ตอนที่ 2 : เสี้ยววินาที
อองตวนยอมกลับประเทศของตัวเองแต่ไม่วายส่งให้คนของตนออกตามสืบเจ้าหญิงศิรินทันทีเมื่อถึงประเทศไทย
ทางด้านน้ำทิพย์ คุณหมออาสาออกค่ยรักษาประชาชนคนยากไร้ซึ่งฐานะตัวเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเป็นคนมีเมตตาจิตใจอ่อนโยนแต่ทว่าความรักของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะราบรื่นเท่าไหร่นัก
นาฬิกาตีบอกเวลา 6.00 น ตามเวลากรุงเทพมหานคร น้ำทิพย์เอื้อมมือไปคลำนาฬิกาปลุกที่วางไว้ข้างๆหัวเตียงแล้วบิดขี้เกียจไปมาพร้อมค่อยๆลุกขึ้นนั่งเอามือสองข้างขยี้ผมตัวเองไปมาก่อนที่จะขยับร่างกายอันสูงโปร่งลุกจากที่นอนน้ำทิพย์อาบน้ำอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่เกิน 20 นาทีดูแตกต่างจากศิรินลึกลับ
เสียงโทรศัพท์ดังมาแต่ไกล น้ำทิพย์เก็บของลงกระเป๋าสะพายใบเล็กๆพร้อมสวมเสื้อคอปกกางเกงที่ใส่ทะมัดทะแมงและรีบคว้ามือถือคุยกับปลายสาย
“โทรมาปลุกบีแบบนี้ทุกเช้าไม่เบื่อเหรอคะพี่แกน” ราศรีรุ่นพี่คนสนิทที่เรียนมาด้วยกันโทรมาปลุกน้ำทิพย์ทุกวันและทุกครั้ง
“แล้วถ้าพี่ไม่โทรมาปลุกบๆบีจะตื่นไหมคุณหมอขี้เซา” น้ำทิพย์อมยิ้มกับการแหย่เล่นของราศรีน้ำทิพย์มองว่าราศรีคืออรุ่นพี่ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเขาที่เขาเคยรู้จักมาและราศรีกำลังตามจีบน้ำทิพย์อยู่แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจเลยซักนิดน้ำทิพย์ขึ้นรรถเมลล์ออกไปทำงานเหมือนเดิมเป็นประจำทุกวัน
ณ โรงแรมส่วนตัวแห่งหนึ่งที่ศิรินไปพักเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดของกรุงเทพไปมหานคร ยามเช้าของประเทศไทย พลอย หอวัง น้องสาวของอีกคนโทรเข้าหาที่มือถือของศิรินวางไว้ที่หัวนอน ศิรินเอามือควานหาต้นตอของเสียงมือถือตัวเองศิรินเอามือกดรับสายก่อนเอามือถือแนบหู
“ว่าไงพลอยมีอะไรโทรมากวนพี่แต่เช้าพี่มาพักผ่อนนะพลอย”
น้องสาวคนเล็กกรอกตาไปมาแล้วหมุนปากตัวเองซักพักก่อนตัดสินใจเอ่ยปากกับพี่สาว
“พี่หญิงพลอยมีเรื่องอะไรจะบอกพี่หญิง”
“เรื่องอะไรถ้าเป็นเรื่องอีตาเจ้าชายอองตวนอะไรนั่นไม่ต้องเลยนะฉันจะนอน” ศิรินกำลังจะกดวางสายเสีงน้องสาวที่รักดังต่อ
“ใช่ก็ได้ค่ะแต่เหมือนเด็จปู่จะให้เขากลับไปแล้วนะพี่คริสอีกเรื่องงานหมั้นพี่คริสเด็จปู่จะรอให้พี่คริสกลับมาก่อนพลอยว่าคนนี้ดูดีนะแม่เขาดูออกจะตามใจแม่นะนิสัยก็ดีแถมหวานเก่งอีกตังหาก”
พลอยเชียร์ศิรินสุดใจศิรินแว๊ดเข้าสายน้องสายและดูเหมือนจะตื่นเต็มตากับชุดนอนที่ตัวเองใส่อยู่ตอนนี้เป็นชุดเดรชตราราชวงศ์ที่น้องสาวดีไซน์ให้เมื่อคริสมาสต์ปีกลายที่ผ่านมา
“พลอย!!! พี่บอกแล้วใช่ไหมถ้าเรื่องอีตานั่นไม่ต้องพูดไม่ต้องชงอะไรทั้งนั้นเพราะพี่ไม่ต้องการไม่ได้อยากแต่งงานกับเจ้าชายเข้าใจป่ะ อีกอย่างถ้าแกชอบนักฉันยกให้ไม่ต้องโทรมากวนเลยนะถ้าเป็นเรื่องนี้”
พาลอยขำคิกๆใส่ปลายสาย
“โอเคเพคะท่านพี่น้องไม่กวนแล้วทูลลา”
