ตอนที่ 8 : ✰ eight
นาทีที่ข้ามฟ้า
✰
eight
"ไม่ต้องเป็นนักศึกษาแล้วชีวิตนี้"
"..."
"เป็นลำยองง่ายกว่า!!!"
"มึงจะบ่นทำไมเยอะแยะเนี่ย" นาทีทำหน้างอ วันนี้มีเรียนเช้าเลยทำให้สะลึมสะลือตอนเรียน จ้าวน่านก็ช่วยปลุกตอนอาจารย์สอน เขาง่วงทั้งวันจนกระทั่งเดินมาเจอเพลย์ตอนใกล้จะกลับห้องที่หน้ามหาวิทยาลัย ส่วนจ้าวน่านมีคนมารับกลับไปก่อนแล้ว
เขานึกถึงเมื่อคืนที่ฝันอะไรบ้า ๆ ก็ไม่รู้ คิดว่าตัวเองต้องเก็บเอาจูบวันนั้นมาเครียดแล้วนึกอยู่ในหัวแทบจะตลอดเวลาแน่ ๆ
"ต้องบ่น ไม่รู้จักสังขารตัวเอง ลำบากกันทุกภาคส่วน"
"ขอโทษได้ไหมล่ะ แต่มึงก็ชงให้อยู่นั่นแหละ คอมันแห้ง จิบไปเรื่อย ๆ ไง"
"หรา อีตัวดี ลำบากเพื่อนชิบหาย"
"เออ กูขอโทษ คราวหน้าไม่เมาแล้ว เด็ดขาด"
"สงสารเดโม่ ขับรถไปขับรถมาอยู่นั่น เหนื่อยแย่เลย"
"..."
"ไปส่งอีขี้เมาที่ห้อง กูอุตส่าห์บอกว่าไม่ต้องล็อคประตู ทิ้งกุญแจเอาไว้ในนั้นเลย เดโม่ก็ยังล็อคห้องให้ เอากุญแจมาให้กูที่ร้าน และมาส่งอีก"
"..."
"ดี ๆ แบบนี้อย่าเล่นตัวให้มากอีบ้า" นาทีขมวดคิ้วฟังเพื่อนพูดก่อนจะประมวลผลในหัวออกมาเป็นฉาก ๆ ทั้งตอนนั่ง ทั้งบนเตียง จูบไปสองรอบ ยิ่งนึกก็ยิ่งชัด ยังจำสัมผัสได้อยู่เลย นี่เขา... เอาอีกแล้วเหรอ
"โอ้ย ไอ้เหี้ย"
"เป็นไรอีกล่ะ"
"เมื่อคืนมึงให้เดโม่ส่งกูที่ห้องเหรอ"
"ใช่จ้า อีลำยอง"
สรุปแล้วที่คิดว่าฝันมันคือความจริง นาทีเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อจะส่งข้อความหาอีกคนแต่...
"ไง ทำไรกันอยู่"
"รอรถเมล์กลับห้องค่า แล้วเดโม่สุดที่รักมาไง ขี่หลังเรากลับไหม เพื่อเธอคือกูแบกไหว" เดโม่ขำออกมา นาทีมองภาพนั้น หลบสายตามองไปทางอื่น มองถนน มองนก มองไม้ มองอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่รอยยิ้มของไอ้คนขายาวตรงหน้านี้!
โคตรอาย น่าอายยิ่งกว่าในห้องน้ำอีก เกินไปแล้วนะ...
"หิวไหม ไปหาไรกินกัน"
"ไปจ้า เอ๊ะ หรือว่าอยากไปกับอีลำยองสองคน"
"ไม่ไปไหนทั้งนั้น" เขาพูดเสียงเบามองถนน รู้เลยว่าหน้าตัวเองต้องแดงมาก เขานึกถึงเมื่อคืนไม่หยุดเลย ทำยังไงดี
"ไปสามคนก็ได้ อยากกินไรอ่ะ"
"..."
