คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 00 | Prologue
The Air Force | kookv
Prologue
ในยุคโลกาภิวัตน์ที่หลายสิ่งหลายอย่างถูกพัฒนาขึ้นจากมันสมองของมนุษย์
หล่อหลอมให้เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้คน เทคโนโลยีได้เข้ามาบทบาทในทุกๆ
ด้านไม่เว้นแม้แต่ด้านวงการแพทย์ที่มีเหล่าอัจฉริยะค่อยพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ให้การรักษาทางการแพทย์มีความเจริญก้าวหน้าอยู่เสมอ
ดังนั้นผู้คนจึงมีความจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน
ความคิดเปลี่ยน ผู้คนก็เปลี่ยนเช่นเดียวกัน ลำดับชั้นบนห่วงโซ่อาหารมีการปรับเพื่อความอยู่รอด
ผู้ที่เคยอยู่ชนชั้นฐานล่างของพีระมิดเพียรพยายามที่จะยกตนให้เปรียบเท่าชนกลาง
หรือบางส่วนก็มีโอกาสก้าวล้ำแซงหน้าขึ้นไปอยู่บนยอดพีระมิดเปรียบเท่าผู้ที่เป็นเจ้าของจุดนั้นมาตั้งแต่กาลก่อน
แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแต่ทว่าการที่มีโอเมก้าบางส่วนมีความรู้ ความสามารถ
ร่วมถึงความกล้าหาญ
จนสามารถปีกกล้าขาแข็งขึ้นมาทัดเทียมกับเหล่าเจ้าของพื้นที่บนยอดพีระมิดอย่างอัลฟ่า
ก็ยังเห็นเป็นที่ประจักษ์ในสังคมปัจจุบันไม่น้อยเลยทีเดียว
เพราะธรรมชาติได้เล่นตลกกับชีวิตของผู้คนด้วยการกำหนดสถานะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเอาไว้แล้วว่าผู้ที่อยู่บนยอดพีระมิด
อย่างอัลฟ่าย่อมเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ
ด้วยความสามารถที่เพียบพร้อมและเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
รวมทั้งรูปร่างหน้าตาที่ราวกับเป็นลูกรักของพระเจ้าที่คัดสรรแต่สิ่งดีๆ มาให้จนกำเนิดเป็นอัลฟ่า
แต่ถึงอย่างไรธรรมชาติก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับพระเจ้าไปเสียทุกอย่าง
จึงได้กำหนดโชคชะตาแห่งความเป็นคู่ชีวิตระหว่างอัลฟ่ากับผู้คนในชนชั้นต่างๆ เอาไว้
เพื่อคงไว้ซึ่งสมดุลแห่งธรรมชาติ
และจุดอ่อนของอัลฟ่าก็คือกลิ่นกายอันแสนหอมหวานของโอเมก้า ...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอเมก้าที่โชคชะตากำหนดมาให้เป็นคู่ชีวิตของกันและกัน
เบต้าถือว่าเป็นประชากรที่มีจำนวนไม่มากไม่น้อย
เพราะเป็นประชากรที่ครอบครองพื้นตรงส่วนกลางของพีระมิดแห่งชนชั้น
สำหรับเบต้านั้นถือว่าไม่ต่างอะไรกับบุคคลธรรมดาที่ใช้ชีวิตประจำวันไปตามวัฏจักรกาลเวลาแห่งชีวิต
เบต้าไม่ได้มีจุดเด่นที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นผู้นำเหมือนกับอัลฟ่า
และก็ไม่ได้จุดอ่อนเฉกเช่นอัลฟ่าเหมือนกัน
ในส่วนของประชากรที่ถูกจัดเป็นฐานของพีระมิดตั้งแต่กำเนิดอย่างโอเมก้า
พวกเขาต่างนึกน้อยใจในพระเจ้าและธรรมชาติมาตั้งแต่อดีตกาล ด้วยเหตุเพราะโอเมก้านั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ให้กำเนิด
ไม่ต่างโอเมก้าตนนั้นจะเกิดมามีเพศสภาพเป็นหญิงหรือชาย
พวกเขาก็ต่างมีความสามารถในการให้กำเนิดด้วยกันทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลักษณะทางกายวิภาคของเหล่าโอเมก้านั้นแลดูจะอ่อนแอ และน่ารังแก
รวมถึงน่าเหยียดหยามไปเสียหมดในสายตาผู้ที่อยู่ในชนชั้นสูงกว่าของพีระมิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาของอัลฟ่า
ผู้คนต่างรู้ดีว่าในอดีตกาลโอเมก้านั้นถูกเหยียดยามศักดิ์ศรีมากถึงเพียงไหน
มิเช่นนั้นคงไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏตราหน้าอยู่หรอกว่าโอเมก้าคือแหล่งสนองตัณหาให้กับเหล่าอัลฟ่า
และเบต้ารักสนุกบางส่วน โดยในทุกๆ เดือนเมื่อรอบฤดูฮีทเวียนมาบรรจบ
กลิ่นฟีโรโมนเฉพาะตัวของโอเมก้าจะส่งกลิ่นหอมหวานชวนปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบในตัวอัลฟ่าให้แตกกระเจิงออกมาจากม่านศีลธรรม
