คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1 CHANGE | Start a new day with the new earth.
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
1 | เริ่มต้นวันใหม่กับอะไรที่เปลี่ยนแปลง
*เนื้อหาของตอนนี้ค่อนข้างแฟนตาซีแต่ไม่ตระการตา
ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการอ่าน
ผมเดินไปตามทางเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย บนทางที่คับแคบในโรงพยาบาลแห่งนี้ ไร้ซึ่งผู้คน ไร้ซึ่งเสียง ไร้ซึ่ง. . .ทุก ๆ อย่าง จะมีก็แต่ ‘ความสงสัย’ และ ‘ความกลัว’
“. . .”
ลากขามาจนสุดทาง. . .ประตูบานใหญ่ที่ถูกล็อกกลอนไว้อย่างแน่นหนาด้วยโซ่ตรวน กับไม้ที่ถูกตอกจนดูเหมือนเป็นการกักขัง
“อย่าเข้าไป คนตายอยู่ในนี้”
ผมหรี่ตา ก่อนที่จะอ่านข้อความที่ถูกเขียนด้วยของเหลวสีแดงสดที่ดูเหมือนจะเป็นเลือด มันหมายความว่ายังไงกัน. .
กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะพบกับป้ายที่ติดข้าง ๆ ประตูว่า
ห้องดับจิต. . .
‘กึก. . .’
‘กึก กึก กึก กึก กึก !’
สายตาของผมเปลี่ยนจุดสนใจไปที่ประตูอีกครั้ง บานประตูเหมือนกับถูกดัน. . .แล้วมันก็ถูกกระแทกด้วยอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ต้องการจะออกมาจากห้อง
“. . .”
กลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง ขาทั้งสองข้างของผมเริ่มที่จะสั่นแต่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินออกจากจุดนั้น เหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาตามใบหน้าและฝ่ามือ
‘ตึง ! ตึง !’
ประตูถูกกระแทกแรงมากขึ้นจนมันแทบจะพังออกมา แต่ก็ถูกต้านไว้ด้วยโซ่ตรวนกับไม้ที่ปิดผนึกไว้อยู่
“. . .”
ผมยังคงยื่นแข็งทื่อ อยากจะออกไปจากตรงจุดนี้แทบแย่แล้ว แต่ขากลับไม่ทำตามที่สมองผมคิดเลย
“. . .”
ความกลัว และ ความตกใจเพิ่มสูงมากขึ้น เมื่อช่องว่างระหว่างประตูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเล็ดลอดออกมา
“อ. . .อา”
ผมเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น มันคือ มือ. . .มือแห้งกร้านที่ซีดเซียวเหมือนไร้เลือดมาหล่อเลี้ยง ผิวหยาบที่ถลอกปลอกเปิก ค่อย ๆ ลอดออกมาตามช่องว่าง
‘ครืด. . .’
เล็บจิกลงบนประตูก่อนที่จะลากครืดเป็นทางยาว ขนของผมลุกชันกับสิ่งที่ได้เห็น ริมฝีปากของผมสั่นเทาจนบังคับไม่ได้
มือแห้งกร้านนั่นยังตะเกียดตะกายเหมือนกับต้องการจะออกมาจากการกักขังนั่น แต่มันไม่ได้มือแค่มือข้างเดียว
แต่มันมีเป็นสิบ ๆ ข้าง. . .
“น. . .นี่มัน. .เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ภาพของมือที่ตะเกียดตะกายที่พยายามจะไขว่คว้าอะไรบางอย่างนั่น ทำเอาผมถึงกับต้องถอยให้ห่างจากประตูมากไปกว่าเดิม
“. . .”
สัญชาตญาณของผมบอกกับผมว่าต้องหนี ผมพยายามรวบรวมสติก่อนที่จะรีบสาวเท้าวิ่งออกจากจุดนั้นทันที วิ่งไปตามทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวและเลือด
วิ่งไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ?
ผมวิ่งมาเรื่อย ๆ ก่อนที่จะหยุดอยู่ที่หน้าลิฟต์ ผมรีบวิ่งไปกดลิฟต์แต่มันก็ไม่ทำงาน ผมจึงเปลี่ยนแล้วมุ่งหน้าไปที่
ทางหนีไฟ
‘ปัง !’
มือหนาของผมผลักประตูออกอย่างแรง ก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากโรงพยาบาลทันที
“โอ้ย. . .”
