บทที่ 1 : จอมเวทย์ธาตุดินและเม็ดพลังลมปราณที่หนึ่ง (3)
หลังจากปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปหลายนาที ในที่สุดดวงตาที่ปิดของชายหนุ่มก็เปิดขึ้น พร้อมด้วยประกายตาที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว เหมือนกับเขาตัดสินใจในเรื่องบางอย่างได้อย่างเด็ดขาดแล้วนั้นเอง
ในมือของเขาปรากฏศิลาจิตอสูรสีดำสนิทไม่มีแสงสะท้อนออกมาแม้แต่น้อย เขาจ้องมองมันสักพักก่อนจะกลืนมันเขาสู่ร่างกาย มันไหลลงไปตามลำคอก่อนที่มันจะละลายหายไปจนหมดสิ้น ภายในเม็ดพลังของเขาปรากฏร่างของหมาป่าสีดำขนาดใหญ่ขึ้น
ครรชิตหลับตาลงก่อนที่ดำดิ่งเข้าไปสู่เม็ดพลังมานาของเขา หมาป่าตัวใหญ่ที่มีสีดำทมิฬแผ่พลังกดดันทางมานาในระดับสองออกมา มันคือหมาป่าทมิฬสัตว์เวทระดับสอง มันมักจะปรากฏตามป่าต่างๆ หมาป่าทมิฬระดับหนึ่งจะมีขนสีเทาจางๆ แต่ตัวนี้มีขนสีดำสนิทมันคือหมาป่าทิมฬระดับสอง มันน่าจะใกล้เป็นระดับสามแล้วนั้นเอง
ครรชิตจ้องไปที่มันก่อนจะบังคับทะเลลมปราณที่สงบให้เกิดเป็นกลายโซ่หลายร้อยเส้น ที่ปลายโซ่แต่ละเส้นเป็นมีดสั้นสีทองตามสีของทะเลลมปราณ หมาป่าทมิฬที่เห็นดังนั้นมันก็พุ่งตัวออกไปในพื้นที่อื่นๆที่ไม่มีลมปราณไหลเวียนอยู่ เด็กหนุ่มจ้องไปยังหมาป่าที่พยายามดิ้นลนหาทางหลบหนี้ออกจากเม็ดพลังมานาของชายหนุ่ม
"แกหนีไปไหมไม่ได้หรอก ยอมจำนนเสียเถอะ" ชายหนุ่มจ้องไปมันอย่างนิ่งๆ ก่อนจะส่งโว่ลมปราณสีทองให้พุ่งไปรัดตัวของมันไว้
หมาป่าทมิฬหลบหลีกโซ่สีทองอย่างคล่องแคล่ว ถึงอย่างนั้นมันก็เริ่มถูกโซ่หลายร้อยเส้นสร้างบาดแผล และบางครั้งก็มีปลายโซ่บางเส้นปักเข้าไปในร่างของมัน แม้จะเริ่มถูกโซ่ทำให้อ่อนแรงแต่แววตาของมันก็ยังคงเต็มไปด้วยความต้องการสังหารอยู่ดี
โบ๊ว!!!~~
มันเงยหน้าขึ้นหอมอย่างไม่ยอมแพ้ มันหมุนวนและรวมมานาไปยังขาทั้งสี่ของมัน ดีดตัวเองพุ่งทะยานฝ่าโซ่ลมปราณเข้าไปยังชายหนุ่ม เมื่อเข้ามาใกล้ได้เกือบสิบเมตร ร่างกายของมันแทบจะไม่เหลือชิ้นดี แต่มันกลับไม่ร้องออกมาสักนิด มันเปลี่ยนมานาทั่วทั้งร่างให้กลายเป็นคมเขี้วพุ่งกัดกระชากไปยังชายหนุ่มที่ยืนมองดูมันอย่างสงบนิ่ง
"เกราะ!" โซ่มานานับพันเส้นถักทอกันเป็นเป็นโดมสีทองขนาดใหญ่ เพื่อปกป้องผู้เป็นนายไว้ด้านใน
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! ....