"แล้วนี่คุณเป็นอะไร หน้าแดงนะ แพ้แดดเหรอ"
"เปล่า"
"แบบนี้ไปกันสองคนดีกว่าเนอะ กูกลับละ ไปแรดกับอีออกัสดีกว่า บาย"
"ไอ้เพลย์! มึงอย่าไป!" นาทีเงยหน้าขึ้นมามองแผ่นหลังเพื่อนที่เดินออกไปอีกทางก่อนจะเจอกับแผ่นอกของคนที่มายืนบังทัศนวิสัยจนหมด คนหน้างอเงยหน้ามองรอยยิ้มกับจิวสีดำที่หูจนรู้สึกโมโห
โมโหตัวเองเนี่ยแหละ!
"หน้าบึ้งจนยับหมดแล้วเนี่ย"
"ยุ่ง จะมายุ่งทำไมนักหนา"
"อันนี้คำถามใช่ไหม"
"กวนตีน"
"กวนคุณไง บอกไปตั้งนานแล้ว" ไม่ตอบแต่กลับแลบลิ้นให้คนตรงหน้า เขาหมดแรงที่จะเล่นอะไรกวน ๆ กับเดโม่แล้ว รู้สึกตั้งหลักไม่ทัน
"ถอยเลย จะกลับห้องแล้ว"
"รถเมล์มาแล้วเหรอ"
"จะนั่งวิน"
เขาจำได้แล้วนะ ว่าเมื่อคืนเกือบจะมีอะไรกัน แต่เดโม่ไม่ยอมทำแถมยังนั่งอยู่เป็นเพื่อนจนหลับเพราะเขากลัวผี ไม่ชอบอยู่คนเดียวในห้องตอนกลางคืน
"ผมหิว ไปหาอะไรกินด้วยกันหน่อยไม่ได้เหรอ" นาทีเงยหน้ามองคนที่ยังคงยิ้ม คราวนี้กระเป๋าผ้าที่สะพายอยู่ถูกเอามากอดไว้แน่น จะไม่ยอมให้ขโมยได้อีกแล้ว
"กูไม่หิว"
"บอกกี่รอบแล้วเนี่ย" เดโม่ถอนหายใจมองไอ้ตัวดื้อ ไม่รู้เป็นอะไรแก้มแดงตลอดเลยตั้งแต่เจอกัน ถึงหน้าบึ้งแต่มองยังไงก็น่ารักอยู่ดี "พูดดี ๆ"
"..."
"พูดแต่คำหยาบ ไม่น่ารักเลย"
"เป็นแม่เหรอ ทำไมชอบดุใส่"
"ผมอยากให้คุณดูน่ารัก พูดไม่เพราะ หน้าก็บึ้ง ใครจะไปชอบ"
"..."
"ทำไม ไม่พอใจผมเหรอ"
"มาก" เดโม่หัวเราะออกมาอีกแล้ว ไม่เข้าใจว่าขำอะไรนักหนาที่ได้เห็นเขาหงอแบบนี้
"งั้นเดี๋ยวเลี้ยงข้าว หายไม่พอใจไหม"
"ไม่กิน จะกลับห้อง"
"จะไม่ยอมไปกินข้าวด้วยกันใช่ไหม"
"อือ"
"งั้นเรื่องเมื่อคืน--"
"เห้ย!!" นาทีร้องออกมาอัตโนมัติเมื่อได้ยินคำว่าเมื่อคืน มันเหมือนเป็นคีย์เวิร์ดอะไรบางอย่าง เขาใช้มือปิดปากเดโม่เอาไว้ก่อนจะมองไปรอบ ๆ อย่างมีพิรุธที่สุด รู้ว่าร้อนตัวมาก แต่จะให้ทำยังไง มันเป็นไปแล้ว!