แผลที่สีข้างของผมทำเอาผมถึงกับโอดครวญ ความเจ็บปวดของมันทำผมชะงัก แต่คงจะไม่เท่ากับสิ่งที่ผมเห็น. . .ตอนนี้
‘ตึก. . .ตึก’
ก้าวขาทีละก้าวอย่างเหนื่อยล้า ลานกว้างที่ผมกำลังเดินอยู่นั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่า ศพ. . .ศพของผู้คนมากมายที่กองกันเต็มเรียงรายมากมาย กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้งทั่วบริเวณ ผมยกมือขึ้นมาปิดจมูกไว้ทันที สายตากวาดมองไปรอบตัว
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ศพ ศพ และก็ศพ ศพของผู้คนนับร้อยเรียงรายเต็มไปหมด ซึ่งแต่ละคนสภาพนั้นมันก็ไม่ได้สมบูรณ์เลยแม้แต่นิดเดียว
บ้างก็ไม่สามารถแยกได้ว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน บ้างก็ใบหน้าเน่าเฟะ บ้างก็ไร้ซึ่งดวงตา บ้างก็ทรวงอกถูกแหวกออก
แต่แทบทุกศพจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน. . .นั่นก็คือ
รอยถูกยิงที่หัว. . .
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย ?
“แฮ่ก แฮ่ก. . .”
ผมรีบจ้ำอ้าวออกมาจากบริเวณนั้น มองไปรอบ ๆ บริเวณถนนที่ไร้ซึ่งรถราและผู้คน ความสับสน และความสงสัยแล่นเข้ามาในหัว บวกกับความกลัวและตื่นตระหนกในตอนนี้ ทำเอาผมแทบจะบ้า
“. . .”
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะกลับไปที่คอนโดที่ผมกับพี่ชายของผม ‘คริส’ พักอยู่ด้วยกัน ซึ่งคอนโดแห่งนั้นก็ห่างจากโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่กี่เมตรนัก
เดินมาตามทางที่ไร้ซึ่งผู้คน ทุกอย่างดูปกติ ตึกราบ้านช่องยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง เว้นซะแต่ว่าไร้ซึ่งผู้คนก็เท่านั้น ความเงียบที่สงัดทำเอาผมรู้สึกใจคอไม่ดีเอาซะเลย
‘กึก กึก’
เดินจนมาถึงคอนโดที่พักกับคริสฮยอง. . .มันเงียบมาก ผมเดินเข้าไปในตัวคอนโด นิ้วเรียวกดลิฟต์แต่มันกลับไม่ทำงาน ผมเลยตัดสินใจขึ้นบันไดแทน
‘ตึก ตึก’
สาวเท้าขึ้นบันไดที่ละขั้นอย่างเอื่อยเฉื่อย ผมกับคริสฮยองเราพักกันอยู่ที่ชั้น 13 กว่าจะเดินถึงผมคงจะเหนื่อยลิ้นห้อยแน่ ๆ
ความเงียบ. . .มันคงจะเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอดตั้งแต่ผมฟื้นละมั้ง ? ที่แห่งนี้ไร้ซึ่งผู้คน ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความเงียบ ความกลัว และความสงสัย
“แฮ่ก. . .แฮ่ก”
ลากขาที่แทบจะไม่มีแรงขึ้นมาจนมาถึงชั้น 13 บนทางเดินทอดยาวที่ขนาบข้างด้วยประตูห้องพักเรียงรายตามทาง ไร้ซึ่งผู้คนตามเคย. . .
แต่รู้สึกเหมือนผมจะลืม. . .ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวตอนนี้ผมไม่มีอะไรเลย เงิน โทรศัพท์มือถือ กุญแจห้องพัก ไม่มีอะไรติดตัวเลยซักอย่าง
แล้วผมจะเข้าห้องได้ยังไง ?
ใช้ความคิดพลางเดินตรงไปที่ห้องของตัวเอง ห้องพัก 301 หยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องนั่น
‘ก๊อก ๆ’
เคาะประตูห้องไปสองสามที เพราะหวังว่าคนข้างในห้องจะออกมาเปิดประตู แต่เปล่าเลยสิ่งที่ผมได้รับกลับมามีเพียงความเงียบเท่านั้น
“ฮยอง ๆ นี่ผมชานยอลนะ เปิดประตูให้หน่อย”
ตะโกนเรียกแล้วเรียกอีก แต่ก็ไร้การตอบรับ
สุดท้ายผมก็เอื้อมมือไปคว้าลูกบิดประตู ก่อนที่จะลองหมุนมัน
‘แอ๊ด. . .’
ประตูเปิดออกตามที่ผมออกแรงดัน ห้องไม่ได้ล็อคหรอ ?
“. . .”