เสียงคมเขี้ยวเวทมนตร์นับสิบนับร้อยอันพุ่งชนกับเกราะโซ่ลมปราณสีทองของชายหนุ่ม มันค่อยๆลุกคืบได้ทีละเล็กละน้อย แต่เวลาผ่านไปไม่กี่อึดใจ คมเขี้ยวทั้งหมดก็สลายตัวไป มันไม่สามารถเจาะทะลุเกราะโซ่นี้ได้ มันจ้องมองมายังชายหนุ่มอย่างดุร้าย แต่ก็แฝงไปด้วยความยอมรับนับถือในพลังของคู่ต้องสู้ ครรชิตเห็นดังนั้นก็โบกมือครั้งหนึ่ง โซ่ลมปราณก็คลายตัวออกจนหมด ก่อนที่โซ่ชุดใหม่จะปรากฏขึ้น พวกมันพุ่งไปยังร่างของหมาป่าทมิฬที่นอนหมอบอยู่อย่างสงบ
โซ่แต่ละเส้นเริ่มปักไปบนร่างของหมาป่าทมิฬ มันค่อยลำเลียงลมปราณจากทะเลลมปราณเข้าสู่ร่างของหมาป่าทมิฬ ร่างของหมาป่าทมิฬเริ่มหดตัวลง จนกลายเป็นก้อนแสงสีดำสนิท มันเปล่งแสงออกมาเป็นระยะๆเหมือนจังหวะเต้นของหัวใจ ในเวลาเดียวกันทะเลลมปราณก็ค่อยๆลดระดับลง จากระดับหน้าอก ในตอนนี้มันเหลือระดับหน้าท้องเท่านั้นและยังลดลงไปเรื่อยๆ
ก้อนแสงเริ่มกลายเป็นของเหลวสีดำหนืดๆ มันมีการเคลื่อนไหวคลายหัวใจที่กำลังเต้น มันค่อยๆเกิดผลึกขึ้นที่ตรงกลางก้อนของเหลว มันเป็นผลึกทรงกลมสีดำส่องประกายจางๆ ของเหลวรอบๆผลึกค่อยๆถูกดูดเข้าไปในผลึก เช่นเดียวกันของเหลวสีดำก็เกิดขึ้นเรื่อยจากการที่ลมปราณค่อยถูกสูบเข้าไปนั้นเอง มันวนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้นานนับชั่วโมง
ในที่สุดโซ่ลมปราณที่เชื่อมต่อยู่กลับผลึกก็สลายหายไป ผลึกสีดำลอยวนเวียนอยู่รอบๆร่างกายของเด็กหนุ่ม ครรชิตที่เห็นผลึกสีดำหยุดการดูดพลังลมปราณ ก็ยกยิ้มแล้วเอื้อมมือเข้าไปคว้าผลึกนั้นมา มันเป็นผลึกสีดำที่ด้านในมีหมาป่ากำลังหลับอย่างสงบอยู่ด้านในผลึก เมื่อครรชิตส่งพลังลมปราณลงไปเล็กน้อย ผลึกก็ลอยออกจากมือแล้วกลายเป็นหมาป่าทมิฬตัวเดิม แต่ที่หน้าผากของมันปรากฏลูกแก้วสีดำหนึ่งลูกฝังเอาไว้ และรอบๆลูกแก้วปรากฏรอยสลักเป็นรูปแบบอาคมอย่างหนึ่ง
มันหอนออกมาคราหนึ่ง ก่อนที่มันจะหมอบลงตรงหน้าชายหนุ่ม ครรชิตลูบไปตามขนของมันอย่างนุ่มนวล เขาเล่นกับมันอยู่สักครู่
"นายท่าน โปรดตั้งชื่อให้ข้าด้วย" เสียงผู้ชายที่หยิ่งผยองดังขึ้นในหัวของชายหนุ่ม แต่เสียงที่ได้ยินข้างนอกกลับเป็นเสียงเห่าของสุนัขป่าเท่านั้น
"ดาร์ก" ครรชิตพุดออกไปทันที เนื่องจากเขาพอทราบอยู่แล้วว่า เมื่อหลอมจิตอสูรได้สำเร็จ เขาก็จะสามารถเข้าใจภาษาของพวกมันได้ และนอกจากนี้เขายังจะได้อายุขัยเฉลี่ยของสิ่งมีชีวิตนั้นมาเป็นของตัวเอง ทำให้ตอนนี้เขามีอายุอย่างน้อยสามร้อยปีเป็นอย่างต่ำ