"ปิดปากทำไม"
"จะพูดอะไร"
"ก็... พูดไปเรื่อย ดินฟ้าอากาศ สรุปจะไปกินข้าวด้วยกันไหม"
"ไปก็ได้ แต่ห้ามพูดเรื่องเมื่อคืน" นาทีเอามือตัวเองขึ้นมาทำท่ารูดซิปที่ปาก ส่วนเดโม่พยักหน้ายกมือตัวเองขึ้นมารูดซิปที่ปากเหมือนกัน
เดโมมองไอ้ดื้อที่ทำหน้าเครียด เมื่อกี้ตอนยกมือขึ้นมารูดซิปปากโคตรน่ารักเลย เขาอยากจะขำออกมาแต่เห็นแก่ความพยายามเก็กของอีกคนเลยเล่นตามน้ำ เครียด ๆ ด้วย
ร้านที่เรามากินเป็นร้านผัดไทหอยทอด คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เลยได้เข้ามานั่งเลย
"กินไรอ่ะเรา"
"ไม่บอก"
"ไม่ผัดไทก็หอยทอด ผมรู้"
"กวน"
สรุปแล้วนาทีสั่งผัดไทหนึ่งหอยทอดหนึ่ง เดโม่ก็สั่งตามจนอีกคนทำหน้างอไม่หยุด ไม่รู้ละมั้งว่าแก้มมันอูมออกมา
ที่วันนี้มาดักเจอเพราะอยากจะมาเช็กสภาพไอ้คนขี้เมาเนี่ยว่าจะเป็นยังไง จะเมาค้างไหม เรียนไหวหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูคือไม่ได้เป็นอะไร แถมยังเป็นไอ้ดื้อ ไม่เชื่อ ไม่ฟังเหมือนเดิม
"จะรีบกินอะไรขนาดนั้นอ่ะหนู"
"ยุ่ง"
"ค่อย ๆ กิน"
"อือ รู้แล้ว" คนตรงข้ามกินช้าลงตามที่บอก เขาหยิบทิชชู่ส่งให้เจ้าตัวเพราะมีอาหารติดอยู่ที่มุมปาก เดโม่ใช้นิ้วชี้ไปที่มุมปากของตัวเองเพื่อบอกว่าอาหารมันติดอยู่ตรงไหนของปากอีกคน
นาทีหยิบทิชชู่ไปเช็ดและโชคดีที่เศษอาหารนั้นหลุดไป ถ้าไม่หลุดคงได้เล่นฉากพระเอกแอบจับแก้มแล้ว
"แล้ววันนี้ตอนเรียนเป็นไง ปวดหัวหรือเปล่า"
"ก็ปวด... แต่อดทนได้"
"เป็นคนเก่ง"
"ของมันแน่นอนอยู่แล้ว"
"งั้นคุณคนเก่งอยากกินขนมไหม" เดโม่ชี้ไปที่หน้าร้านที่มีแผงขายขนมไทยอยู่หลายชนิด นาทีมองก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ เหมือนคนเหม่อลอยและกำลังลืมไปว่าตัวเองกำลังมากับเดโม่, คนที่กวนตีนที่สุดในโลกของนาที
"กินขนมถ้วยได้ไหม" เผลอถามออกมาเหมือนเด็ก ปกติแล้วตอนอยู่ที่บ้านเขาจะถามแม่หรือยายก่อนตลอดว่าอันนี้กินได้ไหม เพราะบางทีของนั้นอาจจะถูกเตรียมไว้สำหรับคนอื่นที่ไม่ใช่เรา และอันที่จริง... ก็ลองถามคนข้าง ๆ ด้วยแหละว่ากินได้ไหม
"เอาสิ ซื้อไปฝากเพื่อนด้วยก็ได้นะ"
"อือ... ป้าครับ เอาขนมถ้วยสองกล่อง"
"จ้า" นาทีรีบหยิบเงินของตัวเองขึ้นมา ตัดหน้าคนที่กำลังจะยื่นแบงค์ร้อยให้กับป้าคนขาย เมื่อกี้ก็ยอมให้เลี้ยงผัดไทหอยทอดแล้ว คราวนี้จะไม่ยอมให้เลี้ยงขนมเด็ดขาด
