอ้ซองกยูน่ะ
หน้ากลัวกว่าอีก”โฮวอนว่าแล้วค่อยๆปล่อยมือเมื่อน้ำตาของร่างบางร่วง
“ทำไมผมต้องกลัว ฮึก พี่กยู เขาเป็นพี่ชายผมนะ อึก”มยองซูก้มหน้าร้องไห้จนไหล่สั่น
โฮวอนเมื่อเห็อย่างนั้นก็จับปลายคางร่างบางให้เงยหน้ามองตนเบาๆ
“ฟังนะ คิม ซองกยูไม่ใช่พี่ชายเรา
พ่อแม่ของมยองซูน่ะ มีลูกแค่คนเดียว”โฮวอนว่าแวมองดวงตาที่ดูเศร้าสรอยนั้นอย่างสงสาร
“ไม่จริง ฮึก พี่กยู คือพี่ชายผม อึก
พี่พูดเรื่องอะไรฮื่อ”เมื่อได้ยินแบบนั้นมยองซูก็ยกมือปิดหูตัวเองแล้วสะบัดหน้าไปมา
“เอาเถอะ เราอย่าเพิ่งคิดมาก
ไว้วันเกิดเราเดี๋ยวก็รู้เอง”โฮวอนจับใบหน้าใส่ประคองไว้ด้วยสองมือของตน
เลือนหน้าเข้าไปจูบซับน้ำตาอย่างอ้อยอิงก่อนจะค่อยๆลดระดับเข้าไปใกล้ริมฝีปากสวย
กดจูบเบาลงเบาๆเนินนานจน ได้ยินเสียงเคาะประตูรถ
“นี่ ทำไมนานจัง พี่แกล้งอะไรเพื่อนผม”เป็นซองจงที่เปิดประตูเข้ามาแล้วมองพี่ชายด้วยสายตาไม่พอใจ
“ไม่ได้แกล้ง ฝุ่นมันเข้าตามยองซูพี่เลยช่วยเอาออกน่ะ”โฮวอนว่ายิ้มๆ
“งั้นหรอ ไปเข้าบ้านกัน”ซองจงว่าแล้วจับมือมยองซูเข้าบ้าน โฮวอนมองตามน้องทั้งสองไปจนลับตาก่อนจะถอนหายใจ
“พี่จะทำร้ายเราได้ยังไง”บ่นพึมพำกับเองเบาๆแล้วเดินตามน้องเข้าไปในบ้าน
“ว่าไงมยอง ซองจงเหรอ ทำไมต้องนอน เดี๋ยวฉันไปรับ
กลับกี่โมง ฉันจะไว้ใจนายได้ยังไง โอเค”เมื่อวางสายจากอีกฝ่ายซองกยูก็ต้องยกมือขึ้นกุมหัวอย่างคิดไม่ตก
“บ้านลี ซองจงก็บ้านไอ้โฮวอนสิ”บ่นกับตัวเองเบาๆแล้วเดินไปคว้ากระปุกยา
ร่างสูงเทยาออกจากกระปุกจำนวนหลายเม็ดแล้วกรอเข้าปากทันทีเมื่อรู้สึกอาการไม่ดี
“พี่ไม่ปล่อยให้เราเป็นอะไรหรอก”ซองกยูว่าแล้วนั่งลงบนโต๊ะเหมือนเดิมและทำเหมือนไม่มีอะไรเมื่อเลขานำเอกสารงานมาให้
ร่างสูงมองเส้นเลือดบนลำคอของหญิงสาวแล้วต้องกลืนน้ายลงคอ
“เลือด”ดวงตาคมเป็นประกายและเปลี่ยนสีทันที
ไวกว่าความคิดมือหนาคว้าเอวเลขามานั่งบนตักแล้วซุกไซ้ซอกคออย่างหื่นกระหาย
“อะ คุณซองกยูจะทำอะไรค่ะ”เลขาสาวตกใจจึงดีดดิ้น
แต่เมือ่ได้สบตาเข้ากับซองกยูเธอกับสงบนิ่ง
“ฉันอ่อยคุณมาตั้งนาน”โอบรอบคอแกร่งแล้วโน้มหน้าร่างสูงมากดจูบอย่างดูดดื่ม