ผมก้าวเท้าเข้าไปในห้อง
“อ. . .อา”
ผมเบิกตากว้างกับภาพที่ได้เห็น ขาทั้งสองข้างลงไปกองกับพื้นทันที ผมล้มลงไปนั่งคุกเข่า ริมฝีปากของผมสั่นระริก ภาพตรงหน้าที่ผมเห็นนั้นทำให้ผมสับสน
“ฮ. . .ฮยอง”
เอ่ยเรียกเสียงแหบพร่า ก่อนที่น้ำใสๆจะร่วงลงมาอย่างช่วยไม่ได้
สภาพภายในห้องพักของผมมันไม่ต่างอะไรจากสนามรบขนาดย่อม ข้าวของโซฟากระจัดกระจายเกลื่อนกลาด คราบเลือดที่แปดเปื้อนตามผนัง กลิ่นคาวและกลิ่นเน่าเหม็นฟุ้งกระจายอยู่เต็มห้อง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครก็ได้ช่วยบอกผมทีเถอะ. . .
“ฮยอง. . .คริสฮยอง”
ผมพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะวิ่งเข้าออกห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ วิ่งไปทั่วห้องพักของตัวเอง แต่ก็ไม่พบคริสฮยองเลย. . .ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอย
“น. . .นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน. . .แน่”
ความรู้สึกเหมือนกับวิญญาณจะหลุดจากร่าง ผมนั่งลงบนโซฟาที่สภาพเละเทะสิ้นดี มือยกขึ้นมากุมหัว ก่อนที่จะขยี้หัวตัวเองแรง ๆ สายตาของผมกวาดไปทั่วห้องก่อนที่จะพบว่า
รูปของผมกับคริสฮยอง. . .หายไปจากชั้นหนังสือ
มันเป็นรูปที่ผมถ่ายกับคริสฮยองตอนเด็ก ๆ เราสองคนเป็นพี่น้องกัน. . .พ่อกับแม่ตายจากไปตั้งแต่ยังเด็ก ตลอดชีวิตผมก็มีแต่คริสฮยองที่เป็นทั้งพ่อ พี่ และเพื่อน. . .
แต่คริสฮยองหายตัว. . .ไป หรือว่าคราบเลือดในห้องนี้จะเป็นของ. . .
“ไม่จริง. . .”
ผมพยายามห้ามตัวเองไม่ให้คิดอะไรเลยเถิด ผมลุกขึ้นก่อนที่จะเดินลากเท้าออกไปนอกห้อง เพื่อหวังว่าจะมีใครซักคนที่จะให้คำตอบผมได้ว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ?
“. . .”
เดินออกมายืนหน้าห้องของตัวเอง มองซ้ายมองขวาไปตามทางเดินของคอนโด ก่อนที่จะพบใครบางคนกำลังยืนนิ่งอยู่ที่ห้องสุดท้ายของชั้นซึ่งมันก็ห่างจากผมพอสมควร
“คุณครับ !”
ผมตะโกนเรียก เขาคนนั้นค่อย ๆ หันหน้ามามองผม ก่อนที่จะสาวเท้ามาหาผม
แต่ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆ. . .
“. . .”
ฝีเท้าของคน ๆ นั้นไวขึ้น ผมเริ่มเห็นภาพของคนตรงหน้าชัดขึ้น แววตาของคนที่กำลังเดินเข้ามาหาผมมันแปลก ๆ มันเหมือนแววตา. . .ของนักล่า. .
‘ปัง !’
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดหรือพูดอะไร เสียงปีนจากที่ไหนซักแห่งดังขึ้น ก่อนที่คนๆนั้นจะล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น เลือดไหลออกมาจากศีรษะก่อนที่จะเจิ่งนองเต็มพื้น
นี่มันอะไร. . .กัน
‘ตึก ตึก ตึก’
เสียงฝีเท้าดังขึ้น ก่อนที่จะปรากฏร่างของใครอีกคน ที่กำลังวิ่งเข้ามาทางผม ในมือถือปืนพก ส่วนมืออีกข้างก็ถือกระเป๋าสะพายอยู่
“รีบเข้าไปในห้อง เร็วเข้า !”
ตะโกนบอกผมเสียงดังทันทีเมื่อเข้าใกล้ผมมากขึ้น ผมได้แต่ยืนนิ่งมองคน ๆ นั้นโดยไม่ปริปากอะไรออกมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำเอาผมประมวลแทบจะไม่ทัน สมองมันตื้อไปหมด
“รีบเข้าไปดิวะ !”
คนตรงหน้าผม ผลักผมให้กลับเข้าไปในห้องของตัวเองอย่างแรง ก่อนที่จะวิ่งตามเข้ามา แล้วรีบล็อกประตูห้อง
“นี่คุณ !”
ผมรีบเรียกคนที่กำลังมีท่าทีทุกข์ร้อนสุด ๆ
“หุบปาก อย่าเอะอะโวยวาย ไม่อย่างนั้นฉันเป่าหัวนายกระจุยแน่”
คนๆนั้นหันมาตวาดใส่ผม พร้อมกับยกปืนพกในมือขึ้นมาจ่อที่หน้า ใบหน้าของเขาดูโมโหสุดขีด ผมกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนที่จะพูดอะไรไม่ออก
“. . .ให้ตายเถอะเดี๋ยวมันต้องมาแน่ๆ”
“. . .”