"ห้ามเลี้ยงแล้ว" หันหน้าไปบอก รอรับเงินทอนจากแม่ค้าก่อนจะเดินออกมาทั้งอย่างนั้น เดโม่ยิ้มส่ายหน้าไปมาเดินตามคนที่เดินไม่ได้ไวนักไปจนเราเดินอยู่ข้าง ๆ กัน
ถนนยามเย็นหน้ามหาวิทยาลัยคนค่อนข้างเยอะ บวกกับมีคนมาขายของกิน มีตลาดเล็ก ๆ ที่ขายพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับต่าง ๆ เลยยิ่งทำให้แถวนี้ยิ่งดูคึกคัก เราทั้งสองคนเดินไปเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยจนกระทั่งถึงป้ายรถเมล์
ไอ้ตัวดื้อของเดโม่หยุดเดินค่อย ๆ หันมาเผชิญหน้ากับผู้ชายใส่จิวสีดำตัวสูงที่มีรอยยิ้มร้าย ๆ (สำหรับนาทีคนเดียว) อยู่แทบจะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
"...เดโม่" เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่นาทีเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงดี ๆ เขาหายใจเข้าจนลึกและผ่อนมันออกมายาว ๆ
"ว่าไง"
"เรื่องเมื่อคืน..." นาทีหยุดพูดไป ในตอนแรกเขาพยายามมองหน้าอีกคนแต่ตอนนี้ไม่กล้ามองแล้วเลยตัดสินใจวางสายตาไว้ที่อื่นแทน
"...เมื่อคืนทำไม" โดนถามย้ำเนื่องจากระยะเวลาไว้นานเกินไป เขาค่อย ๆ หยิบขนมถ้วยในถุงออกมาหนึ่งกล่องก่อนจะค่อย ๆ ยื่นไปให้คนตรงหน้า
"ขอบคุณ"
"..."
"ขอบคุณที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้น" แก้มเริ่มเปลี่ยนสีเมื่อนึกว่าเมื่อคืนตัวเองได้ทำอะไรลงไปบ้าง ถ้าเดโม่ทำอะไรขึ้นมา วันนี้เขาคงเสียใจมากที่ปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนั้นแถมยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวมาตั้งสองรอบแล้ว และสองรอบนั้นก็เป็นเดโม่ตลอดที่ไม่ยอมปล่อยให้มันเลยเถิดทั้ง ๆ ที่มันเป็นคำขอของเขาเอง
"ไม่เป็นไร รู้อยู่แล้วว่าถ้าทำ คนที่เสียใจที่สุดจะเป็นตัวคุณเอง"
"..."
"ผมไม่อยากให้คุณเสียใจ" เขาเกลียดรอยยิ้มของเดโม่ที่สุด เกลียดที่มันทำให้นาทีที่หัวใจดื้อด้านมาตลอด เริ่มรู้สึกอะไร...
"เอาไปกิน"
"..."
"เราให้"
อุตส่าห์พูดดี ๆ แต่พอเห็นว่าเดโม่ไม่ได้รับเลยรีบยัดกล่องขนมใส่มืออีกคนแล้วรีบวิ่งขึ้นรถเมล์ที่จอดตรงป้ายพอดี เขาเข้ามานั่งติดหน้าต่างรถ นาทีแอบมองหน้าอีกคนพร้อมกับรถที่กำลังออกตัว
'น่ารัก' เขาอ่านปากออกเลยทำท่าแลบลิ้นส่งไปให้แต่ความจริงในใจคือไม่ไหวแล้ว อวัยวะที่อยู่ข้างใต้อกซ้ายมันเต้นแรงมาก ๆ เหมือนจะตายเลย
ไม่
เขาไม่มีทางชอบเดโม่เด็ดขาด!