"ข้าดาร์ก จะขอติดตามรับใช้นายท่านครรชิตไปจนสิ้นวัฏจักรสังขารนี้" ดาร์กหรือหมาป่าทมิฬก้มหัวให้ชายหนุ่มเล็กน้อย ก่อนที่มันจะหมอบไปบนพื้น
"เช่นนั้นก็ดี ข้าไปก่อนแล้วเจอกันใหม่ที่ด้านนอก" ครรชิตถอดจิตสัมผัสของตนออกจากเม็ดพลังมานาที่ด้านในมีหมาป่าจัวเขื่องนอนเล่นอยู่
ซู่~
เสียงน้ำล้นออกจากอ่างอาบน้ำเมื่อเด็กหนุ่มผู้อยู่ในอ่างขยับตัว ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ แล้วตรงไปยังส่วนเปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการเช็ดผมและเช็ดเนื้อเช็ดตัว ก่อนจะใช้ลมปราณเป่าผมให้แห้ง และรวบมันไว้ด้านหลังให้เป็นทรงหางม้ายาวๆ เข้าใส่ชุดนอนสีเขียวอ่อนก่อนจะเดินไปนอนบนเตียงอย่างเหหนื่อล้าทางจิตใจเล็กน้อย
"ราตรีสวัสดิ์ทุกคน" ครรชิตประทับริมฝีปากบนหน้าผากสามสาวก่อนที่ตัวเองจะเข้าสู่ห่วงนิทราไป
ราตรีกาลผ่านไปอย่างสงบในเรือนของพวกเขา โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆรบกวนการนอนของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
ในตอนเช้าผู้ที่ตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกคือครรชิต เขามองไปยังสามสาวสวยที่ยังหลับไหลอยู่อย่างเอ็นดู ก่อนจะประทับริมฝีปากบนหน้าผากรับรุ่งอรุณ เขาลุกออกจากเตียงอย่างเงียบโดยพยายามจะไม่ปลุกทุกคนบนเตียง เมื่อลุกออกมาได้เขาก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวให้เรียร้อย ก่อนไปปลุกทั้งสามให้อาบน้ำและแต่งตัวให้เรียบร้อย
"นายน้อย ได้เวลาอาหารเช้าแล้วนะขอรับ" ดูลันที่มาตามเจ้านายตนให้ไปรับประทานอาหารเช้า ได้ปรากฏตัวขึ้นก่อนจะทำหน้าที่ของเขาอย่างตรงเวลาเช่นเดิม
"วันนี้และจนกว่าจะถึงเทศกาลล่าสัตว์เวทข้าและภรรยาจะไม่ออกจากเรือน ข้าให้เจ้าไปบอกพ่อครัวให้จัดอาหารมายังเรือนของข้าสามเวลา และงานต่างๆทีข้าสั่งให้เจ้าทำก่อนหน้าก็หยุดไปก่อน หลังจากถึงวันล่าสัตว์เวทค่อยดำเนินการต่อ อ้อ แล้วก็อย่าให้ใครมารบกวนพวกข้าละ" ครรชิตเปิดประตูออกไปเพื่อบอกคำสั่งให้แก่ดูลันที่ยืนรออยู่หน้าประตู
"ขอรับ ข้าทราบแล้ว แต่ไม่ทราบว่าการประชุมแผนการเดินทัพที่ท่านมาสันอยากปรึกษาท่านละขอรับ จะทำอย่างไรดี" ดูลันพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
"เอานี้ไป ส่วนเทศกาลการล่าพวกข้าจะไปกันเอง ฝากบอกท่านพ่อ ท่านลุงและท่านป้าด้วยละกัน" เด็กหนุ่มส่งปึกกระดาษที่หนาพอสมควรไปให้ดูลันก่อนจะปิดประตูไป
"เฮ้อ ข้าจะโดนลงโทษไหมนะ" ดูลันส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะไปยังโรงครัว เพื่อบอกคำสั่งของนายน้อย ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังห้องอาหารที่มีบุลคลที่นายน้อยของมันฝากคำพูดและของฝากไปให้ เพื่อรายงานและส่งมอบของต่างๆ