“เป็นของฉันนะ”ซองกยูเอ่ยเสียบแหบพร่าแล้วปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนร่างกายสวยออก
เมื่อไม่มีปราการใดๆมาขว้างกันร่างสูงก็ลงมือทันที
การที่ได้ทั้งผู้หญิงได้ทั้งเลือดมันก็ดีแต่สิ่งที่ไม่ดีต่อตัวเขาคือ
เขาอาจจะถูกกล่าวหาเรื่องลักลอบฆ่าเพราะผู้หญิงที่สูญหายไปหลังจากเข้ามาในห้องของลูกเจ้าของบริษัทที่กำลังทำงานหนักเพื่อขึ้นแท่นเป็นประธานแทนพ่อ
ละครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาต้องหาทางทำให้ผู้หญิงคนนี้สูญหายไปโดยไม่มีใครสงสัยในตัวเขา
“มยองซูกินนี้สิ”โฮวอนตักอาหารบนโต๊ะให้มยองซูที่นั่งข้างๆแล้วยิ้มให้
“ขอบคุณครับ”มยองซูก้มหน้างุดแล้วเอ่ยขอบคุณอย่างหวดกลัวเขาไม่รู้ว่าพี่ชายของเพื่อนคนนี้ต้องการอะไรแต่ทำไมต้องใส่ร้ายพี่ชายเขาด้วย
“หนูมยองซูค่ะ
ลูกชายน้าดูแลเราดีแบบนี้สนใจมาเป็นลูกสะไภ้น้าไหม”คุณนายซูจองที่เป็นแม่ของโฮวอนและซองจงเอ่ยถามมยองซูด้วยท่างเอ็นดู
ทำเอาร่างบางก้มหน้าด้วยท่าทีเขินอาย
“แม่ก็ แซวเพื่อนผมแต่จะบอกอะไรให้น่ะเมื่อกี้น่ะ
พี่โฮวอนเขาทำอะไรมยองซูในรถก็ไม่รู้ มีหน้าแดง ตาเหมือนคนร้องไห้ด้วยนะครับ”ซองจงที่พอผู้เป็นแม่เปิดประเด็นขึ้นมาก็เอาใหญ่
“โฮวอนทำอะไรน้องลูก”คุณชายอีหันมาถามลูกชาย
“ป่าวครับพ่อ
ผมก็บอกซองจงแล้วว่าฝุ่นเข้าตามยองซูผมก็แค่ช่วยเอาออก”โฮวอนว่าแล้วตักข้าวเข้าปาก
“งั้นหรอฮะ”ซองจงยิ้มกรุ่มกริ่มมองพี่ชายกับเพื่อนแล้วหันไปพยักหน้ากับแม่
“เหอะ ไอ้เด็กนอกคอก
ไม่ใช่หลานฉันแล้วยังจะทำเรื่องเสียมเสียอีก ตระกลูฉันไม่ต้องการไอ้คนวิปริตแบบนี้
ถ้าจะทำให้เสียหายก็พากันออกไป”ประมุขของบ้านพูดน้ำเสียงเลือดเย็นแล้วมองโฮวอนด้วยสายตาเกลียดชังก่อนจะเดินขึ้นบันได้ไปโดยมีสาวใช้ช่วยประคอง
“อย่าคิดมาก”ผู้เป็นพ่อตบบ่าแกร่งอย่างให้กำลังใจ
โฮวอนจึงพยักหน้ารับ
“งานเลี้ยงของเรา จบฮะ”ซองจงหยักไหล่แล้วทำหน้าไม่พอใจ
ทั้งๆที่เขากับแม่ตั้งใจทำให้อาหารมือนี้ดูพิเศษแต่ทำไมปู่ของเขาต้องทำเสียเรื่อง
“พี่โฮวอนเป็นอะไรหรือเปล่าฮะ”คนที่นั่งข้างโฮวอน(ซองจงให้นั่ง)เอ่ยถามแล้วมองร่างหนาอย่างเป็นห่วง