นาทีไม่ได้หันกลับไปมองอีก เขามองตรงไปด้านหน้า ที่นั่งใกล้หน้าต่างทำให้รู้สึกเย็นเพราะลมพัดเข้ามาเป็นพัก ๆ และมันเป็นลมเย็นของฤดูฝนเลยทำให้หนาวนิดหน่อย
Rrrr
มือขาวหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงที่กำลังสั่นขึ้นมาดู
Demo: ถึงห้องแล้วบอกด้วย
นาทีเอง: ไม่บอก
Demo: ถ้าไม่บอกจะไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าคุณอ่อยผม
นาทีเอง: อย่าเล่า : (
Demo: งั้นกลับถึงห้องแล้วบอกด้วย เข้าใจไหม
นาทีเอง: รู้แล้ว!
ทำหน้าบึ้งใส่โทรศัพท์ก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋าและจำเอาไว้ว่าถ้าถึงห้องต้องบอกเดโม่ ไม่อย่างนั้นความลับอาจจะถูกเล่าออกไปแต่...
รู้หรอกว่ากวนตีนแต่จะบอกหน่อยก็ได้
เขากลับถึงห้องภายในเวลาไม่นานมากนัก ในห้องตอนนี้ไม่มีใครและโชคดีที่วันนี้ไม่ได้ทำกุญแจหาย ไม่อย่างนั้นต้องนั่งหน้าห้องรอเพื่อนกลับมา ไอ้ตัวดื้อของนายข้ามฟ้าเดินเอากระเป๋าไปวางไปที่เก้าอี้ ถอดถุงเท้ากับเนกไทออกแล้วเดินไปล้มตัวนอนบนเตียงอย่างสบายใจ แต่ยังไม่ทันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูมันก็สั่นเตือนข้อความเข้าอีกแล้ว
Demo: ถึงห้องหรือยัง
"มีตาทิพย์เหรอไอ้คนคนนี้"
นาทีเอง: ถึงดาวอังคารมั้ง
Demo: โอเค แสดงว่าถึงแล้ว
นาทีเอง: >:\
Demo: ขนมร้านนี้อร่อย
Demo: ทีหลังคุณซื้อให้กินอีกได้ไหม
นาทีเอง: ไม่ :P
"ไปอาบน้ำ อีสกปรก!" นาทีผงกหน้าขึ้นมามองเพื่อนที่เพิ่งกลับมา ดูเหมือนว่าไอ้เพลย์จะไปกินข้าวกับออกัสมาแล้วเลยทำหน้าเหมือนแน่นท้องสุด ๆ
"เดี๋ยวไป"
"ไม่ มึงต้องไปเดี๋ยวนี้"
"ทำไมมึงชอบบังคับให้กูอาบน้ำตลอดเลย"
"มึงสกปรกไง ไป ลุกเดี๋ยวนี้"
"แป๊บนึง"
"ไม่แป๊บ ลุกเดี๋ยวนี้" นาทีถอนหายใจ เขาวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงก่อนจะเดินอย่างเชื่องช้าไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเอง ไอ้เพลย์ไม่เข้าใจอะไรเลย ถ้าจิตใจเราสะอาด การอาบน้ำก็ไม่จำเป็น แต่ด้วยความที่ไม่อยากฟังเสียงบ่นจากเพื่อนเลยยอมไปอาบน้ำตามที่บอกก็ได้
หยิบเสื้อผ้าพร้อมกับผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีข้อความล่าสุดที่ถูกส่งมาโดยใครบางคนปรากฎอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
Demo: ไม่ปฏิเสธเหรอ :P
Demo: ใจดีนะเรา
Demo: : )
✰
"อะไรวะ! เหนือเมฆจะร้องเพลงวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วเหรอ!!" ออกัสตะโกนขึ้นมาเสียงหลง นาทีพยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายแล้วละมั้งที่จะมาร้านนี้เพราะถ้าจ้าวน่านไม่ได้อยากมาตั้งแต่แรกเขาก็คงไม่มา และดูเหมือนว่าตอนนี้จ้าวน่านกับนายเหนือเมฆที่โคตรจะขี้เก็กจะเข้ากันได้ดี ไปรับไปส่งแทบจะตลอดเลยล่ะมั้ง