พาลอยตอบพี่สาวกวนๆเพราะไม่อยากให้พี่สาวตัวเองบ่นต่อจนหูชาเลยตัดสินใจวางสายใส่พี่สาวตัวเองศิรินโวยวายหนักกว่าเดิม
“น้องบ้า อย่าให้เจอตัวนะจะจับให้หมั้นกับไอ้เจ้าชายบ้านั่นไปเลย ไม่ว่าจะคนไหนก็ชงให้ฉันหมดพลอยนะพลอย”
ศิรินบ่นไม่เลิกพร้อมยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกัน วุ้นเส้น รับสายเพื่อนสนิท
“มีอะไรให้ข้าบาทรับใช้เพคะท่านหญิง” เสียงตามสายกรอกมาที่หูอีกคน
ศิรินลงจากเตียงนอนแล้วเข้าไปอาบน้ำแต่งตังพร้อมคุยสาย
“มีว่ะแกแต่ไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์กับฉันได้ไหมวะคะแกอยู่ไหน”
“ไอเหรอ ไออยู่คอนโดแกมาไทยแล้วเหรอวะเรื่องอะไรอีกล่ะอย่าบอกนะว่าดูตัวอีกแล้ว”
ดูเหมือนว่าวุ้นเส้นจะพูดแทงใจดำเพื่อนสาวเข้าอย่างจังโดยที่อาจจะดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ
“เอ่อก็เรื่องเดียวจะมีอะไรล่ะปู้ฉันจะให้ฉันหมั้นด้วยนะรอบนี้เอาไงดีวะแกฉันไม่อยากเป็นเจ้าหญิงแล้วว่ะเบื่อ เบื่อมันทุกอย่างตอนเรียนไทยกับแกยังสนุกกว่านี้อีกได้ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไป แต่อยู่บ้านเหมือนกรงทองดีๆนี่เอง”
วุ้นเส้นเข้าใจเพื่อนตัวเล็กดี เลยทำได้แค่ปลอบใจคำปลอบใจของวุ้นเส้นทุกครั้งมันอาจจะได้ผลแต่ครั้งนี้มีงานหมั้นเข้ามาเกี่ยวข้องมันจะปลอบใจคนตัวเล็กได้เหมือนเดิมหรือเปล่า
“เอาน่ะแกแกก็ควรจะชินได้แล้วไหมวะทุกครั้งเวลาแกดูตัวฉันบอกแกไว้ว่าไงวะเพคะ”
ศิรินกรอกตาไปมมาแล้วถอนหายใจก่อนตอบเพื่อนสาวไปว่า
“แกบอกว่ามันเป็นหน้าที่และฉันเกิดมาเป็นเจ้าหญิงนี่คือหน้าที่อันสำคัญของเจ้าที่ทุกประเทศต้องทำชัดพอไหม และฉันรู้กฏเกณฑ์นี้ดีว่ามันเป็นยังไงแต่แกเจ้าหญิงก็มีหัวใจหรือเปล่า”
ศิรินอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จแล้วเอากุญแจไปเอารถจากัวร์ออกไปขับรถเล่นและรถที่ประเทศไทยก็แสนจะติดโดยเฉพาะเวลาเช้า ครั้นวุ้นเส้นได้ฟังเพื่อนตัวเล็กสบทออกมาถึงกับพูดต่อไม่ออก
“หรือฉันเป็นเจ้าหญิง ห้ามคิด ห้ามตัดสินใจ ทำตามใจตัวเองไม่ได้เลยเหรอวะแกแกเข้าใจไหมฉันไม่ได้อยากหมั้นไม่ได้อยากปกครอง ไม่ได้อยากหมั้นหรือแต่งงานกับเจ้าชายแกเข้าใจไหม”
เสียงสะอื้นของคนตัวเล็กที่แบกภาระของประเทศอันหนักหน่วงเอาไว้เพียงคนเดียวมันทำให้น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาไม่รู้ตัว ศิรินพยายามตั้งสติแล้วขับรถไปหาเพื่อนรักเพียงคนเดียวที่ไว้ใจกันทุกเรื่อง ตอนนี้ศิรินต้องการใครสักคนคอยดูแลและปลอบใจคอยอยู่ข้างๆศิรินดูเหมือนเป็นคนที่เข้มแข็ง เป็นคนแข็งกระด้าง แต่เรื่องหัวใจศิรินอ่อนแอและต้องการใครสักคนที่เป็นรักแท้รักตัวตนของเธอที่เธอเป็น ศิรินไม่ใช่เจ้าหญิงดูเหมือนศิรินจะระบายความรู้สึกทุกอย่างออกมากับเพื่อนจนเกือบหมด
“แกใจเย็นๆนะค่อยๆขับรถมานะแกถ้ามาถึงแกโทรหาฉัน” ศิรินยังคงสะอึกสะอื้น