“นี่. . .ช่วยลากโซฟามาตรงนี้ที”
หันมามองผมด้วยหางตา ก่อนที่จะเอ่ยสั่งเสียงเรียบ
อะไรของหมอนี่กัน. . .อยู่ดี ๆ ก็มาวางอำนาจใส่
“เร็ว ๆ”
ผมเบ้ปากทันทีที่ได้ยินคำสั่งย้ำ เดินไปลากโซฟาตัวเดี่ยวมาตามคำสั่ง
“ขวางประตูไว้”
“ทำไมต้อง . .”
“อย่ามัวแต่ถาม ลากมาขวางประตู เร็ว ๆ”
อะไรของเขากันนะ
“โอ้ย. . .”
ผมลากโซฟามาขวางตามคำสั่ง แต่อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่แผลตรงสีข้างขึ้นมาซะงั้น เผลอร้องโอดโอยออกไป นั่นทำเอาคนที่ยืนถือปืนข้าง ๆ ผมถึงกับเบิกตากว้าง
‘แกร่ก. . .’
กระบอกปืนถูกชักขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะมาจ่ออยู่ที่ข้างหัวของผม นั่นทำเอาผมถึงกับขนลุก
“ชุดผู้ป่วย ?”
“. . .”
“แผลที่สีข้างนั่นไปโดนอะไรมา ?”
“. . .”
“ฉันถามว่าไปโดนอะไรมา ตอบฉันมา ! เพราะถ้าแผลนั่นเกิดขึ้นเพราะนายโดนกัด ฉันคงปล่อยนายไว้ไม่ได้”
“โดนกัดหรอ ?”
“รีบตอบมาซะ. . .”
คนตรงหน้าของผมปลดเซฟตี้ออก ก่อนที่นิ้วเรียวจะเตรียมเหนี่ยวไก
นี่เขาคิดจะฆ่าผมเหมือนที่ฆ่าคนๆนั้นจริงๆหรอ ?
“เท่าที่จำได้. . .ก็แค่โดนยิง”
“. . .แค่นั้น ?”
“ใช่. . .”
ทันทีที่ผมตอบเขา ปืนกระบอกที่จ่อมาที่หัวก็ย้ายกลับไปอยู่ที่เดิม เขามองหน้าผมก่อนที่จะเก็บปืนกระบอกนั้นไว้ที่ข้างลำตัว เปิดกระเป๋าสะพายแล้วหยิบน้ำออกมาขวดนึง
“อ่ะ !”
โยนขวดน้ำนั่นมาให้ผม ก่อนที่จะเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาอีกตัวที่อยู่ลึกภายในห้อง
“. . .”
ผมมองขวดน้ำสลับกับเจ้าตัวที่เหมือนกำลังนั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว ผมเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาอีกตัวที่ตั้งอยู่ข้างๆ
“นี่. . .ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยจะได้มั้ยว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น...”
“นี่นายไม่รู้จริง ๆ งั้นหรอ ?”
“ไม่. . .เลยซักนิด”
ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว. . .
LOADING. . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ขอบคุณธีมสวย ๆจาก △ C R A Z E ˊ
ขอบคุณใครหลายคนที่หลงเข้ามาในตอนก่อนหน้านี้ และหวังว่าตอนนี้ก็จะหลงอีกครั้ง
เห็นมั้ยว่าเราบอกท่านแล้วว่าเนื้อหาตอนนี้มันแฟนตาซีมากๆ
ต้องใช้จักรยานเยอะๆ
ตอนนี้ใช้จุดเยอะด้วย เพราะคิดไว้แล้วว่า ทุกคนต้อง แดกจุด กับตอนนี้
เนื้อหาของเรื่องนี้บอกไปแล้วว่าไม่ใช่แนวนะ ระบุแนวไม่ถูกจริงๆ
อยากรู้ว่าต่อไปจะเป็นไงก็ติดตามกันต่อๆไป นะ
เราไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอน 0.99 % #เดี๋ยวนะ เพราะเราปั่นเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
อืม...ใครอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ บอกเราด้วยนะ จะกระโจนจูบรัวๆ
คือบ่นเยอะมากอ่ะ เงยหน้าขึ้นมาดู โหยกี่บรรทัดวะ จะมีคนอ่านหรอ 555555
เอาเป็นว่า สวัสดีปีไทย กันนะจ๊ะทุกคน
สุดท้าย
คือ คอมเม้นเป็นกำลังใจกันไป เราจะได้ปั่นไปมีแรงไป ฮึดๆฮ้าดๆ
ฝีดัน ฝันดี ซียูอะเกนเยสเตอร์เดย์ เจอปืน
ความคิดเห็น