ตอนนี้แรกเขาไม่ชอบกลุ่มเหนือเมฆเลยนะ (โดยเฉพาะเดโม่) แต่พอมานั่งกินเหล้าด้วยกัน ทุกคนไม่ได้เลวร้ายแถมยังตลกจนบางทีขำจนปวดท้อง ยิ่งฝาแฝดโปเต้กับเลย์ชอบแกล้งเข้าไปจีบจ้าวน่านให้เหนือเมฆหงุดหงิดเล่น ๆ ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่
"แบบนี้นาทีจะมาอีกไหมอ่ะ" เลย์ถามในขณะที่กำลังเล่นยุกยิกอยู่กับแฝดของตัวเอง
"คงไม่แล้ว น่านไม่มาก็ไม่มา"
"อ้าว แล้วเพื่อนเราอ่ะเธอ!!" โปเต้ตะโกนขึ้นมา ทำสีหน้าเหมือนกำลังเจ็บปวดอะไรบางอย่าง
"อะไรอีกอ่ะ" ออกัสวางแก้วเหล้าตั้งใจดูเพื่อนส่วนนาทีเริ่มขมวดคิ้วเพราะตามไม่ทันว่าโปเต้จะพูดอะไร
"อีนี่ก็เล่นละครเก่ง ควรไปฮอลลิวู้ด" ไอ้เพลย์หัวเราะออกมาเบา ๆ นาทีหันไปมองจ้าวน่านที่หันไปมองเมฆบนเวทีคนเดียว ตอนนี้ฝนกำลังตกเขาเลยยื่นมือตัวเองไปจับมือเพื่อนเอาไว้แน่น ไม่อยากให้เศร้าเลย แต่คนที่จัดการเรื่องของจ้าวน่านได้คงจะมีแต่เหนือเมฆคนเดียวละมั้ง
"เธอเอาเดโม่ไปไว้ที่ไหน!"
"เอาล่ะ อีเหี้ย เรื่องนี้กูจะไม่ยุ่งนะ" เพลย์ยกมือขึ้นมาเหมือนกำลังโดนตำรวจจ่อด้วยปืน ส่วนออกัสทำหน้าหลุกหลิกหันไปมองทางอื่น เขาว่าสถานการณ์มันไม่ปกติแล้วนะ...
"อะไรของพวกมึง มีอะไร" เขาถามเพื่อน
"นาทีไง ได้เดโม่แล้วจะทิ้งเหรอ"
"มึงพูดอะไร!! ไม่เคยได้กัน!!"
"อ้าวเหรอ โห่ ว่าจะลองค้นหาความจริงเสียหน่อยว่าสานสัมพันธ์กับเดโม่, พระเอกของคณะวิศวะไปถึงตรงนั้นแล้วหรือยัง สรุปว่ายังไม่ได้กันนะ เคๆ"
"..."
"หยอกเล่นได้ไหม โปเต้ขอโทษ" นาทีหน้างอใส่โปเต้ที่ตอนนี้ทำหน้ารู้สึกผิดไม่ทันแล้ว "ล้อเล่นนะ ให้ตีมือเลย อ่ะ" เขามองเพื่อนที่แบมือให้ตรงหน้าก่อนจะพูด
"ขอต่อยแทน"
"แง ไม่ต่อยได้ไหม เดี๋ยวหล่อสู้เดโม่ไม่ได้" โปเต้ทำหน้าหงอยพร้อมกับเดโม่ที่เดินเข้ามาพอดี ทุกคนในโต๊ะต่างก็หาเรื่องคุยสัพเพเหระ เหมือนกับว่าการแซวเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น
นาทีมองไอ้ข้ามฟ้าก่อนจะมองเหนือเมฆที่เดินมาจากทางเวทีเพื่อมารับจ้าวน่านกลับห้อง
"ทำไมกลับไวจังอ่ะ" เขาถามเหนือเมฆ
"น่านไม่สบาย ไปก่อนนะ" นาทีมองเพื่อนของตัวเอง ทำมือเป็นสัญลักษณ์โทรศัพท์เช่นเคย ก่อนจะมองเพื่อนตัวเองกับไอ้คนขี้เก็กเดินออกนอกร้านไปด้วยกัน
"วันนี้ไม่เมาเหรอเราอ่ะ" คนตัวสูงนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนตัวเองซึ่งมันเป็นฝั่งตรงข้ามของที่ที่นาทีนั่งอยู่
"ไม่เมาแล้ว!"