โฮวอนหันมายิ้มให้แล้วเลือนมือไปกุมมือมยองซูไว้
“พี่โอเค เราอยากไปเดินเล่นกับพี่หน่อยไหม”โฮวอนว่า
มยองซูมองร่างหนาแล้วทำท่าครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจแต่เมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนเขาจึงจำใจพยักหน้ารับแล้วเดินตามแรงจูงของร่างสูงออกไปทางข้างหลังบ้าน
“นั่งสิ”เมื่อเดินมาถึงชิงชาแถวๆสระน้ำก็บอกร่างบางนั่งพอมยองซูนั่งเสร็จก็เดินไปข้างหลังแกว่งชิงชาให้
“พี่โฮวอนทำอะไรฮะ”มยองซูหันไปถามสองมือก็คว้าโซ่ของชิงชามาจับแน่น
“ทำแบบนี้จะช่วยให้สบายใจนะ”โฮวอนว่าแล้วแกว่งชิ่งชาต่อ
เขาแกว่งเบาๆให้มยองซูรู้สึกปลอดภัย
“แล้วเรื่องเทื้อกี้พี่โอเคไหม
ทำไมพี่ไม่บอกคุณปู่ไปล่ะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”มยองซูว่า
คำพูดของร่างบางทำให้โฮวอนหยุดแกว่งแล้วเดินมานั่งยองๆข้างหน้า
คว้ามือบางมาจับไว้จนมยองซูผงะด้วยความตกใจ
“ถ้าพี่อยากให้เราเป็นอะไรกัน เราจะโอเคไหมละครับ”ถามเสียงนุ่มแล้วมองเงยหน้ามองร่างบางตรงหน้าด้วยแววตาขอร้อง
“ผะ ผม”มยองซูไม่รู้ว่าเขาควรตอบอย่างไร
จะให้เขาทำยังไงในเมื่อคนตรงหน้าเป็นศัตรูของพี่ชายเขา
“พี่รู้ว่าเราคิดมากเรื่องพี่กับซองกยู แต่จะให้พี่ถ่อยเรื่องเราพี่ไม่ทำหรอกนะ”โฮวอนว่าแล้วมองตากลมโตด้วยสายตาแน่วแน่
“พี่ไม่มีทางยอมให้ซองกยูได้เราไป
ขอร้องนะครับเชื่อใจพี่เถอะ อยู่ห่างจากซองกยู”พอจบคำพูดมยองซูก็สะบัดมือออกจากการเกาะกุมของร่างสูง
“ไม่ ผมเป็นน้องพี่กยูนะ พี่อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆพี่ทำไม่สำเร็จหรอก”มยองซูยื่นขึ้นตะคอกใส่ร่างหนาเสียงดังแล้วเดินออกจากตรงนั้นแต่ยังไม่ถึงตัวบ้าน
โฮวอนก็เข้ามาคว้ามยองซูเต็มแรงจนหน้ามยองซูชนเขากับอกแกร่ง
“ชอบนักใช่ไหมไอ้ความรุนแรงน่ะ”พูดจบก็ช้อนตัวมยองซูขึ้นและเข้ามาอยู่ในห้องเลยทันทีจนมยองซูงงทั้งๆที่เมื่อกี้เขาและร่างหนาอยู่ที่สวนหลังบ้านแต่แค่แวบเดียวเรากับอยู่ในห้องเขายังไม่ทันได้เห็นว่าเราจะเดินขึ้นมาบันได้ตอนไหนแต่งงได้ไม่นานร่างกายก็ถูกปล่อยลงบนเตียงและมีร่างสูงมาทาบทับ