ไม่ว่าอัลฟ่าคนนั้นจะเป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรมประหนึ่งนักบวชมากขนาดไหน
ก็ไม่อาจทนฝืนกฎธรรมชาติข้อนี้ได้
เช่นเดียวกันกับโอเมก้าที่จะโหยหาการได้รับการตอบสนองจากอัลฟ่าเป็นพิเศษ
หากแต่มีโอเมก้าจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ถูกเหล่าอัลฟ่าตีตราจองบนร่างกายโดยไม่ใช่คู่ชีวิต
ซึ่งเป็นสิ่งที่เหล่าโอเมก้าหวาดกลัวกันมากที่สุดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
เพราะการถูกตีตราหมายถึงการผูกชีวิตของตัวเองไว้กับอัลฟ่าตัวนั้น
และจะไม่สามารถมีใครใหม่ได้อีกแล้วแม้ว่าจะไม่ได้รับการดูดำดูดีหรือถูกอัลฟ่าตนนั้นทอดทิ้งไปก็ตาม
เหมือนเป็นโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นพันธนาการชีวิตเอาไว้ตราบเท่าที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดไป
ดังนั้นในเมื่อยุคสมัยแปรเปลี่ยนไป
เทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น
มนุษยชาติเริ่มคำนึงถึงความเท่าเทียมกันมากขึ้น
โอเมก้าหลายคนจึงหันหน้าเข้าหาตัวช่วยทางการแพทย์ที่ทำให้เก็บซ่อนจุดอ่อนของโอเมก้าได้อย่างแยบยล
ด้วยการฉีดเซรุ่มกดความเป็นโอเมก้าเอาไว้ โดยเซรุ่มนี้จะกดกลิ่นกายของโอเมก้าไม่ให้แสดงออกมา
และนอกจากนี้ยังทำให้โอเมก้าไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอากาศฮีทอีกด้วย
แต่ทว่าไม่มีสิ่งใดที่ฝ่าฝืนกฎของธรรมชาติแล้วจะไม่ได้รับผลเสีย
...
ริมฝีปากบางเม้มปากแน่น
นัยน์ตาสีเดียวกับน้ำทะเลสั่นไหวและเคล้าคลอไปด้วยหยาดน้ำใส มือที่ถือแถบพลาสติกสีขาวสั่นเทาเช่นเดียวกับหัวใจดวงน้อยที่สั่นรัวจากถูกแรงกระตุ้นเพียงเพราะขีดสีแดงสองขีดที่ปรากฏขึ้น
ราวกับศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนมึนเบลอไปชั่วขณะ
ร่างบางทรุดตัวลงไปกับผนังที่ปูด้วยกระเบื้องลามิเนจของห้องน้ำในคฤหาสน์หรูพร้อมกับกอบกุมสิ่งที่อยู่ในมือแน่น
“... ปะ
เป็นไปได้ยังไง”
ฟันขาวขบกัดริมฝีปากเล็กมากขึ้น
พลางหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่นำพามาสู่เหตุการณ์ตอนนี้
พลันหยาดน้ำตาก็ไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้
สาบเสื้อคลุมอาบน้ำที่สวมอยู่ถูกแหวกออก
ฝ่ามือเรียวแตะสัมผัสไปตามร่องรอยที่ถูกฝากฝังเอาไว้บนหลังคอ –
รอยแผลเป็นที่แสดงเอาไว้ว่าชีวิตของเขาได้ถูกอัลฟ่าพันธนาการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะความดื้อดึงของเขาเอง
ทั้งๆ ที่หมอก็เตือนว่าหากเขาดันรุรังใช้เซรุ่มกดความเป็นโอเมก้าตัวเองอีกต่อไป
ธรรมชาติจะลงโทษเขาด้วยการทำให้ร่างกายดื้อยา แล้วเหตุการ์ณเช่นนี้ก็อาจจะเกิดขึ้น
เพราะร่างกายของคนที่เกิดมาเป็นโอเมก้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ให้กำเนิด
แม้จะถูกเซรุ่มกดความเป็นโอเมก้าเอาไว้แต่ทว่ายังไงเสียร่างกายก็ไม่ยินยอมให้วิวัฒนาการทางการแพทย์มาฝ่าฝืนกฏแห่งธรรมชาติได้นานนักหรอก
เพราะเมื่อเริ่มใช้เซรุ่ม
ร่างกายก็จะค่อยๆ ปรับตัวทำให้เกิดการดื้อยาอย่างช้าๆ ดังนั้นเมื่อใช้เซรุ่มไปนานๆ
จึงแพทย์จึงจำเป็นต้องปรับขนาดยาให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ยาคงความสามารถในการกดความโอเมก้าเอาไว้
และเมื่อถึงจุดที่ร่างกายมีการดื้อยาสูงสุด การฉีดเซรุ่มกดความเป็นโอเมก้าก็จะไม่ได้ผลอีกต่อไป
และในทางกลับกันมันจะยิ่งกระตุ้นให้ความเป็นโอเมก้าที่ถูกกดเอาไว้มานานหลายปีระเบิดฟุ้งออกมา
เป็นผลทำให้สมองส่วนหน้าถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง
เมื่อรอบฤดูฮีทมาถึงอาการฮีทที่เกิดขึ้นจะแสดงออกมาอย่างรุนแรงเสียจนแต่เดิมทีที่โอเมก้าในช่วงฤดูฮีทที่ควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว
ก็ยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ไปจนถึงขั้นร่างกายไม่รับรู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองบ้างในระหว่างนั้น
แม้แต่ยาระงับฮีทที่ออกฤทธิ์แรงที่สุดก็ไม่อาจยับยั้งความโหยหาสัมผัสจากอัลฟ่าได้
เว้นเสียแต่ว่าโอเมก้าตนนั้นจะได้รับการเติมเต็มจากอัลฟ่าที่เป็นคู่ชีวิตกัน
และเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับผลเสียของการใช้เซรุ่มนั้นเพราะความดื้อดึงของตัวเองที่คิดเข้าข้างตัวเองว่าร่างกายยังสามารถรับไหว
จนกระทั่งงานเลี้ยงคืนนั้น –
คืนที่เขายินยอมมอบกายและใจให้กับคนเป็นคู่ชีวิตอย่างสมบูรณ์
เมื่อไม่อาจต้านทานฝืนกฎของธรรมชาติได้อีกต่อไป
เขาจึงที่จะปลดปล่อยกายและใจไปตามสัญชาตญาณ ยอมถูกคู่ชีวิตตีตราพันธนาการแม้ว่าคนๆ
จะจดจำอะไรในคืนนั้นไม่ได้เลยก็ตาม …
รอยแผลเป็นตรงหลังคอคือหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชีวิตของเขาได้ถูกครอบครองเอาไว้แล้ว
ขีดสองขีดสีแดงที่ปรากฏเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตอนนี้ในร่างกายของเขาได้มีสิ่งมีชีวิตอันแสนบริสุทธิ์กำหนดขึ้นจากสายเลือดของเขาและคนเป็นคู่ชีวิตแล้ว
คล้ายจะดีใจแต่ทว่ากลับดีใจไม่ออก
เพราะไม่เพียงพ่อของลูกจะไม่ได้รับรู้ว่าตอนนี้เขากำลังอุ้มท้องอยู่ แต่คนๆ
นั้นยังไม่รู้อีกว่าแท้จริงแล้วเขานั้นไม่อัลฟ่าอย่างที่เจ้าตัวเข้าใจ
แต่กลับเป็นโอเมก้าที่เก็บซ่อนความอ่อนแอของตัวเองเอาไว้ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์
… และไม่แม้แต่จะรู้ว่าพวกเราเป็นคู่ชีวิตกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
มันเป็นความผิดพลาดที่เขาและคนๆ นั้นไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น – ดังนั้นในเมื่อมันเป็นความผิดพลาด
เขาจะไปกล้าเรียกร้องความรับผิดชอบจากฝ่ายได้ยังไงกัน ...
แล้วอีกอย่างด้วยหน้าที่การงานและหน้าตาในสังคมที่เขาอยู่ตอนนี้
เขาก็ยังไม่พร้อมกับการเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วตัวเองเป็นโอเมก้า
เพราะเขาไม่อยากกล้าเป็นจุดอ่อนให้พ่อของเขาต้องลำบากใจกับสังคมไม่ยอมรับการเชิดหน้าชูตาของชนชั้นต่ำสุดในพีระมิด
ฝ่ามือสั่นเทาแตะลงบนหน้าท้องที่อยู่ภายใต้สาปเรื่องคลุมอาบน้ำ
ก่อนที่รอยยิ้มบางเบาจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ใครหลายคนบอกว่างดงามไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตา
ค่อยๆ แตะสัมผัสลงไปอย่างแผ่วเบาเพื่อส่งผ่านความอบอุ่นยังเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในนั้นก็จะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถึงเรื่องคืนนั้นจะเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาด
แต่หม่ามี๊ดีใจที่ลูกเกิดมา”
To be continue
Talk
เอาบทนำเรื่องใหม่มาเปิดเจิมแล้วงับบบบ คิดพล็อตเก่ง เปิดเรื่องใหม่เก่งเหลือเกิน 55555 ;-; เอางี้ฮะมาคุยกันก่อน ต้องบอกเป้าหมายอันใกล้ของแบมไว้ก่อนเลยว่าแบมกำลังเร่งแต่งฟิคเรื่องยาวให้จบและรวมเล่ม โดยจะมีเรื่องนี้กับกุกสวอนเลคนะคะ ดังนั้นอาจจะต้องเรสเรื่องอื่นไปก่อน แต่ไม่ทิ้งไม่เทแน่นอน สำหรับนี้เรื่อง เปิดเรื่องมาอาจจะงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูกนิดหน่อย แต่เป็นความตั้งใจของแบมที่จะยกพาร์ทนี้เปิดเรื่อง ยังไงฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยนะคะ
ร่วมพูดคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์ @BAMATTY_ หรือ #theairforceKV นะจ๊ะ
ความคิดเห็น