"ว้า อดเลย"
"..."
"อดจ--" ในจังหวะที่เดโม่กำลังจะพูดอะไรก็ไม่รู้ นาทีก็รีบลุกขึ้นยืนก้าวข้ามโต๊ะเตี้ย ๆ เอามือไปปิดปากอีกคนด้วยความรีบ มันทรงตัวไม่ค่อยได้เขาเลยเหมือนกระโดดข้ามโต๊ะมาให้เดโม่กอดเอาไว้
"พวกมึงนี่ชอบเล่นหนังสดกันเนอะ!!" เพลย์ดิส
"ว้าย กูทนดูไม่ได้!!!" ออกัส
"ผมไม่เห็นครับ! ปิดตา! ไอ้โปเต้ปิดตาด้วย!" เลย์
"มันไม่ใช่!"
"หนูอยากกอดก็ไม่บอก"
"ไม่ใช่! เมื่อกี้จะพูดอะไร!"
"จะพูดว่า 'อดจอย' แล้วคุณก็พุ่งมา ตกใจหมดเลย"
"..."
"เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" นาทีส่ายหน้าก่อนจะพยายามลุกขึ้น ส่วนเดโม่ก็ช่วยประคองเอวให้ยืนดี ๆ
เขาหงุดหงิดที่เพื่อน ๆ มองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม จะแก้ตัวยังไงไม่ให้น่าสงสัย เขาคิดไม่ออกเลยเดินกลับไปนั่งที่เดิมท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของออกัสและเพลย์ดิส
"หนูยังไม่ตอบเลย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"ไม่เจ็บ"
"ไปเดินเล่นกันไหม" เดโม่พูดขึ้นมาชวน ซึ่งนาทีที่กำลังหน้างอก็รู้สึกเบื่อ ๆ และอยากออกไปข้างนอกที่ตอนนี้ฝนหยุดไปแล้ว อากาศคงจะเย็น ๆ ผสมกับสดชื่น
เมื่อคิดได้แบบนั้นเลยหันไปทางเพื่อนที่พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแบบที่สุด ออกัสกับเพลย์ดิสทำเป็นชี้นกชี้ไม้ในร้าน เซย์ไฮกับแม่ซื้อไปเรื่อย "พวกมึงไปไหม"
"ไม่จ้า กูไม่ว่าง เดี๋ยวสักพักต้องไปซื้อน้ำปลาให้แม่ ไปกับมึงไม่ได้หรอก" ออกัส
"กูหุงข้าวไว้" เพลย์ดิส
"เดี๋ยวโปเต้กับเลย์ต้องไปนอนแล้ว แม่บอกไม่ให้นอนดึก" โปเต้
ดูแต่ละคน...
"คือถ้าไม่ไปก็พูดว่าไม่ไปเลยได้ไหม ข้อแก้ตัวคือไม่ผ่านอย่างแรง"
"จ้า ไปเถอะ พวกกูไม่ไป จบนะ" เพลย์ดิสบอกแค่นั้น ไอ้ตัวดื้อเลยช้อนตามองเดโม่ที่พยักหน้าให้พร้อมกับยืนขึ้นจนเต็มความสูง
เราทั้งคู่เดินออกไปนอกร้านที่ตอนนี้มีลมเย็น ๆ พัดมานิดหน่อย นาทีรู้สึกว่าตัวเองไว้ใจเดโม่มากขึ้น อันเนื่องจากเหตุการณ์นั้นนั่นแหละ เขาก็เลยอ่อนลงไปเยอะเลยมั้ง...
"จะมาร้านนี้อีกไหม" อยู่ดี ๆ อีกคนก็ถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบระหว่างเรา
"..."