“อะ อื้อ”มยองซูร้องเสียงดังแล้วสะบัดหน้าหนีการรุกล้ำของร่างหนา
แต่ทำยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าโฮวอนจะหยุด
มยองซูจึงเลิกผลักไสนอนนิ่งให้ร่างหนาสัมผัสร่างกายของตนจนพอใจ
“อย่าทำให้พี่หมดความอดทนกับเรา
เพราะถ้าเราจะตายเราจะต้องตายด้วยน้ำมือพี่ ไม่ใช่มัน”พูดจบก็ผละออกจากร่างบางแล้วล้มตัวนอนข้างๆดึงมยองซูที่นอนนิ่งร้องไห้เข้ามากอด
“คนบ้า พูดเรื่องอะไร”มยองซูทุบอกแกร่งอย่างไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวถึงวันนั้นเราก็รู้เอง”กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น
มยองซูที่เหนื่อยมาทั้งวันพอเจอเหตุการณ์ที่เกือบเหมือนในฝันก็ทำให้ร่างกายอ้อนล้าจนเผลอหลับไป
“อย่ากลัวไปเลย คนดี”โฮวอนเอาผมที่ปลกหน้าร่างบางมาทัดหูให้แล้วก้มจูบหน้าผากเนียน
“ฮัลไหล ซองจงออกมาเจอกันหน่อยที่สวนสาธารณะ ติ้ด”พอพูดจบก็กดตัดสายทันที
ก่อนจะขับรถมุงหน้าไปสถานที่ที่ตัวเองต้องการ
ซองกยูเดินถือกระป๋องเบียร์เดินเข้าไปในสวนสาธารณะด้วยความมืดและมีแค่แสงไฟจากถนน
ผู้คนเลยไม่ค่อยพากันมาเดินขวักไขว่ที่นี้ในต้อนนี้ ซองกยูเดินไปหามุมนั่งแล้วเตะเท้าเล่นรอคนที่เขาต้องการเจอ
“แฮ่กๆไอ้บ้า
ไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหนแล้วนี้ไม่รอฟังคำตอบฉันเลย
ฉันหน้าจะปล่อยให้นายรอจนกลับไปเองไม่หน้าเป็นห่วงเลย”ซองจงที่วิ่งมาจากทิศทางข้างหลังด้านสูงบนขึ้นแล้วนั่งลงข้างๆคว้ากระป๋องที่อยู่ในมือร่างสูงไปยกดื่มอย่างไม่สนใจว่าของเหลวที่อยู่ในนั้นคืออะไร
“แฮ่กๆเบียร์หนิ นายเอาเบียร์ให้ฉันกินหรอ”โบยกระป่องน้ำขมคอออกจากมือแล้วชี้หน้าร่างสูงอย่าเอาเรื่อง
“กินเข้าไปเอง แล้วนี้มายังไง”ซองกยูถาม
“จักรยาน นายมีอะไร”ซองจงชี้ไปที่จักรยานของตนที่จอดอยู่หน้าสวนสาธารณะแล้วถามร่างสูง
“มยองซูเป็นยังไงบ้าง”ถามเสียงนิ่งแล้วทอดมองออกไปข้างหน้า
“อ่อ ก็ดีนะ ป่านนี้คงนอนแล้วล่ะ”ซองจงว่ายิ้มๆ
“นอน?”ซองกยูหันมามองหน้าซองจงด้วยเครื่องหมายคำถาม
“ใช่ พอกินข้าวเสร็จก็ไปเดินเล่นกับพี่โฮวอน