“แกอยู่ในสายกับฉันตลอดเวลาได้ไหมวะฉันไม่ไหวว่ะ” ศิรินวางมือถือไว้หน้ารถ และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น รถเมลล์คันที่น้ำทิพย์นั่งมานั้นคนขับหลับในแล้วพุ่งตรงมาทางรถคันสวยของศิรินเต็มๆ
“เอี๊ยด ปั้ง” เสียงรถชนกันสอดแทรกเข้าสายของวุ้นเส้นเข้าอย่างจังวุ้นเส้นร้องเสียงหลงแล้วพยายามถามเพื่อน เพราะเสียงที่ลอดตามออกมาคือเสียงกรี๊ดของสาวหมวย
“แกไอ้หมวยแกเป็นอะไรรึเปล่าวะแกแกไอ้หมวย”
เสียงของวุ้นเส้นพยายามถามเพื่อนสาวอีกคน ศิรินกำลังร้องไห้เสียใจอย่างหนักเลยไม่ได้สังเกตุว่ามีรถคันใหญ่พุ่งมาตรงหน้า แต่ก็ยังคงร้องกรี๊ดเมื่อตั้งสติก่อนรถพุ่งเข้าชนรถตัวเองภายใน 3 วินาที สุดท้าย รถคันงามของศิรินไว้พลิกคว่ำลง และตัวเองนั้น ยังอยู่ในรถ คนในรถเมลล์ที่ปลอดภัยไม่บาดเจ็บได้ทยอยลงมาจากรถเมลล์คันนั้นรวมถึงน้ำทิพย์ด้วย ตำรวจได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากพื้นที่จนหมด เหลือเพียงแต่หญิงสาวภายในรถจากัวร์
น้ำทิพย์เดินเข้าไปดูใกล้ๆด้วยความอยากรู้อยากเห็นและเพื่อเธอจะช่วยอะไรได้ในความเป็นหมอของเธอ
“พี่แกนคะแค่นี้ก่อนนะคะพอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะเดี๋ยวบีโทรหาใหม่นะคะ” ราศรี ถามคนที่ตามจีบว่า
“บีไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะเมื่อกี๊พี่เหมือนได้ยินเสียงอะไร”
น้ำทิพย์จำใจต้องตอบอีกคน
“ใช่ค่ะเมื่อกี๊คนขับรถเมลล์เขาหลับในเลยชนกับรถจากัวร์คันสีเขียวอ่อนๆเดี๋ยวบีโทรกลับนะคะพี่แกนและบีปลอดภัยดีค่ะ”
น้ำทิพย์รีบวางสายจากอีกคนเพราะหากไม่วางคงโดนบ่นอีกยาวน้ำทิพย์เห็นตำรวจมุงร่างอีกคนหลังจากที่ช่วยออกมาได้ ร่างหญิงสาวมีรอยแผลเต็มตัวพร้อมรอยไหม้ของเปลวควัน น้ำทิพย๘มวดคิ้วแล้วพินิจมองร่างหญิงสาวไปมา
“ถอยออกไปก่อนนะครับคุณเข้าไม่ได้นะครับ” ตำรวจหนึ่งนายหันมาบอกน้ำทิพย์ น้ำทำย์เอาใบประกอบการแพทย์ให้ตำรวจดู
“พอดีฉันเป็นหมอค่ะให้ฉันช่วยนะคะ” ตำรวจนายหนึ่งพยักหน้า
“เชิญครับ” น้ำทิพย์โทรเรียกรถพยาบาลจากโรงพยาบาลที่ตัวเองกำลังทำอยู่เมื่อรถพยาบาลมาถึงจุดเกิดเหตุ บุรุษพยาบาลได้นำร่างหญิงสาวลงเปลแล้วเอาขึ้นรถไปทันที น้ำทิพย์ขึ้นรถไปตามและเอาเครื่องช่วยหายใจครอบอีกคนไว้ น้ำทิพย์เอาอีกมือกุมมือศิรินไว้แล้วบีบเบาๆ
“อย่าเป็นอะไรนะคะอดทนนะจะถึงโรงพยาบาลแล้วฉันจะรักษาคุณเอง”
น้ำทิพย์มองพิจารณาร่างสาวหมวยที่นอนหลับและมีรอยแผลเต็มร่างกายอยู่เบื้องหน้า น้ำทิพย์มองพินิจอยู่นานทำไมสาวหน้าหมวยคนนี้มีแต่รอยคราบน้ำตาพร้อมลมหายใจที่อ่อนแรงเต็มที น้ำทิพย์สบทในใจ “ไม่ต้องกัลวลนะฉันจะรักษาเธอเอง”
.
.
.
............จบตอน............
จบไปแล้วอีกตอนเป็นยังไงบ้างคะสนุกกันหรือเปล่า
เจ้าหญิงเอาแต่ใจได้เจอคุณหมอบีแล้วแต่จะรอดไหม
รอติดตามนะคะ เร็วๆนี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

12 ความคิดเห็น
-
#2 ฟินิกซ์สีแดงเพลิง (จากตอนที่ 2)วันที่ 31 มีนาคม 2563 / 09:02งื้อออออ หมอบีมาช่วยรักษาเจ้าหญิงเร็วๆนะคะ อย่าเป็นอะไรไปนะ ไรท์รีบมาต่อเร็วๆนะ#20