"เห็นเมฆบอกจะไม่มาร้องเพลงแล้ว จ้าวน่านก็คงจะไม่มาเหมือนกัน"
"..."
"แล้วแบบนี้คุณยังจะมาร้านนี้หรือเปล่า"
ลมที่พัดมาจากทิศทางใดทิศหนึ่งทำเอาต้องห่อไหล่เพราะว่ามันเย็นจนรู้สึกขนลุก นาทีที่ตอนแรกมองไปข้างหน้าค่อย ๆ หันกลับมามองคนพูดที่ทำสีหน้าเครียดแบบบอกไม่ถูก
"คงจะไม่" อือ ตั้งแต่ตอนแรกที่เขามาเพราะมาเป็นเพื่อนจ้าวน่าน ถ้าน่านไม่มาแล้วก็คง... ไม่มาแล้วมั้ง
"ไม่ดีเลยแฮะ"
"กูไม่มา ร้านคงไม่ขาดทุนหรอก" เดโม่ถอนหายใจออกมาซึ่งมันทำให้นาทีเม้มปากตัวเองไว้แน่น
"พูดไม่เพราะอีกแล้ว" เขาว่าแล้วว่าต้องโดนดุเลยพยายามบังคับสีหน้าของตัวเองไม่ให้รู้สึกหงอเหมือนสัตว์เลี้ยงที่กำลังจะโดนเจ้าของตี
"รู้แล้ว"
"ต้องทำยังไงให้คุณพูดดี ๆ"
"..."
"เหมือนตอนวันนั้นที่คุณให้ขนมถ้วย" ระหว่างเราเงียบไป พร้อมกับหัวใจสองดวงที่กำลังเต้นและมันดังขึ้นเรื่อย ๆ จนกลัวว่ามันจะดังจนคนข้าง ๆ ได้ยิน
"นี่..."
"หืม"
"ทำไมถึงอยากให้พูดเพราะ ๆ แม่ก็ไม่ใช่ ทำไมชอบสั่ง ชอบดุจังเลย" เขาพูดเสียงเบา ในตอนนี้นาทีแค่อยากถามเหตุผลจริง ๆ อยู่ดี ๆ นายข้ามฟ้าที่มาจากไหนก็ไม่รู้เข้ามาดุว่าพูดไม่เพราะ ชอบทำหน้าร้าย ๆ ใส่เหมือนตัวร้ายในละคร ชอบทำให้--
"บอกทุกครั้งว่าอยากให้น่ารัก"
--รู้สึก
"อย่ามาตลก"
"ผมพูดจริง"
"อือ" ไม่รู้จะตอบอะไรเลยทำแค่ตอบในลำคอ
"แล้วที่ถามว่าจะไม่มาร้านนี้อีกแล้วเหรอ รู้อยู่แล้วแหละว่าถ้าน่านมาหนูก็คงไม่มาเหมือนกัน"
"..."
"เลยอยากถามว่า..."
"..." เราทั้งสองคนหยุดเดิน นาทีที่กอดอกเอาไว้หันไปมองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองหูที่ในตอนแรกมีจิวสีดำประดับเอาไว้ตอนนี้กลายเป็นสีเงินและเขาคิดว่ามันดูดีกว่าสีดำมาก ๆ เลย
"วิดิโอคอลไปหาทุกคืนได้ไหม"
"..."
"ไม่ได้เหรอ"
"...ได้มั้ง"
เพราะอะไรบางอย่างทำให้นาทีตอบตกลงไปแบบง่ายดายโดยที่คำตอบนั้นไม่ได้ผ่านความคิดหรือกระบวนการกรองของจิตสำนึกเลยแม้แต่นิดเดียว
มันผ่านหัวใจแต่อย่าเข้าใจผิด
เขายังไม่ได้ชอบนายข้ามฟ้านะ
จริง ๆ
✰
#นาทีที่ข้ามฟ้า
จ้า จริงๆ เนอะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นาทีคนปากแข็งแห่งปี