ตอนนี้พี่โฮวอนคงพาไปนอนแล้วแหละ”ซองจงว่าแล้วหยักคิ้วให้ร่างสูงแต่ก็ต้องหงอยเมื่อวองกยูมองตนอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“นอนกับใคร”ถามเสียงนิ่งแล้วจ้องมองกิริยาของร่างเล็ก
“กับฉันสิ”ซองจงว่า
“แล้วทำไมโฮวอนต้องพาไปนอน”ซองกยูยังคงมีคำถามออกมาเรื่อยๆ
“ก็บอกแล้วไงว่ามยองซูไปเดินเล่นกับพี่โฮวอน ฉันก็ยังไม่ขึ้นห้องแต่คาดว่าตอนนี้พี่โฮวอนคงพาไปส่งที่ห้องฉันแล้ว”ซองจงร่ายยาวอย่างหงุดหงิดก็เข้าใจว่าเป็นห่วงน้องแต่นี้ก็เยอะเกิน
ถ้าจะขนาดนี้ทำไมไม่โทรหากันเองจะโทรตามเขาออกมาทำไมกกัน
“เมื่อกี้นายพูดแค่ว่าโฮวอนคงพาไปนอนแล้ว”ซองกยูมองร่างบางอย่างจับผิด
“โอ๊ย ฉันไม่รู้โว๊ย
แต่รู้ไว้นะพี่ชายฉันไม่ใช่นายไม่ทำอะไรอุบาทๆหรอก”ซองจงตะคอกเสียงดังแล้วลุกขึ้นเดินหนีแต่ก็ถูกมือหนาคว้าไว้
“ถ้าฉันอุบาทพี่ชายนายก็โครตๆเลยแหละ
จำไว้ถ้ามยองซูเป็นอะไรไปทั้งครอบครัวนายไม่มีความสุขแน่”กัดฟันพูดอย่างสุดทนแล้วชี้หน้าบอกร่างเล็ก
“เพื่อนฉัน ฉันดูแลได้และมันไม่เกี่ยวกับครอบครัว
มยองซูจะเป็นอะไรแค่มานอนบ้านฉัน”ซองจงก็ตะคอกกลับอย่างสุดทน
นี้ไม่ไว้ใจกันเลยหรอไง
ถึงพี่ชายของเขากับมยองซูจะไม่ถูกกันตั้งแต่ที่พวกเขาจำความได้แต่ซองจงและมยองซูก็สนิทกันมานานแล้วเค้าจะกล้าทำอะไรเพื่อน
“เออ ก็ดี”ซองกยูสะบัดข้อมือเล็กที่ตนกำแน่นเมื่อครู่ออกอย่างไม่ใยดีแล้วเดินจากไปโดยทิ้งให้ร่างเล็กยื่นมองอย่างไม่รู้จะทำอะไร
ตอนนี้ในหัวของซองจงไม่มีอะไรเลย เขาคิดไม่ตกว่ามยองซูจะเป็นอะไร
พี่ชายเขาน่ะไม่ใจร้ายถึงขนาดทำอะไรมยองซูที่ไม่รู้เรื่อง
“ถ้าเกลียดกันนักก็ไปจัดการกันเองสิ
พวกฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย ฮึก”ซองจงฟุบหน้าร้องให้บนพื้นหญ้าอย่างไม่อายใครและไม่มีใครให้อาย
ซองกยูทำเหมือนรังเกียจเขาทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด
แค่มยองซูมาอยู่กับเขาทำไมมันถึงปัญหาเยอะจัง มยองซูกับพี่โฮวอนก็ดูจะเข้ากันได้
เขาไม่เห็นว่าพี่ชายเขาจะเอาความบาดหมางกับซองกยูมาทำร้ายมยองซูเลย
แต่ทำไมกับผู้ชายเลือดเย็นคนนี้ถึงได้พูดไม่ไว้หน่เขาเลย เกลียดอะไรพวกเขานักหนา
ก่อนที่เขากับมยองซูจะเกิดมันมีอะไรงั้นหรอ
ความคิดเห็น