ทางด้านครรชิตหลังจากกลับเข้ามาในห้อง ก็เดินไปดูสาวๆที่กำลังเริ่มโคจรมานากันอีกรอบ ในตอนนี้โรสแมรี่แทบจะไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดเวลาโคจรมานาแล้ว ส่วนลิลลี่และลูน่ายังคงแสดงอาการเจ็บปวดขึ้นเป็นระยะๆ เขาจ้องมองดูก่อนที่ตนเองก็โคจรลมปราณเช่นกัน โดยบนฝ่ามือปรากฏลูกบอลสีดำขึ้น ภายในของมันมีเมฆหมอกหนาทีบที่หมุนวนอย่างช้าๆอยู่ด้านใน นี้คือมานาธาตุมืดที่ชายหนุ่มได้มาจากหมาป่าทมิฬนั้นเอง
ครรชิตฝึกดึงพลังมานาธาตุมืดและธาตุดินขึ้นมาใช้สลับกันดู เพื่อตรวจสอบความแตกต่างของมานาสองชนิดนี้ จากการทดลองพวกมันแทบไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่ามานาธาตุมืดจะมีความเข้มข้นน้อยกว่าเล็กน้อย ทำให้มีพลังน้อยกว่ามานาธาตุดินอยู่บ้าง เขายังไม่ได้ทดลองในด้านการร่ายเวย์หรือเขียนวงเวทย์ เพราะสถานที่ไม่เอื้ออำนวยนัก
"นายท่านเจ้าค่ะ มีวิธีไหนที่ข้าจะเพิ่มพลังมานาได้มากกว่านี้หรือไม่" ลูน่าปลุกชายหนุ่มให้หลุดจากการครุ่นคิดเกี่ยวกับมานาธาตุมืด
"ก็พอมี แต่เจ้ายังไม่ต้องรีบร้อนทำในตอนนี้ มันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี" เขาปลอบลูน่าที่ทำหน้าเศร้าเมื่อเขาไม่อนุญาติให้ทำการเพิ่มมานาจำนวนมากในครั้งเดียว
"ลูน่า เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก นายท่านของเจ้าไม่ทิ้งเจ้าแน่นอน เรื่องเก่งไม่เก่งตอนนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ทำให้ตัวเองมีพลังเพียงพอที่จะทำประโยชน์ให้จูเนียร์ได้ดีกว่า" โรสแมรี่แนะนำลูน่าที่เหมือนจะฝืนตัวเองมากเกินไป
"อย่างที่พี่โรสบอกนั้นแหละ อย่าใจร้อนเลย เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน"
"โอ๊ย" ลิลลี่ที่เงียบอยู่นานก็ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ครรชิตจึงผละจากลูน่าไปดูแลการโคจรมานาของลิลลี่แทน
และแล้วในวันนั้นทั้งวัน ครรชิตต้องค่อยปรับพลังส่วนเกินให้สามสาว และค่อยป้อนอาหารและเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ทุกคน เพราะเพียงแค่รักษาระดับการโคจรไม่ให้ความเร็วตกลงก็แทบทำให้ทุกคนไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของเด็กหนุ่มที่จะดูแลเหล่าภรรยาอย่างดีที่สุด
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
เดอะเพาเวอร์ฟูลแฟมิลี่!!! 555+